raruen เขียน: คือสงสัยว่า DCF ของ FCF มันจะกลายเป็นมูลค่าของหุ้นได้ยังไง
แล้วต้องประมาณการอนาคตสักกี่ปีถึงจะเหมาะครับ
ตามความเข้าใจของผมคือ FCF พอดิสเค้ากลับมาที่ปีปัจจุบันด้วย WACC ของเรา(นักลงทุน)เอง สมมติว่าได้ 100 บาทต่อหุ้น
แปลว่า นี่คือ intrinsic value of this stock เลยเหรอครับ
แล้วก็คูณ safety factor สัก 0.5 ได้ 50 บาทยังงี้ใช่ไหมครับ
ที่ทำยังงี้ได้ด้วยสมมติฐานที่ว่า FCF ที่บริษัทได้รับมาจะต้องก่อประโยชน์ให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง รึป่าวครับ
ฟังดูงงๆไหมครับ เพราะผมอ่านเองก็งงๆนิดๆ หะหะ
ขอบคุณท่าน Ayethebing ครับสำหรับคำตอบ
สำหรับท่านที่ยังสงสัยใน DCF ก็หาหนังสือมาอ่านได้นะครับ
ชื่อ การปรับโครงสร้างทางการเงิน เล่ม2 ของ สนพ FPM Consultant
ส่วนการหา DCF นั้น ถ้าให้อุปมาให้เป็นตัวอย่าง
ก็เปรียบได้กับการหามูลค่าของมนุษย์เงินเดือนคนนึงนะครับ
สมมุติคนทำงานกินเงินเดือนหนึ่งคน อยากรู้ว่าตัวเองมีมูลค่าเท่าไหร่
ก็สามารถใช้ DCF หาได้ครับ ดังนี้
1) เขาคนนั้นมีรายได้แต่ละเดือนเท่าไหร่ (Income)
2) ในอนาคต เขาจะมีรายได้เพิ่มขึ้นหรือลดลงเท่าไหร่ จนถึงเกษียณ (Future Estimation)
3) เขามีรายจ่ายแต่ละเดือนเท่าไหร่ (Expense)
4) เขามีเงินเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเท่าไหร่ (FCF)
5) เขาจะเงินที่เหลือในข้อ 4 ไปทำอะไร ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ (Discount Rate)
6) คำนวณเงินในข้อ 4 ด้วยอัตราผลตอบแทนตามข้อ 5 จนถึงเกษียณ (DCF)
7) มูลค่าที่ได้จากข้อ 6 คือมูลค่าของคนคนนั้น (Intrinsic Value)
โดยถ้าเขาทำงานจนเกษียณ และ มีรายได้เพิ่มขึ้นตามที่วางแผนไว้
Discount ด้วยอัตราผลตอบแทนที่ต้องการ
ลองคำนวณหามูลค่าของตัวเองซิครับ ว่าท่านมี"มูลค่า"เท่าไหร่
ถามว่า"ความเสี่ยง"ที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า
1) รายได้ของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่คาดหวังเอาไว้
2) เขาอาจจะตกงานก่อนเกษียณ
3) เขาอาจจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ประมาณการ
4) อัตราผลตอบแทนที่ใช้อาจจะเปลี่ยนไป เช่น ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหรือลดลง
บอกได้เลยว่า การใช้ DCF หามูลค่าหุ้นจะผิดพลาดมากที่สุด
เพราะต้องประมาณการรายได้รายจ่ายไปในอนาคต
ดังนั้น อย่างที่ท่านAyethebing บอกไว้นั่นถูกแล้วครับ
ถ้าไม่เข้าใจธุรกิจ ก็หามูลค่าด้วย DCF ไม่ได้
ผมเคยเห็นบทวิเคาระห็ของโบรกนะครับ
เคยให้มูลค่าหุ้นด้วย DCF ณ ราคาหนึ่ง
พอราคาหุ้นขึ้นๆไม่หยุด
เพื่อนเล่นเปลี่ยน Discount Rate หน้าตาเฉย
เพื่อให้"ราคา"ที่ตัวเองคำนวณตาม"ราคาตลาด"ทัน
ทั้งๆที่ห่างกันไม่กี่สัปดาห์ อัตราดอกเบี้ยก็ไม่ขยับ
ผลประกอบการบริษัทก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
ก็ระวังบทวิเคาระห์ของโบรกไว้ด้วยนะครับ
อย่าเชื่อหมด อันตรายครับ
zippo เขียน:อ่านยังไม่จบทุกหน้าน่ะค่ะ แต่ก็เกือบแล้ว พอดีมีข้อสงสัยอยากขอความเห็นจากพี่ๆVI ว่า ถ้าหุ้นที่Divenden yield สูงๆ EPS เติบโตต่อเนื่อง มา อย่างน้อยห้าปี (หาข้อมูลย้อนหลังสิบปีม่ายล่าย) PEG<1 PEไม่เกินสิบ หนี้สินมีไม่มาก กำไรแต่ละปีก็ดี ที่นี้พอมาดูสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นมันน้อยมาก ไม่ถึงแสนหุ้นต่อวันเนี่ย(บางวันไม่ถึงหมื่น ) ก็เลยอยากรู้ว่าหุ้นตัวนี้ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ ควรจะดูข้อมูลอะไรเพิ่มในการตัดสินใจอีกบ้างค่ะ ราคาตอนนี้ก็สูงอยู่เหมือนกันในแง่ของจำนวนเงิน นักลงทุนเบี้ยน้อยหอยน้อย อย่างน้อง ควรเอาไปลงทุนหุ้นตัวอื่นที่ราคามันถูกกว่านี้แบบ 2 ตัว 20 แต่dividen ไม่ดีเท่า EPS ไม่ดีเท่า Growthก็น้อยกว่า พูดง่ายๆคือมีดีกว่าก็แค่สภาพคล่องในตลาดหุ้น หรือว่าไงค่ะ อยากได้ความเห็นจากพี่ๆที่มีexperience อันโชกโชนนะค่ะ
สงสัยน้อง zippo คงเป็น"ขาใหญ่" ซื้อขายวันนึงเป็นแสนหุ้น
เลยกลัวหุ้นสภาพคล่องน้อย กลัว"ออกของ"ไม่ทัน อิ อิ
ถ้ารักจะถือยาว ก็ไม่ต้องกลัวหุ้นสภาพคล่องน้อยครับ
ยิ่งเราลงทุนไม่มากถึงขนาดเป็นสิบล้านเป็นร้อยล้านก็ยิ่งไม่ต้องห่วง
แถมถ้าวิเคาระห็มาดี ก็ไม่ต้องกลัวออกของไม่ทัน
มีแต่จะซื้อเพิ่มละไม่ว่า
คำถามที่ว่า
ถ้าเลือกหุ้นดีราคาเป็นร้อย กับหุ้นห่วยราคาไม่กี่บาท
ถ้าเป็นผม ผมคงดูละครับว่า หุ้นทั้งสองแบบนั้น
อย่างไหน"แพง"กว่ากัน ในแง่มูลค่าหุ้น
หุ้นร้อยบาทแต่ P/E 4-5 จะถูกกว่าหุ้นสองบาท แต่ P/E เป็นร้อยเท่าครับ
ดังน้น อย่าโดนพาร์ของหุ้นหรอก
บางหุ้นพาร์ 10 เลยดูแพง ถ้าเทียบกับหุ้นพาร์ 1
ลองคำนวณมูลค่าหุ้นดูแล้วเทียบกับราคาบนกระดาน
ถ้าทุกอย่างเท่ากัน เลือกได้ก็เลือกหุ้นดีไว้ก่อนครับ
เวลาตลาดตกเหมือนตอนนี้ที่โดน"หวัดไก่"
ดัชนี 714 แล้วจากต้นปีที่จะทะลุ 800 อยู่แล้ว
ลดลงไป 86 จุด
ก็ยังนอนหลับสบาย
ไม่ผวาตื่นตอนกลางคืนเหมือนถือหุ้นร้อนนะครับ
คุณน้า Perter Lynch บอกเอาไว้ว่า
จะซื้อหุ้นราคาร้อยบาท หรือหุ้นราคาหนึ่งบาท
ถ้าบริษัทเจ๊ง ก็เหลือศูนย์เหมือนกัน
ดังนั้น ให้ดูที่มูลค่าครับ ไม่ใช่ราคา
อาจารย์ Graham บอกเอาไว้ว่า
"ราคาคือสิ่งที่เราจ่าย แต่มูลค่าคือสิ่งที่เราได้รับ"
ราคากับมูลค่าเป็นคนละเรื่องเดียวกันครับ
ว่าแต่ว่า พี่ๆท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
นานๆจะมี VI สาวๆมาถามที่กระทู้นี้
ไม่ตอบให้ก็ใจดำเกินไปแล้ว จริงมั๊ยครับ
สวัสดีครับ