Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เอางั้นเลยหรือครับ คุณเด่น

เอาเป็นว่าถ้าสนจริงก็ตั้งกระทู้แล้ว discuss กัน ถ้าข้อมูลมากพอ เราก็ย้ายเข้าห้องร้อยหุ้นดีกว่าครับ



ฮอทพอทนี่ยังไม่เคยได้เข้าไปลองเลย ส่วนไดโดมอนนี่เคยกินนานมากแล้ว ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนไปในยังไงบ้าง

แต่เห็นว่าเค้าก็ปรับดีขั้นนะครับ แถมมีร้านอาหารญี่ปุ่นแตกแบรนด์ออกมาด้วย

อย่าว่าแต่ยังไม่เคยกินเลย
มีร้านชื่อนี้ด้วยเหรอ

tanavut เขียน:อย่าว่าแต่ยังไม่เคยกินเลย
มีร้านชื่อนี้ด้วยเหรอ

เอ่อ ไปอยู่ที่ไหนมาอ่าคับ

ชอบคติของพี่เด่นที่อยู่ใต้การ post จังลยครับพี่ครับ

โดยส่วนตัวเคยไปทาน hot pot 3 -4ครั้ง ในชีวิตครับ
เนื่องจากไม่มีสาขาใกล้บ้าน และหน้าบ้านเป็น mk

เรื่องความอร่อยผมว่า แต่ละท่านคงมีความคิดเห็นแตกต่างกันครับ
รบกวนสอบถามถึง differentiation ,barrier to entry ของ Hotpot คือ....

สำหรับผม คงไม่ได้เป็นลูกค้า ฮอตพอท อีก แล้ว

CHOOKY เขียน:สำหรับผม คงไม่ได้เป็นลูกค้า ฮอตพอท อีก แล้ว

และเหมือนกับว่าเป็นส่วนผสมระหว่าง ชาบูชิ+เอ็มเค+ซิสเล่อร์+ร้านติ่มซำ ผมไม่รู้ว่า อะไรคือจุดเด่น ของฮอตพอท อาหารแต่ละอย่าง ไม่ค่อยอร่อย

เข้าวันไหนครับ

ส่วนตัวผมชอบกิน hotpot มากกว่า mk ครับ ไม่ค่อยเหมือนท่านอื่น ^^
ทุกวันนี้ถ้าจะกินสุกี้ หรือพวกหม้อต้ม ก็จะไป hotpot ครับ (เลิก mk ไปเลย)
ส่วนตัวผมชอบน้ำจิ้มของ hotpot มากกว่า แล้วก็มีให้กินหลากหลาย
และเป็นบุฟเฟ่ห์ กินอิ่มได้เต็มที่ คุ้มดีครับ ^^

บางสาขาบริการแย่มากๆครับโดยเฉพาะสาขาแหลมทองระยอง

tamaboy เขียน:บางสาขาบริการแย่มากๆครับโดยเฉพาะสาขาแหลมทองระยอง

แย่ยังไงครับ ผมก็เคยไปที่นั่นแต่ไม่ค่อยได้สังเกตุว่าดีหรือแย่

ทานมา2-3รอบ ไม่อร่อย และ สกปรก ครับ
แต่ลูกค้าเยอะทุกที่ เพราะราคาค่อนข้างถูก ครับ
สำหรับผม ผมคงไม่สนใจธุรกิจอะไรที่แม้แต่ตัวเองยังไม่ชอบครับ มันขัดๆใจ

ไปลองมาแล้วครับทั้ง Hotpot และ MK บุฟเฟต์

Hotpot มีให้เลือกหลายอย่าง แต่ไม่มีอะไรเป็นตัวชูโรงเลย ผมว่าหาจุดเด่นไม่ค่อยได้ ของสดไม่ค่อยสดในบางครั้ง ราคาแพงกว่า(Hotpot Inter Buffet 290฿, Hotpot Value 219฿) MK บุฟเฟต์นิดหน่อย แต่นั่งกินได้นานกว่า ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมงนี่แหละครับ ไม่แน่ใจ

MK บุฟเฟต์ มีจานชูโรงอย่างเป็ดย่าง ติ่มซำ แต่สองอย่างนี้คิดราคาแยก แต่ลูกค้ายินดีจ่าย ผมไปนั่งกินเห็นสั่งกันแทบทุกโต๊ะ ราคาบุฟเฟต์ต่อหัวก็ถูกกว่า Hotpot Inter (MK หัวละ 259฿) ของสดก็สดเหมือนเดิม อร่อยเหมือนเดิม นั่งรอกินไม่ต้องลุกเดินไปตัก แต่อาหารมีให้เลือกน้อยกว่า เน้นหม้อต้มเป็นหลักเลยเวลากินมีน้อย (1 ชั่วโมง 15 นาที) แต่ก็ดี ลูกค้าหมุนเวียนเร็วครับ

สรุป ผมว่า MK บุฟเฟต์อร่อยกว่า ราคาอยู่ตรงกลางระหว่าง Hotpot inter กับ Hotpot Value แต่มันดันอร่อยกว่าครับ ผมว่าอาหารมันสำคัญตรงความอร่อยนี่ล่ะครับ

แต่ก็มีอีกอันคือ Hotpot Prestige หัวละสามร้อยกว่า อันนี้ยังไม่เคยลองเลย ที่เชียงใหม่ยังไม่มี

*"ฮอท พอท"จะเสนอขาย IPO จำนวน 101.98 ล้านหุ้น ปรับปรุง-ขยายสาขา,คืนหนี้
Source - IQ Biz (Th)

Friday, July 22, 2011 09:29
25804 XTHAI XECON XFINSEC ZSTOCK HOTN V%WIREL P%IQ

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 54)--สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.ฮอท พอท ได้ยื่น Filing version แรก ในวันที่ 20 ก.ค.54 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 101,984,900 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.12 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้
การเสนอขายแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 61,384,640 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 15.12 และเสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ กองทุนออรีออส เซาท์ อีสท์ เอเชีย เสนอขายจำนวน 40,600,260 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10 โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาในปี 2554 จำนวน 71 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้ 30 ล้านบาท และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือการลงทุนอื่น ๆ โดยบริษัทฯจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(MAI)ต่อไป
บมจ.ฮอท พอท ประกอบธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟต์นานาชาติ ที่เน้นอาหารประเภทสุกี้ ชาบูเป็นหลัก ภายใต้แนวคิด"All You Can Eat" หรือ "อิ่มได้ไม่อั้น" โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย.54 มีสาขาร้ายอาหารที่เปิดแล้ว 85 สาขา(ไม่รวมสาขาแฟรนไชส์)โดยเป็นสาขาในกรุงเทพและปริมณฑล 38 สาขา และต่างจังหวัด 47 สาขา
ผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนสิ้นสุด 31 มี.ค.54 บริษัทมีรายได้รวม 335.96 ล้านบาท กำไรสุทธิ 18.91 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 399.23 ล้านบาท หนี้สินรวม 296.92 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 102.30 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 2.90 เท่า
ณ วันที่ 6 ก.ค.2554 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 101,500,000 บาท และทุนเรียกชำระแล้ว 86,153,840 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 344,615,360 หุ้น ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้บริษัทจะมีทุนชำระแล้ว 101,500,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 406,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัทฯคือ กลุ่มนายสมพล ฤกษ์วิบูลย์ศรี ถือหุ้นจำนวน 216,062,000 หุ้นหรือคิดเป็น 20% หลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาเหลือ 53.22% ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหักสำรองตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

โดยส่วนตัวระยะหลัง ๆชอบกินที่ HOTPOT มากกว่า MK เพราะเรื่องคุณภาพกับราคาสมเหตุสมผลดี เรื่องความสดกับรสชาติผมคิด

ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ยอมรับครับว่า MK ดูเหนือกว่าในแง่นี้ อย่างที่คุยกันในนี้หละครับ Positioning ของ HP เขาเน้นเรื่องความคุ้ม

ค่าราคาประหยัด

ดูข้อมูลไฟลลิ่งแล้วผิดคาดอยู่เหมือนกัน เรื่องหนี้ค่อนข้างสูง D/E 2.9 คงต้องดูละเอียดอีกทีว่ามาจากอะไร เงินทุนที่เพิ่ม

มาจะเอาไปใช้หนี้ส่วนหนึ่ง และขยายสาขาส่วนหนึ่ง ผมมองว่าตอนนี้สาขาของ HP เองก็เติบโตขึ้นมากพอสมควร ไม่แน่ใจว่ายังพอ

มีศักยภาพขยายในประเทศได้อีกเท่าไหร่ ตลาดต่างประเทศเองก็ไม่ง่ายเพราะกว่าจะได้ economy of scale เนี่ยคงใช้เวลาอีก

นาน และกว่าจะเรียนรู้ตลาดของผู้บริโภคอีก

HP น่าสนใจตรงที่ biz model เป็นส่วนผสมของธุรกิจ อาหาร+เชนค้าปลีก น่าติดตามอยู่เหมือนกัน

หุ้นกลุ่มร้านอาหาร ปกติ P/E ที่เหมาะสมควรอยู่ทีประมาณเท่าไหร่ครับ ในความเป็นของทุกคนครับ

ข้อมูล filing ครับ http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... 0000-00-00

จากข้อมูล filing มีข้อมูลที่น่าสนใจบางอย่าง

ดู ๆแล้วทาง HP คงมาเน้นขยาย HP Value กับ HP Interbuffet มากกว่า โดยเรือธงคงเป็น

HP Value เพราะสัดส่วนรายได้มากสุด และกลุ่มเป้าหมายน่าจะตรงกลยุทธ์ของ HP มากที่สุด

ส่วน Prestige กับ Shabu จำนวนสาขาลดลงเป็นลำดับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา น่าจะแสดงให้

เห็นถึงรูปแบบไม่ตอบโจทย์ลูกค้า และสู้คู่แข่งไม่ได้ จากข้อมูลเราจะเห็นว่าสาขาของ HP มี

เปิดเพิ่ม และัปิดตัวบางสาขา ถ้ามองในแง่ดีก็คือตัดสาขาที่กำไรน้อยหรือไม่คุ้มทุนออกไป

แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการวิเคราะห์ตลาดของ HP มีปัญหา เมื่อเทียบกับอย่าง MK เราแทบ

ไม่เคยเห็น MK ปิดสาขาเลย ผมลองทำตัวเลขคร่าว ๆ ของยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาของ

HP Value ดู

ปี 51 52 53
ยอดขาย 212 363 607
สาขา 37 52 54
เฉลี่ยต่อสาขา 5.7 6.9 11.2

ตัวเลขการเติบโตต่อสาขาของ HP Value ถือว่าดีที่เดียว

วันนี้เอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน

็

ผมคิดว่าการที่ HP จับกลุ่มกลางกึ่งล่าง แล้วเน้น margin ต่ำ เพราะการขายแบบ buffet ยังไงก็สู้การขายแบบ MK ไม่ได้ ยิ่งดูที่บรรทัดสุดท้าย กำไรต่อยอดขายเพียง 6 % ในธุรกิจนี้ถือว่าต่ำ ดังนั้นสิ่งที่ HP ควรจะทำ ผมคิดว่าคือการเพิ่มยอดขาย ทั้งเพิ่มสาขาและยอดขายต่อสาขา แต่หากดูจากข่าว การเพิ่ม 1 สาขา ใช้เงิน 10 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่ากำไร 80 ล้านบาท หากไม่ปันผลเลยก็เพิ่มได้แค่ 8 สาขา ซึ่งผมคิดว่าช้าเกินไป ยิ่งหากดูจากข่าวที่ ผบห. จะเพิ่ม 20 สาขา ต้องใช้เงิน 200 ล้านบาท ปีนี้เข้าตลาด MAI ได้เงินมาน่าจะทำได้ แต่ปีต่อไปคงยาก เพราะดูแล้ว กำไรต่อสาขาประมาณ 1 ล้านบาท/ปี ดังนั้นหากจะเพิ่ม 20 สาขา/ปี ต้องเป็นปีที่มี 200 สาขา
แต่ยังไงก็ตามการที่ บริษัทฯ ผ่านช่วง แฮมเบอเกอร์ฯ มาได้ ผมถือว่าสอบผ่าน ในเบื้องต้นครับ และที่แน่ๆ บริษัทฯ เลือกธุรกิจถูก แต่จะพบ Key success ต้องรอดูต่อไปครับ

1.กลัวจะซำ้รอยแบบ DAIDO ท่ีธุรกิจเปล่ียน ผู้บริหารไม่ซ่ือสัตย์ บริษฑัทจึงประสบปัญหา
2.ความโดดเด่นเจ้าตลาดของ HOTPOT ยังไม่เข้มแข็งมาก เม่ือเทียบกับ MK หรือบุฟเฟ่ต์แบบอ่ืนๆ
3.การเพ่ิมทุนจะเกิดขึ้นหรือไม่ หากมีความจำเป็นในการขยายสาขา เพราะถ้าขายหุ้น IPO ปีนี้ก็จะเพียงพอสำหรับปีหน้า แล้วปีต่อไป?
4.ธุรกิจร้านอาหารแบบ HOTPOT จะเทียบ pe และปัจจัยต่างๆ แบบธุรกิจค้าปลีก หรือธุรกิจอาหารท่ีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์พวก MINT CENTEL S&P OISHI (DAIDO) เป็นต้น

pakapong_u เขียน:1.กลัวจะซำ้รอยแบบ DAIDO ท่ีธุรกิจเปล่ียน ผู้บริหารไม่ซ่ือสัตย์ บริษฑัทจึงประสบปัญหา
3.การเพ่ิมทุนจะเกิดขึ้นหรือไม่ หากมีความจำเป็นในการขยายสาขา เพราะถ้าขายหุ้น IPO ปีนี้ก็จะเพียงพอสำหรับปีหน้า แล้วปีต่อไป?

สองข้อนี้น่าสนใจ ถามว่าจากรายงานfilling การเข้ามาระดมทุนมีเหตุผลอันควรไหม?

พอจะมีใครขยายความตอนที่ ไดโดมอน เกิดปัญหาแล้วต้องออกไปฟื้นฟูได้ไหมครับ

น่าจะเกิดในช่วงหลังปี 40 ขอเป็นความรู้ครับ

ทำไมหนี้สูงจังเลย

Paul VI เขียน:พอจะมีใครขยายความตอนที่ ไดโดมอน เกิดปัญหาแล้วต้องออกไปฟื้นฟูได้ไหมครับ

น่าจะเกิดในช่วงหลังปี 40 ขอเป็นความรู้ครับ

พี่ Paul VI ลองเข้าไปดูตาม Link นี้ครับ น่าจะได้เห็นภาพของ DAIDOmong มากขึ้น
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 60212.html

ตอน IPO มี 80 กว่าสาขาและมีแผนจะขยายไปญี่ปุ่นซะด้วย ในแบบ filing ก่อนเข้า IPO ก็ show ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง 3 ปี ตอนนี้ปิดไปหลายสาขาแต่ไม่แน่ใจว่าเหลือกี่สาขาแล้วนะครับ

ลองเอา Historical Revenue - Net Profit มาพิจารณา เป็นไปตามนี้ (Unit : ล้านบาท)
2542 - 671 - 8.9 ก่อนเข้า IPO
2543 - 782 - 16.5 Growth สุดยอด
2544 - 868 - 38.3 Growth สุดยอดมักๆ
2545 - 789 - 10.1 เข้า Trade กลางปี 2545 ราคาปิดวันแรกที่ 16.20 บาท Q1 ยังมี Growth แต่ปลายปี ???????
2546 - 620 - (91.3) หน้ามือเป็นหลังXXXXX
2547 - 413 - (758.3) กลางปีห้าม Trade!!!!
2548 - 298 - (283.4) .....
2549 - 262 - (187.1) .....
2550 - 212 - (175.2) .....
2551 - 247 - (112.7) .....
2552 - 271 - (117.0) .....
2553 - 274 - 1137.1 มีกำไรจากการปลดหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ!!!!!

อย่างไรก็ตามผมเพิ่งเริ่มลงทุน 2 ปีกว่าเองนะครับ ถ้ามีผู้ที่อยู่ในเหตุการจริงมาเล่าจะขอบคุณมากๆเลย

และจะว่าไปผมว่าผมสนใจหุ้นหลายๆตัวคล้ายๆพี่ Paul VI มากเลยครับ (ผมสนใจตัวไหนไปดูใน 100 คน 100 หุ้น เจอพี่ Paul ตลอดเลย แต่ไม่เจออยู่ 2 ตัว อิอิ) น่าจะมี criteria คล้ายๆกัน

ขอบคุณ คุณ tentza ครับ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

พูดตามตรง ผมอยากศึกษาว่า ทำไม brand ถึงล้มลง

ขอศึกษาเป็น biz model ครับ

เข้ามาติดตามครับ

ไม่เคยกินอ่ะครับ
เดี๋ยวกลับไปไทยต้องหาโอกาสไปลองซะแล้ว

จาก Filing การผลิตส่วนใหญ่ยังใช้แรงงาน + Margin ต่ำ

หากค่าแรงปรับขึ้นตามนโยบายรัฐบาลแล้วไม่สามรถปรับราคาขายให้แข่งขันได้ก็ลำบากครับ

เพิ่งรู้ว่ามี MK Buffet ด้วย ราคาก็พอๆกัน

ชนกันจังๆเลย

spurs เขียน:เพิ่งรู้ว่ามี MK Buffet ด้วย ราคาก็พอๆกัน

ชนกันจังๆเลย

ที่ใหนครับ บอกหน่อยจะได้ไปลอง

สาขาโลตัสนครศรี เห็นว่าเจ๊งไปแล้วนี่ครับ เคยไปกินตอนอยู่มหาลัยอาหารไม่ผ่านครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
อีกครั้งกินที่พระรามสองก็ยังงั้นๆ อยู่ดี ของเยอะเปล่าๆ ได้มีที่ดีๆอยู่ไม่ดี่อย่าง ต้นทุนทั้งนั้นนะนี่