Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมว่าไม่ถูก ไม่แพง
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตัดสินใจได้ยากมาก เพราะจะว่าถูกก็ยังไม่เชิงน่ะครับ

ผมอาจจะประสบการณ์น้อย ตอน hamburger ก็ไม่เจอเต็มๆเพราะพึ่งเริ่มเข้า ยังใส่เงินไม่เยอะ แต่ผมมองว่าตอนนี้หุ้นดีๆหลายๆตัว ราคาค่อนข้าง fair ครับ ถึงไม่ถูกแต่ก็พอรับได้ ส่วนหุ้นเล็กๆ ถูกแล้วครับ

ตอนนี้ข้าพเจ้ายืนอยู่บนกำแพงเมืองปูซาน
เห็นควันขโมง ข้าศึกวิ่งตะลุยมาหลายวันติดต่อกัน
ประเทศเพื่อนบ้าน ก็เละเทะไม่แพ้กัน

สั่งพลธนูง้างเกาทัณฑรอ ซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ
หากข้าศึกยังคงวิ่งต่อถึง กำแพงเมืองปูซาน โดยไม่หยุดพัก
จะลงไปรบประชิดด้วยซัก 1-2 เพลง

หุ้นใด ๆ ก็แล้วแต่ความเสี่ยงจะน้อยลงเมื่อราคาถูกลง
และความเสี่ยงจะสูงขึ้นเมื่อราคาสูงขึ้น

แต่ นลท. จะทำตรงกันข้ามเสมอ

ข้าพเจ้าคิดว่าคำว่าถูกมันมองได้หลายมุมครับ จะว่าไปหุ้นหลายตัว ณ เวลานี้ ก็อาจจะถูก แต่ถามว่าถูกมากไหม มันก็อาจจะไม่ถึงขนาดนั้นเพราะในความเป็นจริงคำว่าถูก มันมีทั้งมิติที่เกิดจากตัวหุ้นเอง หมายถึงการประเมินมูลค่าแล้วต่ำกว่าความเป็นจริง กับอีกมิติหนึ่งคือ "ตัวเร่งขาลง" ซึ่งมันอาจจะทำให้หุ้นถูกแล้วถูกอีก ซึ่งตัวเร่งขาลงนี้บางครั้งเราก็บอกไม่ได้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ มากี่ตัวเร่ง หรือมันจะจบเมื่อไหร่ ตัวเร่งขาลงของข้าพเจ้า หมายถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาวะของตลาด ความกลัว ข่าวร้าย short sell force sell ฯลฯ อีกสารพัด อย่างในรอบนี้มันก็มาเป็นชุด ตั้งแต่เลิก QE ตามมาด้วยปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ และที่นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเอามาเล่นกันได้ก็เรื่องสงครามที่ซีเรีย ข้าพเจ้าเชื่อว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่ก็มองไปที่จะ "ช้อนที่ก้นเหว" แต่ถามว่าแล้วตรงไหนมันคือก้นเหว ตอนแฮมเบอร์เกอร์ crisis ก็เคยมีตัวอย่างมาแล้วว่าหุ้นหลายตัวลงไปในระดับที่ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ ช้อนหักกันถ้วนหน้า หรืออย่างตอนน้ำท่วมปี 54 ตอนนั้นก็เป็นตัวเร่งขาลงเริ่มตั้งแต่ วิกฤติยุโรป ตามมาด้วยน้ำท่วม SET ก็ลงแรงพร้อมกับความสิ้นหวัง บางคนถึงขนาดบอกว่าหุ้นที่ลงยังซื้อไม่ได้ สุดท้ายที่ 800 กว่าจุด อยู่ ๆ หุ้นมันก็พลิกกลับพร้อมกับวิ่งยาวอีกปีกว่า ๆ จนเกือบจะทำสถิติใหม่

ข้าพเจ้ามิรู้จริง ๆ ครับ ว่า "ก้นเหว" มันอยู่ตรงไหน ใครรู้โปรดช่วยชี้แนะครับ

สิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวยามหุ้นลงหนัก ไม่ใช่เพราะว่ามูลค่าของหุ้นในพอร์ตมันลดลงนะครับ เพราะหุ้นที่ข้าพเจ้าเลือกอย่างน้อยมันมีปัจจัยที่บวกที่ข้าพเจ้าประเมินแล้วว่าถ้าตลาดไม่แย่มันน่าจะพอกลับมาได้ สิ่งที่ข้าพเจ้ากลัวมากกว่าคือ "กลัวไม่มีเงินซื้อหุ้นครับ"

อันลูกธนูเหล่าของผู้กล้า ทั้งพลทหารรายย่อย จนถึงแม่ทัพใหญ่กองทุน ต่างยิงออกไปจนหมดสิ้น การที่จะมีลูกธนูมายิงต่อในยามนี้ จำเป็นต้องฝ่าไปถอนเอามาจากซากศพที่ล้มตาย

ตอนนี้ต้องประเมินสถานการณ์ใหม่ว่า วิกฤติการ โรตี ว่าจะกระทบเรามากแค่ไหน มองลงไป ด้วยกำลังพลของข้าศึก sun raising in US + โรตีเน่าที่แตกกระจ่าย ดูเหมือนว่าในยามนี้ยอดเนินปูซาน 1250 ดูเล็กไปถนัดตาทีจะซ่องสุมกำลังพล เห็นทีที่จะต้องมองไปที่หุบเขาด่านลึกเบื้องล่าง 1000 เป็นสำคัญ

ปู่บัฟบอกเหมือนอยู่ในฮาเร็ม
แต่ผมซื้อไปเสียวไป555

วอร์เรน บัฟเฟตต์” เปรียบเทียบได้เด็ดกว่านั้นครับ เขาเปรียบเทียบ “การมีหุ้น” เหมือนกับ “การมีผู้หญิงในฮาเร็ม”

“บัฟเฟตต์” กล่าวว่า “ถ้าคุณมีผู้หญิงอยู่สัก 40 คนในฮาเร็ม คุณจะไม่มีทางรู้จักผู้หญิงคนไหนดีสักคน” เปรียบเหมือนกับการมีหุ้นในพอร์ตจำนวนมากมายหลายสิบบริษัท คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่นักลงทุนจะสามารถทำความรู้จักแต่ละบริษัทได้อย่างลึกซึ้งดีพอ

นอกจากนี้ “บัฟเฟตต์” ยังบอกด้วยว่า “การมีหุ้นอยู่ในพอร์ตหลายตัวเกินไปคือการยอมรับว่าตัวเองไม่มีความสามารถในการเลือกหุ้น” เพราะการเลือกลงทุนในหุ้นที่ยอดเยี่ยมเพียงไม่กี่ตัว สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนกระจัดกระจายแบบเบี้ยหัวแตกในหุ้นหลายๆตัวที่ไม่มีคุณภาพ

เป็นที่รู้กันดีว่า “บัฟเฟตต์” ชอบการลงทุนแบบ “โฟกัส” คือ เน้นลงทุนในหุ้นของกิจการชั้นเยี่ยมที่เขามีความเข้าใจเป็นอย่างดีเพียงไม่กี่บริษัท เขาบอกว่า “การทำเงินได้อย่างมหาศาลมากมายในโลก เกิดจากการลงทุนในธุรกิจเดียวที่ยอดเยี่ยม หากคุณมีความเข้าใจอย่างดีในธุรกิจนั้นๆ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของธุรกิจมากมายหลายประเภท”

มีคำกล่าวที่ว่า “อย่านำไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” ด้วยเหตุผลว่า ถ้าตะกร้าตกหล่น ไข่ทั้งหมดในตะกร้าอาจแตกเสียหายได้ จึงมีคำแนะนำให้กระจายความเสี่ยงด้วยการนำไข่ไปใส่ไว้ในตะกร้าหลายๆใบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในกรณีที่ตะกร้าบางใบเกิดล้มคว่ำจนทำให้ไข่แตก ก็ยังมีไข่ในตะกร้าใบอื่นๆเหลืออยู่ เช่นเดียวกับการกระจายความเสี่ยงโดยการถือหุ้นหลายๆตัวในพอร์ต ถ้าเกิดหุ้นบางตัวมีปัญหาหรือขาดทุนก็จะไม่ทำให้พอร์ตโดยรวมเสียหาย ซึ่งในเรื่องนี้ “บัฟเฟตต์” มีมุมมองที่ต่างออกไป เขาชอบที่จะนำไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียวแล้วดูแลมันเป็นอย่างดี มากกว่าที่จะนำไข่ไปใส่ไว้ในตะกร้าหลายๆใบซึ่งทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง

“บัฟเฟตต์” มองว่า การกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นถ้านักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ลงทุนเป็นอย่างดี “การกระจายความเสี่ยงจำเป็นก็ต่อเมื่อนักลงทุนไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

คำแนะนำเกี่ยวกับการกระจายความเสี่ยงที่ “บัฟเฟตต์” ให้ไว้สำหรับนักลงทุนก็คือ “ถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่มีความรู้อยู่บ้าง สามารถจะเข้าใจธุรกิจและสามารถหาบริษัทที่มีความได้เปรียบในการแข่งขันแบบระยะยาวได้สัก 5 หรือ 10 บริษัทในราคาที่มีเหตุผลแล้วละก็ การกระจายความเสี่ยงออกไปมากกว่านี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าทำ เพราะมันจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงอย่างไม่จำเป็น ผมไม่เข้าใจว่าทำไมนักลงทุนถึงเลือกที่จะนำเงินไปลงทุนในบริษัทที่เขาชอบเป็นลำดับที่ 20 แทนที่จะใส่เงินลงไปในบริษัทที่เขาชอบเป็นลำดับต้นๆซึ่งเป็นธุรกิจที่เขาเข้าใจดีและมีความเสี่ยงน้อย อีกทั้งมีศักยภาพในการทำกำไรสูง”

นี่คือหนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จทางการลงทุนของ “วอร์เรน บัฟเฟตต์”


http://www.thaivi.org/%E0%B8%81%E0%B8%A ... 0%B8%87-2/


ผมก้มองแบบเดียวกับปู่ บัฟเฟตครับ ยามนี้จะเลือกสาวคนไหนก้ต้องดู ดีๆ ระวังเจอ

บอยไม่ดื่ม นะฮ้า เลือกผิดก้จะเสียวผิด ครับ จากเสียวหน้ามาเสียวหลังแทน อิอิ

ช่วงตลาดปรับลงแรงแบบนี้ เป็นช่วงที่ดีมากเลยครับที่ได้กลับมาวิเคราะห์พอร์ตตัวเองอีกครั้ง
ว่าราคาที่เราตัดสินใจซื้อก่อนหน้านี้ มี MOS เพียงพอหรือไม่ หรือเราซื้อเพราะกลัวตกรถ ดัชนีพาไป วิเคราะห์ไม่ละเอียดพอ บลาๆๆ

ส่วน MOS อีกตัวที่ท่าน ดร.นิเวศน์คอยบอกพวกเราอยู่เสมอว่าสำคัญไม่แพ้ราคาที่เราตัดสินใจลงทุนก็คือ พื้นฐานกิจการครับ

ปล. ผมเจอข้อผิดพลาดของตัวเองเยอะแยะเลยครับ สำหรับช่วงครึ่งปีแรก

ขออนุญาตจขกทคุณ ziannoom ขุดกระทู้เก่า ตอนที่ตลาดลงหนักเพราะวิกฤติยุโรปตามด้วยวิกฤติน้ำท่วมครับ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=49987

ตอนต้นปีกำลังมันเลยขออยู่ต่ออีกหน่อยเพื่ออยู่ร่วมพิชิตยอดเดิม อุกาบาตหล่นมาตูม แล้วตามด้วยหิมะถล่มซ้ำ คงต้องสะสมกำลังพลพอสมควรถึงจะรุกต่อได้

เอามาจากเวปจอมโจร คลายเครียดระหว่างนี้

เช้านี้คุณสวดมนแล้วรึยัง

บทบูชา set

สัพเพ สัตตา ตลาดหุ้นทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุบ
ขึ้นลงไซด์เวย์กระจาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

จงเป็นบวกเป็นบวกเถิด อย่าได้เบียดเบียนเซ็ทไทยอีกเลย
จงเป็นสีเขียว สีเขียวเถิด อย่าได้ทุบลงมาแดงอีกเลย
จงรีบาวด์กลับเถิด อย่าได้กังวลแรงขายฝรั่งอีกเลย
จงมีแต่แนวต้านวิ่งขึ้นไป

รักษาตนให้พ้นจากแนวรับทั้งสิ้น...เถิด.

Kan Ja
13-06-2013 11:05:42

อันนี้ตั้งแต่ 13-6-2013 แล้วครับ นี่เดือน 28-8-2013 แล้วนะครับ

ไหงหุ้นที่ผมหมายตาไว้ มันไม่วิ่งลง แต่มันวิ่งขึ้น!!!
ขึ้นเอาๆสวนตลาดซะงั้น มีใครมาเก็บไปหละนี่
หรือจะเป็นเหล่าผู้กล้าที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้
....^^)

ข้าพเจ้าคิดอ่านดู พบเพียงลมพายุที่พัดมาชั่วยามนี้ ไม่เป็นใจให้คนที่ถือหุ้นอยู่(รวมข้าพเจ้าด้วย)
แต่ช้าเร็วแลการณ์นี้ก็จะผ่านไปในที่สุด หากแต่จะกินเพลานานเพียงใดก็เกินจะคำนวณ

อย่ากระนั้นเลยพี่น้องร่วมสำนักทุกท่าน เร่งสะสมไพร่พลความเฉียบคมในการเลือกกิจการ และการประเมินมูลค่า
น่าจะเป็นกลยุทธที่ดี อันจะนำพาให้การลงทุนของทัพเราประสบความสำเร็จ และรักษาอาณาจักรไว้ได้อย่างยั่งยืน

ส่วนพี่น้องท่านใดที่พบโฉมงามในคืนจันทร์แรมแล้ว ก็อย่าได้ชักช้า จงแปลงร่างเป็นหมาป่า.. มิได้ มิได้ ข้าน้อยล้อเล่น
จงทยอยลงหลักปักฐานกับนางผู้นั้นเถิด ยอดแม่ทัพนักลงทุนเป็นอันมาก ล้วนแล้วแต่พิชิตสงครามได้
ด้วยการทยอยช้อนยามแผ่นดินปกคลุมไปด้วยความสับสนอลหม่าน แม้จะช้อนหักจะพ่ายศึกเล็กศึกน้อยบ้างก็ตาม

รอวันลมบูรพามาเสริม ระหว่างนี้เราก็สร้างจุดแข็งภายในไปพลางๆ
เพราะการยืนได้อย่างมั่นคง จะทำให้เรารับมือกับพายุลูกถัดไปได้ดีขึ้น

"ขงเบ้งเรียกลม เผาทัพเรือโจโฉ"
แต่ลมแบบนี้ เห็นแล้วเสียววาบแทนโจโฉเลย

วันนี้เหมือนเห็นดอกไม้ผลิเล็ก ๆ ในพอร์ต

leky เขียน:ขออนุญาตจขกทคุณ ziannoom ขุดกระทู้เก่า ตอนที่ตลาดลงหนักเพราะวิกฤติยุโรปตามด้วยวิกฤติน้ำท่วมครับ

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=49987

แหะๆไม่ได้เข้ามานาน สบายดีกันนะครับทุกคน

เวลาเปลี่ยนนนนนนน

จายคนเปลี่ยนนนนนน

ช่างการายยยย ใจหนออ ใจโคนนนนนน

ถึงกับฮัมเพลงกันออกมาทีเดียวเช้านี้

สมัยก่อนสำเนียง ยาน ๆ ของพี่ป้อม นี่โดนวิจารณ์อย่างมากนะครับแต่เดี๋ยวนี้เพลงไทยบางเพลงผมฟังแทบไม่ออก

ตลาดหุ้นเปรียบเหมือนสังคมหนึ่งที่มีรูปแบบและวัฒนธรรมของตนเอง
คนที่เข้าตลาดสักระยะ แต่ละคนจะถูกหล่อหลอมให้เป็บคนแบบตลาด ๆ
ซึ่งมีคุณลักษณะหลัก ๆ คือ เป็นคนความจำสั้น
เจ็บไม่จำ ช้ำไม่เรียนรู้
มีพฤติกรรมทำผิดซ้ำ ๆ
และทำตามอย่าง ตามแห่ ตามกระแส
ฯลฯ
............................
อิทธิพลของตลาด รุนแรง และลงลึกถึงระดับยีนส์
อาจก่อให้เกิดการกลายพันธุ์
เป็นคนอยู่ดี ๆ กลายเป็นแมลงเม่าซะงั้น ฮา!!

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
https://www.facebook.com/pages/Prichar- ... 0152437577

เขียวทั้งเอเซีย ทั้ง ๆ ที่ กำลังจะรบกันอยู่ หลายคน รน รีบซื้อหุ้นคืนราคาเปิด โดยไม่ดูราคาด้วยซ้ำ ! ยอมเสีย Premium

เพื่อแค่จะมีหุ้นอยู่ในพอร์ต

...................

ในเมื่อไม่รีบขายก็ไม่รีบซื้อ ไม่ขายก็ไม่ซื้อ ตราบที่ ความพอใจของเรายังเป็นของเรา ไม่ใช่ของนายตลาด

เรากำหนดเกมส์ให้คนอื่นเดินตามนั่นแหล่ะวีไอ

ผมคิดว่ากระทู้นี้ก้อคงถึง 20 หน้า ตอนสิ้นปีนี้แน่ๆครับ

KittipongS เขียน:ผมคิดว่ากระทู้นี้ก้อคงถึง 20 หน้า ตอนสิ้นปีนี้แน่ๆครับ

อาจมีกระทู้ใหม่เป็น "ในวันที่ SET +70 จุด" หรือไม่ก็ "ในวันที่ SET -170 จุด" ก็ได้ครับ

นายมานะ เขียน:

KittipongS เขียน:ผมคิดว่ากระทู้นี้ก้อคงถึง 20 หน้า ตอนสิ้นปีนี้แน่ๆครับ

อาจมีกระทู้ใหม่เป็น "ในวันที่ SET +70 จุด" หรือไม่ก็ "ในวันที่ SET -170 จุด" ก็ได้ครับ

เห็นด้วยค่ะ
แต่ขอเป็นในวันที่ SET + 170 จุดแล้วกันนะคะ

theenuch เขียน:

นายมานะ เขียน:

KittipongS เขียน:ผมคิดว่ากระทู้นี้ก้อคงถึง 20 หน้า ตอนสิ้นปีนี้แน่ๆครับ

อาจมีกระทู้ใหม่เป็น "ในวันที่ SET +70 จุด" หรือไม่ก็ "ในวันที่ SET -170 จุด" ก็ได้ครับ

เห็นด้วยค่ะ
แต่ขอเป็นในวันที่ SET + 170 จุดแล้วกันนะคะ

อันการศึกครานี้จะไปในทิศทางใดนั้น ตัวข้าน้อยซึ่งมีความรู้ความสามารถอันน้อนนิด มิอาจคาดการสถาณการณ์ของศึกครั้งนี้ได้ ไม่ว่าจะ -170 จุด หรือ +70 จุด จึงอยากให้ท่านกุนซือแลท่านแม่ทัพนายกองทั้งหลาย ช่วยออกมาไขข้อสงสัยของเหล่าข้าน้อยผู้อยู่ชายแดนด้วย จักเป็นพระคุณนักแล
พลทหารเม่าจังกู

KittipongS เขียน:

theenuch เขียน:

นายมานะ เขียน:

KittipongS เขียน:ผมคิดว่ากระทู้นี้ก้อคงถึง 20 หน้า ตอนสิ้นปีนี้แน่ๆครับ

อาจมีกระทู้ใหม่เป็น "ในวันที่ SET +70 จุด" หรือไม่ก็ "ในวันที่ SET -170 จุด" ก็ได้ครับ

เห็นด้วยค่ะ
แต่ขอเป็นในวันที่ SET + 170 จุดแล้วกันนะคะ

อันการศึกครานี้จะไปในทิศทางใดนั้น ตัวข้าน้อยซึ่งมีความรู้ความสามารถอันน้อนนิด มิอาจคาดการสถาณการณ์ของศึกครั้งนี้ได้ ไม่ว่าจะ -170 จุด หรือ +70 จุด จึงอยากให้ท่านกุนซือแลท่านแม่ทัพนายกองทั้งหลาย ช่วยออกมาไขข้อสงสัยของเหล่าข้าน้อยผู้อยู่ชายแดนด้วย จักเป็นพระคุณนักแล
พลทหารเม่าจังกู

ข้าน้อยก็รอคำตอบอยู่เช่นเดียวกันกับท่าน 555
ป่านนี้เหล่ากุนซือและท่านแม่ทัพนายกองทั้งหลาย
คงวางแผนกลยุทธ์อยู่...เดี๋ยวท่านคงทยอยมาตอบ หลัง 16.30

ตัวข้าเป็นเพียงพ่อค้าปลายแถว ชีวิตของข้าเป็นเพียงทุนรอนอันด้อยค่า หาได้หลักแหลมเยี่ยมกุนซือรือแกล้วกล้าเยี่ยมขุนศึกไม่ ข้ามีแต่เพียงความอดกลั้น ที่จะยืนหยัดท่ามกลางสมรภูมิแห่งนี้ ไม่ว่าผลของการศึกครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ข้ารู้เพียงว่าปลายทางของสงครามครั้งนี้ ข้าจักต้องเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้ ไม่ว่าการศึกแต่ละครั้งฝ่ายเราจะได้รับชัยหรือไม่ และไม่ว่าข้าจะต้องหลั่งเลือดแดงฉานไปมากเท่าใด เพราะตัวข้าเชื่อว่าเราจักไม่ได้สิ่งใดเลยจากการศึก มีเพียงความกลัว และความเศร้าเท่านั้น ปลายทางของสงครามหาใช่การรบเพื่อชนะในแต่ละศึกไม่ แต่เป็นการยืนหยัดเพื่อรอดชีวิตต่อไป ชีวิตของข้าอาจเป็นเพียงทุนรอนด้อยค่า แต่มีเพียงตัวท่านเองเท่านั้นที่จะรู้ได้ว่าชีวิตของท่านมีความหมายเพียงใด แลท้ายที่สุดข้าเพียงอยากจะบอกว่า "มีแต่เพียงผู้รอดชีวิตเท่านั้นที่จักสามารถจารึกประวัติศาสตร์ให้โลกรับรู้"

นายมานะ เขียน:ตัวข้าเป็นเพียงพ่อค้าปลายแถว ชีวิตของข้าเป็นเพียงทุนรอนอันด้อยค่า หาได้หลักแหลมเยี่ยมกุนซือรือแกล้วกล้าเยี่ยมขุนศึกไม่ ข้ามีแต่เพียงความอดกลั้น ที่จะยืนหยัดท่ามกลางสมรภูมิแห่งนี้ ไม่ว่าผลของการศึกครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ข้ารู้เพียงว่าปลายทางของสงครามครั้งนี้ ข้าจักต้องเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้ ไม่ว่าการศึกแต่ละครั้งฝ่ายเราจะได้รับชัยหรือไม่ และไม่ว่าข้าจะต้องหลั่งเลือดแดงฉานไปมากเท่าใด เพราะตัวข้าเชื่อว่าเราจักไม่ได้สิ่งใดเลยจากการศึก มีเพียงความกลัว และความเศร้าเท่านั้น ปลายทางของสงครามหาใช่การรบเพื่อชนะในแต่ละศึกไม่ แต่เป็นการยืนหยัดเพื่อรอดชีวิตต่อไป ชีวิตของข้าอาจเป็นเพียงทุนรอนด้อยค่า แต่มีเพียงตัวท่านเองเท่านั้นที่จะรู้ได้ว่าชีวิตของท่านมีความหมายเพียงใด แลท้ายที่สุดข้าเพียงอยากจะบอกว่า "มีแต่เพียงผู้รอดชีวิตเท่านั้นที่จักสามารถจารึกประวัติศาสตร์ให้โลกรับรู้"

ท่านยังดีเป็นถึงพ่อค้า ส่วนข้าน้อยนั้นเป็นเพียงตัวอะมาดิลโล ที่ขุดโพรงอยู่ใต้ดิน รอฟังเสียงฝีเท้าม้าและทหาร
เมื่อใดก็ตามที่แผ่นดินเริ่มสะเทือนข้าจะเฝ้ารอ ทันทีที่เสียงฝีเท้าเริ่มแผ่วลงข้าจะขึ้นมาเดินเก็บเบี้ยที่แม่ทัพนายกองและเหล่าขุนศึก หรือแม้แต่พ่อค้าอย่างท่านทำตกไว้ แล้วเอาลงไปสะสมไว้เป็นเสบียงไว้ให้ลูกเล็กของข้าที่รออยู่ในโพรงใต้ดิน

ขณะที่ขึ้นมาเก็บเบี้ย หากมีเสียงฝีเท้าใดๆ เข้ามาใกล้ข้าก็จะม้วนตัวเป็นก้อนกลมๆ หรือถ้าจวนตัวจริงๆ ถึงกับมีแกล้งตายกันเลยทีเดียว เพื่อรักษาชีวิตรอดเช่นเดียวกับท่านพ่อค้า

แต่ข้าน้อยทำได้เพียงรอดชีวิตเท่านั้น มิบังอาจจะไปจารึกประวัติศาสตร์ใดๆ ให้โลกได้รับรู้ เพราะข้าน้อยผ่านเข้ามาในสนามรบเพื่อวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวมา มิได้ไดมีกลยุทธ์หรือแม้แต่ความกล้าหาญใดๆ

ถ้าสะสมเบี้ยได้มากพอข้าน้อยคงจะวางมือไปตลอดกาล.... เพราะสมรภูมิแห่งนี้ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน

theenuch เขียน:

นายมานะ เขียน:ตัวข้าเป็นเพียงพ่อค้าปลายแถว ชีวิตของข้าเป็นเพียงทุนรอนอันด้อยค่า หาได้หลักแหลมเยี่ยมกุนซือรือแกล้วกล้าเยี่ยมขุนศึกไม่ ข้ามีแต่เพียงความอดกลั้น ที่จะยืนหยัดท่ามกลางสมรภูมิแห่งนี้ ไม่ว่าผลของการศึกครั้งนี้จะเป็นเช่นไร ข้ารู้เพียงว่าปลายทางของสงครามครั้งนี้ ข้าจักต้องเอาชีวิตรอดต่อไปให้ได้ ไม่ว่าการศึกแต่ละครั้งฝ่ายเราจะได้รับชัยหรือไม่ และไม่ว่าข้าจะต้องหลั่งเลือดแดงฉานไปมากเท่าใด เพราะตัวข้าเชื่อว่าเราจักไม่ได้สิ่งใดเลยจากการศึก มีเพียงความกลัว และความเศร้าเท่านั้น ปลายทางของสงครามหาใช่การรบเพื่อชนะในแต่ละศึกไม่ แต่เป็นการยืนหยัดเพื่อรอดชีวิตต่อไป ชีวิตของข้าอาจเป็นเพียงทุนรอนด้อยค่า แต่มีเพียงตัวท่านเองเท่านั้นที่จะรู้ได้ว่าชีวิตของท่านมีความหมายเพียงใด แลท้ายที่สุดข้าเพียงอยากจะบอกว่า "มีแต่เพียงผู้รอดชีวิตเท่านั้นที่จักสามารถจารึกประวัติศาสตร์ให้โลกรับรู้"

ท่านยังดีเป็นถึงพ่อค้า ส่วนข้าน้อยนั้นเป็นเพียงตัวอะมาดิลโล ที่ขุดโพรงอยู่ใต้ดิน รอฟังเสียงฝีเท้าม้าและทหาร
เมื่อใดก็ตามที่แผ่นดินเริ่มสะเทือนข้าจะเฝ้ารอ ทันทีที่เสียงฝีเท้าเริ่มแผ่วลงข้าจะขึ้นมาเดินเก็บเบี้ยที่แม่ทัพนายกองและเหล่าขุนศึก หรือแม้แต่พ่อค้าอย่างท่านทำตกไว้ แล้วเอาลงไปสะสมไว้เป็นเสบียงไว้ให้ลูกเล็กของข้าที่รออยู่ในโพรงใต้ดิน

ขณะที่ขึ้นมาเก็บเบี้ย หากมีเสียงฝีเท้าใดๆ เข้ามาใกล้ข้าก็จะม้วนตัวเป็นก้อนกลมๆ หรือถ้าจวนตัวจริงๆ ถึงกับมีแกล้งตายกันเลยทีเดียว เพื่อรักษาชีวิตรอดเช่นเดียวกับท่านพ่อค้า

แต่ข้าน้อยทำได้เพียงรอดชีวิตเท่านั้น มิบังอาจจะไปจารึกประวัติศาสตร์ใดๆ ให้โลกได้รับรู้ เพราะข้าน้อยผ่านเข้ามาในสนามรบเพื่อวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวมา มิได้ไดมีกลยุทธ์หรือแม้แต่ความกล้าหาญใดๆ

ถ้าสะสมเบี้ยได้มากพอข้าน้อยคงจะวางมือไปตลอดกาล.... เพราะสมรภูมิแห่งนี้ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน

พี่วราพรรณถล่มตัวไปแล้วครับ ฮ่าา ผมไม่ได้คิดจะจารึกประวัติศาสตร์หรอกครับ เพียงแต่คิดว่าการมีชีวิต มีสุขภาพที่ดี และมีครอบครัวที่อบอุ่นก็เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้ว ถ้าเปรียบเป็นการลงทุนก็หลักการมีชีวิตรอดนี้ก็คงเหมือนกับ "การขาดทุนเงินต้นอย่างถาวร" ซึ่งผมขอแค่ลงทุนไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเปรียบแพ้ เปรียบชนะกับใคร ขอแค่เพียงไม่ขาดทุนเท่านั้น ก็คงจะมีความสุขมากแล้ว ส่วนประโยคท้ายนั้นแค่แสดงมุมมองว่า มีเพียงแค่คนที่รอดชีวิต (ไม่ขาดทุน) เท่านั้น ที่จะสามารถฝากแนวคิดการลงทุนอันชาญฉลาดนี้ให้กับลูกหลานนักลงทุนสืบไปได้

ส่วนที่วราพรรณผมมองว่าไม่ใช่แค่เพียงเอาชีวิตรอดเท่านั้น แต่พี่จารึกประวัติศาสตร์ไปหน้าหนึ่งแล้ว (อย่าปฏิเสธผมนะครับ เพราะผมเพิ่งชม money talk vi แม่บ้าน ไปเมื่อประมาณอาทิตย์ก่อน 55) พี่วราพรรณเปรียบตัวเองเป็น "อะมาดิลโล" ด้วยคุณลักษณะที่คล้ายกันกับแนวคิด แต่พี่วราพรรณก็เป็น "อะมาดิลโลผู้ยิ่งใหญ่" ที่ได้สร้างคุณประโยชน์แก่สังคมแห่งนี้ มากกว่าพ่อค้าขี้ฉ่อเช่นผมไปหลายปีแสงแล้วล่ะครับ

นายมานะ เขียน:

theenuch เขียน:

นายมานะ เขียน:
สุขภาพที่ดี และมีครอบครัวที่อบอุ่นก็เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดแล้ว ถ้าเปรียบเป็นการลงทุนก็หลักการมีชีวิตรอดนี้ก็คงเหมือนกับ "การขาดทุนเงินต้นอย่างถาวร" ซึ่งผมขอแค่ลงทุนไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเปรียบแพ้ เปรียบชนะกับใคร ขอแค่เพียงไม่ขาดทุนเท่านั้น ก็คงจะมีความสุขมากแล้ว

เรามีเป้าหมายเดียวกันเลย และเชื่อว่าเพื่อนๆ ก็คงมีเป้าหมายคล้ายๆกันเนี่ยแหละ

เห็นกระทู้นี้สนุกดี.....เลยอยากแวะมาคุยด้วย

ในกระทู้ของพี่นั้น สังเกตดีๆ จะไม่ค่อยมีเรื่องการลงทุน เพราะพี่ไม่สามารถสรุปเทคนิคการลงทุนใดๆ ได้เลย จะหนักไปทางการออมเสียมากกว่า จนคุณ seattle อ่านแล้วคงอึดอัด เลยมาถามว่าพี่มีแนวการลงทุนอย่างไร อ่านมาตั้งแต่ต้นยังไม่เจอ (ฮา) เลยเล่าไว้หน่อยนึงว่าเหมือน "งูเหลือม" พอมาเข้าบรรยากาศของกระทู้นี้
พี่ก็กลายเป็น "อะมาดิลโล" ไปแล้ว เพราะไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใดๆ เลยค่ะ

เพราะอย่างที่บอกนั่นแหละค่ะ มาอาศัยเก็บเกี่ยวข้อมูลจากในนี้ทั้งนั้น

ว่าแต่ว่าวันนี้ SET บวก 48 จุด รายย่อยขายเจ้าเดียว 9 พันกว่า.....เดี๋ยวเรามาเฝ้ารอท่านแม่ทัพนายกองเข้ามาวางกลยุทธ์กัน ....เผื่อเราจะได้พลอยหยิบยืมไปใช้ด้วยนะ

กลยุทธ์ของผมคือ

"ทำเหมือนเดิม"

ครับ