หน้า 2 จากทั้งหมด 2

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 28, 2012 4:00 pm
โดย chootana
ไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้เท่าไหร่
แต่ช่วงนี้ราคาหมูลงมามาก ผมได้ยินคนพูดว่า เศรษฐกิจไม่ดี คนเปลี่ยนไปบริโภคอย่างอื่นแทน
ผมก็เลยสงสัยว่า ยังมีเนื้อสัตว์อะไรที่ถูกกว่าหมูกับไก่ และแทนกันได้อีกครับ (อันนี้ได้ยินจริงๆ ไมมีเลศนัยนะครับ) ผมเลยคิดว่า คนคงเลิกกินหมู หันมากินผัก แต่ผักก็แพงอยู่ดี

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 28, 2012 4:09 pm
โดย vietnam
pork price down due to disease out braek and high price of raw material such as soybean meal and corn. Farmers dump end products as they foresee the pork price is in down trend.Chicken price plunge down due to over supply and major players such as CP, SAHA farm etc increase theire production to supply to EU which is just open market for raw chicken effective July1.

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 10:45 pm
โดย NORMALMAN
มันมีเฉพาะหุ้นที่แบ่งได้อย่างชดเจนเท่านั้นหรือครับ ว่าตัวไหนเป็นโกรท ตัวไหนเป็นวัฎจักร หุ้นที่เป็นคาบเกี่ยวมันนอกตำราหรือครับ หากภาพใหญ่เป็นหุ้นโกรท แต่ภาพระยะสั้นมีรอบวัฎจักร ควรเรียกเป็นหุ้นแบบไหนหรือครับ
อาหารเคยมีราคาถูกลงบ้างไหมครับ ข้าวแกงกลับไปจานละ 10 เป็นไปได้ไหมครับ กากถั่วเหลืองราคาขึ้นตลอดโดยไม่เคยลงหรือครับ
ความมั่นใจใน บ.ที่เราถือ บางครั้งมันมาจากการคิดเรื่องราวซ้ำแล้วซ้ำอีก คิดเกี่ยวกับมันมากๆ ครับ จะได้เจอคำตอบ

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 02, 2012 11:51 pm
โดย warlord
kraikria เขียน: ส่วนตัวผมคิดว่า CPF เปลี่ยน Business Model ชัดเจนครับ โดยหันมาเน้นเรื่อง Food อย่างจริงจังมากกว่าธุรกิจ Feed และ Farm ที่มีความเป็นสินค้าโภคภัณฑ์สูง การที่มาเน้นเรื่อง Food มีจุดเด่นตรงที่พฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่เริ่มเน้นอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น ประกอบกับ CPF เองก็พยายามคิดนวัตกรรมใหม่ในการผลิตอาหารให้ตรงตามความต้องการกับพฤติกรรมดังกล่าว เสริมกับความแข็งแกร่งในตลาดค้าปลีกที่สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึงเข้าไปอีก (อันนี้คิดเฉพาะเมืองไทย) ยิ่งทำให้ธุรกิจอาหารโตเร็วมาก
ควรจะแยก CPF เป็น Feed, Farm และ Food ตามที่คุณ kraikria พูดไว้ครับ Food น่าจะเรียกว่าเป็นส่วนที่เติบโตของบริษัท โดยเป็นธุรกิจต่อยอดขั้นปลายน้ำ
ส่วน Feed และ Farm มีความเป็นเป็นสินค้าโภคภัณฑ์สูง ซึ่งถ้าผลผลิตจากสองส่วนนี้ถูกนำมาแปลงเป็น Food ได้หมด ก็จะลดความผันผวนเรื่องรายได้ครับ ส่วนต้นทุนของ Feed และ Farm ต้องเอาเทคนิคอื่นเข้ามาควบคุมความผันผวนแทน

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 13, 2012 2:12 pm
โดย gripen
พี่ๆว่า มีความเป็นไปได้ไหมครับว่า cpf จะเข้าไปซื้อคาร์ฟู แล้วจะส่งผลให้พื้นฐานดีขึ้นมั้ย หรือมีการเปลี่ยนแปลงไหม

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 13, 2012 6:21 pm
โดย yakjabon
ผมคิดว่าน่าจะเป็น CPG หรือ CPALL เข้าไปซื้อคาร์ฟูร์มากกว่าครับ แต่ CPF อาจจะอาศัยว่าเป็นเครือค่ายเดียวกันก็เอื้อหนุนกัน ไม่งั้นเท่ากับว่า CPF เปิด line business ที่ฉีกออกไปมากเลย และตัวเองอาจไม่ถนัด

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 13, 2012 7:29 pm
โดย David TON
ผมก็เคยสงสัยเหมือนเจ้าของกระทู้มานาน เนื่องจากมีหุ้นทำนองนี้ที่เห็นๆอีกตัวนึงคือ HFT เจ้านี้ก็ทำเกี่ยวกับยาง แต่ทั้งสองตัวดูเหมือนว่ามีการบริหารงานดีเยี่ยมจนสามารถลดความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านั้นได้มาก


ขอตอบแบบฟันธงเลยนะครับ เป็นหุ้นวัฏจักร

เหตุผลเพราะกำไรของบริษัทมีโตน้อย กับโตมาก แต่ไม่ถึงกับติดลบมากเหมือนเหล็กเพียว ยางเพียว ไม่เจ๊งว่าง่ายๆ ซึ่งได้รับอิธิพลจากราคาสินค้าอยู่ดี

ดังนั้นจึงจัดให้อยู่ในกลุ่มดังกล่าว


อีกนิด ปีเตอร์ ลินซ์ สามารถทำกำไรจากหุ้นแบบนี้ได้มากที่สุดในช่วงท้ายๆที่บริหารอยู่ที่แมคเจนเลน(ไม่ใช่ S/L) พวกนี้เป็นหุ้นวัฏจักรที่บริหารงานเก่ง

Re: ชักเริ่มสงสัยและสับสน......

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 13, 2012 10:17 pm
โดย HARINLUX
ผู้บริหารของบริษัทคุณอดิเรก ศรีประทักษ์ มีเป้าหมาย ต้องการเพิ่มยอดขายในส่วนของ food และค้าปลีกของบริษัทให้เพิ่มขึ้นมากกว่าในปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายให้รายได้ feed farm และ food
มีสัดส่วนเท่าๆกันในอนาคต

เท่าที่ศึกษาหาข้อมูลมา :)
ส่วนรายได้และกำไรค่อนข้างผันผวน คือรายได้และกำไรจาก farm ส่วน feed รายได้และกำไรค่อนข้างแน่นอน ไม่ค่อยผันผวน ส่วนfood กำไรมีมาร์จิ้นสูง
ฉะนั้นหากในอนาคตรายได้ส่วน food และค้าปลีก มากขึ้น ส่วน farm ลดลง ความผันผวนของรายได้และกำไรในภาพรวม ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ

มาดูแนวความคิดของผู้บริหาร ในการลงทุนในแต่ละประเทศ ปัจจุบันมี 12 ประเทศ ผู้บริหารมีความต้องการลงทุน ใน feed และ farm ในทุกประเทศ เพื่อต่อยอดในธุรกิจ food และ ค้าปลีกในประเทศนั้นเอง คือต้องการเน้นลงทุนในประเทศนั้น และขายในประเทศนั้น ไม่ต้องการเป็นฐานในการส่งออกไปยังประเทศอื่น เพราะ ผู้บริหารมองว่า การส่งออกอาหารไปต่างประเทศ มีอุปสรรคปัญหามาก จากมาตรการกีดกันด้านภาษี มาตรฐานด้านอาหาร รวมทั้งมาตรฐานกีดกันด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านภาษี

การดำเนินธุรกิจของ cpf จะเป็นรายได้ที่ธุรกิจเป็นวัฎจักร คือธุรกิจ farm ส่วนธุรกิจเติบโตคือ food ซึงก่อนมีการซื้อกิจการในจีนและเวียดนาม ธุรกิจ food มีการเติบโตมาตลอด จนสามารถทำให้รายได้สัดส่วนประมาณ 18% ของรายได้รวม กำไรจากธุรกิจอาหารที่สูงขึ้นช่วยผลักดันราคาหุ้นให้
สูงขึ้น และรายได้จากfood ลดลงเหลือประมาณ 13% หลังรวมกิจการในจีนและเวียดนาม

ในความเห็นส่วนตัว cpf ปัจจุบัน เป็นหุ้นลูกผสม....555

----------------
ความรู้ คู่คุณธรรม