Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ลูกอิสาน เขียน:
1.ผมขอเลือกตัวที่ผมติดตามมาบ้าง และพิสูจน์แล้วระดับนึงว่ารูปแบบธุรกิจอย่างนี้ทำให้ประสบความสำเร็จ ไม่ขอเรียงลำดับนะครับ มี CK SCNYL PS BGH KH CPALL MINT UVAN HMPRO

มี อยู่ 3 ตัวด้วยหละ อิอิ

dome@perth เขียน: มี อยู่ 3 ตัวด้วยหละ อิอิ

ผมมี  4 ตัวมากกว่าพี่ dome อิอิ

sai เขียน:

ผมมี

ลูกอิสาน เขียน:
UVAN หุ้นโภคภัณฑ์ที่มีจุดเด่นคือมีรายได้หลายส่วน ทั้งจากสวนที่ปลูกเอง ส่วนที่ซื้อจากชาวบ้าน และรายได้จากการขายเมล็ดพันธ์ ที่เป็นอย่างนี้ได้เพราะบริษัทมี economy of scale ในส่วนที่รับซื้อและมีโนว์ฮาวเรื่องเมล็ดพันธ์ที่เกิดจากการร่วมทุนกับยูนิลีเวอร์มาหลายปี (มาร์จินส่วนนี้สูงมากเพราะขายความรู้)ส่วนจุดด้อยคือส่วนปาล์มประมาณครึ่งนึงเป็นสัมปทานซึ่งคงไม่ได้ต่ออายุ และกำไรจะผันแปรมากตามราคาขาย ส่วนต้นทุนจะค่อนข้างคงที่ ถ้าปีไหนราคาปาล์มราคาดี ปีนั้นกำไรจะสูง ดินฟ้าอากาศก็มีผลฝนที่ตกหนักปีนี้จะทำให้เปอร์เซนการสกัดสูงเพราะ เมล็ดปาล์มจะไม่ลีบ และฝนปีนี้จะส่งผลให้ทะลายปาล์มใน 2 ปีข้างหน้าสูงขึ้นเพราะฝนทำให้เกิดการสร้างต่อมทะลายในลำต้นซึ่งจะโผล่ออกมาเป็นทะลายในอีก 2 ปีข้างหน้าครับ

ข้างบนน่าจะเป็นเหตุผลคร่าวๆ ของคุณลูกอิสานนะครับ

ผมขอเสริมในนิดหนึงนะครับ    มีศักยภาพการทำกำไรได้แม้ภาวะ ราคาน้ำมันปาล์มลง เพราะ ซื้อจากเกษตรกรมากกว่าปลูกเอง น้ำมันปาล์มถูก ก็ซื้อปาล์มถูก อะครับ พูดง่ายๆ กดราคา รับซื้อลง เพื่อให้มีสเปรดอยู่ตลอด

เป็นบริษัทการเงินแข็งแกร่งมาก มีหนี้น้อยมาก ผมมี บทวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน ของงบปี 2550มาให้ดูด้วยครับ

อัตราส่วนสภาพคล่อง เพิ่มขึ้นจาก 5.16 เท่าในปี 2549 เป็น 5.22 เท่าในปี 2550 เนื่องจากในปี 2550 บริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้น 15.12% ในขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 13.85%
อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว เพิ่มขึ้นจาก 3.93 เท่าในปี 2549 เป็น 4.00 เท่าในปี 2550 เนื่องจากปี 2550 บริษัทมีสินทรัพย์คล่องตัวเพิ่มขึ้น 15.12% ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงกว่าของหนี้สินหมุนเวียน
อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2550 เท่ากับ 15.07% เปรียบเทียบกับ 19.69% ในปี 2549 เนื่องจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 57.07% ขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 66.10%
อัตรากำไรสุทธิ อัตรากำไรสุทธิในปี 2550 เท่ากับ 11.21% ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับ 2549 เท่ากับ 13.18% โดยมีสาเหตุสำคัญหลักมาจากราคารับซื้อผลปาล์มสดที่สูงขึ้นและปริมาณการซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อส่งออกที่สูงขึ้น โดยที่ราคาเฉลี่ยการรับซื้อผลปาล์มสดสูงกว่าปี 2549 ถึง 63.2%
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม เพิ่มขึ้นจาก 30.16% ในปี 2549 เป็น 34.93% ในปี 2550 เนื่องจากบริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33.54% ในขณะที่มีสินทรัพย์รวมเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 13.76%
อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 31.84% ในปี 2549 เป็น 37.41% ในปี 2550 เนื่องจากบริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33.54% ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 13.64%
อัตราส่วนการหมุนเวียนของลูกหนี้การค้า ในปี 2550 มีอัตราส่วนการหมุนเวียนของลูกหนี้การค้าเท่ากับ 27.33 เท่า ลดลงจาก 32.06 เท่า ในปี 2549 เนื่องจากระยะเวลาการเก็บเงินลูกหนี้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากประมาณ 11 วันในปี 2549 เป็นประมาณ 13 วัน ในปี 2550
อัตราส่วนการหมุนเวียนของสินค้า ในปี 2550 มีอัตราส่วนการหมุนเวียนของสินค้าที่ 29.69 เท่าเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ซึ่งมีอยู่ 25.61 เท่า ระยะเวลาการขายสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12 วันลดลงจากปี 2549 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 14 วัน
อัตราส่วนการหมุนเวียนของเจ้าหนี้การค้า ในปี 2550 มีอัตราส่วนการหมุนเวียนของเจ้าหนี้การค้าเท่ากับ 110.21 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ซึ่งมีอยู่ 108.46 เท่า โดยที่ระยะเวลาชำระหนี้อยู่ที่ประมาณ 3 วันใน2550

จะเห็นได้ว่า บริษัทมีการ บริหารงาน และ เงิน ที่มีพัฒนาการดีมากครับ  หาอ่านรายละเอียดได้จาก 56-1 ประจำปี 2550 ครับ

[quote]sai wrote:
dome@perth wrote:
ลูกอิสาน wrote:


1.ผมขอเลือกตัวที่ผมติดตามมาบ้าง และพิสูจน์แล้วระดับนึงว่ารูปแบบธุรกิจอย่างนี้ทำให้ประสบความสำเร็จ ไม่ขอเรียงลำดับนะครับ มี CK SCNYL PS BGH KH CPALL MINT UVAN HMPRO



มี อยู่ 3 ตัวด้วยหละ อิอิ

ผมมี  4 ตัวมากกว่าพี่ dome อิอิ
[/quote]

มีตัวเดียวเองครับ

มาฝากพี่ลูกอีสานตอนเช้าๆ
เดี๋ยวพี่บอกว่า ผมเปลี่ยนไป  :lol:  

http://www.pantip.com/cafe/camera/topic ... 22027.html

เป็นภาพของคุณ niki maki ครับ
ผมชอบการถ่ายภาพของน้าเค้ามากๆครับ

[quote="noooon010"]มาฝากพี่ลูกอีสานตอนเช้าๆ
เดี๋ยวพี่บอกว่า ผมเปลี่ยนไป

[quote="ก้อนหิน"]งั้นถามต่อนิดนึงในตัวที่ผมไม่ค่อยเข้าใจแล้วกันครับ CK แล้วก็ UVAN อะครับ พี่ว่ามัน great ยังไงครับ จริงๆ

UVAN  โดยรูปแบบ supply chain ธุรกิจผลิตน้ำมันปาล์มหลักๆจะมีอย่างนี้ครับ

สวนปาล์ม >โรงหีบน้ำมัน>โรงกลั่นน้ำมัน

ศักยภาพการแข่งขันโดยเฉพาะกับมาเลเซีย ส่วนที่เป็นสวนปาล์ม และโรงหีบน้ำมันปาล์มดิบพอจะสูสีกันด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ส่วนที่เป็นโรงกลั่นเราจะเสียเปรียบด้านต้นทุนมาก ยกตัวอย่างเช่นโรงกลั่นที่กำลังสูงสุดของไทยคือ 2 แสนตัน(lst) แต่โรงกลั่นในมาเลเซียของกลุ่ม tr ผลิตถึง  1 ล้านตันต่อปี ดังนั้นต้นทุนจะต่างกันมาก จะสังเกตุได้ว่าบริษัทในไทยที่มีส่วนโรงกลั่นจะไม่ค่อยมีกำไรครับ อย่าง cpi ที่ขยายใหม่เกือบทำให้เจ็งไปเลย

ที่ผมบอกว่า UVAN มีรูปแบบธุรกิจที่ดีคือเค้ารู้ว่าอะไรที่แข่งไม่ได้ก็ไม่แข่ง ดังนั้น UVAN จะเกี่ยวข้องแค่สวนปาล์มและส่วนหีบน้ำมันเท่านั้น นอกจากนั้นบริษัทยังมีส่วนที่สร้างกำไรได้อย่างมาก เป็นกอบเป็นกำนั่นคือส่วนเมล็ดพันธ์และส่วนโรงไฟฟ้า ของพูดถึงรายละเอียดแต่ละส่วนนะครับ

สวนปาล์ม องค์ประกอบที่จะทำให้ได้ผลผลิตดี คือพันธ์ดี ดินฟ้าอากาศเหมาะสม มี farm management ซึ่ง UVAN มีครบเลย พันธิ์ดีเพราะบริษัทมีโนวฮาวจากการร่วมทุนกับยูนิลีเวอร์หลายปี (ยูนิลีเวอร์มีสวนปาล์มทั่วโลก ตอนนี้ขายหมดแล้ว)  ดินฟ้าอากาศที่ดีที่สุดในไทยในการปลูกปาล์มคือที่กระบี่เพราะมีฝนมาก และดินดีเพราะมีภูเขาหินปูนมาก(ขนาดภาคใต้มีฝนที่เหมาะสมแค่ 3-4 จังหวัด ที่ไปแห่ปลูกที่อีสานรับรองว่าไม่คุ้มทุนครับ) ส่วนการจัดการสวน บริษัทจะซื้อสวนขนาดใหญ่เท่านั้นเพราะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้ จะไม่ซื้แปลงเล็กๆแบบเบี้ยหัวแตกเพราะไม่คุ้ม  สวนปาล์มของบริษัทมีประมาณ 4 หมื่นไร่ เป็นส่วนสัมปทาน 2 หมื่นไร่ บริษัทพยายามซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยงไม่ได้ต่อสัมปทาน แต่หาซื้อได้ยาก ปี 50 เข้าใจว่าซื้อได้อีก 1 พันไร่

โรงหีบน้ำมัน  องค์ประกอบที่สำคัญคือต้องใกล้แหล่งปลูก มีกำลังผลิตสูงๆ เพื่อที่จะผลิตได้ต้นทุนต่ำ ซึ่งสำคัญที่สุดเพราะเทคโลโลยีไม่ได้ซับซ้อนอะไร คนที่ต้นทุนต่ำ สามารถรับซื้อปาล์มในราคาสูงจากชาวไร่ได้ โรงไหนที่ให้ราคาสูง ชาวส่วนจะแห่ไปขายที่นั่น ยิ่งมีกำลังการผลิตสูงเท่าไหร่ จะยิ่งได้เปรียบในระยะยาว UVAN มีโรงหีบ 3 โรง มีกำลังการผลิตค่อนข้างสูงรวมกันประมาณ 10% ของทั้งประเทศ ซึ่งกำลังการผลิตที่สูงที่เองทำให้เกิดรายได้ในส่วนที่ 3 คือ

รายได้จากการไฟฟ้า น้ำเสียของโรงหีบปาล์มจะมีของเสียตะกอนสูงมาก ดังนั้นจึงสามารถใช้ในการหมักเพื่อให้เกิดแก็สชีวภาพที่นำไปผลิตไฟฟ้า เข้าใจว่าตอนนี้เริ่มผลิตแล้ว 1 โรงมีกำลังการผลิต 1 MW. และกำลังสร้างอีก 1-2 โรง นอกจากนั้นยังขาย carbon credit ได้อีก เป็นการนำน้ำทิ้งที่เคยใช้รดปาล์มมาเปลี่ยนเป็นเงินปีละร้อยล้าน โดยลงทุนเล็กน้อย และจะทำอย่างนี้บริษัทนั้นจะต้องมีกำลังการผลิตสูงๆเท่านั้น

ส่วนขายเมล็ดพันธ์ ตอนที่ร่วมทุนกับยูนิลีเวอร์ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านสายพันธิ์กับสวนยูนิลีเวอร์ทั่วโลก ทำให้ UVAN มีความรู้ด้านนี้ (ในไทยมี 2 รายเท่านั้นอีกรายเข้าใจว่าเป็นบริษัทเปา-รงค์ น่าจะเป็นบริษัทนี้ที่ซีพีไปร่วมทุนผลิตพันธ์ใหม่ โกลเด้น เทเนอร่า ที่ให้ผลผลิตสูงมากเช่นกัน) นี่เป็นธุรกิจที่ขายความรู้ ดังนั้นกำไรส่วนนี้จะสูงมากเช่นกัน

UVAN มีรายได้ 4 ทาง ในขณะที่รายอื่นมี 1-2 ทาง เพราะอย่างนี้ผมมองว่าถ้าเป็นธุรกิจปาล์มต้อง UVAN สิของจริง :lol:  :lol:

ยอดเยี่ยม  :D

มองได้ลึกซึ้งมากครับ

แล้วก็ขอบคุณมากครับที่แบ่งปันความรู้

ผมชักไม่แน่ใจว่าติดตามกระทู้นี้เพราะ
     รูปของหมอนุ่นหรือการวิเคราะห์ของจั่นโจ กันแน่
   
     ช.การช่างนี่เสือตัวจริงครับ
     ดูรูปปลากรอบได้
     ใครจำได้บ้างเอ่ย
     ตอนต่ำสุดมีข่้าวลงหน้าหนึ่งไทยรัฐว่า
     มีปัญหาภายในภายนอกเรื่องอุ้มฝ่ายบัญชี
     คนตกใจขายกันหย่าย
     หลังจากนั้นดูกราฟเอาเองว่ากี่ท่วม
     ผมก็นั่งๆรออยู่เหมือนกันว่าเมื่อไรท่านเขาจะทำอีกรอบ

ตามอ่านมาตลอดครับ ได้ความรู้ และมุมมองที่ดีมากเลยครับ

อยากจะถามพี่ลูกอีสานครับ   เรื่อง3G ไม่ทราบว่าพี่ มีความเห็นยังไงครับ

และพี่คิดว่าใครจะได้ประโยชน์ จากการลงทุน 3G ครับ

ขอบคุณมากๆครับพี่ ลูกอีสาน ช่วยเปิดหูเปิดตาผมได้มากเลยทีเดียวครับ

สงสัยต้องไปหาอ่านเพิ่มซะแล้วครับ ความรู้น้อย ค่อยๆเติมครับ แฮ่

สมกับเป็นกระทู้คุณค่าจริงๆ ขอบคุณพี่โจมากนะครับ

พี่โจ คิดอย่างไรกับ D1 กะ TRUE ครับ
แอบถามความคิดเห็นครับ
... ผมว่าเราเรียนรู้ได้กับหุ้นดี และหุ้น D นะครับ

ขอบคุณล่วงหน้านะครับผม

น้องคนนี้เค้ากลัวตกรถไฟครับ
พี่โจจะแนะนำอย่างไรครับ

http://www.iloveportrait.com/webboard/s ... p?pID=1473

เป็นการตอบแทนสำหรับคำตอบนะครับ
เดี๋ยวนี้ post รูปไม่ค่อยได้ครับ
มีคนในนั้นบางคนเค้าว่า(คนอื่นมาอีกทีครับ)

แต่ผมว่า แค่ได้เห็นก็ชื่นใจแล้วครับ
...ผมหมายถึงแฟนผมนะครับ ...อ้าว ^^

คุณลูกอิสาน มีมุมมองอย่างไรกับหุ้น กองทุนอสังหาครับผมสนใจเพราะหลายตัวผลตอบแทนจากปันผลสูงเกิน 15% แล้ว
ขอบคุณครับ

ขอถามอีกข้อนะครับ ปกติการที่ บ จดทะเบียน ออกหุ้นกู้ จะกระทบมูลค่าหุ้นหรือเปล่าครับ หรือว่าเป็นผลดีต่อ การยืดเวลา รักษาสภาพคล่องของกระแสเงินสดอย่างเดียวครับ

[quote="ลูกอิสาน"]UVAN

พี่ลูกอีสานคิดอย่างไรกับ ticon , advanc , makro , prin , pttep ,bafs,cpn ครับ ณ ตอนนี้ถ้าให้พี่เลือก พี่จะเลือกตัวไหนครับ
ขอบคุณครับ

อยากทราบว่าเวลาอ่านงบการเงิน
พี่โจ อ่านย้อนหลังประมาณกี่ปีครับ
ขอบคุณครับ

พี่หมอนุ่น เขียน:พี่โจ คิดอย่างไรกับ D1 กะ TRUE ครับ
แอบถามความคิดเห็นครับ
... ผมว่าเราเรียนรู้ได้กับหุ้นดี และหุ้น D นะครับ

ขอบคุณล่วงหน้านะครับผม

เห็นพี่พอใจบอกว่า รู้ว่าเป็นขี้ ไม่ต้องเอานิ้วไปจิ้มดูก็ได้ครับ  :8)

รอฟังพี่จั่นโจยอดม้วนด้วยคนครับ  :o

Ryuga เขียน: เห็นพี่พอใจบอกว่า รู้ว่าเป็นขี้ ไม่ต้องเอานิ้วไปจิ้มดูก็ได้ครับ  :8)

รอฟังพี่จั่นโจยอดม้วนด้วยคนครับ  :o

ถ้ามองในแง่ดีก็มองได้นะ
ตัวนึงทำให้เราได้เรียนรู้การเล่นกับความโลภของผู้คนในวงการหุ้น
ซึ่งโดนแล้วโดนอีกก็ไม่เห็นจะจำได้ซักที
จะว่าพวกนี้ไม่ฉลาด ก็เห็นฉลาดเฉลียวกันทุกคน
แต่พอถึงเวลา เอ้าลืมอีกแล้ว เอาอีกแล้ว

ส่วนอีกตัวนี่ใครศึกษาตัวนี้
จะได้เห็นธาตุแท้ของกลุ่มนี้ในการทำหุ้นครับ
ว่าขนาดเป็นขี้ยังไม่ยอมให้ใครดมเลยครับ
อย่าว่าแต่จะยอมให้เราเอานิ้วไปจิ้ม...ฮ่า...

[quote="ก้อนหิน"]จริงๆ

เปิดหูเปิดตา อีกแล้วครับพี่โจ

ช่วงนั้น เล่นหุ้นใหม่ๆ อ่านข้ามๆไม่เข้าใจ
ตอนนี้มาอ่านแล้วก็เข้าใจมากขึ้นครับ

ขอบคุณพี่โจ มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แต่ link ที่มัน update ข้อมูลพื้นฐานทั้งหลาย อะครับ พวก

doi.go.th พวกนั้น มัน ตายไปแล้วอะครับ

ผมจะตามตัวนี้ต่อได้ัยังไงดีครับ

[quote="metropolis"]รบกวนพี่ลูกอีสานช่วยวิจารณ์

ก้อนหิน เขียน:แต่ link ที่มัน update ข้อมูลพื้นฐานทั้งหลาย อะครับ พวกdoi.go.th พวกนั้น มัน ตายไปแล้วอะครับผมจะตามตัวนี้ต่อได้ัยังไงดีครับ

link คงเปลี่ยนไปแล้วครับ ลองเสริชกูเกิ้ล กรมการประกันภัย หรือสมาคมประกันชีวิต น่าจะหาเวปเจอครับ

ไม่ทราบว่าพี่ลูกอีสาน ยังติดตาม AEONTS อยู่หรือเปล่า ช่วยให้มุมมองวิจารณ์ หน่อยครับ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงกัน ราคาก็ลงตลอด

ขอบคุณครับ  :D

     ติดตามอ่านอย่างสมำเมอครับ สำหรับกระทู้นี้ อ่านที่ไรได้หุ้นเด็ดๆไปค้นคว้าต่อทุกครั้งเลย

     ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่าน เเละน้องๆ ที่ช่วยมาช่วยกันตอบ เป็นประโยชน์มากครับ



คิดดี ทำดี พูดดี

ช่วงนี้คงไม่ค่อยได้มาคุยเท่าไหร่
ต้องเฝ้าแม่ที่ป่วยกะทันหัน แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วครับ

เห็นตลาดหุ้นเหงาๆ บอร์ดไม่ค่อยมีกระทู้
คนมีเงินแห่ไปซื้อหุ้นกู้ที่เสนอดอกสูงกว่าเงินฝาก
สถานการณ์อย่างนี้สร้างเศรษฐีหุ้นมาหลายคนแล้วครับ
แต่ต้องเลือกดีๆ เพราะต้องยอมรับว่ากิจการส่วนใหญ่คงแย่ลง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด หุ้น net-net ก็หลายตัว เหมือนซื้อของราคา 10 บ. ได้ของมาแล้วคนขายบอกว่าแถมเงินให้อีก 20 บ. :lol: