โทษทีครับ
พอดีช่วงนี้ยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้เข้าเวป
ถ้าตอบช้าไปกันบ้างคงไม่ว่ากันนะครับ
CK เขียน: ภรรยาพี่เคยบอกว่าเดี๋ยวนี้วาโก้มันห่วยครับ
สู้ไทรอัมพ์ไม่ได้
พี่เคยมี WACOAL อยู่ ซื้อที่ราคา 60 บาท
ขายทิ้งไปเพราะเชื่อภรรยาที่ราคา 100 บาท
ปีรุ่งขึ้น มันวิ่งไป 160 ปีมะรืน วิ่งไป 30 หลังแตกพาร์
พอดีช่วงนั้นอ่าน Beating the Street ของน้าลินช์อยู่
เหมือนกันครับ เลยลองดู
อดฝันแบบพี่ครรชิตเลย ฮ่าๆ
พี่CK
พอดีภรรยาผมไม่ใช้ Wacoal ครับ
ผมเลยไม่ได้ซื้อห้น Wacoal
หุ้นสิ่งทอผมไม่ถนัดครับ
แต่ก้ออยากเก็บก้นบุหรี่เหมือนน้า Lynch ดูบ้าง
จะได้ไม่ว่างมากเกินไป
ตอนนี้เงินมันล้นเซฟ (ล้อเล่นนะ)
ไม่รู้จะซื้อตัวไหนลงทุนยาวๆเหมือนบัฟเฟต์ดี
ราคาแต่ละตัวขึ้นมาสูงจนน่าตกใจ
คุณ Mon Money ก็คุยกับผมเหมือนกันว่า
ตอนนี้หาหุ้นถือยาวๆปลอดภัยน้อยมาก
เลยหันมาเก็บก้นบุหหรี่สไตล์น้า Lynch ไปพลางๆก่อน
ผมเห็นว่าท่าจะจริง
เลยหันมาเก็บก้นบุหรี่แบบคุณ Mon ดูบ้าง
ชีวิตมันก็น่าเบื่อน้อยลง
ก็จริงอย่างที่อาจารย์บัฟเฟต์บอกไว้หละครับที่ว่า
สิ่งที่อยากที่สุดก็คือ ความอดทน
เรามีความอดทนไม่พอที่จะรอใช้เงินที่มีอยู่ซื้อหุ้น
เวลามีเงินในกระเป๋าแล้วมันอดไม่ได้ที่จะต้องซื้อ ใช่มั๊ยครับ
อาจารย์เลยบอกไว้ว่า ให้ใจเย็นๆไว้โยม
รอไว้ให้โอกาสมาถึงค่อยคว้า
พวกเราส่วนใหญ่ท่าจะรอไม่ได้
มีเงินแล้วมันอดไม่ได้ จริงมั๊ยครับ
CK เขียน:
เฉพาะปีนี้แหละครับที่ได้ 100% เฉลี่ยก็ 15-30% เองครับ
หุ้นที่ผมชื่นชอบเหรอครับ เข้าใจถามนะครับ อืมมมมม...
เมื่อก่อนชอบหุ้นที่มี story ครับ ประเภทข่าวลือ ข่าวโตก้าวกระโดดปีหน้า
ฯลฯ เดี๋ยวนี้รู้สึกหัวใจไม่แข็งแรงครับ เลยหลีกเลี่ยงหุ้น stories ซะแล้ว
ผมชอบหุ้นเล็กๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่เหลียวแลครับ โดยเฉพาะผู้บริหาร
ผู้บริหารที่เอาเวลาไปดูแลกิจการ ไม่ซื้อและไม่ขายหุ้นตัวเอง
ไม่แตกพาร์ ไม่ออกวอร์แร้นท์ ไม่ขยันออกข่าวดี แต่ขยันออกข่าวเตือนนัก
ลงทุนว่าประมาณการของนักวิเคราะห์อาจจะสูงเกินไป ขยันลดต้นทุนบริษัท
ขยันหารายได้เพิ่ม ให้ความสำคัญกับ R&D และคุณภาพของสินค้าตนเอง
ไม่มีการยักย้ายถ่ายเท ไม่มีการแต่งงบการเงิน
เป็นไงครับ บริษัทในฝัน จะหาได้มั๊ยนี่
ให้ผลตอบแทนสู้ "หุ้นตลาด" ไม่ได้หรอกครับ หุ้นพวกนี้ คลานเป็นเต่าล้าน
ปี ออกไข่ปีละครั้ง
ท่าจะจริงครับพี่CK
หุ้นบางตัวผม ไม่มีคนอยากได้และไม่มีคนอยากขาย
บางวันไม่มีการซื้อขาย
ราคาหุ้นชาวบ้านเขาไปถึงดาวอังคารแล้ว
ราคาหุ้นผมเพิ่งไปถึงแค่ดอนเมือง ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องเลยครับ
แต่ก็ยังเก็บไว้เป็นหมอนข้าง
กอดแล้วมันอบอุ่นดี ไม่หวือหวา
เวลาตลาดตกสุดๆก็"เฉยๆ"
ผลประกอบการต่อไตรมาศลดลงก็"เฉยๆ"
ผมดูในรายงานประจำปี
มีผู้ถือหุ้นอยู่ 400 กว่าราย
นับว่าน้อยมากจริงๆ
ส่วนใหญ่เป็นแบบถือรอปันผล
ดังนั้นถือหุ้นอย่างนี้แล้วก็ต้องทำ"เฉยๆ"เหมือนกันครับ
ศิริศิลป์ เขียน:
อยากถามพี่ๆหน่อยนะครับ
เนื่องจากว่าผมได้รับเงินปันผลมาให้รูปของเช็คนะครับ
เราจะต้องนำไปขึ้นเงินที่ธนาคารเอง
อยากถามว่าพี่ๆมีวิธีการรับเงินปันผล แบบว่าเค้านำมาเข้าบัญชีเราเลย
มีหรือเปล่าครับ เพราะว่ามีได้เงินปันผลไม่มากเท่าำไร มันค่อยคุ้มนะครับ
ที่จะต้องเดินทางไปธนาคาร
เผอิญผมอยู่ที่ต่างจังหวัดนะครับ
คุณศิริศิลป์ครับ
ติดต่อโบรกหรือศุนย์รับฝากหลักทรัพย์ได้เลยครับ
มีบริการโอนเงินปันผลเข้าบัญชีแน่นอน
ส่วนของผมเคยถามเพื่่อนที่เป็นโบรกเกอร์ เขาบอกไม่มี
แต่ผมไปอ่านเจอในประกาศของศูนย์รับฝากรับทรัพย์
ปรากฏว่ามีบริหารโอนเงินปันผลเข้าบัญชีแน่นอน
แต่ตอนนี้ ผมตัดสินใจรับเป็นเช็คเหมือนเดิมครับ
เพื่อผลทางจิตวิทยามากกว่า
เพราะบางทีก็ไม่ค่อยสะดวกเข้าเช็คเข้าหมือนกัน
แต่ก็ทำให้เรารู้สึกดี เวลาได้ปันผลมากกว่าการโอนเงินแน่นอนครับ
ได้อย่างเสียอย่างครับ
Sixsense เขียน:
คือ ผมเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ นะครับ ตอนนี้ผมก็กำลังลองผิดลองถูกอยู่เหมือนกันครับ ก่อนนั้นคิดว่า การเอากำไรจากราคาหุ้น ที่ซื้อถูกแล้วนำมาขายแพง โดยการเอากำไรไม่เยอะ เป็นวิธีการสร้างรายได้อย่างหนึ่ง ระยะแรกนั้น ผมสามารถทำรายได้ ได้ดีเลยครับ โดยการไม่โลภมาก นิดหน่อยกำไร ผมก็ขายครับ ผมคิดว่า การกำไรดีกว่าขาดทุน เป็นการ รักษาควาเสี่ยงไว้ให้มากที่สุด แต่ปรากฎว่า ผมมีความรู้สึก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ระยะหลังผมทำกำไรไม่ได้เลย เงินทุนได้กำไรหมดครับ ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ผมไม่ยอมแพ้ครับ พยายามที่จะค้นหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผม คือผมเป็นโปรแกรมเมอร์ อ่ะครับ แต่นึกไงไม่รู้ ลาออกจากงานมานั่งเล่นหุ้น เหอๆ ผมบอกตรงๆ นะครับ ว่าการหามูลค่าของหุ้น นั้นผมยังไม่ทราบเลย แมงเม่าดีๆ นี่เอง
การวิเคราะห์ บริษัท ผมคิดว่าผมพอจะวิเคราะห์ออกครับ เพราะผมจบศิลปศาตร์ (แต่ไปทำโปรแกรมเมอร์ กำ) ภาษาอังกฤษ พอทราบครับ แต่รู้แค่ว่ามันหมายถึงอะไรอ่ะครับ (ผมนี่น่าสงสารจริงๆเล้ย)
ผมคิดว่าผลของการกระทำในอดีต มีผลถึงปัจจุบัน คือ อดีต เค้าเคยทำกำไรมาเท่าไหร่ ปัจจุบันยังทำได้อยู่ คือการประกอบการไม่ขาดทุน เป็นหุ้นที่น่าลงทุน แต่ ผมไม่รู้ว่าจะซื้อได้ในราคาเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่า ถือได้คุ้ม ซื้อได้ถูก
*** ผมอยากจะทราบว่าการวิเคราะห์มูลค่าหุ้นนั้น เค้าทำกันอย่างไรครับ ใช้อะไรคำนวน และผลของการคำนวน เราควรจะซื้อหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่า สักกี่เปอร์เซ็นต์ครับ ช่วยผมหน่อยครับ ผมใหม่จริงๆ ****
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับพี่ๆ มากนะครับ
ยินดีต้อนรับครับ
การลงทุนไม่เหมือนการพนันนะครับ
ขอเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง
วันหนึ่งอาจารย์บัฟเฟต์ไปเล่นกอล์ฟกับเพื่อน
พอดีเพื่อนๆอยากลองแหย่อาจารย์เล่น
ก็เลยบอกกับอาจารย์ว่า
เอางี้มั๊ย เรามาพนันกัน
ถ้าบัฟเฟต์ทำ Hole in One ได้วันนี้
เพื่อนๆจะจ่ายเงินให้คนละหนึ่งหมื่นเหรียญ
รวมๆแล้วก็ประมาณ 4 หมื่นเหรียญ หรือ 1ล้าน6แสนบาท
แต่ถ้าบัฟเฟต์ทำไม่ได้ จ่ายมาแค่ 20 เหรียญ หรือ 800 บาท
อาจารย์บัฟเฟตยืนคิดอยู่แป๊ปนึง แล้วบอกกับเพื่อนๆว่า
ไม่ล่ะ ขอบคุณ
เพื่อนๆก็งง ถามว่า "ทำไมล่ะ นั่นคิดเป็นผลตอบแทนมากกว่าล้านเปอร์เซนต์เชียวนะ"
บัฟเฟตตอบว่า "ใช่ มันเป็นผลตอบแทนที่สูงมาก
แต่การที่จะเสียเงิน 800 บาทมันมากกว่าที่จะได้เงินล้านมาก
มากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้ ผมจะไม่ทำอะไรที่ผมคิดว่ามันมีโอกาสน้อย"
ถามว่า อาจารย์บัฟเฟตรวยจากการลงทุนในหุ้นใช่มั๊ยครับ
แต่กลับไม่ชอบเล่นการพนัน
ผมเดาว่า ถ้าเป็นพวกเราบางคนได้ข้อเสนอแบบนี้
รับประกันว่า ตกปากรับท้าแน่นอน จริงมั๊ยครับ
ไม่ทราบว่า ถ้าคุณSixsense มีเพื่อนมายื่นข้อเสนอแบบนี้จะยอมพนันด้วยหรือเปล่า อิ อิ
ก็เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า
เราไม่ต้องเป็นนักพนัน
ก็สามารถลงทุนในหุ้นได้ครับ
แล้วที่เราซื้อขายหุ้นอยู่ทกวันนี้เป็น"พนัน"หรือ"ลงทุน"ครับ
ถ้าตอบไม่ได้ "้เป็นเรื่อง"แน่นอนครับ
มีผู้รู้กล่าวเอาไว้ว่า
"ข้อผิดพลาดของคนที่ซื้อขายหุ้นข้อหนึ่งก็คือ
เราคิดว่าเรากำลังลงทุนขณะที่เรากำลังเก็งกำไร"
ข้อผิดพลาดของนักเก็งกำไรก็คือคิดว่าตัวเองเป็นนักลงทุน
เข้าใจมั๊ยครับ
หลักการหรือกฏข้อที่หนึ่งของนักเก็งกำไรก็คือ
"กล้าได้ก็ต้องกล้าเสีย"
ดังนั้น คิดจะเอากำไรก็ต้อง Cutloss เป็น
แต่นักเก็งกำไรที่คิดว่าตัวเองเป็นนักลงทุนจะ Cutloss ไม่เป็น
ก็เลย"ติดดอย"กันเป็นประจำจนชินตา
ไม่ทราบวา คุณSixsense เคยพบเห็นคนเหล่านี้บ้างหรือเปล่าครับ
ส่วนผมเห็นเป็นประจำจนเป็นเรื่องปกติครับ
ดังนั้นคำตอบแรกที่เราจะต้องตอบให้ได้ก็คือ
"เราเป็นอะไร"
ถ้าตอบไม่ได้ก็อย่าเพิ่งเข้าตลาดครับ
โอกาสขาดทุนสูงมาก
ถ้าจะเป็น"นักเก็งกำไร"ก็ต้องเข้าใจหลักการของการเก็งกำไร
ถ้าจะเป็น"นักลงทุน"ก็ต้องเข้าใจในหลักการลงทุน
ซึ่งผมคิดว่า
กระทู้นี้รวมรวม"หลักการของการลงทุน"ไว้มากพอสมควรแล้ว
ถามว่า คุณSixsense อ่านทุกหน้าหรือยังครับ
ในหน้าต้นๆจะมีการพูดถึงการหามูลค่าหุ้นที่แท้จริงไว้
ลองไปอ่านดูนะครับ
ผมแนะนำหนังสือไว้ด้วย ซื้อมาอ่านดู
ถ้าอ่านกระทู้หรือหนังสือแล้ว ไม่เข้าใจก็ถามไถ่มาอีกทีนะครับ
พวกผมยินดีตอบเต็มที่ครับ
ผมไม่อยากฉายหนังซ้ำนะครับ
ลองอ่านดูก่อน
ถึงตอนนี้ก็ขอให้คุณSixsense ประสบความสำเร็จในการลงทุนไวๆครับ
อ้อ เรื่องลาออกมา"เล่น"หุ้น
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่
เพราะผมก็ทำงานประจำ
แล้วเอาเงินเก็บมาลงทุน
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ช่วยให้เราไม่ต้องตามราคา และมีเวลาเอาไปทำอย่างอื่นได้ครับ
บางท่านก็ทำงานประจำ บางท่านก็ทำธุรกิจส่วนตัว บางท่านก็เลี้ยงลูกเป็นอาชีพ(เช่น พี่Chatchai แซวเล่นนะครับ)
สักวันที่ผลตอบแทนของการลงทุนมากกว่ารายจ่าย เราก็ลาออกจากงานได้ครับ
ก็มีบางท่านที่ผมรู้จักลาออกมาเล่นหุ้นเหมือนกัน
แต่ส่วนใหญ่จะเล่นแบบเก็งกำไรติดตามราคาตลาดทุกวินาที
และที่สำคัญ พวกเขาปฎิบัติตามหลักการ"เก็งกำไร"อย่างเคร่งครัดครับ
ถึงสามารถอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้
ส่วนพวกที่ลาออกมาเล่นหุ้นแต่ไม่มีหลักการอะไรเลย
ที่ผมเห็น คนเหล่านี้ี้ก็ต้องหางานประจำทำแล้วครับ เพราะขาดทุนหมด
ผมเห็นคนหมดกับตลาดหุ้นหลายสิบล้านหลายคนครับ
ต้องขายรถ ขายบ้าน แล้วสาบส่งตลาดหุ้นไป
ผมไม่อยากให้คนที่อ่านกระทู้นี้ ตกอยู่ในสภาพแบบที่ผมเคยเห็น
มันไม่่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับ ที่เห็นคนแทบจะล้มละลายเพราะ"เล่น"หุ้น
ว่าแต่ว่่า คุณMon Money หายไปไหนนะ ไม่เข้ามาในกระทู้นี้เลย
คิดถึงครับ
ตอนนี้พี่เจ๋งไปเที่ยวอเมริกา อิจฉาจัง เวปคงเหงาไปเยอะ
ไว้กลับมาก็คงมีคนมาตอบปัญหาพี่ๆน้องๆในกระทู้อื่นๆ
ขอบคุณพี่ CK ด้วยนะครับที่ช่วยตอบปัญหาน้องๆในกระทู้นี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หลังเที่ยงคืนก็ตอบอยู่เลย ยอดเยี่ยมจริงๆ ขอบอก
คุณธันวา พี่ปรัชญา ว่างๆก็มาแจมกระทู้นี้กันบ้างนะครับ มุขผมเริ่มหมดแล้วนะครับ ต้องขอแรงมาช่วยกันแล้วล่ะครับ
เอาล่ะครับวันนี้สวัสดีทุกท่านครับ