Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ประมาณ 15% ต่อ 6 เดือนไม่รวมปันผลคับ ผมไม่มีปัญหากับการเลือกหุ้นแต่บทเรียนของผมคือหลังจากเจอหุ้นที่เราโอเคแล้ว ผมซื้อไม่เยอะมาก และค่อยๆทยอยซื้อไปเรื่อยๆ ทำให้บางครั้งผมซื้อหุ้นบางจำนวนด้วยต้นทุนที่สูงกว่าช่วงแรกๆ พอลองคำนวณคร่าวๆว่าถ้าสมมติผมซื้อหุ้นตัวเดิมด้วยเงินทั้งหมดแต่แรก จะได้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 30% ในช่วงเวลาเท่ากัน

ซึ่งปัญหาอีกอย่างคือยังไม่ชำนาญในการคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ กับ MOS ทำให้ไม่กล้าลงเงินช่วงแรกเต็มที่ พอลงทุนแบบกั๊กๆ ผลตอบแทนมันก้อเลยกั๊กๆตามไปด้วย

คงต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝนเพิ่ม

ครึ่งปีผ่านมา ได้แค่ 9.28% รวมปันผล ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ครับ
สาเหตุหลักอย่างหนึ่งคือเวลาการถือครองหุ้น น้อยไป แล้วเวลาขายก็ ขายหมูประจำ...

70 ครับ

nACrophiles_117 เขียน:ขอถามอะไรโง่ๆหน่อยครับ ว่าวิธีการคิดเป็นอย่างไร สมมติว่า

ปลายปี 53 มีเงินลงอยุ่ในพอร์ต 100 บาท มูลค่า ณ ปิดตลาดวันที่ 31 ธค เป็น 120 บาท

ต่อมา ในช่วง 6 เดือน ได้ปันผล ไป 5 บาท ระหว่างนี้ได้ทำการปรับพอร์ต หลงโจ้งคือ ขายหุ้นไปกำไร 10 บาท และเอาเงินดังกล่าว + เติมเงินใหม่เข้าไปอีก เพื่อไปซื้อหุ้นใหม่
สรุปว่าสิ้นวันที่ 30 มิย เม็ดเงินลงทุนในหุ้น เป็น 120 บาท มูลค่าหุ้นตอนปิดเป็น 125 บาท
อย่างนี้จะคิดผลตอบแทนเป็นกี่เปอร์เซนต์ครับ

ขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ

คิดแบบ xirr น่าจะประมาณ 20% +- นิดหน่อย ครับ
ถ้าต้องการตัวเลขที่แม่นยำ ต้องรู้ตัวเลขแน่นอนครับว่า
ขายออกไปเท่าไหร่ เงินเดิมรวมกับเพิ่มเงินลงทุนอีกเท่าไหร่
ใช้ google search หา วิธีการหา xirr ด้วย excel ดูครับ ง่ายมากๆ

ลองดูไฟล์ที่ผมใช้อยู่นะครับ

แต่ตัวเลขที่เห็นเป็นตัวเลขสมมติ ของผมจริงๆ ยังยาวไกล


มีการจำลองการขายทั้งกำไรและขาดทุน และจำลองการเพิ่มเงินทุกเดือน
จะเห็นว่า NAV เพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ IRR สูง เพราะมีการเติมเงินซื้อหุ้นเพิ่มระหว่างทางตั้งต้นใหม่เป็นระยะๆ
บางหุ้นซื้อไม่นานแป๊บเดียว แต่ขายได้กำไร ในระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้ตัวเลข IRR สูง เพราะมันจะนำไปกางเสมือนกำไรเต็มปี

ชนะตลาดครับ

แต่ตอนนี้พยายามไม่ขาดทุน ท่ามกลางภาวะที่ผันผวนและน่ากลัวแบบนี้

พอร์ตเมืองไทยชนะตลาดครับ

พอร์ตเมืองนอกเละเป็นโจ๊กลบเกิน 30% แน่นอน

dragonrider เขียน:

nACrophiles_117 เขียน:ขอถามอะไรโง่ๆหน่อยครับ ว่าวิธีการคิดเป็นอย่างไร สมมติว่า

ปลายปี 53 มีเงินลงอยุ่ในพอร์ต 100 บาท มูลค่า ณ ปิดตลาดวันที่ 31 ธค เป็น 120 บาท

ต่อมา ในช่วง 6 เดือน ได้ปันผล ไป 5 บาท ระหว่างนี้ได้ทำการปรับพอร์ต หลงโจ้งคือ ขายหุ้นไปกำไร 10 บาท และเอาเงินดังกล่าว + เติมเงินใหม่เข้าไปอีก เพื่อไปซื้อหุ้นใหม่
สรุปว่าสิ้นวันที่ 30 มิย เม็ดเงินลงทุนในหุ้น เป็น 120 บาท มูลค่าหุ้นตอนปิดเป็น 125 บาท
อย่างนี้จะคิดผลตอบแทนเป็นกี่เปอร์เซนต์ครับ

ขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ

คิดแบบ xirr น่าจะประมาณ 20% +- นิดหน่อย ครับ
ถ้าต้องการตัวเลขที่แม่นยำ ต้องรู้ตัวเลขแน่นอนครับว่า
ขายออกไปเท่าไหร่ เงินเดิมรวมกับเพิ่มเงินลงทุนอีกเท่าไหร่
ใช้ google search หา วิธีการหา xirr ด้วย excel ดูครับ ง่ายมากๆ

Ii'8N เขียน:ลองดูไฟล์ที่ผมใช้อยู่นะครับ

แต่ตัวเลขที่เห็นเป็นตัวเลขสมมติ ของผมจริงๆ ยังยาวไกล


มีการจำลองการขายทั้งกำไรและขาดทุน และจำลองการเพิ่มเงินทุกเดือน
จะเห็นว่า NAV เพิ่มขึ้นไม่มาก แต่ IRR สูง เพราะมีการเติมเงินซื้อหุ้นเพิ่มระหว่างทางตั้งต้นใหม่เป็นระยะๆ
บางหุ้นซื้อไม่นานแป๊บเดียว แต่ขายได้กำไร ในระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้ตัวเลข IRR สูง เพราะมันจะนำไปกางเสมือนกำไรเต็มปี

ขอบพระคุณมากครับ

ตารางคำนวณผลตอบแทนแบบ ง่ายๆ ดูผลตอบแทนรวมทั้งพอร์ต ทำมาแบ่งกันลองดูนะครับ
อยู่กระทู้ล่างๆนะครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=48331

ทางตัน เขียน:ผมขาดทุน 40 เปอร์เซ็นต์ นี่ยังถือว่าเป็น VI ได้ไหมครับ ต้องทำไงดีครับ

ผู้ที่นำหลักของ VI ไปใช้จริงๆจะทราบว่าการวิเคราะห์กิจการแต่ละบริษัท หุ้นแต่ละตัว จะใช้เวลาค่อนข้างมากเนื่องจากเป็นการประเมินค่อนข้างละเอียด และหลายครั้งการวิเคราะห์ให้ผลสรุปออกมาว่า "รอดูไปก่อน" หรือ "ราคาแพงไป" เป็นไปได้มั้ยครับว่าการวิเคราะห์ของเราอาจจะไม่ละเอียดถี่ถ้วนเพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับ VI ท่านอื่น

ในหลักการของ VI การป้องกันเงินต้นถือเป็นบัญญัติที่สำคัญที่สุดอย่างที่ Warren Buffett เคยบอกไว้ว่า "กฏข้อหนึ่งอย่าขาดทุน กฏข้อสองให้กลับไปดูกฏข้อที่หนึ่ง" อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า VI ทุกท่าน (รวมถึงตัว Warren Buffett เอง) น่าจะมีประสบการณ์ในการขาดทุน เพราะปัจจัยที่มากระทบตลาดและหุ้นตัวนั้นๆมีมากเหลือกเกิน ยากเกินกว่าที่จะคาดเดา แต่ถ้าบริษัทที่เราเลือกมานั้นเป็นบริษัทที่ดี มีผลประกอบการที่สม่ำเสมอ สุดท้ายแล้วหุ้นตัวนี้ก็จะกลับไปที่มูลค่าที่แท้จริงของมันครับ

ผมขอสรุปคำแนะนำไว้สั้นๆดังนี้ครับ

1. อยากให้เขียนออกมาครับว่า เหตุผลที่เราซื้อหุ้นในพอร์ตของเรานั้นเป็นเพราะอะไร? เนื่องจาก broker แนะนำ? เจอในบอร์ด VI? และลองนึกดูครับว่าเราทำการวิิเคราะห์ในด้านใดบ้างก่อนจะทำการลงทุน?

2. ลองเอาผลการประเมินตัวเองในข้อที่หนึ่งมาแชร์กับผู้รู้เพื่อขอความคิดเห็น โพสใน ThaiVI ก็ได้ครับ ลองเปิดรับความคิดใหม่ๆดู บางอย่างอาจจะไม่ถูกใจหรือไม่ค่อยเป็นประโยชน์เราก็รับฟัง แต่ถ้าอะไรที่พอจะเป็นประโยชน์บ้างก็ลองจดบันทึกแล้วนึกตามดูครับว่ามันเป็นจริงเช่นนั้นหรือเปล่า?

3. ถ้าพบว่าตัวเองไม่เข้าใจ comment ที่เราได้อย่างเพียงพอ ให้เวลาตัวเองในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมครับ ใน ThaiVI มีแนะนำหนังสือดีๆหลายเล่ม (หนังสือที่เขียนและแปลโดย ดร.นิเวศน์ อ่านให้ครบทุกเล่มเลยครับ รับรองไม่ผิดหวัง) อ่านให้เยอะ แล้วนำความคิดและหลักการเหล่านั้นมาย้อนถามตัวเองว่าเราทำได้อย่างที่นักลงทุนขั้นเทพเหล่านั้นหรือเปล่า? เรายังขาดอะไร?

4. ขณะเดียวกันพยายามอย่าเพิ่มความเสี่ยงในพอร์ตโดยไม่จำเป็นครับ ถ้าวิธีการลงทุนเราไม่แข็งแกร่งพอ ความพยายามที่จะแก้ตัวอาจจะทำร้ายเราให้แย่ลงไปอีก หุ้นที่แย่ที่สุด ขายออกมาถือไว้เป็นเงินสดก็ได้ครับ ส่วนหุ้นที่ดีที่สุดอาจจะเก็บไว้ได้

5. สุดท้าย ให้กำลังใจตัวเองครับ ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยขาดทุน อย่าพึ่งท้อครับ ทุกความผิดพลาดเป็นครูของเรา พยายามอย่าเรียกตัวเองว่า "ทางตัน" ครับ มันคงไม่ทำอะไรให้ดีขึ้นมา ถ้าเป็นผม ผมอาจจะเป็นเรียกตัวเองว่า "แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์" หรือ "ฟ้าหลังฝน" ครับ ฟังแล้วดูมีกำลังใจกว่าเยอะเลยยย

ขอให้โชคดีกับโลกของการลงทุนครับ มันไม่ง่ายหรอกครับ แต่ถ้าเราเรียนรู้อย่างชาญฉลาดเราก็สามารถเอาชนะมันได้ครับ แล้วผลลัพธ์อันหอมหวานจะรอเราอยู่ครับ

ถ้าอยากจะรู้เพิ่มเติม PM มาถามได้ครับ

ฟังคอมเม้นท์พี่moneymaney..คิดถึงพี่บางท่านที่หายไปนาน
ฮ่า...

เกล้า เขียน:ฟังคอมเม้นท์พี่moneymaney..คิดถึงพี่บางท่านที่หายไปนาน
ฮ่า...

พี่ๆไม่ได้หายตัวไปไหนหรอกๆครับ ยังอยู่รอบข้างเรานี่แหละ
แต่เพราะบางท่านไม่อยากใช้คำว่า big name ที่ถูกเรียกในช่วงเวลาที่ผ่านมา
เข้ามาให้คอมเม้นหุ้นรายตัวอีกต่อไป เพราะพวกเขาเหล่านั้น มีแต่เสีย ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ให้

อยากให้เพื่อนๆรับเอาคำแนะนำที่เป็นเนื้อหา อย่าไปมองที่ชื่อ ครับ

ขอบคุณคุณ moneymaney ครับที่เข้ามาให้คำแนะนำ นี่เป็นการโพสต์ครั้งแรก
แต่เป็นโพสต์ที่คุณภาพครับ

ผมว่า เปอร์เซนต์กำไรมากน้อยก็สำคัญระดับนึงครับ
แต่ไอ้ที่สำคัญกว่าคือได้เท่าไหร่ต่างหาก

+1 ครับคุณโซโล

28% ไม่รวมปันผลครับ ถ้านิ่งๆน่าจะดีกว่านี้ และ้ถ้าไม่โลภเกินความรู้ที่ตัวเองมีด้วย เพราะผมทิ้งหุ้นดีๆ ไปหาหุ้นที่คิดว่าจะเทิร์นอะราว แต่สุดท้ายหัวทิ่มครับ โชคดีที่ตัดใจได้เลยมาเริ่มต้นใหม่

ครึ่งปีได้ 20%
ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า จะมีบางตัวที่ขายขาดทุนไปด้วย

เงินปันผล บวกเครดิตภาษี เพิ่มประมาณสิบเปอร์เซนต์

มูลค่าพอร์ต บวกเงินสดจากการขายหุ้น
เพิ่มประมาณ ๗ หรือ ๘ เปอร์เซนต์จากมูลค่าพอร์ตสิ้นปีที่แล่้วครับ

คลายเครียด เขียน:เงินปันผล บวกเครดิตภาษี เพิ่มประมาณสิบเปอร์เซนต์

ผมชอบแบบนี้ครับ เพิ่ม 10% ทุกปี สบายเลย

โดยรวมยังน่าพอใจอยู่ แต่มีตัวหนึ่งตัดขาดทุนแล้ว เป็นค่าวิชา และประสบการณ์เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

ปีนี้หาหุ้นยากขึ้น กรองหุ้นด้วยไม้บรรทัดที่เข้มขึ้น และพยายาม conservative มากขึ้นครับ

แต่เหนือสิ่งอื่นใดพอร์ตเราโตด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง ไม่ใช่เหตุผลที่ผิด ๆ

ปีนี้ค่าหน่วยกิจแพงครับ
เลยตั้งตรวจสอบกันตั้งแต่ครึ่งปี

เกล้า เขียน:ฟังคอมเม้นท์พี่moneymaney..คิดถึงพี่บางท่านที่หายไปนาน
ฮ่า...

นึกว่าผมคิดคนเดียว

ผลตอบแทนก็ชนะตลาดอยู่ไม่น้อย เป็นปีที่แทบจะไม่ได้เคลื่อนไหวเลยจริงๆ ลงทุนเพิ่มก็ลงทุนตัวเดิม ถึงแม้ตลาดจะไม่ไปไหนไกล แต่ก็มีหุ้นอยู่หลายตัวที่ชนะตลาดมโหฬารผ่านหูผ่านตาไปให้ได้เก็บมาเป็นบทเรียนได้ศึกษา เพราะหลายตัวพื้นฐานดี ทำกำไรได้ดีและเติบโตแข็งแร่งอย่าง dsgt sc cpall jubile synex csl tks ที่เอ่ยมาไม่ได้มีถึงซักตัวนะ เอามาเป็นกรณีศึกษา ผมมองว่าเป็นหุ้นดีที่ราคาขึ้นมาตามพื้นฐานจริงๆ

todto เขียน:

เกล้า เขียน:ฟังคอมเม้นท์พี่moneymaney..คิดถึงพี่บางท่านที่หายไปนาน
ฮ่า...

นึกว่าผมคิดคนเดียว

ไม่นึกก็ไม่ได้ครับ ..ตัวผมพอได้กิ่นอิ่มนอนหลับมาจนทุกวันนี้
ก็ด้วยแนวความคิดที่ตกผลึกในแนวความคิดของพี่ๆหลายๆท่านครับ
ห่างหายไปย่อมคิดถึงเป็นธรรมดา...ครึ่งปีมานี้พอร์ตโดยรวมชนะตลาด
อยู่ 50% ไม่รวมเงินปันผล..ก็โดยคำแนะนำของพี่ๆทั้งหลาย..ก็พอได้
เห็นผลตอบแทนชื่นตาชื่นใจอยู่บ้าง...

ครึ่งปีผลตอบแทน +15% ครับ

ปีนี้ผมทำผิดพลาดเยอะมาก ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ

+ 17% net gain แต่ถ้าเทียบกับเงินต้นที่ใส่เข้าไป กำไรเพิ่มลดลงครับ
บทเรียนครึ่งปี คือ อย่าย่ามใจมากเกินไป