Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เราพึงหลีกเล่ียงลงทุนในบริษัทงบกระแสเงินสดท่ีออกมาแบบไหนคัรบ

Tlk เขียน:เราพึงหลีกเล่ียงลงทุนในบริษัทงบกระแสเงินสดท่ีออกมาแบบไหนคัรบ

บริษัทที่ต้องหลีกเลี่ยงมากที่สุดในความเห็นของผมก็คือ

กำไรจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงา

เราจะหาค่านี้ยังไงครับพี่chatchai

ขอบคุณครับ

เวลาที่เห็นพี่ๆ วิเคราะห์งบการเงินกัน  แล้วบอกว่าบริษัทนี้มี "กระแสเงินสดดี"  
อยากถามพี่ฉัตรครับ ว่า  การที่เราบอกว่าบริษัท มีกระแสเงินสดดี หรือไม่ดีนั้น  มีเกณฑ์อะไรในการวิเคราะห์  
ใช้เงินสดเปรียบเทียบกับอะไรครับ  แล้วดูตรงส่วนไหนของงบบ้างครับ  อธิบายเป็นขั้นตอนสำหรับมือใหม่เลยก็ได้นะครับพี่
ขอบคุณครับ

Jimmy เขียน: เราจะหาค่านี้ยังไงครับพี่chatchai

ขอบคุณครับ

มีในงบกระแสเงินสดครับ  ลองหาดูครับ  บางบริษัทจะรวมมาให้  แต่บางบริษัทก็ไม่ได้รวมมาให้  ก็เป็นส่วนหนึ่งของกระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน

ขอบคุณพีฉัตรชัยครับ เดี๋ยวผมจะลองหาดูครับ

อยากถามพี่ฉัตรชัยคะ ว่า บริษัทที่รายงานงบการเงินรวม กับงบการเงินเฉพาะกิจการ เราต้องวิเคราะห์ทั้งสองงบไหมคะ
ขอบคุณคะ

เรียนถามพี่ฉัตรชัยครับ

ทำไมสไตล์การลงทุนของพี่ฉัตรชัยถึงชอบบริษัท ที่มีกระแสเงินสดดี  หนี้น้อย  มีปันผล  เพราะจากที่ไปฟังตอนงาน Thaivi มา พี่บอกว่าปกติบริษัทจะมี 4 ระยะ
และระยะ ที่ 4  เป็นระยะ Mature ที่ค่อนข้างคล้ายห่านทองคำ  

ผมมาคิดต่อว่าถ้าเป็นบริษัทประเภทมี Growth  น่าจะให้กำไรในการดำเนินการค่อนข้างโตต่อเนื่อง และน่าจะเกิด Capital gain จากราคาหุ้นมากกว่า  ส่วนหุ้นในระยะ Mature น่าจะเป็นหุ้นที่ราคาไม่หวือหวา  แต่เป็นลักษณะ defensive พอควร  

 ประสบการณ์ในการลงทุนของพี่น่าจะผ่านมาหลายปี เห็นหุ้นมากมาย รวมถึง
สภาวะตลาดของประเทศไทย  ในมุมมองที่โตกว่า  รบกวนพี่ฉัตรชัยด้วยนะครับ

m_mummie เขียน:อยากถามพี่ฉัตรชัยคะ ว่า บริษัทที่รายงานงบการเงินรวม กับงบการเงินเฉพาะกิจการ เราต้องวิเคราะห์ทั้งสองงบไหมคะ
ขอบคุณคะ

เราควรที่จะวิเคราะห์ทั้งสองงบครับ  วิเคราะห์ด้วยความเข้าใจด้วยนะครับ

เช่น  ถ้าเรากำลังพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินปันผล  เราก็คงต้องพิจารณาเงินสดในงบเดี่ยว  มากกว่างบรวม

[quote="vi_tal  signs"]เรียนถามพี่ฉัตรชัยครับ

ทำไมสไตล์การลงทุนของพี่ฉัตรชัยถึงชอบบริษัท ที่มีกระแสเงินสดดี

เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี่  ยังไงก็แวะไปส่งเสียงแสดงความเห็นเพื่อช่วย SAVE รายการ Money Talk กันด้วยนะครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... highlight=

[quote="chatchai"]
คงต้องวิเคราะห์ก่อนว่า

P/FCF เท่าไรถึงไม่แพง  คงต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนละครับ  รวมทั้งต้องพิจารณาหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินประกอบด้วย

ถ้าบริษัทมี Market Cap. 200 ล้านบาท  FCF 100 ล้านบาท  แต่บริษัทมีหนี้เงินกู้อยู่ 600 ล้านบาท  ก็คงไม่ไหว

และที่สำคัญที่สุด  คือ  ความแน่นอนของ FCF นะครับ  ถ้าปีนี้ได้ 100 ล้านบาท  แต่ปีหน้าเหลือแค่ 10 ล้านบาท  ก็คงจะเสี่ยง

การคำนวณราคาด้วยวิธี Multiple  สิ่งที่สำคัญก็คือ  ผลการดำเนินงานที่มั่นคงมากกว่าการเติบโตครับ  เพราะวิธีนี้เปรียบเสมือนว่า  ผลการดำเนินงานเท่าเดิมตลอดไม่เปลี่ยนแปลง

เห็นในงาน TVI พี่ฉัตรชัยบอกว่าจะทำงบกระแสเงินสดขึ้นมาเอง ปรับปรุงจากงบกระแสเงินสดที่บริษัททำมาให้

ไม่ทราบงบกระแสเงินสดที่พี่ทำเอง แตกต่างจากงบกระแสเงินสดของบริษัทยังไงบ้างครับ?

[quote="chatchai"]
ถ้าบริษัทมี Market Cap. 200 ล้านบาท

หมีขาว เขียน:เห็นในงาน TVI พี่ฉัตรชัยบอกว่าจะทำงบกระแสเงินสดขึ้นมาเอง ปรับปรุงจากงบกระแสเงินสดที่บริษัททำมาให้

ไม่ทราบงบกระแสเงินสดที่พี่ทำเอง แตกต่างจากงบกระแสเงินสดของบริษัทยังไงบ้างครับ?

อยากฟังคำตอบด้วยคนครับ

ต้องเอา งบดุล และ งบกำไรขาดทุน (เกณฑ์คงค้าง) มาบันทึกใหม่
เป็นงบกระแสเงินสด (เกณฑ์เงินสด) หรือป่าวครับ

ซึ่ง คนที่ทำบัญชีของ บมจ. ก็ทำตามหลักอยู่แล้ว งบกระแสเงินสด
จริงๆน่าจะออกมาเหมือนกัน ตามความเข้าใจ(อันน้อยนิด)ของผม

แล้วพี่ฉัตรต้องปรับปรุงอะไรบ้างครับ

ขอบคุณมากครับ

ปล. อยากให้มีกระทู้นี้มานานแล้วครับ (แต่ไม่กล้าจัดตั้ง)

หมีขาว เขียน:เห็นในงาน TVI พี่ฉัตรชัยบอกว่าจะทำงบกระแสเงินสดขึ้นมาเอง ปรับปรุงจากงบกระแสเงินสดที่บริษัททำมาให้

ไม่ทราบงบกระแสเงินสดที่พี่ทำเอง แตกต่างจากงบกระแสเงินสดของบริษัทยังไงบ้างครับ?

ที่ทำใหม่  ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงบางรายการครับ  เพื่อให้ได้ตามความต้องการของผม

แสดงว่าพี่ฉัตรชัยลงทุนโดยดูความถูกแพง
โดยใช้ กระแสเงินสดเป็นหลัก
ซึ่ง  มักจะเป็นธุรกิจที่ไม่ค่อยมีการขยายการลงทุนเท่าไหร่แล้ว

หรือว่าหากมีการขยาย  ก็สามารถ manage finance ได้ดี
ไม่มีความเสี่ยง

 พี่ฉัตรชัยดูพวก  megatrend หรือว่า growth บ้างไหมครับ  

[quote="vi_tal  signs"]แสดงว่าพี่ฉัตรชัยลงทุนโดยดูความถูกแพง
โดยใช้ กระแสเงินสดเป็นหลัก
ซึ่ง

chatchai เขียน:

ที่ทำใหม่

พี่ฉัตร ครับ  ผมฟังพี่เคยบอกว่าตอนปี 40 เห็นสัญญาณจึงล้างพอร์ต ออกมา  ณ ขณะนี้ทางกลุ่มยูโร PIIGS      มีภาวะหนี้สิ้นสูง หลายเปอร์เซ็นต์ พี่มีมุมมองอย่างไรบ้างครับ  มันเหมือนตอนต้มยำกุ้งบ้านเรา  รึป่าว



                                             ขอบคุณครับ

พี่ฉัตรชัยครับ ในกรณีท่ีผู้บริหารมีการผ่องถ่ายเงินออกไป
ทําอย่างไรถึงจะเนียนจนดูยากและเราจะสามารถรู้ใด้ไหมครับ

[quote="nun08"]พี่ฉัตร ครับ

Tlk เขียน:พี่ฉัตรชัยครับ ในกรณีท่ีผู้บริหารมีการผ่องถ่ายเงินออกไป
ทําอย่างไรถึงจะเนียนจนดูยากและเราจะสามารถรู้ใด้ไหมครับ

สิ่งที่ผมกลัวก็คือ  การซื้อสินทรัพย์ถาวร  ประเภทเครื่องจักร  เราคงลำบากที่จะรู้ได้ว่าราคาที่ซื้อเหมาะสมหรือไม่

หรือที่ผมเคยพบก็ประเภท  ซื้อรถยนต์หรูหราไว้ให้คนขับรถรับส่งลูกที่โรงเรียน  :lol:

[quote="chatchai"][quote="nun08"]พี่ฉัตร ครับ

หมีขาว เขียน:

ที่ทำใหม่

ไม่ทราบเพื่อนๆท่านใด มีlink หรือข้อมูลการหา financial ratio ต่างๆบ้างครับ ทำไปทำมาผมส่งคืนครูหมด จำได้บ้างนิดหน่อยเท่านั้น อยากได้มาอ่านเป็นความรู้ครับ

ขอถามพี่chatchai เรื่องการหา cash cycle หน่อยครับว่าคำนวณอย่างไร และตัวเลข + หรือ - บอกอะไรเราบ้างครับ

ขอบคุณครับ

[quote="chatchai"][quote="nun08"]พี่ฉัตร ครับ

ขอบคุณสำหรับความรู้มากมายนะคะ  

เข้ามาเรียนถามพี่ฉัตรชัยค่ะ  เท่าที่อ่านจากความเห็นข้างบนเป็นการประเมิณหุ้นในเชิงปริมาณด้านความถูกความแพงเป็นหลัก

ถามเรื่องการประเมิณเชิงคุณภาพ   พี่ฉัตรชัยใช้อัตราส่วนในการประเมิณผลตอบแทนจากการลงทุนของบริษัทบ้างรึเปล่าค่ะ อย่าง ROE ROA ROCE ค่ะ

การประเมิณ ROCE  ทำให้เรารู้ผลตอบแทนต่อเงินลงทุนสำหรับการดำเนินกิจการที่มีต้นทุนเกี่ยวกับบริษัท  วิธีนี้ฝนเริ่มใช้แทน ROE และ ROA เพราะข้อดีคือคิดเฉพาะส่วนที่มีต้นทุนเกี่ยวกับบริษัท ทำให้เงินสดและ non investment assets ไม่มีผลต่อการคำนวณ ไม่ทราบว่าวิธีนี้มีจุดด้อยหรือข้อควรระวังอย่างไรบ้างคะ  

ขอบคุณค่ะ

VI Wanabe เขียน:ส่วนค่าเงินนั้น market force จะทำให้มันอ่อนเองครับ อย่างตอนนี้ลงมา 15% แล้วจากตอนปลาย November ที่พบปัญหาใหม่ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปสุดท้ายก็จะดกับภาคส่งออกของ europe มากขึ้น แต่อาจจะนานหน่อยเท่านั้นเอง

ถ้ากรีซมีเงินสกุลของตัวเองก็คงไม่มีปัญหาครับ

แต่ที่อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ๆ  ก็เพราะดันใช้สกุลเงินร่วมกันหลายประเทศ  แล้วแต่ละประเทศก็มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แตกต่างกันมาก

ทำให้ค่าเงินอาจจะลดลงไม่เต็มที่  หรือลดลงช้ากว่าที่ควร

บทสุดท้าย  ถ้าให้ผมเดา  ประเทศที่มีปัญหาอาจจะต้องยอมออกจากการใช้สกุลยูโรครับ