Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

คุณ bigshow ทำบาปแล้วรู้ไหม ทำให้คนอื่นติดดอยลงไม่ได้ บาปกรรมนะคุณ

ไม่เป็นไรครับ ไว้สอนอีกหนึ่งบทเรียน

แต่ยังไงก็ไม่ขาย และไม่ทำ DSM (จะไว้เปรียบเทียบ กับพอร์ต DSM ว่าเป็นยังไง)

จะดูว่าถ้ามันจะล้มมันจะไปในลักษณะไหน

ของ MCOT ก็คือความไม่แน่นอนของการได้บริหารคลื่นวิทยุปัจจุบัน ซึ่งอาจถูกยึดคืนไปของเป็นกระทรวงการคลังได้นะครับ ถ้าจำไม่ผิด ต้องรอดูผลของ กสช หรือ กทช นี่แหล่ะ เค้ามีระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนตอน IPO ด้วย

Does anyone like to guess?

" Who is the one or the ones that is/are now selling GMMM in sequence?"

ตอนนี้ติด ptl แทนที่ราคา ipo เลย 25000 หุ้น ทั้งที่เมื่อวานเพิ่งได้ hmpro w1 มา 3 หมื่น

e-finance

นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด
มหาชน เปิดเผยว่า ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์
ของตลาดมีเดียและเอนเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งปัจจุบันมองว่าธุรกิจอีเว้นท์มีตลาดขนาดใหญ่และเห็น
ได้ชัดว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูงผู้บริหารแกรมมี่จึงตัดสินใจให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด
(มหาชน) (GMMM) เลือกเข้าไปลงทุนกับ บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ อีเจนซี่ มหาชน
โดยมองว่าร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวจะช่วยทำให้กลุ่ม GMMM ครองเป็นเจ้า
ตลาดด้านสื่อได้ครบทุกเซ็กเม้นท์ เพราะบริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ อีเจนซี่นั้นเป็นบริษัทที่มีความ
เชี่ยวชาญด้านสื่อและมีศักยภาพที่โดดเด่น
สำหรับเงื่อนไขการร่วมทุนนั้น GMMM ได้ลงทุนจำนวน 183 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น
ใน บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด มหาชน จำนวน 86 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นเดิม คือกลุ่ม
กาญจนโภคิน โดยคิดเป็น 50 % จากทุนชำระแล้ว 172 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 172 ล้าน
หุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ทั้งนี้ GMMM เห็นว่ากลุ่มผู้บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์
เอเจนซี่ จำกัด เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีส่วนเข้มมาบริหารงานใน GMMM ด้วย
พร้อมกันนี้ ทางคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8 ล้าน
หุ้น หรือคิดเป็น 3.85 % ของหุ้นทั้งหมด เพือ่ขายให้กับกลุ่มผ฿บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์
เอเจนซี่ จำกัด ในราคาหุ้นละ 16 บาท โดยหลังจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้เเล้ว GMMM จะมีทุนจด
ทะเบียนที่ชำระเเล้วทั้งสิ้น 208 ล้านบาท
สำหรับบริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ อีเจนซี่ จำกัด ในปี 2547 ตามงบการเงินเสมือนรวม
กลุ่มอินเด็กซ์ มีรายได้รวม 569 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 111 %
เมือเทียบกับ ปี 2546
' เราเชื่อว่าการรวมกันครั้งนี้ จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดอย่างมหาศาล ซึ่งจะส่ง
ผลให้กับธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ จี เอ็มเอ็ม มีเดีย หรือเเม้แต่กลุ่มของอินเด็กซ์ เองขยาย
แบบก้าวกระโดด ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการบริการธุรกิจแบบครบวงจรมากขึ้น' นาง
สาวบุษบา กล่าว

Is there any relationship between the sharp falling of GMMM's stock price and the Resolution of the Board of Directors Meeting of both GMMM & Gmm Grammy, announced on 26 April 2005?

Gmm Grammy sets aside the investment of no more than 155 million for buying Treasury Stocks of GMMM.

Bread & Butter เขียน:Is there any relationship between the sharp falling of GMMM's stock price and the Resolution of the Board of Directors Meeting of both GMMM & Gmm Grammy, announced on 26 April 2005?

Gmm Grammy sets aside the investment of no more than 155 million for buying Treasury Stocks of GMMM.

GMMM ขายหุ้นที่ตัวเองซื้อคืน ให้ Grammy หรอครับ

ได้ข่าวแต่ว่าจะขายหุ้นที่ตัวเองซื้อคืนไว้เฉยๆ ไม่ได้คิดถึงขนาดว่าจะให้บริษัทแม่มาซื้อ

งานนี้ Grammy ก็ฟันเละเลย เอาหุ้นมาขายไอพีโอ 30 บาท แต่ซื้อคืนราคาไม่เกิน 20 บาท (155 ล้าน หาร 7.75 ล้าน) เวลาผ่านไป 2-3 ปี จริงๆ ก็น่าจะซื้อคืนๆ ไปให้หมดๆ เลยนะครับแบบนี้ ขายหุ้นเป็นเล่นขายของไปได้

GMMM ขายหุ้นที่ตัวเองซื้อคืน ให้ Grammy หรอครับ

ได้ข่าวแต่ว่าจะขายหุ้นที่ตัวเองซื้อคืนไว้เฉยๆ ไม่ได้คิดถึงขนาดว่าจะให้บริษัทแม่มาซื้อ

งานนี้ Grammy ก็ฟันเละเลย เอาหุ้นมาขายไอพีโอ 30 บาท แต่ซื้อคืนราคาไม่เกิน 20 บาท (155 ล้าน หาร 7.75 ล้าน) เวลาผ่านไป 2-3 ปี จริงๆ ก็น่าจะซื้อคืนๆ ไปให้หมดๆ เลยนะครับแบบนี้ ขายหุ้นเป็นเล่นขายของไปได้

คาดว่าซื้อคืนไม่เกิน 20 บาท และจะมีการขายหุ้น 8 ล้านหุ้น ในราคา 16 บาท แก่ private แต่ราคาปัจจุบัน 15 บาทนะท่าน

บอร์ดGRAMMY ลงมติขีดเส้นวงเงินสูงสุด155ลบ.ตั้งท่าซื้อหุ้นจีเอ็มเอ็ม มีเดีย
คืน-เห็นชอบให้GMMMเพิ่มทุนขายPP

นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
จำกัด (มหาชน)(GRAMMY)เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ
ครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2548ว่า อนุมัติวงเงินลงทุนสำหรับการซื้อหุ้น
ที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)GMMM จำหน่ายภายหลังการซื้อหุ้นคืน
(Treasury Stocks) เนื่องจากราคาเสนอขายหุ้นของบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด
(มหาชน)ยังไม่อาจกำหนดได้แน่นอนในขณะนี้ คณะกรรมการบริษัทจึงกำหนด
วงเงินขั้นสูงสุดที่บริษัทฯ จะสามารถซื้อหุ้นดังกล่าวได้ในวงเงิน 155 ล้านบาท
โดยราคาที่จะซื้อหุ้นดังกล่าวจะถูกกำหนดโดยกระบวนการสำรวจความต้องการ
ซื้อหลักทรัพย์(Book Building) ซึ่งเป็นการทดสอบปริมาณความต้องการซื้อของนักลง
ทุนประเภทสถาบันในแต่ระดับการเสนอขาย
เห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)
จากจำนวน200,000,000 บาท เป็นจำนวน 208,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญ
เพิ่มทุนจำนวน 8,000,000 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขายให้แก่บุคคล
ในวงจำกัด (Private Placement) ในคราวเดียวกันทั้งจำนวน 8,000,000 หุ้น
ในราคาเสนอขายหุ้นละ 16 บาท

ทำไม gmmm ต้อง pp ด้วย ในขณะที่ได้เงินมาเพียง 128 ล้านบาท เงินสดบริษัท ปี 46 มี 1086 ล้านบาท ปี 47 มี 953 ล้านบาท

ไม่เข้าใจครับ

แล้วคิดอย่างไรกับ workpoint บ้างล่ะครับ ไม่เห็นมีใครสนใจพูดถึงเลย
ส่วนตัวผมเองก็มีความเห็นเชิงบวกแน่นอน เพราะถือหุ้นอยู่ ถึงแม้ว่าจะต่ำกว่าจองแต่ผมซื้อได้ถูกกว่า คิดว่าดีเพราะรายการติดตลาดมาก ผู้บริหารดี ปัจจัยเสี่ยงคือ ตัวคุณปัญญาว่าจะมีชีวิตได้นานแค่ไหน และราคา p/bv ที่ค่อนข้างสูง แต่ดูแล้วยังเติบโตได้อีกมาก ช่วย comment ด้วยนะครับ :lol:

ทำไม gmmm ต้อง pp ด้วย ในขณะที่ได้เงินมาเพียง 128 ล้านบาท เงินสดบริษัท ปี 46 มี 1086 ล้านบาท ปี 47 มี 953 ล้านบาท

ไม่เข้าใจครับ

เพื่อขายหุ้นให้แก่ กลุ่มผู้บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด ครับ

นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด
มหาชน เปิดเผยว่า ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์
ของตลาดมีเดียและเอนเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งปัจจุบันมองว่าธุรกิจอีเว้นท์มีตลาดขนาดใหญ่และเห็น
ได้ชัดว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูงผู้บริหารแกรมมี่จึงตัดสินใจให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด
(มหาชน) (GMMM) เลือกเข้าไปลงทุนกับ บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ อีเจนซี่ มหาชน
โดยมองว่าร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวจะช่วยทำให้กลุ่ม GMMM ครองเป็นเจ้า
ตลาดด้านสื่อได้ครบทุกเซ็กเม้นท์ เพราะบริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ อีเจนซี่นั้นเป็นบริษัทที่มีความ
เชี่ยวชาญด้านสื่อและมีศักยภาพที่โดดเด่น
สำหรับเงื่อนไขการร่วมทุนนั้น GMMM ได้ลงทุนจำนวน 183 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น
ใน บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด มหาชน จำนวน 86 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้นเดิม คือกลุ่ม
กาญจนโภคิน โดยคิดเป็น 50 % จากทุนชำระแล้ว 172 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 172 ล้านหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ทั้งนี้ GMMM เห็นว่ากลุ่มผู้บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์
เอเจนซี่ จำกัด เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีส่วนเข้มมาบริหารงานใน GMMM ด้วย
พร้อมกันนี้ ทางคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8 ล้าน
หุ้น หรือคิดเป็น 3.85 % ของหุ้นทั้งหมด เพือ่ขายให้กับกลุ่มผู้บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์
เอเจนซี่ จำกัด ในราคาหุ้นละ 16 บาท โดยหลังจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้เเล้ว GMMM จะมีทุนจด
ทะเบียนที่ชำระเเล้วทั้งสิ้น 208 ล้านบาท
สำหรับบริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ อีเจนซี่ จำกัด ในปี 2547 ตามงบการเงินเสมือนรวม
กลุ่มอินเด็กซ์ มีรายได้รวม 569 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 111 %
เมือเทียบกับ ปี 2546
' เราเชื่อว่าการรวมกันครั้งนี้ จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดอย่างมหาศาล ซึ่งจะส่ง
ผลให้กับธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ จี เอ็มเอ็ม มีเดีย หรือเเม้แต่กลุ่มของอินเด็กซ์ เองขยาย
แบบก้าวกระโดด ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุดในการบริการธุรกิจแบบครบวงจรมากขึ้น' นาง
สาวบุษบา กล่าว

ไม่ทราบว่าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรครับ เพราะราคาวันนี้ ตอนนี้เหลือแค่ 14.60 บาท ซึ่งเช็คดูแล้วต่ำสุดในรอบ 2500 วันเลย และเมื่อลองเช็ค roe roa และค่าอื่นๆก็น่าสนใจครับ แต่ผมยังไม่เคยศึกษาเชิงลึกตัวนี้เลยครับ รบกวนผู้รู้ด้วยครับ :lol:

ไม่ทราบว่าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรครับ เพราะราคาวันนี้ ตอนนี้เหลือแค่ 14.60 บาท ซึ่งเช็คดูแล้วต่ำสุดในรอบ 2500 วันเลย และเมื่อลองเช็ค roe roa และค่าอื่นๆก็น่าสนใจครับ แต่ผมยังไม่เคยศึกษาเชิงลึกตัวนี้เลยครับ รบกวนผู้รู้ด้วยครับ

เพราะวิตก เกี่ยวกับ วิทยุชุมชนที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน (ถ้าคุณอยู่ย่านชานเมือง จะรับคลื่นวิทยุมีสัญญาณ พวก .75 .25)

เนื่องจากกำลังรอการบังคับใช้เรื่องกำลังส่ง ของคลื่นวิทยุชุมชนให้มีขอบข่ายการส่งที่แน่นอน (เพราะบางที่ทำการส่งแรงมากจนรบกวนสัญญาณวิทยุคลื่นหลัก)

ตามความคิดเห็นผม เรื่องวิทยุชุมชน จะการกระโดดเข้ามากินโฆษณาระดับบนคงเป็นไปไม่ได้ และ GMMM ในระยะหลังกระโดดเข้าไปเล่น รายโทรทัศน์มากขึ้น และลดการลงทุนในวิทยุลง ครับ


ส่วน workpoint ผมไม่ได้ศึกษาเลยครับ

ข้อมูลคุณโป้งดีครับ

ผมชอบข้อเท็จจริงแบบนี้

แต่ตอนนี้ไม่มีคนมา defend เลยครับ ผิดกับตอนผมพูดถึงแถวๆราคา 23-24

การออก pp นี่ดีครับ ทำให้กำไรเงินสะสมเป็นไปตามกฎ กลต ในเรื่องการซื้อคืนหุ้น

ztep เขียน: ไม่ทราบว่าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไรครับ เพราะราคาวันนี้ ตอนนี้เหลือแค่ 14.60 บาท ซึ่งเช็คดูแล้วต่ำสุดในรอบ 2500 วันเลย และเมื่อลองเช็ค roe roa และค่าอื่นๆก็น่าสนใจครับ แต่ผมยังไม่เคยศึกษาเชิงลึกตัวนี้เลยครับ รบกวนผู้รู้ด้วยครับ :lol:

ถ้ายังไม่มั่นใจในตัวธุรกิจ ขอแนะนำให้ศึกษามันก่อนจะเข้าลงทุนนะคะ แต่ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวอยากแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าลงทุนค่ะ เหมือนมีกลิ่นไม่ค่อยดีค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบครับ ตอนนี้ผมตั้งไว้ 14.60 500 หุ้นแล้ว ไม่มั่นใจก็กะซื้อน้อยๆครับ แต่ดูสถิติแล้วมันต่ำสุดเลยอยากซื้อ รบกวนผู้รู้ช่วยแสดงความเห็นในกระทู้ผมหน่อยนะครับเกี่ยวกับ oishi s&p work ขอบคุณครับ :lol:

ในระยะยาว media ไม่น่าจะสู้ content ได้นะครับ

เพราะ internet technology เป็นคู่แข่งของ media
แต่เป็นเพื่อน content

ในระยะยาว ยังไงเสีย grammy ก็ดีกว่า gmmm ครับ

ดีล อินเด็กซ์ อีเว้นท์ นี้ถ้าลองวิเคราะห์ดูคร่าวๆ ก็น่าสนใจเหมือนกันนะครับ

GMMM จ่ายเงินไป 183 ล้าน และก็ได้คืนมา 128 ล้าน จาก pp แสดงว่า จ่ายไปทั้งหมด 55 ล้าน และยอมให้มีไดลูชั่นของกำไรอีก 4% ( 8 ล้าน จาก 200 ล้านหุ้น)

สิ่งที่ได้มาก็คือหุ้นของ อินเด็กซ์ อีเว้นท์ ซึ่งปีที่แล้วกำไร 59 ล้าน คิดครึ่งบริษัทก็ 29.5 ล้าน

ลงทุน 55 ล้าน ได้กำไรเพิ่มปีละ 29.5 ล้าน (คิดไดลูท 4% ก็เหลือประมาณ 28 ล้าน) คิดเป็น พีอีก็ 2 เท่าเอง (เอ หรือ ผมคิดผิด)

ดูแล้วก็ไม่เลยเลวทีเดียวนะครับ ถ้าหาที่ลงทุนแบบนี้ได้บ่อยๆ ก็คงดี

อย่างนี้ต้องซื้อใช่ไหมครับคุณ Minesweeper

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

Minesweeper เขียน:ดีล อินเด็กซ์ อีเว้นท์ นี้ถ้าลองวิเคราะห์ดูคร่าวๆ ก็น่าสนใจเหมือนกันนะครับ

GMMM จ่ายเงินไป 183 ล้าน และก็ได้คืนมา 128 ล้าน จาก pp แสดงว่า จ่ายไปทั้งหมด 55 ล้าน และยอมให้มีไดลูชั่นของกำไรอีก 4% ( 8 ล้าน จาก 200 ล้านหุ้น)

สิ่งที่ได้มาก็คือหุ้นของ อินเด็กซ์ อีเว้นท์ ซึ่งปีที่แล้วกำไร 59 ล้าน คิดครึ่งบริษัทก็ 29.5 ล้าน

ลงทุน 55 ล้าน ได้กำไรเพิ่มปีละ 29.5 ล้าน (คิดไดลูท 4% ก็เหลือประมาณ 28 ล้าน) คิดเป็น พีอีก็ 2 เท่าเอง (เอ หรือ ผมคิดผิด)

ดูแล้วก็ไม่เลยเลวทีเดียวนะครับ ถ้าหาที่ลงทุนแบบนี้ได้บ่อยๆ ก็คงดี

จ๊าก ... กลับมาดูอีกที คิดผิด จริงๆ ด้วย มิน่าล่ะทำไมถึงดูคุ้มเกินเหตุ เพราะลืมหักไดลูทของกำไรเดิม ก็คือ 4% ของ 320 ล้าน เป็นประมาณ 12.8 ดังนั้นก็คือ ได้กำไรเพิ่มขึ้น(หักผลของการเพิ่มของจำนวนหุ้นแล้ว) ประมาณ 15 ล้าน (0.075 บาทต่อหุ้น) จากการลงทุน 55 ล้านครั้งนี้ ก็ยังน่าจะถือว่าใช้ได้ครับ

CEO เขียน:อย่างนี้ต้องซื้อใช่ไหมครับคุณ Minesweeper

เอ่อ ... ใครใคร่ซื้อ ซื้อ ใครใคร่ขาย ขาย ครับ ผมมันก็แค่คิดเลขแก้เซ็งไปเรื่อยเปื่อย ก็เท่านั้นเอง

เพราะ internet technology เป็นคู่แข่งของ media
แต่เป็นเพื่อน content

คือ GMMM มีแนวโน้ม หันไปลงทุนทางด้าน สื่อโทรทัศน์มากขึ้น ส่วน internet broadcast เขาทำอยู่แล้ว เพียงแต่กลุ่มเป้าหมายยังเจาะได้ไม่ทั่วถึง เช่น คนฟังวิทยุยังชอบฟังในรถ ไม่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อมาเปิดนั่งฟัง แบรนวิด internet ในบ้านเรายังไม่รองรับ (ขนาดอเมริกาใช้ T2 และbroadcast มีมากมาย กลุ่มคนยังฟังวิทยุมากกว่าเปิด internet เลยครับ)

สรุปคือ เทคโนโลยี สภาพแวดล้อม เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ยาก

สรุปคือ เทคโนโลยี สภาพแวดล้อม เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ยาก

technology ทำให้เกิด medium ใหม่ๆ ขึ้นมา คู่แข่งเยอะขึ้น
ในที่สุดแล้ว เทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาให้เข้าถึงตัวผู้ใช้ได้ทุกหนแห่ง
เร็ว ราคาไม่แพง สะดวก และที่สำคัญคือ ผู้ใช้มี control (หรือ interactive
นั่นแหละ)

Free TV ที่ broadcast ผ่านคลื่น RF ครองใจผู้บริโภคมาหลายสิบปี จนกระทั่ง
เกิด Cable TV ซึ่งแย่งตลาดไปได้พอสมควร

ผมคิดว่ายุค Broadband Interactive TV กำลังจะเริ่ม ในระยะเวลา 10-15 ปี
จากนี้ เราจะเห็น box ราคาถูกที่เชื่อมต่อ internet เข้ากับ TV ตามบ้านโดยตรง
ใช้ remote ของ box นี้ก็สามารถเลือกชมถ่ายทอดสดต่างๆ ละครทีวี ฯลฯ
ได้เหมือนดู DVD แถมเสียค่าใช้จ่ายไม่มากต่อการดูหนึ่งครั้ง ไม่จำเป็นต้อง
subscribe ด้วยซ้ำ

สรุปแล้ว interactive is the way to go ครับ อาจจะไม่ใช่ใน 5 ปีข้างหน้า แต่ใน
10 ปีขึ้นไป ตลาด interactive จะโตกว่าตลาด broadcast

GMMM คงต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งระดับยักษ์อย่าง SHIN และ TRUE อย่างหลีก
เลี่ยงไม่ได้ ถ้าต้องเลือกค่าย ผมว่า SHIN มีอนาคตกว่า GMMM เยอะครับ ใน
สมรภูมินี้

แต่ content จะได้ประโยชน์จากทุกฝ่าย การแข่งขันกันผลิต content จะทำได้
ยากกว่า และลูกค้ามี brand loyalty ต่อ content provider มากกว่า

คนที่ชอบฟังเพลงค่าย GRAMMY จะรู้สึกว่าเพลงค่าย RS ไม่ไพเราะเอาเสียเลย
ในขณะที่คนชอบ Bakery Music ก็จะรู้สึกว่า Grammy นี่ commercial จ๋าเลย


อีก 10 ปี ผมว่าเราน่าจะได้เห็นเครื่องรับวิทยุเล็กๆ แบบ iPod ที่สามารถเลือกเพลง
ที่ต้องการฟังแล้ว download ผ่านinternet เช่น GPRS, WiFi, ดาวเทียม,
หรือสายเคเบิ้ล ในราคาไม่ถึงหมื่น (เทียบ NPV) และค่าดาวน์โหลดเพลงเพียง
เพลงละ 15 บาท

I think ,at that time, Shin or True also might wanna merge with GMMM kor dai na khab.

SHIN has communication device and GMMM has human resource + content.

Just my guess na khab

คุณ CK มองได้ไกลมาก เหมือนจะเป็นแบบนั้น แต่กลยุทธมันอยู่ที่ความน่าสนใจ ของรายการที่ผลิต มากกว่าสื่อผ่านทางระบบไหน

ข้อดีของ free tv , radio คือ มันฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย การลงทุนในการรับสื่อที่ถูก ง่ายต่อการรับรู้ รับชม

มันอยู่ที่ว่าต้องให้เทคโนโลยีเข้าถึงผู้ใช้ง่ายขึ้น ในราคาที่ถูกหรือฟรี (ธุรกิจ GMMMหรือกลุ่มอื่นๆที่กระโดดเข้าทำธุรกิจ ต้องการรายได้จากโฆษณา และหัวใจอยู่ที่รายการผลิตต้องดึงดูดลูกค้าเป็นสำคัญ สื่อเข้าถึงผู้รับได้ทั่วถึง) สิ่งที่บอกมาคงอีกนานไม่ต่ำกว่า 10 ปี ถึงจะเข้าสู่ประชาชนวงกว้างได้

เพราะอะไร ค่าใช้จ่ายในการวางระบบไม่หมูอย่างที่คิด
แต่ล่ะเทคโนโลยี มีการลงทุนใช้มูลค่าที่สูง เช่น GPRS ลงทุนสูงมากหากจะเพิ่ม bandwidth ให้ครอบคลุมทุกสถานี เพิ่มความเร็วตั้งแต่ 128K ขึ้นไป (พวกสายเคเบิ้ล , lease line , ADSL ,T2 จะหมดไปในอีก 50 ปี โดยมี wireless เข้าแทนที่ทั้งหมด )
ADSL ยังมีใช่แค่ กทม. และเมืองใหญ่ๆ มี limit ด้านระยะทางต่อความเร็ว ค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมในวงกว้างสูงมาก มีการเสียค่าบริการ internet อุปกรณ์รับชมที่แพงกว่ามาก

ส่วน shin true จะเข้ามาเล่นในตลาดแห่งนี้ โดยอาศัยเทคโนโลยีในกลุ่มของตัวเอง คงอีกนาน ยังมีอุปสรรคหลายอย่างทั้งเรื่อง การผลิตทำรายการให้น่าสนใจ การเข้าถึงกลุ่มคน การวางระบบที่มีค่าใช้จ่ายสูง

shin มี ====>>>> IP STAR แต่ยังไม่ได้ยิ่งขึ้นไป ไม่รู้เมื่อไหร่ ยังมีปัญหาทะเลาะเรื่อง gateway กับ CAT อีกทั้งการลงทุนที่สูงเป็นประวัติกาล

TRUE มี ====>>> ADSL เป็นตัวชูโรง แต่ technology ตัวนี้ไม่สมบูรณ์แบบ ทั้งการลงทุนที่สูง จำกัดด้านระยะทางระหว่าง node , receive packet ที่สูง แต่ send ได้ต่ำ

ต่างกันอย่างยิ่งกับ Free TV , Radio ที่ครอบคลุมรัศมีการรับชม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน , อุปกรณ์ในการรับที่ถูก

สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ไม่ง่าย และความสมบูรณ์ยังมองกันไม่เห็น (3G เราคุยกันตั้ง 5 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มระบบ ,ธุรกิจผ่าน web e-commerce คุยกันมา 10 ปี ปัจจุบันความสำเร็จในธุรกิจ ผ่านสื่อตรงนี้มีบริษัทไหนบ้าง?????)

อย่าไปยุ่งกับหุ้นตัวนี้เลย คิดไปคิดมาอากู๋เหมือนกับนักมายากล เสกเงินลอยไปลอยมาจนหายไปไหนก็ไม่รู้

ซื้อไปแล้วครับหุ้นตัวนี้ แย่จังที่ไม่มั่นใจแต่อดใจไม่ไหวเลยซื้อไปไม่มากหรอก ได้ทุนเฉลี่ย 14.64 คิดว่ากำไรอนาคตถ้าตกลงอีกก็น่ารับได้เพราะ pe ต่ำ ปันผลสูง ส่วน p/bv ที่มันสูงเพราะธุรกิจบันเทิงไม่น่าต้องใช้สินทรัพย์มาก ค่า roe roa ก็เยี่ยม แต่ยอมรับว่าไม่มั่นใจในอนาคต

คิดกันอย่างไรกับ marketing บ้างครับ ผมซื้อผ่านเน็ตตลอดเลย ไม่ได้ใช้บริการพวกนี้เลย กลัวจะถูกอำนาจมืด(เก็งกำไร) จากพวกนี้ครอบงำ ตอนนี้ไม่ใช้ก็สุขสบายดี ได้เฉพาะปันผล+เครดิตภาษี รวมๆแล้วครบปีน่าจะ 10% ได้มัง ไม่รวม cap gain อีกนะครับ คิดไงบ้างกับพวกนี้ครับ :lol:

โป้ง เขียน: shin มี ====>>>> IP STAR แต่ยังไม่ได้ยิ่งขึ้นไป ไม่รู้เมื่อไหร่ ยังมีปัญหาทะเลาะเรื่อง gateway กับ CAT อีกทั้งการลงทุนที่สูงเป็นประวัติกาล

TRUE มี ====>>> ADSL เป็นตัวชูโรง แต่ technology ตัวนี้ไม่สมบูรณ์แบบ ทั้งการลงทุนที่สูง จำกัดด้านระยะทางระหว่าง node , receive packet ที่สูง แต่ send ได้ต่ำ

ต่างกันอย่างยิ่งกับ Free TV , Radio ที่ครอบคลุมรัศมีการรับชม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน , อุปกรณ์ในการรับที่ถูก

สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ไม่ง่าย และความสมบูรณ์ยังมองกันไม่เห็น (3G เราคุยกันตั้ง 5 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มระบบ ,ธุรกิจผ่าน web e-commerce คุยกันมา 10 ปี ปัจจุบันความสำเร็จในธุรกิจ ผ่านสื่อตรงนี้มีบริษัทไหนบ้าง?????)

SHIN เห็นว่าล่าสุดเข้าไปทำ Broadband media เรื่องของ BuddyBB ด้วยนะครับ แล้วก็เริ่มจับมือกับผู้ผลิต content บางส่วน

เห็นด้วยเรื่อง ADSL คิดว่าในระยะยาวไม่น่าจะดีครับ เพราะผู้ใช้ก็แย่งกันใช้คอขวดในที่สุด

ส่วนเรื่องการทำ e commerce ที่ประสบความสำเร็จเร็ว ๆ นี้ก็คงจะเป็น iTunes ที่ทำให้มีคนอยากเจริญรอยตาม ผมยังสังเกตว่ามีผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะที่มี content อยู่ในมือ และ content provider จะหาทางสร้างรายได้จากตรงนี้ครับ เพราะเมื่อ broadband มา การขาย content จะไม่จำกัดอยู่เฉพาะ ringtone หรือ Logo แล้ว แต่จะเป็นการขายเพลง หรือ music video เลยครับ เห็นเล็งกันอยู่หลายเจ้า ยังไม่รู้ว่าใครจะมีผลงานให้ดูก่อนกัน

ไม่อยากให้มองติดเรื่อง broadband media ครับ

GMMM ต้องการรายได้จากโฆษณา โดยไม่ได้เก็บจากผู้ชม (คนล่ะอย่างกับ UBC นะ)

เพราะฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง ให้รายการครอบคลุมการรับชม,รับฟัง โดยประชาชนไม่ต้องกวักกระเป๋าตังจ่าย

(อยากจะบอกว่า เรื่องนี้ GMMM ก็ยังทำเป็นเจ้าแรกๆเลยล่ะ แต่ไม่ค่อยสำเร็จเนื่องการกระจายได้ไม่ครอบคลุมเหมือน วิทยุ โทรทัศน์ ลองไปดูได้ที่ www.atimemedia.com)

ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ทุกวันนี้เราสามารถ trade ซื้อขายหุ้น ผ่าน โทรศัพท์ , pocket pc ได้ คิดว่าจะมีซักกี่คนเมื่อเทียบกับ ใช้คอมตั้งโต๊ะ , หรือโทรไปหาโบรก

หรืออีกตัวอย่าง เรามี notebook มาตั้งนาน แสนนาน ราคาก็ถูกลงทุกวัน ผมยังไม่เห็นมันจะเข้ามาโล๊ะ desktop ให้หมดไปจากโลกได้ ในทางกลับกัน desktop ยังครองตลาดการใช้มากที่สุด (มันมีหลายปัจจัย)

ADSL ถ้าคิดว่าไม่ดีผมว่าต้องศึกษาเกาหลีใต้เป็นตัวอย่างครับ กลายเป็นประเทศที่ xDSL เจริญที่สุดในโลกไปแล้ว