รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Highway_Star
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 452
ผู้ติดตาม: 1

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 61

โพสต์

เอ๋ ผมเคยคิดเป็นภาพๆ แบบนี้นะครับ
แต่ในจิตนาการของผม ผมนึกว่ามันจะมีเส้น โยงจากอนาคตที่คาดหวัง
กลับมาเพื่อแก้ไขปัจจุบันซะอีก แต่นี่ทั้ง 4 รูปกลับไม่มีเลย

ส่วนเรื่องหนังสือของโซรอสที่ถามไว้นานนั้น จริงๆ อ่านของพี่ humdrum ที่โพสไว้แล้วนะครับ
แต่ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี รู้สึกประเด็นมันเยอะเกินไปจนน่าจะเกิินขอบเขตที่เกี่ยวกับหุ้นไปไกลอยู่
จึงขอละไว้นะครับ เดี๋ยวผมลองไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับโซรอสให้เยอะๆ ก่อนเผื่อจะเข้าใจมากขึ้น
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 62

โพสต์

1.รูปภาพ


นักลงทุนกอดโลก : ใครเคยเห็นรูปนี้บ้าง

นักลงทุนแบกโลก : ผมเคยเห็นนะ ใครเอามาแปะไว้ ไม่ได้เห็นนานแล้ว เหมือนเอามาจากหนังที่ เกี่ยวกับการย้อนอดีต

นักลงทุนจ้องโลก : เออ ใช่ ผมเคยเห้นในเว็บ pantip ท่านกอดโลกเอามาแปะไว้ทำไมละครับ มันเกี่ยวกับเรื่อง rflxvty อย่างไรครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 63

โพสต์

นักลงทุนกอดโลก : เปลี่ยนอดีตเป็น การรับรู้
เปลียนปัจจุบันเป็น การคาดหวัง
เปลี่ยนอนาคตเป็น สิ่งที่ปรากฏ

รูปภาพ

นักลงทุนขวางโลก : ท่านกอดโลกคงเอามาประยุกต์ใช้หรือปล่าวครับ สมัยก่อน ผมมีปัญหากับกรณีที่ 1 นี้อยู๋มากทีเดียวครับ กว่าจะแก้กรอบการรับรู้เดิมๆ ได้ เล่นซะเหนื่อยเลย

นักลงทุนจ้องโลก : ท่านขวางโลกมีปัญหาอะไรมาก่อนหรือครับ

นักลงทุนกอดโลก : สมัยก่อน ท่านขวางโลกเก่งเรื่องเทคนิคคอลมากเลยนะครับ ถึงขนาดเขียนเป็นหนังสือขาย แต่ท่านไม่กล้าลงทุนเอง เอาเงินที่ได้จากการขายหนังสือไปให้คนอื่นบริหาร

นักลงทุนแบกโลก : ทำไมละครับ

นักลงทุนขวางโลก : เออ ทำไมไม่ให้ท่านกอดโลกอธิบายรูปข้างบนก่อนละ บางทีคนอ่านอาจจะสนใจรูปข้างบนมากกว่าเรื่องผมนะครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 64

โพสต์

นักลงทุนกอดโลก : ขอโทษด้วยครับ ผมลืมไป กรณีที่ 1 นี้นักลงทุนมีกรอบการรับรู้อันเดิมอยู๋ก่อนแล้ว แต่ว่า….

นักลงทุนจ้องโลก : เดี่ยวก่อนนะครับ “กรอบการรับรู้” จริงๆ นี่คือมันอะไรครับ ผมได้ยินมาหลายรอบแล้ว อธิบายมากกว่านี้ได้ไหมครับ บางทีการรับรู้ของผมสำหรับคำว่า “กรอบการรับรู้” อาจไม่ตรงกับท่านกอดโลกก้ได้นะครับ

นักลงทุนขวางโลก : ก็ดีนะครับ ก่อนที่เราจะเข้าใจความหมายของคำว่า “กรอบการรับรู้” เราก็ควรทำความเข้าใจกับ “การรับรู้ “ ของตัวเองซะก่อนว่าเข้าใจตรงกันหรือไม่

นักลงทุนกอดโลก : ตามกรอบความหมายที่ผมใช้ “กรอบการรับรู้” หมายถึง ทุกสิ่งที่ท่านยึดมั่นเอาไว้ โดยเฉพาะอัตตาของตัวเอง

นักลงทุนขวางโลก : ทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วนะครับ คราวนี้ท่านกอดโลกช่วย go ahead ต่อเลยได้ไหมครับ เมื่อกี่นี้ ถึงตอนที่ท่านแบกโลกบอกว่า “ นักลงทุนมีกรอบการรับรู้อันเดิมอยู๋ก่อนแล้ว แต่ว่า…” แต่ว่าอะไรครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 65

โพสต์

นักลงทุนกอดโลก : แต่ว่า… การคาดหวังที่เกิดขึ้นจากกรอบการรับรู้ที่เขามีแต่แรกนั้นกลับไม่เป็นตามที่เขาคิด ดังนั้นเขาจึงกลับไปทำความเข้าใจกับกรอบการรับรู้อันเดิมของเขาเสียใหม่ครับ เขาทำการตรวจสอบว่าความเข้าใจของเขาผิดอย่างไร และได้สร้างการคาดหวังอันใหม่ขึ้นคู่ขนานไปกลับความคาดหวังอันเดิม หลังจากนั้นตรวจสอบความจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่าการคาดหวังอันใหม่ของเขาสอดคล้องกับความจริงที่ปรากฏหรือไม่

นักลงทุนจ้องโลก : แค่นั้นเองหรือครับ

นักลงทุนกอดโลก : มีข้อแม้ว่า ต้องไม่มีคนสร้างกรอบการรับรู้ให้เขาเดินตามนะครับ

นักลงทุนจ้องโลก : หมายถึงไม่มีคนสร้างสถานการณ์ให้เราเข้าใจผิดไปจากความจริงใช่ไหมครับ

นักลงทุนขวางโลก : หรือไม่ก็ จงใจสร้างกรอบการรับรู้บางอย่างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ของเขา ที่สำคัญเราไม่รู้เสียด้วยว่า เรากำลังเดินเข้าไปติดกับดักที่เขาวางไว้

นักลงทุนแบกโลก : ท่านขวางโลก เคยมีประสบการณ์ติดกับดักใครมาก่อนหรือครับ เห็นท่านบอกว่าท่านมีปัญหากับกรณีนี้มาก่อน
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 66

โพสต์

นักลงทุนขวางโลก : เออ ผมติดกับดักอัตตาของตัวเองครับ

นักลงทุนกอดโลก : เล่าเลยท่านขวาง เผื่อมีประโยชน์บ้างไง

นักลงทุนขวางโลก : ก้ได้ครับ ผมจะเล่าเหตุขัดข้องลำบากลำบนทั้งมวลให้ฟัง อย่าหัวเราะนะครับ ชื่อจริงผม ผมมีชื่อจริงว่า ผมชื่อ ชื่อจริงผมคือ คลื่นใหญ่ ครับ

นักลงทุนแบกโลก : :rofl:

นักลงทุนจ้องโลก : :rofl:

นักลงทุนกอดโลก : :rofl: ขอโทษครับ กรุณาเล่าต่อครับ แล้วไงครับ มันเกี่ยวอะไรอย่างไงละครับ

นักลงทุนขวางโลก : เพราะชื่อคลื่นใหญ่ ผมถึงสนใจเรื่องเทคนิคอล ผมได้ดีเพราะชื่อ แต่ลำบากก็เพราะชื่อ เวลาผมลงทุนจริง ผมกลับขาดทุนตลอด แต่คนที่อ่านหนังสือผมมีกำไรหมด เลยได้แต่สร้างความฉงนสนเท่ห์ให้แก่ตัวเองและคนรอบข้างครั้งแล้วครั้งเล่า สร้างความรู้สึกกระโดกกระดากใจให้กับผมมากทีเดียวครับ จนไม่กล้าลงทุนด้วยตัวเองอีกเลยครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 67

โพสต์

นักลงทุนจ้องโลก : แล้วอย่างไรต่อครับ เกิดอะไรขึ้นครับ ท่านขวางโลกถึงกลับมากล้าลงทุนด้วยตัวเองอีก

นักลงทุนขวางโลก : ต่อมาผมรู้สึกจำเป็นเสียแล้วที่ต้องเข้าหารุ่นพี่ที่เป็นนักจิตวิทยาการลงทุน และผมได้เล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้พี่หมอฟังทั้งหมด พี่หมอแกรู้จักชื่อผมอยู่แล้ว พี่หมอแกจับสมมุติฐานได้ตั้งแต่แรกเลยครับ แกไม่พูดอะไร เพียงแต่ให้ผมหลับตาทำสมาธิและจินตนาการว่าตัวของผมเองนั้นกลายเป็น “คลื่นซึนามิ” ที่ถาโถมเข้ามาท่วมทุกสิ่งทุกอย่าง กวาดทุกอย่างเรียบเป็นหน้ากอง คลื่นใหญ่มหึมานี้โอบกลืนเอาทุกสิ่งเท่าที่คลื่นยักษ์จะบ่ายหน้าไปทางไหนก็ตาม แล้วหมอก็ปล่อยผมทิ้งไว้คนเดียวในห้อง ผมก็นั่งนึกตัวเองเป็นคลื่นที่หมอบอก แล้วช่วงหนึ่งก็พบว่า ความคิดของผมเองที่แท้มันเหมือนคลื่นที่เกิดจากลมพัดเป็นระลอกลูกแล้วลูกเล่า ทีแรกก็มีความคิดที่สับสนมากมาย แต่ในที่สุดผมก็จดจ่ออยู่กับคลื่น คลื่น แล้วก็ คลื่น ที่กวาดเอาทุกอย่างไปหมดไม่เหลือหลอ แต่คลื่นใหญ่แค่ไหน พอขาดแรงลมเมื่อใด สุดท้ายก็ละลายกระจายตัวระลอก ๆ กลายเป้นน้ำทะเล ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรเลย ไม่มีคลื่นต่อไปแล้ว เห็นแต่น้ำทะเลพัดมาแล้วก็ลดระดับไหลลงกลับสู๋ห้วงทะเลอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ผมมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พี่หมอมาแตะที่บ่าผม หลังจากนั้น ผมกล้าบริหารพอร์ตด้วยตัวเองและพอร์ตโตขึ้นเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ครับ

นักลงทุนกอดโลก : พี่หมอของคุณนี่ชื่ออะไรครับ

นักลงทุนขวางโลก : ซิกมัน ฟรอยด์ ครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 68

โพสต์

นักลงทุนจ้องโลก : ชื่อเดียวกันกับนักจิตวิทยาที่โด่งดังที่สุดในโลก ผมไม่อยากเชื่อเลยนะครับ ว่าจะมีคนชื่อเดียวกันได้ ผมว่า พี่หมอของคุณเก่งมากนะครับที่หาวิธีสลาย “อัตตา” ของคุณเองได้

นักลงทุนกอดโลก: ผมว่า ทุกคนมีปัญหาเรื่อง “อัตตา” นี้กันหมด ไม่มีขอบข่ายข้อยกเว้น ไม่ว่าลงทุนแบบ valuation , technical , fund flow หรือแม้แต่ reflexivity ขออย่างเดียวว่าเวลาไปขอยาวิเศษกับพี่หมอฟรอยด์ เราต้องรู้เสียก่อนว่าเราเป็นโรคอะไร โรคกลัวขาดทุน อีโก้สูง กลัวผิด กลัวความขัดแย้ง โรคหลีกเหลี่ยงความเครียด หรือว่า ตัดสินใจไม่ได้เลย ถ้าไม่ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหา ต่อให้ไปหาพี่หมอขอยาวิเศษแค่ไหน ก็ไม่เป็นประโยชน์ครับ

นักลงทุนขวางโลก : พี่หมอเขาสอนให้สลายอัตตาของผมให้มีขนาดตัวตนขนาดเท่าที่จำเป็นสำหรับกับการลงทุนเท่านั้น ไม่ให้มันมากเกินไปขนาดที่รู้สึกว่ามันมีความเข้มข้นมาก กระทั่งว่าตัวตนของเรานี้มันทำให้เราเกิดความยึดติดมากจนเกินไป บางท่านมีทั้ง IQ มีทั้ง EQ แม้มีถึง 2 อย่าง ก็ยังสัมฤทธิ์ผลสุดยอดไม่ได้ ถ้าหากว่ายังไม่เข้าใจ “อัตตา” ของตนเองว่ามันควรมีมากแค่ไหน บางทีเราไม่รู้หรอกว่า “อัตตา” มันไม่ได้ตั้งอยู๋ในสภาพที่มันควรเป็นขณะที่เราลงทุน หรือ ว่าทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่ และ เป้นสาเหตุของความลำบากลำบนเปล่าๆ ครับ

จบ…………..

ผมจะเก็บเรื่องทำนองนี้มาเล่าให้ฟังในกรณีที่ 2 3 4 เมื่อเวลาเอื้ออำนวยครับ
ขอบคุณมากครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
^^
Verified User
โพสต์: 519
ผู้ติดตาม: 1

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 69

โพสต์

วาดรูปน่ารักดีนะครับ
รอฟังต่อไป
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
กล้วยไม้ขาว
Verified User
โพสต์: 1074
ผู้ติดตาม: 1

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 70

โพสต์

ลึกซึ้ง รอฟังต่อครับท่าน ดร.
ภาพประจำตัวสมาชิก
หมักเตา
Verified User
โพสต์: 232
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 71

โพสต์

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆทั้งหลายครับท่านพี่ มีสิ่งให้เก็บไปคิดตลอดเลย
มารอฟังต่อด้วยอีกคนครับ

ปล. จบ Zurich Axioms แล้วครับ แกะอยู่หลายวันเหมือนกัน ถูกจริตมากกับผมครับ
เลยขอสรุปว่าดีมีประโยชน์ แต่อาจไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
murder_doll
Verified User
โพสต์: 1644
ผู้ติดตาม: 1

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 72

โพสต์

รูปที่1 ผ่านครับ รออ่านต่อ :D
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 73

โพสต์

รูปภาพ

วันนี้ต่อกรณีที่สองนะครับ
เหตุการณ์และตัวละครสมมุตินะครับ
.......................


หมอฟรอยด์ : อ้าว สวัสดีครับ คุณคลื่นใหญ่ เป็นไง วันนี้ลมอะไรพัดมา

นักลงทุนขวางโลก : สวัสดีครับพี่หมอ นี่เพื่อนผมครับพี่หมอ เพื่อนผมเป็นนักลงทุนครับ ผมเล่าให้เขาฟังว่าพี่หมอเคยช่วยแก้ปัญหาอีโก้ของผม เขามีปัญหาเหมือนกัน วันนี้เลยพามาหาพี่หมอครับ

หมอฟรอยด์ : สวัสดีครับ ชื่ออะไรครับ

เพื่อนท่านขวางโลก : สวัสดีครับพี่หมอ ผมชื่อ ฮิต เลอร์ ครับ

หมอฟรอยด์ : เรื่องเป็นอย่างไรครับน้องฮิต

ฮิต เลอร์ : ผมไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองเลยครับ เวลาจะลงทุน ผมชอบเอาความคิดไปเทียบเคียงกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ผมไม่กล้าตัดสินใจเอง ต้องตามคนอื่นตลอด บางทีผมก็ทำทีว่าวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเอง แต่จริงๆ ผมไปอ่านของคนอื่นอีกที แล้วก็แสร้งว่าเป็นความคิดของผมเองครับ ทำไงครับพี่หมอที่จะกล้าตัดสินใจด้วยตัวเองได้ซะทีครับ

หมอฟรอยด์ : เข้าข่ายแบบที่สองเลย
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 74

โพสต์

รูปภาพ

นักลงทุนขวางโลก : ยังไงครับพี่หมอ เราต้องเปลี่ยนอะไรก่อนหรือปล่าวครับ

หมอฟรอยด์ : ใช่ครับ เปลี่ยนเหมือนเคสที่หนึ่งครับ
เปลี่ยนอดีตเป็น การรับรู้
เปลี่ยนปัจจุบันเป็น ความคาดหวัง
เปลี่ยนอนาคตเป็น สิ่งที่เกิดขึ้น

ฮิต เลอร์ : ยังไงครับรูปนี้

หมอฟรอยด์ : คลื่นใหญ่จะลองอธิบายไหม

นักลงทุนขวางโลก : ประมาณอย่างนี้หรือปล่าวครับ นักลงทุนท่านนี้ไม่เพียงใช้ความคิดเห็นของคนอื่นๆ เป็นเครื่องประเมินผลกับความคิดตัวเองเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อเป็นแนวทางว่า เขาควรจะปฏิบัติอย่างไรในการซื้อขายหุ้นด้วยครับ

ฮิต เลอร์ : ใช่เลยครับ บางครั้งผมก็อยู่ในสภาพการณ์ที่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรจึงจะถูกต้องครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 75

โพสต์

หมอฟรอยด์ : ลองสมมุติตัวอย่างสักอันได้ไหมครับ อย่างเวลาน้องฮิต ไปร้านอาหารญี่ปุ่นนี่ ยกน้ำแกงขึ้นซดไหม

ฮิตเลอร์ : ในร้านญีปุ่น ใคร ๆ เขาก็ทำกันนะครับ ถ้าผมขอช้อนเขามาตักน้ำแกง ทำให้ผมดูเซ่อดูเป็นตัวตลกไปเลยนะครับ ผมเห็นคนญึ่ปุ่นนั่งข้างๆ สี่ห้าคน เขายกซดกันหมดเลยครับ

หมอฟรอยด์ : ในไม่ช้าน้อง ฮิต ก็ยกขึ้นซดบ้าง

ฮิต เลอร์ : จะเหลือหรือครับพี่หมอ ผมซดดังซู้ดซ้าดเลยครับ

หมอฟรอยด์ : คลื่นใหญ่ยกซดไหม

นักลงทุนขวางโลก : ผมไม่ถนัดครับพี่หมอ ผมขอช้อนเขา ในกรณีอย่างร้านญึ่ปุ่น ผมไม่ถือว่า คนอื่นที่นั่งในร้านกำลังชักชวนให้เราทำตามเขา แต่มันหมายความว่า การกระทำของคนอื่นๆ มีอิทธิพลต่อเราโดยทางอ้อมครับ อย่างกรณีของน้องฮิต "กลุ่มอ้างอิง" ที่ใช้เปรียบเทียบและมีอิทธิพลต่อเขาเป็นคนญี่ป่นซะด้วยครับ ในกรณีอย่างนั้นพูดยากนะครับที่จะไม่ทำตาม แต่ผมขอช้อนดีกว่าครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 76

โพสต์

ฮิต เลอร์ : เอ้ย คลื่นใหญ่ นายไม่เข้าใจเรานะ ถ้าเราขอช้อนตอนนั้นนะ ทุกคนในร้านคงมองเราอย่างสมเพช ระคนเวทนาและขบขันนะโว้ยเฮ้ย เราไม่เหมือนนายหรอกเว้ย นายชอบทำตัวแหกคอก เดียวก็เหมือนเว็บการลงทุน xxxxxx .com นั้นหรอก ที่เขาต่อต้านนายอย่างเงียบๆ และสุดท้ายก็ไล่นายออกจากกลุ่ม นายยังจำได้ไหม พี่หมอครับ คลื่นใหญ่มันมีปัญหาใช่ไหมครับ

นักลงทุนขวางโลก : เราชอบเป็นปลาที่ว่ายทวนน้ำ ไม่เหมือนนายหรอกที่อะไรก็ทำตามคนอื่นเขา ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง พี่หมอครับ ไอ้ฮิต มันมีปัญหาใช่ไหมครับ

หมอฟรอยด์ : กลุ่มเรียกร้องต้องการให้สมาชิกทำตามกลุ่มเพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงของกลุ่มครับ คนที่แหกคอกจะทำให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยของกลุ่มกระทบกระเทือนและสั่นคลอนเสถียรภาพและความมั่นคงของกลุ่ม เราคงเคยได้ยินเสียงเรียกร้องแบบนี้ในเว็บการลงทุนบ่อย ๆ นะครับ บางอย่างโดยเฉพาะสังคมเล็ก ๆ ก็กำหนดเอาใว้อย่างชัดเจนเลยว่า เราต้องทำอย่างนี้ เราต้องทำอย่างนั้น ถ้าเราไม่ทำตาม เราก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมนั้น ๆ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 77

โพสต์

นักลงทุนขวางโลก : คนเราอาจยอมรับตามกลุ่ม แต่ความจริงภายในใจของตนเองอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ครับ

หมอฟรอยด์ : ฟังดูแล้วดูเหมือนจะให้ความรู้สึกไปในทางลบ แต่การยอมตามสังคมคนกลุ่มใหญ่เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าสังคมไม่มีกฏเกณฑ์หรือคนไม่ยอมตามสังคมเลย อะไรจะเกิดขึ้น ถ้ารถไม่ยอมจอดเมื่อถึงสี่แยกไฟแดง การจราจรก็คงวุ่นวายใช่ไหมครับ

นักลงทุนขวางโลก : ก็ใช่ครับพี่หมอ ผมก็ไม่ถึงกับขวางไปทุกอย่าง แต่ก้ไม่ถึงกลับเออออห่อหมกกับคนอื่นไปทุกอย่างเหมือนกันนะครับ

หมอฟรอยด์ : ในกรณีของน้องฮิต เมื่อเขามีความคิดอะไรก็ตาม เขาจะคิดไปก่อนว่า ความคิดของตัวเองถูกต้องหรือไม่ ถ้าลองเอาไปเทียบกับคนอื่นแล้วพบว่าความคิดของเขาคล้ายกับคนหมู่มากนะ เขาจะมั่นใจมากขึ้นว่าความคิดของเขาจะถูกต้อง

ฮิต เลอร์ : ใช่ครับ รู้สึกชักจะอบอุ่นใจบ้างที่มีเพื่อนนะครับ ยิ่งมั่นใจมากขึ้นด้วยครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 78

โพสต์

หมอฟรอยด์ : เคยได้ยินคนที่ชื่อ อาดอฟ ฮิตเลอร์ ไหมครับ

ฮิต เลอร์ : เคยครับ พี่หมอ ทำไมหรือครับ

หมอฟรอยด์ : ทราบไหมครับ อาดอฟ ฮิตเลอร์เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างไรบ้าง

นักลงทุนขวางโลก : ในแง่มุมเรื่องจิตวิทยาฝูงชนครับพี่หมอ ฮิตเลอร์ชอบอ่านหนังสือชื่อ The Crowd ของ Le bon นักสังคมวิทยาการเมืองชาวฝรั่งเศสมากครับ มีนักลงทุนเฮจฟันหลายท่านที่กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้โดยเฉพาะ Ed Seyketa เซียนจิตวิทยาการลงทุนครับ

ฮิต เลอร์ : ไอเดียหลักของ เลอ บอง คืออะไรครับ

หมอฟรอยด์ : Lebon บอกว่า การชักจูงและชี้นำในช่วงเวลาการชุมนุม สามารถทำให้ปัจเจกบุคคลสูญเสียความมีเหตุผล และสำนึกในศีลธรรม และก่อให้เกิดลักษณะ “อารมณ์และจิตใจร่วมเป็นหนึ่งเดียว” และเป็นภาวะของอารมณ์ที่เกินความเป็นจริง ยิ่งกว่านั้น ในที่สุด เกิดภาวะแพร่ระบาด เป็นภาวะที่สมาชิกในที่ชุมนุม ยอมทำตามการชักจูงชี้นำ คำสั่ง และปฏิบัติการของผู้นำชุมนุม หรือการเคลื่อนไหว ใช่ มั๊ยพี่น้อง” “ใช่… ไม่ใช่?” “ ขอเสียงหน่อย คงคุ้นๆ นะครับ

ฮิต เลอร์ : ทำไมคนมากมายถึงตกหลุมพรางฮิตเลอร์ ยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 79

โพสต์

หมอฟรอยด์ : คนอย่าง อาดอฟ ฮิตเลอร์ โจเสฟ สตาลิน เหมาเซตุง จะเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าครับ ถ้าหากคนยังไม่ทิ้งความคิดเรื่องอุดมคติครับ

นักลงทุนขวางโลก : อุดมคติอะไรครับ

หมอฟรอยด์ : คนที่ใฝ่หาใครสักคนที่เป็นแบบอย่างในอุดมคติที่เขาต้องการเป็นจะเหนื่อยหน่อยครับ เขาจะมีชีวิตอยู่กับการวิ่งตาม เพราะไม่อาจตัดสินใจได้ว่าตัวเขาเองนั้น แท้จริงเป็นใคร เป็นคนในอุดมคติหรือเป็นตัวตนที่แท้จริง เขาไม่อาจไว้ใจตัวเองได้ สูญเสียความเชื่อมั่น เมื่อใครบางคนเสียตรงนั้นไป เขาก็พร้อมเป็นทาสของใครก็ได้ พระรูปไหนก้ได้ นักการเมืองคนไหนก้ได้ พวกเขาไม่อาจยืนด้วยตัวเองได้อีก ต้องการพึ่งพิงใครบางคน บางที ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครด้วยซ้ำ ต้องการให้ใครบางคนก็ได้มาบอกว่าพวกเขาเป็นสิ่งนี้สิ่งนั้น พวกเขาต้องการให้ใครมอบ "อัตลักษณ์" ให้ตัวเอง โดยลืมธรรมชาติและตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 80

โพสต์

นักลงทุนขวางโลก : ผมมีอีโก้มากเกินไป พี่หมอสอนให้ผม สลาย อีโก้ ของตัวเอง แต่ฮิตเขาไม่มี "อีโก้" เลย แต่กลับพยายามที่จะมีมันขึ้นมา ยังไงกันครับพี่หมอ

หมอฟรอยด์ : ไม่ใช่ไม่อีโก้เลยครับ เคสของน้องฮิตเขาแยกออกเป็นสองเสี่ยงที่ขัดแย้งกันตลอด คือเขามีแบบอย่างในอุดมคติที่ต้องไปให้ถึงกับตัวเขาเอง และเป็น "ตัวเอง" ที่ตัวเขาไม่ชอบและไม่ได้รับการยกย่องจากตัวเอง แบบอย่างยิ่งมีมากเท่าใด ยิ่งเป้นโรคจิตเภทมากขึ้นเท่านั้น ตัวตนของเขาไม่นานจะแยกเป็นเสี่ยงครับ

นักลงทุนขวางโลก : พี่หมอแนะนำไอ้ฮิตมันอย่างไรครับ

หมอฟรอยด์ : สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด มองเห็นตัวเองอย่างที่เขาเป็น ไม่ใช่เป้นแบบคนอื่น เขาต้องทำตัวให้ว่างเปล่าจากตัวตนอย่างถึงที่สุด ยิ่งตะหนักรู้ในตัวเขาเองมากเท่าใด ตัวเขาก็จะดำรงอยู่น้อยเท่านั้น

นักลงทุนขวางโลก : ชั่วขณะที่เราไม่ได้ดำรงอยู่ การเข้าใจอย่างแท้จริงก็จะเกิดขึ้น เหมือนผมตอนนึกว่าตัวเองเป้นคลื่นใช่ไหมครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 81

โพสต์

หมอฟรอยด์ : ฝากนิทานไว้ฝึกคิดสำหรับน้องฮิตเรื่อง นัสรูดิน ครับ

นัสรูดินเป็นคนฉลาด ที่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ไม่ว่าใครจะมีปัญหาอะไรก็ตาม วันหนึ่งมีหญิงผู้ยากจนคนหนึ่งได้ไปหานัสรูดินเพื่อให้แก้ปัญหาให้ เพราะที่บ้านเธอนั้นคับแคบอย่างยิ่ง เธออยู่กับสามีและลูกๆอีก ๑๒ คน ความแออัดยัดเยียดทำให้เธอกับสามีและลูกๆทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอๆ เมื่อมาหา นัสรูดินก็แนะนำให้เธอซื้อวัวอีก ๒ ตัวไปเลี้ยงที่บ้าน วันต่อมาเธอกลับมาหานัสรูดินก็ถามว่า แก้ปัญหาได้หรือยัง เธอก็ร้องโวยวายว่ายิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะบ้านยิ่งคับแคบมากขึ้น นัสรูดินก็แนะนำให้ซื้อหมูมาอีก ๗ ตัว วันต่อมาหญิงผู้นั้นก็มาบ่นโวยวายมากยิ่งขึ้นว่า บ้านซ่องก็คับแคบยิ่งไม่มีที่จะซุกหัวนอนอยู่แล้ว ครั้งสุดท้ายนี้หญิงผู้นั้นบอกว่าทนไม่ใหวแล้ว นัสรูดินจึงแนะนำว่าให้กลับไปเอาไก่ขายเสีย ๑๒ ตัว วันรุ่งขึ้นหญิงผู้นั้นก็กลับมาหน้าตาดูแจ่มใสขึ้น นัสรูดินก็ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง หญิงผู้นั้นตอบว่า รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ดูบ้านช่องโล่งไปมาก นัสรูดินก็แนะนำให้ไปขายหมู และวันสุดท้ายก็แนะนำให้ไปขายวัวไปให้หมด ในวันที่สามหญิงผู้นั้นก็กลับมาบอกนัสรูดินว่า "เดี๋ยวนี้สบายขึ้นมาก บ้านช่องดูสบายโล่งขึ้นมากแล้ว"

จบ...............................

ผมขอจบเพียงแค่นี้ครับ
ขอบคุณครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ
iceberg
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 82

โพสต์

สวัสดีครับ พี่โหน่ง
ขอแสดงความเห็นแบบมั่วๆ ด้วยครับ

ผมชอบอ่านหนังสือ Influence ของ Cialdini มาก จะลองเอาบทสนทนามาวิเคราะห์ดูนะครับ
humdrum เขียน:ฮิตเลอร์ : ในร้านญีปุ่น ใคร ๆ เขาก็ทำกันนะครับ ถ้าผมขอช้อนเขามาตักน้ำแกง ทำให้ผมดูเซ่อดูเป็นตัวตลกไปเลยนะครับ ผมเห็นคนญึ่ปุ่นนั่งข้างๆ สี่ห้าคน เขายกซดกันหมดเลยครับ

หมอฟรอยด์ : ในไม่ช้าน้อง ฮิต ก็ยกขึ้นซดบ้าง

ฮิต เลอร์ : จะเหลือหรือครับพี่หมอ ผมซดดังซู้ดซ้าดเลยครับ
อันนี้ Social Proof ครับ
humdrum เขียน:หมอฟรอยด์ : เคยได้ยินคนที่ชื่อ อาดอฟ ฮิตเลอร์ ไหมครับ

ฮิต เลอร์ : เคยครับ พี่หมอ ทำไมหรือครับ

หมอฟรอยด์ : ทราบไหมครับ อาดอฟ ฮิตเลอร์เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างไรบ้าง

นักลงทุนขวางโลก : ในแง่มุมเรื่องจิตวิทยาฝูงชนครับพี่หมอ ฮิตเลอร์ชอบอ่านหนังสือชื่อ The Crowd ของ Le bon นักสังคมวิทยาการเมืองชาวฝรั่งเศสมากครับ มีนักลงทุนเฮจฟันหลายท่านที่กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้โดยเฉพาะ Ed Seyketa เซียนจิตวิทยาการลงทุนครับ

ฮิต เลอร์ : ไอเดียหลักของ เลอ บอง คืออะไรครับ

หมอฟรอยด์ : Lebon บอกว่า การชักจูงและชี้นำในช่วงเวลาการชุมนุม สามารถทำให้ปัจเจกบุคคลสูญเสียความมีเหตุผล และสำนึกในศีลธรรม และก่อให้เกิดลักษณะ “อารมณ์และจิตใจร่วมเป็นหนึ่งเดียว” และเป็นภาวะของอารมณ์ที่เกินความเป็นจริง ยิ่งกว่านั้น ในที่สุด เกิดภาวะแพร่ระบาด เป็นภาวะที่สมาชิกในที่ชุมนุม ยอมทำตามการชักจูงชี้นำ คำสั่ง และปฏิบัติการของผู้นำชุมนุม หรือการเคลื่อนไหว ใช่ มั๊ยพี่น้อง” “ใช่… ไม่ใช่?” “ ขอเสียงหน่อย คงคุ้นๆ นะครับ

ฮิต เลอร์ : ทำไมคนมากมายถึงตกหลุมพรางฮิตเลอร์ ยอมทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างครับ
อันนี้ Authority ครับ
humdrum เขียน: นัสรูดินเป็นคนฉลาด ที่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ไม่ว่าใครจะมีปัญหาอะไรก็ตาม วันหนึ่งมีหญิงผู้ยากจนคนหนึ่งได้ไปหานัสรูดินเพื่อให้แก้ปัญหาให้ เพราะที่บ้านเธอนั้นคับแคบอย่างยิ่ง เธออยู่กับสามีและลูกๆอีก ๑๒ คน ความแออัดยัดเยียดทำให้เธอกับสามีและลูกๆทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอๆ เมื่อมาหา นัสรูดินก็แนะนำให้เธอซื้อวัวอีก ๒ ตัวไปเลี้ยงที่บ้าน วันต่อมาเธอกลับมาหานัสรูดินก็ถามว่า แก้ปัญหาได้หรือยัง เธอก็ร้องโวยวายว่ายิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะบ้านยิ่งคับแคบมากขึ้น นัสรูดินก็แนะนำให้ซื้อหมูมาอีก ๗ ตัว วันต่อมาหญิงผู้นั้นก็มาบ่นโวยวายมากยิ่งขึ้นว่า บ้านซ่องก็คับแคบยิ่งไม่มีที่จะซุกหัวนอนอยู่แล้ว ครั้งสุดท้ายนี้หญิงผู้นั้นบอกว่าทนไม่ใหวแล้ว นัสรูดินจึงแนะนำว่าให้กลับไปเอาไก่ขายเสีย ๑๒ ตัว วันรุ่งขึ้นหญิงผู้นั้นก็กลับมาหน้าตาดูแจ่มใสขึ้น นัสรูดินก็ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง หญิงผู้นั้นตอบว่า รู้สึกสบายใจขึ้นมาก ดูบ้านช่องโล่งไปมาก นัสรูดินก็แนะนำให้ไปขายหมู และวันสุดท้ายก็แนะนำให้ไปขายวัวไปให้หมด ในวันที่สามหญิงผู้นั้นก็กลับมาบอกนัสรูดินว่า "เดี๋ยวนี้สบายขึ้นมาก บ้านช่องดูสบายโล่งขึ้นมากแล้ว"
อันนี้ Reciprocation ครับ

สำหรับบางคนที่ไม่เคยอ่าน Influence ของ Cialdini แนะนำเลยครับ
Charlie Munger ยังแนะนำให้ทุกคนต้องอ่านเลยครับ (อันนี้ Authority อิอิ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
^^
Verified User
โพสต์: 519
ผู้ติดตาม: 1

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 83

โพสต์

มาอ่านครั้งนี้ ทำให้เข้าใจครั้งก่อน
แปลกแต่จริงครับ ขอบคุณครับ
หุ้นมันอยู่รอบๆตัวเราเสมอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 84

โพสต์

ผมโง่เกิน อ่านยังไงก็ไม่สามารถเข้าใจอย่างถ่องแท้ได้เลย
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 85

โพสต์

ผมเขียนไม่ดีเองครับ
ขอโทษพี่หมอด้วยนะครับ :oops:
วันนี้ถึงตอนลงรูปที่สามนะครับ
เรื่องนี้ใกล้ตัวหน่อยครับ
......................................


นักลงทุนจ้องโลก : ช่วงนี้เดียวหนาวเดียวร้อน แปลกจริงๆ ครับ

นักลงทุนกอดโลก : ผมอ่านข่าวแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นทำให้เกนโลกเอียงเพิ่มอีก 10 เซน เลยทำให้หน้าหนาวเลื่อนไปอีกสองถึงสามเดือน

นักลงทุนแบกโลก : หมายถึงหน้าหนาวจะกินเวลาไปถึงเดือนมีนาคมหรือครับ

นักลงทุนกอดโลก : ประมาณนั้นครับ ที่ร้อนจัดแบบเมษายนจะเลื่อนไปเดือนมิถุนายนครับ

นักลงทุนขวางโลก : น้ำท่วมที่ใต้ก็เหตุผลโลกเอียงเพิ่มด้วยงั้นสิครับ

นักลงทุนกอดโลก : อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ อะไรไม่เคยเกิดก็เกิด บางทีโลกเอียงขึ้นอาจเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายต่างๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นอยู่ก็ได้
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 86

โพสต์

นักลงทุนแบกโลก : ผมเกรงว่าโลกเอียงจะทำให้มุมมองต่อโลกของคนเรานั้นเอียงจนผิดเพี้ยนไปกว่าความจริงซะมากกว่า อย่างน้อยเราได้เห็นความเอียงบางอย่างเกิดขึ้นกับชาวไร่กล้วยที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในตอนนี้

นักลงทุนขวางโลก : อะไรเอียง ๆ กล้วยๆ นะครับ ของผมเอียงซ้ายหน่อยๆ ครับ

นักลงทุนกอดโลก : ผมเอียงขวานะ

นักลงทุนจ้องโลก : เอียงข้างไหนไม่สำคัญ ขอเยี่ยวออกเป็นพอ

นักลงทุนแบกโลก : อ้าวๆ พูดเป็นเล่นไปครับ เรื่องนี้เกี่ยวโดยตรงกับพวกเราเลยนะครับ เรื่องนี้เกี่ยวกับรูปที่สามซึ่งเป็นแก่นแนวคิดหลักของ reflexivity เลยครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 87

โพสต์

นักลงทุนขวางโลก : วันนี้ท่านแบกโลกมามาดเข้ม อ้าว เป้นไงครับ ทบทวนเคสของผมหน่อยไหมครับ รูปที่หนึ่งเป้นกรณีผมที่มีขนาดอีโก้มากเกินความจำเป็นที่จะเทรด ส่วนเคสที่สอง เพื่อนผมไอ้ฮิต เลอร์ ก็มีอีโก้น้อยเกินไปที่จะเทรด ต้องเอาอีโก้คนอื่นมาแปะตัวตนที่แท้จริงของมันเต็มไปหมด แล้วรูปสามเป็นอย่างไรหรือครับ

นักลงทุนแบกโลก : รูปที่สาม ไม่ใช้อีโก้ตัวเองเทรด แต่ใช้อีโก้ของคนอื่นเป็นตัวกำหนดเกมที่จะเล่น

รูปภาพ

นักลงทุนกอดโลก : รุปที่สามเป็นแนวคิดหลัก reflexivity อธิบายเพิ่มได้ไหมครับ

นักลงทุนแบกโลก : ในสถานการณ์ที่มีผู้สังเกตุการณ์เป็นส่วนร่วม มุมมองต่อเหตุการณ์นั้นอาจจะลำเอียงและผิดเพี้ยนด้วยเหตุผลเพราะอคติที่เขามีอยู่ นั่นเป้นหลักพื้นฐานของความเข้าใจไม่สมบูรณ์ และ มุมมองที่ผิดเพี้ยนนั้นจะทำให้พวกเขาสร้างการกระทำที่ไม่เหมาะสมจากรากฐานความต้องการของอคตินั้นๆ ซึ่งจะส่งผลต่อเหตุการณ์ที่พวกเขาเกี่ยวข้องให้เปลี่ยนแปลงไปตามที่พวกเขาต้องการ หรือ นั่นเป็นพื้นฐานหลักของปฏิกริยาสะท้อนกลับ

นักลงทุนจ้องโลก : แล้วเรื่องชาวไร่กล้วยที่น้ำท่วมละครับเกี่ยวอะไรด้วยครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 88

โพสต์

นักลงทุนแบกโลก : เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ ขาวบ้านเขาถูกน้ำท่วมบ้านติดอยู่หลายวันแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใครเลยครับ แต่ต้องนั้นไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหาคือพวกเขากลัวจระเข้จากฟาร์มเทศบาลที่หลุดออกมาครับ เลยออกอุบายว่าเตาเผาโรงงานทำอิฐพังถล่มลงมา ทำให้มีคนงานติดด้านในหลายคน ขอให้ไปช่วยเหลือด่วนด้วย ปรากฏว่า พอเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวแล้ว ไม่มีเหตุการณ์เตาเผาถล่มแต่อย่างใดครับ มีเพียงเหตุน้ำท่วมสูงบริเวณดังกล่าวเท่านั้น

นักลงทุนจ้องโลก : เป็นแค่การออกอุบายให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลืออพยพชาวบ้าน

นักลงทุนแบกโลก : ครับ พวกเขาแจ้งไปหลายครั้งแล้ว หากไม่ออกอุบายหลอกเจ้าหน้าที่อย่างนั้น เจ้าหน้าที่มูลนิธิก็อาจไม่เข้ามาเร็วขนาดนั้นครับ

นักลงทุนจ้องโลก : ผลเป็นอย่างไรครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 89

โพสต์

นักลงทุนแบกโลก : เจ้าหน้าที่เอาเรือท้องแบนช่วยเหลืออพยพชาวบ้านออกมาได้กว่า 30 หลังคาตลอดทั้งคืนครับ ผมว่าพวกเขามีความกดดันมาหลายวันอยู่แล้ว อีกทั้งไม่มีไฟฟ้าด้วย แล้ววันนั้นฝนตกตลอดครับ ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่วมจะถึงชั้นสองที่พวกเขาหนีไปอยู่แล้ว และที่สำคัญวันนั้น โห มีข่าวว่า มีจระเข้หลุดออกมาอีก ยิ่งกดดันเข้าไปอีก อะไรก็พร้อมเกิดได้ทั้งนั้น

นักลงทุนกอดโลก : คิดถึงตอนที่โซรอสบอกว่า ทุกคนมีอคติอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าอคติที่ว่านั้นจะทำให้คนคนนั้นทำอะไรบ้าง และมันจะมีผลอย่างไร

นักลงทุนจ้องโลก : อคติที่ในเคสนี้ก็คือ กลัวจระเข้

นักลงทุนขวางโลก : ผมคิดถึงตอนที่โซรอสบอกว่า หลักปรัชญาเรื่องปฏิกริยาสะท้อนกลับของเขาฝังรากลึกอยู่กับประวัติส่วนตัวของเขาด้วย

นักลงทุนกอดโลก : เออ หมายถึงไงครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: รบกวนคุณhumdrum ไขความข้องใจเรื่องReflexivity

โพสต์ที่ 90

โพสต์

นักลงทุนขวางโลก : ก็ตอนที่พ่อเขาเตรียมการให้โซรอสหนีจากพวกเยอรมันละครับ ตอนเยอรมันบุกเข้ามา พ่อเขาบอกโซรอสว่า ไม่สามารถใช้กฏปกติในช่วงที่ไม่ปกติได้ ท่านเลยออกอุบายทำบัตรประจำตัวปลอมให้กับคนในครอบครัวและคนอื่นๆ เพื่อหนีจากพวกทหาร

นักลงทุนจ้องโลก : ผมจำได้ครับจาก Sorsos’s Lecture ใช่ไหมครับ โซรอสบอกว่าการออกบัตรประจำตัวปลอมนั่นเป็นช่วงประสบการณ์ที่ดีที่สุดของเขา เพราะไม่เพียงเอาตัวรอดเท่านั้นแต่ยังช่วยคนอื่นอีก

นักลงทุนแบกโลก : ผมว่า การผจญภัยพิเศษอย่างมากสำหรับโซรอสครับ อย่างแรก มันทำให้เขาสนใจเรื่องความไม่แน่นอน สองมันทำให้เขาสนใจเรื่องความไม่เข้าใจที่สมบูรณ์ของมนุษย์ และ สาม ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งที่จะเสี่ยงเพราะสามารถช่วยคนอื่นๆ ได้