Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมเคยดู STA ครับ จุดที่สนใจประมาณ ปี 53

ผมดู STA แต่ไปซื้อ TRUBB ตอนนั้น ราคา TRUBB ช่วงต้นน่าจะ Laggard หน่อย ๆ จากงบที่ซ่อนกำไรอยู่

ผมเข้าไปช่วง กลาง ๆ วัฎจักรหลังจากราคาปรับขึ้นมาแล้วระดับหนึ่ง

พื้นฐาน เปลี่ยนหลัก ๆ เกิดมาจาก การขยายตัวของการใช้รถยนต์ ใน จีน และ อินเดีย

ตอนนั้น ราคายางเปลี่ยนแปลง ชัดเจน ทุกคนที่ทำสวนยางรวยกันหมด

ข่าวราคายางปรับขึ้นทุกวัน

ราคาหุ้นช่วงวิ่ง ชิลลิ่ง หลายวันติด หนังสือพิมพ์ปรับเป้าเป็นรายวันเลยครับ

จากราคายางช่วงนั้น ทำให้ทุกวันนี้ คนปลูกยาง ทั่วทุกภาค และหลายประเทศ

ผลสุดท้าย ราคายางก็เริ่มกลับลงมา ตาม Supply ที่น่าจะล้น ไปอีกพักใหญ่


หุ้นตัวนี้ ผูกพัน กับราคายาง เป็นหลักครับ

(อื่น ๆ ก็จำไม่ค่อยได้แล้ว )

พื้นฐานเปลี่ยนไปได้ 4 แบบ ดูแล้วกันว่าหุ้นคุณเปลี่ยนไปทางไหน ภาพจากคุณคลายเครียดครับ

คำตอบแรก เอาแบบตรงๆเลยคือการ

ย้ายโรงงานครับ เปลี่ยนทั้ง"พื้น" และ "ฐาน"
เป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญทางธุรกิจ

พื้นฐานเปลี่ยนคือ เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก
โดยความสำคัญนั้นมากกว่าหรือเทียบเท่ากับการย้ายหรือสร้างบ้านใหม่ทีเดียว
ไม่เกี่ยงว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นเรื่องอะไร

ยกตัวอย่าง
ปตท เมื่อวานนี้ และ ปตท วันนี้ ราคาที่ขึ้นลง
ไม่เกี่ยวกับพื้นฐานที่เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น ธุรกิจมันแทบจะเหมือนกันเลย
ราคาเปลี่ยนขนาดไหนไม่เกี่ยว หรือ เกี่ยวน้อย

บริษัทเปลี่ยนผู้บริหาร สมมติ ธนาคาร กรุงหมี
ผลประกอบการงั้นๆ ตามธนาคาร กสิกรทุย และ ทนพานิช ไม่ทัน
ทางบอร์ดจึงมีมติเปลี่ยนผู้บริหารสูงสุด โดยเอาฝรั่งคนใหม่เข้ามา
อันนี้อาจทำให้พื้นฐานเปลี่ยน

ธุรกิจยาง ซบเซามานาน ผู้ประกอบการพากันออกจากตลาด
เศรษฐกิจมีปัญหา คนชะลอการซื้อรถ ความต้องการตกต่ำ
สุดท้ายคนกลับมาซื้อรถ ยางขาดตลาด ราคายางขึ้นพรวด
อย่างนี้พื้นฐานเปลี่ยน ชั่วคราว ไม่นานก็เหมือนเดิม

แอปเปิ้ล สตีฟตาย พื้นฐานเปลี่ยน

ผู้บริหารใหญ่เปลี่ยน
ความต้องการเปลี่ยน
ตลาดเปลี่ยน
คู่แข่งเปลี่ยน
สินค้าทดแทนเปลี่ยน
และอื่นๆอีกหลายอย่าง แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องส่งผลกระทบแบบใหญ่ๆ
เพราะฐานเป็นอะไรที่อยู่ล่าง รองรับทั้งธุรกิจ ถ้าไม่แรงจริง ฐานไม่ขยับ

เห็นคุณ wpong และคุณ crazyrisk คุยกันแล้วน่าจะไปต่อห้อง BTS หรือ VGI เลยนะครับห้องเงียบเหงาเหลือเกิน ประเด็นที่คุยกันน่าสนใจมาก

ขอบคุณพี่โดมครับ สำหรับกระทู้ อ่านกระทู้แล้วเลยอยากขอถามหน่อยครับ ว่าถ้าพื้นฐานเปลี่ยนแค่ชั่วคราว กับพื้นฐานเปลี่ยนถาวรในทิศทางที่ดีขึ้น หุ้นพวกนี้ควรให้ค่า P/E ยังไงครับ
ปล ไม่รวมพวกหุ้นวัฏจักรนะครับ

และขออนุญาตยกตัวอย่างและถามแบบเชิงพื้นฐานไม่รวมราคาหุ้นนะครับว่าหุ้นอย่าง MALEE KAMART BTS พี่ๆคิดว่าหุ้นพวกนี้ถือว่ามีพื้นฐานที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างถาวรหรือชั่วคราวครับ <ย้ำอีกทีนะครับ ว่าไม่เอาราคาหุ้น หรือ P/E ปัจจุบันมาคิดนะครับ>

คือโดยส่วนตัวถ้าพื้นฐานเปลี่ยนดีขึ้นถาวร นอกเหนือจากงบการเงินที่เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น วิสัยทัศน์ของการดำเนินธุรกิจของ ผบห และ ลักษณะการทำตลาดของเค้าจะเป็นลักษณะคือ
1. ค่อนข้างผูกขาด คู่แข่งเข้ายาก หรือไม่ก็
2. มีแบรนด์ที่ติดตลาด หรือไม่ก็
3. อยู่ในธุรกิจประเภท megatrend ไปเลย เพราะพวกนี้คงเติบโตไปได้อย่างน้อยเป็น 10-20 ปี

ผมว่าตรงจุดนี้มันมองยากนะครับ ว่าพื้นฐานของหุ้นที่เราวิเคราะห์หรือคิดว่าดีเพราะพื้นฐานเปลี่ยนนั้น มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นถาวรหรือชั่วคราว

ส่วนพวกชั่วคราว เปรียบแบบง่ายๆก็คงประเภทหุ้นในกลุ่มโรงแรมมั้งนะครับ ผมอาจจะยกตัวอย่างผิดก็ได้นะครับ

ที่ หมอ k ให้ตัวอย่างมา ผมตามห่างๆอยู่ 2ตัว แต่รู้ไม่ลึกจริง เลยไม่อยากจะแสดงความคิดเห็น. แต่ขออณุญาติเป็นตัวอื่นแทนแล้วกัน ตัวนั้นคือ หุ้น โรงพยาบาล เกษมสันต์(นามสมมุติ)นะครับเดี๋ยวโดนข้อหาเชีย์รหุ้นกลัวโดนลบ. คือโรงพยาบาลนี้ในอดีตรับผู้ป่วย30บาทแล้วยกเลิกเพื่อที่จะใช้พื้นที่มารองรับผู้ป่วยเงินสดที่มีMARGINดีกว่า และยังสร้างดรงพยาบาลใหม่ซึ่งใกล้จะGRAND OPENINGแล้วในเดือน ต. ค.2012ที่จะมาถึงนี้. พื้นฐานเปลี่ยนไปในทางที่ดีใช่ไหมครับอย่างนี้? อยู่มาวันหนึ่งมีโรงพยาบาลบำรุงเลือกมาขอซื้อหุ้นเกือบจะ24.99%ไม่ต้องทำTENDER OFFER เพราะไม่ถึง25%จาก ผ.ถ.ห.รายเดิมแลนแอนฮอท์ เมือ่ไม่นานมานี้ร.พ.บำรุงเลือกได้ขายหุ้นที่ซื้อมาทั้งหมดให้แก่น.ล.ท.รายใหม่ อย่างนี้ผมเข้าใจว่าคงไม่เปลี่ยนพื้นฐาน แต่ที่ขายเพราะว่ากำไรมากจนพอใจ. ฐานะทางการเงินของเกษมสันต์ก็อยู่ในเกณ์ที่ดี ผ.ถ.หใหญ่ยังอยู่ สรุปขอแค่นี้ก่อนว่า เกษมสันต์ตามความคิดของคุณหมอKยังไม่เปลี่นนใช่ไหมครับ?

vim เขียน:เห็นคุณ wpong และคุณ crazyrisk คุยกันแล้วน่าจะไปต่อห้อง BTS หรือ VGI เลยนะครับห้องเงียบเหงาเหลือเกิน ประเด็นที่คุยกันน่าสนใจมาก

ขอบคุณที่เชิญนะครับ ถ้าจัดเวลาได้จะเข้าไปนะครับ