ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 61

โพสต์

โดยส่วนตัว ผมไม่เรียกเรื่องสองสูงเป็นทฤษฎีด้วยซ้ำ แต่ผมเรียกว่า "การคิดเองเออเองของท่านเจ้าสัว"

ตามที่ได้ยกเรื่องทฤษฎีปริมาณเงินมา สิ่งที่ท่านเจ้าสัวพูดไม่มีอะไรแปลกประหลาดพิสดารพ้นไปจากทฤษฎีปริมาณเงินเลย มันเป็นแนวคิดที่น่าขบขันในทางเศรษฐศาสตร์ ไม่ว่าจะภาครัฐ ธปท. หรือกระทรวงคลัง เพราะเขาทราบข้อมูลมหภาคดีและอยู่กับข้อมูลพวกนี้มาตลอดผมจึงได้กล่าวตั้งแต่ 2 เดือนก่อนแล้วว่า ธปท. ในฐานะผู้คุมปริมาณเงินของระบบเขาไม่สนใจเรื่องนี้หรอก

สำหรับนักลงทุนเน้นมูลค่า การจะซื้อหุ้นสักบริษัทหนึ่งจะต้องดูข้อมูลมากมาย ดูภาพเล็กภาพใหญ่ ดูแนวโน้มธุรกิจ คุณภาพผู้บริหาร ประวัติการดำเนินการ โครงสร้างผู้ถือหุ้น ตัวเลขทางการเงินต่างๆ งบดุล งบกำไรขาดทุน งบกำไรสะสม งบกระแสเงินสด เงินปันผลจ่าย อัตราส่วนสารพัด ROA, ROE อะไรว่าไป หาส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยแล้วก็มาดูว่าน่าซื้อไหม

หากมีนักลงทุนท่านใด ซื้อหุ้นด้วยเหตุผลแค่ว่า
"หุ้นนี้ P/E ต่ำ P/BV ต่ำ ปันผลก็เยอะ น่าซื้อลงทุนมาก"
การสนับสนุนทฤษฎีสองสูงด้วยเหตุผลแค่ว่า
"สองสูงดี เพราะเกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทุกอย่างดีหมด คนทำงานเงินไม่พอซื้อก็ขึ้นเงินเดือนให้สูงขึ้นจะได้มีเงินซื้อ รายได้สูงขึ้น ประเทศชาติพัฒนา"
ด้วยเหตุผลแค่นี้ก็คงจะพอแล้วละมั้ง


ผมขอเรียนเชิญทุกท่านที่เห็นด้วยในเรื่องสองสูงว่า ขอให้ช่วยยกตัวเลขมาให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างเดียวกันกับที่เราต้องดูงบการเงินก่อนลงทุนหน่อยเถิด มันป่วยการเปล่าที่จะมาพูดลอยๆ ว่าสองสูงดี

ผมหมายถึง "สองสูง" เท่านั้นนะ คือราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น และเงินเดือนสูงขึ้น ส่วนการจัดสรรทรัพยากรการเกษตรอย่างเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีช่วย เพิ่มผลผลิตอะไรต่างๆ นั้น ถือเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงซึ่งผมบอกแต่แรกแล้วว่าเห็นด้วย และก็สามารถทำได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องมีสองสูง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 62

โพสต์

พี่สุมาอี้ เขียน:ปกติแล้ว การเพิ่มเงินเดือนให้เมื่อเกิดภาวะข้าวยากหมากแพงจะไม่ช่วยแก้ปัญหา เพราะเงินมีมากขึ้นแต่ของมีเท่าเดิม ของจะยิ่งแพงขึ้นไปอีก สุดท้ายแล้ว กำลังซื้อจะยังคงเท่าเดิมอยู่ แต่ได้ภาวะเงินเฟ้อพ่วงมาด้วย ถ้ามองในมุมนี้ ดูเหมือนทฤษฏีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์จะไม่ใช่ทางออกของปัญหาข้าวยากหมากแพง

แต่ผมเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ราคาสินค้าและค่าแรงของบ้านเราไม่ได้กำหนดด้วยกลไกตลาดแต่ถูกกดเอาไว้ให้ต่ำกว่าความเป็นจริงมาตลอดเพราะเป็นนโยบาย ถึงเวลาแล้วที่เราจะปล่อยให้ทั้งราคาสินค้าและรายได้ของคน ลอยตัว ขึ้นตามความเป็นจริง ไม่ใช่กดเอาไว้เหมือนในอดีต การขึ้นเงินเดือนตามทฤษฏีสองสูงไม่ได้หมายถึงการแจกเงิน แต่หมายถึงการปล่อยให้เงินเดือนลอยตัวขึ้นตามความเป็นจริง
ผมชอบมุมมองของพี่สุมาอี้มากครับ ผมฟังท่านเจ้าสัวได้ยินแต่ท่านพูดให้มันสูง ไปจนถึงฮั้วกันให้ราคาสูง แต่พี่สุมาอี้กล่าวว่าให้เลิกกดแต่ปล่อยไปตามกลไกตลาด

และเมื่อพี่สุมาอี้กล่าวเช่นนี้ นี่เลยกลายเป็นจุดอ่อนใหญ่ของบทความ ในความเป็นจริงเกือบทุกอย่างเป็นไปตามกลไกตลาดอยู่แล้ว รัฐบาลโดยทั่วไปก็ทำได้แค่ชะลอการขึ้น ไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ต้องปล่อย ผู้บริโภครับเคราะห์ทุกที

ข้าวในอดีตนั้นเรามีการกดราคาให้ต่ำอย่างน่าเกลียดจากระบบโควต้าส่งออก เนื่องจากไทยปลูกข้าวได้มากเกินความต้องการบริโภค เมื่อไม่มีทางระบายออกไปข้างนอก ราคาข้าวจึงถูกกดให้ต่ำอย่างสุดๆ ภายหลังก็ดีขึ้นมากจากการพยายามไปทำตลาดต่างประเทศของหลายๆ ฝ่ายและการส่งออกที่เสรีมากขึ้น ผมถามว่าถ้าอยากปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดจริงๆ ทำไมจึงเกิดการประกันราคาข้าวขึ้น รัฐบาลหลายยุคหลายสมัยเอาใจชาวนาเสมอด้วยการต้องประกันราคาข้าว บางครั้งก็ซื้อแพงกว่าตลาดมากจนขายไม่ออกต้องปล่อยข้าวเน่าคาโกดัง (เอาภาษีไปทิ้ง) ล่าสุดมีจำนำตันละ 14,000 ราคาตลาด 9,000

ผมเห็นด้วยด้วยซ้ำในการที่รัฐเข้ามาแทรกแซงกลไกตลาดเพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาดีขึ้น แม้จะทุจริตเยอะเหลือเกินก็เถอะ นั่นก็ต้องไปไล่กันอีกที

น้ำตาลนั้นกดราคาแน่นอนอีกอย่าง แต่อย่างอื่นๆ โดยมากก็เป็นไปตามกลไกตลาด หน้าแล้งทีไรมะนาวแพงทุกที หน้าฝนก็ถูกทุกที หน้าเงาะ หน้ามังคุด ลองกอง ชาวสวนก็เอาเทเน่าให้เห็น หน้าลำไย ชาวสวนไม่เอาไปอบแห้งก็จะเน่าหมด ขายสดไม่ได้ราคา

ประเด็นนี้แยกสาขาไปสู่การที่ไทยเรายังทำการตลาดสินค้าเกษตรได้ไม่ค่อยเก่ง ซึ่งควรเก็บไว้คุยต่างหาก

เมื่อก่อนไก่ราคาแพงมาก คนกินไก่ได้ต้องมีฐานะดี ส่วนคนจนกินหมู แต่เพราะ CP นี่เองที่มาปฏิวัติระบบไก่จนราคามันถูกลงมหาศาล กาลต่อมาเลยกลายเป็นคนจนกินไก่ คนรวยกินหมู ก็ CP นั้นเองที่เป็นคนปรับกลไกตลาดจากการเพิ่มอุปทานเข้าสู่ระบบไก่ก็เลยถูก ตัวเองทำเองแล้วก็มาบ่น

ที่จริงเพื่อจะให้เป็นธรรม พี่สุมาอี้ต้องเสนอให้มีการกีดกันทางการค้าด้วยเพื่อปกป้องภาคเกษตรหลายส่วนของเราที่ต้นทุนสู้เขาไม่ได้ อย่างเดียวกันกับที่ประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายชอบทำ
พี่สุมาอี้ เขียน:ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศของเราเริ่มทำเกษตรกันน้อยลงและหันมาเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEMers) ในเวทีโลกมากขึ้น สินค้าที่ไทยส่งออกได้มากที่สุดทุกวันนี้คือ รับจ้างต่างประเทศผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ เรายังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ส่งออกเป็นจำนวนมากอีกด้วย เราไม่ใช่ประเทศที่ทำเกษตรเป็นหลักเหมือนที่สอนไว้ในหนังสือสังคม สินค้าเกษตรในปัจจุบันมีสัดส่วนแค่เพียง 10% ของรายได้ประชาชาติเท่านั้นเอง
30 ปีที่แล้ว สินค้าเกษตรก็มีสัดส่วนแค่ 25% เท่านั้นครับ แต่อาศัยแรงงานถึง 70% ของระบบ ถ้านับจากปีล่าสุด สินค้าเกษตรมีสัดส่วนที่ 11.4% ของ GDP แต่อาศัยแรงงานลดลงเหลือเพียง 38% ของระบบ ปี 2537 เป็นปีสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่แรงงานภาคเกษตรสูงกว่าภาคอุตสาหกรรมและบริการ

ในปีที่แล้ว คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มียอดส่งออกสูงสุด 8.1 แสนล้านบาท แผงวงจรและชิ้นส่วน 5.4 แสนล้านบาท รถยนต์ 4.4 แสนล้านบาท
พี่สุมาอี้ เขียน:การจะเป็น OEMers ในเวทีโลกได้นั้น ค่าแรงจะต้องถูก ที่ผ่านมารัฐบาลจึงมีนโยบายกดค่าแรงมาโดยตลอด เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเลือกที่จะมาผลิตสินค้าในประเทศไทยเพราะค่าแรงต่ำ นอกจากนี้ เรายังใช้วิธีกดค่าเงินของเราให้ต่ำเกินความเป็นจริงอีกด้วย เพื่อให้สินค้าที่ผลิตออกจากประเทศไทยมีราคาต่ำเมื่อคิดเป็นเงินดอลล่าร์ ต่างชาติจะได้อยากซื้อสินค้าที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย
จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจหลายๆ แผนที่ผ่านมาเราพยายามมุ่งปริมาณก่อน คุณภาพตามหลัง ภายหลังมามันเลยเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์มากมาย

เมื่อก่อนไทยเราตรึงค่าเงินเราไว้กับ USD แต่เนื่องจากเศรษฐกิจเราเติบโตมากกว่าสหรัฐฯ เงินเฟ้อก็สูงกว่า ค่าเงินบาทของไทยเราควรจะอ่อนลงแต่มันไม่เป็นอย่างนั้นเพราะมันถูกตรึง ค่าเงินบาทเลยแข็งเกินความเป็นจริงมาเป็นเวลายาวนาน ในที่สุดรัฐบาลป๋าเปรมจึงต้องปรับแก้ให้สมดุลด้วยการลดค่าเงินบาทถึง 2 ครั้ง จาก 20 ต้นๆ มา 23 จาก 23 ไป 27 /USD แล้วนั่นช่วยอะไรบ้าง ค่าเงินเราก็ยังแข็งเกินไปอยู่ดีทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดซ้ำซากหมักหมม จนกระทั่ง 40 ที่นักเก็งกำไรเขาสังเกตเห็นว่าค่าเงินเราแข็งเกินไปเลยเข้ามาทุบ ธปท. บ้านเราก็ยังพยายามจะทำให้บาทแข็ง สุดท้ายเละกันหมด

จากนั้นก็ดีขึ้นมากเพราะเราลอยตัวค่าเงิน เงินอ่อนก็ส่งออกดีขึ้น เงินตราต่างประเทศไหลเข้า เกินดุลการค้า เกินดุลบัญชีเดินสะพัด เหตุนี้เงินบาทก็เลยแข็งค่าขึ้นเรื่อย อาจจะมีแทรกแซงบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่เรื่อง 30% ก็เกินไปหน่อย สุดท้ายแนวโน้มใหญ่ก็คือแนวโน้มใหญ่ เงินบาทแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้วเพราะเราเกินดุลการค้า แต่พักหลังเริ่มขาดดุลเพราะราคาน้ำมัน ค่าเงินจึงอ่อนลง

ตลอดเวลายาวนานที่ผ่านมาตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจแรกๆ ผมว่าบาทแข็งเกินไปด้วยซ้ำ มีแต่ระยะหลังที่ลอยตัวที่ใกล้เคียงความเป็นจริงแต่มันก็แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ เองโดยธรรมชาติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 63

โพสต์

พี่สุมาอี้ เขียน:นโยบายแบบนี้ที่ผ่านมาไปได้สวย เพราะแม้ว่าเงินเดือนจะน้อย แต่ของก็มีราคาถูก คนในประเทศจึงไม่เดือดร้อนอะไร ในขณะเดียวกัน การจ้างงานก็มีมากเพราะต่างชาติมาลงทุนกันมากเพื่อเอาค่าแรงถูก ดูๆ ไปก็เป็นนโยบายที่ลงตัว แต่พอนานๆ เข้า ราคาสินค้าในประเทศอื่นๆ ในโลกซึ่งเขาไม่ได้ใช้นโยบายกดราคากันก็สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มทิ้งห่างราคาสินค้าในบ้านเราไปอย่างมีนัยสำคัญ  บังเอิญว่าเราต้องซึ้อสินค้าหลายอย่างจากต่างประเทศเสียด้วย ทั้งน้ำมัน แร่เหล็ก รวมไปถึงสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ ระดับราคาสินค้าและรายได้ในประเทศที่ต่ำกว่าตลาดโลกมาก ทำให้คนไทยต้องซื้อสินค้าเหล่านั้นในราคาที่แพงมาก ในขณะเดียวกัน เรายังขายสินค้าของเราในราคาถูกๆ ให้กับโลกเหมือนเดิม

ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเลิกกลยุทธ์กดราคา ขืนยังปล่อยให้ระดับรายได้และระดับราคาของไทยต่ำกว่าประเทศอื่นๆ เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ คนไทยจะตายอย่างเขียดในที่สุด.
ฟังพี่สุมาอี้พูดแล้ว นึกถึงภาพประเทศจีนชัดเจนเลยครับ ใช้นโยบายสองต่ำ ทั้งราคาต่ำ+กดค่าเงินตัวเองให้ต่ำ ค่าแรงก็กดให้ต่ำ ทำของได้ขายดิบขายดี เศรษฐกิจเฟื่องฟู เงินทุนสำรองเป็นล้านล้านเหรียญ ในอนาคตจีนจะตายอย่างเขียดไหมครับ รู้สึกว่าราคาน้ำมันที่กดให้ต่ำในประเทศโดนโรงกลั่นประท้วงแล้ว
พี่สุมาอี้ เขียน:ผมเชื่อว่าถ้าเราปรับเงินเดือนให้คนในประเทศ เงินเฟ้อจะไม่เพิ่มขึ้นเท่าไรนัก เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบันเป็นปัญหาที่มาจากภายนอกประเทศเป็นหลัก ตลาดในประเทศเองมีแต่ตัดราคากันรุนแรงมาก เงินจึงไม่ค่อยจะเฟ้ออยู่แล้ว
ปัญหานอกประเทศทำให้เงินเฟ้อ แล้วเราจะเพิ่มปัญหาเงินเฟ้อในประเทศซ้ำเข้าไปอีกเหรอครับ (มันคนละส่วนกันนะ) โดนทั่วไปการปรับขึ้นเงินเดือนเพื่อชดเชยเงินเฟ้อเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถ้าปรับเกินเงินเฟ้อก็จะเป็นการเร่งให้เฟ้อหนักเข้า

เห็นในข่าวว่าคลังปรับขึ้นเพดานเงินเดือนส่วนราชการ 20% จากที่ไม่ได้ขึ้นมาเป็น 10 ปี
ไม่รู้จริงรึเปล่าเรื่อง 10 ปี เพราะผมไม่ทราบ แต่พิจารณาในส่วนเงินเฟ้อ 10 ปี นับจาก ปี 2541-2550 แล้ว

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 18.1%
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 27.8%
อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารเพิ่มขึ้น 34.1%

การขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ดูไม่สมเหตุสมผลนักเพราะน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ผมอยากให้ขึ้นอีก ทั้งค่าแรงขั้นต่ำด้วย
พี่สุมาอี้ เขียน:อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ย่อมมีข้อเสียอยู่ด้วย นั่นคือ ต่อไปนี้ ประเทศไทยก็จะมีความน่าสนใจในฐานะของ OEMers ในเวทีโลกน้อยลง เพราะคนของเรามีราคาแพงขึ้น เราคงต้องปรับตัวโดยหันไปสร้างจุดเด่นอย่างอื่นขึ้นมาทดแทน แต่ผมก็คิดว่า เราก็มีทางเลือกอื่นอยู่ไม่น้อย ราคาสินค้าเกษตรกำลังเป็นขาขึ้นพอดี แต่ไหนแต่ไรมา เราคือประเทศเกษตรกรรมอยู่แล้ว ถ้าในอนาคตสาวโรงงานต้องหันกลับไปเป็นเกษตรกรกัน ผมก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะเกษตรกรรมคือ strength ที่แท้จริงของประเทศไทย
ภาคเกษตรเป็นความมั่นคงของทุกๆ ประเทศ ไม่เฉพาะประเทศไทย อาหารเป็นรากฐานความมั่นคงของทุกๆ ประเทศ ผมอยากฟังพี่สุมาอี้กล่าวแก้เรื่องเราส่งออกได้เงินสุทธิจากภาคเกษตรเข้าประเทศแค่ 3.55 แสนล้านบาท จาก GDP 8.5 ล้านล้านบาทน่ะครับ ว่านำไปสู่ความมั่นคั่งของประเทศได้อย่างไร
พี่สุมาอี้ เขียน:ไม่อยากให้มองว่าเจ้าสัวพูดเพื่อตัวเอง โลกธุรกิจไม่ใช่ zero sum game ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งได้ประโยชน์อีกคนจะต้องเสียประโยชน์เสมอไป แม้ว่าเจ้าสัวจะได้ประโยชน์จากการปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตรลอยตัว แต่ประเทศไทยโดยรวมก็ได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน (win-win) ไม่ต้องกลัวคนในประเทศซึ้อข้าวแพงแล้วจะลำบาก ลองดูประเทศอาหรับสิครับ เขาปล่อยให้ราคาน้ำมันซึ่งเป็นสินค้าของประเทศเขาเองลอยตัว แล้วมันทำให้คนในประเทศของเขารวยหรือว่าจนล่ะครับ แขกเขารู้จักทำราคาสินค้าของเขาให้แพงๆ ก็เลยรวยเอา รวยเอา แต่บ้านเราพยายามทำราคาสินค้าของเราให้ถูกๆ ได้เงินมาก็เอาซื้อของที่ราคาแพงๆ ก็เลยจนเอา จนเอา อยู่อย่างนี้แหละครับ
ผมอธิบายเรื่องนี้เปรียบเทียบสูงเดียวกับสองสูงแล้ว ประเทศอาหรับรวยเพราะ เขาได้เม็ดเงินใหม่จากต่างประเทศเข้าระบบ เขาปล่อยน้ำมันลอยตัวในประเทศได้เพราะรวยแล้ว การปล่อยลอยตัวเป็นผลครับ ไม่ใช่เหตุ UAE มีประชากร 4 ล้านกว่าคนเท่านั้น  แต่ไทยมีประชากรทะลุ 66 ล้านคนแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาฯ สินค้าเกษตรไทย ครึ่งหนึ่งเราบริโภคเอง ครึ่งหนึ่งส่งออก หักนำเข้าก็เหลือนิดเดียว เม็ดเงินใหม่นิดเดียว เราพายเรือในอ่าง รีดเลือดกับปูกับคนจนที่ต้องบริโภคอาหารในประเทศแล้วจะได้อะไรนักหนา

ที่กล่าวว่าเรื่องกลไกตลาดเป็นจุดอ่อนเพราะพี่สุมาอี้กล่าวขัดกันในตอนต้นกับตอนท้าย ถ้าเชื่อเรื่องกลไกตลาด เราต้องยอมรับความจริงว่า สินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่ไม่มีมูลค่าเพิ่ม ราคามันจะไม่สูงเพราะคนจนจำนวนมากในไทยและในโลกจะเป็นปัจจัยกดมันเอาไว้ ที่กล่าวไปนั้นไม่ใช่ว่าผมเห็นด้วยกับการให้ราคาสินค้าเกษตรต่ำนะครับ แต่การแก้ปัญหาด้วยกลไกตลาดนั้น ผมเสนอให้เราต้องลดการผลิตสินค้าเกษตรลง ในเมื่อเราผลิตแค่ครึ่งหนึ่งก็พอกินพอใช้แล้ว ผลิตมากเกินไปกลไกตลาดก็กดให้ราคามันต่ำเหมือนที่ CP เจอในการทำเรื่องไก่ ผลผลิตลดลงราคาจะสูงขึ้นเอง เกษตรกรที่เคยทำงานมูลค่าต่ำอยู่ตลอดเวลาจะได้เปลี่ยนไปทำงานที่มูลค่าสูงขึ้น สิ่งที่ผมเสนอคล้ายๆ กับบทความที่ 124 เรื่องแบบจำลองประเทศของพี่สุมาอี้นั่นเอง

โครงสร้างเงินเดือนเป็นแบบนี้สืบเนื่องจากนโยบายดังที่พี่สุมาอี้กล่าว เงินเดือนต่ำจึงกลายเป็นผลไปแล้วครับ ไม่ใช่เหตุ เพราะระบบมันเกิดขึ้นแล้ว แล้วมันก็ดำรงอยู่ การปล่อยไปตามกลไกตลาดมันฟังดูดี แต่เมื่อไม่ได้เปลี่ยนระบบ โครงสร้างแบบเศรษฐกิจเดิมๆ นี้เองจึงเป็นกลไกตลาดที่จะกดให้เงินเดือนมันขึ้นไม่ได้ เม็ดเงินใหม่ก็ไม่ได้ไหลเข้าระบบ ถ้าจะขึ้นเงินเดือนเกินกว่าเงินเฟ้อก็ต้องกู้เอาเท่านั้น และสิ่งที่จะตามมาคือเงินเฟ้อที่หนักกว่าเดิม

เห็นด้วยครับว่าประเทศไทยหมดยุคที่จะสู้เรื่องค่าแรงแล้ว เราต้องเปลี่ยนนโยบายเราซะใหม่ แต่ค่าแรงนั้นพูดกันทีหลังได้เพราะถ้าเราทำงานที่ดีขึ้นมูลค่าสูงขึ้น เงินก็จะมาของมันเอง ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด

แต่สำหรับพี่ๆ ทุกท่านที่สนับสนุนสองสูง ผมอยากเห็นการพิสูจน์เรื่องสองสูงนี้ว่าประเทศไทยเป็นกรณีพิเศษที่สมการแลกเปลี่ยนของ Irving Fisher ใช้ไม่ได้

เรื่องนี้สำคัญครับเพราะเราอาจจะได้ฉีกตำราเศรษฐศาสตร์ของอเมริกาทิ้งเลยถ้าพิสูจน์ได้จริง

อยากให้พี่สุมาอี้มาคุยด้วยจัง  :cry:  :cry:  :cry:
สวนหย่อม
Verified User
โพสต์: 912
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 64

โพสต์

อื้อหือ พี่ริว สุดยอด ตอบละเอียดมากๆๆๆ
แต่ผมยังอ่านตอนนี้ไม่ได้นะครับ พอดีต้องออกต่างจังหวัด
เดี๋ยวจะกลับมาอ่านพรุ่งนี้ มะรืนนี้นะครับ
ขอบคุณมากๆ นะครับที่อธิบายละเอียดมากๆ  :bow:  :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
krisy
Verified User
โพสต์: 736
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 65

โพสต์

ขอบคุณคุณริวสำหรับไอเดียและการวิเคราะห์ที่ยอดมาก

สงสัยนิดนึง ถ้าลดปริมาณผลผลิตทางการเกษตรลง แล้วเราจะจัดการกับการว่างงานยังไงค่ะ เพราะแรงงานภาคเกษตรส่วนมากอาจจะมีคุณภาพไม่พอกับภาคอุตสาหกรรม อาจต้องจัดโปรแกรมอบรมแรงงานครั้งใหญ่ นอกจากนี้ภาคอุตสาหกรรมจะมีขนาดโตพอรับแรงงานส่วนนั้นได้หรือเปล่า

ปล. เรามีความรู้ ECON แค่ Basic เข้าใจไรผิด อย่าถือกันนา
.....Give Everything but not Give Up.....
สวนหย่อม
Verified User
โพสต์: 912
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 66

โพสต์

print บทความของพี่ริวมาอ่าน รู้ไหมตั้ง 32 หน้าแน่ะ
พี่ริวอย่าโกรธน้า ถ้านานหน่อยกว่าจะอ่านจบ กว่าจะทำความเข้าใจ  :oops:  :oops:
(คุณ krisy อ่านหมดแล้วหรือนี่ :bow:)

ยังไงๆ ถ้าพี่ริวจะกรุณา ช่วยอธิบายข้อเท็จจริงเรื่องราคาน้ำมัน
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=34177
ไปพลางๆ ก่อน จะดีใจมากเลยครับ    :D  :D
สวนหย่อม
Verified User
โพสต์: 912
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 67

โพสต์

พี่ริว ผมออกตัวก่อนว่า ผมไม่มีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์เลย อาศัยแต่อ่านข่าวกับบทความเอาตามหนังสือพิมพ์กับเว็บเท่านั้น
ฉะนั้น ผมขอคุยแบบพี่ริวแบบ ชาวบ้านจากบ้านนอกคุยกับ อ.มหาลัยนะครับ ช่วยไขความกระจ่างให้ชาวบ้านอย่างผมด้วย  :8)

ผมเข้าใจว่าไอเดียหลักของเจ้าสัว (รวมทั้งพี่สุมาอี้) คือปล่อยราคาสินค้าเกษตรให้ลอยตัว
เป็นไปตามความต้องการของตลาดจริง ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้มากกว่าเดิม และประเทศจะได้เงินจากการนำเข้ามากกว่าเดิม คือเมื่อราคาขึ้นแล้ว เงิน 3.5 แสนล้านบาท ที่พี่ริวว่าจิ๊บๆ นั่นจะสามารถเพิ่มให้มันไม่จิ๊บได้หรือไม่

ซึ่งจริงๆ แล้วพี่ริวเองก็ได้บอกว่าราคาปัจจุบันนี้เนี่ย มันเป็นไปตามตลาดอยู่แล้ว คือมันควรจะต่ำ
Ryuga เขียน:ผมถามว่าถ้าอยากปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดจริงๆ ทำไมจึงเกิดการประกันราคาข้าวขึ้น รัฐบาลหลายยุคหลายสมัยเอาใจชาวนาเสมอด้วยการต้องประกันราคาข้าว บางครั้งก็ซื้อแพงกว่าตลาดมากจนขายไม่ออกต้องปล่อยข้าวเน่าคาโกดัง (เอาภาษีไปทิ้ง) ล่าสุดมีจำนำตันละ 14,000 ราคาตลาด 9,000
แต่สิ่งที่ชาวบ้านอย่างผมสงสัย และได้ยินมาบ่อยๆ จากหนังสือพิมพ์ ก็คือ ที่ราคาตลาดมันต่ำเนีีย เป็นเพราะตลาดมีความปกติโดย โดนกลุ่มนายทุนกดราคาไว้ เช่น
[เกมกดราคาข้าว]
http://www.ftawatch.org/news/view.php?id=13889
[โรงสี-ผู้ส่งออกไม่ซื้อข้าว]
http://www.food-resources.org/news/view.php?id=1383
[โกง ซ้ำซาก]
http://www.parliament.go.th/news/news_d ... rid=142765
ความถูกต้องของข้อมูลผมยอมรับว่าไม่ทราบ เพราะผมไม่ได้ทำนา แต่คนเสพข้อมูลทางหนังสือพิมพ์อย่างผมมักจะถูกทำให้เชื่อว่า ราคาข้าวที่ควรจะขายได้จริงๆ เนี่ยควรจะสูงกว่านี้มาก

อีกทั้งตัวเจ้าสัวเองก็ออกมาบอกว่า เค้ามั่นใจและเห็นชัดเจนว่าข้าวเรา
ยังขึ้นราคาได้อีกเยอะ ไม่ต้องไปแข่งราคากับเวียดนาม
ให้เค้าขายไปก่อนให้หมดเลย แล้วเราค่อยขายตาม  ยังไงก็มีคนซื้อ

ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านชาวบ้านเมื่อฟังเจ้าสัวพูดย่อมต้องเคลิ้มเป็นเรื่องธรรมดา
สวนหย่อม
Verified User
โพสต์: 912
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 68

โพสต์

อีกเรื่องที่ไม่เข้าใจจริงๆ คือเรื่องสูงเดียวดีกว่าสองสูงที่พี่ริวอธิบาย
เข้าใจว่าในอาหรับราคาน้ำมันตามปั๊มก็แพงเหมือนตลาด หยั่งงี้
คนอาหรับที่เป็นชนชั้นแรงงานก็ต้องได้รับเงินเดือนที่มากพอ
ที่จะซื้อน้ำมันได้ไม่ใช่เหรอครับ ซึ่งมันก็คือสองสูงไม่ใช่เหรอครับ
คนในบ้านเค้าจะอยู่ได้อย่างไรถ้าเป็น
สูงหนึ่ง(น้ำมันสูง) ต่ำหนึ่ง(เงินเดือนต่ำ)

แต่สิ่งหนึ่งที่เข้าใจมากขึ้นจากการอ่านบทความของพี่ริวก็คือ
พวกอาหรับอาจจะสองสูงได้โดยไม่ลำบาก เพราะมีเงินพอจะขึ้นให้
ชนชั้นแรงงานอยู่แล้ว แต่ไทยเราไม่มีเงินพอจะขึ้นเลยอาจจะต้องไป
กู้มา ซึ่งตรงนี้อาจไม่เหมาะสม และไม่ยั่งยืน  

เข้าใจถูกไหมเนี่ย :oops:  :oops:
Likhit
Verified User
โพสต์: 270
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 69

โพสต์

ผมย้อนกลับมาให้ดูคนที่บางคนบอกว่าเป็น เซียนทางเศรษฐกิจ  ผ่านมาไม่กี่เดือนเลยตอนนี้เป็นไง ยางเหลือ30 กว่าบาท  น้ำมันเหลือไม่ถึง40 เหรียญ

ถ้าไปบ้าจี้ตามเขาตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้น  หุ้นทรูเพิ่มทุนไม่รู้จบจาก 70 กว่าตอนนี้เหลือบาทกว่า   ฮ่าฮ่า  เก่งจิงจิง :lovl:
ภาพประจำตัวสมาชิก
holidaytours
Verified User
โพสต์: 349
ผู้ติดตาม: 0

ทฤษฎีสองสูงของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์

โพสต์ที่ 70

โพสต์

ฟังท่านพูดแล้วไม่แปลกใจเลยที่ทำไม ซีพีถึงเจิรญรุ่งเรื่องอย่างทุกวันนี้คับ  :D