หน้า 3 จากทั้งหมด 5

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 01, 2011 7:05 am
โดย densin
ไม่พอใจในพฤติกรรมก็ไม่อุดหนุน เข้าตลาดก็ไม่ซื้อหุ้น เราจะได้สบายใจ

ถ้ามองอีกมุมหนึ่งคุณเจริญเหมือนโดนกรรมเก่า
ลองหาประวัติตอนแกออกจากที่เก่ามาอ่านดู
แกออกจากบริษัทที่แกทำงาน พร้อมกับเจ้านายคนหนึ่ง และคนปรุงเหล้า
3คนไปเปิดโรงเหล้าแข่งกับที่เดิม สู้กันจนขาดทุนเละทั้งสองบริษัท
จนธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ต้องออกมาไกล่เกลีย (กลัวกลายเป็นหนี้เสียกันหมด)

ยังมีอีกเยอะนะครับในประเทศไทย ออกมาทำแข่งที่เดิมโต้งๆ
หลายตัวก็เป็นcaseในตลาดหลักทรัพย์

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 01, 2011 4:07 pm
โดย << New >>
ตอนเสี่ยเจริญซื้อลิขสิทธิ์ Carlsberg มาทำ สักพักก็เลิกไป แล้วจู่ๆช้างก็โผล่มาแทน

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 01, 2011 4:35 pm
โดย Hibernate
Lotus ขายอิชิตัน 2 ขวด 30 บาทครับ :D

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2011 3:19 am
โดย Coca-Cola
"ผิดมารยาททางธุรกิจ" and "หน้าด้านใจดำ"
เช่นนี้แล้ว ถ้าเกิดหันไปทำธุรกิจในรูปแบบอื่นๆ จนประสบความสำเร็จ... แล้วจะมีปลาที่ใหญ่กว่าตัวไหน กล้าเข้ามาซื้อธุรกิจต่อล่ะครับ

ดูอย่างไร "ความคิดในครั้งนี้ ของคุณตัน" ก็เกินคำว่าพอดีนะครับ

ปล. ไหนบอกว่า "ชีวิตไม่มีทางตัน"... อ๋อ! ที่แท้ อย่างนี้นี่เอง.

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2011 6:50 am
โดย densin
Coca-Cola เขียน:
ปล. ไหนบอกว่า "ชีวิตไม่มีทางตัน"... อ๋อ! ที่แท้ อย่างนี้นี่เอง.
ชีวิตไม่มีทางตัน เพราะเราหัน U-turnได้เสมอ!

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2011 10:54 pm
โดย untrataro25
รอภาคจบ อยู่นะครับ :mrgreen:

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 02, 2011 11:22 pm
โดย Ii'8N
ยังไม่เห็น K.assuming เจ้าของบทความ update เขียนเพิ่มใน blog ยังเป็นตอนที่ 6 อยู่ครับ

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id ... 5&gblog=15

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 03, 2011 8:58 am
โดย springs
สุดท้ายการทำธุรกิจไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรหรอกครับ
คุณตันคงเห็นว่าตลาดตรงนี้ยังมีศักยภาพด้วยอัตราการเติบโตที่น่าพอใจแม้พักหลังจะลดลงบ้างไม่บูมเหมือนช่วงแรกแต่มีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง และตัวคุณตันเองมีความเชี่ยวชาญในตลาดนี้ค่อนข้างสูง
หลังจากประเมินแล้วคิดว่าน่าจะกลับลงมาเล่นตลาดนี้อีกครั้งดีกว่าไปทำธุรกิจใหม่ๆที่ตัวเองยังไม่เข้าใจและยังต้องใช้เวลาศึกษา(ย้ำน่ะครับว่าความเชี่ยวชาญในตลาด + ศักยภาพของตลาดเป็นปัจจัยหลักที่น่าจะลงมาที่ทำศึกในตลาดนี้)
ส่วนเรื่องความแค้นส่วนตัวเนี้ยไม่น่าจะเป็นเหตุผลหลักของคนทำธุรกิจ น่ะครับ (แค่อาจจะมีส่วนแต่คงไม่คุ้มถ้าลงทุนไปเป็นพันๆล้านเพื่อความสะใจที่ได้แก้แค้น)
ในอนาคตเราอาจจะเห็นคุณตันกับเสี่ยเจริญกลับมาร่วมงานอาจจะในฐานะ partner หรืออาจจะซื้อกิจการของคุณตันกันอีกครั้งก็ได้ใครจะรู้ - -a

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 1:57 pm
โดย Ii'8N
อิชิตัน - การย้อนเกล็ดโออิชิที่เจ็บแสบ ภาค7 อวสาน





การแข่งขันเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาขีดความสามารถของธุรกิจ ยิ่งคุณมีคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ยิ่งกระตุ้นให้คุณต้องพยายามคิดหาวิธีการใหม่ๆทางการตลาด การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สินค้าใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ ความท้าทาย โอกาสใหม่ๆฯลฯ

โค้กก็ต้องยอมรับการมีอยู่ของเป๊บซี่ และมาม่าก็ต้องคิดว่ายำยำก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะยิ่งแข่งกันก็ทำให้ธุรกิจพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง



เมื่อตอนที่มีชาเขียวในตลาดกว่า 30 แบรนด์ มีหลายเจ้าลดราคาเหลือเพียงขวดละ 15บาท แต่โออิชิไม่เคยลดราคาลงมา แต่อิชิตันเปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยราคา 16 บาทโดยใช้ช่องทางโมเดิร์นเทรดอย่าง 7-11 เป็นธงนำ โออิชิก็โต้กลับด้วยการลดราคาลงมาทันทีถึงขวดละ 4 บาท คิดเป็นสัดส่วนถึง20%ของราคาขายเลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่าเจ้าสัวเจริญยอมรับตันเป็นคู่แข่งอย่างเป็นทางการในสมรภูมินี้

แต่สิ่งที่เราเห็นเป็นเพียงแค่การโหมโรงก่อนสงครามที่แท้จริงระหว่างสองค่ายนี้เท่านั้น ด้วยเหตุผลหลายประการดังนี้

1. โรงงานอิชิตันยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ปัจจุบันยังจ้างให้บริษัทยูโรเปี้ยนฟู้ดส์ (อดีตเป็นเจ้าของแบรนด์ชาเขียวโตเซนที่มีอั้ม พัชราภาเป็นพรีเซนต์เตอร์) พอต้นปี2555 ฐานการผลิตของเครื่องดื่มในเครืออิชิตันก็จะย้ายไปที่โรงงานแห่งใหม่มูลค่า 2400 ล้านที่อยุธยา พร้อมกำลังการผลิต 15 ล้านขวดต่อเดือน

2.

ถึงจะขายดีในเซเว่น โลตัส บิ๊กซี รวมสาขากันทั้งหมดยังมีไม่ถึงหมื่นสาขา แต่ตัวเลขของร้านโชว์ห่วยทั่วประเทศมีถึงกว่า 300,000 แห่ง ซึ่งคุณเจริญมีสายส่งช่องทางนี้ที่แข็งแกร่งที่สุดเจ้าหนึ่งในประเทศไทย ดูจากสินค้าของในเครือไทฟเบฟทั่งเหล้าแม่โขง แสงโสม เบียร์ช้าง โออิชิ ที่วางจำหน่ายอยู่แทบทุกร้านโชว์ห่วยทั่วประเทศไม่ต่างจาก มาม่า โค้ก เป๊บซี่ M150

3.

การสกัดดาวรุ่งไม่ให้สินค้าอิชิตันทุกชนิดวางในร้านโชว์ห่วยได้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะตามร้านโชว์ห่วยทั่วประเทศเวลานี้มีชาเขียวอยู่ยี่ห้อเดียวคือ “โออิชิ” เท่านั้น ไทยเบฟใช้กลยุทธ์กีดกันทางการค้า โดยแจ้งว่าร้านไหนมีดับเบิ้ลดริ๊งค์ หรืออิชิตันวางจำหน่ายก็จะไม่ได้รับส่วนลดพิเศษจากสินค้าของไทยเบฟ

รื้อฟื้นกลยุทธ์ขายเหล้า(แม่โขง) พ่วงเบียร์(ช้าง)ขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง

เมื่อกำลังการผลิตสมบูรณ์ การแข่งขันที่แท้จริงก็จะเริ่มขึ้นในปีหน้า ไทยเบฟก็ต้องผนึกกำลังพันธมิตรเพื่อสกัดไม่ให้อิชิตันเกิดในระดับภูมิภาคให้ ได้ ขณะเดียวกัน ตันก็ต้องใช้หาพรรคพวกเครือข่ายสายส่งทั้งหลายที่ไม่ได้อยู่ข้างไทยเบฟให้มา เป็นพันธมิตรมากที่สุด เพราะศัตรูของศัตรูคือมิตรนั่นเอง

แต่สำหรับตัน ภาสกรนที และเจ้าสัวเจริญอาจจะเป็นการแข่งขันที่ซับซ้อนในเรื่องแบรนด์ที่สุดก็ได้ โอ อิชิมีตันเป็นแบรนด์ซ่อนอยู่มาตลอด มีหน้าตันโผล่ให้เห็นในโฆษณาแทบทุกชิ้นของโออิชิ แล้ววันหนึ่งหน้านั้นก็ไปปรากฎตัวในขวดเครื่องดื่มของอิชิตันทุกขวด แถมทั้งสองแบรนด์ยังมีคำว่า “อิชิ” เหมือนกัน ขายชาเขียวเป็นสินค้าหลักเหมือนกัน

1. 1. ตันยังมีหุ้นในโออิชิอยู่3.5เปอร์เซนต์หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 600 กว่าล้านบาท โดยไม่ได้คิดจะขายออกไป

2. 2..ตันได้ปันผลจากโออิชิเป็นเงินเกือบ 20 ล้านบาททุกปีตลอดไป โดยที่เขาไม่ต้องทำงานที่โออิชิอีกเลย

3. 3. ตันใช้คนปรุงชาคนเดียวกันกับโออิชิ ซึ่งเป็นเพื่อนคนไต้หวันที่ออกจากโออิชิมาเหมือนกัน

. 4. เครือ ข่ายลูกน้องเก่าของตันโออิชิก็ยังอยู่ในบริษัทและโรงงาน ดังนั้นข้อมูลทุกอย่างของโออิชิไม่น่าจะใช้ความลับสำหรับตัน ภาสกรนทีเลยแม้แต่น้อย

หลังจากลาออกจากโออิชิ ตันออกรายการข่าว ทอล์คโชว์ ทำเดี่ยวกับโน้ต และเดินสายพูดตามที่ต่างๆอีกนับไม่ถ้วน


ใครถามก็แค่วนเวียนตอบว่า เปิดบริษัท สร้างโรงเรียน ทำภารกิจการกุศล รับพนักงาน ทำเดี่ยว ทำน้ำสมุนไพร


น่าแปลกใจว่าในช่วงที่ผ่านมาไม่มีพิธีกรคนไหนกล้าถามคุณตันว่าจะกลับมาทำชาเขียวหรือเปล่า เพราะ สิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจได้ถึงการขายกิจการว่า คุณได้กำไรตามที่คุณต้องการ และจะนำเงินไปทำธุรกิจใหม่ๆต่อไป ไม่มีใครคิดว่าจะกลับมาแข่งกับสิ่งที่ตัวเองสร้างมากับมือถึง 11 ปี


การ แข่งขันของสองแบรนด์นี้จะยังคงยืดเยื้อ ยาวนาน ซับซ้อนยากเกินกว่าจะสรุปได้ในเร็ววัน แต่หากดูจากประวัติของเจ้าสัวก็เคยตกอยู่ในสภาพเดียวกับตัน เมื่อเขาใช้ จุล กาญจนลักษณ์ มือปรุงเหล้าคนเดียวกับแม่โขงมาทำ “หงษ์ทอง” แข่งกันโดยที่มีรสชาติใกล้เคียงกับแม่โขง และขายราคาถูกกว่า

ไม่ต่างอะไรกับอิชิตันและโออิชิในตอนนี้เลย



ศึกหงษ์ทองและแม่โขงจบลงด้วยการพ่ายแพ้ของผู้ท้าชิง คุณเจริญไม่สามารถสู้กับเครือข่ายที่ทรงพลังของแม่โขงได้ แต่หลังจากยุติศึกกันแล้วต่างฝ่ายต่างเหนื่อยล้ากับการต่อสู้มายาวนาน และปัญหาทะเลาะกันของผู้ถือหุ้นใหญ่ๆหลายคนในแม่โขง ทำให้พวกเขาเหล่านั้นตัดสินใจขายหุ้นให้กับคุณเจริญในที่สุด ตั้งแต่นั้นมาจึงเริ่มตำนานราชันย์น้ำเมาของเจ้าสัวเป็นต้นมา


คุณ ตันบอกไว้ว่าจะอยู่บริษัทไม่ตันไปอีก 9 ปีจนกว่าจะเกษียณ หมายความว่าเหลือเวลาอีกประมาณ 8 ปีที่คุณตันจะสู้กับเจ้าของโออิชิ โดยมีตลาดมูลค่าหมื่นล้านบาทเป็นเดิมพัน เมื่อมีเงินสดเย็นๆ ในมือมหาศาลด้วยกันทั้งคู่ ฝ่ายหนึ่งมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ชูตัวเองเป็นแบรนด์ และมีการตลาดที่หวือหวาตลอด


ภารกิจของคุณตันที่จะนำเงิน “กำไร” ในส่วนที่เขาและภรรยาถือหุ้นไปบริจาคเข้ามูลนิธิ 50% ในปีแรก เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง90%ในปีที่ 9 และเขาก็พร้อมจะวางมือจากอิชิตันตลอดไป ฟังดูสวยหรู แต่คุณตันไม่ได้ใช้เงินตัวเองสักบาทในการทำการกุศลแต่อย่างใดเพราะ กำไรในที่นี้หมายถึง ส่วนเกินจากการลงทุนลงแรงทุกอย่าง รวมถึงโรงงานมูลค่า 2400 ล้านบาทนี้ด้วย ถึงจะนำไปเข้าการกุศลได้


ถ้า อิชิตันโตได้ แผนต่อไปก็คืออีก 5 ปีนำเข้าตลาดหุ้นสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นทุกคน พนักงานที่บุกเบิกกันคุณตันจะให้ทุกคนสมัครใจหักเงินเดือนมาสะสมซื้อหุ้นไว้ เมื่อถึงเวลาก็จะได้รับผลลัพธ์จากกำไรในตลาดหุ้นอย่างทั่วหน้า แต่ถ้าไม่ลืมคนที่ถือหุ้นเยอะที่สุดในบริษัทไม่ตันจำกัดก็คือคุณตัน ภาสกรนทีนั่นเอง


บทสรุป จากใจผู้เขียน

ผมคงไม่สามารถคาดการณ์การเอาชนะกันของทั้งสองแบรนด์นี้ได้ มี เรื่องราวซับซ้อนของเหลี่ยมคมในธุรกิจที่สามารถพลิกพลันได้ทุกเวลา จิตใจคนเรายากแท้หยั่งถึง ไม่มีใครรู้ว่าคุณตันและเจ้าสัวคิดอะไรอยู่ แต่ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วการกระทำนั้นสำคัญกว่าคำพูดเสมอ ทุกคนสามารถทำให้สังคมไทยดีขึ้นได้ โดย ที่ไม่ต้องรอให้มีเงินเยอะๆ เราทำสิ่งดีๆได้มากมายโดยที่ไม่ต้องใช้เงินสักบาทเดียว ไม่ต้องมีเงื่อนไขในการให้หรือการทำ หรือหวังผลประโยชน์แอบแฝง ขอให้ทุกคนค้นพบความสุขที่แท้จริงในชีวิตโดยทั่วกัน สวัสดีครับ






http://www.youtube.com/watch?feature=pl ... TYryy27TgU

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 1:59 pm
โดย Ii'8N
เห็นโฆษณาแล้ว ผมว่าคนโออิชิคงหมั่นใส้ แทบเตะทีวีเป็นแน่แท้


http://www.prachachat.net/news_detail.p ... &subcatid=

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 15:28:33 น.
"โออิชิ-อิชิตัน" ศึกนี้ยอมไม่ได้ วัดพลังแบรนด์ "ตัน" VS "โออิชิ"

รูปภาพ







คอลัมน์ จับกระแสตลาด




การ แข่งขันในตลาดเครื่องดื่ม ขณะนี้รุนแรงขึ้นถึงขั้น "ห้ามกะพริบตา" โดยเฉพาะกรณีคู่แค้น คู่ตุนาหงันระหว่าง "โออิชิ" และ "อิชิตัน" ที่วันนี้กลายเป็นอดีตคนเคยรักระหว่าง "ตัน ภาสกรนที" กับ "ไทยเบฟเวอเรจ" ไปเสียแล้ว ยามเมื่อต้องเผชิญหน้ากันตรง ๆ ในตลาดชาเขียวแบบฟาดฟันกันในทุกเรื่อง

ไม่เว้นแม้กระทั่ง "ชื่อ" ที่ยามออกเสียงก็ดูใกล้เคียงกันจนเหมือนแบรนด์พี่แบรนด์น้อง

เช่น เดียวกับราคาที่วันนี้พร้อมชนกัน จัง ๆ ที่ "16 บาท" โดยเป็นโออิชิที่ ยอมหั่นมาร์จิ้นตัวเองลง เพื่อหวังสกัดดาวรุ่งพุ่งแรงรายนี้ ข่าวล่าสุดแว่วมาจากเซเว่นอีเลฟเว่นช่องทางขายหลักของเครื่องดื่มชาเขียวว่า "สงครามราคา" นี้จะทวีความรุนแรงขึ้นอีกในเดือนหน้า

บ่งบอกได้อย่างดีว่าศึกครั้งนี้นอกจากหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ยังเป็นศึกที่ "ยอมไม่ได้" อีกด้วย

ฝ่าย หนึ่งแบกศักดิ์ศรีความเป็น เจ้าตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ที่โลดแล่นอยู่ในตลาดมากว่า 7 ปีด้วยส่วนแบ่ง 60% จากมูลค่าตลาดเกือบ 8 พันล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายแบกศักดิ์ศรีผู้ท้าชิง ที่เคยสร้างผลงานชิ้นโบแดงคว่ำ "ยูนิฟ กรีนที" ผู้นำในอดีตมาแล้ว

ถึง วันนี้แม้ "อิชิตัน" จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่สำหรับ "ตัน ภาสกรนที" แล้ว เรียกว่าเปี่ยมด้วยประสบการณ์ที่สำคัญที่สุดคือ การรู้ซึ้งถึงจุดอ่อนจุดแข็งในแบรนด์ "โออิชิ" แทบทุกอณู

วันนี้ "ตัน" เปรียบเสมือนแบรนด์ ที่ทรงพลังในเชิงธุรกิจ สิ่งนี้พิสูจน์ได้ชัดเจนจากโฆษณา "อิชิตัน" ชุดใหม่ที่เขาเลือกจะ "เล่นเอง ชงเอง" พร้อมกับวาทะเด็ด "ผมปลูกเองกับมือ" เพื่อขายความเป็น "ตัน" อย่างเต็มที่ โดยหวัง ให้ตัวเขาเป็นจุดที่เชื่อมโยงไปถึงผู้บริโภคได้อย่างง่าย ๆ แบบไม่ต้องเปลืองแรงไป เปลืองเงินไปกับพรีเซ็นเตอร์ชื่อดังคนไหน

งานนี้สะท้อนให้เห็นความเชื่อมั่นของเขาต่อ "TAN Brand" เป็นอย่างยิ่ง

ยิ่ง วันนี้เมื่อเขาเลือกที่จะผนึกกำลังกับ "โน้ส อุดม" เจ้าพ่อทอล์กโชว์ บุคคลผู้มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง กลายเป็น "แพ็กคู่" ทางธุรกิจที่ทรงพลังที่ช่วยขยายฐาน แฟนคลับของเขาให้กว้างขึ้นไปอีก

ขณะ ที่ "ตัน" เดินกลยุทธ์ "ข้าม เซ็กเมนต์" (cross segment) ผ่านการนำตัวตนของ "ตัน" ไปลิงก์กับตัวตนของ "โน้ส อุดม" ด้านโออิชิก็เลือกข้ามเซ็กเมนต์ไปสู่ตลาดเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าของตัวเองเช่นกัน

ตั้งแต่ "ฟรุตโตะ" ชาเขียวผสมน้ำ ผลไม้ไปจนถึง "ชาคูลล์ซ่า" ชาเขียวผสมโซดาซึ่งเป็นตัวอย่างของความพยายาม "ฉีกกฎ" ตลาดชาเขียวเพื่อเข้าไปกินในกลุ่มลูกค้า "น้ำผลไม้" และ "น้ำอัดลม" ซึ่งเป็นตลาดหลักในกลุ่มเครื่องดื่ม

โออิชิยังเดินหน้า "กลยุทธ์ผู้นำ" กับการเซ็กเมนเตชั่น หรือแตกเซ็กเมนต์ย่อยเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยวางชาเขียวยูเอชที เจาะกลุ่มเด็ก, ฟรุตโตะ 12-15 ปี ขณะที่ชาคูลล์ซ่าจับกลุ่มวัยรุ่น เด็กมหาวิทยาลัย และโออิชิ กรีนที ออริจินัล สำหรับคนอายุ 25 ปีขึ้นไป

ทั้งหมดเพื่อการก้าวเดินไปข้างหน้า ทิ้งห่างคู่แข่งแทนการย่ำอยู่กับการ แข่งขันแบบเดิม ๆ

"ตลาด ชาเขียวที่ผ่านมาก็จะแข่งขันกันในตลาดเดิม ไม่มีการแตกแคทิกอรี่ใหม่ ๆ แต่หน้าที่ของผู้นำคือสร้างตลาดใหม่ เราไม่ใช่ผู้ตาม เพื่อเข้าไปเจาะ กลุ่มลูกค้าใหม่หรือกลุ่มที่ไม่เคยดื่มชาเขียวมาก่อน กรณีชาคูลล์ซ่าเป็นตัวอย่างการฉีกกฎชาเขียว ตั้งแต่บรรจุกระป๋องและเข้าไปแข่งในตลาดน้ำอัดลมอย่างเต็มที่ จากนี้โออิชิยังมีแผนอีกหลายอย่าง ต้องบอกว่าทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น"

สำหรับกลยุทธ์ของอิชิตันเพื่อหวังแจ้งเกิดและเบียดยักษ์อย่างไทยเบฟเวอเรจได้นั้น ถึงได้มีการศึกษาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี

ตั้งแต่ การเลือกเข้ามาในช่องว่างของราคาที่ 16 บาท ในไซซ์ 420 ม.ล. ซึ่ง ถือเป็นการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ในตลาด ชาเขียว ซึ่ง "ตัน" ให้เหตุผลว่ามาจากการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคที่พบว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมต่อ การดื่ม 1 ครั้ง คือไม่มากและไม่น้อยเกินไป

ที่สำคัญเป็นช่องว่าง ทางการตลาดที่เขาเห็นแล้วว่า สามารถเจาะได้ทั้งกลุ่ม ผู้หญิงและผู้ชาย เหนืออื่นใดคือการวางราคาที่ต่ำกว่าโออิชิ 4 บาท ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับสินค้าแมส และมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในทันที

ไม่เพียงแค่เรื่อง ขนาดและราคา เขายังเลือกชูเมสเซจ "ชาออร์แกนิก" มาเป็นธีมหลักของแบรนด์ ที่จุดนี้เองถือเป็นช่องโหว่สำคัญที่ยังไม่เคยมีแบรนด์ไหนหยิบยกขึ้นพูดมา ก่อน งานนี้นับว่าเป็น "ความเก๋า" ของตันที่มองเกมขาด เพราะนอกจากจะทำให้อิชิตันสามารถเดินทางลัดในการลิงก์แบรนด์กับสุขภาพได้ อย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นการเกาะกระแส "ออร์แกนิก-สิ่งแวดล้อม" ที่ฮอตฮิตในปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นจุดต่างที่ทำให้คู่แข่งทั้งหลายตกอยู่ในสภาพ "เอาต์" ในทันที

ถึงขนาดที่นักการตลาดทางฝั่งของ "ยูนิฟ กรีนที" เอ่ยปากชมในไอเดียดังกล่าว

แต่ ที่ดูจะไม่สบอารมณ์ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นผู้นำตลาดชาเขียว เมื่อ "แมทธิว" หลุดวาทะเด็ดออกมาในงานแถลงข่าวเปิดตัว "ชาคูลล์ซ่า" ว่า "ชาออร์แกนิกไม่ใช่นวัตกรรม และโออิชิก็ไม่ได้ขายใบชาพลาสติกแต่อย่างใด"

งาน นี้แม้บรรดาผู้บริหารของโออิชิต่างพากันย้ำแล้วย้ำอีกว่า "ไม่หนักใจ" กับการเข้ามาของ "อิชิตัน" แต่ดูจากแผนงาน "รับน้องใหม่" ที่ยักษ์ใหญ่รายนี้เตรียมไว้ บอกได้คำเดียวว่า "ไม่ธรรมดา"

สิ่งที่ น่าสนใจที่สุดในวันนี้คือ ทั้งในฐานะคู่แข่งและอดีตพันธมิตรที่รู้จักตื้นลึกหนาบาง และสไตล์การทำตลาดกันอย่างดี "โออิชิ" จะสกัดกั้นการแจ้งเกิดของ "อิชิตัน" ได้อย่างไร

เป็นศึกที่ห้ามกะพริบตา

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 2:11 pm
โดย Ii'8N
เพิ่งเห็นเมนู ว่าแทรก youtube ได้




Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 2:32 pm
โดย pak
"เพียวริคุ" ขนาด 350 มิลลิลิตร ราคาขาย ขวดละ 12 บาท

"โออิชิ" ขนาด 500 มิลลิลิตร ราคาขาย ขวดละ 20 บาท


พี่ "อิชิตัน"...แกเบียดกลางเสียบเข้ามาแบบพอเหมาะพอเจาะจริงๆ
ด้านความเหมาะสม...ไม่ขอออกความเห็นครับ
แต่ด้านการตลาด...มันเหลือเกินจริงๆ

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 2:42 pm
โดย pak
“ตัน ไม่ตัน” เปิดตัว อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% ผู้นำชาเขียวออร์แกนิคในประเทศไทย สุดๆ ชาจากใจชงสุดฝีมือ
วันที่ 26 พฤษภาคม 2554 11:27 น.

รูปภาพ

ตัน ไม่ตัน กลั่นรสชาติจากหัวใจและประสบการณ์ทั้งชีวิต จัดงาน Once Upon a T Time เปิดตัว อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% ชูจุดขายผู้นำชาเขียวออร์แกนิค สู่ตลาดเครื่องดื่มเมืองไทย สุดๆ ของความพิถีพิถัน ตั้งเป้ายอดขาย 3,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าสำหรับคนไทย

ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไม่ตัน จำกัด ผู้สร้างตำนานเครื่องดื่ม ชาเขียวในไทย จัดงาน Once Upon a T Time เปิดตัวเครื่องดื่มชาเขียวออร์แกนิค100% 3 รสชาติใหม่ รสดั้งเดิม รสน้ำผึ้งผสมมะนาว และ รสเก๊กฮวย ที่กลั่นกรองจากหัวใจและประสบการณ์ทั้งชีวิต ภายใต้แบรนด์ อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% ขนาด 420 มล.ในราคาขวดละ 16 บาท ตอบสนองความต้องการของผู้รักสุขภาพอย่างแท้จริง

ความโดดเด่นของ อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% คือการทำจากใบชาเขียว ออร์แกนิค 100% ที่ปลูกโดยวิถีธรรมชาติ ปลอดสารเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สุดๆ ของชาจากใจชงสุดฝีมือ ด้วยการใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว ให้ความสำคัญใน การลงรายละเอียดพิถีพิถันทุกขั้นตอนโดยผู้รู้จริง ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกชาเขียว ออร์แกนิคปลอดสารเคมี คัดเฉพาะยอดอ่อน 3 ใบแรกเด็ดด้วยมือ เก็บสดใหม่ แล้วเข้าสู่กระบวนการผลิตทันที เพื่อคงคุณค่าของชาเขียวที่สดที่สุดตามธรรมชาติไว้ เก็บไว้ในห้องควบคุมอุณหภูมิ

จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการชงที่ละเมียด ตั้งแต่เลือกอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสม ยอมเสียเวลาสองเท่ากับการลวกใบชาด้วยการผ่านน้ำสองครั้ง เพื่อให้ได้รสชาติที่หอม กลมกล่อม ไม่มีรสขมหรือฝาดแม้ติดปลายลิ้น แทนการผลิตด้วยวิธีเหวี่ยงใบชาในน้ำร้อน และยังเป็นรายแรกที่นำชาเขียวออร์แกนิคปลอดสารเคมี 100% ผสมกับเก๊กฮวย จนได้ชาเขียวเก๊กฮวย ที่ผสาน 2 คุณค่า 2 คุณประโยชน์ ทั้งหอม อร่อย สดชื่นกว่า และที่สำคัญ “ไม่ขม ไม่ฝาด และคัดเลือกน้ำผึ้งจากเกสรดอกลิ้นจี่ที่ให้สีทองสวยใส รสหวานละมุนกว่าใคร สำหรับรสน้ำผึ้งผสมมะนาว

“เดี๋ยวนี้ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจเรื่องคุณประโยชน์ของชาเขียวในระดับหนึ่ง และด้วยกระแสการเลือกบริโภคอาหารที่ดีสำหรับสุขภาพทำให้ผู้บริโภคมองหาชาเขียวคุณภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราจึงต้องคัดเลือกวัตถุดิบจากใบชาออร์แกนิคปลอดสารเคมี 100% และให้ความสำคัญกับรายละเอียดทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุด ปัจจุบันธุรกิจเครื่องดื่มแข่งขันกันอย่างรุนแรง การจะสร้างเครื่องดื่มที่อยู่ในใจของผู้บริโภคได้ต้องมี 3 Wow คือ ว๊าว!แรก...แพคเกจจิ้งสวย ดูดีกว่า โดดเด่นกว่า ว๊าวที่!สอง..คุณภาพดีกว่า อร่อยกว่า และ ว๊าว!สาม..ยากที่สุด คือ ราคาต้องคุ้มค่ากว่า ผมคิดว่า อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% ที่ขายในราคาปกติ 16 บาท สามารถตอบโจทย์ทั้งหมดได้เป็นอย่างดี”

ปีนี้ อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทและคาดว่าจะถึง 3,000 ล้านบาทในปี 2556 และจะเป็นสินค้าหลักที่ทำรายได้ให้แก่ บริษัท ไม่ตัน จำกัด ทั้งนี้กำไรส่วนหนึ่งของผลประกอบการจะมอบให้กับมูลนิธิตันปัน เพื่อนำไปพัฒนาด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อมของประเทศต่อไป ให้ผู้บริโภคอร่อยกับรสชาติชาเขียวออร์แกนิคที่ สดชื่นไปถึงหัวใจ

พร้อมกันนี้ภายในงาน Once Upon a T Time ได้เปิดตัวตัน ภาสกรนที หลายชีวิต!!! ที่ร่วมลงแรงแข็งขันผลิตเครื่องดื่มชาเขียวออร์แกนิคแท้สุดพิถีพิถัน และเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% พร้อมดาราและเซเลบริตี้ อาทิ ยูมิ อิงคะวัต เจี๊ยบ - พิจิตรา กฤติกุล ท็อป - ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี น็อต - วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ มิ้นท์ - อรรถวดี จิรมณีกุล และ เชน - ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์

อิชิตัน ออร์แกนิค กรีนที 100% กลั่นหัวใจและประสบการณ์ทั้งชีวิตของ “ตัน ภาสกรนที” วางตลาดพร้อมกันวันนี้ทั่วประเทศ


ที่มา : http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... Sq1LXRuQ==



ปล.
อยู่ดีดี ผมก็นึกถึงเพลงนี้อ่ะนะขอรับ 555+

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 2:53 pm
โดย pak


ครึ่งชีวิตของผมเกิดและโตมากับชาเขียว วันนี้การเดินทางครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตผมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ทุกขวด ชงจากใบชาออร์กานิค ที่ดีที่สุด ใช้เฉพาะยอดอ่อน 3 ใบบนเท่านั้น การเก็บใบชาต้องดึงทีละใบห้ามรูด เก็บตอนที่มีแสงแดดอ่อนๆ ที่สำคัญที่สุดคือ ใบชา อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ทุกใบ ต้องปลอดภัยจากสารเคมีทุกชนิดตามแบบวิถีออร์แกนิค ปลูกด้วยวิธีธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทั้งหมดทุกขั้นตอน ผมทำเอง ทำสุดหัวใจ ไม่ยอมแพ้ ไม่ย่อท้อ ... นั่นก็เพื่อ ชาเขียวที่ดีที่สุดที่ทุกคนรอคอย

วันนี้ อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ผู้นำชาเขียว ออร์กานิค รายแรก พร้อมส่งมอบความสดชื่นสดใส ดูแลใส่ใจให้คุณมีสุขภาพดีแบบวิถีออร์แกนิค

พบกับ อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ทั้ง 3 รสชาติ

อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที รสต้นตำรับ ผสมดอกชา
อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที คิคุชะ ( เก๊กฮวย )
อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ฮันนี่ เลมอน

ได้ที่ 7 Eleven, Lotus Supercenter และ Lotus Express, Family Mart,Tops Supermarket,Villa Supermarket ทุกสาขาทั่วประเทศไทยใกล้บ้านคุณ

อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ผู้นำชาเขียวออร์แกนิค 100% ทุกขวด ชงจากใจ สุดฝีมือของผม

ดื่มแล้วสดชื่นไปถึงหัวใจ เพราะผลกำไร 50% ของผมและ อิง มอบให้กับมูลนิธิ ตันปัน เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับเยาวชนไทยตลอดไป


ปล.
CSR Strategy มาเองเลยทีเดียว

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 3:56 pm
โดย Ii'8N
คุณตัน เขาทำแบบปู่บัฟฟเฟตต์รึเปล่าครับ ค่อยๆ บริจาคเงินทีละนิด ให้กองทุน

นอกเรื่องนิด เห็นในโฆษณามีน้องป๊อบ บอกได้เลย มากับ นม อุโด้ส แน่นอน

ไหนๆ ลองแปะยูทุบ ตามคำแนะนำคุณ pak ใหม่อีกที


Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 5:52 pm
โดย Leesak
โอ้วเห็นการต่อสู้แล้วสุดยอดยิ่งกว่าดูหนังกำลังภายในเลย ขอบคุณข้อมูลดีครับ :mrgreen:

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 9:31 pm
โดย ming1714
pak เขียน:

ครึ่งชีวิตของผมเกิดและโตมากับชาเขียว วันนี้การเดินทางครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตผมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ทุกขวด ชงจากใบชาออร์กานิค ที่ดีที่สุด ใช้เฉพาะยอดอ่อน 3 ใบบนเท่านั้น การเก็บใบชาต้องดึงทีละใบห้ามรูด เก็บตอนที่มีแสงแดดอ่อนๆ ที่สำคัญที่สุดคือ ใบชา อิชิตัน ออร์กานิค กรีนที ทุกใบ ต้องปลอดภัยจากสารเคมีทุกชนิดตามแบบวิถีออร์แกนิค ปลูกด้วยวิธีธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทั้งหมดทุกขั้นตอน ผมทำเอง ทำสุดหัวใจ ไม่ยอมแพ้ ไม่ย่อท้อ ... นั่นก็เพื่อ ชาเขียวที่ดีที่สุดที่ทุกคนรอคอย
OISHI Green Tea ผมก็(เคย)ทำมาเองกับมือ ^^ :oops:

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2011 9:36 pm
โดย Linzhi
ผมอ่านบทความคุณตันในกรุงเทพธุรกิจทุกวันจันทร์ แกดูเป็นคนดีมาก ๆ ครับ มีจริยธรรมทั้งในปุถุชนและทางธุรกิจ

เห็นกรณีอิชิตัน ผมก็งง ๆ สับสนเหมือนกัน ว่าตกลงใครพูดถูกพูดผิด จะเป็นเสี่ย ต. หรือเสี่ยจ.กันแน่

ดูต่อไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกาลเวลาก็พิสูจน์คนเอง แต่สงครามครั้งนี้สนุกในมุมผู้ชมจริง ๆ

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 20, 2011 12:04 am
โดย marcus147
ผมว่า คนที่เขียนคอลัมทั้งเจ็ดภาคนี่ก็สุดๆเหมือนกัน
วิเคราะห์ได้ชัดเจนยังกับอยู่ในเหตุการณ์เลยทีเดียว

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 20, 2011 12:53 am
โดย cookclick
แบบนี้เค้าเรียกหลอกให้ตายใจก่อน แล้วค่อยแทงข้างหลัง :twisted:

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 20, 2011 9:59 am
โดย Botong
ผมอาจจะมองมุมต่างนิดนึง คือ ผมว่า คุณตันมีเงินมากแล้ว และธุรกิจอสังหาก็กำลังไปได้ดีมาก ดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องเงิน แต่คุณตันต้องความจำเป็นพอสมควร จึงกลับมาทำชาเขียว เพราะการกลับมาสู่สนามนี้มันไม่ง่ายเลย และเสียงครหามีมาแน่ๆ ซึ่งผมคิดว่า คนระดับนี้น่าจะคิดได้..สุดท้ายก็คงจะมีเหตุผลที่เรายังไม่รู้แค่นั้นเอง..

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 21, 2011 3:32 pm
โดย ganja
สงครามการตลาด เกิดเมื่อใหร่ ก็น่าติดตามเมื่อนั้น

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 21, 2011 4:12 pm
โดย unnop.t
สนุกดีครับ เป็นการตลาดที่นักศึกษา MBA ต้องวิเคราะห์แน่นอน

ส่วนตัวผมกลับคิดว่า ชาเชียวไม่ใช่เป้าหลักของคุณตัน อาจจะเป็นเป้าหลอก :D

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 21, 2011 10:19 pm
โดย race_maddog
ตอนนี้ ichiton ปรับราคาเหลือ 15 บาทแล้วนะครับ
สังเกตที่ฝาขวดได้ ตามร้านค้าทั่วไป
ส่วน 7-11 ยัง 16 บาทอยู่ คาดว่าเป็น lot เก่า

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2011 1:13 am
โดย TFFFT
อยากลองกินดู

แต่ก็ไม่อยากสนับสนุนการกระทำแบบนี้ครับ

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2011 1:34 am
โดย yacht7
ผมมองว่าชาเขียวทั้งโออิชิ และอิชิตัน ขายได้เพราะชื่อของคุณตันมากกว่าครับ

เชื่อได้ว่าเดี๋ยวคงมีเปิดฝาลุ้นล้าน ไม่ก็แจกรถ ตามมาแน่ๆ ครับ

เล่นกันยิ่งโหดยิ่งดีครับ ผู้บริโภคได้ประโยชน์เต็มๆ :B

ส่วนตัวผมทานมาหลายยี่ห้อ ชอบแค่ของฟูจิ กับชาขาวเพียวริคุครับ ไม่ติดว่าต้องแบรนด์ดัง ขอแค่ชอบเป็นพอ


รูปภาพ

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2011 1:37 am
โดย yacht7
แล้วก็ถ้าจำไม่ผิด.. เหมือนกับว่าโออิชิลอตใหม่ ฝาบางลง แล้วก็ไม่มีพลาสติกซีลหุ้มฝาด้วยครับ สงสัยลดต้นทุนการผลิต

ส่วนชาเขียวอิชิตันเป็นชาเขียวออร์แกนิคมั้ย อันนี้ไม่รู้มีคนไปพิสูจน์รึยังครับว่าออร์แกนิคเฉพาะ wording หรือใช้ของคุณภาพจริงๆ เพราะผักออร์แกนิคราคายังต่างจากผักสดธรรมดาตั้งหลายเท่าเลยครับ

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2011 9:41 pm
โดย Kenny Jung
O_ishi_tan .... a classic match from two chao suas
:evil: _ :wall: :twisted:
C'mon MBA students... :shock:

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 23, 2011 10:39 pm
โดย ajk
เคยฟังพี่นมอูโด้ส กล่าวไว้ว่า

ผมเข้าแก๊งส์ไหนหัวหน้าตายหมด

เพลง วาไรตี้ หนังสือ หนัง ฯลฯ

รอดูครับ

Re: เมื่อโอเอชิรับน้องอิชิตัน

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2011 10:18 pm
โดย kittithat t
ผมว่า Federbrau อร่อยที่สุดครับ

(ล้อเล่นนะครับ^^)