Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

genie เขียน:"พี่PPครับ พี่จวบแกก็อยู่ที่ตราดครับไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ "

ขอบคุณที่ชี้แนะครับคุณ genie เดี๋ยวคงต้องลองทาบทามคุณ Mon money ดู

Mon Money เขียน:"............และอ่านรายงานประจำปีทุกปี....."

คุณ Mon Money นี่เล่นถอดแบบ Buffett มาเลยนะครับ เท่าที่อ่านๆหนังสือเกี่ยวกับเขารู้สึกเขาเน้นเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆ เขาไม่สนภาวะเศรษฐกิจ macro economic ภาวะตลาดหุ้น ฯลฯ เคยอ่านเจอว่าแม้ Alan Greenspan จะมากระซิบเรื่องลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบื้ยของ Fed เขาก็ยังคงจะทำอย่างที่เขาคิดและตัดสินใจไว้แล้วเท่านั้น

หนังเล่มที่ผมกำลังค่อยๆพยายามอ่านขณะนี้ คือ Buffett - The Making of an American Capitalist ก็ดูเหมือนว่าเขาหมกมุ่นอยู่กับเรื่องอ่านรายงานเอามากๆตั้งแต่หนุุ่มจนอายุป่านนี้ไม่ยอมเลิก แม้แต่ให้เลือกระหว่างครอบครัวกับเรื่องหุ้น เขาเลือกเรื่องหุ้นมาเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นพฤกติกรรมติดตัวมาแต่เด็กจนแก่ไม่แปรเปลี่ยนเลยนะครับ ดูแล้วหากเราทำได้อย่างเขาสัก 10-20% ก็น่าจะพออยู่รอดในยุทธจักรซื้อขายหุ้นนะครับ

ส่วนเรื่องรายงานประจำปีที่คุณ Mon Money อ่านน่ะ ...หาได้จากที่ไหนครับจำเป็นต้องซื้อหุ้นของบริษัททุกบริษัทที่เราต้องการได้รายงานประจำปีของเขาไว้ศึกษาหรือเปล่า เขาถึงจะส่งให้ ช่วยชี้แนะหน่อยนะครับ มือใหม่หัดขับครับ

หนังสือที่อยากอ่านมากๆอีกเล่มคือ Conservative Investors Sleep Well คืออยากทราบว่าค้าหุ้นอย่างไรถึงจะได้นอนหลับสบาย ไม่ใช่กระสับกระส่ายกังวลนอนไม่หลับ ยิ่งอายุมากอย่างผมนี่โดยปกติก็เริ่มมีปัญหาหลับยากตามวัยเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว หากเข้าตลาดไม่ถูกทางเกรงว่าเดี่ยวโรคนอนไม่หลับเล่นงาน แย่แน่ๆเลยครับ

PP

ถึงคุณ PP ครับ

ผมสั่งหนังสือที่ www.amazon.com เป็นประจำ กว่า 10 เล่มแล้วครับ ไม่มีปัญหาในการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเลยครับ

ขอบคุณทุกความเห็นครับ
ส่วนผมไม่ถนัดภาษาอังกฤษ เลยต้องหาภาษาไทยอ่าน
หนังสือที่เปลี่ยนชีวิตคือตีแตก และเป็นเล่มที่อ่านทวนบ่อยที่สุด
ใครมีเล่มอื่นขอคำแนะนำด้วยนะครับ

เหมือนผมเลย
ตีแตกผมอ่านไปเกือบ 10 รอบแล้วมั๊ง

DIYB เขียน:ขอบคุณทุกความเห็นครับ
ส่วนผมไม่ถนัดภาษาอังกฤษ เลยต้องหาภาษาไทยอ่าน
หนังสือที่เปลี่ยนชีวิตคือตีแตก และเป็นเล่มที่อ่านทวนบ่อยที่สุด
ใครมีเล่มอื่นขอคำแนะนำด้วยนะครับ

ของท่าน ดร.นิเวศน์ มีอีกครับ
หนังสือ เซียนหุ้นมือทอง
อ่านหรือยังครับ
ที่รวบรวมข้อเขียทุกวันอังคาร
ใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ มาพิมพ์ใหม่

chatchai เขียน:"........ไม่มีปัญหาในการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเลยครับ"

ขอบตุณที่ให้คำตอบครับ ผมคงต้องลองเข้าไปเลือกซื้อหาที่ www.amazon.com ดูอีกรอบ

ปรัชญา เขียน:"......หนังสือ เซียนหุ้นมือทอง อ่านหรือยังครับ"

ยังไม่ได้อ่านเลยครับ เคยอ่านแต่"เซียนหุ้นพันธุ์แท้"ของท่าน ดร. เห็นทีต้องไปหาซื้อมาอ่านเพิ่มเติมตามที่คุณปรัชญาชี้แนะครับ

PP

เป็นกระทู้ที่อิ่มทั้งประสบการณ์และรสชาติของชีวิต เป็นประโยชน์กับน้องๆ รุ่นหลังๆครับ

mr.bean เขียน:เป็นกระทู้ที่อิ่มทั้งประสบการณ์และรสชาติของชีวิต เป็นประโยชน์กับน้องๆ รุ่นหลังๆครับ

ผมได้รับเมล จากคุณ+++แนะนำให้ไปโหลดหนังสือ
มีลิ้งค์มาให้ผมเสร็จ ก็ขอขอบพระคุณที่กรุณาอนุเคราะห์ข้อมูล
แต่โหลดไม่ได้สำเร็จสักที

หนังสือ เซียนหุ้นบันลือโลก ของปีเตอร์ลินซ์
ภาษาไทย พิมพ์เมื่อปี2532
หาซื้อมา3จังหวัดแล้ว ยังไม่เจอเลย
มีใครเจอวางขายที่ไหนไหมครับ
หรือว่าถ้าใครอ่านแล้ว มาคุยให้ฟังหน่อยสนใจครับสนใจ

ผมอ่านเรียบร้อยแล้วครับ
ได้มาจากเพื่อนอีกที ขอเค้า xerox
stlye การลงทุนของ lynch นี่ค่อนข้างจะกว้างกว่า buffet มากๆ
เค้ามีหุ้นทุกรูปแบบทั้งเค้าว่าใครสามารถหาหุ้นที่ lynch ไม่ชอบได้ระมีรางวัลให้ (อันนี้เค้าแซวๆกันนะครับ)
แต่จากที่อ่านในหนังสือแล้ว lynch จะใช้สามัญสำนึกเป็นส่วนมาก
ไม่ได้มีการซับซ้อนอะไรมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จได้
คือความขยันและความบ้าหุ้นครับ คิดอะไรเป็นหุ้นไปซะทุกอย่าง

ถึงพี่ปรัชญาและเพื่อนๆที่ต้องการอ่านหนังสือเก่าๆที่ไม่มีวางขายแล้วหรือหนังสือต่างประเทศในราคาถูก ผมขอแนะนำไปดูที่ http://bobby2books.hypermart.net ครับ ผมก็ซื้อหนังสือที่นี้บ้างเหมือนกัน จะมีทั้งหนังสือจริงและที่เป็นถ่ายเอกสารครับ ฉบับถ่ายเอกสารนี้ก็ราคาถูกหน่อย อย่างหนังสือ " เซียนหุ้นบรรลือโลก" นั้นเป็นฉบับถ่ายเอกสารครับ ราคาเพียง 100 บาท แปลมาจากหนังสือ Once Up On Wallstreet ครับ นักลงทุนควรจะอ่านนะครับ ดีมากเข้าใจง่าย

ผมแนะนำให้อ่าน"one up on wallstreet "ของ peter lynch เล่มจริงดีกว่าครับ ผมเคยอ่านแล้วทั้งเล่มจริงและเล่มแปลที่ใช้ชื่อ"เซียนหุ้นบรรลือโลก"ที่เนชั่นเคยขายเมื่อหลายปีก่อน แต่ได้ตัดทอนออกไปมากพอสมควรโดยเฉพาะตอนวิเคราะห์งบการเงินเหลือจิ๊ดเดียวทั้งๆที่peter lynchวิเคราะห์ไว้ดีมาก เล่มจริงเป็นภาษาอังกฤษ หาซื้อได้ที่asiabook ผมสั่งทางinternetให้เค้าส่งมาให้ที่ตราด ไม่เคยขึ้นไปซื้อที่กรุงเทพเลยครับ ใหม่ๆต้อง"แกะ"(เปิดdict.จนเมื่อยมือ) แต่พออ่านไปซักระยะศัพท์เค้าก็เริ่มซ้ำแล้ว แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆแล้วอยากให้มือใหม่ๆอ่าน"the new buffettology"ของmary buffett มากกว่าครับเพราะอ่านง่ายมาก แทบไม่ได้เปิดdict.เลย และสรุปความคิดของwarren buffett ไว้ได้ค่อนข้างดี (เป็นinsider เพราะเป็นอดีตลูกสะใภ้ของbuffett) ซื้อได้ที่asiabookเหมือนกันครับ

เห็นด้วยกับคุณประจวบ ครับ The new buffetology อ่านง่าย และเป็นพื้นฐานในการเล่นหุ้นที่เข้าใจง่ายสุด ครับ

[quote="chatchai"]ถึงพี่ปรัชญาและเพื่อนๆที่ต้องการอ่านหนังสือเก่าๆที่ไม่มีวางขายแล้วหรือหนังสือต่างประเทศในราคาถูก


ขอบคุณ คุณฉัตรชัยครับที่แนะนำ
เมื่อเช้าผมไปสั่งให้ ร้านนายอินทร์เขาจัดหาให้เขาบอกอาทิตย์หน้าได้ครับ ไม่ทราบว่าจะเป็นแบบเดียวกับที่เคยอ่านหรือเปล่า
อยู่ต่างจังหวัดก็แบบนี้ล่ะ มีอะไรน้อยกว่า เมืองกรุง
ตามไม่ค่อยทันครับ เดี๋ยวนี้ก็ดีขึ้น
มีอินเตอร์เน็ทให้ถามใครต่อใครได้
เมื่อก่อนแย่กว่านี้หลายเท่าครับ

แต่เท่าที่สังเกตุดูอาซิ้มอาซ้อ
อาเจ็กอาเฮียตามต่างจังหวัด
ไม่ค่อยพัฒนาตัวเองให้ทันโลกเลย
ข้อมูลข่าวสารไม่ค่อยสนใจ
เช้าเข้าห้องค้าก็ตะโกนถามมาร์วันนี้เล่นอะไร
พวกมาร์ก็ได้แฟ๊กซ์โพยมาจาก
สำนักงาน ที่กทม.ก็ว่ากันตามนั้น
ไม่รู้มีว่าหุ้นที่เล่นมีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่
ไม่รู้ว่ามีหนี้สินเท่าไหร่
ไม่รู้บริษัทมีผู้บริหารชื่ออะไร
ไม่รู้ทุกอย่างว่าง่ายๆ
เมื่อเช้าผมไปแวะที่ซิกโก้
เขาแนะนำSSIผมล่ะคิดในใจขุดผีมาจากหลุมเลยนะนี่
มีชายหนุ่มเล่นหุ้นคนหนึ่งถือหนังสือหุ้นเงาบอกผมว่าหนังสือเล่มนี้ดีที่สุด ผมบอกว่าอ่านไม่รู้เรื่องวกไปวนมา
ลองอ่านหนังสือ
หุ้นห่านทองคำดูซิ จะได้รู้จัก แมงเม่า แมงมุม มดงาน
และมีพญาเหยี่ยว สิงโต และช้าง ได้ไปเที่ยวสวนสัตว์ครบเลย
เขาเลยเมินหน้าหนี
ผมยืนดูราคาหุ้นที่จอมอนิเตอร์อยู่สักพัก
ก็เดินกลับ
มาทำมาหารัปทานตามปกติ
คือที่ร้านมีคนงานอยู่2คน
ขายของเล็กๆน้อยๆพอกินพอใช้
ไม่ได้มีเหลือมีเก็บ
ถ้าชาตินี้ไม่ได้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
ผมก็คงเป็นแค่เจ็กแก่ๆนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เฝ้าร้าน
รอวันเวลาหมดยุคโชห่วย
ชีวิตที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งก็ได้มาจากเงินปันผล
ซึ่งได้มากกว่าทำมาค้าขายอีก
และได้ส่วนต่างของเงิน ซึ่งลงทุนไปก็แอบภูมิใจ
มาตลอดว่าถ้าไม่มีตลาดหลักทรัพย์
เราคงเป็นจับกัง
หรือเจ็กแก่ๆจะไปสมัครทำงานเป็นเถ้าแก่ที่ไหนก็คงไม่มีใครรับ
เพราะอายุมากแล้ว คุยเพลินเลย
คุณฉัตรชัย คงว่าไร้สาระ(อย่าถือเลยครับ)

พี่ปรัชญาครับ ทุกวันนี้ ผมก็เป็นเฮียที่คอยรับส่งลูกคนโตไปโรงเรียน และเลี้ยงลูกคนเล็กอยู่กับบ้านครับ แต่ก็มีความสุขพอสมควร ได้ตลาดหุ้นนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมไม่ต้องทนทำงานที่ไม่ค่อยชอบ แต่ต้องทนทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ ถ้าไม่มีตลาดหุ้น ผมก็คงเป็นมนุษย์เงินเดือนไปตลอดชีวิต และคงจะสร้างเนื้อสร้างตัวลำบากครับ ราคาบ้านในกรุงเทพยิ่งแพงมาก คนทำงานกินเงินเดือนจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อครับ ยิ่งถ้ามีลูกด้วย ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากเลย อย่างผมก่อนมีลูก อยู่คอนโดฯกัน 2 คนกลางใจเมืองก็สบายดี พอมีลูก 2 คนเท่านั้น คอนโดก็เล็กเกินไป ตู้เย็นก็เล็กเกินไป รถยนต์คันเก่าก็เล็กเกินไป (เพราะมี Car Seat 2 ตัว) ต้องซื้อใหม่หมด

น่าสนใจดี ขอขุดขึ้นมาตอนเงียบเหงาหน่อย....

เข้ามาอ่านประสบการณ์ดีๆ ที่พี่รุ่นแรกๆได้เล่าให้ฟัง ต้องขอขอบคุณพี่ๆอย่างมากครับสำหรับความรู้ดีๆที่มอบให้น้องๆเสมอมา จะนำมาข้อคิดพวกนี้มาเตือนสติในการลงทุนครับ

ขอบคุณครับ

เข้ามาอ่านเช่นกัน ได้อะไรกลับไปมากมายเหมือนเช่นเคย...ขอบคุณรุ่นพี่ๆที่ร่วมแชร์ประสบการณ์ครับ

ผมอ่านกระทู้นี้ถึงได้เข้าใจครับว่า buffetology กับเมืองไทยเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนานจริงๆ

ถ้าให้ดร.นิเวศน์ที่ผมเคารพ 100 ล้านบาท
แล้วเชิญอาจารย์ผมมา ผมหมายถึง วอเรน บัพเฟต
ก็มี 100 ล้านบาท เท่ากัน

มาเล่นหุ้นไทย แข่งกัน

ผมมั่นใจว่า วอเรนชนะครับ

ขอเห็นต่างนะครับ ถ้าเป็นตลาดหุ้นไทยและอินไซท์เท่ากัน ผมว่าบัพเฟตก็ไม่ใช่เทวดาหรอกครับ นกผิดฟ้า ปลาผิดน้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นว่าทั้งบัพเฟต และ ดร.มีเหมือนกันคือเมตตาและการแบ่งปันเพื่อผู้ที่ด้อยกว่ากัน

ผมชอบการคุยกันของพี่ๆในเวปจิงๆคับ
คุยกันง่ายๆแต่ได้ความรู้ที่เอาไปใช้จริงเลยคับ

สวัสดีคับ พี่คลายเครียด พี่ปรัชญา พี่jeng พี่ฉัตรชัย พี่yoyo
ผมแอบอ่านกระทู้พี่ๆเป็นประจำเลยคับบ
อยากให้พี่ๆมาแลกเปลี่ยนความรู้กันบ่อยๆน่ะคับ
น้องๆจะได้มาขอความรู้ด้วยคับบ

เรื่องหนังสือน่ะคับผมก็อ่านมาครบทุกเล่มแล้วคับที่พี่พูดถึงกัน
เล่มที่ผมคิดว่าเขียนแล้วอ่านง่ายสุดสำหรับมือใหม่คือ ตีแตกคับ
เพราะเป็นคนไทยเขียนถึงหุ้นไทยคับ
อีกบทความนึงซึ่งไม่ใช่หนังสือที่ผมชอบคือของเสี่ยยักษ์คับ
เขียนง่ายอ่านเข้าใจดีคับบ และได้เห็นการเล่นหุ้นอีกมุมนึงคือการเล่นรอบกลาง กับรอบใหญ่คับ ซึ่งผมก็อยากฝึกมองtrendให้ออกด้วยคับ มันเหมือนได้2ต่อคือมีความรู้พื้นฐาน+มองแนวโน้มใหญ่ให้ออกคับ

ส่วนหนังสือต่างประเทศที่พูดมาผมก็ชอบหมดคับ ถึงบ้างเล่มจะอ่านยากนั้น แสดงว่าความรู้เรายังน้อยคับ ต้องหาความรู้เพิ่มคับ

กระทู้นี้อ่านกี่รอบก็ได้ประโยชน์เสมอมาครับ

สุดยอดครับ

ขอบคุณ ประสบการณ์ ดีดี ที่เล่าสู่กันฟัง ครับ

ขอบคุณครับ

เก้าปีแล้วยังคุยกันอยู่เลย
นี่แหละ เสน่ห์ของ thaivi ครับ