Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมอาจจะถามนอกเรื่องนะครับ คือสับสนมานานแล้ว

1 เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ถ้ามีเยอะๆ ดีไหม ครับ มีความเสี่ยงไหมครับ เช่น ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

2 ถ้าดอกเบี้ยขาขึ้น
2.1 ดอกเบี้ยระยะสั้น กับ ดอกเบี้ยระยะยาว อันไหนจะขึ้นดอกเบี้ยก่อนกันครับ

2.2 ดอกเบี้ยระยะสั้น กับ ดอกเบี้ยระยะยาว อันไหนมีผลกระทบมากกว่ากันถ้า ดอกเบี้ยขาขึ้นอะครับ

ผมอยากทราบว่า บริษัทที่ผมลงทุน มีความเสี่ยงทางด้านต้นทุนทางการเงินอย่างไรอะครับ

financeseed เขียน:ผมอาจจะถามนอกเรื่องนะครับ คือสับสนมานานแล้ว

1 เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ถ้ามีเยอะๆ ดีไหม ครับ มีความเสี่ยงไหมครับ เช่น ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

2 ถ้าดอกเบี้ยขาขึ้น
2.1 ดอกเบี้ยระยะสั้น กับ ดอกเบี้ยระยะยาว อันไหนจะขึ้นดอกเบี้ยก่อนกันครับ

2.2 ดอกเบี้ยระยะสั้น กับ ดอกเบี้ยระยะยาว อันไหนมีผลกระทบมากกว่ากันถ้า ดอกเบี้ยขาขึ้นอะครับ

ผมอยากทราบว่า บริษัทที่ผมลงทุน มีความเสี่ยงทางด้านต้นทุนทางการเงินอย่างไรอะครับ

ดอกเบี้ยระยะสั้น ดอกเบี้ยระยะยาว เขียนผิดครับ หมายถึง เจ้าหนี้ระยะสั้น กับเจ้าหนี้ระยะยาว นะครับ

1. ถ้ามีวิกฤติ บริษัทที่มีดอกเบี้ยระยะสั้นมากจะเดือดร้อนครับ เพราะในหนึ่งปี ต้องดิ้นรนหาเงินมาชำระให้ได้
2. ไม่รู้ครับ
3.ดอกเบี้ยขาขึ้น ยังไงระยะสั้นก็ต้องกระทบกว่า เพราะเป็นหนี้ระยะสั้นที่ลูกหนี้ต้องหามาคืนเจ้าหนี้ให้ได้ เหมือนข้อ 1 ครับ

ผมก็เขียนผิดเหมือนกัน เพลินไปหน่อย เงินกู้ระยะสั้น ไม่ใช่ดอกเบี้ยระยะสั้น
ความเสี่ยงมีหลายอย่างครับ กระแสเงินสดของบริษัทเพียงพอไหม หนี้ระยะสั้นนี่ก็สำคัญครับ บริษัทปั๊มเงินไม่ทันต่อการชำระหนี้ นี่คือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง
(แต่ในรายละเอียดอย่างอื่นก็มีนะครับ บางบริษัทเก็บเงินสดไว้นิดเดียว แต่ไปลงทุนระยะสั้นในสถานะอื่นก็มีเหมือนกัน ค่อยๆศึกษาครับ)

ขอบคุณมากมมากครับ

financeseed เขียน:ผมอาจจะถามนอกเรื่องนะครับ คือสับสนมานานแล้ว

1 เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ถ้ามีเยอะๆ ดีไหม ครับ มีความเสี่ยงไหมครับ เช่น ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

2 ถ้าดอกเบี้ยขาขึ้น
2.1 ดอกเบี้ยระยะสั้น กับ ดอกเบี้ยระยะยาว อันไหนจะขึ้นดอกเบี้ยก่อนกันครับ

2.2 ดอกเบี้ยระยะสั้น กับ ดอกเบี้ยระยะยาว อันไหนมีผลกระทบมากกว่ากันถ้า ดอกเบี้ยขาขึ้นอะครับ

ผมอยากทราบว่า บริษัทที่ผมลงทุน มีความเสี่ยงทางด้านต้นทุนทางการเงินอย่างไรอะครับ

ความเห็นเพิ่มเติมของผมนะครับ
การกู่้ระยะสั้น จะมีข้อดีคือดอกเบี้ยต่ำ แต่ข้อเสียคือ ในช่วงวิกฤษอาจเกิดปัญหาไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้ได้ทัน

การกู้ระยะยาวนั้นข้อดีคือมีระยะเวลานานในการหาเงินมาชำระหนี้ ข้อเสียคือ ดอกเบี้ยจะสูงกว่าระยะสั้น

ในกรณีดอกเบี้ยมีแนวโน้มขึ้น การกู้ระยะสั้นจะเสียเปรียบเนื่องจากเมื่อครบกำหนดเราต้องกู้ในอัตราใหม่ที่สูงขึ้น แต่การกู้ระยะยาวนั้นเรายังคงได้ดอกเบี้ยในอัตราเก่าไปอีกหลายปีจนครบสัญญา อย่างไรก็ตามการกู้ธนาคารปกติดอกเบี้ยมักเป็นแบบลอยตัวครับ

ดังนั้นบริษัทควรมีการผสมเงินกู้ระยะสั้นและยาวที่เหมาะสมครับ ซึ่งจะเป็นเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจ

ผมว่า OD/ short term loan วงเงินที่ใช้ต่อปีสูงจริงครับ
แต่ระยะเวลาจะสั้นมาก บาง บ. มี OD/SL เปน 1000 ล้าน แต่มีดอกเบี้ยหลัก ล้านเท่านั้น
ผมมองว่า เปนส่วนช่วย บ. ในการบริหารหนี้ ระยะสั้น
หากดูที่ 56-1 จะมีเขียนยอดรวม และดอกเบี้ยรวมไว้ ซึ่งเมื่อเทียบกันจะน้อยมาก
เพราะ บางครั้งจะเป็นการ matching cash flow เช่น
ทราบว่าตนเองจะเก็บหนี้ได้ในเวลานี้ แต่ซื้อด้วย OD ไว้เผื่อไม่ได้ cash income มาในช่วงนั้น

ส่วนที่มีผลกับดอกเบีย น่าจะเป็น long term มากกว่านะครับ

รอติดตามอยู่นะครับ ^^
เคยเรียนทฤษฏีมาแล้ว แต่ขอทบทวนความรู้หน่อยครับ

มาขอลงเรียนด้วยคนครับ ^^

ขอดันกระทู้ดีดี ในอดีตครับ