ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 31
สนใจ TAPAC มั้ยครับ
ไอพีโอ 12.5 ตอนนี้ 8.85 ลด 29.2% เป็นหุ้นตัวเล็ก ตลาด MAI มีแนวโน้มการเติบโตสูง ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารเป็นคนญี่ปุ่น ทำอุปกรณ์เฟืองในพวกแฟกซ์ และพรินเตอร์
ไอพีโอ เพื่อไปใช้หนี้ที่ได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตไปแล้ว และ ปีที่แล้วไม่จ่ายปันผล
ไอพีโอ 12.5 ตอนนี้ 8.85 ลด 29.2% เป็นหุ้นตัวเล็ก ตลาด MAI มีแนวโน้มการเติบโตสูง ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารเป็นคนญี่ปุ่น ทำอุปกรณ์เฟืองในพวกแฟกซ์ และพรินเตอร์
ไอพีโอ เพื่อไปใช้หนี้ที่ได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตไปแล้ว และ ปีที่แล้วไม่จ่ายปันผล
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 32
เฮ้อ... เห็นกระทู้นี้แล้วปลงอนิจจังกับ underwriter และ Financial advisor ของเราจริงๆ นี่ตลาดไม่มีบทลงโทษอะไรเลยเหรอ?? ปล่อยให้เอาแต่โทษว่าเพราะภาวะตลาดไม่ดีเลยร่วง
เอาแบบนี้ดีมั้ย ให้ underwriter และ Financial advisor รับประกันด้วยการเข้ามาร่วมถือหุ้นที่ราคา ipo แล้วติด silent period สัก 2 ปี
ก็ถ้ามั่นใจว่าเสนอขายในราคายุติธรรม และมี ROI ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ ต่อให้ต้องไปกู้มาร่วมถือหุ้น ก็ไม่น่าจะกลัวนะครับ
เอาแบบนี้ดีมั้ย ให้ underwriter และ Financial advisor รับประกันด้วยการเข้ามาร่วมถือหุ้นที่ราคา ipo แล้วติด silent period สัก 2 ปี
ก็ถ้ามั่นใจว่าเสนอขายในราคายุติธรรม และมี ROI ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ ต่อให้ต้องไปกู้มาร่วมถือหุ้น ก็ไม่น่าจะกลัวนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 33
ถ้ากฎนี้ออกมา รับรองราคาหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหลายร่วงระนาวครับ
แต่ตลาดคงไม่ยอมหรอกครับ เพราะเป้าหมายหลักคือ การเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียน และเพิ่มนักลงทุนรายย่อย แต่ไม่ต้องเน้นคุณภาพครับ เน้นแต่ปริมาณตัวเลข เห็นชัดดี ถ้าเน้นคุณภาพ ตัวเลขอาจลด
แต่ตลาดคงไม่ยอมหรอกครับ เพราะเป้าหมายหลักคือ การเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียน และเพิ่มนักลงทุนรายย่อย แต่ไม่ต้องเน้นคุณภาพครับ เน้นแต่ปริมาณตัวเลข เห็นชัดดี ถ้าเน้นคุณภาพ ตัวเลขอาจลด
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- ผู้ติดตาม: 0
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 34
ถ้าต้องกู้มาร่วมถือหุ้น ผมว่า กู้เงินมาทำธุรกิจจะง่ายกว่าครับ ตลาดหุ้นมีเพื่อลดการกู้เงินของธุรกิจอยู่แล้วนะ
ถ้าขายหุ้นไม่หมด underwriter ก็ต้องรับซื้อเองอยู่แล้วครับ ผมว่าปัญหาอยู่ที่ความโลภของนักลงทุนเราเองนี่แหละที่อยากได้ผลตอบแทนสูงๆ หรือไม่ก็ซื้อไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ถ้าเราคิดว่าหุ้นแพงไม่เหมาะกับราคา เราไม่ซื้อก็ได้นี่ครับ หากนักลงทุนไม่พอใจกับความเสียหายมากๆ จนไม่ซื้อ IPOเลย..บริษัทระดมทุนไม่ได้เลย ตรงนี้จึงจะมีจุดเปลี่ยนครับ
ถ้าขายหุ้นไม่หมด underwriter ก็ต้องรับซื้อเองอยู่แล้วครับ ผมว่าปัญหาอยู่ที่ความโลภของนักลงทุนเราเองนี่แหละที่อยากได้ผลตอบแทนสูงๆ หรือไม่ก็ซื้อไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ถ้าเราคิดว่าหุ้นแพงไม่เหมาะกับราคา เราไม่ซื้อก็ได้นี่ครับ หากนักลงทุนไม่พอใจกับความเสียหายมากๆ จนไม่ซื้อ IPOเลย..บริษัทระดมทุนไม่ได้เลย ตรงนี้จึงจะมีจุดเปลี่ยนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 35
ก็นี่แหละครับ ที่เป็น conflict of interestjaychou เขียน:ถ้าขายหุ้นไม่หมด underwriter ก็ต้องรับซื้อเองอยู่แล้วครับ ผมว่าปัญหาอยู่ที่ความโลภของนักลงทุนเราเองนี่แหละที่อยากได้ผลตอบแทนสูงๆ หรือไม่ก็ซื้อไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ถ้า underwriter ไม่อยากรับซื้อเอง ก็ต้องหาคนอื่นมาซื้อ ด้วยวิธีการไหนน่ะหรือครับ?
แต่งงบฯ อุปโลกยอดจองของสถาบัน (จะเอากี่เท่าดีล่ะ โม้ได้ทั้งนั้นเพราะไม่ต้องมีหลักฐานอะไร?)
ใช่ครับที่ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะความโลภ คนที่เข้ามาในตลาดมันก็โลภทั้งนั้น ถ้าพอแล้วจะเข้ามาทำอะไร?jaychou เขียน:ถ้าเราคิดว่าหุ้นแพงไม่เหมาะกับราคา เราไม่ซื้อก็ได้นี่ครับ หากนักลงทุนไม่พอใจกับความเสียหายมากๆ จนไม่ซื้อ IPOเลย..บริษัทระดมทุนไม่ได้เลย ตรงนี้จึงจะมีจุดเปลี่ยนครับ
ผมยกตัวอย่างแล้วกัน ถ้าเข้าไปซื้อทองในร้าน เจ้าของก็บอกว่าเป็นของแท้ แต่สุดท้ายปรากฏว่าโดนย้อมแมว ความผิดอยู่ที่ผู้ซื้อเท่านั้นใช่มั้ยครับที่ได้ของที่มีคุณภาพไม่ตรงกับที่ผู้ขายอ้าง
หรือกฏหมายจะสรุปได้แค่ว่า ช่วยไม่ได้ อยากโง่เอง ไม่ดูให้ดีก่อนซื้อ
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 37
ก็เพราะ "โลภ" ไงครับพี่Jeng เขียน:คำถาม IPO ล่วงขนาดนี้ ทำไมยังมีคนซื้ออีก
เหมือนหุ้นปั่นนั่นแหละ รู้ทั้งรู้ว่ามีรายใหญ่เล่นอยู่ก็ดันทะลึ่งเข้าไปเล่นกับเค้าด้วย เพราะนึกว่าจะมีคนมารับช่วงต่อ
พอคลุกวงในไปสักพัก พึ่งนึกออกว่า รายใหญ่เค้าเล่นเพื่อกินเงินรายย่อย แล้วเรา (ที่เป็นรายย่อย) จะไปกินเงินใครต่อดีหว่า??
- nana
- Verified User
- โพสต์: 209
- ผู้ติดตาม: 0
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 38
ความผิดน่าจะอยู่ที่ผู้ขายสิคะ เค้าหลอกเรานี่ ฉ้อโกงนะคะนั่นผมยกตัวอย่างแล้วกัน ถ้าเข้าไปซื้อทองในร้าน เจ้าของก็บอกว่าเป็นของแท้ แต่สุดท้ายปรากฏว่าโดนย้อมแมว ความผิดอยู่ที่ผู้ซื้อเท่านั้นใช่มั้ยครับที่ได้ของที่มีคุณภาพไม่ตรงกับที่ผู้ขายอ้าง
ไม่หรอกค่ะ แต่งงบก็มีโทษตามกฎหมายหรือกฏหมายจะสรุปได้แค่ว่า ช่วยไม่ได้ อยากโง่เอง ไม่ดูให้ดีก่อนซื้อ
all valuations are biased
และนักวิเคราะห์ก็ไม่เป็นกลางโดยเฉพาะนักวิเคราะห์ของ
investment bank ที่ underwrite ด้วย อย่าได้เชื่อเชียวนะคะ ท่านนักลงทุนที่เคารพ
Markets can remain irrational longer than you can remain solvent. -John Maynard Keynes
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 39
ตรวจชีพจรไอพีโอปี47ราคารูดต่ำจอง20บริษัทจาก50บริษัท
โดย ผู้จัดการรายวัน 6 พฤษภาคม 2548 19:34 น.
ผู้จัดการรายวัน - หุ้นถูกมีให้เลือกเกลื่อนตลาดหลังปัจจัยลบในและนอกประเทศกระแทกใส่ตลาดหุ้นไทย ส่งผลหุ้นน้องใหม่ปี 2547 ได้รับผลกระทบ 30 บริษัทราคารูดต่ำจอง กลายเป็นหุ้นราคาถูก สำรวจพบมีเพียง 16 บริษัทในกระดาน SET ยืนเหนือราคาจอง จากจำนวนทั้งหมด 36 บริษัท นำโดย GBX เพิ่มขึ้น 276%, BLISS เพิ่มขึ้น 125%, TOP เพิ่มขึ้น 98%, ส่วน mai มีเพียง 4 บริษัทจาก 14 บริษัทเท่านั้นที่ยืนเหนือจอง UMS เพิ่มขึ้น 96%, LVT เพิ่มขึ้น 92%, PPM เพิ่มขึ้น 23%
ในช่วงปี 2547 ที่ผ่านมาจากนโยบายกระตุ้นบริษัทให้เข้าจดทะเบียในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET) รวม 36 บริษัท และในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ รวม 14 บริษัท รวมทั้งสิ้น 50 บริษัท
โดยในจำนวนนี้เป็นบริษัทที่แปรรูปจากรัฐวิสาหกิจเป็นเอกชนเข้าตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัท คือบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT
SETเหนือจองแค่16บริษัท
"ผู้จัดการรายวัน" ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลท.ปี 2547 ทั้ง 50 บริษัท พบว่ามีพียง 20 บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์(SET) และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ หรือ เอ็มเอไอ (mai) ที่ราคาหุ้น ณ วันที่ 4 พ.ค.ยังยืนเหนือราคาจอง (ไอพีโอ หรือ ราคาเสนอขายให้กับประชาชนครั้งแรก)ได้
ทั้งนี้บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ (SET) จำนวน 36 บริษัทมีจำนวน 16 บริษัทที่ราคาหุ้น ณ วันที่ 4 พ.ค. สามารถปิดเหนือราคาจองได้ โดยบริษัทที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวเหนือราคาจองสูงสุด คือ 1.บริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX ราคาปิด 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 6.35 บาทหรือ 276.08% 2.บริษัทบริสเทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ราคาปิด 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท หรือ 125% 3.บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาปิดที่ 63.5 บาท เพิ่มขึ้น 31.5 บาท หรือ 98.43%
ขณะที่มีจำนวน 20 บริษัทที่ราคาหุ้นปิดต่ำกว่าราคาจอง โดยหุ้นที่ราคาปิดลดลงจากราคาจองมากที่สุด คือ 1.บริษัทนวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL ราคาปิดที่ 10.3 บาท ลดลง 14.7 บาท หรือ 58.8% 2.บริษัทดี อี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ DE ราคาปิดที่ 1.81 บาท ลดลง 2.49 บาท หรือ 57.9% 3.บริษัท แกรน แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND ราคาปิดที่ 2.26 บาท ลดลง 2.59 บาท หรือ 53.4%
maiต่ำจอง10บริษัท
ส่วนบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ(mai)จำนวน 14 บริษัทมี 4 บริษัทที่ราคาหุ้น ณ วันที่ 4 พ.ค.ราคาปิดยังยืนเหนือราคาจองโดยบริษัทที่ราคามีกาปรับตัวเหนือราคาจองสูงสุด คือ 1.บริษัทยูนิค ไมนิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ UMS ราคาปิดที่ 15.6 บาท เพิ่มขึ้น 7.65 บาท หรือ 96.22 % 2.บริษัทแอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT ราคาปิดที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 1.84 บาทหรือ 92% 3.บริษัทพรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM ราคาปิดที่ 3.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.73 บาทหรือ 23.93%
ขณะที่มีจำนวน 10 บริษัทที่ราคาหุ้นปิดต่ำกว่าราคาของซื้อโดยหุ้นที่ปิดลดลงมากที่สุด คือ 1.บริษัทปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ PICO ราคาปิดที่ 2.3 บาท ลดลง 3.95บาท หรือ 63.2% 2.บริษัทบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ราคาปิดที่ 1.88 บาท ลดลง 1.92 บาท หรือ 50.52% 3.บริษัทธนมิตร แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ DM ราคาปิดที่ 9.4 บาท ลดลง 4.9 บาท หรือ 34.26%
ทั้งนี้มี 3 บริษัทที่มีการแตกพาร์ คือบริษัท เอ็น.ซี.เฮาส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH (แตกพาร์จาก 5 บาทเป็น 1 บาท),บริษัทเอเซียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI (แตกพาร์จาก 5 บาทเป็น 1 บาท) และบริษัทเชอร์วู้ด เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ SWC (แตกพาร์จาก 5 บาทเป็น 1 บาท)
อนึ่งมี 1 บริษัทที่มีการเปลี่ยนชื่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ คือ บริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK จากเดิมใช้ชื่อ ICT
เคจีไอ-ซีมิโก้-ไซรัสครองตลาดmai
ขณะที่ในช่วงปี 2547 มาบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET)ปีที่ผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส ยังคงเป็นที่หนึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 6 บริษัท ตามด้วยบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ และบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 4 บริษัท
ตามด้วยบริษัทหลักทรัพย์ภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้และบริษัทหลักทรัพย์ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 3 บริษัท ด้านบริษัทหวลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย, บริษัทยูไนเต็ด แอ็ดไวเซอรี่ เซอร์วิสและบริษัทซิกโก้ แอดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 2 บริษัท
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ อินเทลวิชั่น, บริษัทเพลินจิตแอ็ดไวเซอรี่, บริษัทดีเอส พรูเดนเซียล แมเนจเมนท์, บริษัทไอเอฟซีที แอดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 1 บริษัท
ในส่วนของเป็นที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทที่เข้าระดมทุนในตลาดเอ็มเอไอ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)และบริษัทหลักทรัพย์ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 3 บริษัท ตามด้วยบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 2 บริษัท ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน, บริษัทหลักทรัพย์ยูไนเต็ดและบริษัท ไอเอฟซีที แอดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 1 บริษัท
โดย ผู้จัดการรายวัน 6 พฤษภาคม 2548 19:34 น.
ผู้จัดการรายวัน - หุ้นถูกมีให้เลือกเกลื่อนตลาดหลังปัจจัยลบในและนอกประเทศกระแทกใส่ตลาดหุ้นไทย ส่งผลหุ้นน้องใหม่ปี 2547 ได้รับผลกระทบ 30 บริษัทราคารูดต่ำจอง กลายเป็นหุ้นราคาถูก สำรวจพบมีเพียง 16 บริษัทในกระดาน SET ยืนเหนือราคาจอง จากจำนวนทั้งหมด 36 บริษัท นำโดย GBX เพิ่มขึ้น 276%, BLISS เพิ่มขึ้น 125%, TOP เพิ่มขึ้น 98%, ส่วน mai มีเพียง 4 บริษัทจาก 14 บริษัทเท่านั้นที่ยืนเหนือจอง UMS เพิ่มขึ้น 96%, LVT เพิ่มขึ้น 92%, PPM เพิ่มขึ้น 23%
ในช่วงปี 2547 ที่ผ่านมาจากนโยบายกระตุ้นบริษัทให้เข้าจดทะเบียในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET) รวม 36 บริษัท และในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ รวม 14 บริษัท รวมทั้งสิ้น 50 บริษัท
โดยในจำนวนนี้เป็นบริษัทที่แปรรูปจากรัฐวิสาหกิจเป็นเอกชนเข้าตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัท คือบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT
SETเหนือจองแค่16บริษัท
"ผู้จัดการรายวัน" ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลท.ปี 2547 ทั้ง 50 บริษัท พบว่ามีพียง 20 บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์(SET) และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ หรือ เอ็มเอไอ (mai) ที่ราคาหุ้น ณ วันที่ 4 พ.ค.ยังยืนเหนือราคาจอง (ไอพีโอ หรือ ราคาเสนอขายให้กับประชาชนครั้งแรก)ได้
ทั้งนี้บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ (SET) จำนวน 36 บริษัทมีจำนวน 16 บริษัทที่ราคาหุ้น ณ วันที่ 4 พ.ค. สามารถปิดเหนือราคาจองได้ โดยบริษัทที่ราคาหุ้นมีการปรับตัวเหนือราคาจองสูงสุด คือ 1.บริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX ราคาปิด 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 6.35 บาทหรือ 276.08% 2.บริษัทบริสเทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ราคาปิด 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท หรือ 125% 3.บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาปิดที่ 63.5 บาท เพิ่มขึ้น 31.5 บาท หรือ 98.43%
ขณะที่มีจำนวน 20 บริษัทที่ราคาหุ้นปิดต่ำกว่าราคาจอง โดยหุ้นที่ราคาปิดลดลงจากราคาจองมากที่สุด คือ 1.บริษัทนวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL ราคาปิดที่ 10.3 บาท ลดลง 14.7 บาท หรือ 58.8% 2.บริษัทดี อี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ DE ราคาปิดที่ 1.81 บาท ลดลง 2.49 บาท หรือ 57.9% 3.บริษัท แกรน แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND ราคาปิดที่ 2.26 บาท ลดลง 2.59 บาท หรือ 53.4%
maiต่ำจอง10บริษัท
ส่วนบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ(mai)จำนวน 14 บริษัทมี 4 บริษัทที่ราคาหุ้น ณ วันที่ 4 พ.ค.ราคาปิดยังยืนเหนือราคาจองโดยบริษัทที่ราคามีกาปรับตัวเหนือราคาจองสูงสุด คือ 1.บริษัทยูนิค ไมนิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ UMS ราคาปิดที่ 15.6 บาท เพิ่มขึ้น 7.65 บาท หรือ 96.22 % 2.บริษัทแอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT ราคาปิดที่ 3.84 บาท เพิ่มขึ้น 1.84 บาทหรือ 92% 3.บริษัทพรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM ราคาปิดที่ 3.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.73 บาทหรือ 23.93%
ขณะที่มีจำนวน 10 บริษัทที่ราคาหุ้นปิดต่ำกว่าราคาของซื้อโดยหุ้นที่ปิดลดลงมากที่สุด คือ 1.บริษัทปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ PICO ราคาปิดที่ 2.3 บาท ลดลง 3.95บาท หรือ 63.2% 2.บริษัทบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ราคาปิดที่ 1.88 บาท ลดลง 1.92 บาท หรือ 50.52% 3.บริษัทธนมิตร แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ DM ราคาปิดที่ 9.4 บาท ลดลง 4.9 บาท หรือ 34.26%
ทั้งนี้มี 3 บริษัทที่มีการแตกพาร์ คือบริษัท เอ็น.ซี.เฮาส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH (แตกพาร์จาก 5 บาทเป็น 1 บาท),บริษัทเอเซียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI (แตกพาร์จาก 5 บาทเป็น 1 บาท) และบริษัทเชอร์วู้ด เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ SWC (แตกพาร์จาก 5 บาทเป็น 1 บาท)
อนึ่งมี 1 บริษัทที่มีการเปลี่ยนชื่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ คือ บริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK จากเดิมใช้ชื่อ ICT
เคจีไอ-ซีมิโก้-ไซรัสครองตลาดmai
ขณะที่ในช่วงปี 2547 มาบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET)ปีที่ผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส ยังคงเป็นที่หนึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 6 บริษัท ตามด้วยบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ และบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 4 บริษัท
ตามด้วยบริษัทหลักทรัพย์ภัทร, บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้และบริษัทหลักทรัพย์ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 3 บริษัท ด้านบริษัทหวลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย, บริษัทยูไนเต็ด แอ็ดไวเซอรี่ เซอร์วิสและบริษัทซิกโก้ แอดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 2 บริษัท
บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย), บริษัทหลักทรัพย์ อินเทลวิชั่น, บริษัทเพลินจิตแอ็ดไวเซอรี่, บริษัทดีเอส พรูเดนเซียล แมเนจเมนท์, บริษัทไอเอฟซีที แอดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 1 บริษัท
ในส่วนของเป็นที่ปรึกษาทางการเงินบริษัทที่เข้าระดมทุนในตลาดเอ็มเอไอ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)และบริษัทหลักทรัพย์ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 3 บริษัท ตามด้วยบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 2 บริษัท ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน, บริษัทหลักทรัพย์ยูไนเต็ดและบริษัท ไอเอฟซีที แอดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแห่งละ 1 บริษัท
Impossible is Nothing
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
ประกวด IPO ที่ล่วงเป็น % ที่มากที่สุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา
โพสต์ที่ 41
"ฉ้อโกง"nana เขียน:ความผิดน่าจะอยู่ที่ผู้ขายสิคะ เค้าหลอกเรานี่ ฉ้อโกงนะคะนั่น
underwriter ทราบแล้วเปลี่ยน