หน้า 116 จากทั้งหมด 160

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 02, 2009 11:54 am
โดย truetempo
VIB007 เขียน: ดูแล้วก็ยังงงเหมือนกัน
ถ้าใครตอบได้
ช่วยตอบที

ช่วยอธิบายข้อมูลของกราฟหน่อยได้มั๊ยครับ
ว่ามาจากไหนคืออะไร

ถ้าให้เดาผมว่าราคาซื้อขายน้ำมันดิบทุกวันนี้ก็เป็น future อยู่แล้ว
ต้องซื้อขายกันล่วงหน้าสามเดือน
ราคาน้ำมันดิบ ณวันที่ส่งมอบจริงๆ
อาจมี Delay จากการซื้อขาย future สามเดือน
ดังนั้นความสัมพันธ์ ณ เวลาเดียวกันอาจไม่เหมือนกันก็ได้
ตามความเข้าใจของผมคือเค้าต้องการจะบอกว่า
forward point (คือ future - spot) นั้นแปรผกผันกับราคา underlying ครับ
เช่น forward point น้อยลง ราคาน้ำมัน (spot) สูงขึ้น
พูดง่ายๆคือ
เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ความคาดหวังต่อราคาน้ำมันในอนาคต(ในอนาคตนานเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับ term of forward)ไม่ได้สูงขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นผลให้ forward point ลดลงครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 08, 2009 7:06 pm
โดย hongvalue
มีคำถามมาถามเฮีย วิบูลย์หน่อยครับ

1.เห็นบอกว่าขายหมูไป อยากถามว่ามันดูแย้งๆกับข้อมูลที่บอกว่าหุ้นน่าจะไปถึง 600 ปลายๆไหมครับ

ถ้ามองจาก p/bv ของ set (จำได้ว่าเคยอ่านประมาณนี้ถ้าผิดขออภัย)

(ที่เคยเขียนใน valueway หลายอาทิตย์แล้ว)

ที่ขายเพราะว่าหุ้นรายตัวตัวนั้นมัน overvalue แล้วเหรอครับ หรือว่า มีระบบการ trade ที่ set เอาไว้
ว่าได้กำไรกี่ % ทยอยขาย

2.พี่วิบูลย์มีความเห็นเกี่ยวกับทิศทาง set ใน q3 อย่างไรบ้างครับ ถ้าดูจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ

ไม่ได้ถามว่าจะขึ้นหรือลงนะครับ

ถามแค่ว่า ถ้าเป็น vi ระยะยาวพี่มองว่าการเข้าไปซื้อหุ้นในตอนนี้แล้วถือซัก 9เดือน ถึง 1 ปี

risk/reward ratio จะคุ้มไหมครับ


ขอสองคำถามเท่านั้นครับเฮีย

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 1:23 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:มีคำถามมาถามเฮีย วิบูลย์หน่อยครับ
หายไปนาน
สงสัยไปพักผ่อนใช้เงินที่หามาได้ใช่ไหม
หรือแอบไปซุ่มอยู่ไหน
บอกกันด้วยดิ

hongvalue เขียน:1.เห็นบอกว่าขายหมูไป อยากถามว่ามันดูแย้งๆกับข้อมูลที่บอกว่าหุ้นน่าจะไปถึง 600 ปลายๆไหมครับ

ถ้ามองจาก p/bv ของ set (จำได้ว่าเคยอ่านประมาณนี้ถ้าผิดขออภัย)

(ที่เคยเขียนใน valueway หลายอาทิตย์แล้ว)

ที่ขายเพราะว่าหุ้นรายตัวตัวนั้นมัน overvalue แล้วเหรอครับ หรือว่า มีระบบการ trade ที่ set เอาไว้
ว่าได้กำไรกี่ % ทยอยขาย
พี่อาจสรุปบทความที่ว่านั้นสั้นไปหน่อย
เวลาอ่านเลยคิดว่ามันจะไปหกร้อยปลายๆหรือเจ็ดร้อยต้นๆเร็วๆนี้
แต่จริงๆไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

อยากแก้ข่าวว่า
ถ้าดูตามสถิติแล้ว
ตลาดหุ้นไทยสามารถไปได้ถึงหกร้อยปลายๆถึงเจ็ดร้อยต้นๆ
แต่ก็มีข้อแม้ว่าพื้นฐานกิจการและบริษัท
รวมถึงผลประกอบการต้องยั่งยืนด้วยนา
ถ้าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไปได้ดี
มันไปถึงแน่ๆ
แต่ถ้าประกาศออกมาแย่
มันก็ไม่มีทางถึงเป้าหมายที่ว่าแน่

โดยส่วนตัวแล้ว
พี่ไม่ได้สนใจตลาดหุ้นเลยว่ามันจะไปเท่าไหร่
ที่ขายหมูไปนั้น
เพราะหุ้นที่ถืออยู่มันราคาขึ้นมาถึงเป้าหมายที่วางไว้
ก็เลยขายออกไปบางส่วน
แต่ราคาหุ้นก็ยังวิ่งต่อไปไม่หยุด
แค่นั้นเอง
เลยกลายเป็น"ขายหมู"ไป

ไม่มีกำหนดกำไรกี่เปอร์เซนต์ขายออก
ไม่ได้เทรดหุ้น
เพียงแค่ดูราคาเทียบกับมูลค่าเท่านั้นเอง

ตอนนี้ราคาหุ้นนั้นก็ลดลงมาบ้างแล้วเหมือนกัน
ถ้าลดลงมาแต่พื้นฐานยังดีก็ถือต่อ
แต่ถ้าวิ่งไปเกินพื้นฐานมากๆ
ก็ขายออกไปบ้าง
พี่ถือมาสองสามปีนะ
hongvalue เขียน:2.พี่วิบูลย์มีความเห็นเกี่ยวกับทิศทาง set ใน q3 อย่างไรบ้างครับ ถ้าดูจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ

ไม่ได้ถามว่าจะขึ้นหรือลงนะครับ

ถามแค่ว่า ถ้าเป็น vi ระยะยาวพี่มองว่าการเข้าไปซื้อหุ้นในตอนนี้แล้วถือซัก 9เดือน ถึง 1 ปี

risk/reward ratio จะคุ้มไหมครับ

ขอสองคำถามเท่านั้นครับเฮีย
มีอะไรเดาได้ง่ายกว่าตลาดหุ้นไหมเนี่ย
บางคนบอกกระทิง
บางคนบอกหมีแรลลี่

จากประสบการณ์พบว่าไม่มีใครรู้จริงสักคน

บัฟเฟตบอกอย่าไปสนใจตลาด

เคยถามนักเก็งกำไรระดับพันล้านนะครับ
เจอกันตอนเย็นวันศุกร์
พี่ถามว่าวันจันทร์หุ้นจะขึ้นหรือลง
เซียนท่านนั้นบอก"ไม่รู้"
ไว้ตลาดเปิดมาก็จะรู้เอง

ขนาดเซียนยังยอมรับเลยว่า
ตลาดหุ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ได้

ถ้าถามว่าจะซื้อถือไปหนึ่งปีจะคุ้มไหม
ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็ต้องบอกว่าต้องดูเป็นตัวๆไป
บางบริษัทราคาก็ขึ้นมาเยอะ อันนี้แตะเป็นเจ็บ
แต่บางบริษัทราคาหุ้นไม่ได้เพิ่มขึ้นมามากนะ
ก็ยังพอมีโอกาสบ้าง

แต่ถ้าดูภาพรวมเอาเป็นว่าซื้อดัชนี
ในช่วงเวลาที่ดัชนีกำลังลดลง
ถ้ามองในแง่ของวีไอ
จะพบว่า
ความเสี่ยงก็ลดลงด้วยเช่นกัน

ยิ่งตอนที่เล่นกันเกินหกร้อยไปนั่น
ใครเข้าไปมีโอกาสเจ็บตัวมาก

ถ้าถามความเห็น
ให้มองยาวๆสักสองสามปี
ก็เริ่มลงทุนได้
ค่อยๆทยอยซื้อ
ถ้าลงมาแรงก็ค่อยๆเก็บ
เลือกตัวที่พื้นฐานในระยะยาวดี
ราคาไม่เวอร์

ที่มองอย่างนี้
เพราะผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา
น่าจะเลวร้ายที่สุด
อีกสองสามปีน่าจะดีกว่านี้แน่

ส่วนพี่นิสัยเสีย
ชอบต่อของเยอะๆ
แต่พอราคามันวิ่ง
กลับตามซื้อไม่ทัน
แต่ก็ไม่กังวล
เพราะยังไงก็มีหุ้นในพอร์ต
ไม่เคยล้างพอร์ตเลยสักที
หุ้นลงมาก็ดี
หุ้นขึ้นก็ดี
ไม่มีวิธีไหน
สุขใจเท่านี้อีกแล้วหละสำหรับตัวเองนะ

ส่วนใครจะใช้วิธีไหน
ก็แล้วแต่สะดวกแล้วกัน

ไม่รู้ตอบตรงคำถามหรือเปล่า

ว่าแต่ว่ามุมมองของฟันโฟลว์เป็นไงในช่วงนี้ แชร์กันหน่อยนะ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 8:13 pm
โดย hongvalue
ก่อนอื่นเพื่อความมันขอชวนคุยทีเดียวหลายคนไปหลาย

ตอบให้เฮียคนนี้แป๊ปนะพี่วิบูลย์เดี่ยวเราคุยกันต่อ

smith_sanguan เขียน: ดูกราฟราย week ไปครับ ปลอดภัยแน่นอน แต่ถ้า วันนึง ดู 5 นาที กราฟ รายนาที แล้วจะหวังรวย ยากครับ ดูบิด อ๊อฟ 15 นาที จะซื้อล่ะ เก็บแน่ๆ ไม่ง่าย ขนาดนั้น ครับ

คนเล่นเป็นอาชีพ ส่วนมากก็เฝ้า ดูตลอดครับ ฉะนั้น ถ้า ไม่มีเวลา อย่าสนใจ บิดอ๊อฟ เลยครับ ฝึกไม่ง่าย ยิ่งไม่มีคนสอน นั่งดูด้วยยิ่งต้องใช้เวลานาน นานขนาดไหน ขนาด นั่งเฝ้าสัก 3 ปี ไหวไม๊ครับ ผมนั่งดูมาสี่ปี มีคนสนมั้งไม่สอนมั่งได้แค่นี้ครับ

แต่บิด อ๊อฟ เร็วที่สุดครับ
ขอบคุณ เฮีย สมิทครับ

ตอบได้เคลียร์มากครับ

ผมเข้าใจแล้วครับว่า bid offer เหมาะกับคน

นั่งเฝ้าหน้าจอ ซึ่งคงไม่เหมาะกับผมแน่นอน

เพราะช่วงนี้งานที่บ้านค่อนข้างยุ่ง

มีเวลาออกไปข้างนอกแค่นิดเดียวเอง

งี้ผมถามหน่อยได้ไหมครับ เฮียหมายความว่า

ถ้ากราฟ day มันจะ error เยอะ

แต่ month มันจะช้าเกินไป เลยให้ดู week ใช่ไหมครับ

พระอาจารย์พี่พอใจก็ให้ดู ema 34 week เหมือนกันครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 8:27 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
หายไปนาน
สงสัยไปพักผ่อนใช้เงินที่หามาได้ใช่ไหม


ก่อนอื่นสวัสดี และ ขอบคุณที่ถามไถ่ถึงนะครับ

ไม่ค่อยได้ใช้เงินเลยครับพี่

มือถือเก่าจะเสียอยู่แล้วยังไม่เปลี่ยนเลย

พี่เชื่อไหม notebook ผมยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

ไม่อยากซื้อเพราะคิดว่าไม่จำเป็น เพราะเราไม่ได้ออกจากบ้านบ่อย

ผมชักรู้สึกแล้วล่ะครับ ว่าคนเราความสุขไม่ได้อยู่ที่การได้ใช้เงินครับ

และใช้มือถือเก่าๆ ก็มีความสุขได้ครับ ถ้าเราไม่ได้อยากจะไปอวดใครต่อใครว่าเราจนหรือรวย

สุขทุกข์ล้วนอยู่ที่ใจครับ อย่าไปพึ่งพิงที่วัตถุมาก
VIB007 เขียน:
หรือแอบไปซุ่มอยู่ไหน
บอกกันด้วยดิ


ก็มีไปฝึกวิชามาเยอะครับ

พี่รู้ไหมครับว่าผมไปถามอาจารย์ท่านนึงมา

ถามจนเขาบอกว่า

เฮ้ย อย่าถามมาก

ขนาดเขาพูดอย่างนี้ผมก็ยังจะถามต่อเลยครับ

แล้วเขาก็ยอมบอกครับ

ผมได้ทีเด็ดมาหลายอย่างเหมือนกันครับ

ใครจะคิดว่าหน้าด้านก็แล้วแต่

แต่เพื่อความรู้ ผมทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้องง้อ

ต้องตื้อคนแค่ไหนก็ตาม

สรุปแล้วไปซุ่มมาครับ  :lol:

VIB007 เขียน: ที่มองอย่างนี้
เพราะผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา
น่าจะเลวร้ายที่สุด
อีกสองสามปีน่าจะดีกว่านี้แน่


ว่าแต่ว่ามุมมองของฟันโฟลว์เป็นไงในช่วงนี้ แชร์กันหน่อยนะ
เป็นมุมมองที่ดีมากเลยครับ

นักลงทุนระยะยาวมองกันแบบนี้เอง

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 8:42 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน: ว่าแต่ว่ามุมมองของฟันโฟลว์เป็นไงในช่วงนี้ แชร์กันหน่อยนะ

พี่ตอบให้ผมเต็มที่ผมกะแชร์ให้เหมือนกันครับ

แต่ว่าผมคงไม่ได้แปะรูป

เพราะว่าข้อมูลบางอย่างคนทำข้อมูลที่ให้มา

เขาขอว่าอย่าเปิดเผยที่มา

เนื่องจากเขาใช้กันเองภายในเท่านั้น

ก็เลยตอบให้เท่าที่ตอบได้นะครับ

แต่ถ้าอยากดูละเอียดสุดๆ ก็นัดกินกาแฟกันได้

อิอิ (จะชวนกินกาแฟว่างั้นเถอะ)



q3 ในมุมมองของผมก็คือ

sideway อยู่ในกรอบประมาณ 480-638

แต่ให้น้ำหนักขาลงมากกว่าขาขึ้น

เราลองมาดูข่าวดีและข่าวร้ายการตลาดหุ้นทั่วโลกกันก่อน

ข่าวดี

-มีการอัดฉีดเงินกันเยอะโดย usa ขาดดุลงบประมาณ 19% ของ gdp

-สถาบันยังมีการถือครองหุ้นในส่วนที่น้อยอยู่ก็คือประมาณ 25% ของมูลค่าสินทรัพย์แต่ว่า average ระยะยาวมันอยู่ที่ 35%

-mmf/s&p อยู่ในแดนสูง หมายถึง still much cash on the sideline

-ตัวเลข pmi ของทั่วโลกดีขึ้น


ข่าวร้าย
-ตลาดรับข่าวดีไปเยอะ ดูจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจแย่ๆเพียงแค่นิดเดียว dowjone ลง 200 จุด
ทั้งๆที่ตัวเลขดีกว่าเดือนก่อนๆ แต่แค่น้อยกว่าที่คาดการณ์
จึงทำให้มีแรงเทขาย


-การระบาดของไข้หวัดหมูที่เริ่มมีคนตายสูงขึ้นเป็นลำดับ

-ตัวเลขการว่างงานเกือบ 10% ของ usa ถ้ายังสูงแบบนี้
จะทำให้กำลังซื้อลด และตลาดหุ้นไม่น่าไปต่อได้
ถึงแม้ตัวเลขว่างงานจะเป็น lagging indicator แต่ว่า
การฟื้นตัวของการว่างงานอาจจะทำให้
bear market rally กลายเป็น first wave ของ recovery
ได้




และการวางแผนการลงทุนคงต้องดูที่

exit strategy ของ fed ว่าจะเป็นอย่างไร

เพราะมันจะเป็นจุด turning point ของตลาดหุ้นทั่วโลก

อีกอย่างคือ เศรษฐกิจของ europe ก็เหมือนกัน

highlight จะเป็นสองเรื่องนี้




ส่วนตัวตอนนี้ถือเงินสด 100% ขายหุ้นไปเกือบหมดตอน 620 แล้วมาขายของชำที่เหลือ 1ใน 4 ของ portตอน 585

แถมซวย short หุ้นผิดจังหวะ ต้อง recovery short

ขาดทุนไปนิดหน่อย



คิดว่าหุ้นคงไม่ลงหรือขึ้นขาเดียวแต่น่าจะเล่นในกรอบมากกว่าจนผลของ exit strategy กับ europe ออก
ตอนนั้นจะทุ่มซื้อหรือเทกระเป๋า short คงทำได้ง่ายหน่อยครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 8:47 pm
โดย hongvalue
hongvalue เขียน:
-มีการอัดฉีดเงินกันเยอะโดย usa ขาดดุลงบประมาณ 19% ของ gdp
แก้เป็น 13% ครับ

ขออภัยด้วยครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 11:32 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:ก่อนอื่นเพื่อความมันขอชวนคุยทีเดียวหลายคนไปหลาย

ตอบให้เฮียคนนี้แป๊ปนะพี่วิบูลย์เดี่ยวเราคุยกันต่อ

ขอบคุณ เฮีย สมิทครับ

ตอบได้เคลียร์มากครับ

ผมเข้าใจแล้วครับว่า bid offer เหมาะกับคน

นั่งเฝ้าหน้าจอ ซึ่งคงไม่เหมาะกับผมแน่นอน
อันนี้โพสผิดกระทู้หรือเปล่า
หรือตั้งใจ
ดูเหมือนมาจากกระทู้อื่นนะ
เพราะก่อนหน้าไม่มี

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 11:33 pm
โดย zesar
เข้ามาอ่านตอนตลาดวายซะแล้ว  :D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 11:42 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
ก่อนอื่นสวัสดี และ ขอบคุณที่ถามไถ่ถึงนะครับ

ไม่ค่อยได้ใช้เงินเลยครับพี่

มือถือเก่าจะเสียอยู่แล้วยังไม่เปลี่ยนเลย

พี่เชื่อไหม notebook ผมยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

ไม่อยากซื้อเพราะคิดว่าไม่จำเป็น เพราะเราไม่ได้ออกจากบ้านบ่อย

ผมชักรู้สึกแล้วล่ะครับ ว่าคนเราความสุขไม่ได้อยู่ที่การได้ใช้เงินครับ

และใช้มือถือเก่าๆ ก็มีความสุขได้ครับ ถ้าเราไม่ได้อยากจะไปอวดใครต่อใครว่าเราจนหรือรวย

สุขทุกข์ล้วนอยู่ที่ใจครับ อย่าไปพึ่งพิงที่วัตถุมาก
พูดถึงเรื่องมือถือแล้วขำ
ส่วนตัวพี่ใช้มือถือโนเกียเครื่องละ 900 บาท (เก้าร้อยบาท ไม่ได้พิมพ์ผิด)
ใช้มาหลายปีแล้ว

วันก่อนเจอน้องAdmin เพิ่งจบทำงานใหม่ๆ
น้องเล่นใช้ Blackberry สีดำเลย
โอว พระเจ้า
อันนี้มันสำหรับเอ๊กซะกูถีบนะน้อง
น้องงานยุ่งมากเลยใช่ไหมเลยต้องใช้ Blackberry
เปล่าเพ่ หนูเอาไว้เล่น Hi-5 เวลาเข้าห้องน้ำนะ อิ อิ
(อันหลังนี่เติมเอง)



hongvalue เขียน:ก็มีไปฝึกวิชามาเยอะครับ

พี่รู้ไหมครับว่าผมไปถามอาจารย์ท่านนึงมา

ถามจนเขาบอกว่า

เฮ้ย อย่าถามมาก

ขนาดเขาพูดอย่างนี้ผมก็ยังจะถามต่อเลยครับ

แล้วเขาก็ยอมบอกครับ

ผมได้ทีเด็ดมาหลายอย่างเหมือนกันครับ

ใครจะคิดว่าหน้าด้านก็แล้วแต่

แต่เพื่อความรู้ ผมทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะต้องง้อ

ต้องตื้อคนแค่ไหนก็ตาม

สรุปแล้วไปซุ่มมาครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 09, 2009 11:46 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:

แต่ถ้าอยากดูละเอียดสุดๆ ก็นัดกินกาแฟกันได้

อิอิ (จะชวนกินกาแฟว่างั้นเถอะ)


ส่วนตัวตอนนี้ถือเงินสด 100% ขายหุ้นไปเกือบหมดตอน 620 แล้วมาขายของชำที่เหลือ 1ใน 4 ของ portตอน 585

แถมซวย short หุ้นผิดจังหวะ ต้อง recovery short

ขาดทุนไปนิดหน่อย



คิดว่าหุ้นคงไม่ลงหรือขึ้นขาเดียวแต่น่าจะเล่นในกรอบมากกว่าจนผลของ exit strategy กับ europe ออก
ตอนนั้นจะทุ่มซื้อหรือเทกระเป๋า short คงทำได้ง่ายหน่อยครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูล
ต้องบอกน้องๆมือใหม่ก่อนนะ
ว่าความสามารถเฉพาะตัวอย่างนี้ห้ามลอกเลียนแบบ

ว่างๆก็เข้ามาคุยกันบ้าง
(ไม่มีคนปั่นกระทู้นะ)
ว่าแต่ว่าพี่ไม่กินกาแฟนะ
กินแต่นม อิ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 11:42 am
โดย smith_sanguan
เหนื่อยเดี๋ยวเข้ามาปั่นนะครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 12:36 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
อันนี้โพสผิดกระทู้หรือเปล่า
หรือตั้งใจ
ดูเหมือนมาจากกระทู้อื่นนะ
เพราะก่อนหน้าไม่มี

ตั้งใจครับ เห็นพี่บอกว่าอยากได้คนช่วยปั่นกระทู้

ผมก็เลยหาคนมาช่วยปั่นกระทู้ให้ไงครับ

:D

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 12:47 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:
ได้อะไรดีๆมาเล่าสู่กันฟังบ้างนา
เล่าประสบการณ์เรื่องการ short หุ้นให้ฟังครับ

ตอนผมขายหุ้นไป 3/4 แถว 620

เพราะมันหลุด 624 หรือ 627 อะไรซักอย่างซึ่งเป็นเส้น

แนวรับสำคัญ ผมเห็นว่าหุ้นมันก็แพงอยู่แล้ว

ผมหลุดแนวรับก็เลยขาย

ขายเสร็จก็จะหาจังหวะ short หุ้น

แต่ก็กลัวหุ้นแค่ปรับฐาน แล้วขึ้นต่อ

ผมโทรไปหานักเทคนิคเขาบอกว่า

เอางี้ถ้าหลุด 585 จะลงไป 540-520

ผมก็เลยรอที่ 585 ผมมันหลุดผมก็ขายอีก

1 ใน 4

แล้วก็เปิด short หุ้นเอาไว้

รู้สึกว่าหุ้นจะมี rebound หรืออะไรจำไม่ได้

เพราะ short หลังจากลงแรงมาแล้วหลายวัน

เลยตกใจรีบ cutloss (recovery short)

ปรากฏว่ามันลงไปจริงๆ แต่ผม short ผิดจังหวะ

เจ็บใจมาก มองถูกว่าลง แต่ขาดทุน

ถ้าเป็นตลาดขาขึ้นก็คือซื้อตอนมันเริ่มขึ้นแต่ซื้อปุ๊ป

มันลงเลยขายหนี แล้วมันก็ขึ้นไปจริงๆ เราเลยขาดทุนใน

ตลาดขาขึ้นทั้งๆที่เราคาดการณ์ถูก

อะไรทำนองนั้น

เจ็บใจเล็กน้อย แต่หุ้นที่ต่ำกว่า 600+- 10 จุดผมก็ไม่กล้า short แล้วล่ะ

รอซื้ออย่างเดียวดีกว่า

ผมยังเป็นมือใหม่นะสนาม short หุ้นจริงๆด้วย

คงต้องเสียค่าเรียนในการ short หุ้นไปก่อน



แชร์เรื่องที่ผิดพลาดให้ฟังครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 2:45 pm
โดย smith_sanguan
ห้องนี้ ผมขออ่านเฉยๆ นะครับ ไม่ใช้ทางของผม

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 5:15 pm
โดย VIB007
smith_sanguan เขียน:ห้องนี้ ผมขออ่านเฉยๆ นะครับ ไม่ใช้ทางของผม
อ้าว ไหนบอกจะมาช่วยปั่น(กระทู้)

ไหนๆก็มาแล้วคุณสมิทธ (เห็นน้องๆเรียกกัน)
ช่วยทำงานหน่อยแล้วกัน

ถามว่า
ในมุมมองของเทคนิค
มองตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างไร
ช่วงไหนเรียกสั้น กลาง ยาวให้คิดเอาเองเลยไม่ได้จำกัดเวลา

รอฟังอยู่

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 5:29 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:
ผมยังเป็นมือใหม่นะสนาม short หุ้นจริงๆด้วย

คงต้องเสียค่าเรียนในการ short หุ้นไปก่อน



แชร์เรื่องที่ผิดพลาดให้ฟังครับ
พูดถึงเรื่อง short หุ้น
พี่ก็ศึกษาอยู่
และลองทำมาหลายที
ก็ได้ประสบการณ์แต่ไม่ค่อยได้ตังค์
ส่วนใหญ่จะเท่าทุนหรือกำไรเล็กน้อย

แต่ของพี่จะเป็น Fundamental Short
ถ้าหุ้นมัน overvalue ถึงจะ Short
เคย short หุ้นตัวหนึ่งที่ราคา 40 บาทดัชนี 490 จุดเมื่อปลายเดือนเมษายน
มันพุ่งต่อไปที่ 60 บาท ดัชนีลากกันไป 630 จุด
แต่ไม่ได้ Cover เพราะอยากลองของ
ผ่านไปสองเดือน ราคาหุ้นกลับมาที่ 40 บาทดัชนีอยู่ที่ 570 จุด
รอบนี้ได้ความรู้เยอะ
และเป็นการทดสอบจิตใจอย่างมาก
และเพิ่งเริ่ม Cover กลับ

ถ้าตกใจ Cover กลับตอนเพื่อนกำลังลากหุ้นไปหกสิบ
คงขาดทุนน่วมเลย
แต่สุดท้ายก็เท่าทุน
และกำไรนิดหน่อยที่ short เพิ่มไปอีกที่ 60 บาท

งานนี้ได้ความรู้และประสบการณ์เยอะมาก
ใครใจไม่ถึงและวิเคราะห์ธุรกิจไม่เป็น
อย่าลองดีกว่า
แล้วจะหาว่าไม่เตือน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 5:53 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน: อ้าว ไหนบอกจะมาช่วยปั่น(กระทู้)

ไหนๆก็มาแล้วคุณสมิทธ (เห็นน้องๆเรียกกัน)
ช่วยทำงานหน่อยแล้วกัน

ถามว่า
ในมุมมองของเทคนิค
มองตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างไร
ช่วงไหนเรียกสั้น กลาง ยาวให้คิดเอาเองเลยไม่ได้จำกัดเวลา

รอฟังอยู่

เห็นด้วยครับ

พี่วิบูลย์เขาเปิดกว้างทางความคิดครับเฮียสมิท

โพสได้เต็มที่เลยครับ

ลองเข้ากับคนที่ต่างแนวดูบ้างอาจสนุกไปอีกแบบก็ได้นะครับ


ผมรอฟังด้วยคนครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 6:06 pm
โดย hongvalue
VIB007 เขียน:พูดถึงเรื่อง short หุ้น
พี่ก็ศึกษาอยู่
และลองทำมาหลายที
ก็ได้ประสบการณ์แต่ไม่ค่อยได้ตังค์
ส่วนใหญ่จะเท่าทุนหรือกำไรเล็กน้อย

แต่ของพี่จะเป็น Fundamental Short
ถ้าหุ้นมัน overvalue ถึงจะ Short
เคย short หุ้นตัวหนึ่งที่ราคา 40 บาทดัชนี 490 จุดเมื่อปลายเดือนเมษายน
มันพุ่งต่อไปที่ 60 บาท ดัชนีลากกันไป 630 จุด
แต่ไม่ได้ Cover เพราะอยากลองของ
ผ่านไปสองเดือน ราคาหุ้นกลับมาที่ 40 บาทดัชนีอยู่ที่ 570 จุด
รอบนี้ได้ความรู้เยอะ
และเป็นการทดสอบจิตใจอย่างมาก
และเพิ่งเริ่ม Cover กลับ

ถ้าตกใจ Cover กลับตอนเพื่อนกำลังลากหุ้นไปหกสิบ
คงขาดทุนน่วมเลย
แต่สุดท้ายก็เท่าทุน
และกำไรนิดหน่อยที่ short เพิ่มไปอีกที่ 60 บาท

งานนี้ได้ความรู้และประสบการณ์เยอะมาก
ใครใจไม่ถึงและวิเคราะห์ธุรกิจไม่เป็น
อย่าลองดีกว่า
แล้วจะหาว่าไม่เตือน
ถ้าให้เดาหุ้นที่ว่าน่าจะเป็น pttch


ผม short หุ้นจะดูว่า fundflow จะไหลออก

แล้วดูว่าภาพใหญ่เป็น theme ไหนแล้วเลือก short

กลุ่มที่เสียประโยชน์

ทำแบบนี้ก็ยังไม่ได้กำไรอยู่ดี

เพราะผิดจังหวะรอจนมันลงติดกันหลายวันเกิน

แล้วพอมันเด้งก็ตกใจรีบ cutloss



รอบหน้าเอาใหม่


ว่าแต่ short pttch มีเหตุผลทางพื้นฐาน support ยังไงบ้างครับ

และทำไมถึงปล่อยให้ขาดทุนตั้ง 50% เลยล่ะครับ



จะรอฟังครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 10:24 pm
โดย Linzhi
แหะ ๆ ขอแจมเฉพาะเรื่อง short แล้วกันครับ

แนว VI ผมว่า short หุ้นแล้วไม่คุ้มเท่าไหร่ ยิ่งถ้าไม่ถูกฝึกเรื่องจิตวิทยาหรือวินัยการลงทุนด้วยล่ะก็
เพราะอย่างมากก็ได้ผลตอบแทน 10-20% เอาแบบสุด ๆ เลย ก็ไม่เกิน 50% แบบตลาดผันผวนอย่างนี้

แต่โอกาสที่จะสูญเสียหุ้นหลายเด้งไปตลอดกาลมีสูง เพราะคนเราไม่กล้าซื้อหุ้นกลับ

มันเป็นกลไกพื้นฐานของสมอง คือการกลัวความพ่ายแพ้

ยกตัวอย่างถ้าราคามันเกินตรงที่เรา short ไปนิดเดียว เช่น short ที่ 40
ราคาวิ่งไป 10% = 44 โอกาสที่จะซื้อกลับนั้นยาก และถ้าวิ่งต่อ โอกาสซื้อกลับจะลดลงอีก

เพราะคนเรากลัวโง่ หรือกลัวความพ่ายแพ้ (ที่ตัวเองคิดผิด)

มันเป็นอารมณ์เดียวกับ ถ้าเรามีหุ้นตัวนั้นอยู่เต็ม แต่หุ้นนั้นลงไปนิดเดียว เช่นลงไปเหลือ 36 คนกลับมีแนวโน้มถือต่อ และไม่ขายตัดขาดทุน

เพราะกลัวโง่เหมือนกัน

แต่ทางนี้กลับดีกว่า เพราะถ้าวิเคราะห์ดีว่าระยะยาวหุ้นนั้นมีพื้นฐานดี
ความกลัวตรงนี้ ก็จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจนั้น ๆ เลย เพราะราคาหุ้นจะกลับมาในที่สุด

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 10:52 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:

ผม short หุ้นจะดูว่า fundflow จะไหลออก

แล้วดูว่าภาพใหญ่เป็น theme ไหนแล้วเลือก short

กลุ่มที่เสียประโยชน์

ทำแบบนี้ก็ยังไม่ได้กำไรอยู่ดี

เพราะผิดจังหวะรอจนมันลงติดกันหลายวันเกิน

แล้วพอมันเด้งก็ตกใจรีบ cutloss



รอบหน้าเอาใหม่


ว่าแต่ short pttch มีเหตุผลทางพื้นฐาน support ยังไงบ้างครับ

และทำไมถึงปล่อยให้ขาดทุนตั้ง 50% เลยล่ะครับ



จะรอฟังครับ
พอดีร้อนวิชา
เพิ่งไปศึกษาเกี่ยวกับการShortหุ้นมา
เลยเอามาลองดู
แต่ทำมาสักระยะหนึ่งแล้วหละ

ในตำราบอกว่าพวก Short Seller
ต้องเป็นพวกที่มั่นใจในตัวเองมาก
ขณะเดียวกันต้องละลายอีโก้ตัวเองได้ด้วย
หมายความว่า
คนส่วนใหญ่เวลา Short แล้วหุ้นกลับขึ้น
มักทำอะไรไม่ถูกและต้องรีบซื้อCoverหุ้นคืน
เพราะกลัวขาดทุนมาก
อย่างที่เกิดกับฮงนั่นหละ

แต่สำหรับพวกนักShort มืออาชีพแล้ว
จะรอคอยอย่างอดทนถึงแม้ราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้น
เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์ของตนเอง
มีตัวอย่างมากมายในตลาดต่างประเทศ
ที่บริษัทที่ถูกShort แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เพราะตลาดกำลังมาแรง
และข่าวต่างๆผลักดันราคาหุ้นให้ขึ้นตามกระแส

แต่สุดท้ายบริษัทนั้นก็แทบจะล้มละลาย
เพราะพื้นฐานกิจการมันกำลังแย่
ราคาหุ้นก็ลดลงจนคนที่อึดเท่านั้นถึงจะทำกำไรได้
ส่วนพวกไก่อ่อน(ไม่ได้ว่าฮงนะ)ก็ต้องจ่ายค่าวิชากันไป

ส่วนที่บอกว่าต้องละลายอีโก้นั้น
เพราะถ้าพบว่าตัวเองคิดผิด
ต้องรีบ"มอบตัว"ทันที
เพราะการShort หุ้นได้กำไรสูงสุดแต่ร้อยเปอร์เซนต์
(เมื่อหุ้นเหลือศูนย์หรือบริษัทล้มละลาย)
แต่การขาดทุนมันไม่จำกัด
เพราะราคาหุ้นขึ้นไปเท่าไหร่ก็ได้

นี่ยังไม่ได้พูดถึงการShort Future
ที่ต้องวางเงินกันวันต่อวันเลยทีเดียว
ถ้าShort ผิดทาง

ส่วนเคศที่เพิ่งทดลองทำShort ไป
ไม่ได้ขาดทุนนะ ตอนนี้ก็ได้กำไร
ที่ฮงถามว่าทำไมปล่อยให้ขาดทุน(ทางบัญชี)ตั้ง 50%
ก็เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์
และตัวอย่างในเมืองนอกก็มีมากมาย

จากการประเมินราคาหุ้นพื้นฐานได้ประมาณ 35-40 บาท
ราคาที่เกินกว่านี้คือโอเวอร์แวลู
ปรากฏว่าพอShort ไปแล้ว
ผู้บริหารดันออกข่าวจะมีการควบรวม
ราคาหุ้นเลยขึ้นไปเรื่อยๆ
รวมทั้งตลาดเป็นกระทิงดุอีกด้วย
จนราคาขึ้นไปกว่า 60 บาท

จากการวิเคราะห์อีกเหมือนกัน
การควบรวมไม่ได้เป็นผลดีต่อบริษัทนี้สักนิด
เพราะต้นทุนการดำเนินงานจะสูงขึ้น
จากวัตถุดิบจากแก๊สจะเปลี่ยนเป็นแนฟทามากขึ้น
แต่ตลาดไม่สนใจ ราคาหุ้นก็เลยขึ้นเอาๆ

สุดท้ายสูงสุดคืนสู่สามัญ
ราคาหุ้นก็กลับมาที่พื้นฐานเดิม
คนที่อึดเท่านั้นถึงจะได้กำไรในธุรกิจการShort หุ้น
ตำราบอกไว้อย่างนั้นนะ
ซึ่งตรงตามตำราบอก
เราไม่ลองก็ไม่รู้

รอบนี้ได้ประสบการณ์มาอีกเพียบ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 10, 2009 11:00 pm
โดย VIB007
Linzhi เขียน:แหะ ๆ ขอแจมเฉพาะเรื่อง short แล้วกันครับ

แนว VI ผมว่า short หุ้นแล้วไม่คุ้มเท่าไหร่ ยิ่งถ้าไม่ถูกฝึกเรื่องจิตวิทยาหรือวินัยการลงทุนด้วยล่ะก็
เพราะอย่างมากก็ได้ผลตอบแทน 10-20% เอาแบบสุด ๆ เลย ก็ไม่เกิน 50% แบบตลาดผันผวนอย่างนี้

แต่โอกาสที่จะสูญเสียหุ้นหลายเด้งไปตลอดกาลมีสูง เพราะคนเราไม่กล้าซื้อหุ้นกลับ

แต่ทางนี้กลับดีกว่า เพราะถ้าวิเคราะห์ดีว่าระยะยาวหุ้นนั้นมีพื้นฐานดี
ความกลัวตรงนี้ ก็จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจนั้น ๆ เลย เพราะราคาหุ้นจะกลับมาในที่สุด
อย่างที่บอก
การShort หุ้นได้กำไรสูงสุดแค่ร้อยเปอร์เซนต์
(เมื่อหุ้นเหลือศูนย์หรือบริษัทล้มละลาย)
แต่การขาดทุนมันไม่จำกัด
เพราะราคาหุ้นขึ้นไปเท่าไหร่ก็ได้

มีข่าวนักธุรกิจหมื่นล้านชาวเยอรมันฆ่าตัวตาย
โดยกระโดดให้รถไฟทับเมื่อปลายปีที่แล้ว
สาเหตุมาจากการShort หุ้นบริษัทโฟล์คสวาเกนไว้
เพราะคิดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังแย่
แต่ปรากฏว่าบริษัทปอร์ชดันมาตีท้ายครัว
เข้ามาเก็บหุ้นเพื่อเทคโอเวอร์
ทำให้ราคาหุ้นพุ่งพรวด
นักธุรกิจรายนี้ต้องขาดทุนจากการShortมหาศาล
เลยฆ่าตัวตาย

ถ้าไม่แน่ใจ ไม่มีความรู้จริง
อย่าเล่นกับShortเลย
มันเสี่ยงเกินไป

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:19 am
โดย hongvalue
คุยแล้วชักมันนะครับ เพราะหลังๆพี่วิบูลย์พิมพ์ยาวๆทั้งนั้นเลย แล้วก็ใช้คำพูดให้เกียรติผู้สนทนาดีด้วย
คุยแล้ว happy ดีครับ
VIB007 เขียน: ส่วนพวกไก่อ่อน(ไม่ได้ว่าฮงนะ)ก็ต้องจ่ายค่าวิชากันไป

5555

พูดได้ครับ ไม่เป็นไร

หลังๆผมอ่านหนังสือธรรมะแล้วปลงกับชึวิตหลายอย่าง

ตะก่อนเวลามีคนเห็นไม่ตรงกันก็จะรู้สึกว่าเราจะอยากออกมาชนกับเขา

แต่พอทำๆไปแล้วรู้สึกว่า มันไม่เห็นได้อะไรขึ้นมาเลย

พยายามฝึกให้ตัวเองเป็นคนใจเย็น และควบคุมอารมณ์ครับ

แซวกันได้นะครับ

เพราะว่าผมก็ไก่อ่อนสำหรับสนาม short หุ้นจริงๆนั้นแหละ




VIB007 เขียน:

แต่สำหรับพวกนักShort มืออาชีพแล้ว
จะรอคอยอย่างอดทนถึงแม้ราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้น
เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์ของตนเอง
มีตัวอย่างมากมายในตลาดต่างประเทศ
ที่บริษัทที่ถูกShort แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งต่อไปอย่างต่อเนื่อง
เพราะตลาดกำลังมาแรง
และข่าวต่างๆผลักดันราคาหุ้นให้ขึ้นตามกระแส
ผมว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์ครับ

ผมว่า vi มีสายเลือดของการเป็น contrarian อยู่สูงครับ

ผมเคยคุยกับ vi หลายๆคน พวกเขากล้าซื้อหุ้นตอนตัวแดง

ยิ่งแดงเขายิ่งชอบ

ผมบอกผมไม่เอาเลยตัวแดง

ผมซื้อตอนตัวเขียว ขายตอนตัวแดง

ถ้าหุ้นเป็นขาขึ้น 100% วันแรกที่ขึ้นแรง 10% เราซื้อไป

แล้วรอขายวันที่ลงแรงวันแรก ยังได้กำไร 70-80% ได้เลย

ใครเล่นหุ้นโรงกลั่นรอบที่ผ่าน

ซื้อวันที่บวกแรงๆวันแรกแล้วมารอขายวันลงแรงวันแรก

ได้กำไรเยอะมากครับ ผมก็ใช้สูตรนี้ขายหุ้นครับ

(ซื้อแล้วถือหลายเดือนนะ)

ผมมีแนวคิดของนักเล่นแบบ momentum play อยู่ในสายเลือดครับ

ฉะนั้นหุ้นแดงผมไม่เล่นครับ

VIB007 เขียน:ส่วนเคศที่เพิ่งทดลองทำShort ไป
ไม่ได้ขาดทุนนะ ตอนนี้ก็ได้กำไร
ที่ฮงถามว่าทำไมปล่อยให้ขาดทุน(ทางบัญชี)ตั้ง 50%
ก็เพราะมั่นใจในการวิเคราะห์
และตัวอย่างในเมืองนอกก็มีมากมาย

อันนี้ก็คนละปรัชญากับผมครับ

(ชาว vi อย่าเพิ่งรุมยำผมนะครับที่ผมมีความเห็นไม่ตรงกับความเชื่อของท่าน แต่ผมขี้เกียจ fake ว่าตัวเองมีหลักการแบบเดียวกับที่คนส่วนใหญ่เชื่อกันน่ะ เพื่อจะได้กลมกลืนเข้ากับคนอื่น ถ้าแบบนั้นอย่าโพสเลยดีกว่า)



ปรัชญา vi บอกว่าใช้ประโยชน์จากนายตลาดใช่ไหมครับ

ผมเห็นด้วยครับ

แต่ vi ชอบบอกว่าตลาดมันจะผิด

แต่ผมไม่เห็นด้วย(ครึ่งเดียว)เพราะผมเห็นว่า

market alway right

อย่างเช่น ตอนเกิดวิกฤติใหม่ๆq3 ปีที่แล้ว ทำไมใครๆก็คิดว่าโอกาศซื้อหุ้น โอกาศทอง
ปรากฏยิ่งซื้อยิ่งลง แล้วสุดท้ายเดือนตุลาลงแรง

แล้ว สุดท้าย gdp ก็ออกมาติดลบ

ถามว่านายตลาดถูกไหมครับ ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนลดจริงไหมครับ

แต่คนส่วนใหญ่เลือกหลอกตัวเองแล้วบอกว่า

นายตลาดไม่มีเหตุผล

แล้ว late q1 เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นแต่หุ้น bottom ไปแล้ว

และเริ่มเป็นขาขึ้นตอนต้น q2

แล้วตัวเลขเศรษฐกิจ q2 ก็ค่อยๆดีขึ้น

สรุป นายตลาดโง่หรือเปล่าครับ

100 คน ชนะนายตลาดกี่คนครับ

ถึง 10 หรือเปล่า



ปรัชญาของผมเป็นการผสมระหว่าง

นายตลาดมักจะอารมณ์ไม่ดีและนายตลาดถูกเสมอ

ซึ่งมันขัดกันเองครับ


พูดแล้วฮา


แต่ผมเชื่อว่านายตลาดถูกเสมอมากกว่าครับ


vi หลายคนอ่านแล้วคง anti


ก็อย่าเก็บไปเป็นอารมณ์ครับ

เดี่ยวจะเป็นโรคเส้นเลือดในสมองระเบิดซะเปล่าๆครับ

VIB007 เขียน:
สุดท้ายสูงสุดคืนสู่สามัญ
ราคาหุ้นก็กลับมาที่พื้นฐานเดิม
คนที่อึดเท่านั้นถึงจะได้กำไรในธุรกิจการShort หุ้น
ตำราบอกไว้อย่างนั้นนะ
ซึ่งตรงตามตำราบอก
เราไม่ลองก็ไม่รู้

รอบนี้ได้ประสบการณ์มาอีกเพียบ

ดูแล้วเป็นการ short ที่เหมาะกับปรัชญาของ vi จริงๆครับ

ทั้งอึด ทั้งเน้นพื้นฐาน ทั้งอย่าตามนายตลาด

แต่ก็อย่างที่บอกปรัชญาของผมตรงข้ามหมดเลย

ดู momentum ว่าเป็นยังไง และเลือกตัวที่พื้นฐานแย่ในการ short

แต่ผมคิดวิธี short ที่ดีกว่าเดิมได้แล้วล่ะครับ

ถ้าผมต้องเสียค่าโง่ ผมจะไม่ยอมเสียค่าโง่ในรูปแบบเดิมๆแน่นอน

จะเป็นยังไงก็ลองติดตามกันไปก่อนครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:21 am
โดย hongvalue
Linzhi เขียน:แหะ ๆ ขอแจมเฉพาะเรื่อง short แล้วกันครับ

แนว VI ผมว่า short หุ้นแล้วไม่คุ้มเท่าไหร่ ยิ่งถ้าไม่ถูกฝึกเรื่องจิตวิทยาหรือวินัยการลงทุนด้วยล่ะก็
เพราะอย่างมากก็ได้ผลตอบแทน 10-20% เอาแบบสุด ๆ เลย ก็ไม่เกิน 50% แบบตลาดผันผวนอย่างนี้

แต่โอกาสที่จะสูญเสียหุ้นหลายเด้งไปตลอดกาลมีสูง เพราะคนเราไม่กล้าซื้อหุ้นกลับ

มันเป็นกลไกพื้นฐานของสมอง คือการกลัวความพ่ายแพ้

ยกตัวอย่างถ้าราคามันเกินตรงที่เรา short ไปนิดเดียว เช่น short ที่ 40
ราคาวิ่งไป 10% = 44 โอกาสที่จะซื้อกลับนั้นยาก และถ้าวิ่งต่อ โอกาสซื้อกลับจะลดลงอีก

เพราะคนเรากลัวโง่ หรือกลัวความพ่ายแพ้ (ที่ตัวเองคิดผิด)

มันเป็นอารมณ์เดียวกับ ถ้าเรามีหุ้นตัวนั้นอยู่เต็ม แต่หุ้นนั้นลงไปนิดเดียว เช่นลงไปเหลือ 36 คนกลับมีแนวโน้มถือต่อ และไม่ขายตัดขาดทุน

เพราะกลัวโง่เหมือนกัน

แต่ทางนี้กลับดีกว่า เพราะถ้าวิเคราะห์ดีว่าระยะยาวหุ้นนั้นมีพื้นฐานดี
ความกลัวตรงนี้ ก็จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจนั้น ๆ เลย เพราะราคาหุ้นจะกลับมาในที่สุด

ดีครับ ช่วยๆกันแชร์ประสบการณ์ครับ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:37 am
โดย hongvalue
ว่าแต่พี่วิบูลย์ก็เป็น vi ที่แปลกดีนะครับ

เพราะทำอะไรนอกกรอบที่ vi ส่วนใหญ่ทำด้วย

ถึง concept และปรัชญาจะไม่เหมือนกัน

แต่ก็เป็นการเล่น short ที่มีข้อมูลพื้นฐาน

และมีจิตใจนักแน่น

สมเป็นการเล่น short ของ vi ตัวจริง



แต่ผมว่าการที่พี่บอกว่าคนที่ไม่ได้ทำแบบที่พี่ทำ

เป็นไก่อ่อน(ไม่ได้โกรธอะไรนะ)

ก็ไม่ถูกนะครับ

มันเหมือนกับเราคิดว่าถ้าสิ่งที่เราทำได้เงิน

คนที่ทำไม่เหมือนเรา มันอ่อนกว่า

แต่ถ้าเราได้คุยกับคนในตลาดหุ้นหลายแนว

คนที่มีปรัชญาไม่เหมือนเรา

และวิธีการไม่เหมือนเรา

ก็ได้ตังค์กันเยอะแยะไม่แพ้เรา

เราอ่านบทสัมภาษเสี่ยยักษ์บอกว่าดู volume

ดูกราฟ ดูจิตวิทยาตลาด

เขาอาจไม่ได้มานั่งแกะบัญชีแบบ vi

ไม่ได้ศึกษา economic อย่าง fundflow

แต่เขารวยเป็นพันล้าน

เราจะบอกว่าเขาเป็นไก่อ่อนเลยดีหรือไม่

ถ้าเขาไม่คิดเหมือนเรา และวิธีคิดของเขาอาจจะขาดทุน

ในขณะที่เรากำไร ในบางสถานการณ์ของตลาด


ถนนแห่งการทำกำไร มีทางมุ่งหน้าไปทางเดียวกระนั้นหรือ?

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 8:52 am
โดย hongvalue
ผมอ่านบทความพี่แล้วนะ

คำเตือนของ greenspan

พี่วิบูลย์ก็ติดตามข้อมูลมหภาคเยอะเลยนี้ครับ

แหม มีทีเด็ดซ่อนเอาไว้เยอะจังเลย

ทั้งวิธี short หุ้นเอย

แนวคิดมหภาคเอย

ข้อมูลเชิงสถิติเอย



วันนี้ผมต้องให้พี่ปล่อยทีเด็ดที่ซ่อนเอาไว้ออกมาบ้างแล้วล่ะครับ

เอ้า ใครอยากให้คุณวิบูลย์ปล่อยทีเด็ดออกมาเยอะๆบ้าง

ขอเสียงหน่อย  :lol:

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 9:05 am
โดย hongvalue
มีคำถามมาถามพี่วิบูลย์ครับ

ช่วยตอบตามความเป็นจริงหน่อยนะครับ

อยากทำวิจัยน่ะครับ



1.พี่คิดว่าจุดแข็งของตัวพี่ในการลงทุนคือเรื่องอะไร

โดยมีทั้งหมด 4 ข้อดังนี้ครับ

ช่วยเรียงจากที่พี่คิดว่าสำคัญมากไปน้อยพร้อมเหตุผลให้ดูหน่อยครับ

(พี่ต้องให้ความร่วมมือกับผมนะ เพราะผมทำเพื่อช่วยพี่ปั้นกระทู้ให้มีคนอ่านถึง ล้านครั้งนะครับ)

1. มีการควบคุมอารมณ์ที่ดี  

2.ลงทุนในอุตสาหกรรมที่ตัวเองเข้าถึงข้อมูลได้ลึกกว่าผู้อื่น

3.ประสบการณ์ลงทุนเยอะกว่าผู้อื่น

4.มีความรู้และหลักการลงทุนในด้าน vi อย่างลึกซึ่งผมศึกษามานาน

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 10:11 am
โดย smith_sanguan
VIB007 เขียน: อ้าว ไหนบอกจะมาช่วยปั่น(กระทู้)

ไหนๆก็มาแล้วคุณสมิทธ (เห็นน้องๆเรียกกัน)
ช่วยทำงานหน่อยแล้วกัน

ถามว่า
ในมุมมองของเทคนิค
มองตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างไร
ช่วงไหนเรียกสั้น กลาง ยาวให้คิดเอาเองเลยไม่ได้จำกัดเวลา

รอฟังอยู่
เทคนิค คือ timing ถ้ามหภาค ไม่ดี คือ ขาลง timing ก็ยากที่จะลงทุน เล่น ช็อตได้ แต่ก็ไม่ทำให้รวย เล่นให้รวยต้องเล่น ขาขึ้นครับ

ส่วนตัวคิดว่า จุดต่ำสุด ผ่านไปแล้วครับ ไม่ได้เห็นโลเดิมครับ

ระยะสั้น ตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ถึง 1 เดือนครับ ตอนนี้ บอกว่า ผันผวนครับ ที่บอกจะลงไป 550 530 จริงครับ แต่ที่ผมเอ๋ใจและไม่มั่นใจ fund Flow ยังไม่หมด ครับ ถ้า ฟันโฟ มา จะสวืงขึ้นทำนิวไฮใหม่ครับ ต้องรอดู 70% ลง แต่ไม่ปักใจเชื่อครับ

ระยะกลาง 1 เดือน ถึง 1 ปี พักฐานครับ

ระยะยาว 1 ปี ขึ้นไป พักฐาน จะเป็นขาขึ้นครับ ผมรออยู่ครับ จะเล่นเอารวยครับ

เล่นก็ต่อเมื่อ มีบวก ระดับ สี่สิบจุดขึ้นครับ รอบที่ผ่านมา ผมได้กำไร พอๆ กับตลาด แต่เวลาลง ผมจะไม่ติดหุ้นครับ ขาลงที่ผ่านผมก็ไม่ติดครับ

ทุกสิ่งทุกอย่าง คือ สิ่งไม่เที่ยง อย่าเชื่อมั่นกับตัวเองมากจนเกินไปครับ ขอแค่นี้ครับ โดยมากในนี้ จะไม่ค่อยเชื่อเทคนิค ผมโดนอัดบ่อย ผมก็เลือกเงียบดีกว่า แต่ที่ผมเห็นว่า vi ส่วนมากขาด คือ การปรับเปลี่ยนตามสภาวะแวดล้อม คือ ชอบยึดติด กับอดีตมากเกินไป แต่ จริงๆ Finance โดยมาก ต้องคาดการณ์ ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ไม่ใช้ดูแค่งบดุล ต้องดูได้หมดครับ

ผมเรียนจบ finance specialist (CPI) ครับ จริงๆ Technical Analysis เป็นบทนึงที่ถูกสอนด้วยครับ คนเชื่อเรื่อง CML เบต้า แกมม่า กับ theory มากมาย จริง มัน ก็ คือ สถิติ technical analysis ก็คือ สถิติ เหมือนกันแต่ไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ต้องรู้ครับ แต่ส่วนมากจะเลือกไม่สนใจเลย

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 12:55 pm
โดย VIB007
hongvalue เขียน:ว่าแต่พี่วิบูลย์ก็เป็น vi ที่แปลกดีนะครับ

เพราะทำอะไรนอกกรอบที่ vi ส่วนใหญ่ทำด้วย

ถึง concept และปรัชญาจะไม่เหมือนกัน

แต่ก็เป็นการเล่น short ที่มีข้อมูลพื้นฐาน

และมีจิตใจนักแน่น

สมเป็นการเล่น short ของ vi ตัวจริง
นี่เขาเรียกลูบหลังแล้วตบหัว  ฮา
ชมก่อนแล้วค่อยติ

การshort แบบนี้ทำมากไม่ดี
ใครไม่แข็งแรง ไม่แนะนำ
เพราะหัวใจจะวายเอา


hongvalue เขียน:แต่ผมว่าการที่พี่บอกว่าคนที่ไม่ได้ทำแบบที่พี่ทำ

เป็นไก่อ่อน(ไม่ได้โกรธอะไรนะ)

ก็ไม่ถูกนะครับ

มันเหมือนกับเราคิดว่าถ้าสิ่งที่เราทำได้เงิน

คนที่ทำไม่เหมือนเรา มันอ่อนกว่า

แต่ถ้าเราได้คุยกับคนในตลาดหุ้นหลายแนว

คนที่มีปรัชญาไม่เหมือนเรา

และวิธีการไม่เหมือนเรา

ก็ได้ตังค์กันเยอะแยะไม่แพ้เรา

เราอ่านบทสัมภาษเสี่ยยักษ์บอกว่าดู volume

ดูกราฟ ดูจิตวิทยาตลาด

เขาอาจไม่ได้มานั่งแกะบัญชีแบบ vi

ไม่ได้ศึกษา economic อย่าง fundflow

แต่เขารวยเป็นพันล้าน

เราจะบอกว่าเขาเป็นไก่อ่อนเลยดีหรือไม่

ถ้าเขาไม่คิดเหมือนเรา และวิธีคิดของเขาอาจจะขาดทุน

ในขณะที่เรากำไร ในบางสถานการณ์ของตลาด


ถนนแห่งการทำกำไร มีทางมุ่งหน้าไปทางเดียวกระนั้นหรือ?
พูดถึงเรื่อง"ไก่อ่อน"
พี่ว่าฮงคงเข้าใจผิด
พี่ไม่ได้หมายความว่าใครทำไม่เหมือนเราแล้วจะผิดนะ

ในเวปก็อย่างนี้หละ
เขียนอะไร
คนตีความกันไปร้อยแปด

พี่ไม่เคยคิดว่าคนอื่นทำไม่เหมือนเรา
แล้วจะไม่ใช่วิธีที่ถูก
พี่พูดเสมอ
แมวสีอะไรก็จับหนูได้

ในตลาดหุ้นไม่มีวิธีที่ถูกหรือผิด
มีแต่วิธีไหนที่เหมาะกับเรามากกว่า

ยกตัวอย่างเสี่ยยักษ์
ก็มีคนที่เหนือกว่าเสี่ยยักษ์อยู่ดี
เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า
ดังนั้นใครใช้วิธีอะไรเหมาะ
ก็ใช้วิธีนั้นเถอะ
อย่าไปคิดว่าใครไม่เหมือนเราแล้ว"ผิด"
ไม่เคยมีในหัวเลยนะ

ส่วนที่ว่าไ่ก่อ่อน
หมายถึงคนที่เริ่มshort หุ้นใหม่ๆ
พอshort ไปแล้วหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
ต้องตาหลีตาเหลือก cover short กลับ
เพราะความกลัว
นั่นหมายถึงแค่นั้นจริงๆ
สุดท้ายก็มองหุ้นนั้นล้มละลายไปต่อหน้า
พี่เอามาจากตำรานะ

ถ้ามืออาชีพจะ cover short ด้วยหลักการ
ไม่ใช่ด้วยความกลัว

เฮ้อ ไม่ได้พูดเลยว่าใครไม่เหมือนเราจะผิด
ฮงคิดไปเองมากกว่า

ส่วนข้ออื่นจะเข้ามาตอบทีหลัง
ไปทำธุระก่อนหละ

คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ค. 11, 2009 3:26 pm
โดย Amadeus
สุดยอดวิชาทั้งนั้นเลย  การเรียนรู้ไม่มีจบจริงๆ

พวกเซียนนี่เท่าที่สังเกตุดู ทุกคน flexible มากๆ

ขอซูฮก