คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 661
ช่ายเพ่ ตอนนี้พักหนาวอยู่ อิอิ เลยอารมณ์ดีแบบเพี้ยนๆ ตอนนี้ยิ่งเป็นการพักครั้งสุดท้ายของปี ในปีหน้า งานเพียบแหงๆ ช่วงนี้ก้อเลยพาทิซิเพต ในเว็บได้เยอะเป็นพิเศษ
ปีใหม่ตอนไปเที่ยว เอาหนังสือของ fisher ไปอ่านด้วย ตั้งใจว่าจะอ่านให้จบ ปรากฎว่า บ่สำเร็จเด้อ อิอิ ก้อเลยมาขอความรู้คุณวิบูลย์แทน
ผมพอมีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเชิงปริมาณแบบพอไปได้ในการดูหุ้น เลยลองมาดูอาจารย์ฟิชเชอร์ซึ่งผมคิดว่าเป็นมุมมองทางด้านคุณภาพที่ดีมากอีกวิธี ก้อเลยลองหาความรู้เพิ่มเติมดูนะครับ
พี่ๆ เพื่อนๆ เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มั้ยครับ ผมคนชอบอ่านนะ ตอนนี้ยังมีหนังสือในคิวที่จะอ่านแยะเลย ตั้งแต่ fisher Harry Potter ภาคภาษาไทย Lord of the ring ตอนกษัตย์คืนบัลลังก์ ชอลิ้วเฮียงตอนตำนานกระบี่หยก (หาซื้อไม่ได้เลย หมดแผงเลย)
เจอหนังสือเล่มนี้ไป ซึมไปเลยคับ คุณภาพคับแก้ว แต่ก้ออ่านยากพอควรครับ
ปีใหม่ตอนไปเที่ยว เอาหนังสือของ fisher ไปอ่านด้วย ตั้งใจว่าจะอ่านให้จบ ปรากฎว่า บ่สำเร็จเด้อ อิอิ ก้อเลยมาขอความรู้คุณวิบูลย์แทน
ผมพอมีความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเชิงปริมาณแบบพอไปได้ในการดูหุ้น เลยลองมาดูอาจารย์ฟิชเชอร์ซึ่งผมคิดว่าเป็นมุมมองทางด้านคุณภาพที่ดีมากอีกวิธี ก้อเลยลองหาความรู้เพิ่มเติมดูนะครับ
พี่ๆ เพื่อนๆ เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มั้ยครับ ผมคนชอบอ่านนะ ตอนนี้ยังมีหนังสือในคิวที่จะอ่านแยะเลย ตั้งแต่ fisher Harry Potter ภาคภาษาไทย Lord of the ring ตอนกษัตย์คืนบัลลังก์ ชอลิ้วเฮียงตอนตำนานกระบี่หยก (หาซื้อไม่ได้เลย หมดแผงเลย)
เจอหนังสือเล่มนี้ไป ซึมไปเลยคับ คุณภาพคับแก้ว แต่ก้ออ่านยากพอควรครับ
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1496
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 662
คุณ ayethebing ครับ เหมือนผมเลยครับ
ผมก็กำลังแกะ common stock and uncommon profit อยู่ครับ
มึนตั้งแต่ คำนำเลยครับ เหอะๆ แต่ก็ยังอุ่นใจบ้าง เพราะเห็น ลูกของ อาจารย์ Fisher เขียนคำนำ ไว้ว่า ตอนแกอ่านหนังสือของพ่อ อ่านรอบแรกก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ต้องอ่านหลายๆรอบ ยิ่งอ่านมากยิ่งดี
ผมตอนนี้ก็อ่านถึง fifteen point อ่านไปแล้วก็คิด โห จะทำได้มั้ยวะเนี่ยะ! ดูแล้วมันเป็นข้อมูลเชิงลึกยังไงไม่ทราบ
แต่ก็บอกตรงๆ ว่ายังเข้าใจไม่ถึง 50 % ครับ
คุณ ayethebing มาช่วยกันอ่านมั๋ยครับ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะอ่านแปล็บเดียว โฮะๆ เสียเวลานานแฮะ เพราะยังมีหนังสือเข้าคิวอีกเยอะ
1. Learn to earn
2. Harry potter 5
3. Peter lyne beating the Street
4. งบกระแสเงินสดและงบการเงินรวม
5. การปรับโครงสร้างทางการเงิน
6. Intelligent Investor < เอาเป็นเล่มสุดท้าย >
ซื้อมาทีเดียวรวดครับ
ผมก็กำลังแกะ common stock and uncommon profit อยู่ครับ
มึนตั้งแต่ คำนำเลยครับ เหอะๆ แต่ก็ยังอุ่นใจบ้าง เพราะเห็น ลูกของ อาจารย์ Fisher เขียนคำนำ ไว้ว่า ตอนแกอ่านหนังสือของพ่อ อ่านรอบแรกก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ต้องอ่านหลายๆรอบ ยิ่งอ่านมากยิ่งดี
ผมตอนนี้ก็อ่านถึง fifteen point อ่านไปแล้วก็คิด โห จะทำได้มั้ยวะเนี่ยะ! ดูแล้วมันเป็นข้อมูลเชิงลึกยังไงไม่ทราบ
แต่ก็บอกตรงๆ ว่ายังเข้าใจไม่ถึง 50 % ครับ
คุณ ayethebing มาช่วยกันอ่านมั๋ยครับ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะอ่านแปล็บเดียว โฮะๆ เสียเวลานานแฮะ เพราะยังมีหนังสือเข้าคิวอีกเยอะ
1. Learn to earn
2. Harry potter 5
3. Peter lyne beating the Street
4. งบกระแสเงินสดและงบการเงินรวม
5. การปรับโครงสร้างทางการเงิน
6. Intelligent Investor < เอาเป็นเล่มสุดท้าย >
ซื้อมาทีเดียวรวดครับ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 663
เหมือนกันเลยครับ กว่าจะแปล กว่าจะเข้าใจ ตอนนี้เลยเก็บไว้อ่านทีหลัง เพราะต้องอ่านหนังสือใหม่ที่แปลออกมา "ลงทุนแบบวอร์เรนฯ" ก่อน เพิ่งซื้อมา เพราะถ้าอ่านเข้าใจภาษาไทยแล้ว พอไปเจอภาษาอังกฤษก็จะแปลแล้วเข้าใจง่ายขึ้นkotaro เขียน:คุณ ayethebing ครับ เหมือนผมเลยครับ
ผมก็กำลังแกะ common stock and uncommon profit อยู่ครับ
มึนตั้งแต่ คำนำเลยครับ เหอะๆ แต่ก็ยังอุ่นใจบ้าง เพราะเห็น ลูกของ อาจารย์ Fisher เขียนคำนำ ไว้ว่า ตอนแกอ่านหนังสือของพ่อ อ่านรอบแรกก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ต้องอ่านหลายๆรอบ ยิ่งอ่านมากยิ่งดี
ผมตอนนี้ก็อ่านถึง fifteen point อ่านไปแล้วก็คิด โห จะทำได้มั้ยวะเนี่ยะ! ดูแล้วมันเป็นข้อมูลเชิงลึกยังไงไม่ทราบ
แต่ก็บอกตรงๆ ว่ายังเข้าใจไม่ถึง 50 % ครับ
คุณ ayethebing มาช่วยกันอ่านมั๋ยครับ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะอ่านแปล็บเดียว โฮะๆ เสียเวลานานแฮะ เพราะยังมีหนังสือเข้าคิวอีกเยอะ
1. Learn to earn
2. Harry potter 5
3. Peter lyne beating the Street
4. งบกระแสเงินสดและงบการเงินรวม
5. การปรับโครงสร้างทางการเงิน
6. Intelligent Investor < เอาเป็นเล่มสุดท้าย >
ซื้อมาทีเดียวรวดครับ
Expecto Patronum!!!!!!
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 664
แนะนำให้อ่าน Peter Lynch - Beating the street ก่อน
อ่านง่าย เข้าใจง่าย นำไปใช้ก้อไม่ยากครับ
Fisher ถ้ายังไม่ได้อ่าน Lynch อย่าเพิ่งอ่านเลย มันใช้เวลานาน
อ่านง่าย เข้าใจง่าย นำไปใช้ก้อไม่ยากครับ
Fisher ถ้ายังไม่ได้อ่าน Lynch อย่าเพิ่งอ่านเลย มันใช้เวลานาน
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 665
สวัสดีปีใหม่กับพี่ TVI
ขอขอบคุณพี่ๆสำหรับความรู้ต่างๆที่ได้แนะนำน้องๆในการลงทุน
มีความสุขมากๆในวันปีใหม่นะครับ
ขอขอบคุณพี่ๆสำหรับความรู้ต่างๆที่ได้แนะนำน้องๆในการลงทุน
มีความสุขมากๆในวันปีใหม่นะครับ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 666
ขออวยพรด้วยคนละกัลลลล
ขอพระคุณ พระศรี รัตนตรัย
จงบันดาล ให้เพื่อนๆ และผองพี่
ประสบสุข ทุกข์มลาย ปีใหม่นี้
ชาวทีวี ไอรวยๆ กันทุกคน
ถ้ากระผม เคยล่วงเกิน ต้องขอกราบ
อยากให้ทราบ ไร้เจตนา ไม่หวังผล
มีหวังดี ที่มอบให้ กับทุกคน
ผมคนจน แต่ไม่เคย จนน้ำใจ
ปีใหม่นี้ ขอให้เพื่อน จงมีสติ
ได้วิเคราะห์ หุ้นดีดี ยังหาได้
ไม่ต้องกลัว ดัชนี ป่วนจิตใจ
กินก้อได้ หลับก้อดี สุขสำราญ
ถือหุ้น ระยะยาว แสนสุโข
แม้ไม่โก้ อวดพอร์ทใคร ก้อไม่ได้
ยึดมั่นแนว ลงทุนไว้ ให้อุ่นใจ
ลองเทอร์มไซร้ นั่นแหละ วัดกันจริง
ขอขอบคุณ พี่เพื่อน ในเวบนี้
ที่คอยช่วย ให้ความรู้ และสุงสิง
ขนาดยุ่งๆ งานพันตัว มือเป็นลิง
ยังช่วยยิง คำตอบให้ ได้เข้าใจ
พี่ครรชิต เฮียเจ๋ง คุณวิบูลย์
ยอดเซียนหุ้น ตัวจริง ยกนิ้วให้
เฮียปรัชญา คุณมน คนจริงใจ
อีกหลายๆ ท่านที่ ให้ไมตรี
เขียนมานาน ชักเบลอ เขียนไม่ออก
แต่ไม่ลอก กลอนนี้ มาจากไหน
ถ้าติดขัด ไม่ไพเราะ ก้อขออภัย
อยากจะให้ กลอนอันนี้ แทนอวยพร
สุดท้ายนี้ ขอให้เวบ ทีวีไอ
ไม่ไปไหน อยู่กับเรา คนเล่นหุ้น
มีเวบนี้ ให้ข้อมูล คอยค้ำจุน
ร่ำรวยทุน สุขสบาย ถ้วนหน้าเอย
ขอพระคุณ พระศรี รัตนตรัย
จงบันดาล ให้เพื่อนๆ และผองพี่
ประสบสุข ทุกข์มลาย ปีใหม่นี้
ชาวทีวี ไอรวยๆ กันทุกคน
ถ้ากระผม เคยล่วงเกิน ต้องขอกราบ
อยากให้ทราบ ไร้เจตนา ไม่หวังผล
มีหวังดี ที่มอบให้ กับทุกคน
ผมคนจน แต่ไม่เคย จนน้ำใจ
ปีใหม่นี้ ขอให้เพื่อน จงมีสติ
ได้วิเคราะห์ หุ้นดีดี ยังหาได้
ไม่ต้องกลัว ดัชนี ป่วนจิตใจ
กินก้อได้ หลับก้อดี สุขสำราญ
ถือหุ้น ระยะยาว แสนสุโข
แม้ไม่โก้ อวดพอร์ทใคร ก้อไม่ได้
ยึดมั่นแนว ลงทุนไว้ ให้อุ่นใจ
ลองเทอร์มไซร้ นั่นแหละ วัดกันจริง
ขอขอบคุณ พี่เพื่อน ในเวบนี้
ที่คอยช่วย ให้ความรู้ และสุงสิง
ขนาดยุ่งๆ งานพันตัว มือเป็นลิง
ยังช่วยยิง คำตอบให้ ได้เข้าใจ
พี่ครรชิต เฮียเจ๋ง คุณวิบูลย์
ยอดเซียนหุ้น ตัวจริง ยกนิ้วให้
เฮียปรัชญา คุณมน คนจริงใจ
อีกหลายๆ ท่านที่ ให้ไมตรี
เขียนมานาน ชักเบลอ เขียนไม่ออก
แต่ไม่ลอก กลอนนี้ มาจากไหน
ถ้าติดขัด ไม่ไพเราะ ก้อขออภัย
อยากจะให้ กลอนอันนี้ แทนอวยพร
สุดท้ายนี้ ขอให้เวบ ทีวีไอ
ไม่ไปไหน อยู่กับเรา คนเล่นหุ้น
มีเวบนี้ ให้ข้อมูล คอยค้ำจุน
ร่ำรวยทุน สุขสบาย ถ้วนหน้าเอย
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 667
eyethebing แต่งกลอนได้ดีจริงครับ
ขอให้พรนี้จงกลับไปสู่คุณ eyethebing และครอบครัวครับ
ไม่แปลกใจครับเลยว่าทำไมผู้อาวุโสถึงได้มาชุมนุมในนี้กันคับคั่ง
ผมเข้าเวบนี้มาก็นานแล้วตั้งแต่กระทู้ยังไม่มี พอเห็นกระทู้นี้ตั้งขึ้นมาก็ไม่สนใจจะเปิดอ่าน เพราะว่าหัวข้อกระทู้มันหลอกเอา ผมคิดว่าเป็นพวกกระทู้มีรายชื่อหุ้นหรือ อีเมล์ใบ้หุ้นประเภทนั้น มาเปิดเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนนี่เองครับ
ใกล้เกลือกินด่างจริงๆเลยครับผม
ขอให้พรนี้จงกลับไปสู่คุณ eyethebing และครอบครัวครับ
ไม่แปลกใจครับเลยว่าทำไมผู้อาวุโสถึงได้มาชุมนุมในนี้กันคับคั่ง
ผมเข้าเวบนี้มาก็นานแล้วตั้งแต่กระทู้ยังไม่มี พอเห็นกระทู้นี้ตั้งขึ้นมาก็ไม่สนใจจะเปิดอ่าน เพราะว่าหัวข้อกระทู้มันหลอกเอา ผมคิดว่าเป็นพวกกระทู้มีรายชื่อหุ้นหรือ อีเมล์ใบ้หุ้นประเภทนั้น มาเปิดเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนนี่เองครับ
ใกล้เกลือกินด่างจริงๆเลยครับผม
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 668
ผมคิดว่า ท่านอาจารย์ น่าจะให้ความสำคัญกับข้อ 15 มากที่สุด
อิอิ .....
คือ ความซื่อสัตย์ ของผู้บริหารง่ะ
เนื่องจาก เขียนไว้ในตอนจบว่า
บริษัท ใดๆก็ตาม แม้ว่า จะมีคุณสมบัติไม่ครบ ทั้ง 15 ข้อ
ก็ยังน่าสนใจ
ถ้าหากมีบางข้อ ที่สามารถ มาชดเชยข้อที่ขาดไปได้
แต่ถ้าหาก ขาดข้อ 15 คือ ความซื่อสัตย์ของผู้บริหารเสียแล้ว
อย่าได้ร่วมเข้าไปสังฆกรรมด้วย กับริษัทนั้น
ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญ สมหวังครับ
โดยเฉพาะ คุณวิบูลย์ ขอให้มีความสุขที่สุดครับ...อิอิ
อิอิ .....
คือ ความซื่อสัตย์ ของผู้บริหารง่ะ
เนื่องจาก เขียนไว้ในตอนจบว่า
บริษัท ใดๆก็ตาม แม้ว่า จะมีคุณสมบัติไม่ครบ ทั้ง 15 ข้อ
ก็ยังน่าสนใจ
ถ้าหากมีบางข้อ ที่สามารถ มาชดเชยข้อที่ขาดไปได้
แต่ถ้าหาก ขาดข้อ 15 คือ ความซื่อสัตย์ของผู้บริหารเสียแล้ว
อย่าได้ร่วมเข้าไปสังฆกรรมด้วย กับริษัทนั้น
ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญ สมหวังครับ
โดยเฉพาะ คุณวิบูลย์ ขอให้มีความสุขที่สุดครับ...อิอิ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 670
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พศ. 2547
ขอให้สมาชิกชาว TVI และครอบครัวทุกท่าน
มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แข็งแรงสมบูรณ์
คิดสิ่งใดขอให้สมความปราถนาทุกประการ
และที่สำคัญ
ขอให้ประสบกับความสำเร็จในการลงทุนทุกๆท่าน
ตลอดชั่วกาลนานเทอญ
---------------------------------------------------------
VIB007
ขอให้สมาชิกชาว TVI และครอบครัวทุกท่าน
มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แข็งแรงสมบูรณ์
คิดสิ่งใดขอให้สมความปราถนาทุกประการ
และที่สำคัญ
ขอให้ประสบกับความสำเร็จในการลงทุนทุกๆท่าน
ตลอดชั่วกาลนานเทอญ
---------------------------------------------------------
VIB007
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 671
สวัสดีครับทุกท่าน
หายไปหลายวัน
ไปปาร์ตี้ปีใหม่มา
เลยไม่ได้เข้าเวป
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอุดหนุนกระทู้นี้ไม่ให้ตกกระป๋อง
ปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
คิดสิ่งใดสมความปราถนาทุกท่านครับ
เจอคำถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่ายอดขายเติบโตเพียงพอ
ผมก็ใบ้กินเหมือนกัน
เพราะเพียงพอของแต่ละคนไม่เท่ากัน
บางคนบอกกินน้ำพริกปลาทูทุกวัน ขี่กระบะก็เพียงพอแล้ว
บางคนบอกไม่พอ ต้องมีหูฉลาม ขับเบนซ์ ชีวิตถึงเพียงพอ
อันนี้มันก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน
การลงทุนก็เหมือนกันครับ
ผมคงคิดแทนให้ไม่ได้ว่า
ยอดขายเติบโตเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ
แต่ถ้าจะเอาแบบฟันธง
ก็อาจจะบอกว่า เติบโตกว่าคู่แข่งก็แล้วกัน
แต่จะเติบโตมากน้อยกว่าแค่ไหน
ผมคงตอบไม่ได้
ต้องไปพิจารณาเอาเองละครับทีนี้
อย่าหาว่ากวนประสาทนะครับ
ของอย่างนี้อยู่ที่พิจารณญานของแต่ละคนครับ
แล้วคำถามที่ว่า ในสิบห้าข้อ ข้อไหนสำคัญที่สุด
ผมก็คงตอบแบบกวนโอ๊ยอีกว่า
"สำคัญทุกข้อ"
แต่ถ้าข้อไหนสำคัญมากกว่าข้อไหน
ก็ต้องแล้วแต่ธุรกิจหละครับ
ถ้าเป็นธุรกิจที่ไม่มีแบรนด์
สิ่งสำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องการที่เราจะต้องมีต้นทุนที่ต่ำที่สุด
แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยเซลล์ไปขายโดยตรงกับลูกค้า
การมีทีมขายที่ดีที่สุดน่าจะสำคัญที่สุด
ผมคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นการที่ว่าเราเข้าใจธุรกิจนั้นมากน้อยแค่ไหนมากกว่าครับ
ที่คุณ +++ บอกว่าเรื่องผู้บริหารสำคัญที่สุด
ก็น่าจะจริงนะครับ
ถ้าผู้บริหารไว้ใจไม่ได้ก็จะเกิดกรณีเหมือน Enron ครับ
ยังจำได้หรือเปล่า
หนังสือพิมพ์
นิตยสาร
พนักงานขาย
ลูกค้า
Supplier
ผู้บริหาร
พนักงานบริษัท
และคนอื่นๆที่รู้จักบริษัทที่เราลงทุน
ยกตัวอย่าง
ถ้าผมลงทุนในหุ้นของร้านหนังสือ
สิ่งที่ผมสนใจอันดับแรกก็น่าจะเป็นผุ้บริหาร
ผมก็จะถามพนักงานขายของบริษัทหลายๆแห่ง
เกี่ยวกับตัวผู้บริหาร เป็นอย่างไร ใจดีมั๊ย ตืดกับพนักงานหรือเปล่า
เพราะผมคงขอพบผู้บริหารยาก
เรื่องยอดขาย ผมก็คงถามพนักงานขายเหมือนกัน
ว่ายอดขายเป็นอย่างไร
บางครั้งก็ได้คำตอบ บางครั้งก็ไม่ได้
ก็ต้องถามหลายๆสาขา
เดินๆดูตามห้าง
ดูว่าร้านหนังสือคู่แข่งเป็นอย่างไร
ของใครขายดีกว่ากัน
แอบถามพนักงานขายของคู่แข่งด้วย
เรื่องมาร์จิน การเติบโตของยอดขาย
ความแข็งแกร่งทางการเงิน
ผมก็โหลดงบการเงินมาดูได้
พูดง่ายๆนะครับ
ถ้าเราคิดว่าเราอยากทำการบ้านชนิดที่เรียกว่า
เรารู้จักบริษัทดีกว่าผู้บริหารบางคนเหมือนอย่างอาจารย์Fisherทำ
เราก็จะรู้เองหละครับว่า
เราต้องการข้อมูลอะไรบ้าง
และจะไปหามาจากไหน
สุภาษิตฝรั่งบอกไว้หละครับที่ว่า
"Life will find its way"
ตอนนี้เราก็ยังงงๆหละครับ ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
ลองนั่งคิดเงียบๆดูสักวันสองวันว่า
ถ้าเราอยากจะรู้จักบริษัทนี้ทุกแง่ทุกมุม
จะหาข้อมูลได้จากอะไรที่ไหนอย่างไร
ลองดูมั๊ยครับ
แล้วมาคุยกันดูอีกที
น่าสนุกนะครับ
ตอนนี้ก็ขอเป็นกำลังใจกับทุกท่านในการลงทุนครับ
สวัสดีครับ
หายไปหลายวัน
ไปปาร์ตี้ปีใหม่มา
เลยไม่ได้เข้าเวป
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอุดหนุนกระทู้นี้ไม่ให้ตกกระป๋อง
ปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
คิดสิ่งใดสมความปราถนาทุกท่านครับ
ขอบคุณครับ คุณayethebingayethebing เขียน: ขอบคุณคุณวิบูลย์ครับ ตอบทันใจดีจัง
ใช่ครับ อ่านยากมาก ภาษาและเนื้อหาเองก็ยาก เป็นบทบรรยายล้วนๆ คล้ายการเขียนของ peter lynch แต่ lynch เขียนแล้วอ่านได้ง่ายกว่าเยอะ
ในจำนวน 15 ข้อที่เค้าพูดถึงคุณวิบูลย์ว่าเราสามารถหาข้อมูลมาสนับสนุนปัจจัยเหล่านั้นได้ยังไง เช่นข้อมูลที่ว่ายอดขายจะต้องมีการเติบโตในอนาคตเพียงพอ ทำไงถึงจะรู้ได้ละครับว่ายอดขายของบริษัทนึงจะเติบโตอย่างเพียงพอ
ใน 15 ข้อที่ว่าคุณวิบูลย์คิดว่าข้อไหนสำคัญที่สุด จะต้องมีเสมอ ในขณะที่บางข้อมีก้อยิ่งดี (nice to have) ครับ
เจอคำถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่ายอดขายเติบโตเพียงพอ
ผมก็ใบ้กินเหมือนกัน
เพราะเพียงพอของแต่ละคนไม่เท่ากัน
บางคนบอกกินน้ำพริกปลาทูทุกวัน ขี่กระบะก็เพียงพอแล้ว
บางคนบอกไม่พอ ต้องมีหูฉลาม ขับเบนซ์ ชีวิตถึงเพียงพอ
อันนี้มันก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมัน
การลงทุนก็เหมือนกันครับ
ผมคงคิดแทนให้ไม่ได้ว่า
ยอดขายเติบโตเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ
แต่ถ้าจะเอาแบบฟันธง
ก็อาจจะบอกว่า เติบโตกว่าคู่แข่งก็แล้วกัน
แต่จะเติบโตมากน้อยกว่าแค่ไหน
ผมคงตอบไม่ได้
ต้องไปพิจารณาเอาเองละครับทีนี้
อย่าหาว่ากวนประสาทนะครับ
ของอย่างนี้อยู่ที่พิจารณญานของแต่ละคนครับ
แล้วคำถามที่ว่า ในสิบห้าข้อ ข้อไหนสำคัญที่สุด
ผมก็คงตอบแบบกวนโอ๊ยอีกว่า
"สำคัญทุกข้อ"
แต่ถ้าข้อไหนสำคัญมากกว่าข้อไหน
ก็ต้องแล้วแต่ธุรกิจหละครับ
ถ้าเป็นธุรกิจที่ไม่มีแบรนด์
สิ่งสำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องการที่เราจะต้องมีต้นทุนที่ต่ำที่สุด
แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยเซลล์ไปขายโดยตรงกับลูกค้า
การมีทีมขายที่ดีที่สุดน่าจะสำคัญที่สุด
ผมคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็น่าจะเป็นการที่ว่าเราเข้าใจธุรกิจนั้นมากน้อยแค่ไหนมากกว่าครับ
ที่คุณ +++ บอกว่าเรื่องผู้บริหารสำคัญที่สุด
ก็น่าจะจริงนะครับ
ถ้าผู้บริหารไว้ใจไม่ได้ก็จะเกิดกรณีเหมือน Enron ครับ
ยังจำได้หรือเปล่า
หาได้ทุกที่รอบๆตัวเราครับayethebing เขียน: เอแล้วเทคนิค scuttlebutt นี่เราต้องทำงัยบ้างครับ โทรไปหาใครครับ ผมเคยคุยกับพนักงานร้านค้าของร้านหนังสือที่ผมลงทุนเพราะเค้าไปมีนิทรรศการแห่งนึงแต่ผมว่ามันเป็นความเห็นนะ เราจะรู้ได้ยังไงว่าข้อมูลมันเป็นจริง แหม สนใจเทคนิคนี้มากครับ และจะลองทำตามดู ยังไงคุณวิบูลย์ลองยกตัวอย่างที่เคยทำมาให้ฟังหน่อยสิครับ
หนังสือพิมพ์
นิตยสาร
พนักงานขาย
ลูกค้า
Supplier
ผู้บริหาร
พนักงานบริษัท
และคนอื่นๆที่รู้จักบริษัทที่เราลงทุน
ยกตัวอย่าง
ถ้าผมลงทุนในหุ้นของร้านหนังสือ
สิ่งที่ผมสนใจอันดับแรกก็น่าจะเป็นผุ้บริหาร
ผมก็จะถามพนักงานขายของบริษัทหลายๆแห่ง
เกี่ยวกับตัวผู้บริหาร เป็นอย่างไร ใจดีมั๊ย ตืดกับพนักงานหรือเปล่า
เพราะผมคงขอพบผู้บริหารยาก
เรื่องยอดขาย ผมก็คงถามพนักงานขายเหมือนกัน
ว่ายอดขายเป็นอย่างไร
บางครั้งก็ได้คำตอบ บางครั้งก็ไม่ได้
ก็ต้องถามหลายๆสาขา
เดินๆดูตามห้าง
ดูว่าร้านหนังสือคู่แข่งเป็นอย่างไร
ของใครขายดีกว่ากัน
แอบถามพนักงานขายของคู่แข่งด้วย
เรื่องมาร์จิน การเติบโตของยอดขาย
ความแข็งแกร่งทางการเงิน
ผมก็โหลดงบการเงินมาดูได้
พูดง่ายๆนะครับ
ถ้าเราคิดว่าเราอยากทำการบ้านชนิดที่เรียกว่า
เรารู้จักบริษัทดีกว่าผู้บริหารบางคนเหมือนอย่างอาจารย์Fisherทำ
เราก็จะรู้เองหละครับว่า
เราต้องการข้อมูลอะไรบ้าง
และจะไปหามาจากไหน
สุภาษิตฝรั่งบอกไว้หละครับที่ว่า
"Life will find its way"
ตอนนี้เราก็ยังงงๆหละครับ ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
ลองนั่งคิดเงียบๆดูสักวันสองวันว่า
ถ้าเราอยากจะรู้จักบริษัทนี้ทุกแง่ทุกมุม
จะหาข้อมูลได้จากอะไรที่ไหนอย่างไร
ลองดูมั๊ยครับ
แล้วมาคุยกันดูอีกที
น่าสนุกนะครับ
ตอนนี้ก็ขอเป็นกำลังใจกับทุกท่านในการลงทุนครับ
สวัสดีครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 672
สวัสดีปีใหม่ที่ใครๆคิดว่าตลาดหุ้นน่าจะพุ่งต่อไม่หยุดยั้ง(คิด) สำหรับผมแล้วเป็นเวลาที่น่ากลัวที่สุดเลยละครับ ไม่รู้ว่าแก้วที่วางต่อๆกันสูงขึ้นทุกวันๆมันจะหล่นลงมากองเมื่อไรก็ไม่รู้ เพราะผมไม่เห็นว่ามันวางเรียงกันอย่างแข็งแรง มันพร้อมจะล่วงเมื่อไรก็ได้หากมีใครมาผลักมันเบาๆ
ตอนนี้ผมมีเงินสดในมือมากเพื่อรอรับเหตุการณ์สำคัญๆที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้น และจะมีก้นบุหรี่เหลือเต็มพื้นให้ผมตามเก็บมากมายครับ
ปีใหม่นี้เป็นปีที่ต้องระวังมากครับเพื่อนๆ ถึงเวลาที่ทุกคนกล้า แต่เป็นเวลาที่พวกเราต้องระวังแล้วครับ ......เอนี่จัดเป็นคำอวยพรปีใหม่ได้หรือเปล่าครับ
ปีใหม่นี้ผมได้หนังสือใหม่มาสองเล่มคือ John Neff On Investing-- John Neff และ Interpret financial Statement ----Ben Graham
ได้เวลารวบรวมความรู้เพื่อต่อสู้ครั้งสำคัญแล้วครับ
โชคดีปีใหม่ครับ
ตอนนี้ผมมีเงินสดในมือมากเพื่อรอรับเหตุการณ์สำคัญๆที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้น และจะมีก้นบุหรี่เหลือเต็มพื้นให้ผมตามเก็บมากมายครับ
ปีใหม่นี้เป็นปีที่ต้องระวังมากครับเพื่อนๆ ถึงเวลาที่ทุกคนกล้า แต่เป็นเวลาที่พวกเราต้องระวังแล้วครับ ......เอนี่จัดเป็นคำอวยพรปีใหม่ได้หรือเปล่าครับ
ปีใหม่นี้ผมได้หนังสือใหม่มาสองเล่มคือ John Neff On Investing-- John Neff และ Interpret financial Statement ----Ben Graham
ได้เวลารวบรวมความรู้เพื่อต่อสู้ครั้งสำคัญแล้วครับ
โชคดีปีใหม่ครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 673
หวัดดีครับ คุณมน
เอที่ว่ามีเงินสดในมือนี่มีประมาณกี่เปอร์เซนต์ของพอร์ดครับ คุณมน
ผมเริ่มมีเก็งกำไรระยะ 2-3 เดือนบ้างแล้วก้อเลยอยากรู้วิธีบริหารพอร์ทบ้างครับ
เอที่ว่ามีเงินสดในมือนี่มีประมาณกี่เปอร์เซนต์ของพอร์ดครับ คุณมน
ผมเริ่มมีเก็งกำไรระยะ 2-3 เดือนบ้างแล้วก้อเลยอยากรู้วิธีบริหารพอร์ทบ้างครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 674
สวัสดีครับคุณแขกหรือใครที่ลืมlog inซักคน ผมมักจะมีเงินสดเอาไว้พอสมควรตลอดเพื่อใช้ในการเก็บก้นบุหรี่ เงินนั้นจะมาจากสองแหล่ง
1) จากก้นบุหรี่เดิมที่คายออก
2) จากกระแสเงินสดที่เหลือจากการใช้จ่าย
ในระยะหลายปีที่ผ่านมากว่าจะคายก้นบุหรี่ได้มันนานมากครับ แต่ในปีนี้มันใช้เวลาเร็วมาก จนผมมีเงินสดเหลือมากพอควร
แต่หุ้นดีๆพื้นฐานดียังอยู่ครบ และมีการซื้อเพิ่มตลอดหากราคาลงมามากๆ
คำเตือน: เก็งกำไรบนพื้นฐานของหุ้น ยังมีโอกาสรอดมากกว่าเก็งกำไรตามข่าวลือนะครับ หวังว่าทุกคนคงเข้าใจ
1) จากก้นบุหรี่เดิมที่คายออก
2) จากกระแสเงินสดที่เหลือจากการใช้จ่าย
ในระยะหลายปีที่ผ่านมากว่าจะคายก้นบุหรี่ได้มันนานมากครับ แต่ในปีนี้มันใช้เวลาเร็วมาก จนผมมีเงินสดเหลือมากพอควร
แต่หุ้นดีๆพื้นฐานดียังอยู่ครบ และมีการซื้อเพิ่มตลอดหากราคาลงมามากๆ
คำเตือน: เก็งกำไรบนพื้นฐานของหุ้น ยังมีโอกาสรอดมากกว่าเก็งกำไรตามข่าวลือนะครับ หวังว่าทุกคนคงเข้าใจ
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 675
สุดยอดเลยครับ
ผมใช้เวลาช่วงหยุดปีใหม่ 4 วัน ตะกายขึ้น หอคอยงาช้าง มานั่งอ่านกระทู้ของพวกพี่ๆ จนจบครับ ...
คุ้มค่าจริงๆ ครับ ถึงแม้จะรู้เรื่องไม่รู้เรื่องบ้างก็ตามที
กระทู้ของพวกพี่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ กลับไปนั่งหาข้อมูลของหุ้นที่ผมมีอยู่ มานั่งศึกษามากขึ้น ... ทำให้รู้ถึง insight ของบริษัทมากขึ้นครับ
แต่เดิมผมเคยดูแต่ P/E, P/B, Dividend Yield, บทวิเคราะห์ Broke ต่างๆ, sto, MACD, Bolinger Band ฯลฯ
ขอบคุณมากครับ
ไหนๆ ก็โพสมาแล้ว ขอร่วมเสวนา (แจม) กับพวกพี่ๆ เกี่ยวกับปัญหาของบริษัทจดทะเบียนอันหนึ่ง ซึ่งผมบังเอิญไปร่วมสังฆกรรมกับเขาด้วยแล้วกันครับ
เข้าใจว่าพี่ๆ คงไม่ค่อยอยากให้เอ่ยชื่อหุ้นเท่าไหร่ ผมก็ขอใช้ชื่อเล่น เรียกมันว่า "เจ้าพัดลม" แล้วกันครับ หวังว่าพี่คงเข้าใจนะครับ ...
ผมเพิ่งซื้อ เจ้าพัดลม นี้ได้ไม่นานครับ หลังจากที่มี Broke แห่งหนึ่งออกบทวิเคราะห์ว่ามันกลับจะทำกำไรได้มากขึ้น ในปีหน้านี้ (รอบปีของ เจ้าพัดลมนี่ ไม่เหมือนคนอื่นครับ เป็น สค. ถึง กค.) คือเป็น 2.7 บาท/หุ้น และจะเพิ่มเป็น 3.5 ในปีถัดไป ให้ราคาเป้าหมายถึง 34 บาท (ราคาหุ้นตอนนั้นอยู่ที่ราวๆ 18 บาทครับ) รวมถึงคาดว่าจะมีปันผลถึง 2.4 บาท Yield > 10% เห็นๆ
โห เท่านั้นแหละครับ ตาลุกวาว เรียกว่า ซื้อแบบไม่ต้องคิดเลย ...
หลังจากนั้น มีการประกาศงบ Q1/04 ออกมา กำไรสุทธิ 5 ล้านบาท (Broke ทำนายไว้ 15) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.21 บาท/หุ้น เอาหล่ะครับ งานนี้ หนาวๆ ร้อนๆ กันไปตามๆ กัน
พอผลประกอบการออก Broke เจ้าเดิม ก็ยังออกมาเชียร์ต่อ พร้อมให้เหตุผลต่างๆ นานา พร้อมยังยืนยันประมาณการเดิม
แต่ว่าคนส่วนใหญ่เริ่มหมดศรัทธาครับ เทขายลงมา แบบแทบจะไม่มีเบรคเลยทีเดียว ราคารูดลงมาจาก 20 จนเกือบ 17 บาทครับ แต่ตัวผมเองยังดันทุรังซื้อเฉลี่ยเพิ่มอีกแน่ะ (น่าตีมั้ยหละ) ราคาเฉลี่ยทุนที่ประมาณ 18.6
จนช่วงหยุดปีใหม่นี้แหละครับ ถึงได้มีเวลามานั่งทำใจ พร้อมกับรวบรวมข้อมูลต่างๆ มานั่งทบทวนดู รวบรวมมาได้ประมาณนี้ครับ
เหตุผล ที่ควรจะขาย เจ้าพัดลม ออกไป
1. บทวิเคราะห์โบรกผิดพลาดค่อนข้างมากจาก 15 ล้าน เป็นแค่ 5 ล้าน ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ
2. Gross margin ของสินค้าลดลงอย่างมาก ถ้าไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ก็คงขาดทุนไปแล้ว
3. (หลังจากอ่านกระทู้ของพวกพี่ๆ ทำให้ทราบว่า) บริษัทมี DCA ต่ำมาก มีลูกค้าอยู่ไม่กี่ราย
4. กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นลบลงมาก ไตรมาสเดียวกันปีก่อน -34 ล้าน ปีนี้ -89 ล้าน
5. มีการลงทุนแปลกๆ คือไปซื้อกองทุนตราสารหนี้ถึง 190 ล้าน
เหตุผล ที่ควรจะถือมันต่อไป
1. ราคาลงมาค่อนข้างมากแล้ว ไม่น่าจะลงไปได้อีก (หรือเปล่า) การขายตอนนี้นับเป็นการเสียโอกาสอย่างยิ่ง
2. บริษัทนี้มีประวัติการจ่ายปันผลที่ดีมาทุกปี รวมทั้งอัตราการจ่ายปันผลค่อนข้างสูง
3. กำลังการผลิตที่ใช้อยู่ในขณะนี้ค่อนข้างต่ำ การเพิ่มกำลังการผลิตน่าจะทำได้ง่าย
4. บทวิเคราะห์อ้างถึง ออเดอร์จากลูกค้าใหม่ (Honeywell) ซึ่งจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก
5. บทวิเคราะหือ้างถึง การลงทุนในโรงงานพัดลมระบายอากาศในประเทศจีน ซึ่งจะเริ่มทำการผลิตในเดือนหน้าแล้ว
แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้อยู่ดีครับว่าจะทำอย่างไรกับมันดี ของแบบนี้ถึงตอนยาก มันก็ยากจริงๆ นะครับ พี่ๆ VI ทั้งหลายคิดว่าควรจะทำอย่างไรดีครับ
ถ้าเป็นพี่ พี่คิดว่า เราควรจะยึดถือในสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ออกมาจริงๆ หรือควรจะเชื่อมั่นในอนาคตดีครับ ...
ผมใช้เวลาช่วงหยุดปีใหม่ 4 วัน ตะกายขึ้น หอคอยงาช้าง มานั่งอ่านกระทู้ของพวกพี่ๆ จนจบครับ ...
คุ้มค่าจริงๆ ครับ ถึงแม้จะรู้เรื่องไม่รู้เรื่องบ้างก็ตามที
กระทู้ของพวกพี่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ กลับไปนั่งหาข้อมูลของหุ้นที่ผมมีอยู่ มานั่งศึกษามากขึ้น ... ทำให้รู้ถึง insight ของบริษัทมากขึ้นครับ
แต่เดิมผมเคยดูแต่ P/E, P/B, Dividend Yield, บทวิเคราะห์ Broke ต่างๆ, sto, MACD, Bolinger Band ฯลฯ
ขอบคุณมากครับ
ไหนๆ ก็โพสมาแล้ว ขอร่วมเสวนา (แจม) กับพวกพี่ๆ เกี่ยวกับปัญหาของบริษัทจดทะเบียนอันหนึ่ง ซึ่งผมบังเอิญไปร่วมสังฆกรรมกับเขาด้วยแล้วกันครับ
เข้าใจว่าพี่ๆ คงไม่ค่อยอยากให้เอ่ยชื่อหุ้นเท่าไหร่ ผมก็ขอใช้ชื่อเล่น เรียกมันว่า "เจ้าพัดลม" แล้วกันครับ หวังว่าพี่คงเข้าใจนะครับ ...
ผมเพิ่งซื้อ เจ้าพัดลม นี้ได้ไม่นานครับ หลังจากที่มี Broke แห่งหนึ่งออกบทวิเคราะห์ว่ามันกลับจะทำกำไรได้มากขึ้น ในปีหน้านี้ (รอบปีของ เจ้าพัดลมนี่ ไม่เหมือนคนอื่นครับ เป็น สค. ถึง กค.) คือเป็น 2.7 บาท/หุ้น และจะเพิ่มเป็น 3.5 ในปีถัดไป ให้ราคาเป้าหมายถึง 34 บาท (ราคาหุ้นตอนนั้นอยู่ที่ราวๆ 18 บาทครับ) รวมถึงคาดว่าจะมีปันผลถึง 2.4 บาท Yield > 10% เห็นๆ
โห เท่านั้นแหละครับ ตาลุกวาว เรียกว่า ซื้อแบบไม่ต้องคิดเลย ...
หลังจากนั้น มีการประกาศงบ Q1/04 ออกมา กำไรสุทธิ 5 ล้านบาท (Broke ทำนายไว้ 15) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.21 บาท/หุ้น เอาหล่ะครับ งานนี้ หนาวๆ ร้อนๆ กันไปตามๆ กัน
พอผลประกอบการออก Broke เจ้าเดิม ก็ยังออกมาเชียร์ต่อ พร้อมให้เหตุผลต่างๆ นานา พร้อมยังยืนยันประมาณการเดิม
แต่ว่าคนส่วนใหญ่เริ่มหมดศรัทธาครับ เทขายลงมา แบบแทบจะไม่มีเบรคเลยทีเดียว ราคารูดลงมาจาก 20 จนเกือบ 17 บาทครับ แต่ตัวผมเองยังดันทุรังซื้อเฉลี่ยเพิ่มอีกแน่ะ (น่าตีมั้ยหละ) ราคาเฉลี่ยทุนที่ประมาณ 18.6
จนช่วงหยุดปีใหม่นี้แหละครับ ถึงได้มีเวลามานั่งทำใจ พร้อมกับรวบรวมข้อมูลต่างๆ มานั่งทบทวนดู รวบรวมมาได้ประมาณนี้ครับ
เหตุผล ที่ควรจะขาย เจ้าพัดลม ออกไป
1. บทวิเคราะห์โบรกผิดพลาดค่อนข้างมากจาก 15 ล้าน เป็นแค่ 5 ล้าน ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ
2. Gross margin ของสินค้าลดลงอย่างมาก ถ้าไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ก็คงขาดทุนไปแล้ว
3. (หลังจากอ่านกระทู้ของพวกพี่ๆ ทำให้ทราบว่า) บริษัทมี DCA ต่ำมาก มีลูกค้าอยู่ไม่กี่ราย
4. กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นลบลงมาก ไตรมาสเดียวกันปีก่อน -34 ล้าน ปีนี้ -89 ล้าน
5. มีการลงทุนแปลกๆ คือไปซื้อกองทุนตราสารหนี้ถึง 190 ล้าน
เหตุผล ที่ควรจะถือมันต่อไป
1. ราคาลงมาค่อนข้างมากแล้ว ไม่น่าจะลงไปได้อีก (หรือเปล่า) การขายตอนนี้นับเป็นการเสียโอกาสอย่างยิ่ง
2. บริษัทนี้มีประวัติการจ่ายปันผลที่ดีมาทุกปี รวมทั้งอัตราการจ่ายปันผลค่อนข้างสูง
3. กำลังการผลิตที่ใช้อยู่ในขณะนี้ค่อนข้างต่ำ การเพิ่มกำลังการผลิตน่าจะทำได้ง่าย
4. บทวิเคราะห์อ้างถึง ออเดอร์จากลูกค้าใหม่ (Honeywell) ซึ่งจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก
5. บทวิเคราะหือ้างถึง การลงทุนในโรงงานพัดลมระบายอากาศในประเทศจีน ซึ่งจะเริ่มทำการผลิตในเดือนหน้าแล้ว
แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้อยู่ดีครับว่าจะทำอย่างไรกับมันดี ของแบบนี้ถึงตอนยาก มันก็ยากจริงๆ นะครับ พี่ๆ VI ทั้งหลายคิดว่าควรจะทำอย่างไรดีครับ
ถ้าเป็นพี่ พี่คิดว่า เราควรจะยึดถือในสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ออกมาจริงๆ หรือควรจะเชื่อมั่นในอนาคตดีครับ ...
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 676
ผมก็ไปเก็บหุ้นโต๊ะเก้าอี้มาเหมือนกัน ได้ราคาต่ำกว่าตลาดตอนนี้เล็กน้อย ที่สนใจเพราะว่าปันผลรายไตรมาส ตอนนี้เค้ากำลังอยู่ในช่วงลง น่าจะเก็บได้ เพราะค่าเงินบาทแข็งขึ้น ทำให้กำไรลด คิดว่าถ้าเค้าปรับตัวได้ รวมถึงโรงงานเตียงเริ่มผลิตก็คงได้ลุ้นกำไรมากขึ้น ราคาก็น่าจะขึ้น ตอนนี้ก็กะจะซื้อเก็บอยู่ พี่ๆว่างัยบ้างครับ
Expecto Patronum!!!!!!
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 677
Guest ข้างบนนะผมเองครับ ลืมล็อกอิน
ที่ถามเพราะว่าการมีเงินสดเยอะก้อหมายถึงการขาดโอกาสการลงทุนไปเช่นกัน ผมเองพยายามเอาเงินไป "ฝาก" กับการลงทุนที่ปลอดภัยและยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนคืนมาด้วย ดูไปดูมาก้อต้องลงมาซื้อหุ้นอยู่ดีละครับ
เจ้าหุ้นพัดลมเนี่ยเป็นหุ้นที่ต้องลุ้นให้มัน เทิร์นอะราวด์ ครับ เงินปันผลปีที่แล้วก้อลองดูครับว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการจะพอให้มีเงินจ่ายปันผลปีหน้าหรือเปล่า ผมเองก้อเกือบเข้าไปซื้อหลายรอบแต่ก้อยังไม่ได้เข้าสักที เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตโดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าของเค้าครับ การมีลูกค้าน้อยรายก้อมีความเสี่ยงในการทำธุรกิจสูงเป็นธรรมดา ถึงแม้ว่าจะได้กำไรดีจากลูกค้ารายนั้นก้อตาม
ที่ถามเพราะว่าการมีเงินสดเยอะก้อหมายถึงการขาดโอกาสการลงทุนไปเช่นกัน ผมเองพยายามเอาเงินไป "ฝาก" กับการลงทุนที่ปลอดภัยและยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนคืนมาด้วย ดูไปดูมาก้อต้องลงมาซื้อหุ้นอยู่ดีละครับ
เจ้าหุ้นพัดลมเนี่ยเป็นหุ้นที่ต้องลุ้นให้มัน เทิร์นอะราวด์ ครับ เงินปันผลปีที่แล้วก้อลองดูครับว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการจะพอให้มีเงินจ่ายปันผลปีหน้าหรือเปล่า ผมเองก้อเกือบเข้าไปซื้อหลายรอบแต่ก้อยังไม่ได้เข้าสักที เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตโดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าของเค้าครับ การมีลูกค้าน้อยรายก้อมีความเสี่ยงในการทำธุรกิจสูงเป็นธรรมดา ถึงแม้ว่าจะได้กำไรดีจากลูกค้ารายนั้นก้อตาม
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 678
Mon money เขียน:สวัสดีครับเพื่อนๆ เห็นมีคนมาทิ้งE-mailขออะไรกันครับ ผมอ่านๆดูแล้วคุณวิบูลย์กับผมก็ไม่ได้จะส่งอะไรให้ใคร
ผมว่าสมัยนี้มันแปลกจริงๆ เห็นอะไรไม่ได้นึกว่าใบ้หุ้นยันเลย (จะโดนด่าอีกไหมเนีย?)
เอ....คุณ วิบูลย์จะส่งอะไรให้ใครหรือเปล่าครับ? คุณ aye ล่ะ?
คงโดนชื่อกระทู้มันหลอกเอาเหมือนผมอีกแล้ว กระทู้ขอรายชื่อหุ้น นะท่าน
ผมโดนหลอกมา 4เดือน
5555
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 679
สวัสดีปีใหม่ พี่ๆและเพื่อนๆใน TVI ทุกคนครับ ผมอยากตั้งประเด็นให้พวกพี่ๆช่วยแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ capital expenditure ว่ามีความสำคัญในการเลือกบริษัทที่จะลงทุนหรือไม่ และค่านี้มีอะไรบ้าง ผมขอยกตัวอย่าง เช่น ค่าโฆษณา ที่บริษัทต้องจ่ายทุกปี จะเป็น cap.exp. หรือไม่ หรือ การปรับปรุงระบบคอม ของบริษัทที่นานๆจะจ่ายที จะเป็น cap.exp. หรือไม่ รบกวนช่วยแสดงความเห็นด้วยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 680
สวัสดีครับคุณมนMon money เขียน:สวัสดีครับเพื่อนๆ เห็นมีคนมาทิ้งE-mailขออะไรกันครับ ผมอ่านๆดูแล้วคุณวิบูลย์กับผมก็ไม่ได้จะส่งอะไรให้ใคร
ผมว่าสมัยนี้มันแปลกจริงๆ เห็นอะไรไม่ได้นึกว่าใบ้หุ้นยันเลย (จะโดนด่าอีกไหมเนีย?)
เอ....คุณ วิบูลย์จะส่งอะไรให้ใครหรือเปล่าครับ? คุณ aye ล่ะ?
ยังไม่ได้ส่งอะไรให้ใครเลยครับ
และไม่คิดว่าจะส่งด้วยซิ
เคยบอกหุ้นเพื่อนไปครั้งนึง
เพื่อนนึกว่าซื้อแล้วหุ้นจะพุ่งกระฉูด
เลยเก็บเข้าไปเต็มๆพอร์ต
ที่ไหนได้
ซื้อเสร็จ หุ้นรูดตามระเบียบโรงเรียน VI
สุดท้ายทนเห็นตัวแดงในพอร์ตไม่ไหว
เลยขายขาดทุนไป หลังจากถือมาได้ไม่เท่าไหร่
แสดงว่า ความเข้าใจในการลงทุนไม่เหมือนกัน
อีกอย่างคือผมใบ้หุ้นไม่เป็นครับ
เพราะความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนต้องการกำไรเร็ว
บางคนต้องการปันผล
และผมคิดว่า ถ้าเราหาปลาเองได้คงจะดีกว่า
ดังนั้นก็เลยไม่ได้ใบ้หวยอีกเลย
แถมเวลาซื้อก็ไม่บอกใคร เวลาขายผมก็ไม่บอกใครเหมือนกัน
มันเป็นนิสัยส่วนตัวนะครับ แก้ไม่หาย
ดังนั้นท่านที่ส่งอีเมล์มา คงต้องผิดหวังแน่นอน
เจ้าพัดลมที่ว่าMinesweeper เขียน:แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้อยู่ดีครับว่าจะทำอย่างไรกับมันดี ของแบบนี้ถึงตอนยาก มันก็ยากจริงๆ นะครับ พี่ๆ VI ทั้งหลายคิดว่าควรจะทำอย่างไรดีครับ
ถ้าเป็นพี่ พี่คิดว่า เราควรจะยึดถือในสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ออกมาจริงๆ หรือควรจะเชื่อมั่นในอนาคตดีครับ ...
ผมก็ดูๆอยู่เหมือนกัน
ดูตั้งแต่ราคา 300 บาทก่อนแตกพาร์
ปันผลที่ 10% สูงมากๆ
แต่อยู่ๆหลังแตกพาร์ ราคาก็ต่ำลงอย่างรวดเร็ว
เหลือร้อยกว่าๆ
ลองแกะๆดู ก็พบว่า รายได้ลดลงเยอะ
มีลูกค้าอยู่ไม่กี่ราย
ถ้าถูกยกเลิกออเดอร์ละก็เป็นเรื่องแน่
ก็เลยห่างๆไป ไม่ได้สนใจอีก
คำถามที่ว่า จะสนใจผลลัพธ์หรืออนาคต
อันนี้ต้องตอบว่า "แล้วแต่ใจต้องการ" ละครับ
บางครั้งเราคิดว่าดี แต่จริงๆออกมาไม่ดีก็มี
หรือคิดว่าจะดี แต่จริงๆไม่ดีก็มี
หรือคิดว่าอนาคตดี แต่ราคาหุ้นก็รับไปหมดแล้วก็มี
อยากจะบอกว่า ไม่มีสูตรสำเร็จในตลาดหุ้นครับ
ทุกอย่างต้องมาจากความรู้ ความคิด และประสบการณ์จริงๆ
ผมตอบแทนไม่ได้(อีกแล้ว)
หวังว่า คุณMinesweeperคงไม่ว่ากันนะครับ
ใจเย็นๆ ค่อยๆศึกษา ทดลองไปเรื่อยๆครับ
โอกาสในตลาดมีอยู่เสมอ
ยังไงก็ขอให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ
สวัสดีปีใหม่ครับNum เขียน:สวัสดีปีใหม่ พี่ๆและเพื่อนๆใน TVI ทุกคนครับ ผมอยากตั้งประเด็นให้พวกพี่ๆช่วยแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ capital expenditure ว่ามีความสำคัญในการเลือกบริษัทที่จะลงทุนหรือไม่ และค่านี้มีอะไรบ้าง ผมขอยกตัวอย่าง เช่น ค่าโฆษณา ที่บริษัทต้องจ่ายทุกปี จะเป็น cap.exp. หรือไม่ หรือ การปรับปรุงระบบคอม ของบริษัทที่นานๆจะจ่ายที จะเป็น cap.exp. หรือไม่ รบกวนช่วยแสดงความเห็นด้วยครับ
เรื่องค่าใช้จ่ายของบริษัทในการดำเนินธุรกิจมีสองแบบครับ
คือ
1) Capital Expenditure หรือเรียกสั้นๆว่า Capex
2) Operating Expenditure เรียกว่า Opex
Capex เป็นเงินลงทุนที่ใช้ในทรัพย์สินที่คิดค่าเสื่อมราคาได้
เช่น อาคาร เครื่องจักร รถยนต์ ของใช้สำนักงาน เครื่องคอมพิวเตอร์ ฯลฯ
เงินลงทุนนี้จะลงใน งบกระแสเงินสด
Opex เป็นเงินที่ใช้ในการดำเนินงานของธุรกิจ
ไม่คิดเป็นทรัพย์สิน และถือว่าเป็นค่าใช้จ่าย
เช่น ค่าโฆษณา ค่าวิจัย ค่าเงินเดือนพนักงาน ค่าฯลฯ
ไม่สามรถตัดค่าเสื่อมราคาได้
ค่าใช้จ่ายก้อนนี้จะอยู่ใน งบกำไรขาดทุน
ถ้าเราดูแค่งบกำไรขาดทุน เราจะไม่เห็นCapex
ดังนั้นจึงต้องมาดูในงบกระแสเงินสดด้วย
สิ่งสำคัญก็คือว่า
ถ้าบริษัทนั้นมีกำไรเพียงพอที่จะนำเงินมาลงทุนก็สบายไป
แต่ถ้าธุรกิจไหนมีกำไรน้อยกว่าการลงทุนละก็
อาจจะต้องพึ่งเงินกู้ หรือเพิ่มทุน เพื่อนำเงินมาลงทุน
ดังนั้น นักลงทุนระยะยาวจึงชอบบริษัทที่มีCapexไม่สูง
หรือ มีกำไรและกระแสเงินสดเพียงพอที่จะนำเงินไปลงทุนได้
เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มทุน หรือ กู้ยืมเพิ่ม
อีกอย่างต้องระวังบริษัทที่ตกแต่งบัญชี
เอาOpex มาลงเป็น Capex เพื่อทำให้กำไรต่อหุ้นดูดีขึ้นนะครับ
อันนี้ตาดีได้ตาร้ายเสีย
เขาถึงบอกกันว่า ธรรมาภิบาลของผู้บริหารจึงเป็นสิ่งสำคัญไงครับ
คิดว่าคุณNum คงเข้าใจมากขึ้นนะครับ
พี่Chatchai คุณลูกอีสาน คุณMon และท่านอื่นๆ มีอะไรเสริมมั๊ยครับ
สวัสดีครับ
[/code]
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 681
ผมกลับมีความเห็นว่าในการพิจารณาศักยภาพบริษัทในระยะยาวVIB007 เขียน: อีกอย่างต้องระวังบริษัทที่ตกแต่งบัญชี
เอาOpex มาลงเป็น Capex เพื่อทำให้กำไรต่อหุ้นดูดีขึ้นนะครับ
อันนี้ตาดีได้ตาร้ายเสีย
เขาถึงบอกกันว่า ธรรมาภิบาลของผู้บริหารจึงเป็นสิ่งสำคัญไงครับ
ควรเอา R&D และโฆษณาด้าน branding มาลงเป็น Capex ครับ
เพราะทั้ง R&D และ branding ส่งผลดีกับบริษัทในระยะยาวมาก
กว่า ถ้าบริษัทไหนคิดจะตัดค่าใช้จ่ายหรือ Opex ลงโดยลด R&D
และ branding ผมคิดว่าเป็นการฆ่าตัวตายในระยะยาว
วิทยายุทธนี้ลอกมาจากท่าน Ayethebing ครับ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 682
ฮา ขอใช้สิทธิโดนพาดพิงครับ
เห็นด้วยกับคุณวิบูลย์ในเรื่องการซุกรายจ่ายที่ลงใน OPEX มาที่ CAPEX แล้วไปใส่ในช่องสินทรัพย์เพื่อรอตัดบัญชี ที่นี้ลองมาดูโจทย์ของเราที่เกี่ยวกับ R&D และ งบโคดสะนาบ้าง
การลงทุนใน R&D (ขนาดชื่อยังบอกว่าเป็นการลงทุน) ตามหลักเกณฑ์ทางบัญชีมาตรฐานเค้าให้ลงใน OPEX แหงๆ อยู่แล้วครับ ทีนี้การทำ R&D ของบริษัทมันทำให้เกิดรายได้ต่อบริษัทในระยะยาวหรือไม่ อันนี้ต่างหากที่เป็นเควสชั่นมาร์ก ติต่างว่าการทำ R&D ก่อให้เกิดรายได้ต่อบริษัทในระยะยาว แล้วการใช้จ่ายมันควรเป็นการเพิ่ม invested capital หรือมันควรตัดยอดบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายให้รู้แล้วรู้แ_ดไปในปีนั้นเลย
ผมว่าที่ถูกควรเอา R&D expense นำเอามาเพิ่ม invested capital และเอาส่วนของการเปลี่ยนแปลงใน R&D expense มาปรับในกำไรจากการดำเนินการของบริษัทหลังหักภาษี (NOPAT - Net Operating Profit After Tax) นะครับ
เช่นเดียวกับงบโคดสะนา (พิมพ์ คอระคังไม่เป็น หาไม่เจออะ) มันเป็นการลงทุนใน brand ของสินค้าก้อควรจะคิดแบบเดียวกัน
อันนี้ผมไม่ได้คิดเองคับ ผมเอาตามหลักของหนังสือที่ผมถือว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มนึง คือหนังสือ The Quest for value ของ Stern Stewart ผู้คิดค้นเรื่อง EVA นะครับ คือเค้าว่า ถ้าเราไม่ปรับเจ้าตัว R&D ให้ไปอยู่ใน invested capital มันจะเหมือนกับบริษัทมีผลตอบแทนต่อการลงทุนเดิมเยอะเกินไป ทั้งๆ ที่มันเป็นการลงทุน ไม่ใช่การใช้จ่ายซื้อรถเบนซ์ให้ผู้บริหารสักกะหน่อย และการลงทุนอันนี้มันควรจะก่อให้เกิดรายได้ในอนาคตซะด้วย
อันนี้จะค่อนข้างขัดแย้งกับ FCF model สักกะหน่อย คุณ chatchai แกคงมีคอมเมนต์ต่อแนวคิดนี้กระมังครับ
ปัญหาของการดูเงินลงทุนด้าน R&D และงบโฆษณา (ในที่สุดก้อหา ฆ เจอ) ก้อคือหาดูในงบยากครับ และมาตรฐานของการจัดว่าค่าใช้จ่ายใดเป็นค่าใช้จ่าย R&D ก้อยังไม่ค่อยเหมือนกันในแต่ละบริษัท
แต่เอในเมืองไทยนี้ผมยังไม่เห็นบริษัทไหนมี R&D เยอะๆ เลยนะ
เห็นด้วยกับคุณวิบูลย์ในเรื่องการซุกรายจ่ายที่ลงใน OPEX มาที่ CAPEX แล้วไปใส่ในช่องสินทรัพย์เพื่อรอตัดบัญชี ที่นี้ลองมาดูโจทย์ของเราที่เกี่ยวกับ R&D และ งบโคดสะนาบ้าง
การลงทุนใน R&D (ขนาดชื่อยังบอกว่าเป็นการลงทุน) ตามหลักเกณฑ์ทางบัญชีมาตรฐานเค้าให้ลงใน OPEX แหงๆ อยู่แล้วครับ ทีนี้การทำ R&D ของบริษัทมันทำให้เกิดรายได้ต่อบริษัทในระยะยาวหรือไม่ อันนี้ต่างหากที่เป็นเควสชั่นมาร์ก ติต่างว่าการทำ R&D ก่อให้เกิดรายได้ต่อบริษัทในระยะยาว แล้วการใช้จ่ายมันควรเป็นการเพิ่ม invested capital หรือมันควรตัดยอดบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายให้รู้แล้วรู้แ_ดไปในปีนั้นเลย
ผมว่าที่ถูกควรเอา R&D expense นำเอามาเพิ่ม invested capital และเอาส่วนของการเปลี่ยนแปลงใน R&D expense มาปรับในกำไรจากการดำเนินการของบริษัทหลังหักภาษี (NOPAT - Net Operating Profit After Tax) นะครับ
เช่นเดียวกับงบโคดสะนา (พิมพ์ คอระคังไม่เป็น หาไม่เจออะ) มันเป็นการลงทุนใน brand ของสินค้าก้อควรจะคิดแบบเดียวกัน
อันนี้ผมไม่ได้คิดเองคับ ผมเอาตามหลักของหนังสือที่ผมถือว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มนึง คือหนังสือ The Quest for value ของ Stern Stewart ผู้คิดค้นเรื่อง EVA นะครับ คือเค้าว่า ถ้าเราไม่ปรับเจ้าตัว R&D ให้ไปอยู่ใน invested capital มันจะเหมือนกับบริษัทมีผลตอบแทนต่อการลงทุนเดิมเยอะเกินไป ทั้งๆ ที่มันเป็นการลงทุน ไม่ใช่การใช้จ่ายซื้อรถเบนซ์ให้ผู้บริหารสักกะหน่อย และการลงทุนอันนี้มันควรจะก่อให้เกิดรายได้ในอนาคตซะด้วย
อันนี้จะค่อนข้างขัดแย้งกับ FCF model สักกะหน่อย คุณ chatchai แกคงมีคอมเมนต์ต่อแนวคิดนี้กระมังครับ
ปัญหาของการดูเงินลงทุนด้าน R&D และงบโฆษณา (ในที่สุดก้อหา ฆ เจอ) ก้อคือหาดูในงบยากครับ และมาตรฐานของการจัดว่าค่าใช้จ่ายใดเป็นค่าใช้จ่าย R&D ก้อยังไม่ค่อยเหมือนกันในแต่ละบริษัท
แต่เอในเมืองไทยนี้ผมยังไม่เห็นบริษัทไหนมี R&D เยอะๆ เลยนะ
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 684
ขอโทษนะครับ
ขอเรียนถามท่านที่คุ้นเคยกับการวิเคราะห์งบ อยากทราบว่าบริษัทกลุ่มไหนครับที่ดูงบได้ง่าย และกลุ่มไหนดูยากๆครับ
คือผมไม่เก่งเรื่องนี้ครับเลยไม่อยากโดนเขาทำงบหลอกครับ ขอดูงบที่มันง่ายๆนะครับ
ขอเรียนถามท่านที่คุ้นเคยกับการวิเคราะห์งบ อยากทราบว่าบริษัทกลุ่มไหนครับที่ดูงบได้ง่าย และกลุ่มไหนดูยากๆครับ
คือผมไม่เก่งเรื่องนี้ครับเลยไม่อยากโดนเขาทำงบหลอกครับ ขอดูงบที่มันง่ายๆนะครับ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 685
ถึงไม่ได้คำตอบตรงๆ
แต่ยังไงก็ ขอบคุณพี่ๆ สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับเจ้าพัดลมนะครับ
ผมยังมีข้อสงสัยอยู่บางอย่างน่ะครับ พวกพี่ๆ น่าจะช่วยเหลือผมได้ ยังไงรบกวนด้วยนะครับ (คราวนี้ไม่อ้างอิงถึงหุ้นโดยตรงแล้ว คงตอบได้โดยสะดวกใจมากขึ้นนะครับ)
1. การที่บริษัท(พวกที่ผลิตสินค้าทั่วไป ไม่ใช่ บล. บง.) นำเงินสดจำนวนมากๆ ไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนหุ้นต่างๆ พี่มีความเห็นว่ายังไง บ้างครับ
2. (จากที่มีการถกกัน 2-3 โพสที่ผ่านมา) ปกติแล้วค่าใช้จ่าย พวก R&D หรือ ค่าโฆษณา เนี่ย ถ้าบันทึกเป็น capex. ในทางบัญชี ตรงงบดุลที่เป็นส่วนทุน เขาจะไปเพิ่มในรายการไหนครับ ... (เคยได้ยินแต่พวก ลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา -- ไม่ทราบว่าเป็นประเภทเดียวกันหรือเปล่า)
ถ้าเป็นไปได้ช่วยยกตัวอย่าง งบของบริษัทจริงๆ ขึ้นมาหน่อยได้มั้ยครับ จะได้เข้าใจมากขึ้น ...
แต่ยังไงก็ ขอบคุณพี่ๆ สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับเจ้าพัดลมนะครับ
ผมยังมีข้อสงสัยอยู่บางอย่างน่ะครับ พวกพี่ๆ น่าจะช่วยเหลือผมได้ ยังไงรบกวนด้วยนะครับ (คราวนี้ไม่อ้างอิงถึงหุ้นโดยตรงแล้ว คงตอบได้โดยสะดวกใจมากขึ้นนะครับ)
1. การที่บริษัท(พวกที่ผลิตสินค้าทั่วไป ไม่ใช่ บล. บง.) นำเงินสดจำนวนมากๆ ไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนหุ้นต่างๆ พี่มีความเห็นว่ายังไง บ้างครับ
2. (จากที่มีการถกกัน 2-3 โพสที่ผ่านมา) ปกติแล้วค่าใช้จ่าย พวก R&D หรือ ค่าโฆษณา เนี่ย ถ้าบันทึกเป็น capex. ในทางบัญชี ตรงงบดุลที่เป็นส่วนทุน เขาจะไปเพิ่มในรายการไหนครับ ... (เคยได้ยินแต่พวก ลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา -- ไม่ทราบว่าเป็นประเภทเดียวกันหรือเปล่า)
ถ้าเป็นไปได้ช่วยยกตัวอย่าง งบของบริษัทจริงๆ ขึ้นมาหน่อยได้มั้ยครับ จะได้เข้าใจมากขึ้น ...
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 686
ผมคิดว่าคุณ CEO อ่านงบเก่งนะครับ จากที่เคยอ่านผลงานมาCEO เขียน: ขอเรียนถามท่านที่คุ้นเคยกับการวิเคราะห์งบ อยากทราบว่าบริษัทกลุ่มไหนครับที่ดูงบได้ง่าย และกลุ่มไหนดูยากๆครับ
คือผมไม่เก่งเรื่องนี้ครับเลยไม่อยากโดนเขาทำงบหลอกครับ ขอดูงบที่มันง่ายๆนะครับ
โดยเฉพาะคนที่เป็นถึงระดับ CEO จะอ่านงบไม่เก่งได้ไง
ผมว่างบที่ดูง่ายคืองบของบริษัทที่เราเข้าใจในธุรกิจอย่างถ่องแท้ครับ
ส่วนงบที่ดูยากคืองบที่เจ้าของเล่นไม่ซื่อครับ
เวลาผมซื้อหุ้นโดยดูงบฯ ผมใช้หลักดังนี้
1. ดูเฉพาะงบของกิจการที่เราพอเข้าใจธุรกิจ
2. เชื่อเฉพาะงบที่เราวางใจในตัวผู้บริหาร
อ้อ ขอบอก ผมดูงบไม่ถึงครึ่งหนึ่งของหุ้นที่ซื้อนะครับ บางตัวซื้อ
โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ปีที่แล้ว แต่
ซื้อโดยดูจากภาพรวมธุรกิจและกราฟ
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 687
ขอบคุณคุณ CK ครับ
แต่ผมคิดว่ามันยากถึงยากมากๆนะรับในการที่จะดูว่าผู้บริหารหรือเจ้าของคนไหนเป็นอย่างไร นอกจากว่าเราจะคลุกคลีกับบริษัทนั้นมานานพอ ขนาดคนที่รู้จักกันหรือทำงานด้วยกันยังมีอยู่บ่อยๆที่เจอเพื่อนเล่นไม่ซื่อ
แล้วถ้าเราไม่ถือหุ้นเขาและไปประชุมหลายๆครั้งหน่อยเราจะยิ่งมืดไปใหญ่เลยครับ
รายย่อยคงจะลำบากหน่อยครับในเรื่องนี้ในการหาข้อมูล
ผมดูแล้วผมคิดว่าหัวข้อนี้มีความสำคัญสูงสุดและมีเป็นความเสี่ยงที่สูงสุดด้วยครับในการลงทุน
แต่ผมคิดว่ามันยากถึงยากมากๆนะรับในการที่จะดูว่าผู้บริหารหรือเจ้าของคนไหนเป็นอย่างไร นอกจากว่าเราจะคลุกคลีกับบริษัทนั้นมานานพอ ขนาดคนที่รู้จักกันหรือทำงานด้วยกันยังมีอยู่บ่อยๆที่เจอเพื่อนเล่นไม่ซื่อ
แล้วถ้าเราไม่ถือหุ้นเขาและไปประชุมหลายๆครั้งหน่อยเราจะยิ่งมืดไปใหญ่เลยครับ
รายย่อยคงจะลำบากหน่อยครับในเรื่องนี้ในการหาข้อมูล
ผมดูแล้วผมคิดว่าหัวข้อนี้มีความสำคัญสูงสุดและมีเป็นความเสี่ยงที่สูงสุดด้วยครับในการลงทุน
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 688
ขึ้นอยู่กับภาวะและแนวโน้มดอกเบี้ยในอนาคตครับ ถ้าดอกเบี้ยมีแนวโน้มMinesweeper เขียน: 1. การที่บริษัท(พวกที่ผลิตสินค้าทั่วไป ไม่ใช่ บล. บง.) นำเงินสดจำนวนมากๆ ไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนหุ้นต่างๆ พี่มีความเห็นว่ายังไง บ้างครับ
สูงขึ้นอย่างในปัจจุบันก็ไม่น่าจะดี เพราะมูลค่าตราสารหนี้จะลดลงเนื่อง
จากการ marked to market
ถ้าถามผม ผมก็ว่าปันผลออกมาหรือซื้อหุ้นคืนจะดีกว่า เพราะผมเอาเงิน
นั้นไปลงทุนได้ผลตอบแทนมากกว่าตราสารหนี้อยู่แล้ว ยกเว้นในกรณี
ที่บริษัทมีการคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เงินลงทุนมากๆในอนาคต (ซึ่งถ้า
บริษัทดีจริง การกู้เงินจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า)
ไม่ทราบครับ รอคุณ Aye มาตอบแล้วกันMinesweeper เขียน: 2. (จากที่มีการถกกัน 2-3 โพสที่ผ่านมา) ปกติแล้วค่าใช้จ่าย พวก R&D หรือ ค่าโฆษณา เนี่ย ถ้าบันทึกเป็น capex. ในทางบัญชี ตรงงบดุลที่เป็นส่วนทุน เขาจะไปเพิ่มในรายการไหนครับ ... (เคยได้ยินแต่พวก ลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา -- ไม่ทราบว่าเป็นประเภทเดียวกันหรือเปล่า)
ถ้าเป็นไปได้ช่วยยกตัวอย่าง งบของบริษัทจริงๆ ขึ้นมาหน่อยได้มั้ยครับ จะได้เข้าใจมากขึ้น ...
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 689
เห็นด้วยครับ ผมศึกษาประวัติย้อนหลังของผู้บริหารเป็นสิบปีครับCEO เขียน: ผมดูแล้วผมคิดว่าหัวข้อนี้มีความสำคัญสูงสุดและมีเป็นความเสี่ยงที่สูงสุดด้วยครับในการลงทุน
คัดได้ผู้บริหารในดวงใจมาแค่ 2 ตระกูล เสียดายที่ตระกูลหนึ่งออก
จากตลาดไปแล้วครับ ไม่เช่นนั้นเราอาจจะมีหุ้นที่ราคาในกระดาน
"สูง" กว่า GYT (ดูจากความร้อนแรงที่กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น
มา)
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
คุณวิบูลย์ ขอรายชื่อหุ้นที่ผ่านตะแกรงร่อนหน่อยครับ
โพสต์ที่ 690
เอ คุณ suwat นี่สงสัยไม่ได้อ่านหน้าก่อนกระมังครับ
ไม่ต้องทิ้ง อีเมล์ เอาไว้ครับ อ่านได้เลย มีแต่ 25 หน้าเอง
Minesweeper wrote:
ไม่ต้องทิ้ง อีเมล์ เอาไว้ครับ อ่านได้เลย มีแต่ 25 หน้าเอง
Minesweeper wrote:
เอเท่าที่รู้เค้าจะลงใน OPEX เสมอนะครับ พวกที่บันทึกทรัพย์สินทางปัญญานี้ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าทำยังไง ถ้าให้เดาก้อคงมีการลดค่าใช้จ่ายแล้วไปเพิ่มสินทรัพย์ในส่วนที่จับต้องไม่ได้เพิ่มขึ้นมา (Intangible asset) ผมยังไม่เคยเห็นงบของใครที่มีตัวนี้นะ ในเมืองไทย ก้อเลยยกตัวอย่างให้ไม่ได้2. (จากที่มีการถกกัน 2-3 โพสที่ผ่านมา) ปกติแล้วค่าใช้จ่าย พวก R&D หรือ ค่าโฆษณา เนี่ย ถ้าบันทึกเป็น capex. ในทางบัญชี ตรงงบดุลที่เป็นส่วนทุน เขาจะไปเพิ่มในรายการไหนครับ ... (เคยได้ยินแต่พวก ลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา -- ไม่ทราบว่าเป็นประเภทเดียวกันหรือเปล่า)
ถ้าเป็นไปได้ช่วยยกตัวอย่าง งบของบริษัทจริงๆ ขึ้นมาหน่อยได้มั้ยครับ จะได้เข้าใจมากขึ้น ...