Re: ออกมาลงทุนเต็มเวลา
โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 23, 2011 11:56 am
ผม32 แต่ลงพุงแล้ว ออกจากงานก็หวังนะสักวันนึงเร็วๆนี้ แต่ออกมาขอมีร้านขายยา(กำลังจะเสร็จ) กับร้านขายกาแฟไว้มีเพื่อนคุยเรื่องหุ้นสักหน่อยก็คงดี
เว็บบอร์ดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้น วีไอ แนวทางลงทุน คลังความรู้หุ้นวีไอ แหล่งรวมนักลงทุนหุ้นวีไอที่ใหญ่ที่สุด พร้อมรับสมาชิก VIP มีหมวดลงทุน ร้อยคนร้อยหุ้น คอมเม้นและข้อมูลดีๆ จากนักลงทุนเน้นคุณค่าผู้มีประสบการณ์ ข้อมูล Oppday ของหุ้นวีไอ
https://v3.thaivi.org/
เห็นด้วยครับ มีไข่สองใบมั่นใจกว่าก็เหมือนเรากระจายไข่ของเราในตะกร้า สองใบครับ
จะดีเหรอครับ ถ้าไข่เรากระจายWEB เขียน:เห็นด้วยครับ มีไข่สองใบมั่นใจกว่าก็เหมือนเรากระจายไข่ของเราในตะกร้า สองใบครับ
สั่งตัดตัวนึง 800++ ผมว่าคุ้มค่านะ ซื้อมาราคาก็ถูกกว่านิดเดียวsiebelize เขียน:ปกติ สั่งตัดจะแพงกว่าสำเร็จรูปนะครับPaul VI เขียน: ถูกใจมากครับ โดยเฉพาะ ความสุขเหมือนเสื้อผ้าสั่งตัด
Ani เขียน:จะดีเหรอครับ ถ้าไข่เรากระจายWEB เขียน:เห็นด้วยครับ มีไข่สองใบมั่นใจกว่าก็เหมือนเรากระจายไข่ของเราในตะกร้า สองใบครับ
ฮาจริง ... ออกมาเป็นไข่กระจายได้ไงBotong เขียน:Ani เขียน:จะดีเหรอครับ ถ้าไข่เรากระจายWEB เขียน:เห็นด้วยครับ มีไข่สองใบมั่นใจกว่าก็เหมือนเรากระจายไข่ของเราในตะกร้า สองใบครับ
รู้นะ คิดอะไร... หหุ
ผมตกงาน ตอนวิกฤติ ปี 40sunrise เขียน:ผมเชื่อว่าหลายๆคนฝันอยากออกมาเป็นนักลงทุนเต็มเวลา
ไม่ต้องโดนนายด่า ลูกค้าตาม เงินเดือนน้อย
อยากไปเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ไป อยากนอนตื่นสาย อยาก ว่างๆ เมื่ออยากว่าง
ไม่ต้องกลัวเราเป็น VI ผลตอบแทนปีละ 15 % ก็พอแล้ว
(แต่สองสามปีที่ผ่านมากำไรหลายเท่าตัวนัก 15 % -20 % ทำได้อยู่แล้ว)
อยากเตือนว่า ขอให้ระวังการตัดสินใจให้ดี
เราอาจจะอยู่ในช่วงตลาดไม่ดีได้ เศรษฐกิจโลก ทั้งเมกาและยุโรปกำลังมีปัญหา ถึงแม้เราอาจจะมองว่า
พวกเค้ามีปัญหา เงินต้องไหลมาเอเชีย
แต่บางครั้งตลาดหุ้น มักจะไปเร็วกว่า ความเป็นจริงเสมอ และอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้
วิกฤตินั้น อาจจะยังไม่มา หรือ วิกฤติอาจจะมาถึงแล้วแต่เรายังไม่รู้ เราจะรู้ตัวเมื่ออยู่ในวิกฤติเสมอ
แล้วถ้ามันมาเราจะไม่มีทางออกได้
ผมเคยออกจากงาน แล้วเจอวิกฤติพอดี
เครียดมากครับ
แต่ถ้าเรายังมีงาน มีอาชีพ เราจะผ่านมันไปได้
ดังนั้นก่อนจะออกจากงานหรือตัดสินใจอะไรแรงๆ
คิดให้รอบคอบนะครับ
ด้วยความหวังดีอย่างที่สุด
ว้าว...พี่โดมจะถึงฝั่งฝันแล้วdome@perth เขียน:
ผมตกงาน ตอนวิกฤติ ปี 40
ได้งานใหม่หลังจากนั้น 2 ปี และทำงานเก็บเงินมาร่วม 10 ปี
ผมแพลนจะออกจากงานตั้งแต่ตอนวิกฤติ ปี 52
ระยะเวลาถูกเลื่อนออกไป เพราะมีพันธะทางใจกับเจ้าของกิจการ อีก 2 ปี
หวังว่าอีก 2 ปีข้างหน้า จะไม่เกิดวิกฤติหนักๆ ทำให้ผมต้องเลื่อนการหยุดงานประจำนะ
ผมขอ share บ้างครับdome@perth เขียน:ผมตกงาน ตอนวิกฤติ ปี 40sunrise เขียน:ผมเชื่อว่าหลายๆคนฝันอยากออกมาเป็นนักลงทุนเต็มเวลา
ไม่ต้องโดนนายด่า ลูกค้าตาม เงินเดือนน้อย
อยากไปเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ไป อยากนอนตื่นสาย อยาก ว่างๆ เมื่ออยากว่าง
ไม่ต้องกลัวเราเป็น VI ผลตอบแทนปีละ 15 % ก็พอแล้ว
(แต่สองสามปีที่ผ่านมากำไรหลายเท่าตัวนัก 15 % -20 % ทำได้อยู่แล้ว)
อยากเตือนว่า ขอให้ระวังการตัดสินใจให้ดี
เราอาจจะอยู่ในช่วงตลาดไม่ดีได้ เศรษฐกิจโลก ทั้งเมกาและยุโรปกำลังมีปัญหา ถึงแม้เราอาจจะมองว่า
พวกเค้ามีปัญหา เงินต้องไหลมาเอเชีย
แต่บางครั้งตลาดหุ้น มักจะไปเร็วกว่า ความเป็นจริงเสมอ และอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้
วิกฤตินั้น อาจจะยังไม่มา หรือ วิกฤติอาจจะมาถึงแล้วแต่เรายังไม่รู้ เราจะรู้ตัวเมื่ออยู่ในวิกฤติเสมอ
แล้วถ้ามันมาเราจะไม่มีทางออกได้
ผมเคยออกจากงาน แล้วเจอวิกฤติพอดี
เครียดมากครับ
แต่ถ้าเรายังมีงาน มีอาชีพ เราจะผ่านมันไปได้
ดังนั้นก่อนจะออกจากงานหรือตัดสินใจอะไรแรงๆ
คิดให้รอบคอบนะครับ
ด้วยความหวังดีอย่างที่สุด
ได้งานใหม่หลังจากนั้น 2 ปี และทำงานเก็บเงินมาร่วม 10 ปี
ผมแพลนจะออกจากงานตั้งแต่ตอนวิกฤติ ปี 52
ระยะเวลาถูกเลื่อนออกไป เพราะมีพันธะทางใจกับเจ้าของกิจการ อีก 2 ปี
หวังว่าอีก 2 ปีข้างหน้า จะไม่เกิดวิกฤติหนักๆ ทำให้ผมต้องเลื่อนการหยุดงานประจำนะ
คิดแบบนี้ผมมองว่าไม่ถูกครับ เพราะปี51เป็นปีที่ดัชนีต่ำกว่าปกติครับ ถ้าจะให้ใกล้เคียงควมจริงควรจะนำดัชนีปี 2550 มาคิดด้วยครับ^^CheNz เขียน:ขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เอาข้อมูลมาหาเรื่องนะครับ แต่เอาข้อมูลมาแชร์กันครับkumchai เขียน:อยากออกมาเป็นนักลงุนเต็มเวลาเหมือนกัน เพราะเบื่อทำงานแล้วอยากไปเที่ยวต่างประเทศพอร์ทผมโตปีละ30% มาตลอด3 ปีที่ผ่านมาคิดว่าถ้าบริหารดีๆก็อยู่ได้
ดัชนีปี 2551 อยู่ที่ 449.96 จุด
ดัชนีปี 2552 อยู่ที่ 734.54 จุด เพิ่มขึ้น 63.24%
ดัชนีปี 2553 อยู่ที่ 1032.76 จุด เพิ่มขึ้น 40.60%
ดัชนี 08/2554 อยู่ที่ 1069.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.53%
ผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งตลาดอยู่ที่ 35.79%
ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า หากบริหารพอร์ทได้ดี มองแค่ภาพบริษัทดีๆในตลาด ที่ราคาไม่สูงมาก ณ ช่วงเวลาเริ่มต้นนั้น ตัดบริษัทแย่ๆออก ผลตอบแทนจากการลงทุนใน 3 ปีที่ผ่านมา ควรจะได้มากกว่า 50% อีกนะครับ
ที่ผมยกมาพูด เนื่องจากเกรงว่า เมื่อถึงจังหวะเวลาเกิดวิกฤติ หรือเจอภาวะตลาดหมีที่ยาวนาน จะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนได้ครับ ผมมองว่าผลตอบแทนที่ 30% ต่อปี หากคิดแค่ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ผมว่ายังบริหารพอร์ทได้ไม่ดีพอครับ แต่ต่างคนก็ต่างความพอใจ และความคาดหวังในผลตอบแทนต่างกันครับ
แค่เป็นห่วงครับ ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด หากผิดพลาดอย่างไร รบกวนชี้แนะครับ