Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ปีนี้ -42% ครับ  :vm:  :vm:
โดนคล้ายๆ เสี่ยบลูครับ
คือปีที่แล้วได้กำไรเยอะมากจาก UEC UMS SNC ร่วมๆ 140%
ปีนี้เลยไปเปิดมาร์จิน โดนแจ๊กพอตเลย

ดื้อด้วย คิดว่าหุ้นดี PE ต่ำ เมื่อเทียบกับ SET เดี๋ยวก็ขึ้นมา
แต่ลืมไปว่า ภาวะแบบนี้ PE SET มันลงเยอะมาก
PE หุ้นมันก็ต้องลงตาม (ไม่งั้น PE SET จะลงได้ไงอ่ะ)
คงต้องศึกษา macro economics
แล้วอ่านข่าวทั้งในและต่างประเทศเยอะๆ

แล้วก็โดนเรื่องหุ้นไม่มีสภาพคล่ิองด้วยอย่าง ILINK AIT
ช่วงที่ดีๆ ก็มี bid เยอะนะ แต่ถ้าออกไม่ทันโดนขังทันทีเลย
AIT ก็ตัดใจขายขาดทุนไป (ช่วงกำไรก็ไม่ขาย T_T)

ได้บทเรียนเยอะ ทั้งการเลือกหุ้น การควบคุมความโลภความกลัว

ขอแจมด้วยคนครับ.. ปีนี้ผมเองก็เจ็บตัวไปไม่น้อยเหมือนกัน
ลบไปประมาณ 55% ยังดีที่ปีก่อนๆหน้านี้ตุนผลตอบแทนไว้เยอะ สรุปโดยรวมทำให้ผลตอบแทนทบต้นย้อนหลัง 6 ปียังอยู่ที่ประมาณ 55% อยู่ครับ (จากเคยไปถึงระดับ 90%)

บทเรียนจากความผิดพลาดนี่แทบจะไม่ต่างจากพี่น้องหลายๆท่านเลยครับ
ซึ่งความผิดพลาดที่สำคัญที่สุดของปี 51 นี้คือเรื่องการใช้ Margin นี่แหละครับ

Margin อาจจะช่วยให้เรารวยเร็วขึ้นได้ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะทำให้เราหมดตัวได้ง่ายๆเหมือนกัน ถึงแม้หุ้นที่เราถือนั้นจะดีขนาดไหน แต่ต้องอย่าลืมว่าในระยะสั้น ราคาหุ้นนั้นสามารถไร้เหตุผลได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าจังหวะที่เราถือหุ้นนั้นมันเป็นช่วงที่ราคาหุ้นขึ้นก็ดี แต่ถ้าเป็นช่วงที่หุ้นลงแบบไร้เหตุผลมากๆ โอกาสที่เราจะโดย Call หรือ Force นั้นก็สูง

มีคนเตือนผมหลายคนครับเรื่องการใช้ Margin แต่ผมก็ไม่ค่อยฟังเท่าไหร่.. แบบว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา พอมาเจอกะตัวเองก็เห็นภาพชัดเจนครับว่ามันอันตรายแค่ไหน

จากนี้ไปขอแก้ตัวใหม่ จะพยายามเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้นให้ได้ครับ  :lol:

ของผม -18% รวมปันผลแล้ว

ความผิดพลาดในปีนี้ของผม คือ การที่ไม่รู้จักกำหนดขอบเขตความเสียหายที่รับได้ ประมาณว่าเกี่ยวกับวิธีการจัดการ portfolio ครับ

เจอกับหุ้นตัวนึงตอนช่วงต้นปี เห้นว่าถูกดี เราก็ซื้อไปจำนวนเท่าที่อยากได้ แต่มันดันลงต่อ แล้วทำใจไม่ได้ เลยซื้อเพิ่มอีก สุดท้ายซื้อเพิ่มจนรู้สึกว่ามันขาดทุนเยอะไปแล้ว ก็ขายทิ้งหมดเลย (ประมาณว่า ทำผิดแล้วจะพยายามแก้ตัวใหม่ แต่มันก็ผิดอีก ผิดซ้ำๆ มากๆ เข้า ก็เลยอารมณ์แตกซ่าน ไม่เป็นสุข) สรุปว่าแทนที่จะขาดทุนแค่ 10% กลายเป็นขาดทุน 2X% กับหุ้นตัวนี้

หลังจากนั้นทำให้คิดได้ว่า ถ้าซื้อครบจำนวนที่อยากได้แล้ว และเห็นมันลงต่อ ก็จะไม่ซื้อเพิ่มครับ ถ้าเราผิดอย่างน้อยเราก็ผิดแค่สัดส่วนที่เราลงไป ไม่ขยายแผลให้กว้างขึ้น แต่ถ้าเราคิดถูก แล้วมันขึ้นมา ยังไงมันก็เป็นผลดีกับเราอยู่ดี เพราะเรามีหุ้นนั้นอยู่

ไม่รู้ว่าวิธีการนี้จะถูกหรือผิดอย่างไร แต่มันก็ช่วยให้อารมณ์ของผมไม่หวั่นไหวไปกับราคาของหุ้นมากเกินไป แบบว่าไม่รู้สึกต้องพยายาม "ทำอะไรซักอย่าง" กับราคาหุ้นที่ขึ้นหรือลงครับ

ปีนี้ผลตอบแทน -26%

ถ้ารวมปันผล -20%

แต่ถ้าคิดเป็นตัวเงินแล้วประมาณ 2.5 เท่า ของที่กำไรปีที่แล้ว รวมแล้วซื้อคัมรี่ตัวโลว์สุดได้หนึ่งคันพอดี    

ผลตอบแทนที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 47    48      49      50      51

                                         5%  10%   12%  25%   -20%

ไม่พัฒนาเลย แถมขาดทุนปีนี้ปีเดียว มากกว่าที่กำไรมาหลายปีทั้งหมดรวมกันซะอีก เพราะขนาดพอร์ทที่ใหญ่ขึ้นประมาณ 20 เท่า เมื่อเทียบกับปี 47 จากการใส่เงินออมเข้าไป

แต่ก็จะกัดฟันสู้ต่อไปครับ  :D  :D

ขอคำชี้แนะจากทุกท่าน

[quote="poppo"]ปีนี้ผลตอบแทน -26%

ถ้ารวมปันผล -20%

แต่ถ้าคิดเป็นตัวเงินแล้วประมาณ 2.5 เท่า ของที่กำไรปีที่แล้ว รวมแล้วซื้อคัมรี่ตัวโลว์สุดได้หนึ่งคันพอดี

miracle เขียน: ถ้ามีเวลาว่างพี่ naris ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเป็นความรู้ได้ไหมครับ
ในเรื่องนี้ล่ะครับ ว่ามาร์จิ้น ดาบสองคม ในเหตุการณ์ของปีที่แล้วอย่างไง
เป็นเครื่องเตือนสติของนักลงทุนทั่วไปครับ

อย่างที่รู้ๆ ถ้าจะเล่นกันไฟ ต้องมีความระมัดระวัง โดยเฉพาะการเล่นหุ้นนี่ผมถือว่าเป็นการวิ่งแข่งประเภทวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่ง100เมตร เพราะฉะนั้น การเล่นกับไฟต้องระมัดระวังตัวไม่ให้เราต้องออกจากเกมก่อนกำหนด

อย่างที่รู้ๆข้อดีของมาร์จิ้นอย่างเดียวคือ การเอาเงินคนอื่นมาลงทุนเพิ่มโดยการเสียดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นคนเล่นมาร์จิ้นจะมีROE ที่สูงกว่าROA(ถ้ากำไรนะ) :lol:

แล้วข้อเสียของการเล่นมาร์เก็ตติ้ง. เอ้ย มาร์จิ้นหล่ะมีอะไรบ้าง
1.ใจไม่นิ่งเหมือนที่เคยเป็น ใครไม่รู้เพราะยังไม่เคยใช้มาร์จิ้น แต่ไม่อยากลอง ผมแนะนำให้ทำอย่างนี้ครับ ให้ท่านลองไปโพไซดอน นั่งอยู่หน้าสุดเลย

naris เขียน:

ปล.2ด้วยความคิดถึง พี่มนหายไปไหนเนี่ย กระทู้ล่อเป้า จะมาตอบให้ไหมเนี่ย

ขอบคุณพี่naris ที่แชร์ข้อมูล
แต่ปล.2
ต้องจุดธูป เก้าดอก พร้อมเทียนแดง และดอกไม้ก่อนน่าครับ

[quote="naris"]
แล้วขอเสียของการเล่นมาร์เก็ตติ้ง. เอ้ย มาร์จิ้นหล่ะมีอะไรบ้าง
1.ใจไม่นิ่งเหมือนที่เคยเป็น ใครไม่รู้เพราะยังไม่เคยใช้มาร์จิ้น แต่ไม่อยากลอง ผมแนะนำให้ทำอย่างนี้ครับ ให้ท่านลองไปโพไซดอน นั่งอยู่หน้าสุดเลย

[quote="sai"][quote="naris"]
แล้วขอเสียของการเล่นมาร์เก็ตติ้ง. เอ้ย มาร์จิ้นหล่ะมีอะไรบ้าง
1.ใจไม่นิ่งเหมือนที่เคยเป็น ใครไม่รู้เพราะยังไม่เคยใช้มาร์จิ้น แต่ไม่อยากลอง ผมแนะนำให้ทำอย่างนี้ครับ ให้ท่านลองไปโพไซดอน นั่งอยู่หน้าสุดเลย

sai พี่บ้านนอก พี่ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก เห็นแต่พี่ป้อมพูดให้ฟัง 555(หาเรื่องแล้วตู)
ไม่ต้องห่วงเชา พี่มันพวกดีแต่ปาก แฟนพี่เขารู้ดี

ว่าแต่ถ้าเกิดประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ค่อยเห็นพี่ ก็โทรมาถามไถ่กันหน่อยนะ :lol:

naris เขียน:sai พี่บ้านนอก พี่ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก เห็นแต่พี่ป้อมพูดให้ฟัง 555(หาเรื่องแล้วตู)
ไม่ต้องห่วงเชา พี่มันพวกดีแต่ปาก แฟนพี่เขารู้ดี

ว่าแต่ถ้าเกิดประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ค่อยเห็นพี่ ก็โทรมาถามไถ่กันหน่อยนะ :lol:

สงสัยงานนี้ไม่ได้ออกจากเมืองเลยอีกแล้ว  เผยปากขนาดเนี้ย ...มีพิรุธจริง

แต่ไม่ได้......ผมยังไม่ได้จ่ายค่าครูเลย   กลับเมืองไทยรอบหน้า ต้องดึงออกจากบ้านให้ได้ :lol:

ผมไม่อยากเป็นหนี้นาน....เดี๋ยวดอกมันทบต้น :lol:

naris เขียน:sai พี่บ้านนอก พี่ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก เห็นแต่พี่ป้อมพูดให้ฟัง 555(หาเรื่องแล้วตู)
ไม่ต้องห่วงเชา พี่มันพวกดีแต่ปาก แฟนพี่เขารู้ดี

ว่าแต่ถ้าเกิดประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ค่อยเห็นพี่ ก็โทรมาถามไถ่กันหน่อยนะ :lol:

mod ครับ
ผมขอ icon รูปโบกมือลาบ๊ายบายได้มั๊ยครับ
คงไม่มีโอกาสเจอพี่นริศตอนประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว  :lovl:

1.ใจไม่นิ่งเหมือนที่เคยเป็น ใครไม่รู้เพราะยังไม่เคยใช้มาร์จิ้น แต่ไม่อยากลอง ผมแนะนำให้ทำอย่างนี้ครับ ให้ท่านลองไปโพไซดอน นั่งอยู่หน้าสุดเลย   แล้วจะรู้พวกที่มีมาร์จิ้นแล้วเห็นหุ้นวิ่งๆเป็นยังไง  
2.ข้อแรกไม่นิ่งตอนหุ้นขึ้น ข้อสองนี้ไม่นิ่งตอนหุ้นลง เวลาเห็นหุ้นมันลง เหมือนกับแอบไปโพไซดอน แล้วได้ยินเสียงคุ้นๆแว่วๆมาทางด้านหลังว่าไอ้แก่...ตาย น่าจะอารมณ์เดียวกัน   .....ยิ่งกลัวตาย ยิ่งลง.....อึดได้พักเดียวก็ต้องขาย

ยังไม่เห็นภาพครับพี่ ... ต้องมีภาพประกอบด้วย  :lol:

ของผมลงไป 50% ได้

พอดีเพิ่งจะกลับออกมาจากพื้นที่ชนบท เลยเข้ามาร่วม vote ช้าไปนิด  :lol:
พอร์ทโดยรวมมีอยู่ 7 ตัว เขียวซะ 2ตัว และแดง 5 ตัว แต่สีเขียวมีอยู่จำนวนน้อย พอร์ทเลย - 24% ไม่รวมปันผล ได้บทเรียนเยอะมาก ๆ สำหรับการลงทุนมาปีกว่า ๆ  :lol:

+7 % พลิกสถานการณ์ เดือนสุดท้าย จากลบเป็นบวก ก่อนหน้านี้ก็ลบเหมือนกัน ตัดสินใจ cut loss  ตอน-20% เกือบช้าไป ยังดีที่ตัดสินใจถุกทาง หุ้นลงต่อ เลยได้มีโอกาสเก็บของถูก หุ้นเด้งขึ้นช่วงปลายปีกลับมาบวกได้อีกครั้ง ตอนนี้เริ่มต้นปีใหม่ ทุกตัวเขียวขจี ไม่รุ้ไปได้ตลอดรอดฝั่งรึป่าวต้องลุ้นอีกที ลงทุนได้ปีกว่าแล้ว ถือว่าปีที่ผ่านมาปีเดียว ให้ประสบการณ์ได้รอบด้านเลย ยังต้องเรียนรู้อีกมากครับ

ผลการลงทุน ปีที่ผ่านมาครับ(คิดมูลค่าพอร์ตแบบใช้ค่า NAV)
::: มูลค่าพอร์ต ติดลบ 16%
::: ผลตอบแทนจากเงินปันผล 22%
::: ปริมาณหุ้น เพิ่มขึ้น 300%

gvfx เขียน:ผลการลงทุน ปีที่ผ่านมาครับ(คิดมูลค่าพอร์ตแบบใช้ค่า NAV)
::: มูลค่าพอร์ต ติดลบ 16%
::: ผลตอบแทนจากเงินปันผล 22%
::: ปริมาณหุ้น เพิ่มขึ้น 300%

ถือตัวไหนบ้างครับ

Reminiscence of 3 Dogs เขียน: ถือตัวไหนบ้างครับ

นั่นสิครับโดยเฉพาะตัวที่ปันผลตั้ง 22% เนี่ย
เมื่อเทียบกับการที่มูลค่าพอร์ตติดลบ16% แล้ว น่าอิจฉาจังเลยครับ

ปีนี้มูลค่าพอร์ตสุทธิลดลง 28% ครับ

sathaporne เขียน: นั่นสิครับโดยเฉพาะตัวที่ปันผลตั้ง 22% เนี่ย
เมื่อเทียบกับการที่มูลค่าพอร์ตติดลบ16% แล้ว น่าอิจฉาจังเลยครับ

ปีที่แล้ว ได้กำไรจากการขายวอแรนต์ มาช่วยพยุงพอร์ตไว้พอดีเลยครับ

เพิ่งเปิดพอร์ตครับ ตอนต้นเดือนธันวาคม 51 เป็นพอร์ตเล็กๆ ไม่กล้าเทียบกับพวกพี่หรอกครับ ทำกำไรได้ 9.83 เปอร์เซ็นต์ครับ ราคา นะ วันที่ 30 ธันวาคม 51 ที่กำไรคงเพราะเพิ่งเริ่มลงทุนแน่เลย
ในอนาคตคงต้องระวังให้มาก เมื่อพอร์ตเริ่มโต

สุทธิ(รวมปันผล) +10.91% ตัวเลขยังไม่นิ่ง เพราะผมปิดงบปีทุก 31 มีนาคม  ปีนี้ถือว่าฟลุคสุดๆที่รอดมาได้ เพราะวิกฤตมันมาเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว ขนาดทำงานอยู่ในอุตสาหกรมยานยนตร์ส่งออก ก็เห็นน่ะ ต้นปี-กลางปี Order ปรกติดี แต่อยู่ๆปลายปี Order มันลดแบบเครื่องบินตก ไม่ใช่ใช่แบบค่อยๆ Soft landing ครับ

กำไร 1-10% ไม่รวมปันผล  พอดีได้คุณหมอสามัญชนมาช่วยดึงออกจากปากเหวได้ทันเวลาพอดี  ไม่งั้นป่านนี้สภาพคงดูไม่จืดแน่ๆครับ  ขอบคุณคุณหมอสามัญชนอย่างมากมา ณ ที่นี้ด้วยครับ