Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

"สามก๊ก คือวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่
เป็นขุมทรัพย์ของการเรียนรู้เพื่อบริหารคน
กลศึกเปลี่ยนไปตามยุคสมัย  แต่จิตใจของมนุษย์
พันปีที่แล้วเป็นเช่นไร  ปัจจุบันก็ยังคงเป็นเช่นนั้น"

ก่อศักดิ์  ไชยรัศมีศักดิ์

ผมเองก็เคยได้ฟังประโยคเหล่านี้กรอกรูหูบ้างเหมือนกันครับ
จากแม่นิดหน่อย
ส่วนมากจากเพื่อนร่วมงาน
ประมาณว่า มันจะได้กำไรทุกปีเร้อ!?
"ถ้าเจอวิกฤติ ระวังเงินจะหายหมดน่ะ เล่นหุ้นเนี่ย"

ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มๆ
นึกในใจ ( แหม ถ้าเจอวิกฤตอีกสิดี เงินสดนอนนิ่งอยู่ใน MMF เพียบ จะโยกมาShopแม่งให้หมดเลย )

แต่หลักการคิดของผมก็คือ ไม่เก็บคำพูดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อความฝันไว้ในหัว ปล่อยมันทะลุหูขวาออกไป

เค้าไม่ได้มีความคิดเหมือนเรา
ไม่ได้อ่านหนังสือเล่มเดียวกับเรา
ไม่ได้ใช้เงินกระเป๋าเดียวกับเรา

รับไว้แต่ความหวังดี
แต่ผลตอบแทนแบบทบต้นนั้นขอรับไว้คนเดียวก็แล้วกัน

: D

อีกอย่างที่มักจะสะกิดหูก็คือ คำว่า "เล่น" หุ้น เนี่ยแหละครับ

อยากจะบอกว่า กูม่ายได้เล่น
แต่ฉันลงทุนในธุรกิจ เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ๆโตๆกับเค้าด้วยคนนึงอ่ะ เข้าใจไหม!!

แต่พอมองหน้าคนพูดแล้วก็คิดว่า
" เฮ้อ ช่างเหอะ ให้มันมองเราแบบนั้นไปก่อน "
อธิบายไปก็เมื่อยปากเปล่าๆ

แล้ววันนี้คนชื่นชม warren buffet  หรือเปล่า

คุณปู่แกไม่ทำอะไร  นอกจากเล่นหุ้นตั้งแต่เด็ก

ปีหน้าจะเลิกทำงานมาลงทุนอย่างเดียวแล้ว

รอดูว่าสังคมจะรังเกียจหรือเปล่า แล้วจะมาเล่า

สู่กันฟัง

[quote="Hughes"]

"หนังสือสอนเล่นหุ้นใช้ไม่ได้หรอกเรื่องอะไรเขาต้องมาสอนถ้าเขาเก่งจริงทำไมเขาไม่เก็บเป็นความลับแล้วรวยคนเดียว"

[quote="สามัญชน"]นักลงทุน(ในหุ้น)นี่แหละ

ในอนาคต
จะเป็นอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่เลย
สาวๆชอบ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีชีวิตสามชีวิตกำลังเดินทางแสนไกลเพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทางที่พวกเขาฝันไว้

สามชีวิตนั้นประกอบด้วย ชายชรา หลานของเขา และ ม้าตัวหนึ่ง

ระหว่างที่ทั้งสามชีวิตกำลังเดินทางไปยังจุดหมาย
เขาก็เจอผู้คนมากมายที่เดินผ่านมาแล้วก็เดินผ่านไป

มีอยู่ครั้งนึง ชายชรา กับ หลาน กำลังจูงม้าเพือเดินทางไปยังจุดหมายอยู่
ก็มีผู้คนกลุ่มนึงเดินผ่านมาบอกกับพวกเขาทั้งสามว่า

ทำไมโง่จังมีม้าแต่ไม่ยอมขี่

ชายชราได้ยินดังนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าทำไมตัวเองถึงโง่อย่างงี้นะ
เลยให้หลานของเขากระโดดขึ้นไปขี่ม้า แล้วชายชรา ก็เดินจูงม้า แล้วเดินทางต่อไป

หลังจากนั้นไม่นานก็เจอผู้คนอีกกลุ่มผ่านมาบอกกับทั้งสามชีวิตว่า

ทำไมแย่จัง ทรมานคนแก่ปล่อยให้คนแก่จูงม้าอยู่แต่หลานกับนั่งสบายใจเฉิบอยู่บนหลังม้าได้ยังไง

เมื่อหลานได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิด ยอมลงจากม้าแล้วให้ชายชราขึ้นไปขี่ม้า
แล้วตัวเองลงมาจูงม้าแทน

ทันใดนั้นก็มีคนอีกกลุ่มผ่านมาแล้วบอกพวกเขาว่า

ทำไมแย่จัง ทรมานเด็กตัวนิดเดียวแบบนี้ได้ยังไง ให้ผู้ใหญ่ขี่ม้าในขณะที่เด็กตัวเล็กๆมานั่งจูงม้าทรมานเด็กจริงๆ
เมื่อชายชราได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิดอีกแล้วทีนี้ชายชราตัดสินใจ เอาทั้งตัวเอง และ หลานของเขาขึ้นไปขี่ม้าทั้งคู่เลย
ดูซิว่าผู้คนที่เดินผ่านมาจะพูดว่าอะไรเขาได้อีก

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนอีกกลุ่มเดินผ่านมา
บอกพวกเขาว่า
คนแก่กับหลานคู่นี้นิสัยแย่มากขึ้นไปบนม้าได้ยังไงตั้งสองคนทรมานสัตว์จริงๆ

................ชอบนิทานเรื่องนี้มากครับ น่าจะเป็นข้อคิดกรณีนี้ได้ดี

ปล. ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ไม่พ้นต้องมีคนนินทา หรือมองไม่ดี เพราะความรู้ ความเข้าใจ และ จิตใจแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าเรามั่นใจว่ามันดีจงทำในสิ่งที่เราเชื่อมั่นต่อไปครับ อย่าไปสนใจคำนินทาของคนอื่นที่ทำให้เราไขว้เขว หรือขุ่นเคืองได้  

วันนี้ได้ดู clip เสวนาระหว่างคุณสังศิต พิริยะรังสรร vs รสนา โตสิตระกูล เรื่องหวยออนไลน์

คุณรสนา  เปรียบเปรยว่าการเล่นหุ้นก็เหมือนการเล่นการพนันของคนมีเงินมาก  ด้วยคำพูดที่ว่า คนจนเล่นหวย  คนรวยเล่นหุ้น......แถมว่าคนเล่นหุ้นไม่ได้สร้างมูลค่าใด ๆ ให้กับเศรษฐกิจ

นี่เป็นความเห็นออกสื่อของ สว. ดัง ท่านหนึ่งครับ.....

เอารูปประกอบนิทานของคุณ villa มาแปะไว้ขำๆนะขอรับ (^_^)

จะสุข จะทุกข์
จะรวย จะจน
ก็เป็นเรื่องของเราเองครับ
ใครอื่นจะว่าิอย่างไร ก็เป็นเรื่ิองของเขา
ขอเพียงเราไม่เอาเปรียบใคร ภูมิใจในสิ่งที่เราทำก็เพียงพอ
I did it my way

สาวแถวไหนครับจะได้โผล่ไป

สงสัยต้องเลี้ยงให้พอร์ทใหญ่แบบพี่หมอก่อนมั้งครับ

[quote="cuboty"][quote="สามัญชน"]นักลงทุน(ในหุ้น)นี่แหละ

ในอนาคต
จะเป็นอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่เลย
สาวๆชอบ

เวลาและผลงานจะเป็นตัวพิสูจน์เองครับ

ขอพาออกนอกประเด็นซักหน่อยนะครับ

มีคนเคยบอกผมว่า...

"VI คือกลุ่มคนที่ซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาถูกที่สุด โดยซื้อจากคนที่ตกอยู่ในภาวะหวาดกลัว ซื้อจากคนที่ขายแบบยอมขาดทุนย่อยยับ และขายหุ้นของตัวเองทั้งน้ำตา

และเช่นกัน VI คือกลุ่มคนที่ขายหุ้นในช่วงที่ราคาแพงที่สุด โดยขายให้กับคนที่อยู่ในภาวะมั่นใจสุดขีด(อาจจะเพราะมีนักวิเคราะห์เชียร์) ขายให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ๆที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เสมือนลงดาบแบบไร้ความปราณี เพราะใครที่ซื้อไปที่ราคานี้ ก็ดอยชัดๆ!!!

ดังนั้น VI ก็คือคนที่มีความมั่งคั่งบนความทุกข์และคราบน้ำตาของผู้อื่น"


ผมนั่งคิดอยู่นาน เลยแบ่งมาให้เพื่อนๆท่านอื่นช่วยผมคิดบ้างอ่ะนะขอรับ
ไม่ซีเรียสครับ แค่อยากทราบมุมมองขอรับ (^_^)

pak เขียน:
ดังนั้น VI ก็คือคนที่มีความมั่งคั่งบนความทุกข์และคราบน้ำตาของผู้อื่น"

ฟังแล้วเหมือน VI เป็นฝ่ายอธรรมยังไงไม่รู้
แบบนี้ฝ่ายธรรมะคือเหล่าแมงเม่าและนักเก็งกำไรที่ตามกระแสคนอื่นน่ะสิครับ

ผมว่า VI คือคนชนกลุ่มน้อย(แห่งหมู่บ้านเกรแฮมและดอดส์ หรือหมู่บ้านอาจารย์นิเวศน์และพี่โจลูกอีสาน)
เป็นตัวของตนเอง มีความคิดอิสระ  และไม่ตามกระแสฝูงชนแต่อาจจะตามเซียน

pak เขียน:ขอพาออกนอกประเด็นซักหน่อยนะครับ

มีคนเคยบอกผมว่า...

"VI คือกลุ่มคนที่ซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาถูกที่สุด โดยซื้อจากคนที่ตกอยู่ในภาวะหวาดกลัว ซื้อจากคนที่ขายแบบยอมขาดทุนย่อยยับ และขายหุ้นของตัวเองทั้งน้ำตา

และเช่นกัน VI คือกลุ่มคนที่ขายหุ้นในช่วงที่ราคาแพงที่สุด โดยขายให้กับคนที่อยู่ในภาวะมั่นใจสุดขีด(อาจจะเพราะมีนักวิเคราะห์เชียร์) ขายให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ๆที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เสมือนลงดาบแบบไร้ความปราณี เพราะใครที่ซื้อไปที่ราคานี้ ก็ดอยชัดๆ!!!

ดังนั้น VI ก็คือคนที่มีความมั่งคั่งบนความทุกข์และคราบน้ำตาของผู้อื่น"


ผมนั่งคิดอยู่นาน เลยแบ่งมาให้เพื่อนๆท่านอื่นช่วยผมคิดบ้างอ่ะนะขอรับ
ไม่ซีเรียสครับ แค่อยากทราบมุมมองขอรับ (^_^)

ขอเปลี่ยนนิดหน่อย  ยกตัวอย่าง เช่น

"VI คือกลุ่มคนที่ไม่ยอมอพยพย้าย จากฮ่องกง ก่อนที่อังกฤษคืนฮ่องกง ให้จีน(ซื้อฮ่องกง ในช่วงที่ราคาถูกที่สุด โดยซื้อจากคนที่ตกอยู่ในภาวะหวาดกลัว) ซื้อจากคนที่ขายแบบยอมขาดทุนย่อยยับ และขาย asset(หุ้น)ของตัวเองทั้งน้ำตา

และเช่นกัน VI คือกลุ่มคนที่ขายฮ่องกง ในช่วงนี้ที่ราคาแพงที่สุด โดยขายให้กับคนที่อยู่ในภาวะมั่นใจสุดขีด ว่าจีนและฮ่องกง จะเติบโตอย่างมาก และอย่างรวดเร็ว(อาจจะเพราะมีนักวิเคราะห์เชียร์)  ขายให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ๆที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ VI อีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง (เสมือนลงดาบแบบไร้ความปราณี เพราะใครที่ซื้อไปที่ราคานี้ ก็ดอยชัดๆ......คนขาย   ,,  ขายหมูเห็นๆ คิดได้ไง.......คนซื้อ)

ดังนั้น VI ก็คือคนที่มีความมั่งคั่งบนความทุกข์และคราบน้ำตาของผู้อื่น"

เหตุการณ์ทำนองนี้ ดำเนินอยู่ประมาณ ๒๐ปี นะครับ

คนซื้อตื้ออยู่และรออนาคต เกือบ ๒๐ปี คนขายเผ่นไป USA & Canada เอาเงินไปหมุนหลายรอบ

พอแก่แล้ว คนฮ่องกงอยากเอาเงินไปใช้ตอนแก่บ้าง คนซื้อก็กดราคาต่ำๆ แต่ก็สูงกว่า ๒๐กว่าปีที่แล้วมาก

ประเด็นคือ ใคร วีไอ ไม่ วีไอ  หรือ ใคร ร้องไห้ ไม่ ร้องไห้

(บางทีซื้อขายเสร็จ ทั้งคู่ ยังดื่มแชมเปญ แล้วคิดในใจทั้งคู่ว่า ทำไมตูฉลาดอย่างนี้ฟะ และเป็น VI ทั้งคู่ซะด้วย)

แต่ประเด็นของคุณ PAK ผมว่าเป็นนักเก็งกำไร และหรือ VI ไวเป็นกรด ผสมโรงกันซะหละมากกว่านะครับ..........

สัตว์ที่แข็งแรงกว่าย่อมอยู่รอดและดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ เป็นกฏธรรมชาติมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของโลกแล้วครับ

สิงโตที่วิ่งเร็วกว่ากวางตัวที่ช้าที่สุดจะไม่มีวันอดอาหาร
กวางที่วิ่งเร็วกว่าสิงโตตัวที่เร็วที่สุดก็จะไม่ถูกตะปบ

ไม่เคยมีเสียงโอดครวญจากพวกที่วิ่งเร็ว (พวกมันคงไม่รู้และอาจไม่เคยสนใจด้วยมั๊งว่าตัวเรานี้เป็นฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม)
เสียงโอดครวญมักจะดังมาจากพวกท้ายตารางมากกว่า ซึ่งถ้ามีเวลามาโอดครวญ น่าจะเอาเวลานั้นไปซ้อมวิ่ง???

แต่ละคนก็มีโลกที่ไม่รู้จักครับ อ่ยาไปถือสาเลยครับ

คงต้องพิสูจน์ด้วยผลของมันครับ
ซึ่งแน่นอนว่าด้วยแนวคิดของ VI ผลที่ได้ต้องใช้เวลา
ช่วงการรอคอยนี่แหละคือช่วงที่เราต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยเหมือนกัน

สำหรับผมการลงทุนในหุ้นต้องใช้ความรู้เหมือนกับที่เราเป็นเจ้าของธุรกิจ
เพราะเราเอาเงินไปให้คนอื่นเค้าดำเนินกิจการให้เรา
ถ้าเราไม่เข้าใจ ตามเค้าไม่ทัน นั่นคือความเสี่ยง

แม่ผมก็เตือนผมเสมอว่าอย่าชะล่าใจในตลาด ด้วยภาพที่เค้ารับรู้จากเดิม
แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธเค้าเสียทีเดียว ผมจึงแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินเช่นกัน

ส่วนเพื่อนๆผมที่ทำงาน ที่เรียน เล่นหุ้นคือเรื่องปกติ
ส่วนมากจะเป็นพวกเล่นรอบ เก็งกำไร ช่วงหุ้นขึ้นฟังๆมันพูดกันก็เขวๆบ้างเหมือนกัน
ต้องพยายามอดทนไว้ พิสูจน์แนวคิดความเชื่อของเรา

[quote="Hughes"]ไม่รู้เคยมีกระทู้แบบนี้หรือยัง

คนเล่นหุ้นได้เป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?






















(สุภาษิตเหาฉลามบอกว่า:ถ้ามันไม่บอกเรา ถ้าบอกเราด้วยก็แล้วไป)

por_jai เขียน:คนเล่นหุ้นได้เป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?






















(สุภาษิตเหาฉลามบอกว่า:ถ้ามันไม่บอกเรา ถ้าบอกเราด้วยก็แล้วไป)

555+

มีจริง ๆ นั่นแหละครับ ผมเองก็เจอมากับตัว กับคนที่จบบริหารมาเนี่ยแหละครับ
http://forums.thaigamedevx.com/index.php?topic=2526.0

peacedev เขียน:มีจริง ๆ นั่นแหละครับ ผมเองก็เจอมากับตัว กับคนที่จบบริหารมาเนี่ยแหละครับ
http://forums.thaigamedevx.com/index.php?topic=2526.0

ลูกพี่
เว็บบอร์ดศูนย์รวมนักพัฒนาเกมไทย ไหงมีเซ๊คชั่น การเงินการลงทุนด้วยง่ะ
:lol:  :lol:  :lol:

ดูก่อนพี่น้องที่รักทั้งหลาย

ถ้าเอาเงินตัวเองเล่นหุ้นแล้วน่ารังเกียจ

ทำไมอาชีพที่เอาเงินคนอื่นมาเล่นหุ้น เป็นอาชีพที่ดีในสังคมล่ะ => Fund Manager


ไหนๆ คุณ FundTalk มาตอบข้อพาดพิงสิครับ

siebelize เขียน:

ลูกพี่
เว็บบอร์ดศูนย์รวมนักพัฒนาเกมไทย ไหงมีเซ๊คชั่น การเงินการลงทุนด้วยง่ะ
:lol:

peacedev เขียน: เพราะเหล่านักวิจัย และนักพัฒนา software ในไทย ส่วนมากยังขาดเงินทุนกันครับ

ผมลองอ่านๆดูในเว็บบอร์ดแล้ว น่าสนใจแฮะ


พี่พีซเดฟ ว่าธุรกิจนี้ เป็นยังไงบ้างอะ

siebelize เขียน: ผมลองอ่านๆดูในเว็บบอร์ดแล้ว น่าสนใจแฮะ


พี่พีซเดฟ ว่าธุรกิจนี้ เป็นยังไงบ้างอะ

ธุรกิจด้านนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมากครับ
เป็นงานที่ท้าทายแต่ความเสี่ยงก็เยอะครับ
โดยส่วนตัวผมทำเพราะใจรัก และ จริตมาทางนี้
ส่วนเรื่องธุรกิจทางนี้ ถ้าสนใจลองแฝงตัวเข้าไปคุยในบอร์ดได้ครับ มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมที่จะให้คำตอบอยู่

ปล. อย่างหุ้น cyber ที่กำลัง ipo ก็มีคนรู้จักกับผู้ก่อตั้ง/ผู้บริหาร เล่นในบอร์ดนี้อยู่นะ แต่รู้จักกันแบบไหนผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่น่าจะรู้จักกันดีทีเดียว

TV ย้อนหลัง
Thai PBS ที่นี่ทีวีไทย ช่วงตอบโจทย์ 5 ม.ค. 53
สังศิต พิริยะรังสรร vs รสนา โตสิตระกูล

http://www.thaipbs.or.th/s1000_obj/fron ... ory_id=712

คุณรสนา หาว่าคนที่ลงทุนในหุ้น หรือเล่นหุ้น เป็นพวกนักเล่นพนัน โดยเปรียบได้กับ คนจนเล่นหวย  คนรวยเล่นหุ้น

และมีความคิดที่ว่า คนที่ลงทุนในหุ้นไม่ได้สร้างมูลค่า หรือการเติบโตใดๆ ให้กับเศรษฐกิจ

สมัยฟ้องถอดถอน ปตท ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ก็เล่นซะประเทศแทบพัง ต่างชาติได้แต่มองตาปริบๆ

นักข่าวค้นไปค้นมา เจอข้อมูล สมัย IPO ใหม่ๆ คนในมูลนิธิฯ ได้รับจัดสรรหุ้น IPO หลายแสนหุ้น คิดเป็นเงิน Captical Gain กว่า 20 ล้านบาท ยังไม่รวมปันผล โดยเฉพาะตัวประธานมูลนิธิ และเครือญาติ

ฟ้องกันจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ด่า ปตท เสียๆ หายๆ แต่คนในมูลนิธิฯ กลับได้หุ้นจอง ปตท กันเพียบ

http://webboard.mthai.com/5/2007-12-18/361134.html

คนลงทุน ก็ไปหาว่าไม่ทำประโยชน์ให้กับประเทศ ตัวเองกับพวกพ้อง ประเสริฐอยู่ฝ่ายเดียว ทำอะไรไม่เคยผิด

ผมว่าเปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็น

"คนลงทุนหุ้นแล้วกำไร เป็นคนที่น่าอิจฉาสำหรับสังคม"