หน้า 25 จากทั้งหมด 89

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 09, 2009 10:36 pm
โดย ลูกอิสาน
burengnong เขียน:พี่ลูกอีสานมีมุมมองยังไงบ้างครับกับ GFM
ผมไม่ค่อยได้ติดตามตัวนี้เลยครับ

เท่าที่ไปดูตัวเลขต่างๆ ย้อนหลังน่าประทับใจมาก ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี กำไรก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปีที่ผ่านมาทำกำไรได้ถึง 19% ของยอดขาย บริษัทให้เหตุผลว่ากำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน และที่สำคัญสามารถสกัดทอง เงิน ที่ตกค้างจากกระบวนการผลิตที่ผ่านๆมา ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงมาก ก็เป็นเหตุผลที่แปลกๆดี ผมดูข้อมูลย้อนหลังหลายปีกำไรจะสม่ำเสมอที่ 10 % แต่บางปีก็มีเหมือนกันที่ขึ้นถึง 18% ถ้าสมมุติว่าเราไปซื้อตอนที่กำไรสูงแล้วปีต่อมากำไรลดลง เหลือ 10% ล่ะครับจะเป็นอย่างไร :roll:  

ความเห็นผมก็เหมือนทุกๆครั้ง คือถ้าเรา รู้ที่มาที่ไปของรายได้ รายจ่าย เราก็ควรจะคาดการณ์กำไรได้ แต่ gfm สำหรับผมคงเป็นข้อยกเว้น ที่จริงผมก็ตามดูหุ้นตัวนี้มาห่างๆหลายปี เพราะกำไรค่อนข้างดี แต่ไอเดียผม กำไรดีเกินไป แต่ผมไม่แน่ใจว่ากำไรเหล่านี้จะ sustain หรือเปล่า ถ้าต่อไปบริษัทยังทำได้ดี ผมคงคิดผิดต้องคิดใหม่แล้วว่าบริษัทนี้คงมีอะไรดีจริงๆ แต่ถึงตอนนี้ผมก็ยังเฝ้าดูครับ

ถ้าเปรียบเทียบการทำกำไรกับ pranda ที่ทำธุรกิจคล้ายๆกัน gfm ทำใด้ดีกว่ามากๆ เป็นเท่าตัว ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะต่างกันขนาดนี้ นี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมยังไม่แน่ใจความสามารถการทำกำไรในระยะยาวของ gfm ครับ

ในกลุ่มจิวเวอรี่ กับภาวะเศรษกิจอย่างนี้คงไม่ดีแน่นอน ผู้บริหารของ gfm ก็ดูเหมือนเคยให้ความเห็น ตอนเศรษกิจตกต่ำ ผู้บริโภคต้องตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว ดังนั้นยอดขาย กำไร ก็ควรจะลดลง ในเมื่อภาพใหญ่เป็นอย่างนี้ ผมคิดว่าปีนี้กำไรคงน้อยลงค่อนข้างแน่ อยู่ที่มากน้อยเท่าไหร่แค่นั้นเอง... :)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 10, 2009 12:16 am
โดย miracle
พอดีพี่ลูกอีสานพูดถึง เจ้า high profit low profile (GFM)
เลยต้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนิดหน่อย

ผมขอว่าด้วยภาพใหญ่ก่อนว่า กลุ่มนี้มีกี่ตัว
กลุ่มนี้ แบ่งออกเป็นพวกที่ทำเครื่องเงิน เครื่องทองและแพลตินั่ม
ได้แต่ Pranda swang และ gfm
ส่วนอีกตัวคือ THL อันนี้ทำเหมืองทองคำ

เรื่องที่สองเรื่องของตัวสินค้า
Pranda มีแบรนด์เป็นของตัวเองในงานทอง ส่วนเงินไม่ทราบ ทำแบรนด์มานานแล้ว เช่น พรีมาโกล์ดเป็นต้น รับจ้างทำ
gfm มีแบรนด์เป็นของตัวเอง แต่ลุ่มๆดอนๆอยู่ (ให้เป็น ?) อันนี้รับจ้างทำเหมือนกัน เน้นงานเงิน(เมื่อก่อนส่วนแบ่งงานทองมากแต่ทองแพงเลยหันไปหางานเงิน)
swang ไม่ต้องพูดถึง มีปัญหาหลายปีจากบริษัทที่ US ยังเคลียร์ไม่จบซักที
กำไรก็ลุ่มๆดอนๆ ไม่แน่นอน  อันนี้ไม่รู้ว่ารับจ้างทำหรือเปล่า
thl นี้ ก็โภคภัณฑ์ ไม่ขอพูดถึง

ลูกค้าของกลุ่มนี้
ตลาดใหญ่ US ,ยุโรปเช่นเยอรมัน เป็นต้น ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ตะวันออกกลาง

GFM ถ้าใครไปดูงบการเงิน หนี้สินน้อยมาก เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด มากกว่าหนี้สิ้นทั้งหมดของบริษัท
pranda งบการเงินแข็งแกร่งมากๆ แต่มีปัญหาเรื่องเพิ่มทุนโดย ESOP
Swang งบการเงินไม่สู่ดี เพราะว่า รายได้ค้างจ่ายจากบริษัทคู่ค้าที่ US ทำให้ฐานะการเงินย่ำแย่มาหลายปี

สิ่งที่ต้องทำการบ้านเพิ่มเติม
1. ลูกค้าตอนนี้ของแต่ละบริษัทอยู่ที่ไหนกันบ้าง ถ้า US อย่างเดียวก็ ไม่ต้องสนใจครับ
2. สินค้าเป็นสินค้าในตลาดบน บนกลาง กลาง กลางล่าง หรือล่าง เป็นเครื่องเงินหรือเครื่องทอง ส่งออกไปไหน นำสินค้าเข้าจากไหน
3. ฐานะทางการเงินของแต่ละบริษัท
4. direction ของบริษัทที่กำลังไป ว่าต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ แข่งขันกับประเทศอื่นเช่น อินเดีย จีน เวียดนามได้หรือไม่ เนื่องจากที่เหล่านั้นค่าแรงถูกกว่า ประเทศไทย

หาคำตอบต่อน่ะครับ
ที่เพิ่มเติมให้เพราะพอดีพี่ลูกอีสานมาตอบ ผมพอดีรู้ข้อมูลก็แชร์ให้ฟังครับ

ปล กลุ่มนี้สภาพคล่องทำใจว่า ซื้อแล้วขายลำบาก
:)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 10, 2009 9:28 pm
โดย Laziale
พี่โจมีติดตามตัว LVT หรือป่าวครับ ไม่ทราบว่ามีความเห็นเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้อย่างไรบ้างครับ และพี่โจมองธุรกิจปรับปรุงประสิทธืภาพเครื่องจักรในโรงงานซีเมนต์ของ LVT นี้ว่าเป็นธุรกิจที่ดูจะมีอนาคตหรือป่าวครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 10, 2009 10:46 pm
โดย miracle
Laziale เขียน:พี่โจมีติดตามตัว LVT หรือป่าวครับ ไม่ทราบว่ามีความเห็นเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้อย่างไรบ้างครับ และพี่โจมองธุรกิจปรับปรุงประสิทธืภาพเครื่องจักรในโรงงานซีเมนต์ของ LVT นี้ว่าเป็นธุรกิจที่ดูจะมีอนาคตหรือป่าวครับ
ไม่ได้ติดตามครับ
:)

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 11, 2009 10:31 pm
โดย ลูกอิสาน
sathaporne เขียน:รบกวนพี่ลูกอีสานลองช่วยวิจารณ์ snc ในแง่ที่ว่าเขาพยายามขยายงานไปในด้านงานต้นน้ำหน่อยครับ ว่าเขามาถูกทางไหมจากเดิมที่เขาก็เด่นในด้านการทำท่อทองแดง เรียกว่าเป็นเจ้าตลาดในด้านนี้ตอนนี้เขาก็กำลังขยายตัวมาทางด้านงานต้นน้ำ งาน OEM เรียกได้ว่าพยายามทำให้ครบวงจร พี่ลูกอีสานมองว่าเป็นการกระทำที่นอกขอบข่ายความสามารถเขาไหมครับผมมองว่าเขาอาจจะพบว่างานด้านท่อทองแดงคงไม่โตมากนักอีกต่อไปจึงหาทางขยับขยายไปทางด้านอื่น ซึ่งเขาก็เริ่มจะพยายามทำให้ครบวงจรและประโยชน์ของมันก็คือการทำแบบครบวงจรก็ช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้า และก็น่าจะลดต้นทุนของตัวเองเป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นแต่ประเด็นก็คือไอ้เจ้าพวกงานต้นน้ำเนี่ย มันไม่ใช่งานลักษณะแบบเดิมที่เขาเคยทำได้ดี (งานท่อทองแดง)
มก็เลยสงสัยว่ามันจะwork ไหมครับ
และพี่ลูกิีสานคิดว่าเขาควรจะมุ่งเน้นแต่งานทองแดงอย่างเดียวไหมครับ
ถ้าความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าคุณสมชัยทำถูกต้องแล้ว ที่หันมารับจ้างประกอบแอร์ ผมก็รู้สึกว่าท่อทองแดงเริ่มจะอิ่มตัว และถ้า snc ทำท่อทองแดงได้ดีต้นทุนต่ำ การทำให้ครบวงจรขึ้น ลูกค้าก็ได้ประโยชน์ บริษัทก็สามารถเพิ่มยอดขายและกำไรได้ ผมก็มองว่าทุกอย่างสมเหตุสมผลดี แต่ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ผมคิดว่าเป็นอย่างนี้ครับ..

1.ปริมาณงานที่เพิ่ม จากที่ทำชิ้นส่วนท่อทองแดงซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบแอร์ 1 ตัว พอมาทำแอร์ทั้งตัว มีชิ้นส่วนเป็นร้อยชิ้น เท่ากับว่าปริมาณงานเพิ่มหลายเท่าตัว :shock:  ไหนจะชิ้นส่วนที่ผลิตเอง ไหนจะชิ้นส่วนที่ต้องจ้างคนอื่นผลิต เหล่านี้ต้องวางแผน ประสานงาน กันวุ่นวาย ช่วงนี้เป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างการเรียนรู้งานใหม่ ดังนั้นประสิทธิภาพเรื่องต้นทุนยังไม่น่าจะดีครับ นอกจากนั้นการหันมาประกอบแอร์เป็นงานที่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนจำนวนมาก เพราะต้องลงทุนกับชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว การออกหุ้นเพิ่มทุนครั้งที่แล้ว ก็คงเพราะเหตุผลนี้บางส่วน

2.อยู่ในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ลูกค้าของ snc อยู่ในกลุ่มอสังหา และรถยนต์ ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤติเศรษกิจครั้งนี้ จากงบไตรมาสล่าสุด ยอดขายกลุ่มนี้ลดลงเกือบครึ่งทีเดียว เมื่อยอดขายลด แต่ต้นทุนคงที่ไม่ได้ลดตามยอดขาย กำไรก็ต้องลดลงเป็นธรรมดา

ผมยังมองในแง่ดีว่าแม้ตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ลำบากของ snc แต่ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่ง การบริหารงานที่ดี ที่สุดแล้วหากภาวะเศรษกิจดีเหมือนปกติ กำไรของ snc จะดีกว่านี้มาก แต่นั่นต้องใช้เวลาและยังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง ถ้าไม่มีหุ้นที่ดีกว่า ผมคิดว่าก็พอไหวเพราะยังมีปันผลอยู่บ้าง

งบไตรมาส 1/2009 มีกำไรประมาณ 34 ล้าน ลดลงจาก 64 ล้านปี 2008 แต่ถ้าดูกำไรที่แท้จริงทำได้แค่ 13 ล้าน เพราะมีรายการโอนกลับด้อยค่าสินค้าคงเหลือ ก็ต้องดูต่อไปว่าไตรมาสต่อๆไปซึ่งปกติมียอดขายน้อยกว่า กำไรจะเป็นอย่างไรบ้าง... :?

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 12, 2009 5:37 pm
โดย Tlk
คุณลูกอสานได้ติดตามหุ้นวัฎจักรรึเปล่าครับ ช่วงนี้เห็นว่าน่าสนใจดี
ขอบคุณครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2009 8:07 pm
โดย sathaporne
ขอบคุณครับพี่ลูกอีสาน

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2009 9:14 pm
โดย preeda_mark
เรียนถามคุณโจ CPF ตัวธุรกิจในความเห็นผม แนวโน้มน่าจะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะ ไก่ และกุ้ง ไปแถวจังหวัดชายทะเล มองไปต้องเจอ บ่อกุ้งตาข่ายแดงๆ นั่นแหละของ CP  ผมอ่านงบการเงินแล้วมึน มันซับซ้อน แล้วส่วนตัว คุณโจ คิดเห็นอย่างไรกับ บริษัทนี้

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 13, 2009 9:23 pm
โดย mikan171
ขอถามพี่ลูกอีสานครับว่า พี่มีความเห็นยังไงกับ SPACK บ้างครับ
ผมลองอ่าน 56-1 แล้วก็ดูน่าสนใจดีครับ
ราคาก็โอเค เท่าที่ดูในเว็บบอร์ดนี้ก็ไม่มีนอกไม่มีใน
แต่ดูงบแล้วติดใจประมาณนี้ครับ

1. บริษัทมีเงินสดเหลืออยู่น้อยมาก ปลายปีที่แล้วเหลือแค่สามแสนกว่าๆ
  ดูน้อยมากๆจนน่ากลัวครับ >_<
2. กระแสเงินสดติดลบมาตั้งแต่ปี 2003 แล้ว - -;;
3. ไม่มีการตั้งค่าเผื่อด้อยค่าสินค้าคงเหลือเลย ทั้งที่ใน56-1เขียนไว้ว่า วัตถุดิบที่เป็นกระดาษมีโอกาสเสื่อมสภาพได้
4. รอบหมุนเจ้าหนี้สั้นมาก แค่ 15 วันเอง ในขณะที่รอบหมุนลูกหนี้ยาวถึง 60 วัน

โดยเฉพาะข้อ 1 เงินสดน้อยมากๆ
ล่าสุดเช็คงบQ1 ก็ยังคงมีประมาณเดิม  :shock:

เสี่ยงไปมั้ยครับพี่  :roll:

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆความเห็นครับ  :o

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 14, 2009 10:40 pm
โดย ler109
หวัดดีครับพี่ลูกอีสานและพี่ๆ VI ทุกคนครับ
ผมเป็น VI น้องใหม่ครับ อยากขอความเห็นของพี่เกี่ยวกับ CNS ครับ
เท่าที่ผมลองศึกษาดู คิดว่าบริษัทมีจุดเด่นจริงๆอยู่ด้านเดียวคือเรื่องของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับมูลค่าของกิจการ บริษัทมีเงินสดและเทียบเท่าเงินสดอยู่เยอะ
ไม่ทราบว่าพอถึงปี 2555 เมื่อมีการเปิดเสรีบริษัทยังจะพอมีอนาคตมั้ยครับ :o

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 8:59 am
โดย 015
พี่ลูกอิสาน ครับ  งบ lanna ออกแล้ว พี่มอง lanna ปีนี้  กำลังการผลิต ถ่านหินที่จะผลิตได้ประมาณเท่าไหร่ครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 8:43 pm
โดย ลูกอิสาน
Laziale เขียน:พี่โจมีติดตามตัว LVT หรือป่าวครับ ไม่ทราบว่ามีความเห็นเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้อย่างไรบ้างครับ และพี่โจมองธุรกิจปรับปรุงประสิทธืภาพเครื่องจักรในโรงงานซีเมนต์ของ LVT นี้ว่าเป็นธุรกิจที่ดูจะมีอนาคตหรือป่าวครับ
อ่านจากงานวิจัย ตลาดของ lvt จะเป็นการปรับปรุงโรงงานปูนซีเมนต์เก่า คนละตลาดกับโรงงานใหม่ ซึ่งจะมีผู้ผลิตเครื่องจักรใหญ่ๆแข่งขันกัน การปรับปรุงก็เพื่อลดการใช้พลังงาน และหลายครั้งมีการขยายกำลังการผลิตด้วย คล้ายๆงานขยายคอขวด ซึ่งงานเหล่านี้ lvt ก็ต้องไปซับงานให้ผู้ผลิตเครื่องจักรอีกทีครับ

โรงงานผลิตซีเมนต์เก่าๆที่เป็นกลุ่มลูกค้าผมคิดว่ายังมีอีกพอสมควรทีเดียว ส่วนใหญ่เท่าที่สังเกตุลูกค้าจะเป็นประเทศด้อยพัฒนา :roll:  ดังนั้นถ้าเศรษกิจโลกดีๆ ราคาน้ำมันแพง ลูกค้าก็มีแรงจูงใจที่จะใช้บริการของ lvt แต่กับภาวะเศรษกิจตอนนี้ แรงจูงใจคงหายไปพอสมควรครับ

รายได้ -กำไรของ lvt จะขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ครับ

1.งานที่ประมูลได้หรือ backlog ปัจจุบันมีประมาณ 2 พันงาน รับรู้รายได้ 70-80% ในปี 52 ดังนั้นรายได้ปีนี้ประมาณ 1400-1600 ล้าน พอๆกับปี 51 อาจจะเพิ่มเล็กน้อย ไตรมาส1/52 รับรู้รายได้ประมาณ 400 ล้าน ก็ถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยใกล้เคียงระดับนี้ในไตรมาสที่เหลือ

2.มาร์จินของงานที่ประมูล ค่อนข้างผันผวนขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่รับรู้รายได้ ถ้าเป็นงานให้คำปรึกษา กำไรมากแต่ตัวรายได้น้อย ส่วนงานปรับปรุงขยายกำลังการผลิตรายได้มาก แต่มาร์จินน้อย ถ้าเอาตามงบไตรมาส 1 ปีนี้ มีกำไรสุทธิประมาณ 8% ดังนั้นคาดการณ์รายได้ คาดการณ์มาร์จิน เราก็ประมาณกำไรได้คร่าวๆ ที่จริงถ้านับเป็นตัวเงิน ไตรมาสล่าสุด lvt สร้างกำไรจากการดำเนินงานเองได้สูงสุดในรอบ 4-5 ปีที่ผมมีข้อมูลครับ ไม่รู้หมายความว่าไตรมาสต่อๆไปจะดีอย่างนี้อีกหรือเปล่า :lol:

3.ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย โดยเฉพาะบริษัทลูกในประเทศอินเดีย ปีที่แล้วสร้างกำไรถึง 60% ของกำไรทั้งหมดหรือประมาณ 133 จากกำไร 221 ล้าน ดังนั้นเราก็ควรจะมีข้อมูลว่าบริษัทลูกมีแนวโน้มการทำรายได้และกำไรในปัจจุบันและอนาคตด้วยครับ ที่แน่ๆส่วนแบ่งกำไรในไตรมาสล่าสุดไม่ดีครับ


จากงานประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านไปครั้งล่าสุด ผู้บริหารก็ให้ความมั่นใจว่าปีนี้ธุรกิจน่าจะดีต่อเนื่องอีกปี (ปีต่อไปไม่รู้) ดังนั้นนี่ก็เป็นข้อด้อยของธุรกิจที่มีรายได้ไม่แน่นอน และข้อมูลก็หาค่อนข้างยาก ผมเคยโทรไปสอบถาม IR แม้กระทั่งคำถามแนวโน้ม ยังไม่ค่อยตอบเลย สอบถามอะไรก็ไม่ได้ ต้องให้ผู้บริหารตอบ ไม่รู้ว่าตอนนี้ปรับปรุงบ้างหรือยัง.. :roll:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 8:51 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="015"]พี่ลูกอิสาน ครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 9:05 pm
โดย Laziale
ลูกอิสาน เขียน:
อ่านจากงานวิจัย ตลาดของ lvt จะเป็นการปรับปรุงโรงงานปูนซีเมนต์เก่า คนละตลาดกับโรงงานใหม่ ซึ่งจะมีผู้ผลิตเครื่องจักรใหญ่ๆแข่งขันกัน การปรับปรุงก็เพื่อลดการใช้พลังงาน และหลายครั้งมีการขยายกำลังการผลิตด้วย คล้ายๆงานขยายคอขวด ซึ่งงานเหล่านี้ lvt ก็ต้องไปซับงานให้ผู้ผลิตเครื่องจักรอีกทีครับ

โรงงานผลิตซีเมนต์เก่าๆที่เป็นกลุ่มลูกค้าผมคิดว่ายังมีอีกพอสมควรทีเดียว ส่วนใหญ่เท่าที่สังเกตุลูกค้าจะเป็นประเทศด้อยพัฒนา :roll:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 9:57 pm
โดย ลูกอิสาน
Laziale เขียน:ขอบคุณพี่โจมากครับสำหรับข้อมูลและความเห็นดีๆทุกครั้ง ขอถามเพิ่มเติมครับว่าจากการที่พี่โจได้ติดตามมาคิดว่า LVT จัดอยู่ในหุ้นประเภทไหนครับ ผมมองว่ารายได้ค่อนข้างผันผวนพอควรเหมือนกันเพราะกำไรปีที่ผ่านมาถือว่าสูงมาก ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำได้อีกต่อไปนานแค่ไหน แต่ ROE นับว่าน่าสนใจอยู่เหมือนกันและจังหวะที่ควรลงทุนในหุ้นประเภทอย่าง LVT นี้คือเมื่อไหร่ครับ
lvt น่าจะเป็นหุ้นรับเหมาไฮโซนะ คล้ายๆกับ stpi คือต้องใช้ความรู้ ความชำนาญการเฉพาะด้าน การแข่งขันจะค่อนข้างน้อย มาร์จินจะดีครับ แต่รับเหมาก็คือรับเหมาจังหวะที่ควรซื้อคือมี backlog เยอะ และเราแน่ใจว่ามาร์จินจะดีพอสมควร ไม่ใช่ backlog ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดแบบ ple หรือ itd :twisted: ส่วนประเด็นกลัวจะซื้อตอนที่กำไรสูงสุด ก็ลองดู backlog ก่อนจะลดความเสี่ยงประเด็นนี้ได้

ผมว่าเศรษฐกิจอย่างนี้ก็มีความน่าสนใจพอสมควรนะครับเพราะแต่ละบริษัทก็น่าจะหาวิธีประหยัดทุนมากกว่าที่จะหาซื้ออุปกรณ์เครื่องจักรใหม่ๆครับ  :D
ผมก็คิดว่าเป็นไปได้ครับ แทนที่จะลงทุนมากๆก็ลงทุนน้อยๆไปก่อน แต่มองอีกแง่ พอกิจการไม่ดี ผู้ประกอบการก็อยากเก็บเงินสดมากกว่า เรื่องขยายกิจการคงมีน้อยราย ลูกค้าส่วนนึงของ lvt มีทั้งปรับปรุงและขยายกำลังการผลิตไปด้วยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 16, 2009 10:41 pm
โดย Laziale
ลูกอิสาน เขียน:
lvt น่าจะเป็นหุ้นรับเหมาไฮโซนะ คล้ายๆกับ stpi คือต้องใช้ความรู้ ความชำนาญการเฉพาะด้าน การแข่งขันจะค่อนข้างน้อย มาร์จินจะดีครับ แต่รับเหมาก็คือรับเหมาจังหวะที่ควรซื้อคือมี backlog เยอะ และเราแน่ใจว่ามาร์จินจะดีพอสมควร ไม่ใช่ backlog ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดแบบ ple หรือ itd :twisted: ส่วนประเด็นกลัวจะซื้อตอนที่กำไรสูงสุด ก็ลองดู backlog ก่อนจะลดความเสี่ยงประเด็นนี้ได้
ผมว่าเศรษฐกิจอย่างนี้ก็มีความน่าสนใจพอสมควรนะครับเพราะแต่ละบริษัทก็น่าจะหาวิธีประหยัดทุนมากกว่าที่จะหาซื้ออุปกรณ์เครื่องจักรใหม่ๆครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 8:50 am
โดย ลูกอิสาน
Laziale เขียน:แล้ว LVT ที่ อินเดียกับจีนพี่โจมีความเห็นว่ามันจะเติบโตดีมั๊ยครับ เห็นเค้าว่าที่จีนมีความต้องการซีเมนต์สูงที่สุดในโลกครับ
ผมหาข้อมูลบริษัทลูกไม่ได้เลย รู้นิดหน่อยว่า
-ต้นปี 51 มี backlog เกิน 2 พันล้าน
-การประชุมปีนี้ผู้บริหารบอกว่า ประเทศอินเดียได้รับผลกระทบจากเศรษกิจน้อยกว่าส่วนอื่นของโลก

ผมไม่แน่ใจว่าบริษัทเปิดเผยข้อมูลบริษัทลูกหรือบริษัทร่วมในหมายเหตุงบการเงินหรือแบบ56-1บ้างหรือเปล่า หลายบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ด้วย..

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 5:22 pm
โดย krisy
ลูกอิสาน เขียน: ผมหาข้อมูลบริษัทลูกไม่ได้เลย รู้นิดหน่อยว่า
-ต้นปี 51 มี backlog เกิน 2 พันล้าน
-การประชุมปีนี้ผู้บริหารบอกว่า ประเทศอินเดียได้รับผลกระทบจากเศรษกิจน้อยกว่าส่วนอื่นของโลก

ผมไม่แน่ใจว่าบริษัทเปิดเผยข้อมูลบริษัทลูกหรือบริษัทร่วมในหมายเหตุงบการเงินหรือแบบ56-1บ้างหรือเปล่า หลายบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนนี้ด้วย..
เปิดค่ะ ทุกบริษัทจะเปิดว่าไปลงทุนที่ไหนกี่เปอเซนต์ ให้ไปดูหมายเหตุของเงินลงทุนนะคะ ถ้าิอยากได้แบบสวยงาม ก็ลองไปหาที่ 56-2 หรือ annual report หลายที่ทำเป็นผัง อ่านเข้าใจง่ายค่ะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 10:37 pm
โดย firefox
สวัสดีครับพี่ลูกอีสาน  ผมแอบอ่านกระทู้ของพี่เงียบอยู่นานครับ
ขอบคุณมากๆ สำหรับความรู้ที่พี่ได้พยายามถ่ายทอดออกมา

ตอนนี้ผมลงทุนมาได้ประมาณปีกว่าแล้วครับ (แต่พอร์ตยังแดงอยู่เลย:'O  :'O )
พอร์ตผมประมาณ 50 % อยู่ลงทุนใน หุ้น wonder girls (WG) ของพี่ฉัตรชัย :B  
อีก 50 % ผมอยากลงทุนในหุ้น growth

แต่ผมมีปัญหาว่าในเวลาที่ซื้อ ผมไม่แน่ใจราคาที่ซื้อมันแพงไปหรือเปล่า
ผมจึงอยากขอความรู้ว่าพี่ ใช้เกณฑ์อะไรในการเข้าซื้อหุ้นครับ ว่าราคาที่ได้มี MOS แล้ว ดูจากอะไรครับ P/E  P/B  หรือ DCF
ได้ยินว่าท่าน ดร. เวลาซื้อ ท่านก็ไม่ได้มาคำนวณค่า DCF  นะ:?:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 18, 2009 11:45 pm
โดย Sayan
สวัสดีครับพี่ลูกอีสาน

คือผมเป็นคนนึงที่ติด SLC อยู่เกินกว่า 50% ของพอร์ต (ปอดเล็ก) มา 4 ปีแล้ว เฝ้าแต่รอว่าเมื่อไร บ. จะทำรายได้เกิน fix cost ซะที แต่แนวโน้มดูแล้วไร้ความหวังสิ้นดี ส่วนตัว i love libraly ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วเงียบมาก

ไม่ทราบพี่พอจะแนะนำอะไรได้บ้างครับ..ที่ถามเพราะว่าเคยเห็นพี่สนใจตัวนี้
แต่หลายปีแล้วมั้งครับ

ปล. ถ้าพี่แนะนำให้ขายผมก็ไม่รู้จะขายให้ไคร..สภาพคล่องน้อยมาก

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 8:46 am
โดย picatos
สวัสดีครับ พี่ลูกอีสาน

ผมลงทุนมาสักพักนึงแล้วรู้สึกว่าระบบการจัดเก็บ และติดตามหุ้นแต่ละตัวของผมมันไม่ค่อย work เท่าไหร่ พอเจอข่าว ได้ข้อมูลอะไรเพิ่ม ก็เอามายัดๆ ใส่ใน Folder ของหุ้นแต่ละตัว พองบออกก็มาทำสรุปวิเคราะห์ใส่ file excel เก็บเป็นรายไตรมาส แต่พอทำๆ ไป ชักมึน ข้อมูล ไฟล์มันเยอะไปหมด หาเจอบ้าง หาไม่เจอบ้าง นี่ขนาดตามหุ้นไม่กี่ตัว เทียบไม่ได้กับพี่ลูกอีสานที่ตามหุ้นเป็นร้อยๆ ตัว

ผมเลยอยากขอวิทยายุทธในการจัดระบบ ระเบียบ การเก็บข้อมูลหุ้นแต่ละตัวครับว่า

1) พี่มีวิธีการเก็บอย่างไร เวลาข้อมูลเยอะๆ จะแบ่งประเภท หมวดหมู่อย่างไรให้หาง่าย และใช้ประโยชน์ได้ง่าย

2) พี่สรุปประเด็นหุ้นแต่ละตัวยังไงครับ คือ พี่ทำเป็น template เอาไว้ใช้สำหรับหุ้นแต่ละตัวเลยรึเปล่าครับ?

3) เวลาหุ้นแต่ละตัวมีอะไร update พี่เก็บข้อมูลยังไงครับ เพื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปเรากลับมาดูแล้วเห็น story ของหุ้นแต่ละตัวได้ง่ายๆ

4) เวลาพี่สรุปประเด็นสำคัญ ข้อดี ข้อเสีย Valuation ของหุ้นแต่ละตัวแล้ว เวลาจะเอามาใช้เปรียบเทียบกันเพื่อตัดสินใจลงทุน พี่เอาข้อมูลอะไรมาเปรียบเทียบกันบ้างครับ

5) ต่อเนื่องจากข้อที่ 4 เวลาพี่เจอหุ้นที่พี่สนใจแล้ว และคิดว่าน่าลงทุนแล้ว พี่มีวิธีการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวยังไงครับ?  พี่มีเครื่องมือ หรือระบบวิธีคิดอะไรเป็นพิเศษไหมครับ

6) เข้าใจว่าพอร์ตลงทุนของพี่นี่มีจำนวนหุ้นอยู่เยอะมาก และมีหุ้นที่พี่ติดตามอยู่เยอะมาก เวลาพี่ update อะไรสักอย่างเข้าไป ซึ่งมีผลต่อ Valuation ของหุ้นตัวหนึ่ง หรือราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงไปจนอาจจะต้องมีการปรับพอร์ต พี่ใช้ indicator อะไรในการดูบ้างครับ

รบกวนขอวิทยายุทธพี่ลูิกอีสานหน่อยนะครับ...

ขอบคุณครับ  :bow:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 12:02 pm
โดย ลูกอิสาน
krisy เขียน:เปิดค่ะ ทุกบริษัทจะเปิดว่าไปลงทุนที่ไหนกี่เปอเซนต์ ให้ไปดูหมายเหตุของเงินลงทุนนะคะ ถ้าิอยากได้แบบสวยงาม ก็ลองไปหาที่ 56-2 หรือ annual report หลายที่ทำเป็นผัง อ่านเข้าใจง่ายค่ะ
อยากให้เปิดเผย งบดุล งบกำไรขาดทุน ของบริษัทร่วมน่ะครับน้องกบ ก็มีบางบริษัทที่เปิดเผยนะครับ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจว่ายัง..

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 12:07 pm
โดย ลูกอิสาน
teelek เขียน:คุณลูกอสานได้ติดตามหุ้นวัฎจักรรึเปล่าครับ ช่วงนี้เห็นว่าน่าสนใจดี
ขอบคุณครับ
หลายคนสนใจหุ้นวัฎจักร เพราะโอกาสทำกำไรสูงๆมีมาก หลายตัวให้ผลตอบแทนเป็นเท่าตัว หรือถ้ารอบใหญ่ๆในอดีตบางตัวให้ผลตอบแทนเกือบร้อยเท่า  :shock: (หุ้นเรือ ปิโตรบางตัว) ซึ่งก็เห็นด้วยครับว่าผมก็อยากจะได้ผลตอบแทนอย่างนี้จากหุ้นวัฎจักรเหมือนกับหลายๆคน แต่จากความเห็นส่วนตัว ประเด็นที่ต้องมอง หากจะลงทุนในหุ้นวัฎจักรมีอะไรบ้าง

1.การคาดการณ์วัฎจักร  เป็นสิ่งที่สำคัญและยากที่สุด แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นเอง ส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ไม่ถูกเลย เพราะถ้าคาดการณ์ถูกต้องหมดคงไม่เกิดวัฎจักรรุ่งเรืองตกต่ำ สลับกันไปอย่างที่เกิดขึ้น ดังนั้นหากจะลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ต้องรู้ demand -supply ของอุตสาหกรรม ต้องรู้ตัวแปรที่จะมีผลต่อราคา หรือการวิเคราะห์จากข้อมูลเชิงปริมาณก็ให้ภาพใหญ่ได้ดี อย่างที่หลายคนทราบ ถ้าบริษัทส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมนั้นขาดทุน อาจจะเป็นสัญญานซื้อที่ดี ตรงกันข้ามถ้ากำไรกันมโหฬ่าร อัตราการทำกำไรปาเข้าไป 30-50% อย่างนี้น่าจะเป็นตอนพีคแล้ว

2.จังหวะการซื้อ แม้เราจะพอคาดการณ์วัฎจักรได้ถูกต้อง แต่จังหวะการซื้อก็มีความสำคัญมาก เพราะบางวัฎจักร การตกต่ำกินระยะเวลายาวนาน แม้เราซื้อได้ตอนที่วัฎจักรต่ำสุด แต่การตกต่ำอาจจะดำเนินไปอีกหลายปี ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่จะทนไม่ไหว Peter Lynch ทำประเด็นนี้ได้ดี เพราะเค้าซื้อหุ้นวัฎจักรแล้วถือยาวได้ เพราะยังมีหุ้นอีก 999 ตัวให้เค้าติดตาม ไม่เหมือนรายย่อย ซึ่งถือหุ้นไม่กี่ตัวจะอึดอัดกว่าถ้าราคาหุ้นไม่ไปไหนเลย

3.ผู้รอดตาย แต่ละรอบวัฎจักรตกต่ำ ไม่ใช่ว่าผู้ประกอบการทุกราย จะรอดกลับมาตอนวัฎจักรรุ่งเรืองนะครับ ที่จริงหลายรายก็ล้มหายตายไป โดยเฉพาะรายที่ต้นทุนสูงสุด งบดุลอ่อนแอ หลายรายก็ต้องปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มทุน แปลงหนี้เป็นหุ้น อย่าง atc psl ในอดีตก็เกือบเอาตัวไม่รอดกันทั้งนั้น ดังนั้นหากจะถือหุ้นวัฎจักร ต้องถือตัวที่คิดว่าจะรอดตายครับ

ส่วนตัวผมไม่ค่อยถูกกับหุ้นวัฎจักรเท่าไหร่ครับ ใจไม่แข็งพอ ชอบไปซื้อตอนกำไรดีๆ ขายตอนราคาตกต่ำอยู่เรื่อย :lol:  ที่จริงต้องทำตรงกันข้าม ซื้อตอนขาสั่นครับ แล้วไหนจะต้องลุ้นราคาสินค้าแทบทุกวัน ราคาหุ้นก็เหวี่ยงรุนแรง กำไรไม่ต้องพูดถึง อย่าง tta บางไตรมาสกำไรหลายพันล้าน พอเจอวัฎจักรตกต่ำ อย่างไตรมาสที่ผ่านมา ขาดทุนเฉยเลย ที่จริงวัฎจักรก็มีหลายกลุ่ม

-วัฎจักรรอบใหญ่ๆ เช่น เรือ สินแร่ต่างๆ น้ำมัน
-วัฎจักรรอบกลางๆ เช่น รถยนต์ ปิโตรเคมี อสังหา
-วัฎจักรสั้นๆ เช่น พืชผลเกษตรต่างๆ ไก่ ไข่ หมู

ที่ระยะเวลารอบวัฎจักรต่างกัน เพราะความยาก ความง่ายในการผลิตนั่นเอง
high risk high return  เหมาะกับหุ้นวัฎจักรที่สุดแล้วครับ :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 12:30 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="preeda_mark"]เรียนถามคุณโจ CPF ตัวธุรกิจในความเห็นผม แนวโน้มน่าจะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะ ไก่ และกุ้ง ไปแถวจังหวัดชายทะเล มองไปต้องเจอ บ่อกุ้งตาข่ายแดงๆ นั่นแหละของ CP

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 12:56 pm
โดย preeda_mark
ขอบคุณมากครับ คุณโจ คำตอบ เฉียบคมจริงๆ นับถือ
ขอถาม อีกคำถาม
TR ราคาเตี้ยติดดิน คุณโจ สนบ้างไหมครับ
ผมดูราคา VSF ตลาดโลก ขึ้นเรื่อยๆ ส่วน line 5,6 ก็เปิดแล้ว มีการรับคนงานเพิ่ม ผลกำไรที่เลวร้ายก็ประกาศไปแล้ว ไตรมาสหน้าผมคาดว่า จะมีกำไร พอสมควร ส่วนที่ลงทุนปลูกไม้ที่ลาว ก็จะใช้ประโยชน์ได้อีก 6 ปี ข้างหน้า อยากถามว่า ราคานี้ ตีแตกดีไหมครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 1:36 pm
โดย ลูกอิสาน
preeda_mark เขียน:TR ราคาเตี้ยติดดิน คุณโจ สนบ้างไหมครับผมดูราคา VSF ตลาดโลก ขึ้นเรื่อยๆ ส่วน line 5,6 ก็เปิดแล้ว มีการรับคนงานเพิ่ม ผลกำไรที่เลวร้ายก็ประกาศไปแล้ว ไตรมาสหน้าผมคาดว่า จะมีกำไร พอสมควร ส่วนที่ลงทุนปลูกไม้ที่ลาว ก็จะใช้ประโยชน์ได้อีก 6 ปี ข้างหน้า อยากถามว่า ราคานี้ ตีแตกดีไหมครับ
ผมอ่านจากที่ไหนจำไม่ได้แล้ว คุณบาจาจให้สัมภาษณ์ว่าภาวะอุตสาหกรรมเรยอนจะซบเซาไปอีกอย่างน้อย 2 ปี เพราะถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้จำเป็นมากในสถาวะเศรษกิจอย่างนี้ครับ

ถ้าดูงบบริษัทแม่ไตรมาส1 (สิ้นสุดธันวา51) เปรียบเทียบกับไตรมาส 2 (สิ้นสุดมีนา52) จะเห็นว่าขาดทุนเพิ่มขึ้นนะครับ ไม่ใช่ขาดทุนลดลง ผมไม่แน่ใจว่าผลประกอบการจะถึงจุดต่ำสุดหรือยัง ปีนี้ยังเหลืออีก 2  ไตรมาส ดูแล้วโอกาสทำกำไรของบริษัทแม่เป็นไปได้น้อยครับ แต่ถ้ารวมส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมๆ อาจจะกำไรได้

ถ้าเป็นผม ขอลองดูผลประกอบการอีกสักไตรมาสครับ tr เป็นหุ้นวัฎจักร ถ้ายังไม่มีแววฟื้น ต้องถือรอจะอึดอัดแถมเสียโอกาสด้วย

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 1:36 pm
โดย krisy
ลูกอิสาน เขียน: อยากให้เปิดเผย งบดุล งบกำไรขาดทุน ของบริษัทร่วมน่ะครับน้องกบ ก็มีบางบริษัทที่เปิดเผยนะครับ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจว่ายัง..
อ๋อ โทษทีค่ะ อ่านไม่ละเอียด เท่าที่เคยเห็นก็อาจจะเปิดแต่งบกำไรขาดทุนแบบย่อๆ แต่งบดุลคิดว่ายังไม่มีที่ไหนเปิด เพราะเอาเข้าจริง ถ้าเปิดออกมา น่าจะทำให้ลำบากในการใช้งบ เพราะเราจะ link งบเดี่ยวมาบวกกันแล้วหวังว่าจะเท่างบรวม น่าจะ ideal ไปนิด เพราะมันจะมีรายการระหว่างกันที่ตัดออก ตอนเป็นงบรวมค่ะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 1:45 pm
โดย firefox
เวรกรรมสงสัยอ่านกระทู้นี้จนมึน พึ่งมาเห็นว่า
พี่ตอบคำถามที่ผมสงสัยไว้แล้วอย่างละเอียดที่หน้าที่ 23
ไม่เป็นไร ขอบคุณมากๆครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 9:07 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="firefox"]สวัสดีครับพี่ลูกอีสาน

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 19, 2009 9:15 pm
โดย ลูกอิสาน
[quote="mikan171"]ขอถามพี่ลูกอีสานครับว่า พี่มีความเห็นยังไงกับ SPACK บ้างครับผมลองอ่าน 56-1 แล้วก็ดูน่าสนใจดีครับราคาก็โอเค เท่าที่ดูในเว็บบอร์ดนี้ก็ไม่มีนอกไม่มีในแต่ดูงบแล้วติดใจประมาณนี้ครับ

1. บริษัทมีเงินสดเหลืออยู่น้อยมาก ปลายปีที่แล้วเหลือแค่สามแสนกว่าๆดูน้อยมากๆจนน่ากลัวครับ >_<
2. กระแสเงินสดติดลบมาตั้งแต่ปี 2003 แล้ว - -;;
3. ไม่มีการตั้งค่าเผื่อด้อยค่าสินค้าคงเหลือเลย ทั้งที่ใน56-1เขียนไว้ว่า วัตถุดิบที่เป็นกระดาษมีโอกาสเสื่อมสภาพได้
4. รอบหมุนเจ้าหนี้สั้นมาก แค่ 15 วันเอง ในขณะที่รอบหมุนลูกหนี้ยาวถึง 60 วัน

โดยเฉพาะข้อ 1 เงินสดน้อยมากๆล่าสุดเช็คงบQ1 ก็ยังคงมีประมาณเดิม