Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ถ้ามั่นใจในหุ้นตัวที่ทำการบ้านมาอย่างดี เมื่อราคามันตกมาก็ซื้อเพิ่ม ยิ่งตกอีกยังมีกระสุนก็ยิงเพิ่มอีก
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน หุ้นกลับมาเมื่อไร ผมก็มองดูหุ้นในพอร์ตด้วยความสุขที่เพิ่มขึ้นตามขนาดพอร์ต
ฟ้าหลังฝน งดงามเสมอ ในขณะที่บรรยากาศช่วงพายุตั้งเค้ามันชวนให้ ตื่นเต้นและกังวล แต่สำหรับคนที่ผ่านอะไรมาพอสมควร
มันก็จะเป็นอะไรที่ธรรมดามาก เรียกว่านิ่งจนมีโอกาสได้เห็น ได้เห็นโอกาสดีๆ ที่จะทำให้พอร์ตใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเมื่อท้องฟ้าสดใสกลับมาอีกครั้ง

ผมเข้ามาให้กำลังใจท่าน blue ครับ ผมไม่ชอบอวยคนตามกระแสอย่างที่คนในบอร์ดเป็นกันครับ มันดูโง่ๆยังไงไม่รุ้ครับ

atsu เขียน:

xavi เขียน: หวังว่าสักวันนึงคงได้เจอกันใน Meeting TVI ครับ ปีนี้ผมไม่ได้ไปครับ ผบ.ทบ. ให้เลี้ยงลูกอยู่บ้าน

อ้าว ผมนึกว่าพี่เข้าแคมป์ซ้อมเตรียมไปยูโร 2012 ซะอีก.......ฮ่า

พูดเป็นเล่นไปครับ แค่จะดูยังไม่ได้ดูเลย ยังไม่มีกล่องพี่เบิร์ดเลยครับ
หวังว่าอากู๋จะคุยกับเจ้าสัวรู้เรื่องครับ

ตอนนี้ออกไปไหนไม่ได้เลยครับ เจ้าตัวเล็กยังเด็กอยู่
แฟนผมออกมาเลี้ยงลูกเต็มตัว ก็เลยเกรงใจมาก ย้ำว่าไม่ได้กลัวครับ

พี่บลู = ชูวิทย์

มาเป็นกำลังใจครับ ติดตามความคิดคุณบลูครับ
ถึงแม้ดูเหมือนหลายๆ ครั้งความคิดออกจะสุดโต่ง
และสวนกระแส แต่ก็รับฟังครับเผื่อว่าเราอาจจะ
คิดไม่ถึงก็ได้

xavi เขียน:ผมชอบกระทู้นี้ครับ เพราะผมเป็น Fan Club หลายๆท่าน แอบอ่านกระทู้อยู่บ่อยๆ

1. คุณบลู ผมชอบความตรงไปตรงมา รวดเร็ว ตรงประเด็น ชัดเจน Style Fighter อ่านแล้วไม่เพราะ ไม่สละสลวย แต่มีเสนห์

2. พี่พอล ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ผ่านอะไรมาเยอะ จนตกผลึกทางความคิดแต่ก็ยังมีอารมณ์ขัน รู้สึกมีความคล้ายคลึง ดร.

3. คุณ Multiple ข้อมูลแน่น พื้นฐานแข็งแกร่ง เหมือน Engineer + Economist ที่สำคัญอ่าน Market Watch ที่ผมพยายามจะอ่าน แต่ก็ไม่เข้าใจสักที

และก็ยังมีอีกหลายท่านครับที่ผมติดตาม

เช่น พี่ Hum เขียนบทความได้ลึกซึ้ง มีเรื่องราวหลากหลาย เหมือนผู้หยั่งรู้ฟ้าดินแล้ว เวลาอ่านแล้วผมเหมือนเป็นเด็กไปเลย

พี่ Picatos คอยเตือนสติ ไม่ให้ Panic ได้ดีมาก เป็น VI แนวพุธอ่านแล้วบางครั้งคิดว่าในท้ายสุดพี่อาจไปศึกษาธรรม เป็นผู้เห็นแจ้งในธรรมได้เลย

คุณ Sakkapan เหมือนเป็น Engineer แท้ๆ ข้อมูลหนักแน่น Logic ดี มีที่มาที่ไป ตอบกระทู้แบบเต็มที่ตลอด

หวังว่าสักวันนึงคงได้เจอกันใน Meeting TVI ครับ ปีนี้ผมไม่ได้ไปครับ ผบ.ทบ. ให้เลี้ยงลูกอยู่บ้าน

เอ๋... ผมยังไม่ได้ post อะไรซะหน่อย

แต่ก็อย่างที่เพื่อนๆ ว่าแหละ เห็นพี่โลกฟ้าโพสต์ทีไร ต้องเป็นแวะมาอ่านทุกที

ในเร่ื่องนี้ความเห็นผมก็คือ คนเรามีความสามารถในการทำความเข้าใจเรื่องได้แค่บางเรื่องเท่านั้น อย่างเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมือง นี่เราไม่มีทางเดาได้เลยว่าอนาคตจะเป็นยังไง ดังนั้นผมจะไม่ค่อยเสพข่าวพวกนี้ เพราะ ข่าวพวกนี้มัน sentiment เกินไป อ่านแล้วไม่ค่อยเกิดประโยชน์เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ ถ้าติดตามก็จะติดตามแค่ผ่านๆ ดูแค่ภาพใหญ่ๆ กว้างๆ ไม่ลงรายละเอียด

ในเมื่อผมทำความเข้าใจเรื่องพวกนี้ไม่ได้ก็จะไปลงทุนแค่ในกิจการที่ทนทานกับสิ่งที่เราไม่เข้าใจ ไม่ให้สิ่งที่เราไม่เข้าใจ ไม่สามารถทำนายได้มาเป็นตัวที่ทำให้เราเสียหายจากการลงทุน

แต่ถ้าเกิดว่าเรามีความจำเป็นต้องลงทุนในสิ่งที่เราไม่เข้าใจจะมาเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายกับการลงทุน ผมจะเรียกมันและยอมรับมันตรงๆ ว่ามันคือการเก็งกำไร และการเก็งกำไรของผมต้องมี stop loss เสมอ ส่วนการลงทุนควรที่จะมีแต่กำไรเท่านั้น

ขอบคุณครับ คุณ Xavi ชื่อแปลว่าอะไรครับ เรื่องไทเกอร์ เขาเหมือนไมเคิล จอร์แดนมาก หลังจากพ่อตายก็หลุดไปเลย ผมมีเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งครับ พอพ่อตายก็หลุดเหมือนกัน ตอนนั้นถึงเข้าใจทั้งไทเกอร์และจอร์แดน แต่เอาเพื่อนคนนี้เปรียบเทียบ เพื่อนคนนี้เป็นนักกีฬาครับ มีพ่อเป็นฮี่โร่ของเขามาตลอดและเขาไม่อยากทำให้พ่อผิดหวังและเสียใจ เขาทำทุกอย่างเพื่อทำให้พ่อมีความสุขทั้งๆ ที่บางทีก็ขัดกับความต้องการชีวิตของตัวเองครับ เขารักพ่อมากครับ ในความคิดผม เขาฝากความสุขของตัวเองไว้กับพ่อ ถ้าพ่อมีความสุขเขาก็สุขด้วย ถ้าพ่อมีความทุกข์เขาก็ทุกข์ไปด้วย ความสุขของเขาจึงควบคลุมได้ยากและขึ้นๆ ลงๆ ตามอารมณ์ของพ่อ ไม่ใช่จากตัวของเขาเอง พ่อเขาติดเหล้าครับและได้เสียไปแล้ว หลังจากพ่อตายแล้ว เขากลายเป็นคนหงุดหงิดและเที่ยวกลางคืน ทั้งไทเกอร์และจอร์แดนเริ่มตกหลังจากพ่อเสียเช่นกัน มันคล้ายๆ กัน แต่สรุปแบบฟันธงไม่ได้

เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นกับผม และผมเชื่อใจหุ้นส่วนทางการค้าอย่างมาก และผมไม่มี MOS รองรับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นซึ่งตอนนั้นผมคิดว่า เป็นไปไม่ได้ มันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ เราไม่ควรฝากความสุขของเราไว้คนอื่นหรือสิ่งอื่น พอไม่เป็นอย่างที่คิด ก็ล้มทั้งยืนเลย

เบน แกรม อาจารย์ใหญ่ของนักลงทุนแบบ value investors ให้ความสำคัญกับเรื่องความไม่แน่นอนสูงอย่างมาก ขนาดคิดค้นว่าคำใดที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการลงทุน คำนั้นคือ margin of safety นักลงทุน VI ไม่เหมือนกลุ่มอื่น ตรงที่พวกเขาคิดถึงเวลาขาดทุนก่อนอื่น เหมือนที่บัฟเฟตว่าในกฏของเขา "อย่าขาดทุน" ผมว่ากฎข้อนี้ มันเอาไปใช้ในกฎทุกอย่างได้ เงินลงทุนต้องได้รับการปกป้องก่อนอื่นใด ไม่ว่าจะคำนวณเก่งขนาดไหน ความผิดพลาดรออยู๋ทั้งนั้น เราแนาใจได้อย่างไรว่าการหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ไม่มีความเสี่ยง แน่ใจได้อย่างไรว่าเราทราบข้อมูลทุกอย่างแน่ใจได้อย่างไรว่าโชคร้ายบางอย่างจะไม่เกิดขึ้นแล้วกระทบกับพื้นฐานบริษัท ไม่มีใครทราบได้ครับ เผื่อยันตร์กันเหนียวเอาไว้ ในรูปของเงินปันผล ในรูปของ busines model ของบริษัท หรือในรูปของ Checklists ที่นักบินเขาใช้กัน เพราะความผิดพลาดหมายถึงชีวิต

เพื่อนผมที่เป็นนักลงทุน VI ที่อินเดียคุยกันทางอีเมลสองวันนี้ บอกว่า ทำไมไม่เอา Bridge เป็น criteria คัดตัวคนเข้าทำงานกองทุน ที่อินโดนีเซียเขาเริ่มทำแล้ว เขาสอนกันตั้งแต่เด็กประถม ปีหน้าอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดการเล่น bridge ชิงแชมโลก บัฟเฟตกับ บิล เกตให้ทุนมาหลายปีแล้วให้โรงเรียนสอน bridge ในโรงเรียน สมันยุค 50 ที่ นักลงทุนระดับโลกหลายท่านโตมาอย่าง ทูดอร์ โจน สตีเวน โคเฮน สตีเวน ดรักเคนมิลเลอร์ พวกเขาเรียนการเล่นโปรกเกอร์กันในโรงเรียน มังเกอร์บอกว่าโปรกเกอร์สำคัญกับเขามาก เพราะมันสอนให้เขาเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุน เขาบอกว่า โปรกเกอร์สอนให้เรายอมรับว่าเราทำผิดได้ ถ้าเราลงทุนผิด ก็ต้องรีบถอนตัว ถ้าเราถูกก็ให้ทุ่มเต็มที่ ส่วนบัฟเฟตสอนว่า bridge สอนเขาให้คิดถึงการคำนวณเรื่องความเสี่ยงและการเข้าจิตใจคนอื่น ผมเล่นทั้งสองแบบ แต่ผมชอบ bridge มากกว่าเพราะเราได้เรียนรู็ทั้งจิตใจฝ่ายตรงข้ามและจิตใจของคู่หูของเราด้วย มันทำให้เรามีชีวิตที่ลึกขึ้น เพราะเราเริ่มเข้าใจความรู็สึกของคนอื่นว่าเขาก็เสียใจและดีใจอย่างไร นิสัยของบัฟเฟตและมังเกอร์มันเสริมกัน เวลาเล่น bridge ก็ได้ complementary skill เป็นอย่างนั้น เปรียบเหมือน บัฟเฟตเป็นนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ มังเกอร์เหมือนคนคอยตรวจว่าสะกดผิดตรงไหนหรือพิมพ์ผิดตรงไหนบ้าง นั่นคือสิ่งที่พี่บลุแพเนตขาด พี่บลูขาด spelling checker ในการลงทุน

สำหรับผม bridge สอนทุกอย่างที่เบน แกรม สอนเกี่ยวกับหัวข้อหลักสามข้อที่พวกเราทราบกันดีครับ หนึ่ง ความรู้เรื่องนายตลาด สอง ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย และสามเข้าใจในกิจการ ทั้งสามข้อทำให้ผมเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น และเป็นคนที่ดีขึ้น

เคสเดียวกับไทเกอร์และจอร์แดน ถ้าเราไปฝากความสุข ความทุกข์ไว้กับสิ่งภายนอก แทนที่จะมาจากตัวเราเอง เราก็ต้องเผื่อใจเวลาสิ่งนั้นไม่มีแล้ว ระดับโลกอย่างไทเกอร์กับจอร์แดนเขาผ่านมาเท่ามใด เขายังพลาดได้กับเรื่องนี้ได้ แล้วอย่างเราตัวเล็กๆ ก๋ต้องเตรียมตัวไว้

อย่างนายตลาด ถ้าเราเอาอารมณ์ไปฝากไว้ ผมว่าท่านไม่เหมาะมาลงทุน แทนที่จะฝากไว้กับมูลค่าทางธุรกิจที่เราเข้าใจแล้วมีเตรียมส่วนเผื่อเวลาผิดพลาด มันเหมือนเราทำตามคำแนะนำของนายตลาด พอนายตลาดลงก็ขาย พอนายตลาดขึ้นก็ซื้อ แทนที่เราจะหาโอกาสจากนายตลาด

สำหรับ พี่บลู เวลาอ่านผมอดคิดไมได้ว่า เขียนเหมือนพี่เจ๋งมากครับ

ขอบคุณ ทุกคนที่ขียนถึงผม สกดชื่อผม เรียกชื่อผม
ไม่ว่าจะชื่นชม ตำหนิ หรือแม้แต่เรียกชื่อผมแบบไม่บวกไม่ลบก็ตาม
แต่ลึกๆแล้วผมก็ชอบคนยกยอ ชมเชย ศรัทธาผมมากกว่า
ทำให้รู้สึกว่าตัวเองฉลาด เก่ง และพองดี
ที่คุณฮัมดัม บอกว่า ผมขาด spelling checker
ผมไม่เข้าใจว่า spelling checker เป็น คน หรือ soft ware หรือ การกระทำของผม
ส่วนมูลค่าหุ้นที่แท้จริง ผมหาไม่ได้ (ไม่คิดจะหา)
ถ้าหามูลค่าจริงๆของหุ้นไม่ได้ mos ก็ไม่ต้องพูดถึง
สมมติหุ้น A มีมูลค่าที่แท้จริง = 100 ขณะนั้น หุ้น A ราคา 50 บาท
ถ้ามีเงิน อยู่ 100,000 บาท ถามว่าจะซื้อหุ้น A ไม๊
สำหรับผม ผมคงตอบไม่ได้ในทันที ผมขอดูหุ้นตัวอื่นๆให้ทั่วตลาดก่อน

low profile,high performance ดีกว่าคับ

แคค่ความหวังผมนะ

ถ้าพี่บลูโด่งดังขึ้นมาเป็น celeb แล้ว
จะมีแต่คนคล้อยตาม ไม่มีคนกล้ามองpitfall พี่นะคับ

จากการติดตามคุณ blueplanet มานาน ผมว่า คุณ blue มีความมั่นใจตัวเองสูงมาก แล้วชอบมองย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ตัวเองตัดสินใจผิดแล้วหยิบยกขึ้นมา (เหมือนผมเมื่อก่อน) ซึ่งมันก็ดีที่ทำให้เราลดทิฐิมานะลง

แต่ตอนนี้ผมอยากให้คุณ blue เคารพตัวเองว่า ณ นาทีนั้น/วินาทีนั้นที่ได้ตัดสินใจเหตุการณ์ต่างๆนั้น คุณได้ตัดสินใจดีที่สุดแล้วด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ ผมอยากให้คุณค่อยค่อยมองหาสิ่งดีในชีวิตที่คุณมองข้ามไปจากการตัดสินใจครั้งนั้นๆ (ซึ่งผมว่ามันต้องมี)

ไม่มีใครรู้อนาคตล่วงหน้าหรอกครับ และก็ไม่มีใครสามารถย้อนกลับแก้ไขอดีตได้เช่นกัน ทำปัจจุบันวันนี้ให้ดี รักษาสุขภาพกายสุขภาพใจไว้ หมั่นทำดีทุกๆวันแล้วสิ่งดีๆ จะต้องเข้ามาในชีวิตของคุณ blueplanet แน่นอนครับ

@ พี่ Picotos นิยามเปรียบเทียบระหว่างการลงทุนและการเก็งกำไรของพี่เรียบง่าย แต่ Clear มากครับ ทำให้ผมต้องกลับไปมองหุ้นใน Port 2-3 ตัว ว่าเข้าข่ายเก็งกำไรไปซะแล้ว เพราะขนาดว่าลงไปเยอะในช่วงนี้ผมยังไม่กล้าเข้าไปรับเพิ่ม แต่กลับกล้าไปรับตัวที่ลงน้อยกว่าที่เรามั่นใจแทน

@ พี่ Humdrum ชื่อ Login Xavi มาจากนักบอลเล่นเป็นตัว Holding Midfield หรือตัวคุมเกมส์ คล้ายๆ Quarterback ในอเมริกันฟุตบอลครับ Xavi ใจเย็นสุดๆ คอยอ่ายเกมส์ว่าต้องเล่นอย่างไร เล่นสร้างสรรค์แต่ก็เล่นง่ายๆ แทบไม่เคยเสียบอลเลย รอโอกาสงามๆจ่ายให้เพื่อนยิงประตูสวยๆ หลายครั้ง ผมเลยใช้ชื่อ Xavi เพื่อเตือนตัวเองให้ใจเย็นครับ

ส่วน Tiger นี่ผมก็ชอบครับ เพราะโตมารุ่นเดียวกัน ถ้า MOS ของเขาเป็นอย่างที่พี่ Hum ได้วิเคราะห์ ก็เชื่อว่าเขาจะผ่านไปได้ เพราะ Tiger นั้นมีความขยันมุ่งมั่นมาและเข้มแข็งมาแต่เด็ก น่าจะผ่านอุปสรรคเรื่องจิตใจไปได้ ถ้าเป็นหุ้นก็ Turnaround ได้ครับ ถึงวันนึงคงแซงปู่หมีแจ๊คได้

ส่วนคุณบลู ผมว่าในบางด้านต้องเจ๋งจริงแน่นอน เพราะผมยังคิดภาพตัวเองถือหุ้น 100% ไม่ออกจริงๆ ว่าจะต้องเก่งและกล้าขนาดไหน นับถือเรื่องนี้จริงๆครับ แค่คิดตอนช่วง Euro จะแตกนี่ก็หนาวแล้วครับ

blueplanet เขียน:ขอบคุณ ทุกคนที่ขียนถึงผม สกดชื่อผม เรียกชื่อผม
ไม่ว่าจะชื่นชม ตำหนิ หรือแม้แต่เรียกชื่อผมแบบไม่บวกไม่ลบก็ตาม
แต่ลึกๆแล้วผมก็ชอบคนยกยอ ชมเชย ศรัทธาผมมากกว่า
ทำให้รู้สึกว่าตัวเองฉลาด เก่ง และพองดี
ที่คุณฮัมดัม บอกว่า ผมขาด spelling checker
ผมไม่เข้าใจว่า spelling checker เป็น คน หรือ soft ware หรือ การกระทำของผม

คิดอยู่นานว่าจะแสดงความเห็นดีไหม สุดท้ายตัดสินใจได้ เมื่อเห็นเรื่อง spelling checker

เรื่อง spelling checker ถ้าผมเข้าใจความหมายของพี่ humdrum ไม่ผิด ผมมีประสบการณ์หนึ่ง
ที่น่าจะเปรียบเทียบได้

ผมเคยมีเจ้านายคนหนึ่ง ซึ่งประสบความสำเร็จเร็วมาก เก่ง และผมสนุกมากที่จะทำงานด้วย
การทำงานทุกวันมีแต่การเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความเห็น แล้วก็สร้างผลงาน
ทุกคนรอบตัวต่างชื่นชม ยกยอ เจ้านายผมมากมาย
เวลาผ่านไปประมาณ 10 ปี วันหนึ่งผมได้ตระหนักว่า ผมไม่สามารถแลกเปลี่ยนความเห็นกับเขาได้อีกแล้ว
เนื่องจากความเห็นเขาจะต้อง "ถูกเสมอ" เขาว่าคนทุกคนรอบตัวเขาต่าง "ไม่ฉลาด ไม่รู้จักคิด"
ความคิดเห็นที่ตรงข้ามกับเขา จะถูกเขาแย้ง ต่อว่า หรือเหน็บแนมไปอีกนาน
เขาจะ "สอน" ทุกคนให้ทำแบบที่เขาคิดเสมอ โดยไม่รู้ตัวว่าหลายคนได้เริ่มตีตัวห่างจากเขา
เหลือแต่คนที่ทุกวัน พูดจาชมเชย ยกยอเขา

ผมคิดว่า เขาขาด spelling checker ครับ

ปล. ผมไม่ได้หมายความว่า คุณ blueplanet มีนิสัยเป็นแบบอดีตเจ้านายผมนะครับ
แล้วข้อเปรียบเทียบนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจจะสื่อใดๆ ถึงตัวคุณ blueplanet เลย (ขอชี้แจงไว้ก่อน)
เพียงแค่จะสื่อถึงความหมายของคำว่า spelling checker ในความคิดผมเท่านั้น

ด้วยความปรารถนาดี

ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่บลู ที่ไม่ได้ชี้แจงให้ขัดเจนครับ ผมต้องเขาเริ่ขอขอบคุณพี่ momo ด้วย ใช่ครับ เราควรมีคนว่าเราและตำหนิเราได้แต่ต้องอยู๋บนพื้นฐานของหตุผล เวลาลงทุนในบริษัทไหน ผมจะบอกลูกน้องให้ไปคุยกับคนที่ไม่ชอบในความคิดของเรา ถ้าเขามีเหตุผลที่ฟังขึ้น พูดจารู้เรื่อง มันต้องมีอะไรที่เราเข้าใจผิดละ เราก็ไปตรวจสอบว่ามันจริงหรือไม่ ขนาดนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ของโลก อย่าง จอน ทูดอ โจน ยังบอกว่า เขาเริ่มทุกวันด้วยการตั้งสมมุติฐานว่า หุ้นที่เขามีในพอร์ตทั้งหมดเป้นการลงทุนที่ผืดหมดเลย แล้วเขาก็เริ่มจากตรงนั้น คือ จับผิดตัวเอง โซรอสก็บริหารหองทุนด้วย senses of defense อย่างนั้น มันเป้นเรืองของการแยกอีโก้ของเราออกจากการตัดสินใจที่มีเหตุและผล ซึ่งผมถือว่าเป้นคุณสมบัติสำคัญสำหรับนักลงทุนที่มีความกระตือรือร้นในที่จะประสบความสำเร็จทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่บัฟเฟตจะบอก CEO บริษัทที่อยู๋ในเครื่อของ Berkshire ว่ามีข่าวร้ายให้บอกทันที เขาเรียนจากสิ่งเคยเกิดขึ้นกับแบริ่งมาแล้ว เคยเกิดกับเลแมน บราเทอร์มาแล้ว ในขณะที่เราอ่านบทความจากท่านอาจารย์หลายท่าน เราก็เหมือนได้เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าวิจารย์ความผิดพลาดตัวเองเหมือนพี่บลู ประสบการณ์ความผิดพลาดของพี่ในอดีตก็สอนผมให้เก่งขึ้น เหมือนผมกำลังซ่อมแซมส่วนที่สีกหรอของตัวเองด้วยเช่นกันครับ ขอบคุณครับ

pooklook เขียน:ถ้ามั่นใจในหุ้นตัวที่ทำการบ้านมาอย่างดี เมื่อราคามันตกมาก็ซื้อเพิ่ม ยิ่งตกอีกยังมีกระสุนก็ยิงเพิ่มอีก
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน หุ้นกลับมาเมื่อไร ผมก็มองดูหุ้นในพอร์ตด้วยความสุขที่เพิ่มขึ้นตามขนาดพอร์ต
ฟ้าหลังฝน งดงามเสมอ ในขณะที่บรรยากาศช่วงพายุตั้งเค้ามันชวนให้ ตื่นเต้นและกังวล แต่สำหรับคนที่ผ่านอะไรมาพอสมควร
มันก็จะเป็นอะไรที่ธรรมดามาก เรียกว่านิ่งจนมีโอกาสได้เห็น ได้เห็นโอกาสดีๆ ที่จะทำให้พอร์ตใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเมื่อท้องฟ้าสดใสกลับมาอีกครั้ง

ผมเข้ามาให้กำลังใจท่าน blue ครับ ผมไม่ชอบอวยคนตามกระแสอย่างที่คนในบอร์ดเป็นกันครับ มันดูโง่ๆยังไงไม่รุ้ครับ

คุณ pooklook นี่ไม่ธรรมดาเลยครับ
ผมรู้สึกได้เลยว่าต้องเป็นเซียนแฝงตัวเข้ามาแน่ ๆ เลย

เข้ามา ตามอ่าน เรื่อยๆ ครับ
ผมชอบมุมมองของคนที่เก่งกว่าทุกคน ไม่ว่าจะ บวกหรือลบ กับมุมมองของผม