หน้า 2 จากทั้งหมด 3

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 10:45 am
โดย crazyrisk
nut776 เขียน:เอ่อ ผมว่าราคาต่ำกว่า แพงกว่า ปัจจัยพื้นฐาน นี่งง กว่าสุดๆคับ
เพราะบางเรื่อง ไม่สามารถ ตีราคาออกมาได้
เช่น ใบอนุญาตรถบรรทุกขนของตอนไหนก็ได้ ของบางบ.
ความสามารถ ผบห
ทำเลยุทธศาสตร์
(หรือมันอาจจะตีราคาได้ แต่เราด้อยปัญญาเอง)


ยิ่งอ่านหนังสือ หุ้น ทุมอโฮ่ เรื่อง penny stock
แล้วยิ่งงวย ตกลงถูกกว่าปัจจัยพื้นฐาน
พี่จะไม่เมตตาผม หน่อยหรือ ว่าพี่เทียบกะอะไร

อย่าไปถามเขาเลยครับ..
สงสารเขา...

:mrgreen:

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 10:49 am
โดย crazyrisk
เดิมที บอกตรงๆครับ เล่นหุ้นมาหลายปี ใครถามผมว่า เป็นวีไอ คืออะไร

ผมก็ลอกชาวบ้านว่า ถือหุ้นดีๆ ไปจนกว่า พื้นฐานมันจะเปลี่ยน !!!

ยอมรับว่า อายมาก เพราะ บอกคนไปหลายคนแบบนี้
แต่ที่ผ่านๆมา แทบไม่เคยรู้อย่างแท้จริงว่า ไอ้ที่เปลี่ยน เนี่ย มันเปลี่ยนยังไง


รู้สึกดีมากครับ ที่ มีกระทู้ดีๆ อย่างนี้ ปรากฏมา ต้อนรับสมาคมแบบนี้...

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 10:54 am
โดย crazyrisk
ขอแชร์บ้างแล้วกันครับ

พื้นฐานเปลี่ยนสำหรับผม คิดเห็น เช่นเดียวกับพี่โดม
สำหรับผม "พื้นฐาน" ผมเข้าใจและแบ่งออกเป็น

๑. พื้นฐานทางโครงสร้างทางธุรกิจ หรือ Business Model
๒. พื้นฐานทางการเงิน หมายถึง โครงสร้างทางการเงิน เงินทุน หนี้สิน กระแสเงินสด สภาพคล่อง ดอกเบี้ยเงินกู้ etc.
๓. พื้นฐานทางโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่และอำนาจการบริหาร
๔. พื้นฐานทางการตลาด ซึ่งประกอบไปด้วย P ทั้ง 4 Product Price Promotion and Place
๕. พื้นฐานทางความอุตสาหกรรม หรือ เทรนด์ ของอุตสาหรรมนั้นๆ


ขออนุญาต ลอกหน่อยนะครับ พี่โดม :)

สังเกตได้ว่า หุ้นหลายตัว ออกงบมาไม่ได้ดีเด่อะไร บางตัวติดลบบักโกรกซะด้วย
แต่ หุ้นวิ่งกระจาย
ผมเชื่อว่า สาเหตุที่หุ้นขึ้น หลักๆ มันคือการ forcast ล่วงหน้า
ดังนั้น นักลงทุนที่ยึดกับ PE ในอดีต นับวัน เล่นหุ้น ไปก็มีแต่ ได้หุ้น PE ต่ำลงเรื่อยๆ

แต่คนที่มองพื้นฐานกิจการเปลี่ยนได้ นั้น ก็จะประสบความสำเร็จในระยะยาวจริงๆ
เพราะ หุ้นพวกนี้ต่างหากที่ทำให้ นักลงทุนสามารถ กอบโกยกำไรอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:00 am
โดย crazyrisk
ถ้างั้นเพื่อความสนุก ขอยืมกระทู้พี่โดม ใช้ในการเล่นเกมส์ทายปัญหากันหน่อยนะครับ

ผมจะเลือกหุ้นที่ ทั้งราคาหุ้นแน่นิ่งเป็นแช่แป้งมาหลายปี
ทั้งพื้นฐานกำไรและรายได้หุ้น ก็แช่แป้งมาหลายปี

อยู่ๆ ก็เกิด ก้าวกระโดด กันไปเป็น เปกาซัส ฟินิกซ์ กันจนเพื่อนๆ ขายหมูกันโม้ดดด

มาช่วยกันทายครับว่า หุ้นพวกนี้
ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา พื้นฐานอะไรเปลี่ยนหรือไม่
และ เปลี่ยนแบบนี้ จะยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน
ดีไหมครับ

GFPT
STA
CHOTI
CFRESH
CPF
MALEE
OISHI

รอบแรก ขอส่ง 7 ตัว นี้ เข้าท้าชิง ผู้กล้าก่อนครับ..
ปล. ผมมีคำตอบในใจอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกนะครับ

เรียนเชิญ ผู้กล้าเข้ามา เลยครับ


หมายเหตุ หุ้นที่ผมเลือกมาส่วนใหญ่ แล้ว จะมี ราคาหุ้น ทำจุดสูงสุดใหม่
พร้อมกับ ผลกำไรของบริษัทที่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน
แต่อยากให้ discuss ในแง่ของพื้นฐานเท่านั้นนะครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:02 am
โดย dome@perth
charonp เขียน:
ขอถามต่อได้มั้ยครับว่า ถ้าสมมติพื้นฐานเปลี่ยน เราควรให้น้ำหนักที่ส่วนไหนเท่าไร

แบบว่า ถ้าอันนี้เปลี่ยน เกิดผลกระทบแน่ อันนี้เปลี่ยน ไม่กระทบหรอก นิดหน่อย ชั่วคราว

แล้วถ้าปัจจัยทางคุณภาพเปลี่ยน จะส่งผลต่อการ valuation ยังไงครับ เพราะตรงนี้ประเมินเป็นตัวเลขยากอ่ะครับ

ขอบคุณครับ
เป็นคำถามที่ดีมากครับ

คนส่วนใหญ่มักจะมองผลกระทบ ที่มีผลต่อบรรทัดสุดท้าย คือกำไร ซึ่งบางครั้งอาจเป็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราว
อย่างที่ว่าครับ

ปัจจัยทางคุณภาพ หากมีการเปลี่ยนแปลง มักส่งลกระทบในระยะยาวๆ

ถามต่อเลยครับ
แล้วพวกเราเข้าใจปัจจัยคุณภาพ คืออะไร แตกต่างจาก ปัจจัยเชิงปริมาณอย่างไร

เข้ามาแชร์กันครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:05 am
โดย dome@perth
ขอบคุณหมอเค มากๆครับที่เข้ามาร่วมแจม และ ต่อยอดความรู้ในกระทู้ผม
เป็นประโยชน์มากๆครับ

....เกมส์หมอเค เด็ดมากๆ. รอเพื่อนๆมาตอบ แล้ว ผม ค่อยลอก.....ฮ่า :D

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:09 am
โดย chukieat30
สั้นๆครับ ความสามารถในการผลิตเงินสดและรายได้เปลี่ยนแปลงไปแบบถาวร

จะเกิดจาก เทรนเปลี่ยน FF หรืออย่างอื่นเช่น ถูกทดแทนด้วยสิ่งอื่นได้เร็ว

แต่ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงถาวรในแง่ การผลิตเงินสดและรายได้จากการดำเนินงาน

ให้คิดในแง่ มันอาจจะกระทบชั่วคราว ก้มีโอกาศ turn around ได้ครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:16 am
โดย chukieat30
STA

หุ้นคอมโม คงวัดที่พื้นฐานอย่างเดียวไม่ได้ครับ

คำว่าหุ้นพื้นฐาน คือ หุ้นที่บริษัทสามารถทำรายได้แน่นอน และมีการเติบโตในระดับ 10-15%

ต่อปี และแนวโน้มในธุรกิจ ถ้าวัดกันที่ปัจจัยเชิงคุณภาพ ก้คือ ต้องเป็นผู้ชนะในธุรกิจครับ

ผมอยากให้หมอเคนึกถึง บทความ อ้วน ผอม สูง ของท่านอาจารย์ ครับ

สำหรับผม STA เป็นหุ้นคอมโมที่ พื้นฐานของบริษัท ขึ้นกับช่วงเวลาแห่งความสุขของราคา

ยางครับ


ถ้าใครอยากรู้มากกว่านี้ ค้นกระทู้พี่หมอสามัญชน เรื่องคอมโมดูครับ

พี่หมอท่านเขียนไว้ได้ดีมาก

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:31 am
โดย crazyrisk
chukieat30 เขียน:STA

หุ้นคอมโม คงวัดที่พื้นฐานอย่างเดียวไม่ได้ครับ

คำว่าหุ้นพื้นฐาน คือ หุ้นที่บริษัทสามารถทำรายได้แน่นอน และมีการเติบโตในระดับ 10-15%

ต่อปี และแนวโน้มในธุรกิจ ถ้าวัดกันที่ปัจจัยเชิงคุณภาพ ก้คือ ต้องเป็นผู้ชนะในธุรกิจครับ

ผมอยากให้หมอเคนึกถึง บทความ อ้วน ผอม สูง ของท่านอาจารย์ ครับ

สำหรับผม STA เป็นหุ้นคอมโมที่ พื้นฐานของบริษัท ขึ้นกับช่วงเวลาแห่งความสุขของราคา

ยางครับ


ถ้าใครอยากรู้มากกว่านี้ ค้นกระทู้พี่หมอสามัญชน เรื่องคอมโมดูครับ

พี่หมอท่านเขียนไว้ได้ดีมาก
ผมเห็นต่างนะครับ หาก เราบอกแค่ว่า คอมโม คือ การเสพสุขช่วงสั้นๆ
ดังนั้น คนที่รวยจากหุ้นคอมโมคือ คนที่ฟลุกเท่านั้นใช่ไหมครับ ?

ผมไม่ได้บอกว่า หุ้นที่เรียกมา คือหุ้นพื้นฐานเท่านั้น
และหุ้นพื้นฐาน ก็ไม่ใช่ หุ้นที่ ต้องเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งในระยะยาวเท่านั้น
ไม่งั้น จะมาบอกว่า คนที่รวยจากการเล่นหุ้น คือ คนที่เล่นหุ้น ค้าปลีกเท่านั้นนะครับ

เพราะ อย่างที่ กระทู้นี้บอก "พื้นฐานเปลี่ยน"

มันคือ การพูดคุยกันในแง่ของ โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนมากกว่าครับ..

ยังไงก็ขอบคุณ พี่ชู ที่เข้ามาร่วมแจมนะครับ..

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:33 am
โดย wpong
7 ตัวที่หมอ K พูดด้านบนผมยังไม่ได้ศึกษา งั้นขอแจมตัวที่ผมศึกษาตามรูปด้านล่างนะครับ
ให้ทายกันเล่นๆว่าเป็นของบริษัทอะไร

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:43 am
โดย crazyrisk
ดูเหมือน MAI
น่าจะเป็น หุ้น IPO ด้วยหรือเปล่าครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:49 am
โดย chukieat30
ผมเห็นต่างนะครับ หาก เราบอกแค่ว่า คอมโม คือ การเสพสุขช่วงสั้นๆ
ดังนั้น คนที่รวยจากหุ้นคอมโมคือ คนที่ฟลุกเท่านั้นใช่ไหมครับ ?

ผมไม่ได้บอกว่า หุ้นที่เรียกมา คือหุ้นพื้นฐานเท่านั้น
และหุ้นพื้นฐาน ก็ไม่ใช่ หุ้นที่ ต้องเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งในระยะยาวเท่านั้น
ไม่งั้น จะมาบอกว่า คนที่รวยจากการเล่นหุ้น คือ คนที่เล่นหุ้น ค้าปลีกเท่านั้นนะครับ
เพราะ อย่างที่ กระทู้นี้บอก "พื้นฐานเปลี่ยน"
มันคือ การพูดคุยกันในแง่ของ โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนมากกว่าครับ..
ยังไงก็ขอบคุณ พี่ชู ที่เข้ามาร่วมแจมนะครับ..

ไม่ฟลุ๊คครับ แต่อยากให้หมอเคได้ลองกลับไปอ่านในกระทู้ ที่พี่หมอสามัญชนเขียนไว้

เกี่ยวกับคอมโมก่อน

คนที่รวยจาก หุ้นคอมโม ไม่ฟลุ๊คครับ คนเหล่านี้ ล้วนเข้าใจและสามารถ มองออกว่า

cycle ของมันเป็นยังไง เขื่อนแตกหรือไม่แตก

มันเหมือนคนที่ถนัดต่อยทางด้านนี้จริงๆเท่านั้น จึงจะพอมองออก

พี่หมอสามัญชน ก้กำไรจาก PDI มามาก ตอนช่วง zinc peak คนเก่าๆจำกันได้
อยากให้พี่หมอเค เชิญ พี่หมอสามัญชน มาออกรายการแล้วลองถามเกี่ยวกับหุ้นคอมโม
ครับ ว่า แนวคิดของท่านเป็นยังไง

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 11:56 am
โดย crazyrisk
chukieat30 เขียน:ผมเห็นต่างนะครับ หาก เราบอกแค่ว่า คอมโม คือ การเสพสุขช่วงสั้นๆ
ดังนั้น คนที่รวยจากหุ้นคอมโมคือ คนที่ฟลุกเท่านั้นใช่ไหมครับ ?

ผมไม่ได้บอกว่า หุ้นที่เรียกมา คือหุ้นพื้นฐานเท่านั้น
และหุ้นพื้นฐาน ก็ไม่ใช่ หุ้นที่ ต้องเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งในระยะยาวเท่านั้น
ไม่งั้น จะมาบอกว่า คนที่รวยจากการเล่นหุ้น คือ คนที่เล่นหุ้น ค้าปลีกเท่านั้นนะครับ
เพราะ อย่างที่ กระทู้นี้บอก "พื้นฐานเปลี่ยน"
มันคือ การพูดคุยกันในแง่ของ โครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนมากกว่าครับ..
ยังไงก็ขอบคุณ พี่ชู ที่เข้ามาร่วมแจมนะครับ..

ไม่ฟลุ๊คครับ แต่อยากให้หมอเคได้ลองกลับไปอ่านในกระทู้ ที่พี่หมอสามัญชนเขียนไว้

เกี่ยวกับคอมโมก่อน

คนที่รวยจาก หุ้นคอมโม ไม่ฟลุ๊คครับ คนเหล่านี้ ล้วนเข้าใจและสามารถ มองออกว่า

cycle ของมันเป็นยังไง เขื่อนแตกหรือไม่แตก

มันเหมือนคนที่ถนัดต่อยทางด้านนี้จริงๆเท่านั้น จึงจะพอมองออก

พี่หมอสามัญชน ก้กำไรจาก PDI มามาก ตอนช่วง zinc peak คนเก่าๆจำกันได้
อยากให้พี่หมอเค เชิญ พี่หมอสามัญชน มาออกรายการแล้วลองถามเกี่ยวกับหุ้นคอมโม
ครับ ว่า แนวคิดของท่านเป็นยังไง

คงไม่มีวันนั้นแล้วมังครับ เพราะ ปัจจุบัน พี่หมอสามัญชน
งดออกสื่อทุกประเภทแล้ว แม้กระทั่งมางานไทยวีไอครับ


ส่วน เรื่อง PDI ผมเคยตามอยู่บ้างครับ ผาแดงนั้น ช่วงนั้น
มีเหมืองจำนวนนึง ซึ่งปกติ เหมือน cycle มันจะประมาณ 10-15 ปีเนี่ยแหละครับ
แต่ว่า ช่วงนั้น เกิดพายุ ที่รุนแรง ถล่มเหมืองที่ USA ครับ
ทำไม เกิดภาวะ supply shortage อย่างรุนแรง
หุ้น PDI ถึงได้ วิ่งขึ้นเพราะแรงเก็งกำไรอย่างรุนแรงเช่นกัน

ยังไง รบกวนพี่ชู ช่วยเสริมหน่อยได้ไหมครับ
เพื่อให้เพื่อนสมาชิกคนใหม่ๆ เขาจะได้ตามทันได้ครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 12:11 pm
โดย crazyrisk
wpong เขียน:7 ตัวที่หมอ K พูดด้านบนผมยังไม่ได้ศึกษา งั้นขอแจมตัวที่ผมศึกษาตามรูปด้านล่างนะครับ
ให้ทายกันเล่นๆว่าเป็นของบริษัทอะไร

นึกออกแล้วครับ บ. ลูกที่ คนที่มี rabbit card อยากได้เป็นของแถมนี่เอง

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 12:11 pm
โดย chukieat30
ทำไม เกิดภาวะ supply shortage อย่างรุนแรง

ต้องขอเกริ่นก่อนนะครับว่า สังกะสีเป็นแร่ที่ขุดขึ้นมาจากพื้นดิน หลายประเทศที่เป็นแหล่ง

ขุดในสมัยนั้นเกิดปัญหาแบบที่หมอเคพูดไว้

จึงทำให้ supply ในระบบหายออกไป ขณะที่ demand ยังเท่าเดิม

และกว่าจะกลับมาขุดได้เหมือนเดิมก้กินระยะเวลา พอสมควร เพราะ แหล่งอื่นไม่สามารถ

ทดแทนได้เท่าไหร่

จึงเข้าหลักที่ว่า เขื่อนแตกนั้น ต้องมี 1 ใน2 คือ

1.Supply หดตัวแรง และไม่สามารถทดแทนได้ในช่วงเวลาสั้นๆๆ demand ยังคงเดิม

2.Demand ล้นเหลือ จน supply ที่มี ไม่เพียงพอ

PDI เข้าหลักข้อ1

PTL AJ เข้าหลักข้อ2

TTA PSL เข้าหลักข้อ2 ตอนนั้นเรือน้อย แต่ดีมานท์มากมาย จึงเป็นที่มาของการสั่งต่อเรือ

ที่มากมายตามมา

STA TRUBB เข้าหลักข้อ1 อินโดเกิดสึนามิ ทำให้ supplyหายไป

ภายใต้สภาวะที่จะเขื่อนแตก

ต้องมี 1 หรือ 2 มาเกี่ยวครับ


จึงจะลุ้นเขื่อนแตก

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 12:14 pm
โดย crazyrisk
chukieat30 เขียน:ทำไม เกิดภาวะ supply shortage อย่างรุนแรง

ต้องขอเกริ่นก่อนนะครับว่า สังกะสีเป็นแร่ที่ขุดขึ้นมาจากพื้นดิน หลายประเทศที่เป็นแหล่ง

ขุดในสมัยนั้นเกิดปัญหาแบบที่หมอเคพูดไว้

จึงทำให้ supply ในระบบหายออกไป ขณะที่ demand ยังเท่าเดิม

และกว่าจะกลับมาขุดได้เหมือนเดิมก้กินระยะเวลา พอสมควร เพราะ แหล่งอื่นไม่สามารถ

ทดแทนได้เท่าไหร่

จึงเข้าหลักที่ว่า เขื่อนแตกนั้น ต้องมี 1 ใน2 คือ

1.Supply หดตัวแรง และไม่สามารถทดแทนได้ในช่วงเวลาสั้นๆๆ demand ยังคงเดิม

2.Demand ล้นเหลือ จน supply ที่มี ไม่เพียงพอ

PDI เข้าหลักข้อ1

PTL AJ เข้าหลักข้อ2

TTA PSL เข้าหลักข้อ2 ตอนนั้นเรือน้อย แต่ดีมานท์มากมาย จึงเป็นที่มาของการสั่งต่อเรือ

ที่มากมายตามมา

STA TRUBB เข้าหลักข้อ1 อินโดเกิดสึนามิ ทำให้ supplyหายไป

ภายใต้สภาวะที่จะเขื่อนแตก

ต้องมี 1 หรือ 2 มาเกี่ยวครับ


จึงจะลุ้นเขื่อนแตก

แล้ว พี่ชู เคย เข้าไปตีแตก หุ้นเขื่อนแตกตัวไหน ครับ
พอจะเล่าเป็นวิทยาทานได้ไหมครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 12:24 pm
โดย chukieat30
ผมลอกการบ้าน คุณ Nanchan หุ้น PTL AJ แต่หมูครับ

ผมลอกการบ้าน STA TRubb จากคุณ nanchan แต่ก้หมูครับ

ผมลอกการบ้านคุณ Gs mobile TTA แต่่ก้หมูครับ

ผมตีแตก หุ้น SMM LEE แต่ SMM ผมก้หมูครับ

สรุปตอนนี้ ผมเปิดฟารม์หมูขายอยู่ครับหมอเค

1เด้งเคยได้ครับ แต่เกินกว่า 1เด้ง คงมีแต่หุ้นในพอรท์ของเตี่ย

ซึ่งก้ขายไปแล้ว kank ราคา IPO ครับ 10 บาท

ขายไปที่ราคา 138 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 1380% ครับ ไม่รวมปันผล

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 2:06 pm
โดย wpong
crazyrisk เขียน:
wpong เขียน:7 ตัวที่หมอ K พูดด้านบนผมยังไม่ได้ศึกษา งั้นขอแจมตัวที่ผมศึกษาตามรูปด้านล่างนะครับ
ให้ทายกันเล่นๆว่าเป็นของบริษัทอะไร

นึกออกแล้วครับ บ. ลูกที่ คนที่มี rabbit card อยากได้เป็นของแถมนี่เอง
ใช่แล้วครับ

ที่ยกตัวอย่าง บริษัทนี้มาให้ดูก็เพราะว่ามันคงจะมีพื้นฐานบางอย่างที่ทำให้นักวิเคราะห์กล้าให้อัตราการเจริญเติบโตขนาดนั้น และเป็นการเติบโตโดยแทบไม่ต้องลงทุน capexเพิ่มเลย
ที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็พอที่จะวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของบทวิเคราะห์ได้ เพราะเป็นสัญญาว่าจ้างในระยะยาว

ส่วนเรื่อง rabbit card ถ้ามองในระยะยาวคงต้องวิเคราะห์ว่า จะเป็นเหมือน octopus card อย่างใน Hongkong ได้หรือเปล่า

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 2:15 pm
โดย crazyrisk
wpong เขียน:
crazyrisk เขียน:
wpong เขียน:7 ตัวที่หมอ K พูดด้านบนผมยังไม่ได้ศึกษา งั้นขอแจมตัวที่ผมศึกษาตามรูปด้านล่างนะครับ
ให้ทายกันเล่นๆว่าเป็นของบริษัทอะไร

นึกออกแล้วครับ บ. ลูกที่ คนที่มี rabbit card อยากได้เป็นของแถมนี่เอง
ใช่แล้วครับ

ที่ยกตัวอย่าง บริษัทนี้มาให้ดูก็เพราะว่ามันคงจะมีพื้นฐานบางอย่างที่ทำให้นักวิเคราะห์กล้าให้อัตราการเจริญเติบโตขนาดนั้น และเป็นการเติบโตโดยแทบไม่ต้องลงทุน capexเพิ่มเลย
ที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็พอที่จะวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของบทวิเคราะห์ได้ เพราะเป็นสัญญาว่าจ้างในระยะยาว

ส่วนเรื่อง rabbit card ถ้ามองในระยะยาวคงต้องวิเคราะห์ว่า จะเป็นเหมือน octopus card อย่างใน Hongkong ได้หรือเปล่า

ผมเห็นต่างเล็กน้อยนะครับ พี่ wpong
จริงๆ หากดูส่วนแบ่งรายได้แล้ว ผมจะชอบมากกว่า ถ้าหาก ส่วนแบ่งรายได้มันโตจาก
การที่เขาโตจาก พื้นที่ๆ ที่เป็นของเขาจริงๆ
คือ โฆษณา ตามแนวรถไฟฟ้า แนวสถานีรถไฟฟ้ามากกว่า

แต่ สองปีที่ผ่านมา ดันไปโตตาม ห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้ามากกว่า
ซึ่ง ใน filing เอง เขียนว่า โตจากห้างที่มีการขยายสาขามาตามแนวเดียวกับรถไฟฟ้า
(อันนี้ก็ยังพอรับได้บ้าง แต่เขาเขียนแค่ ห้าง terminal 21 เป็นตัวอย่าง)

แต่ผมเคยเห็น presentation ของเขา เขา claim ว่า เขามีประสิทธิภาพ สูงมาก
จนสามารถ เข้าไป ยึดหัวหาด การทำโฆษณา ใน BIGC และ ค้าปลีกบางเจ้าได้เลย
ที่ผมแปลกใจมาก ถึงมากที่สุด คือ เกิดเหตุการณ์นี้ได้ไง ????

ถามว่า การที่มี โฆษณาใน hypermarket นั้น
ต้องใช้ know how ? ขนาดนั้นหรือไม่

คำตอบคือ ? ไม่รู้ ครับ แหะๆ เท่าที่ผมรู้ คือ ทาง RS เอง เคย เข้าไปจับตลาดนี้(in store media)มา
รอบนึงแล้ว และ ก็ ประสบความสำเร็จ ช่วงระยะเวลานึง

ต่อมา ไม่แน่ใจว่า มีปัญหาเรื่องบริหารจัดการ หรือว่า ทางเจ้าของห้าง เห็นชิ้นปลามันนี้
เลยเข้ามาฮุบเองหรือไม่.. ? แต่ก็ยิ่งแปลกใจอีก ที่ตกมาเป็นของ VGI
ทั้งๆ ที่ 1 . VGI ไม่ได้ มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน (เพราะขนาด RS เอง
มี content ในมือมากกว่าด้วยซ้ำ)
2. VGI ไม่ได้ มีประโยชน์ จากการเป็นลูก BTS ในดีลพวกนี้เลย ..

ผมวิเคราะห์ตามสิ่งที่ผมคิดนะครับ
ผมคิดว่า อำนาจต่อรอง ของ VGI น่าจะไม่ได้เยอะขนาดนั้น
นอกเสียจากว่า...........?

:juju:

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 2:49 pm
โดย wpong
หมอ K พอจะรู้ใหมครับ เวลาห้าง หรือ คอนโดจะมาเชื่อมต่อกับ bts ต้องขออนุญาต กทม หรือ bts ครับ มันจะเกี่ยวกันใหมเนี่ย


ในอีก 2ปีจะมีตู้เพิ่ม อีก 36 % มีพื้นที่โฆษณาเพิ่มอีก 36% สถานีก็ขยายไปด้วย คนก็เพิ่มขึ้นด้วย

วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มา รู้สึกกลวงๆเหมือนกัน :P

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 2:53 pm
โดย crazyrisk
wpong เขียน:หมอ K พอจะรู้ใหมครับ เวลาห้าง หรือ คอนโดจะมาเชื่อมต่อกับ bts ต้องขออนุญาต กทม หรือ bts ครับ มันจะเกี่ยวกันใหมเนี่ย


ในอีก 2ปีจะมีตู้เพิ่ม อีก 36 % มีพื้นที่โฆษณาเพิ่มอีก 36% สถานีก็ขยายไปด้วย คนก็เพิ่มขึ้นด้วย

วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มา รู้สึกกลวงๆเหมือนกัน :P
ผมว่าไม่น่าเกี่ยวนะครับ
แบบที่ พี่ wpong บอก คือ bts บอกว่า ห้างไหนจะมาเสียบกะป๋า
ป๋า ขอฝากลูก vgi ไปนอนในห้างด้วยนะ ไม่งั้น ป๋า ไม่ให้เสียบ...

แต่เท่าที่ผมเข้าใจ ส่วนแบ่งตรง ห้างค้าปลีกนั้น มัน เป็นพวก BIGC อะไรเงี้ยอะครับ
เลยงงว่า มันไปเกี่ยวกับ bts เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ..

แต่เห็นด้วยครับ เรื่อง ตู้เพิ่ม....

เอาเป็นว่า ระยะสั้น ถ้าดู ตัวเลขทางการเงิน ก็คงน่าสนใจระดับนึงครับ
ซึ่ง ระยะยาว เป็นไง คงต้อง ช่วยๆกันหาข้อมูลดูครับ


แต่ เราคุยกันไปหลุดประเด็นกระทู้พี่โดมแล้วค้าบบบ... :B

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 3:19 pm
โดย wpong
ครับ งั้นกลับเข้าประเด็นว่า banpu พื้นฐานเปลี่ยนใหมครับ :P

ขอยกคำของลินซ์ มาเตือนใจนิดหนึ่ง

หลีกเลี่ยงหุ้นร้อนที่อยู่ในอุตสาหกรรมร้อนแรง บริษัทชั้นเยี่ยมในอุตสาหกรรมที่ไม่มีการเติบโตมักจะเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงๆ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 29, 2012 3:53 pm
โดย ดำ
วันก่อนเพิ่งอ่านบทความของดร.

นักลงทุนรุ่นใหม่ชอบหุ้นพื้นฐานเปลี่ยน ไม่ชอบหุ้นพื้นฐานไม่เปลี่ยน

แต่ ดร. หรือ ปู่บัฟฯ ชอบหุ้นพื้นฐานไม่เปลี่ยน

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 30, 2012 1:17 am
โดย charonp
dome@perth เขียน: เป็นคำถามที่ดีมากครับ

คนส่วนใหญ่มักจะมองผลกระทบ ที่มีผลต่อบรรทัดสุดท้าย คือกำไร ซึ่งบางครั้งอาจเป็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราว
อย่างที่ว่าครับ

ปัจจัยทางคุณภาพ หากมีการเปลี่ยนแปลง มักส่งลกระทบในระยะยาวๆ

ถามต่อเลยครับ
แล้วพวกเราเข้าใจปัจจัยคุณภาพ คืออะไร แตกต่างจาก ปัจจัยเชิงปริมาณอย่างไร

เข้ามาแชร์กันครับ
ในความคิดของผมนั้นปัจจัยคุณภาพนั้นมันควบคู่ไปกับปัจจัยทางปริมาณ

ปัจจับคุณภาพที่เราคิด ๆ ดูนั้นส่วนมากจะดูในเรื่องการเติบโต อะไรทำให้โต อะไรทำให้ไม่โต หรือบางทีกลายเป็นคนแคระไปเลย อิอิ

สมมตินะครับ ผมมองธุรกิจตัวนึง ทำธุรกิจรับของมาขายจากต่างประเทศ

ปัจจัยคุณภาพ --> ผมดูก่อนว่าของอันนี้มันดีหรือไม่ เมืองไทยมีรึป่าว มาขายแล้วจะขายใคร คนซื้อจะมีมั้ย คู่แข่งเป็นใคร มีอะไรที่มันคล้ายๆหรือเหมือนกันรึป่าว เป็นสินค้าแฟชั่น หรือถ้าคนซื้อไปใช้แล้วต้องซื้ออีก แล้วก็อีกหลาย ๆ อย่างครับ

ปัจจัยทางปริมาณ-->คือสิ่งที่บอกออกมาเป็นตัวเลขได้ ผมต้องดูแล้วว่าการบริโภคของประเภทนี้ สร้างรายได้ตาม GDP กี่เปอร์เซ็นต์ เราเล่นอยู่ในตลาดที่มีโอกาสมากหรือน้อย ก็ดูตาม GDP ก็ได้ครับ แล้วถ้าของที่เอาเข้ามาขาย มีคนขายอยู่แล้วเราก็ต้องไปดู market share ของเค้ามีเท่าไร เราจะแทรกไปได้ยังไง ราคาของเราถูกกว่ารึป่าว ถ้าเราลดราคากำไรเราน้อยลง แสดงว่าเราต้องขายให้มากขึ้น ทีนี้จะทำยังไง มันก็ไปสอดคล้องกับปัจจัยทางคุณภาพ ผมจึงคิดว่ามันแยกกันออกไม่ขาดซักเท่าไร แต่การหาตัวเลขเยอะ ๆ หลาย ๆ ด้าน ช่วยให้มองภาพได้ชัดขึ้นครับ

จุดที่ผมว่าต่าง คือ คุณภาพ=ความพอใจ
ปริมาณ=ตัวเลข

จบแบบกำปั้นทุบดินเลย :D :D

ถ้าผิดยังไงรบกวนชี้แนะด้วยนะครับผม

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 30, 2012 2:48 pm
โดย dr.momo
crazyrisk เขียน:ถ้างั้นเพื่อความสนุก ขอยืมกระทู้พี่โดม ใช้ในการเล่นเกมส์ทายปัญหากันหน่อยนะครับ
มาช่วยกันทายครับว่า หุ้นพวกนี้
ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา พื้นฐานอะไรเปลี่ยนหรือไม่
และ เปลี่ยนแบบนี้ จะยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน
ดีไหมครับ

GFPT
STA
CHOTI
CFRESH
CPF
MALEE
OISHI

หมายเหตุ หุ้นที่ผมเลือกมาส่วนใหญ่ แล้ว จะมี ราคาหุ้น ทำจุดสูงสุดใหม่
พร้อมกับ ผลกำไรของบริษัทที่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน
แต่อยากให้ discuss ในแง่ของพื้นฐานเท่านั้นนะครับ
ขอเลือก OISHI เพราะศึกษามาเล็กน้อย
(ถือว่าช่วยสร้างกระแสให้คนมาตอบเยอะๆ ละกันครับ)

คิดว่าพื้นฐานข้อ 1, 4 กับข้อ 5 เปลี่ยนครับ
ความเห็นคือ ธุรกิจโออิชิ แบ่งออกเป็น สองส่วนหลักคือ ร้านอาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์

เทรนด์ของร้านอาหารญี่ปุ่น คนนิยมทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ผู้บริโภคมีกำลังจ่าย
ร้านอาหารญี่ปุ่นก็เลยขายดี ของโออิชิที่ขายดีสุดก็คือ ชาบูชิ จะเห็นว่าคนแน่นแทบจะทุกสาขา
การเปิดสาขาใหม่ด้วยการขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้า ก็ทำให้มีลูกค้าเพิ่มและรายได้เพิ่ม

ความเสี่ยงคือคู่แข่งก็เยอะขึ้นด้วยเช่นกัน ร้านอาหารเปิดใหม่เต็มไปหมด ผู้บริโภคมีทางเลือก
ถ้าจะเข้าร้านหนึ่งแล้วคนแน่นมาก ถ้าไม่ได้อยากทานจริงๆ ก็ไปทานร้านอื่นได้

เทรนด์ของเครื่องดื่ม จากเดิมที่คาดว่า ชาเขียวถึงจุดอิ่มตัว ปรากฏว่าเปลี่ยนไป ตลาดยังโตอยู่
คนนิยมดื่มชาเขียวมากขึ้น ประกอบกับการลาออกของคุณตันและการเกิดอิชิตันทำให้เกิดการแข่งขัน
ส่งผลให้ขนาดของตลาดชาเขียวเติบโตขึ้น

นอกจากนี้ โออิชิ ยังมีความพยายามที่จะออก Product ใหม่ๆ
ความพยายามที่จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากเครื่องดื่มน้ำดำ
เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากตลาดใหม่ๆ เช่นตลาดสาหร่าย เป็นต้น
ซึ่งถ้าทำสำเร็จจะส่งผลให้พื้นฐานด้านการตลาดเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
การ Synergy กับบริษัทในเครือ เช่นบริษัทเสริมสุข
น่าจะส่งผลดีในเรื่องของ Logistics และเครือข่ายร้านขายปลีก
การเปิดห้าง Gateway ซึ่งเน้นความเป็น Japanese Mall

ส่วนความเสี่ยงคือ บริษัทจะทำได้อย่างที่คาดหรือเปล่า การเกิดคู่แข่งสำคัญเช่นอิชิตัน
ที่แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปเรื่อยๆ การแย่งส่วนแบ่งตลาดสาหร่ายของเถ้าแก่น้อย ก็ไม่ได้ง่าย
การเกิดสงครามราคา ทำให้ Margin ลดลง เป็นต้น

ส่วนคำถามที่ว่าจะยั่งยืนแค่ไหน
ผมคิดว่าโลกทุกวันนี้ เป็นโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็ก
Economy of Scale, Synergy of Business ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจเข้มแข็ง
บริษัทเล็กๆ อย่างไรก็สู้ด้วยยากครับ
นอกเสียจากเกิดเมกะเทรนด์ใหม่ ที่ส่งผลต่อธุรกิจโดยตรง
แล้วผู้บริหารปรับตัวไม่ทัน เหมือนอย่างที่เกิดกับโนเกีย,โกดัก,หรือโซนี่
ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเกิดกับธุรกิจอาหารหรือเครื่องดื่มครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 30, 2012 6:42 pm
โดย My House
ขอตามด้วยคนครับ ขอบคุณครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 30, 2012 10:18 pm
โดย dome@perth
charonp เขียน: ในความคิดของผมนั้นปัจจัยคุณภาพนั้นมันควบคู่ไปกับปัจจัยทางปริมาณ

ปัจจับคุณภาพที่เราคิด ๆ ดูนั้นส่วนมากจะดูในเรื่องการเติบโต อะไรทำให้โต อะไรทำให้ไม่โต หรือบางทีกลายเป็นคนแคระไปเลย อิอิ

สมมตินะครับ ผมมองธุรกิจตัวนึง ทำธุรกิจรับของมาขายจากต่างประเทศ

ปัจจัยคุณภาพ --> ผมดูก่อนว่าของอันนี้มันดีหรือไม่ เมืองไทยมีรึป่าว มาขายแล้วจะขายใคร คนซื้อจะมีมั้ย คู่แข่งเป็นใคร มีอะไรที่มันคล้ายๆหรือเหมือนกันรึป่าว เป็นสินค้าแฟชั่น หรือถ้าคนซื้อไปใช้แล้วต้องซื้ออีก แล้วก็อีกหลาย ๆ อย่างครับ

ปัจจัยทางปริมาณ-->คือสิ่งที่บอกออกมาเป็นตัวเลขได้ ผมต้องดูแล้วว่าการบริโภคของประเภทนี้ สร้างรายได้ตาม GDP กี่เปอร์เซ็นต์ เราเล่นอยู่ในตลาดที่มีโอกาสมากหรือน้อย ก็ดูตาม GDP ก็ได้ครับ แล้วถ้าของที่เอาเข้ามาขาย มีคนขายอยู่แล้วเราก็ต้องไปดู market share ของเค้ามีเท่าไร เราจะแทรกไปได้ยังไง ราคาของเราถูกกว่ารึป่าว ถ้าเราลดราคากำไรเราน้อยลง แสดงว่าเราต้องขายให้มากขึ้น ทีนี้จะทำยังไง มันก็ไปสอดคล้องกับปัจจัยทางคุณภาพ ผมจึงคิดว่ามันแยกกันออกไม่ขาดซักเท่าไร แต่การหาตัวเลขเยอะ ๆ หลาย ๆ ด้าน ช่วยให้มองภาพได้ชัดขึ้นครับ

จุดที่ผมว่าต่าง คือ คุณภาพ=ความพอใจ
ปริมาณ=ตัวเลข

จบแบบกำปั้นทุบดินเลย :D :D

ถ้าผิดยังไงรบกวนชี้แนะด้วยนะครับผม
เก่งมากครับ และ เห็นด้วยครับ

ผมมองว่าปัจจัยด้านคุณภาพนั้นลึกซึ้งครับ แต่สามารถสัมผัสได้ด้วย vision ครับ
ผมต้องยอมรับว่า ผมสัมผัสได้แค่บางประเภทธุรกิจ ต้องฝึกหัดมองธุรกิจอีกมาก

ผมเห็นท่านอาจารย์ ดร นิเวศน์ ท่านผู้สัมผัสได้ซึ่งปัจจัยคุณภาพต่างๆ หลายๆอุตสาหกรรม
ผมจำได้ว่าท่านมองปัจจัยด้านปริมาณแค่ผิวเผิน ดูที่รูปร่างสัดส่วน ก็โอเค แล้ว
ท่านให้ความสำคัญต่อ
-ความสามารถในการเติบโต สามารถครองส่วนแบ่ง หรือ เป็นเจ้าตลาด
-ความสามารถในการทำกำไร
-ความสามารถในการต่อรองทั้งต่อลูกค้า และ ซัพพลายเออร์
-ความสามารถในการต้านทานต่อสภาพเศรฐกิจที่ย่ำแย่
-ระบบการบริหารที่เป็นมืออาชีพ สร้างผลตอบแทนต่อเงินลงทุนที่ดี

อะไรประมาณนี้ ครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 30, 2012 11:01 pm
โดย dome@perth
crazyrisk เขียน:ถ้างั้นเพื่อความสนุก ขอยืมกระทู้พี่โดม ใช้ในการเล่นเกมส์ทายปัญหากันหน่อยนะครับ

ผมจะเลือกหุ้นที่ ทั้งราคาหุ้นแน่นิ่งเป็นแช่แป้งมาหลายปี
ทั้งพื้นฐานกำไรและรายได้หุ้น ก็แช่แป้งมาหลายปี

อยู่ๆ ก็เกิด ก้าวกระโดด กันไปเป็น เปกาซัส ฟินิกซ์ กันจนเพื่อนๆ ขายหมูกันโม้ดดด

มาช่วยกันทายครับว่า หุ้นพวกนี้
ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา พื้นฐานอะไรเปลี่ยนหรือไม่
และ เปลี่ยนแบบนี้ จะยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน
ดีไหมครับ

GFPT
STA
CHOTI
CFRESH
CPF
MALEE
OISHI

รอบแรก ขอส่ง 7 ตัว นี้ เข้าท้าชิง ผู้กล้าก่อนครับ..
ปล. ผมมีคำตอบในใจอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกนะครับ

เรียนเชิญ ผู้กล้าเข้ามา เลยครับ


หมายเหตุ หุ้นที่ผมเลือกมาส่วนใหญ่ แล้ว จะมี ราคาหุ้น ทำจุดสูงสุดใหม่
พร้อมกับ ผลกำไรของบริษัทที่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน
แต่อยากให้ discuss ในแง่ของพื้นฐานเท่านั้นนะครับ
ขอลองเป็นผู้กล้าเล่นเกมส์หมอเค หน่อยนะครับ

MALEE

ก่อนอื่นผมขออกตัวนะครับ ผมไม่มีหุ้น ไม่เคยซื้อ ได้แค่ศึกษาเป็น case study ครับ
เห็นราคาหุ้นขึ้นจาก 7-8 บาท ไป ไฮ 90 10 เด้ง ภายในปีเดียว ได้แต่น้ำยายไหย :ep:

ผมมองจุดเปลี่ยน malee หลายจุดมากครับ มองย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่า
พื้นฐานหุ้นตัวนี้เปลี่ยนไปทุกส่วนเลยครับ

๑. พื้นฐานทางโครงสร้างทางธุรกิจ หรือ Business Model - เปลี่ยนแปลงการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า
เปลี่ยแปลงทั้งระบบการผลิตและระบบขาย etc.
๒. พื้นฐานทางการเงิน หมายถึง โครงสร้างทางการเงิน เงินทุน หนี้สิน กระแสเงินสด สภาพคล่อง ดอกเบี้ยเงินกู้ etc. - ปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างหนี้ ประนอมหนี้สำเร็จ
๓. พื้นฐานทางโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่และอำนาจการบริหาร - กลุ่มเซ็นทรัลเข้ามาเป็น ผถห ใหญ่
๔. พื้นฐานทางการตลาด ซึ่งประกอบไปด้วย P ทั้ง 4 Product Price Promotion and Place เปลียนแปลงไปในทางที่ดี จากช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านเครือเว็นทรัล
๕. พื้นฐานทางความอุตสาหกรรม หรือ เทรนด์ ของอุตสาหรรมนั้นๆ- ผลิตภัณฑ์เฮลตี้ดริ้งค์ น่าจะเป็นอีกหนึ่งเมกกะเทรนด์

ผิดถูกอย่าว่ากันนะครับ :D

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 01, 2012 7:31 am
โดย dome@perth
crazyrisk เขียน:ถ้างั้นเพื่อความสนุก ขอยืมกระทู้พี่โดม ใช้ในการเล่นเกมส์ทายปัญหากันหน่อยนะครับ

ผมจะเลือกหุ้นที่ ทั้งราคาหุ้นแน่นิ่งเป็นแช่แป้งมาหลายปี
ทั้งพื้นฐานกำไรและรายได้หุ้น ก็แช่แป้งมาหลายปี

อยู่ๆ ก็เกิด ก้าวกระโดด กันไปเป็น เปกาซัส ฟินิกซ์ กันจนเพื่อนๆ ขายหมูกันโม้ดดด

มาช่วยกันทายครับว่า หุ้นพวกนี้
ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา พื้นฐานอะไรเปลี่ยนหรือไม่
และ เปลี่ยนแบบนี้ จะยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน
ดีไหมครับ

GFPT
STA
CHOTI
CFRESH
CPF
MALEE
OISHI

รอบแรก ขอส่ง 7 ตัว นี้ เข้าท้าชิง ผู้กล้าก่อนครับ..
ปล. ผมมีคำตอบในใจอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกนะครับ

เรียนเชิญ ผู้กล้าเข้ามา เลยครับ


หมายเหตุ หุ้นที่ผมเลือกมาส่วนใหญ่ แล้ว จะมี ราคาหุ้น ทำจุดสูงสุดใหม่
พร้อมกับ ผลกำไรของบริษัทที่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน
แต่อยากให้ discuss ในแง่ของพื้นฐานเท่านั้นนะครับ
เห็นใจครับตอนนี้กำลังยุ่งเรื่องเตรียมจัดงาน เฮฮา Q2 55 อยู่ แต่ผม
รอคำตอบในใจหมอเคอยู่นะครับ มีเวลาว่างเมื่ไหร่อย่าลืมมาเฉลยนะครับ

Re: "พื้นฐานเปลี่ยน" มันคืออะไร

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 01, 2012 8:25 am
โดย crazyrisk
dome@perth เขียน:

เห็นใจครับตอนนี้กำลังยุ่งเรื่องเตรียมจัดงาน เฮฮา Q2 55 อยู่ แต่ผม
รอคำตอบในใจหมอเคอยู่นะครับ มีเวลาว่างเมื่ไหร่อย่าลืมมาเฉลยนะครับ

แหะๆ ช่วงนี้ยุ่งมากครับ จริงๆ ไอเดียผมจริงๆ คือ ผมอยาก มาโพสต์ ช่วยกระตุ้นให้เวป
มีการแลกเปลี่ยนความคิดกันมากขึ้นครับ จริงๆ ที่ผมเลือกหุ้นชุดนี้มา ไม่ได้แปลว่า
ผมเชี่ยวชาญหุ้นชุดนี้แต่อย่างไร

แต่วิธีการเลือกมาคือ ผมไล่ดู หุ้นทีละ sector แล้วค่อยๆเลือกหุ้นที่คิดว่า
มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจพอสมควร เข้ามาครับ

ก็เลยช่วยเปิดประเด็นมาชวนคุย ตอนแรกนึกว่า จะดังเปรี้ยงปร้าง กับเขาบ้าง
แต่เงียบเป็นเรือเกลือเลยครับ ^^

ช่วยๆกันตอบนะครับ ไม่ต้องกลัวผิด ผมเองยังรู้แบบงูๆปลาๆ ยังอยากมาตั้งโจทย์เลย
ไว้ขอเคลียร์เวลาสักนิดค่อยไปหาคำเฉลยมาตอบนะครับ