Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เป็นกำลังใจให้เพื่อนผู้ร่วมเดินในเส้นทางสายนี้ทุกท่านนะครับ

เงินจากหุ้น ตอนนี้ ล้านสามแล้ว
แต่เงินเก็บ ก็อีกเกือบล้านนึง
ผมไม่ได้ลงหุ้น 100%

แต่เงินที่เล่นหุ้น จะไ่ม่ใ่ส่เพิ่ม จะไม่เอาออก
ปีหน้าไม่รู้จะได้เท่าไหร่
ปีนี้ ได้จาก กระทิง คิดอะไรเหมือนจะถูกไปหมด
แต่ปีหน้า ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้ก็ได้แต่ลงทุน ในบริษัท  knowledge ไปก่อน
เสียดายเวลากับเงินที่เจ๊งไปกับธุรกิจเป็นล้าน

ถ้าเอามาลงหุ้น คงได้เยอะ
เป็นช่วงปีที่ผมหันไปสนใจเรื่องอื่น
เป็นช่วงที่เพื่อนๆ พี่ เ้ข้าสู่ อิสระภาพ
เป็นช่วงที่ผม อหังกา ดูหมิ่น คนอื่น
นึกแล้วอนาถตัวเอง

nut776 เขียน: ถ้าเอามาลงหุ้น คงได้เยอะ
เป็นช่วงปีที่ผมหันไปสนใจเรื่องอื่น
เป็นช่วงที่เพื่อนๆ พี่ เ้ข้าสู่ อิสระภาพ
เป็นช่วงที่ผม อหังกา ดูหมิ่น คนอื่นนึกแล้วอนาถตัวเอง

ช่วยแชร์ประสบการณ์ตรงนี้บ้างซิครับ อยากรู้

picklife เขียน:

nut776 เขียน: ถ้าเอามาลงหุ้น คงได้เยอะ
เป็นช่วงปีที่ผมหันไปสนใจเรื่องอื่น
เป็นช่วงที่เพื่อนๆ พี่ เ้ข้าสู่ อิสระภาพ
เป็นช่วงที่ผม อหังกา ดูหมิ่น คนอื่นนึกแล้วอนาถตัวเอง

อยากรู้

หลังจากเข้าสู่ตลาดหุ้น ปี 46-47
ผมก็พยายามอ่านหนังสือ หมกหมุ่นอยู่กับ
ตัวเลขขายฝัน
พวกทบต้นเท่านี้ กี่ปีจะได้เท่าไหร่
จึงเจียดเงิน 200000 มาลองวิชา
พร้อมทั้งพยายามหาความน่าจะเป็น
ในเชิงคุณภาพว่า ตัวเลขขายฝันนั้นมันจะเป็นไปได้แค่ไหน
โดยในความรู้สึกผม
ผมรู้สึก มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยในตลาดหุ้นไทย
อีกทั้งเราไม่ได้เข้า่ตลาดช่วงตกต่ำ
เหมือน ดร.นิเวศน์
พร้อมด้วยช่วงนั้น เป็นช่วงที่ผมและคนรู้จักชักชวนกันทำธุรกิจ (แอบไม่บอกนะครับ)
ผมจึุงสนใจเรื่อง การตลาด การบริหารต่างๆ
ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วว่า เมื่อก่อนชุมชน thaivi
มันเป็นแค่ เวปบลอก หรือเวปเพจ อะไรง่ายๆเล็กๆ
ก่อน แล้วค่อยมาเป็นดังปัจจุบัน

เวลาผม เห็นเพื่อนๆ พี่ คุยกัีนเกี่ยวกับเรื่อง ตัวเลข
โน่น นั่น นี่ หรือ พูดคุย เรื่องหุ้น
ผมรู้สึก มัน silly มาก
เพราะเราสำคัญตนผิดว่า
เราเปิดบริษัท เราได้เรียนรู้ทุกอย่าง
มากกว่าการอ่านงบเป็น
เราต้องหัดโกงบัญชี เราต้องประชุม
เราต้องถกกันเรื่อง การตลาด การบริหาร
ซึ่งผมมองว่าคนที่มองแต่ตัวเลขในกระดาษ
จะมารู้อะไร
(ส่วนนึงผมมองแ้ล้วตอนนั้นว่า ความน่าจะเป้นที่จะ
รวยตามตัวเลขขายฝันนั้นเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่จะเป็นไป
ได้ึคือ  การเป็นเจ้าของธุรกิจเท่านั้น)

ผมหายจากบอร์ด ไปหลายปี เพราะ
ทุกครั้งที่แวะ เข้ามา
จะมีความรู้สึกเหมือน ดู คนตาบอดคลำช้าง
ไม่ก็ เด็กคุยเรื่อง แฟนตาซีกัน
ผมไม่ได้อ่านหนังสือหุ้นเป็นปีๆ สองสามเดือนดูพอร์ทที
แต่สุดท้าย ผมเจ๊งธุรกิจ
กลับมาเป็น ลูำกจ้างเหมือนเดิม
รู้สึกมีเวลาว่างกลับมามองหุ้น
พอเข้ามาอีกที เห็น คนที่เรามองว่า silly
จริงมันก็คือ ตัวเราเองต่างหาก
ยิ่งเห็นหลายๆคนร่ำรวยและอิสระภาพ
เลยนึกอนาถตัวเอง ที่ผยอง พองขน
ทุกวันนี้ต้องเจียมเนื้อ เจียมตัว
ไม่มีความรู้จะบอกใคร เพราะรู้สึกใครๆ
แม่มก็เก่งกว่ากรู (ไม่เหมือนเมื่อก่อนคิดว่า
แม่มก็คุยกันแต่เรื่องที่กรู เชี่ยวแล้ว)
มีแค่ ประสพการณ์ ที่เคยผ่าน
เช่น การติด หลายดอย หลายปี
ธรรมชาติ ของหุ้นบางตัว

อดทน อดทน และ อดทน

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ผมก้อเป็นคนนึงที่ เพิ่งได้ 1 ล้านบาทแรกในชีวิตครับ ภูมิใจมากครับ

ผลตอบแทนที่ผ่านมา ของผมถึงแม้จะน้อยนิด สู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก้อพอใจครับ

เริ่มเก็บเงิน ลงทุน มาจะครับ 3 ปี สิ้นปีนี้แล้วครับ

Ramese เขียน:เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ผมก้อเป็นคนนึงที่ เพิ่งได้ 1 ล้านบาทแรกในชีวิตครับ ภูมิใจมากครับ

ผลตอบแทนที่ผ่านมา ของผมถึงแม้จะน้อยนิด สู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก้อพอใจครับ

เริ่มเก็บเงิน ลงทุน มาจะครับ 3 ปี สิ้นปีนี้แล้วครับ

ยินดีด้วยครับ
ถ้าพอจะแชร์ประสบการณ์ และข้อคิดในการลงทุนมาด้วยจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะครับ

Skyforever เขียน:

Ramese เขียน:เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ผมก้อเป็นคนนึงที่ เพิ่งได้ 1 ล้านบาทแรกในชีวิตครับ ภูมิใจมากครับ

ผลตอบแทนที่ผ่านมา ของผมถึงแม้จะน้อยนิด สู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก้อพอใจครับ

เริ่มเก็บเงิน ลงทุน มาจะครับ 3 ปี สิ้นปีนี้แล้วครับ

ยินดีด้วยครับ
ถ้าพอจะแชร์ประสบการณ์ และข้อคิดในการลงทุนมาด้วยจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะครับ

เริ่มสนใจลงทุนครั้งแรก เพราะ เวป thaivi เลยครับ ขอยก เครดิตให้เลยครับ อ่านตะแกรงร่อนหุ้น ตามด้วย ร้อยคนร้อยหุ้น
อ่านหนังสือเยอะครับ เริ่มจากตีแตกเป็น เล่มแรก ตามมาด้วย
หนังสือแปล แนว vi พวก peter lynch, john neff, one up on wall street, the intellegent investor.ตอนเริ่มเลยน่ะครับ ตัวแรกที่ซื้อ นี่ cpall เลย ตามมาด้วย wg และ tr

เริ่มลงทุนด้วยเงิน 50000 บาท เป็นเงินเก็บก้อนแรก พอเงินเดือนออกก้อ เก็บ เดือน ล่ะ 10000บาท บ้าง 15000 บ้าง โบนัสออกก้อแบ่งออกมาลงในหุ้น หมด 100% แบบ ดร.นิเวศน์เลย

พอมาเจอวิกฤษ แฮมเบอร์เกอร์นี่  เลยขาดทุนแต่นิดหน่อยเพราะ cpall ช่วยไว้แต่ tr กับ wg ขาดทุน แต่ก้อไม่ได้ขาย + เงินลงทุนครั้งแรกน้อยด้วย
เงินเดือนออกก้อซื้อ เฉลี่ยไปเรื่อย
มีเงินเพิ่มก้อ ค่อยๆซื้อเพิ่ม เช่น se-ed, tpac, sis, tnh, ptl , cm
ขายหมูไปก้อเยอะ ลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆๆ ดูเป็นแต่ค่า p/e  ป
dcf นี่คิดไม่เป็นครับ เลยติดกับดัก จะหาซื้อแต่หุ้น p/e ต่ำกว่า 10 หุ้น p/e สูงแบบ cpall ขายไปตั้งแต่ 15 บาทแล้ว หลังจากนั้นก้อไม่ได้ซื้ออีกเลย

ปัจจุบัน ปรับ port ไปเรื่อยๆๆ ปรับไปปรับมา ผลตอบแทนยิ่งน้อยลง ฮะฮะ
อยู่เฉยๆๆ คงได้มากกว่านี้

ตอนนี้ก้อ ตั้งเป้าใหม่ อีก 3 ปีข้างหน้า เป้าหมาย คือ 2 ล้านบาท แต่กะจะไม่ลงเงินเพิ่มแล้ว ต้อง เก็บเงินไปทำอย่างอื่นครับ (เก็บเงินขอสาวแต่งงาน)

ผมเสียดายเวลามาก  ปีหน้า อายุ 33 แล้ว เพิ่งเริ่มเก็บเงิน ตอนอายุ 30 แต่ก่อนเที่ยวเล่นมาเยอะ เล่นการพนัน ใช้เงินไม่เป็น เดี๋ยวนี้เลิกหมด เริ่มวางเป้าหมายในชีวิต

จุดเปลี่ยนเพราะเวป thaivi เลยครับ เวปนี้ดีมากๆๆ
ขอบคุณพี่ๆๆ ทุกคนครับ

ผมลงทุนมา7ปี
พอๆกับที่รู้จักthaivi
กว่าจะได้แสนแรกเสียค่าเทอมไปพอดู
ไม่นับเวลาที่ลงทุนไป
วันนี้ unrealized profit break million แล้ว
ดีใจน้อยกว่ากลับจากขาดทุนเปนกำไรหนึ่งแสนอีก เพราะกว่าจะทำได้ผมใช้เวลาห้าปี
สำหรับผมแสนแรกลำบากมาก

เราลงทุนครั้งแรก เหมือนกับเราถอนต้นกล้าไม้มาปลูกครับ

ผมเปรียบต้นกล้าไม้นี้คือเงินเก็บครับ
บางคนมีต้นกล้าใหญ่ บางคนมีต้นกล้าเล็ก
ต่างฐานะกันไปไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เล็กก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ได้

ช่วงแรกๆก่อนที่มันจะเริ่มมีราก
มีใบใหม่มาเพิ่มมันต้องใช้เวลา
ใช้ความขยัน ใช้ความรู้
และใช้ประสบการณ์
มาบำรุงต้นกล้านั้นอย่างสม่ำเสมอครับ

เมื่อต้นกล้าตั้งต้นได้แล้ว กิ่งก้าน ดอกผล
และใบมันจะขยายได้เร็วมากครับ

ผมก็เริ่มต้นจากเงินน้อยๆ เมื่อ 3 ปีก่อน
และหวังจะเลิกทำงานประจำภายใน 3 ปีครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ต้นกล้า ทุกต้นครับ

nut776 เขียน:

picklife เขียน:

nut776 เขียน: ถ้าเอามาลงหุ้น คงได้เยอะ
เป็นช่วงปีที่ผมหันไปสนใจเรื่องอื่น
เป็นช่วงที่เพื่อนๆ พี่ เ้ข้าสู่ อิสระภาพ
เป็นช่วงที่ผม อหังกา ดูหมิ่น คนอื่นนึกแล้วอนาถตัวเอง

อยากรู้

หลังจากเข้าสู่ตลาดหุ้น ปี 46-47
ผมก็พยายามอ่านหนังสือ หมกหมุ่นอยู่กับ
ตัวเลขขายฝัน
พวกทบต้นเท่านี้ กี่ปีจะได้เท่าไหร่
จึงเจียดเงิน 200000 มาลองวิชา
พร้อมทั้งพยายามหาความน่าจะเป็น
ในเชิงคุณภาพว่า ตัวเลขขายฝันนั้นมันจะเป็นไปได้แค่ไหน
โดยในความรู้สึกผม
ผมรู้สึก มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยในตลาดหุ้นไทย
อีกทั้งเราไม่ได้เข้า่ตลาดช่วงตกต่ำ
เหมือน ดร.นิเวศน์
พร้อมด้วยช่วงนั้น เป็นช่วงที่ผมและคนรู้จักชักชวนกันทำธุรกิจ (แอบไม่บอกนะครับ)
ผมจึุงสนใจเรื่อง การตลาด การบริหารต่างๆ
ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วว่า เมื่อก่อนชุมชน thaivi
มันเป็นแค่ เวปบลอก หรือเวปเพจ อะไรง่ายๆเล็กๆ
ก่อน แล้วค่อยมาเป็นดังปัจจุบัน

เวลาผม เห็นเพื่อนๆ พี่ คุยกัีนเกี่ยวกับเรื่อง ตัวเลข
โน่น นั่น นี่ หรือ พูดคุย เรื่องหุ้น
ผมรู้สึก มัน silly มาก
เพราะเราสำคัญตนผิดว่า
เราเปิดบริษัท เราได้เรียนรู้ทุกอย่าง
มากกว่าการอ่านงบเป็น
เราต้องหัดโกงบัญชี เราต้องประชุม
เราต้องถกกันเรื่อง การตลาด การบริหาร
ซึ่งผมมองว่าคนที่มองแต่ตัวเลขในกระดาษ
จะมารู้อะไร
(ส่วนนึงผมมองแ้ล้วตอนนั้นว่า ความน่าจะเป้นที่จะ
รวยตามตัวเลขขายฝันนั้นเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่จะเป็นไป
ได้ึคือ

dome@perth เขียน:เราลงทุนครั้งแรก เหมือนกับเราถอนต้นกล้าไม้มาปลูกครับ

ผมเปรียบต้นกล้าไม้นี้คือเงินเก็บครับ
บางคนมีต้นกล้าใหญ่ บางคนมีต้นกล้าเล็ก
ต่างฐานะกันไปไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เล็กก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ได้

ช่วงแรกๆก่อนที่มันจะเริ่มมีราก
มีใบใหม่มาเพิ่มมันต้องใช้เวลา
ใช้ความขยัน ใช้ความรู้
และใช้ประสบการณ์
มาบำรุงต้นกล้านั้นอย่างสม่ำเสมอครับ

เมื่อต้นกล้าตั้งต้นได้แล้ว กิ่งก้าน ดอกผล
และใบมันจะขยายได้เร็วมากครับ

ผมก็เริ่มต้นจากเงินน้อยๆ เมื่อ 3 ปีก่อน
และหวังจะเลิกทำงานประจำภายใน 3 ปีครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ต้นกล้า ทุกต้นครับ

เท่ห์ไปเลยครับพี่^^ เห็นด้วยครับ แต่ไม่ใช่เพียงเรื่องเงิน ผมรวมถึงเรื่องความรู้ที่มีด้วยนะครับ "สิ่งสำคัญไม่ใช่คุณมีเท่าไหร่ แต่สิ่งสำคัญคือคุณใช้มันอย่างไร"  :D

picklife เขียน:ซึ่งผมเห็นหลายๆคนที่มีความรู้ ยิ่งมีความรู้มากอีโก้ยิ่งแรง ขอบคุณครับที่แชร์กัน

:lol: กลับกันกับประสบการณ์ผมฮะ    คนที่มีความรู้จริงๆ ที่ผมรู้จักหลายคน
ยิ่งศึกษามาก กลับพบว่า ตัวเองไม่รู้เรื่องนั้น เรื่องนี้ อีกมากมาย  และที่มีตรงกันคือ อยากที่จะได้ยินได้ฟังในประเด็นเห็นต่าง ในเรื่องที่ตัวเองก็รู้...แต่ไม่
เคยวางใจว่า ที่ตัวเองรู้นั้นถูกต้องทั้งหมด  

ความรู้นั้นล้าสมัยได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเหตุปัจจัยเปลี่ยนไป ในขณะที่
จินตนาการ ก็เป็นเรื่องเพ้อฝันได้ไม่ยาก เมื่อไม่ได้คิดบนเหตุปัจจัยที่เป็นอยู่

Voldtrest เขียน:

picklife เขียน:ซึ่งผมเห็นหลายๆคนที่มีความรู้ ยิ่งมีความรู้มากอีโก้ยิ่งแรง ขอบคุณครับที่แชร์กัน

:lol: กลับกันกับประสบการณ์ผมฮะ

แชร์มั่ง เริ่มเล่นหุ้นมา 4 ปีล่ะครับประสบการณ์นิดหน่อย

Episode I  The Phantom Menace   ปี 50....

เริ่มเล่นกลางเดือนสิงหา ช่วงตลาดกำลังขาขึ้นพอดี ตอนนั้นก่อนเล่นไปสัมมนา Thaivi ครั้งแรก ได้หุ้นเก็บมา 2 ตัว  ums กับ snc  ปีนั้น เล่นจบ port +35 %  port ขยับเป็น 7 หลักนิดๆ คิดว่าวู้ยหมูจริงรุ้งี้ตูมาเล่นตั้งนานแล้ว หารู้ไม่หายนะกำลังมาเยือน

Episode II Attack of the Hamberger !   ปี 51....

เริ่มมาต้นปีก็ยังทรงๆ แต่ไปถือหุ้นผิดตัวไปหน่อยอย่าง Draco  หุ้นลึกลัุบ ไม่มี Free float  เป็นหุ้นที่ดีตัวนึงแต่ตลาดไม่สนใจ อีกตัวก็คือ PTL อันนี้ซื้อตอน 6 กว่าๆมา 7 ไม่ขายจนมันลงมาเหลือ 3 บาทกว่าๆประมาณกันยาได้ข่าวฟองสูบู่อสังหาแตกที่ usa ก็คิดว่าไม่เป็นไรม้างง ไม่เกี่ยวกันนี่่หว่า ตูอยู่ไทย แถมไม่ได้ซื้อหุ้นอสังหาด้วย ก็เป็นว่าคิดผิดอย่างแรง เพราะวิกฤตครั้งนี้กระทบไปทุกอุตสหกรรมและทุกประเทศ port สิ้นปีเลยลดไป -50%  ( ไม่ขายอีกเพราะคิดว่า vi ต้องถือยาว...)

Episode III New Hope  ปี 52

ปีนี้ตั้งต้นใหม่อดทน หุ้นที่ถือก็ถือไปรอเศรษฐกินฟื้น พอ PTL และ Draco ขึ้นมาก็ขายไป (ขายหมู PTL)  ไปเข้าพวกอสังหาแต่เข้าไม่มากสลับการเล่นรอบหลายๆตัวไปเรื่อยๆสิ้นปีก็เลย + 110%  port ก็เลยขยับแตะ 7 หลักอีกรอบ


Episode IV  Return of the investor  ปี 53

เศรษฐกิจเริ่มฟื้นเต็มที่ Bull market ก็เริ่มมา ต้นปีได้หุ้นดีๆอย่าง pato เพราะมีพี่ๆในนี้ช่วยแนะนำให้  อิเล็กก็เข้าพวก smt kce  ยังมีตะกูลไก่อย่าง GFPT CPF ก็เข้ามาแล้วแต่ขายหมู -_-'  จนปัจจุบันถึงวันนี้สลับ port ไปมาก็มาจบที่ Flim กับ อสังหา คิดว่าคงถือยาวๆ  รอเวลาให้กำไรบอกทุกอย่างเอง สรุปยังไม่จบปี +120%  (ถ้าถือไม่เปลี่ยนตัวตอนต้นปีคง + มากกว่านี้
  )

ขอบคุณที่มาแชร์ครับ

dome@perth เขียน:เราลงทุนครั้งแรก เหมือนกับเราถอนต้นกล้าไม้มาปลูกครับ

ผมเปรียบต้นกล้าไม้นี้คือเงินเก็บครับ
บางคนมีต้นกล้าใหญ่ บางคนมีต้นกล้าเล็ก
ต่างฐานะกันไปไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เล็กก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ได้

ช่วงแรกๆก่อนที่มันจะเริ่มมีราก
มีใบใหม่มาเพิ่มมันต้องใช้เวลา
ใช้ความขยัน ใช้ความรู้
และใช้ประสบการณ์
มาบำรุงต้นกล้านั้นอย่างสม่ำเสมอครับ

เมื่อต้นกล้าตั้งต้นได้แล้ว กิ่งก้าน ดอกผล
และใบมันจะขยายได้เร็วมากครับ

ผมก็เริ่มต้นจากเงินน้อยๆ เมื่อ 3 ปีก่อน
และหวังจะเลิกทำงานประจำภายใน 3 ปีครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ต้นกล้า ทุกต้นครับ

อยากฟังประสบการณ์บ้างจังครับ

 :D  :D

เราลงทุนครั้งแรก เหมือนกับเราถอนต้นกล้าไม้มาปลูกครับ

ผมเปรียบต้นกล้าไม้นี้คือเงินเก็บครับ
บางคนมีต้นกล้าใหญ่ บางคนมีต้นกล้าเล็ก
ต่างฐานะกันไปไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เล็กก็กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ได้

ช่วงแรกๆก่อนที่มันจะเริ่มมีราก
มีใบใหม่มาเพิ่มมันต้องใช้เวลา
ใช้ความขยัน ใช้ความรู้
และใช้ประสบการณ์
มาบำรุงต้นกล้านั้นอย่างสม่ำเสมอครับ

เมื่อต้นกล้าตั้งต้นได้แล้ว กิ่งก้าน ดอกผล
และใบมันจะขยายได้เร็วมากครับ

ผมก็เริ่มต้นจากเงินน้อยๆ เมื่อ 3 ปีก่อน
และหวังจะเลิกทำงานประจำภายใน 3 ปีครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ต้นกล้า ทุกต้นครับ

คมจริงๆครับ

เข้ามาดู

Ramese เขียน:

Skyforever เขียน:

Ramese เขียน:เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ผมก้อเป็นคนนึงที่ เพิ่งได้ 1 ล้านบาทแรกในชีวิตครับ ภูมิใจมากครับ

ผลตอบแทนที่ผ่านมา ของผมถึงแม้จะน้อยนิด สู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก้อพอใจครับ

เริ่มเก็บเงิน ลงทุน มาจะครับ 3 ปี สิ้นปีนี้แล้วครับ

ยินดีด้วยครับ
ถ้าพอจะแชร์ประสบการณ์ และข้อคิดในการลงทุนมาด้วยจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะครับ

เริ่มสนใจลงทุนครั้งแรก เพราะ เวป thaivi เลยครับ ขอยก เครดิตให้เลยครับ อ่านตะแกรงร่อนหุ้น ตามด้วย ร้อยคนร้อยหุ้น
อ่านหนังสือเยอะครับ เริ่มจากตีแตกเป็น เล่มแรก ตามมาด้วย
หนังสือแปล แนว vi พวก peter lynch, john neff, one up on wall street, the intellegent investor.ตอนเริ่มเลยน่ะครับ ตัวแรกที่ซื้อ นี่ cpall เลย ตามมาด้วย wg และ tr

เริ่มลงทุนด้วยเงิน 50000 บาท เป็นเงินเก็บก้อนแรก พอเงินเดือนออกก้อ เก็บ เดือน ล่ะ 10000บาท บ้าง 15000 บ้าง โบนัสออกก้อแบ่งออกมาลงในหุ้น หมด 100% แบบ ดร.นิเวศน์เลย

พอมาเจอวิกฤษ แฮมเบอร์เกอร์นี่

อ่านที่คนอื่นเขียนมานานเลยอยากคุยบ้าง
ก็เพิ่งมีล้านแรกเมื่อเดือนมีนาปีนี้เอง ดีใจสุดๆ ลองขายเทเกือบ port เพื่อให้เห็นยอดเงินในบัญชีชัดๆ ได้โอกาสสับเปลี่ยนหุ้น เขาว่ากัน ล้านแรกยากมาก แต่ล้านต่อไปจะเร็วขึ้น คำกล่าวนี้ช่างจริงแท้เกินคาด ตอนนี้ port เปลี่ยน 2.5 ล้านแล้ว จะพยายามรักษาไว้สุดๆ

เราก็เพิ่งมี port ถึงล้าน ในปีนี้ แล้วก็ตั้งเป้าไว้ว่ามีถึง 4 ล้านเมื่อไรก็จะลาออกจากงาน หวังว่าไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า เราจะเป็นไท ได้สักที

สงสัยเป็นช่วงที่สามของลินซ์ละมั้งครับ.....อืม เป็นช่วงสุดท้ายของดร.แล้วด้วยหรือเปล่าครับ .... คิดๆๆๆๆๆๆ

SOIVEGA เขียน:เราก็เพิ่งมี port ถึงล้าน ในปีนี้ แล้วก็ตั้งเป้าไว้ว่ามีถึง 4 ล้านเมื่อไรก็จะลาออกจากงาน หวังว่าไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า เราจะเป็นไท ได้สักที

แชร์ประสบการณ์หน่อยได้ป่ะคับ เพื่อเป็นกำลังใจ

เพราะช่วงนี้เห็นหลายๆ คนทะลุล้านหมดเลย

ก็หวังว่าจะทะลุกับเค้าบ้าง แต่อีกเยอะเลย    :(  :(

SOIVEGA เขียน:เราก็เพิ่งมี port ถึงล้าน ในปีนี้ แล้วก็ตั้งเป้าไว้ว่ามีถึง 4 ล้านเมื่อไรก็จะลาออกจากงาน หวังว่าไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า เราจะเป็นไท ได้สักที

แน่ใจหรือครับ 4 ล้าน

หรือผมเข้าใจผิด หมายถึง 40 ล้าน
ถ้าผิดก็ขอโทษครับ

ไม่ค่อยแน่ใจว่าท่านอายุสักเท่าไหร่
แต่ถ้าหมายความ 4 ล้านจริงๆ ผมอยากบังอาจให้ใคร่ครวญตรึกตรองอีกทีอ่ะครับ  :oops:

รู้สึกคล้ายกับช่วงฟองสบู่เลยครับ...ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ
ทุกคนคิดว่าสามารถหาเงินจากตลาดหุ้นได้ง่าย อยากรวย อยากเลิกทำงานประจำ...ฝัน ฝัน ฝัน
ถึงแม้แต่ละคนจะบอกว่าลงทุน ผมหวั่นๆว่า จากกำไรกลับกลายเป็นขาดทุน
อยากให้ศึกษาอดีต เปรียบเทียบ เหมือนหรือแตกต่างกับตอนนี้ยังงัย
อย่าลืมว่า เงินที่ไหลเข้ามาตลาดหุ้น เค้าก็ต้องการกำไรเหมือนกันนะครับ
มีบ้างที่ลงทุนในเรียลเซกเตอร์ แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องการทำกำไรให้มากที่สุดในระยะสั้นที่สุด พร้อมที่จะไหลไปที่อื่นเสมอ

ยังงัยก็อย่าลืมคิดวิธีออกจากเกมไว้ด้วยนะครับ
หรือจะใช้คลายเครียดเรโชตามความเหมาะสมของแต่ละท่าน

ช่วงก่อนหน้านี้ซักกลางปี ผมมีความรู้สึกฮึกเฮิม กับตลาดหุ้นมาก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการชุมนุม คิดว่าถ้าผ่านไปได้ตลาดต้องไปได้อีกไกล เพราะตลาดเราถูกกว่าชาวบ้านในแถวนี้

แต่พอตลาดมาแตะที่1000 ผมกลับไม่ดีใจ แต่รู้สึกเสียวๆอย่างบอกไม่ถูก

SOIVEGA เขียน:เราก็เพิ่งมี port ถึงล้าน ในปีนี้ แล้วก็ตั้งเป้าไว้ว่ามีถึง 4 ล้านเมื่อไรก็จะลาออกจากงาน หวังว่าไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า เราจะเป็นไท ได้สักที

1.6^3=4

3ปีนี้หวัง60%......ขอคำชี้แนะด้วยครับ แต่มีแผนยังไงบ้างครับ

[quote="Todo"] ...
แชร์ประสบการณ์หน่อยได้ป่ะคับ เพื่อเป็นกำลังใจ

เพราะช่วงนี้เห็นหลายๆ คนทะลุล้านหมดเลย

ก็หวังว่าจะทะลุกับเค้าบ้าง แต่อีกเยอะเลย

[quote="BeSmile

เมื่อมีความรู้และแตกฉานแล้ว เงินมันมาเองครับ

เวลาเงินมันมาแล้วจะตกใจครับ  (หวังว่าปีหน้าคงตกใจกว่านี้ ความโลภมาก่อนแล้ว