หน้า 2 จากทั้งหมด 7

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 23, 2014 5:56 pm
โดย Power Investor
ดูกันยาวๆครับ หนังยังไม่จบอย่าเพิ่งรีบลุกจากที่นั่งครับ อาจพลาดตอนสำคัญ เพราะไคลแม็กซ์มักจะมาตอนที่คาดไม่ถึงบ่อยๆ
หนังเรื่องเดียวกัน​ คนหนึ่งดูแต่ช่วงactionบอกว่าสนุก
อีกคนดูตั้งแต่้​ต้นจนจบอาจบอกว่าไม่านุกก็ได้นะครับ

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 24, 2014 2:28 am
โดย ศิษย์เซียน007
หุ้นพลังงานทางเลือกบางตัวในขณะนี้ ในอนาคตเมื่อผ่านช่วงเวลาที่งานเลี้ยงเริ่มหมดสนุก ไปถึงช่วงที่งานเลี้ยงกำลังจะเลิกลา

เหตุการณ์แบบในคลิปอาจจะกำลังเริ่มต้นขึ้นก็เป็นได้ครับ :oops:

[youtube]ag14Ao_xO4c[/youtube]

ปล.ผมอาจจะมโนไปเองก็ได้ครับ :wall:

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 24, 2014 12:18 pm
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
Power Investor เขียน:
พี่ Power มอง EA กับมาร์เก็ตแค็ป 7 หมื่นล้านเช่นไรครับ
ขอบพระคุณครับ
ถ้าถามผมเรื่องตัวธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์​ของบริษัท​ ผมจะตอบตามข้อเท็จจริง​ที่พอรู้ แต่ถ้าถามผมถึงตัวหุ้นEA ผมจะตอบตามประสบการณ์​และความรู้สึกล้วนๆนะครับ​

เมื่อ4-5ปีก่อนหน้านี้ มีคนมีกระตังคนหนึ่ง​ มาบอก​ผมว่ามีคนชวนเค้าให้ร่วมลงทุนในบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง ที่กำลังจะทำโรงไฟฟ้า​พลังงานแสงอาทิตย์​ คนที่ชวนเค้าบอกว่าธุรกิจ​นี้​ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง30-40%
เค้าถามความคิดเห็นจากผม
ผมก็บอกเค้าตามข้อเท็จจริง​ที่​ว่า​ ธุรกิจนี้ถ้าทำแบบตรงไปตรงมา​ ไม่มีทางทำผลตอบแทนได้สูงเช่นนั้น​ ที่ผมเคยทำเองยังได้ผลตอบแทนการลงทุนไม่ถึง15%เลย ดังนั้น30-40%จึงไม่น่าเป็นไปได้

เค้าหัวเราะไม่เชื่อผม​ เค้าบอกคนชวนเค้ามั้นใจมากว่าทำได้ ผมก็บอกเค้าให้ระวังอย่าโลภมากนัก ยิ่งเจ้าของที่มาชวนก็ชื่อเสียงไม่ดีมาก่อน​ ยังไงถ้าได้กำไร2-300%ก็น่าพอใจได้แล้ว

ตอนนั้นทราบมาว่าเค้าลงเงินไปหลายสิบล้านบาทอยู่​เหมีอนกัน​ ที่ต้นทุนหุันละ50สตางค์​
จากนั้นมาสามปี​ บริษัท​นั้นได้เข้าจดทะเบียนในตลาดในชื่อEA​ ที่ราคาIPOที่5.50บาท​ต่อหุ้น
เจอคนนั้นอีกที​ โคตรดีใจมากที่เค้าไม่ได้เชื่อผม​

ต่อมาเมื่อปลายปีที่แล้ว​ ทานข้าวกับผู้ใหญ่​กรมสรรพากร​ท่านหนึ่งที่ชอบเล่นหุ้น​ 
ท่านบอกท่านเล่นEAอยู่​ ตอนนั้นราคาประมาณ​8บาท มีคนบอกท่านว่าจะทำไปถึง20บาท ท่านถามความเห็นผม​ ผมเลยรีบบอกว่าอย่าเชื่อผมเลยครับ​ เพราะ5.50บาทผมยังว่าแพงเกินไปแล้วเลย​ แล้วก็เล่าเรื่อง​ข้างบนให้ท่านฟัง

มาวันนี้EAก็กำลังจะถึง20บาทแล้ว มาด้วยอะไรก็ไม่ทราบ​ แต่มั่นใจมากว่าไม่ใช่ด้วยพื้นฐาน​ความเป็นจริง​ของธุกิจ​ 
แต่ต้องยอมรับว่า​ เจ้าของคุมความโลภของผู้ร่วมลงทุนได้ดีมากจริงๆ​ ไม่มีใครแตกแถวเลย​ แม้แต่ในช่วงภาวะตลาดที่ไม่ดี​ ก็ไม่มีใครทิ้ง​ จำนวนหุ้นfree floatน้อย​ เลยเลี้ยงราคาง่าย​ 
ตอนนี้ก็เลยยอมรับความจริงแล้วว่าเราคงไม่มีวันรวยแบบคนอื่นได้แน่ๆ​ ไม่ใช่เพราะ​มีโมหาคติ​แบบคุณEnergy_Eakนะครับ​ แต่เป็นเพราะเรารู้ความจริงมากเกินไป​ เลยทำให้ไม่กล้า​ลงทุน เพราะดันไปเชื่อว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามพื้นฐานที่แท้จริงของตัวธุรกิจ​

แต่สุดท้ายความจริงก็คือ​ว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามความเชื่อของคน
มีคนเชื่อว่าราคาIPO5.50บาทนั้นถูกแสนถูก
มีคนเชื่อว่าธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์​และลมจะเป็นMega Trend
มีคนเชื่อว่าไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด​ ราคาห้นจะขึ้นไปถึง20บาท
สุดท้ายถ้ามีคนเชื่อมากกว่าคนไม่เชื่อ ราคาหุ้นมันก็ขึ้นตามครับ​ ไม่ต้องไป สนใจเรื่องพื้นฐาน​หรอก​
ผู้รู้ทั้งหลายเช่นผมก็เป็นแค่พวกหมาเห่าทวนลมทั้งนั้น​ สู้พวกตดใส่ไม้ขีดไฟไม่ได้หรอกครับ​ 555
ขอบคุณครับพี่
ผมก็ว่า market cap มันเท่า egco, ratch หละ กะลังจะทัน glow ทั้งๆที่ขนาดและเสถียรภาพของพลังงานต่างกันมากโข
แก๊ประหว่างพลังงานทดแทนกะพลังงานหลักมันชักจะผิดเพี้ยน
ถ้ามองประสิทธิภาพของแผงโซล่าร์เซลล์ทั้งหมด (ประเภทและอายุของแผงในมุมพื้นที่ของแผงทั้งหมดมองเป็นสัดส่วนของกำลังไฟฟ้าที่ผลิตได้ต่อความเข้มรังสีแสงอาทิตย์ตามมุมที่แสงตกกระทบและทำเล) มีตัวแปรที่ทำให้ความไม่แน่นอนสูง วันนี้เป็นอย่างงี้วันหน้าจะเป็นยังไง ผมว่ามูลค่ามาเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับ traditional energy resources ที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 3:55 am
โดย Power Investor
[quote]
ขอความรู้ด้านพลังงานทางเลือกจากชีวมวลหน่อยนะครับ
เท่าที่ผมศึกษาจากการอ่าน.. โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลสามารถจ่ายไฟได้ 24 ชม
เงินอุดหนุนจากรัฐก็ 0.30 วัตถุดิบจากของเหลือทางการเกษตรก็มีเยอะ
นอกเหนือจาก solar และ wind แล้ว ขอฟังความเห็นข้อดีข้อเสียของ biomass
ความมีเสถียรภาพด้านการ supply ไฟได้จริง
ด้านปริมาณวัตถุดิบ และประสิทธืภาพในการให้ความร้อน
ด้านความคุ้มค่าของการลงทุน
เป็นอย่างไรบ้างครับ?[quote]
พลังงานท​างเลือกจากชีวภาพ ปัจจัย​หลักของการอยู่รอด​ มาจากการได้มาซึ่งเชื้อเพลิง​ ถ้าตรงนี้ไม่มีปัญหา​ ก็จะได้ผลตอบแทนที่ดีเลยครับ
แต่ส่วนใหญ่ก็จะตกม้าตายตรงเรื่องเชื้อเพลิงนี่แหละ​ เจ้าที่ประสบความสำเร็จ​สำเร็จ​ ส่วนใหญ่​จะเป็นคนที่ทำธุรกิจการเกษตร​เป็นหลัก​ เช่นโรงสีข้าว​หรือโรงน้ำตาล​ ซื่งสามารถควบคุมวัตถุดิบ​ป้อนโรงไฟฟ้าได้ดี
พวกที่ต้องคอยหาวัตถุดิบ​ ​จะเหนื่อยหน่อยเพราะต้นทุนเชื้อเพลิงจะไม่แน่นอน​ บางครั้งถูกแสนถูก​ บางครั้งค่าเชื้อเพลิงเพื่อขนส่งวัตถุดิบ​ก็ไม่คุ้มแล้ว​ 
เพราะฉนั้นถัาจะลงทุนด้านพลังงานชีวภาพ​นี้ ก็จะเสี่ยงต่ำกว่า​ ถ้าเลือกคนที่ทำโรงไฟฟ้าเป็นธุรกิจเสริม​ มากกว่าพวกที่คิดจะลุยเองตรงๆ​ ไม่ว่าจะเป็น​การผลิตไฟฟ้าจากขยะ​ จากผลผลิตเหลือทางการเกษตร​เช่นเปลือกข้าว
หรือแม้แต่จากหญ้าเนเปีย​ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์​ของเกษตรกร​ด้วยเช่นกัน​ ว่าจะยอมผลิตตามข้อตกลงหรือว่าแค่​ตามกระแส
เท่าที่เห็นมาไม่ว่าจะเซียนแต่ไหนก็ตกม้าตายทุกคนถ้าบริหารวัตถุดิบเองไม่ได้​
แต่ผมมองว่าพลังงานทางเลือกประเภท​biomass ก็ยังเป็นอะไรที่น่าสนับสนุนมากกว่าพวกพลังงานแสงอาทิตย์​นะครับ​ เพราะต้นทุนต่ำกว่ากันมากและ​ใช้ของเสียทางการเกษตร​ให้เกิดประโยชน์​สูงสุด​
พลังงานแสงอาทิตย์​ถ้าทำให้ถูกต้อง​ ควรเริ่มจาก​ solar rooftop​ ก่อน​ เพราะเป็นการใช้ประโยชน์​พื้นที่ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ​ ไม่เหมือน​ solar farm ที่กลับเอาพื้นที่การเกษตร​ดีๆมาผลิตไฟฟ้า​ แต่บ้านเรากลับทำกลับตาลปัตร​กัน​เพราะ​เรื่องผลประโยชน์​ล้วน​ๆ​

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 4:37 am
โดย Power Investor
พลังงาน biogas biomass นี้มันเป็นพลังงานที่ทำให้โลกร้อนรึเปล่าครับ
โรงไฟฟ้า​ทุกประเภททื่กระบวนการ​ผลิตมีการเผาไหม้​ การเผาไหม้นื้จะทำให้เกิดแก๊สคาบอนหรือCO2 ที่ทำให้เกิดภาวะโลก​ร้อน​
ดังนั้นนอกจากพลังงานจากน้ำแสงอาทิตย์​และลม​ ก็จะมีพลังงานไฟฟ้าความร้อนจากใต้พี้นพิภพ​ (geothermal power) กับพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์​ (nuclear power) ที่ไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนเพราะไม่มีกระบวนการเผาไหม้​เท่านั้นครับ​ แต่สองอย่างหลังนี่ไม่ได้เกิดในบ้านเราแน่นอนครับ​

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 4:54 am
โดย Power Investor
มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญา​ทำโรงไฟฟ้า​แสงอาทิตย์​ของเขาเอง​ ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 7:40 am
โดย ดำ
Power Investor เขียน:มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญา​ทำโรงไฟฟ้า​แสงอาทิตย์​ของเขาเอง​ ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
เรื่องนี้ผมก็งงครับ หรือเดี๋ยวนี้ Know How เราสูงกว่าแล้ว

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 9:22 am
โดย chaitorn
Power Investor เขียน:มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญา​ทำโรงไฟฟ้า​แสงอาทิตย์​ของเขาเอง​ ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
อาจเป็นเพราะพลังงานทางเลือกของ ญี่ปุ่นใช้พลังงานนิวเคลียร์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและมีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนถูกกว่าพลังงานแสงอาทิตย์มากครับ

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์สึนามิ ทำให้มีความเสี่ยงการใช้พลังงานนิวเคลียร์ดังกล่าว

ล่าสุดทราบว่า ญี่ปุ่นเริ่มหันมาสนใจพลังงานแสงอาทิตย์เหมือนกัน แต่จะเป็นการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงใช้พื้นที่อวกาศเป็นแหล่งผลิตพลังงานตามนี้ครับ

http://www.iflscience.com/technology/ja ... farm-space
apan Wants To Put A Giant Solar Farm In Space

May 19, 2014 | by Justine Alford
รูปภาพ

[youtube]D56vRfv71OA[/youtube]


Picture this: a giant solar power plant floating in space, gathering the sun’s energy with virtually no constraints from the weather, seasons or time of day, delivering a constant supply of green energy to Earth. Sound a little too Sci-Fi? Well, thanks to JAXA, the Japan Aerospace Exploration Agency, we could actually witness this incredible technology in just over a decade.

The idea of a space power plant has actually been around for a while. Back in 1968, American aerospace engineer Dr. Peter Glaser pioneered the space solar power concept and proposed the deployment of giant solar panels in space in order to generate microwaves that could be transmitted back to Earth to produce electricity. The concept sparked a lot of interest, even from NASA, but it came to a halt in the ‘80s because of the high costs involved. Japan, however, pursued the idea and is currently the world leader of the Space Solar Power Systems (SSPS) project.

This colossal satellite, hovering around 22,000 miles (36,000 kilometers) above Earth, would be several miles long and weigh a whopping 10,000 metric tons. These floating solar panels would actually be tethered to a station on the ground in order to keep the satellite at a fixed point in geostationary orbit. The proposed model also includes a set of mirrors that reflect the sun’s light onto the panels so that when the satellite is not facing the sun it can still receive sunlight.

And now for the really tricky part: getting all of that solar energy back to Earth so that we can use it. There are two possible ways that this could be achieved which involve converting the solar energy into either laser beams or microwaves, or perhaps even a combination of both, which would then be transmitted to a receiving facility (called a “rectenna” [rectifying antenna]) situated on Earth. Ground-based experiments are currently underway to discern which option would be most efficient.

These space based solar panels would be around 5-10 times more efficient than ground-based solar conversion systems. Furthermore, CO2 emissions will be low and will only come from the receiving facility. It’s predicted that SSPS will be able to process around 1 gigawatt of power, which is a similar amount to nuclear power stations.

Although Japan are the leading country with regards to making SSPS happen, in reality the costs will be so astronomical that it is likely contributions from other countries will be required before we see this behemoth space power station start to take shape. This concept may seem a little far-fetched, but JAXA believe they are getting tantalizingly close to turning this vision into a reality.

Read more at http://www.iflscience.com/technology/ja ... eKCt6mU.99

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 3:20 pm
โดย Power Investor
มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญา​ทำโรงไฟฟ้า​แสงอาทิตย์​ของเขาเอง​ ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
หนั
ยังไม่มีใครตอบตรงคำถาม​เลย​ ทำไมญี่ปุ่นถึงไม่มีปัญญาทำเอง​ ต้องให้คนไทยมาทำให้ครับ​

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 5:59 pm
โดย vim
Power Investor เขียน:
มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญา​ทำโรงไฟฟ้า​แสงอาทิตย์​ของเขาเอง​ ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
หนั
ยังไม่มีใครตอบตรงคำถาม​เลย​ ทำไมญี่ปุ่นถึงไม่มีปัญญาทำเอง​ ต้องให้คนไทยมาทำให้ครับ​
บริษัทญี่ปุ่นเขาทำเองได้ครับ แต่บริษัทไทยไปประมูลราคาได้ถูกกว่า ซึ่งถ้าได้ราคานี้บริษัทญี่ปุ่นเขาคงไม่เอา ดูเหมือนว่าที่บริษัทไทยไปแข่งราคาประมูลต่ำๆ เพราะแค่ต้องการชื่อว่ารับโปรเจคในญี่ปุ่นมาได้ครับ แต่จะกำไรหรือไม่นั้นเรื่องนี้คงพูดกันยาว

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 7:56 pm
โดย Paul Octopus
cyber-shot เขียน:พลังงาน biogas biomass นี้มันเป็นพลังงานที่ทำให้โลกร้อนรึเปล่าครับ
ต้องตอบว่าทำให้โลกร้อนน้อยมาก
สาเหตุที่โลกร้อนขึ้นมาจาก Gas ที่ส่วนใหญ่มีองค์ประกอบของ Carbon เช่น CO หรือ CO2
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า Biogas หรือ Biomass ได้จากพืชที่เราปลูกขึ้น ไม่ใช่ขุดจากใต้ดินขี้นมา
พืช เริ่มจากเม็ด อาศัยธาตุอาหารหลักๆ เพียง 3 ตัว คือ N, P, K
อาศัยพลังงานจากแสงแดดผ่านขบวนการทางเคมี (โคโรฟีล...เขียนไม่ถูกครับภาษาไทย :wall: ) เพื่อดึงเอา Carbon ในอากาศที่อยู่ในรูปของ CO หรือ CO2 ฯลฯ
พืชใช้ Carbon มาสร้างโครงสร้างให้กับตัวเอง ให้เติบโตขึ้น โตขึ้นๆ
เมื่อโตมากพอก็จะให้ผล เมล็ด ฯลฯ (ซี่งก็เป็นองประกอบของ Carbon เช่นกัน)

ดังนั้นการเอาพืชที่ปลูกขึ้นมาเผา หรือ หมัก (เพื่อให้เป็นพลังงาน) เป็นเพียงการทำให้ Carbon กลับไปในบรรยากาศอีกครั้งหนี่ง เป็นการกลับไปสู่จุดที่เหมือนตอนที่ต้นไม้ต้นนี้เป็นเพียงเมล็ด
แต่เราจะได้พลังงานจากการเผาใหม้ เป็นปฎิกริยาทางเคมี (ซี่งก็คือพลังงานแสงอาทิตย์ที่พืชเอามาใช้เพื่อดึงเอา Carbon ในอากาศมาสร้างเป็นโครงสร้างของตัวเองนั่นเอง)

ในทางเทคนิคเราถือว่า biomass เป็น "Zero Carbon Footprint" หรือ อีกนัยหนี่งไม่สร้าง กาซเรือนกระจก
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราเอา Carbon จากพื้นโลกออกมาไม่ว่าจะเป็น จาก Shale Gas, Conventional Gas, Crude Oil, Coal หรือ แม้แต่ Methane Hydrate (ซี่ง BP อ้างไว้ว่าอีก 15 ปีจะมีเทคโนโลยี่เอาขึ้นมาใช้ได้แล้ว) เป็นการเพิ่มปริมาณ Carbon ในอากาศมากขึ้น ซี่งจะทำให้โลกร้อนที่กำลังเป็นปัญหาที่รุ่นลูกเราทุกคนต้องเผชิญ

สรุปก็คือ Biomass ในเชิงเทคนิค เป็นการเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้โดยให้พืชเป็นตัวกลางให้กับเรา และในทางเทคนิคอีกเช่นกัน Solar Cell ที่มนุษย์สร้างในปัจจุบัน ยังมีประสิทธิภาพห่างไกลจาก โคโรฟีล ของพืชมากมายนักในการเปลี่ยนจากแสงแดดเป็นพลังงาน......

ประเทศที่มีฝนแปดแดดสี่อย่างเราโชคดีมากที่สุดแล้ว อย่าพึ่งหลงไหล Solar หรือ Wind Turbine กันนัก เลย :D

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 8:01 pm
โดย Taonoi
แชร์ด้วยครับ... อ่านแล้วรู้สึกสับสนว่า mega trend จริงหรือ?...
------------------------------------------------------------------
“เอกรัฐโซล่าร์” อ่วมขาดทุนยาว 5 ปื ประกาศหากรัฐไม่ออกนโยบายอุดหนุนโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ภายใน 3-4 เดือน จะปิดโรงงาน ด้าน “ดุสิต” เผย หากรัฐไม่กำหนดสัดส่วนใช้โซลาร์เซลล์ในประเทศ จะสูญเม็ดเงินกว่า 1.5 แสนล้านออกนอกประเทศ คาดภายในปี 2515 กำลังผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์จะทะลุเป้า 2 พันเมกะวัตต์

นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการสัมมนาเรื่อง “อนาคตอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย บทบาทภาครัฐและเอกชน” ว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 90% ในประเทศไทยจะนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน และญี่ปุ่น เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตภายในประเทศ 20-30% เพราะมีกำลังการผลิตที่สูงกว่าทำให้มีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำกว่าไทยมาก ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ภายในประเทศไม่สามารถดำเนินกิจการอยู่ได้แม้ว่าจะมีคุณภาพที่ดีกว่า

โดยในส่วนของบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ที่เป็นบริษัทลูกของ บมจ.เอกรัฐวิศวกรรม ได้แบกภาระขาดทุนมากว่า 5 ปี ทำให้ฉุดผลประกอบการบริษัทแม่มาก ดังนั้นหากรัฐบาลไม่มีแผนสนับสนุนอุตสาหกรรมผลิตแผงโซลาร์เซลล์อย่างเป็นรูปธรรมภายใน 3-4 เดือน ก็จำเป็นที่จะต้องปิดกิจการ โดยในปัจจุบัน บ.เอกรัฐโซล่าร์ มีกำลังการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ 25 เมกะวัตต์ต่อปี และมีกำลังการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ 12 เมกะวัตต์ต่อปี ซึ่งที่ผ่านมาบ.เอกรัฐโซล่าร์ได้ลงทุนก่อสร้างโรงงงานไปแล้วกว่า 1 พันล้านบาท และบริษัทแม่ได้ใส่เงินเข้ามาอุดหนุนอีกกว่า 1 พันล้านบาท ส่วนแผนการเข้าร่วมลงทุนของบริษัทต่างชาติก็ต้องหยุดดำเนินงานทั้งหมดเพราะรัฐบาลไม่มีความชัดเจนในนโยบายการส่งเสริม

อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลต้องการให้อุตสาหกรรมนี้ยังดำเนินธุรกิจอยู่ได้จะต้องเร่งออกมาตรการอุดหนุนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ หรือ มาตรการฟีดอินทาลีฟส์ ว่าจะให้เงินอุดหนุนเท่าไร และจะต้องออกมาตรการบังคับให้ผู้ลงทุนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์จะต้องมีสัดส่วนการใช้สินค้าภายในประเทศ เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้ เพราะถ้ามีปริมาณการผลิตสูงขึ้นต้นทุนการผลิตต่อหน่วยก็จะต่ำลงจนสามารถสู้กับโซลาร์เซลล์ที่ผลิตจากต่างประเทศได้

นอกจากนี้จะต้องออกกฎหมายบังคับให้โซลาร์เซลล์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อป้องกันสินค้าด้อยคุณภาพเข้าสู่ประเทศ และแข่งขันกันในมาตรฐานสินค้าเดียวกัน โดยในต่างประเทศ เช่น ประเทศเยอรมันโซลาร์เซลล์ที่ส่งเข้าไปขายจะต้องผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ส่วนสหรัฐฯ ก็ตั้งกำแพงภาษีเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมภายในประเทศ เป็นต้น โดยในปัจจุบันโรงงานผลิตโซลาร์เซลล์ของไทยมีประมาณ 3-4 แห่ง กำลังการผลิตรวมตอบสนองความต้องการภายในประเทศได้เพียง 10% ดังนั้นหากรัฐจะให้ความช่วยเหลือก็ไม่ใช้เรื่องยาก
“โซลาร์เซลล์ที่ผลิตในประเทศมีคุณภาพไม่ด้อยกว่าสินค้าที่นำเข้า เพราะจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ สมอ. โดยสินค้าของเอกรัฐโซล่าร์จะเน้นในเรื่องความคงทนแข็งแรง เพื่อให้มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 20 ปี ตามอายุการใช้งานของโรงไฟฟ้า” นายดนุชา กล่าว

ขณะที่ นายวิวัฒน์ แสงเทียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด กล่าวว่า การศึกษาราคารับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ ฟีดอินทาลีฟส์ ทดแทนการชดเชยแบบแอดเดอร์ นั้น มองว่ารัฐควรพิจารณาตัวเลขควบคู่ไปกับการยอมรับให้กู้ของสถาบันการเงินด้วย เพราะตอนที่ให้แอดเดอร์ 8 บาท นั้น ยังต้องบวกเพิ่มค่าไฟฟ้าฐานเข้าไปด้วย แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นฟีดอิน ทารีฟ จะไม่ถูกบวกเข้ากับค่าไฟฟ้าฐาน เพราะได้มีการคำนวณรวมแล้วสำหรับราคารับซื้อไฟฟ้าแบบ ฟีดอิน ทารีฟ เห็นว่าควรอยู่ที่ 8 บาทต่อหน่วยตลอดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปีจึงจะเป็นราคาที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ต้องมีการลงทุนสูง ต้องมีการกู้ยืมแบบ 100% หากได้รับการสนับสนุนฟีด-อิน ทารีฟที่ 8 บาท จึงมีโอกาสได้รับการกู้เงินจากสถาบันทางการเงิน ส่วนที่ศึกษาออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะอยู่ที่ 6.50 บาทนั้น คาดว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต่ำกว่าต้นทุนที่ผู้ประกอบการแบกรับไว้

สำหรับการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมผลิตโซลาร์เซลล์เข้มแข็งนั้น ควรให้ บีโอไอ ปรับเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนให้โครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่เข้ามาขอสนับสนุนการลงทุนจะต้องใช้โซลาร์เซลที่ผลิตภายในประเทศมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50% ของโครงการ และกำหนดให้แผงโซลาร์เซลล์ที่นำเข้าต้องผ่านการรับรองคุณภาพจาก สมอ.

ด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ควรเพิ่มเพดานการรับซื้อไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ให้เหมาะสมกับศักยภาพของแสงอาทิตย์ในประเทศที่มีปริมาณสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งปี รวมทั้งกำหนดการอุดหนุนที่แตกต่างกันระหว่างโครงการที่ติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน กับโครงการที่เป็นโซลาร์ฟาร์ม และกำหนดการอุดหนุนตามขนาดของโครงการ

โครงการที่มีขนาดเล็กว่า 5 กิโลวัตต์จะได้รับการอุดหนุนสูง โครงการที่ใหญ่กว่า 10 เมกะวัตต์จะได้รับการอุดหนุนต่ำที่สุด และสนับสนุนให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งควรมีขนาดไม่ต่ำกว่า 5 กิโลวัตต์

ด้าน นายดุสิต เครืองาม นายกสมาคมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย กล่าวว่า จากการคำนวณตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้า ปี 2012 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 (พีดีพี2012) คาดว่าจะมีเม็ดเงินที่จะต้องซื้อโซลาร์เซลล์ไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งหากรัฐบาลไม่ออกมาตรการอุดหนุนผู้ผลิตภายในประเทศ ก็จะทำให้เม็ดเงินจำนวนมากที่ต้องรั่วไหลออกนอกประเทศ และประชาชนไทยแทบจะไม่ได้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เลย เพราะนักลงทุนเจ้าของโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ส่วนใหญ่ 80% เป็นชาวต่างชาติกำไรทั้งหมดก็จะไหลออกไปนอกประเทศ

ทั้งนี้รัฐบาลควรออกมาตรการบังคับใช้โซลาร์เซลล์ที่ผลิตภายในประเทศ รวมทั้งขยายเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นจาก 2 พันเมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นไปในระดับ 4-5 พันเมกกะวัตต์ เนื่องจากคาดว่าภายในปลายปีนี้จะมีการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เข้าระบบประมาณ 400 เมกะวัตต์ และในสิ้นปีหน้า 2556 คาดว่าจะเข้าระบบอีกกว่า 1,000 เมกะวัตต์ และคาดว่าภายในปี 2014-2015 กำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะครบตามเป้าหมาย 2 พันเมกะวัตต์อย่างแน่นอน

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 8:15 pm
โดย CARPENTER
นโยบาย สนับสนุนโซล่าเซล ที่มากเกินไป นั้น ต่อไปจะเป็นต้นทุนของคนไทยทั้งประเทศ
ค่า adder ที่ บวกให้โซล่าเซล มากเกินไป คือ เงินที่คนไทย ทุกคนต้องจ่าย
ตอนนี้ ยังไม่รู้สึก อีกไม่นานจะรู้สึก คนกลุ่มเล็กกลุ่มนึง รวย จากนโยบายนี้หลายหมื่นล้าน
(คิดจากมูลค่าหุ้น) เป็นนโยบายที่ เอาเงินจากทั้งประเทศไปให้คนกลุ่มเล็ก
นักการเมืองประเทศไทย รวมหัวกับนักวิชาการ ข้าราชการ ผลที่ออกมาคือนโยบายแบบนี้
เศรษฐีเมืองไทย ที่คุยนักคุยหนาว่ามีวิสัยทรรศน์ ก็คือพวกรวยจากระบบสัมประทานรัฐ
ค้าขายกับรัฐ เอาผลประโยชน์จากทรัพยากรรัฐ ที่ประเทศไทยมีนโยบายแบบนี้ ก็เพราะ การคอรัปชั่น
RMF LTF BOI ค่าลดหย่อนต่างๆ ประกันชีวิต ผ่อนบ้าน ต้องยกเลิกให้หมด เพื่อความยุติธรรม

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 9:53 pm
โดย anubist
ก่ ก่อนจะเหมารวมrmf ประกันชีวิต ดอกเบี้ยบ้าน ค่าลดหย่อนต่างๆ ไปศึกษามาก่อนนะครับว่าค่าลดหย่อนเหล่านี้ เกิดมาได้อย่างไร แนวคิดคืืออะไร แล้วใครได้ประโยชน์

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 10:15 pm
โดย CARPENTER
เรื่อง rmf ltf ค่าลดหย่อนประกัน ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยผ่อนบ้าน
ผมคิดแบบตรงไปตรงมานโยบายแบบนี้ มันไม่ยุติธรรม
บิดเบือน ใน demand การลงทุน การซื้อประกันชีวิต การซื้อบ้าน
วันก่อน ผมดู รายการช่อง 3 เค้าอธิบายเห็นภาพชัดมาก มีชาย 3 คน
A. รายได้ 3 หมื่น พ่อแม่ยากจน ดังนั้น ภาระเยอะ จึงใช้เงิน 3 หมื่นหมดทุกเดือน
ไม่มีปัญญา ซื้อ LTF RMF ไม่มีประกันชีวิต ไม่ผ่อนบ้าน เสียภาษี ปีละ 6,000 บาท
B. รายได้ 3 หมื่น พ่อแม่ร่ำรวย ดังนั้น ใช้ประโยชน์ จาก LTF RMF ค่าลดหย่อนต่างๆ
เสียภาษีปีละ 0 บาท
C. รายได้เดือนละ 1 แสนบาท ใช้ประโยชน์ จาก LTF RMF ค่าลดหย่อนต่างๆ
เสียภาษีปีละ 0 บาท (แทนที่จะเสียภาษี 12,000บาท)
แสดง ว่า RMF LTF ค่าลดหย่อนต่างๆ ที่พวก นักการเงินช่วยกันคิด ทำให้คนรวยไม่ต้องเสียภาษี
คนจนเสียภาษีเต็มที่
RMF LTF ค่าลดหย่อนประกันชีวิต ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน เอื้อประโยชน์ ให้ บริษัทหลักทรัพย์
ธนาคาร บริษัทประกัน ซึ่งพวกนี้ทั้งกลุ่มเป็นคนกลุ่มเดียวกัน นายธนาคารเป็นเจ้าของ
บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันด้วย

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 25, 2014 10:49 pm
โดย Pyrostrikes
ผมมองว่าการที่ได้ผลประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีจาก LTF RMF ประกันชีวิต เป็นการช่วยส่งเสริมการลงทุนทางอ้อมและช่วยให้เกิดวินัยในการออมเงินสำหรับคนที่ซื้อกรมธรรณ์ประกันชีวิต

ในแง่ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประเทศไทยยังต้องพึ่งพาเงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเดินหน้าไป การดึงเงินออมจากภาคประชาชนมาใช้ (LTF RMF) ทำให้เกิดการลงทุนทางอ้อมในประเทศ

ส่วนสิทธิเรื่องความเสมอภาคต่างๆ ระหว่างคนรวยกับคนจน เป็นปัญหาที่รัฐต้องหาทางแก้ไขครับ

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 26, 2014 2:55 am
โดย Power Investor
เริ่มนอกประเด็นกันแล้วนะครับ
เรากำลังพูดถึงว่าพลังงานงานทางเลือกเป็น Mega Trend หรือเปล่า​ โดยที่ผมตั้งคำถาม​ว่าทำไมคนญื่ปุ่นถึงไม่ทำ​ solar farm​ เอง​ ปล่อยให้คนไทยเข้าไปทำ ทั้งๆที่เขาก็มี​เงินมี know how เหนือเรา
มีคนตอบแล้วว่าเป็นเพราะผลตอบแทนไม่ดี​ แต่คนไทยไปทำเพราะอยากได้ชื่อเสียง​
มีเหตุผล​อื่นบ้างไหมครับ

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 26, 2014 3:17 am
โดย Power Investor
เรื่อง rmf ltf ค่าลดหย่อนประกัน ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยผ่อนบ้าน
ผมคิดแบบตรงไปตรงมานโยบายแบบนี้ มันไม่ยุติธรรม
บิดเบือน ใน demand การลงทุน การซื้อประกันชีวิต การซื้อบ้าน
วันก่อน ผมดู รายการช่อง 3 เค้าอธิบายเห็นภาพชัดมาก มีชาย 3 คน
A. รายได้ 3 หมื่น พ่อแม่ยากจน ดังนั้น ภาระเยอะ จึงใช้เงิน 3 หมื่นหมดทุกเดือน
ไม่มีปัญญา ซื้อ LTF RMF ไม่มีประกันชีวิต ไม่ผ่อนบ้าน เสียภาษี ปีละ 6,000 บาท
B. รายได้ 3 หมื่น พ่อแม่ร่ำรวย ดังนั้น ใช้ประโยชน์ จาก LTF RMF ค่าลดหย่อนต่างๆ
เสียภาษีปีละ 0 บาท
C. รายได้เดือนละ 1 แสนบาท ใช้ประโยชน์ จาก LTF RMF ค่าลดหย่อนต่างๆ
เสียภาษีปีละ 0 บาท (แทนที่จะเสียภาษี 12,000บาท)
แสดง ว่า RMF LTF ค่าลดหย่อนต่างๆ ที่พวก นักการเงินช่วยกันคิด ทำให้คนรวยไม่ต้องเสียภาษี
คนจนเสียภาษีเต็มที่
RMF LTF ค่าลดหย่อนประกันชีวิต ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน เอื้อประโยชน์ ให้ บริษัทหลักทรัพย์
ธนาคาร บริษัทประกัน ซึ่งพวกนี้ทั้งกลุ่มเป็นคนกลุ่มเดียวกัน นายธนาคารเป็นเจ้าของ
บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันด้วย
อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าบ่นอะไร​
แล้วคนที่เค้าเงินเดือน2-5 แสนต่อเดือน​ เค้าได้อะไรจากเงินภาษีที่เสียไปบ้าง
ตกลงรวยแล้วก็ต้องจำใจจ่ายภาษีให้คนจนงั้นหรือ​ จ่ายไปแล้วคนเหล่านั้นรับรู้บ้างไหมว่าใครเป็นคนจ่ายให้
ทุกวันนี้ระบบมันเป็นแบบนี้​ เอวเงินคนรวยไปชดเชยคนจน​ เอาค่าไฟฟ้า​ไปชดเชยพลังงานทางเลือก​แพงๆ
แต่สุดท้ายเงินก็เข้ากระเป๋า​นักการเมือง​ 555

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 26, 2014 6:13 am
โดย jonny11
ไม่ถูกต้องนะครับที่ไปกล่าวหาว่าหุ้น รฟฟ แสงอาทิตย์แพงเกินไป มันมีบางเจ้าเช่น ea เท่านั้นที่เค้าไปเร็วเพราะมีเจ้าคุมราคาดี spcg gunkul อะไรพวกนี้เค้าก็ไปเรื่อยๆตามผลประกอบการ
ส่วนถ้าเอาไปเทียบกับ Egco ratch glow แล้วหาว่ารฟฟ แสงแพงนั้นไม่จริงครับ หุ้น รฟฟ สามตัวนี้ราคาถูกเกินไปต่างหาก egco ซื้อขายกันราคาเท่าบุ๊คเงี้ย ทั้งๆที่กำไรดีทุกปี ถ้าPBV 2เท่าegco คงไปราคาเท่าadvanc แล้วครับ ราคาตลาดมันขึ้นกับคนปั่นครับพื้นฐานมันแค่คำไว้อ้าง

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 26, 2014 10:55 am
โดย paul_n
ตอนนี้ บริษัท ไหนคิดอะไรไม่ออก ประกาศว่า จะทำโรงไฟฟ้า ....... ( ใส่กันเองเลยครับ biomass, ชีวมวล, แสงอาทิตย์, ลม)

หุ้นขึ้น ณ บัดนาว :roll:

PS. คิดถึงคุณ Power Investor กับ คุณ L ที่คุยกันสมัยก่อนในโรงไฟฟ้าอันนึงครับ :)

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 26, 2014 1:12 pm
โดย Power Investor
มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญา​ทำโรงไฟฟ้า​แสงอาทิตย์​ของเขาเอง​ ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
ผมจะเฉลยให้นะครับ​ เพราะถามคนไทยไม่เคย​ได้คำตอบ​ แม้แต่ตัวเจ้าที่จะไปลงทุน​เองก็ตาม​ หรือว่าเค้ารู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้​ ไม่แน่ใจ
แต่​เอาเป็นว่า​ ถ้าถามคนญื่ปุ่น​จะได้คำตอบชัดเจน​ทันทีว่าที่เค้าไม่ลงทุนทำ​ solar farm​ เองทั้งๆที่มีตังและทำได้ง่ายมาก​ ก็เพราะว่า​เค้าไม่เชื่อใจรัฐบาล​ของเขาเอง​เค้ากลัวโดนรัฐบาลเบี้ยวจ่ายค่าไฟฟ้า​
พวกเค้ารู้ดีว่าต้นทุนค่าไฟฟ้า​จากพลังงานแสงอาทิตย์​นั้นแพงมาก​
เค้าจึงไม่เชื่อว่านโยบายสนับสนุน​เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล​ หรือที่บ้านเราเรียกว่า​ Adder ​จะเป็นอะไรที่ยั่งยืนได้​ หลังจากรัฐบาล​ชุดนี้เปลี่ยนไป​ ซึ่งที่ญี่ปุ่น​เค้าก็เปลี่ยนกันบ่อยเหมือนกัน​นะ​ นายอาเบะนี่ถือว่ายาวผิดปรกติ​
รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาแทนอาจจะเลิกสนับสนุน​นโยบาย​นี้ก็เป็นไปได้​สูง​ คนญี่ปุ่น​เลยไม่กล้าลงทุนทำ​ solar farm เอง​ สู้ผลิต​solar panel​ อย่างเดียว​แล้วขายให้คนไทยไปเสี่ยงเองดีกว่า

คนไทยเรามองข้ามเรี่องพวกนี้​ เพราะเริ่มชินกับนโยบาย​ประชานิยม​แบบไทย ในภาวะที่ประชาชามีความรู้​เท่าไม่ถึงการณ์
ลองถามเด็กป6ในบ้านเราดู ว่าพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งไหนแพงที่สุด​ มั่นใจได้เลยว่าไม่มีใครตอบว่าพลังงานแสงอาทิตย์แน่นอน​ แต่เด็กป6ในญื่ปุ่นจะตอบได้ถูกหมด​เพราะเค้าถูกสอนให้เข้าใจถึงข้อดีข้อเสีย​ ถึงความจำเป็นที่จะต้องเสียสละ​ใช้ของแพง​ ดังนั้นจึง​ต้องช่วยกันประหยัด​

แต่ที่น่าเศร้า​ยิ่งกว่าคือ​ พอหลังจากเฉลยแล้วว่าพลังงานแสงอาทิตย์​นั้นแพงที่สุด​ แล้วถามเด็กไทยต่อว่าควรพัฒนาพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งใดเพื่ออนาคต​ เค้าก็ตอบว่าพลังงานแสงอาทิตย์​อีกนั่นแหละ​ เพราะพ่อแม่ครูบาอาจารย์​่ก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์​พอกัน​ เลยไม่เคยได้รับ​รู้ความ​เป็นจริง​

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 26, 2014 1:42 pm
โดย killyX
Power Investor เขียน:เริ่มนอกประเด็นกันแล้วนะครับ
ทำไมคนญื่ปุ่นถึงไม่ทำ​ solar farm​ เอง​ ปล่อยให้คนไทยเข้าไปทำ ทั้งๆที่เขาก็มี​เงินมี know how เหนือเรา
มีคนตอบแล้วว่าเป็นเพราะผลตอบแทนไม่ดี​ แต่คนไทยไปทำเพราะอยากได้ชื่อเสียง​
มีเหตุผล​อื่นบ้างไหมครับ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เป็นเกาะ มีพื้นที่จำกัดและประชากรหนาแน่น ส่งผลให้ราคาที่ดินสูงมาก ในตัวเมืองราคาพื้นที่จอดรถแพงกว่าตัวรถซะอีก ซึ่งการลงทุน solar farm ในญี่ปุ่น ต้นทุนเรื่องราคาที่ดินที่สูง และ พื้นที่กว้างมีแสงแดดตลอดปีก็มีน้อย มีผลทำให้ solar farm ในญี่ปุ่นมีต้นทุนสูงมากกว่า การทำธุรกิจทุกอย่างมีต้นทุนเสียโอกาสหมด ถ้าการทำเกษตรในพื้นที่กว้างและมีแสงแดด มีมูลค่ามากกว่าทำ solar farm ก็ควรเลือกทำเกษตรมากกว่าตามหลักเศรษฐศาสตร์

ญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีวินัยและรู้จักประหยัด การทำ solar farm ไม่ได้ทำให้ชาติเค้าประหยัดทรัพยากร จึงเลือกทำพลังงานนิวเคลียร์ที่ทำให้เค้าประหยัดทรัพยากร และใช้วินัยในการควบคุมปัจจัยความเสี่ยงภายในของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์

ญี่ปุ่นชอบไทยนะคับ เพราะคนไทยว่านอน สอนง่าย และ ไม่ถามว่า ทำไมญี่ปุ่นไม่ทำลงทุนทำในไทยเองหรือนอมินีก็ได้
คนญี่ปุ่นไม่ชอบเสี่ยงและอะไรที่ควบคุมไม่ได้ ทำอะไรต้องตามขั้นตอนและมาตรฐานที่วางไว้
ดังนั่นให้คนไทยที่กล้าเสี่ยงลงทุนไปก่อน กฏหมายใบอนุญาต adder ก็ไม่ต้องไปแย่งประมูลในราคาสูง ไม่ต้องกู้หนี้จำนวนมาก ไม่ต้องกังวลในค่า adder ที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคตหรือไม่ ขาย hard ware & know how ก็คุ้มละครับ

ในบทความด้านล่างก็กล่าวถึงเหตุผลที่ญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ทำเอง แต่ให้ไทยทำ ไทยใช้ ญี่ปุ่นขาย(hard ware & know how)

โซล่าร์ฟาร์ม (Solar Farm) มันดีจริงหรือ?
http://www.nsthai.com/news2.htm
ข้อไม่ดีของโซล่าร์ฟาร์ม

1. ประสิทธิภาพต่อพื้นที่ต่ำ คือว่าไอ้ที่คุณเห็นแผงเป็นพรึดๆนั่นน่ะ มันไม่ได้ผลิตไฟฟ้าได้เยอะอย่างที่คุณคิดหรอกนะ เอาง่ายๆว่าโซล่าร์ฟาร์ม ขนาด 1MW ก็ซัดพื้นที่ไปหลายไร่แล้ว ในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนเอาที่นาปลูกข้าวผลิตอาหารไปทำโซล่าร์ฟาร์มกันหรอก ถ้าเป็นทะเลทราย เพาะปลูกไม่ได้ก็ว่าไปอย่าง แต่เรากำลังเอาจุดแข็ง(คือการเพาะปลูก)ไปสร้างเป็นจุดอ่อน ไม่งั้นโซล่าร์ฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดไม่อยู่ในไทยหรอกอย่าคิดว่าฝรั่งโง่กว่าเรานะ เทคโนโลยีพวกนี้เราตามเค้ามาใช้ ถ้าดีเค้าคงสร้างแต่โซล่าร์ฟาร์มไม่ไปเล่นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้เสี่ยงทำไม?แต่ถ้าใครไปตปท.ลองสังเกตุดูเขาจะติดกันบนหลังคา อันนั้น ประชาชนได้ประโยชน์เต็มๆจาก Adder หรือเงื่อนไขการสนับสนุนอื่นๆไม่จำเป็นต้องเป็นนายทุน ไม่ต้องซื้อใบอนุญาติกันเป็นล้านๆ

2. จากข้อแรกที่ว่าเรื่องประสิทธิภาพคือเราสูญเสียพื้นที่อาหารไป คงไม่ต้องขยายความอีก

3. เงินภาษีและเงินในกระเป๋าของผู้ใช้ไฟฟ้า ก็ค่าAdder 6.50 หรือ 8.00 บาทนั่นล่ะ คุณว่าใครจ่าย?ประชาชน / รัฐบาล / กฟผ. ??? ผมไม่ตอบละกันคงประติดประต่อเรื่องราวเองได้ เอาเป็นว่าตอนนี้โรงโซล่าร์ฟาร์มที่ได้ใบอนุญาติแล้ว แต่ยังไม่สร้างมีมากกว่าโรงที่สร้างเสร็จแล้วก็แล้วกัน และแค่ที่สร้างเสร็จไปแล้วเนี่ย ลองสังเกตุการขยับของค่า Ft ก็แล้วกัน เมื่อสร้างเสร็จทั้งหมด คุณว่าค่า Ft จะเป็นเท่าไหร่? แล้วตกลงว่ามันเงินใครล่ะ?

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 26, 2014 3:17 pm
โดย คนหลังเขา
ผมจะเฉลยให้นะครับ​ เพราะถามคนไทยไม่เคย​ได้คำตอบ​ แม้แต่ตัวเจ้าที่จะไปลงทุน​เองก็ตาม​ หรือว่าเค้ารู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้​ ไม่แน่ใจ
แต่​เอาเป็นว่า​ ถ้าถามคนญื่ปุ่น​จะได้คำตอบชัดเจน​ทันทีว่าที่เค้าไม่ลงทุนทำ​ solar farm​ เองทั้งๆที่มีตังและทำได้ง่ายมาก​ ก็เพราะว่า​เค้าไม่เชื่อใจรัฐบาล​ของเขาเอง​เค้ากลัวโดนรัฐบาลเบี้ยวจ่ายค่าไฟฟ้า​
ผมสงสัยครับ
ที่ญี่ปุ่นเค้าฉีกสัญญาทิ้งกันง่ายๆเลยหรือครับ??
มีเหตุผลอื่นอีกไหมครับ นอกจากข้อนี้ข้อเดียว

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 28, 2014 10:31 am
โดย CARPENTER
ปัญหาใหญ่มากๆ ปัญหา หนึ่งของประเทศไทย ก็ คือ การสนับสนุนของรัฐบาล
การสนับสนุนที่ บิดเบือนตลาด ถ้ามีเหตุผลที่ดีและเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ดี
แต่ถ้ามากเกินไป ก็คือหายนะของประเทศ การจำนำข้าว จำนำพืชผลเกษตรต่าง
การประกันราคาข้าว ประกันราคาพืชผลทางเกษตรต่าง
Adder พลังงานแสงอาทิตย์ ลม ชีวะมวล ให้ BOIคนต่างชาติ (มากจนกระทั่งคนไทยต้องตั้ง
บริษัทในต่างประเทศ เพื่อขอ BOI) ค่าลดหย่อนภาษี ต่างๆ เช่น RMF LTF ประกันชีวิต
ดอกเบี้ยผ่อนบ้าน ทั้งหมดนี้ คือเรื่องเดียวกัน มีผลร้ายเหมือนกัน ขึ้นกับ ปริมาณเงินที่ใช้อุดหนุน
คนที่พอใจ และชอบ ระบบแบบนี้ เพราะได้ผลประโยชน์
ส่วนเหตุผลดีๆทีนำมาอธิบายนั้น เช่น ลดโลกร้อน ช่วยเกษตรกร สนับสนุนอุตสาหกรรม
สนับสนุนการออม ฟังดูดี ดูจริงใจ แต่พูดความจริงไม่หมด
ทุกการสนับสนุนที่ใช้เงินของคนทั้งประเทศ มีคนกลุ่มเล็กๆเท่านั้นที่ได้ผลประโยชน์
คนส่วนมากเสียผลประโยชน์ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ โดยไม่มีคนเสีย

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 28, 2014 9:11 pm
โดย 5555
เท่าที่อ่านดูยังไม่มีใครมองยาวๆ ไปจนเลยระยะเวลา adder เลยนะครับ ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น บ.ที่ทำพวกนี้จะเป็นอย่างไร แล้วสุดท้ายใครได้ประโยชน์ ผมว่ารัฐก็ไม่ได้เสียประโยชน์นะครับถ้าระยะยาวจริงๆ พอหมด adder รัฐก็สามารถซื้อไฟในราคาปกติ (คงไม่มีการต่ออายุ adder มั่งครับ) เหมือนยืมมือเอกชลลงทุน โดยยิบยื่นผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อให้ แต่หลังหมด adder ในส่วน บ. นี้ไม่รู้ครับว่ากำไรที่เคยได้มาเยอะๆ จะหายไปขนาดไหน (ไม่มีความรู้จริงๆ ครับ และไม่เคยคิดจะลงทุนในหุ้นพวกนี้ด้วยครับ เพราะเราไม่มีความรู้ด้านนี้ แค่อ่านกระทู้นี้แล้วไปกระตุกต่อมคิดว่า จริงๆแล้วมันน่าสนใจลงทุนรึเปล่านะครับ)

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 28, 2014 11:08 pm
โดย Ii'8N
5555 เขียน:เท่าที่อ่านดูยังไม่มีใครมองยาวๆ ไปจนเลยระยะเวลา adder เลยนะครับ ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น บ.ที่ทำพวกนี้จะเป็นอย่างไร แล้วสุดท้ายใครได้ประโยชน์ ผมว่ารัฐก็ไม่ได้เสียประโยชน์นะครับถ้าระยะยาวจริงๆ พอหมด adder รัฐก็สามารถซื้อไฟในราคาปกติ (คงไม่มีการต่ออายุ adder มั่งครับ) เหมือนยืมมือเอกชลลงทุน โดยยิบยื่นผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อให้ แต่หลังหมด adder ในส่วน บ. นี้ไม่รู้ครับว่ากำไรที่เคยได้มาเยอะๆ จะหายไปขนาดไหน (ไม่มีความรู้จริงๆ ครับ และไม่เคยคิดจะลงทุนในหุ้นพวกนี้ด้วยครับ เพราะเราไม่มีความรู้ด้านนี้ แค่อ่านกระทู้นี้แล้วไปกระตุกต่อมคิดว่า จริงๆแล้วมันน่าสนใจลงทุนรึเปล่านะครับ)
ขอบอกในแง่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ไม่ขอชี้นำเรื่องน่าลงทุนรึเปล่านะครับ

เอกชนที่เห็นทั้งหลายไม่ได้ใช้เงินตัวเองมาลงทุนครับ
ตอนกู้ ต้องโชว์คนให้ปล่อยกู้เชื่อถือได้ก่อน ว่าจะทำให้คุ้มทุนได้ประมาณไหนเมื่อไหร่ (feasibility study) ที่สำคัญคือ IRR, Benefit-cost ratio, Break-even period ต้องออกมาเป็นตัวเลขและระยะเวลาแต่ละปี ทั้งก่อนและหลังช่วง subsidize
ตัวอย่างของ SPCG ... คนปล่อยกู้คือ Bank รวงข้าวเชิงสะพานพระราม 9

จะทำโครงการแค่ทำตึกให้เช่าไม่กี่ล้านยังต้องทำเอกสารที่ว่าเลย
คนปล่อยกู้เอง ก็ต้องได้รับเอกสารที่ชัดเจนรอบคอบน่าเชื่อถือได้ก่อนอนุมัติกัน เพราะต่อให้วางมาดใส่สูทหรูใช้ปากกาหมึกซึมที่เซ็นต์สวยหรูราคาแพงขนาดไหน คนเซ็นต์ล้วนต้องระมัดระวังเนื่องจากไม่ใช่เจ้าของเงินตัวจริง... (ในงบทุกธนคาร เจ้าหนี้รายใหญ่มักเป็นตัวเลข 70%- 80% ของหนี้สินทั้งหมด มักเป็นตัวเลขจากประชาชนที่เอามาฝาก มากกว่าส่วนอื่น)

เพียงแต่ feasibility study จะมี assumption ส่วนผสมของความฝันต่อความจริงอยู่สักเท่าไหร่ มันก็เหมือนการประเมินลงทุนอื่นทั้งหลายโลกนี้ ว่าแต่ละโครงการมีความเสี่ยงอะไรอย่างไรอีก จะด้วยความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของนโยบายรัฐ หรือสภาวะเศรฐกิจต่างๆ หรือความเสี่ยงจากการบริหารการดำเนินงานภายในของแต่ละบริษัทเอง ที่มีการกู้ให้ทำแล้ว จะไม่เป็นไปตามฝัน ก็แล้วแต่คนปล่อยกู้จะประเมิน และรับความเสี่ยงว่าคนกู้ไปจะล้มเหลวและทำไม่ได้คุ้มทุนมีโอกาสน้อยจนมองข้ามไปได้


ทีนี้ มาเรื่องที่มาของกระแส ก่อนหน้าที่จะออกมาเป็นนโยบายล่าสุด ก็มีการ revise หลายรอบ ก่อนหน้ามีเอกชนสนใจน้อย
จนออกมาเป็นล่าสุดจึงคึกคักจนเป็นกระแส

รัฐไม่ได้เสียประโยชน์อะไรจริงๆ หน่วยงานของรัฐ ตัวอย่าง GPM ของ EGAT แต่ละปีกว่า 10%, NPM (คิดตอน NOPAT) 7%-8% ทุกปี ... ถูกต้องเลย หน่วยงานรัฐที่เรารู้จักเป็น natural monopoly ในอุดมคติตามตำราเศรษฐศาสตร์เลย ลูกค้าไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลย จึงไม่มีความจำเป็นต้องยอมให้มีอะไรเข้าเนื้ออยู่แล้ว

แต่ว่า fact อย่างเป็นทางการเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ได้กระมิดกระเมี้ยนเลย คือเขียนไว้ชัดเจนแล้วตั้งแต่ออกเป็นนโยบายจากกพช. ว่าการ subsidize จะทำได้โดยการเอาไปยัดเข้าใน Ft สรุปง่ายๆ คือเงินที่จ่ายเพิ่มโยนลงมาคนใช้ไฟฟ้าเต็มๆ เลย คุณเองก็เป็นคนหนึ่ง ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง คนที่ใช้ไฟฟ้าในไทยทุกคน ต้องจ่ายเงินสนับสนุนนโยบายนี้ จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม โดยเอาส่วนเกินไปเฉลี่ยกับต้นทุนการผลิตไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ในตลอด 10 ปี (ระยะเวลา subsidize สูงสุด ของทุกประเภท มีแสงอาทิตย์กับพลังลมที่ เป็น 10 ปี อย่างอื่นที่เหลือ 7 ปี)

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 30, 2014 6:07 am
โดย jonny11
อย่ามองสั้นนักสิครับ พลังแสงอาทิตย์แพงสุดแต่แผงก็อยู่ได้นานสุดๆเช่นกัน มีรับประกัน 25ปีด้วย สิบปีแรกที่ได้แอดเดอร์ดูเหมือนว่ารัฐต้องซื้อไฟแพง แต่ถ้าเอาราคารับซื้อหลัง10ปีมาถัวก็น่าจะพอทนนะครับ รัฐพลาดที่ไปกำหนดแบบแอดเดอร์ทำให้ภาระไปอยู่ในค่า ft เค้าจึงกำลังเปลี่ยนราคาและวิธีการรับซื้ออยู่ ให้ราคาต่ำลงแต่ระยะเวลานานขึ้นผมว่าทุกฝ่ายคงจะรับได้

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 01, 2014 1:05 am
โดย วรันศ์ บัฟเฟต
jonny11 เขียน:อย่ามองสั้นนักสิครับ พลังแสงอาทิตย์แพงสุดแต่แผงก็อยู่ได้นานสุดๆเช่นกัน มีรับประกัน 25ปีด้วย สิบปีแรกที่ได้แอดเดอร์ดูเหมือนว่ารัฐต้องซื้อไฟแพง แต่ถ้าเอาราคารับซื้อหลัง10ปีมาถัวก็น่าจะพอทนนะครับ รัฐพลาดที่ไปกำหนดแบบแอดเดอร์ทำให้ภาระไปอยู่ในค่า ft เค้าจึงกำลังเปลี่ยนราคาและวิธีการรับซื้ออยู่ ให้ราคาต่ำลงแต่ระยะเวลานานขึ้นผมว่าทุกฝ่ายคงจะรับได้
พวกใหญ่ๆที่ cod ไปแล้วหรือแน่ๆก็ adder basis หมดปะครับ
adder 8 บาทเลยนะ ถ้าไม่มี adder แล้ว TOU + ft ได้ไม่กี่บาท ลองคิดดูว่าหายไปเท่าไหร่

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 01, 2014 12:50 pm
โดย anubist
jonny11 เขียน:อย่ามองสั้นนักสิครับ พลังแสงอาทิตย์แพงสุดแต่แผงก็อยู่ได้นานสุดๆเช่นกัน มีรับประกัน 25ปีด้วย สิบปีแรกที่ได้แอดเดอร์ดูเหมือนว่ารัฐต้องซื้อไฟแพง แต่ถ้าเอาราคารับซื้อหลัง10ปีมาถัวก็น่าจะพอทนนะครับ รัฐพลาดที่ไปกำหนดแบบแอดเดอร์ทำให้ภาระไปอยู่ในค่า ft เค้าจึงกำลังเปลี่ยนราคาและวิธีการรับซื้ออยู่ ให้ราคาต่ำลงแต่ระยะเวลานานขึ้นผมว่าทุกฝ่ายคงจะรับได้
มั่นใจได้ไงว่าบ.ที่ขายแผงจะยังอยู่เมื่อเราต้องการเคลมสินค้า
ในจีนมีข่าวบ.ขายแผงล้มไปแล้ว
1.ทุก10-15ปีจะมีวิกฤติเศรษฐกิจครั้งหนึ่ง
หมายความว่าบ.ที่ขายแผงโดนวิกฤติสองครั้ง
มั่นใจว่าบ.ขายแผงจะรอดหรือ
2.แม้จะเป็นบ.เน้นการผลิต แต่ก็เป็นกลุ่มเทคโนโลยีด้วยเหมือนกัน
เทคเปลี่ยนไวนะครับ แน่ใจว่าจะตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทัน
ดูมือถือไอโฟนตอนนี้เทียบกับLG G Flexสิครับ ใครเจ๋งกว่า
[youtube]3ypgEjXjahk[/youtube]

Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 01, 2014 9:18 pm
โดย GUI
- ผมว่าเรื่องพลังงาน เราคงต้องเดินสายกลาง หาอะไรที่เหมาะสมกับประเทศเราครับ
- ความจริงเราใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้ากว่า 70% เปอร์เซ็นต์แล้ว
ถ้าเราจะเน้นที่ราคาถูก ส่งเสริมแต่โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ พอมาเลย์หยุดซ่อมท่อส่งก๊าซ ภาคใต้เราต้องทนไฟฟ้าดับ เราต้องขอให้พม่าหยุดซ่อมท่อก๊าซช่วงสงกรานต์ พอเค้าหยุดที โรงงานบ้านเราทยอยหยุดงานดับไฟ
- ถ้าเราใช้แต่ก๊าซ พอเพื่อนบ้านเราหยุดซ่อม ถ้าไม่อยากให้ไฟดับ การไฟฟ้าต้องสำรองน้ำมันเตา มาปั่นไฟชดเชย ราคาน้ำมันเตาแพง ก็ไปขึ้นค่า Ft อยู่ดีครับ
-การลงทุนบอกเราว่าอย่าเอาไข่ไปใส่ตะกร้าใบเดียว เราคงต้องมีโรงไฟฟ้าหลายๆ แบบ ตัวอย่าง EGCO โครงการทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม หลายโครงการ ยังมีโครงการใหม่ในปี 57
* ร่วมทุน 50% กับ จีเดค เปิดโรงไฟฟ้าจากขยะจากเทศบาลนครหาดใหญ่ ขนาด 6.7 MW ชดเชย 3.5 บาท 7 ปี
* ร่วมทุน 12.5% ไซยะบุรี ไฟฟ้าพลังน้ำที่ลาว
* ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม 90% -พลังงานลมขนาด 90 MW ชดเชย 3.5 บาท 10 ปี
- เรื่องมีใครบางคนส่วนน้อยที่ได้ประโยชน์ อันนี้ต้องกำหนดกฏเกณฑ์กฎหมายใหม่ ให้ทันสมัยไล่ตามทัน
- อยากให้ดูตัวอย่าง เยอรมัน เค้ามีความคิดว่าจะเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลีย์ให้หมด รัฐบาลกำหนดให้ ทุกคนทำ Solar roof ได้เสรี มีกฎหมายจัดลำดับความสำคัญ ว่าการไฟฟ้าต้องรับซื้อไฟฟ้า Solar roof จากชาวบ้านเป็นอันดับแรก ก่อนโรงไฟฟ้าอย่างอื่น
- พอถึงฤดูร้อนเค้าปลูกต้น rapeseed เอาเมล็ดมาสกัดน้ำมันพืชทำไบโอดีเซลกันเต็มทุ่งครับ (เมล็ดที่เหลือเอาไปทำอาหารสัตว์ได้)
- เรื่องไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ผลิตไม่ได้ตลอดวัน ทางเยอรมันเค้ากำลังวิจัยว่า จะเอาไฟฟ้าที่ได้ตอนกลางวัน ไปแยกน้ำออกเป็น ไฮโดรเจน กับออกซิเจน อัดเก็บไว้ พอช่วงมืด เอาก๊าซทั้งสองตัวมารวมกันได้น้ำกับไฟฟ้ามาใช้ (Fuel cell) ค่าไฟแพงขึ้นแน่ๆ แต่เค้ายอมเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน

ในความคิดของผม
พลังงานทางเลือกก็ยังคงเป็น Mega Trend ครับ