Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ขอบคุณทุกท่านเรื่องลูกครับ

ที่จริงยังไม่คลอดเลย
คนที่สามเป็นผู้หญิงครับ
เรื่องลูกก็คล้ายๆเรื่องหุ้น
มีเยอะๆเพื่อกระจายความเสี่ยง
แต่ห้ามกระจายความเสี่ยงแม่ของลูกนะ

bsuntaku เขียน:เรียน ถามคุณลูกอิสานสักเล็กน้อยครับ พอดีผมสนใจ TSC ครับ แต่ข้อมูลค่อนข้างน้อย งบการเงินของ TSC ก็ดี ปันผลก็ดี เป็นบริษัทญี่ปุ่น การควบคุมต้นทุนก็ดี แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมรถยนต์ตกต่ำ แต่คาดว่าน่าจะต่ำได้ไม่นาน ซึ่งช่วงนี้คาดว่าเป็นช่วงที่ดีที่ควรเข้าไปถือครอง จึงอยากสอบถามคุณลูกอิสานว่า พื้นฐานที่น่าจะพิจารณาอื่นๆ มีอะไรบ้างไหมครับ ขอบคุณคุณลูกอิสานมาก ๆ ครับสำหรับคำตอบ

TSC เป็นหุ้นของกลุ่มไทยซัมมิทและหุ้นส่วนญี่ปุ่น ผลิตสายควบคุมในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงผลิตชุดควบคุมรางกระจกรถยนย์ ถ้าดูงบกำไรขาดทุนย้อนหลังประมาณ 4 ปี ยอดขายโตขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรค่อยๆลดลงตามมาร์จินสุทธิที่ลดจาก 14% เหลือ 8% ไตรมาสแรกปีนี้กำไรลดลงเหลือ 2% ถ้าดูอย่างนี้ TSC ก็เป็นหุ้นวัฎจักรที่ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมรถยนต์ รอบของวัฎจักรประมาณ 7-10 ปีตามอายุการใช้งานของรถยนต์ ดังนั้นเวลาที่จะซื้อหุ้นกลุ่มนี้คงเป็นช่วงที่กำไรตกต่ำ P/E จะสูงมาก ให้ดูที่ P/B แทนจะเหมาะสมกว่า ถ้าช่วงการตกต่ำ 3-4 ปี ปีนี้คงเป็นปีแรกๆครับ การพื้นตัวคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยๆไป เหมือนวัฎจักรเศรษกิจช่วงปี 40 ครับ ข้อสังเกตุที่คงต้องติดตาม..

1.บริษัทมีลูกค้ารายใหญ่ๆ 3 รายคือฮอนด้า โตโยต้า อิซูซุ ดังนั้นอำนาจต่อรองของลูกค้ามีสูง จะเห็นได้ว่าอัตรากำไรสุทธิที่ทำได้มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง กำไรที่เป็นตัวเงินก็ลดลงแม้ยอดขายจะเพิ่ม ยิ่งสถาณการณ์ตอนนี้บริษัทรถยนต์ยังขาดทุน บริษัทผลิตชิ้นส่วนที่มีอำนาจต่อรองต่ำกว่าก็ต้องร่วมรับภาระด้วย จำได้ว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วบริษัทย้ายไปโรงงานใหม่ ซึ่งได้ BOI ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี ก็คาดกันว่ากำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้นจากเหตุผลนี้ แต่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามคือมาร์จินลดลง ไม่แน่ใจว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เป็นอย่างนี้ คงมีหลายสาเหตุ

2.อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง แต่นั่นเป็นฐานกำไรปีที่แล้วเปรียบเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน แต่กำไรปีนี้คงลดลงมากในอัตราที่มากกว่าการลดลงของยอดขาย โดยไตรมาสแรกปีนี้ทำได้เพียง 10 ล้าน ในขณะที่ปีที่แล้วทำได้ 56 ล้าน ทั้งที่ยอดขายลดลงเพียง 40% เพราะบริษัทมีต้นทุนคงที่ ที่ไม่สามารถลดลงได้ตามยอดขาย เช่นพวกค่าเสื่อมอาคาร อุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายบริหาร ดังนั้นการคาดหวังผลตอบแทนเงินปันผลสูงๆ ในระยะอันใกล้นี้คงยากครับ

3.ยอดขายกลุ่มรถจักรยานยนต์  ในกลุ่มรถยนต์ไทยมีการผลิตเพิ่มทุกปี เนื่องจากเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก แต่ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 30% กลับมีการผลิตที่ลดลง น่าจะเป็นเพราะตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศอิ่มตัว ในขณะที่การส่งออกลดลงมาก เพราะประเทศลูกค้าหลักๆมีการประกอบรถเองเพื่อทดแทนการนำเข้า  ดังนั้นยอดขายในกลุ่มนี้มีแนวโน้มลดลงครับ

โดยภาพรวมแม้บริษัทจะประสบความยากลำบากตามภาวะอุตสาหกรรมรถยนย์ แต่ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่งบริษัทน่าจะผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ เวลาที่จะซื้อหุ้นก็คงเป็นช่วงนี้ที่ P/E สูงๆ แต่ P/B ต่ำๆ ส่วนช่วงไหน จังหวะไหนเหมาะที่จะซื้อต้องดูกันเอาเอง เพราะวัฎจักรแต่ละรอบก็กินเวลาค่อนข้างนาน ยังมีเวลาซื้อหุ้นอีกนานครับ...

ยินดีกับพี่ลูกอีสานมากครับ แล้วก็ขอขอบคุณมากครับที่พี่เสียสละเวลามาตอบคำถามพวกเราอย่างกระจ่างแจ้งครับ ขอให้ครอบครัวพี่มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงกันทุกๆ คนครับ
ขอบคุณมากครับ

Sayan wrote:
สวัสดีครับพี่ลูกอีสาน
คือผมเป็นคนนึงที่ติด SLC อยู่เกินกว่า 50% ของพอร์ต (ปอดเล็ก) มา 4 ปีแล้ว เฝ้าแต่รอว่าเมื่อไร บ. จะทำรายได้เกิน fix cost ซะที แต่แนวโน้มดูแล้วไร้ความหวังสิ้นดี ส่วนตัว i love libraly ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วเงียบมากไม่ทราบพี่พอจะแนะนำอะไรได้บ้างครับ..ที่ถามเพราะว่าเคยเห็นพี่สนใจตัวนี้แต่หลายปีแล้วมั้งครับ
ปล. ถ้าพี่แนะนำให้ขายผมก็ไม่รู้จะขายให้ไคร..สภาพคล่องน้อยมากขอบคุณล่วงหน้าครับ


น่าจะหมายถึงกระทู้นี้หรือเปล่าครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... hlight=slc

ถ้าไม่อำกันเล่น ผมแปลกใจที่ยังมีคนถือตัวนี้ครับ  
เหตุผลที่ผมสนใจตอนนั้นเพราะกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี งบดี และดูมีอนาคตแต่พื้นฐานหลังจากที่ผมโพสต์ มีแต่แย่ลงและแย่ลง ไม่เคยเป็นไปตามที่คาด เป็นหุ้นที่ผมมองผิดจังเบอร์ แต่ผมยังโชคดีนิดนึง ที่ไม่ได้ถือเยอะ(เพราะไม่ชัวน์) เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาด ผมก็ขาย เท่านั้น

หลังๆผมไม่ได้ติดตามพื้นฐานตัวนี้ เพราะมีแต่ความตกต่ำซ้ำซาก คิดว่าพื้นฐานล่าสุดยังไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะผลประกอบการก็ฟ้อง สำหรับคนที่ติดหุ้นแบบนี้ ผมขอยกคำพูดที่โด่งดังของ Winston Churchill อดีตนายกอังกฤษ ที่ว่า You have to lose many a battle to win the War. ถ้าเป็นภาษาหุ้นคือ หากจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ต้องรู้จัก cut loss ให้เป็น  เราถอยวันนี้ไม่ใช่เราจะแพ้ แต่เก็บถนอมกำลังเพื่อหวังชัยชนะในวันหน้าจะดีกว่า การทนถือหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยนไม่เป็นไปตามคาด นอกจากสูญเสียเงินลงทุน ยังเสียโอกาสลงทุนในหุ้นดีๆตัวอื่นๆ แถมต้องทุกข์ใจ(ถึง4ปี)ที่ต้องทนถือหุ้นแย่ๆอีกด้วย  

ผมเคยถือหุ้นไม่มีสภาพคล่องแบบสุดๆ เมื่อผมคิดว่าพื้นฐานเปลี่ยนไป ผมต้องจำใจขายที่ราคาฟลอร์   ซึ่งเป็นราคาเดียวที่มีบิดพอรองรับ ซึ่งผมก็ทำ ทำแล้วก็รู้สึกโล่งใจ ไม่เสียใจกับผลขาดทุนเลย แล้วเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุนหุ้นดีตัวอื่นๆ ได้กำไรเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวครับ

หวังว่าผมคงตอบคำถามได้บางนะครับ และอย่าลืม

cut loss เป็นเพื่อนที่ดีของเรา หากพื้นฐานหุ้นเปลี่ยนแย่ลงไม่เป็นไปตามคาด แต่อย่าไปทำกับหุ้นที่พื้นฐานดีขึ้น ดีเหมือนเดิมแต่ราคาหุ้นลดลงนะครับ

ถ้าไม่แน่ใจในพื้นฐาน อย่าถือหุ้นตัวใดตัวนึงมากจนเกินไป หลักง่ายๆของผม ถ้าถือหุ้นตัวใดตัวนึงจนรู้สึกเริ่มกังวล ผมจะหยุดซื้อเพิ่มทันที..

ขอบคุณครับและหวังให้ครอบครัวพี่มีแต่ความสุขนะครับ

ขอบคุณคุณลูกอิสานมากครับ ขอให้ลูกแข็งแรงครับ ไม่รู้ว่าคุณลูกอิสานมีลูก 3 คนแล้ว ก็เหมือนผมละครับ 3 เหมือนกัน และเป็นกำลังใจให้ครับ เพราะว่าใครมีลูกมาก ๆ อย่างผม คงต้องเจอสิ่งที่สนุก และท้าทายอย่างยิ่งครับ ผมว่าน่าจะพอ ๆ กับการซื้อขายหลักทรัพย์นี่นะครับ หลักทรัพย์พอเราเข้าใจแล้วก็สนุกเพราะเรามีพื้นฐานให้ดูให้วิเคราะห์ แต่ลูกนี่เราต้องสร้างพื้นฐานเพื่อให้สิ่งที่ดีแก่ลูก แต่อย่างไรเสียก็ต้องขอโทษด้วยครับที่เขียนไปอย่างนั้น จริง ๆ แล้วผมไม่มีเจตนาคิดอย่างนั้น พอดีอ่านเกือบทุกหน้าแล้ว แต่อาจมองพลาดไป แล้วเห็นคุณลูกอิสานตอบมาจนกระทั่งท้ายสุดแล้ว และก็ขอบคุณ Real Fan ของคุณลูกอิสาน คุณ diabo ด้วยครับ ที่กรุณาเตือนผม ต่อไปจะระวังคุณ Diabo ....ไม่ใช่ ระวังคำพูดเวลา Post ครับ

bsuntaku เขียน:ขอบคุณคุณลูกอิสานมากครับ ขอให้ลูกแข็งแรงครับ ไม่รู้ว่าคุณลูกอิสานมีลูก 3 คนแล้ว ก็เหมือนผมละครับ 3 เหมือนกัน และเป็นกำลังใจให้ครับ เพราะว่าใครมีลูกมาก ๆ อย่างผม คงต้องเจอสิ่งที่สนุก และท้าทายอย่างยิ่งครับ ผมว่าน่าจะพอ ๆ กับการซื้อขายหลักทรัพย์นี่นะครับ หลักทรัพย์พอเราเข้าใจแล้วก็สนุกเพราะเรามีพื้นฐานให้ดูให้วิเคราะห์ แต่ลูกนี่เราต้องสร้างพื้นฐานเพื่อให้สิ่งที่ดีแก่ลูก แต่อย่างไรเสียก็ต้องขอโทษด้วยครับที่เขียนไปอย่างนั้น จริง ๆ แล้วผมไม่มีเจตนาคิดอย่างนั้น พอดีอ่านเกือบทุกหน้าแล้ว แต่อาจมองพลาดไป แล้วเห็นคุณลูกอิสานตอบมาจนกระทั่งท้ายสุดแล้ว และก็ขอบคุณ Real Fan ของคุณลูกอิสาน คุณ diabo ด้วยครับ ที่กรุณาเตือนผม ต่อไปจะระวังคุณ Diabo ....ไม่ใช่ ระวังคำพูดเวลา Post ครับ

ไม่เป็นไรครับพี่
ผมไม่ได้มีเจตนาอะไรรุนแรงเลย
เพียงแต่ผมเป็นคนพูด(ในเน็ต)ไม่ค่อยเพราะ
พี่ๆในเว็บนี้หลายท่านรู้กันดีครับ

เหตุการณ์ที่เกิดกับ akr ถ้าเป็นพี่ลูกอีสานจะทำยังไงครับถ้ามีหุ้นตัวนี้ในพอร์ต
100% แก้เกมยังไงดีครับ ขอบคุณครับ

รบกวนถามพี่หน่อยครับ
กับหุ้นปลาสวรรค์ PM
ขอบคุณล่วงหน้าครับพี่

ขอสอบถามมุมมองของคุณโจหน่อยนะครับ ว่าการเป็นนักลงทุนที่ดีควรจะต้องศึกษา MBA หรือจบบัญชีหรือไม่ (ผมจบวิศวะครับ) เพราะผมอ่านหนังสือหลายๆเล่มแล้วรู้ตัวว่ายังวิเคราะห์งบไม่ค่อยเก่ง โดยเฉพาะงบกระแสเงินสด บางทีดูค่าเสื่อม แล้วลองไปดูหมายเหตุประกอบงบการเงิน ปรากฏว่าไม่สามารถหาตัวเลขค่าเสื่อมในหมายเหตุประกอบงบการเงินให้ตรงกับที่อยู่ในงบกระแสเงินสดได้ หรือค่าอื่นๆที่หลายครั้งก็คำนวณได้ไม่ตรง นอกจากนี้การนำข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบการเงินมาเชื่อมเพื่อดูความสัมพันธ์ ผมยังดูไม่ค่อยออกครับ เราจะมีวิธีดูได้อย่างไรว่าตัวเลขต่างๆเป็นจริง ไม่ได้ถูกแต่งเติมขึ้นมา ทั้งนี้ถ้าคุณโจคิดว่าควรจะต้องเรียน MBA หรือบัญชี น่าจะเรียนที่สถาบันไหนครับ หรือผมควรอ่านหนังสือเล่มไหนที่จะทำให้เข้าใจได้มากขึ้นครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

เพิ่งมีโอกาสได้มานั่งอ่านกระทู้ของพี่ลูกอีสานแบบเต็มๆรวดเดียวจบ (ก่อนหน้านี้แวะมาอ่านนิดๆหน่อยๆ)
เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากๆเลยครับ พี่ลูกอีสานตอบได้ทั้งกว้างและลึกเข้าใจง่ายมากๆเลยครับ
ขอบคุณพี่ลูกอีสานมากๆที่เสียสละเวลามาตอบคำถาม เผยเคล็ดลับในการลงทุนให้กับเพื่อนๆ ขอให้ผลบุญช่วยส่งให้ครอบครัวพี่โจมีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันทุกคนเลยนะครับ
ปล. ลูก 3 แล้วนะพีโจ ขยันทำการบ้านทั้งเรื่องหุ้น ทั้งเรื่องอื่นเลยนะครับ (แซวเล่นนะครับ)  :lol:

ปล1. พี่โจนี่เป็น Hero ในใจผมคนนึงเลยนะครับ ถึงเวลามีโอกาสได้เจอจะไม่ค่อยได้คุยกะพี่โจเท่าไหร่ (ผมเข้าไปคุยกับคนอื่นไม่ค่อยเก่ง)  

ไม่เคยถาม แต่แอบอ่านมาตลอด

ยินดีด้วยครับ พี่ลูกอิสาน

[quote="neoshape"]คุณ ลูกอีสาน

yoyo เขียน:เพิ่งมีโอกาสได้มานั่งอ่านกระทู้ของพี่ลูกอีสานแบบเต็มๆรวดเดียวจบ (ก่อนหน้านี้แวะมาอ่านนิดๆหน่อยๆ) เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากๆเลยครับ พี่ลูกอีสานตอบได้ทั้งกว้างและลึกเข้าใจง่ายมากๆเลยครับ

พี่ตอบยากๆไม่เป็นครับโย ความรู้ไม่ถึง เอากันง่ายๆดีกว่า

ปล. ลูก 3 แล้วนะพีโจ ขยันทำการบ้านทั้งเรื่องหุ้น ทั้งเรื่องอื่นเลยนะครับ (แซวเล่นนะครับ)  :lol:

ต้องให้สมดุลซิครับ... :lovl:

ปล1. พี่โจนี่เป็น Hero ในใจผมคนนึงเลยนะครับ ถึงเวลามีโอกาสได้เจอจะไม่ค่อยได้คุยกะพี่โจเท่าไหร่ (ผมเข้าไปคุยกับคนอื่นไม่ค่อยเก่ง)  

ผมน่ะอยากไปทานข้าวด้วยกันครับ แต่ติดตรงมักจะมีเพื่อนๆมาคุย และผมก็กลับดึกไม่ได้ด้วย แต่ต่อไปน่าจะกลับดึกได้แล้วครับ



ผมกำลังหาอาสาสมัครให้ตั้งกระทู้อย่างนี้ครับ...

ขอสอบถามคุณ YoYo เรื่องเทคนิคการลงทุนครับ..

ขอสอบถามคุณ Naris เรื่องเทคนิคการลงทุนครับ..

ขอสอบถามคุณ Blueblood เรื่องเทคนิคการลงทุนครับ..

น่าจะดีนะครับ :lol:  :lol:

krisy เขียน:ดีใจด้วยนะคะพี่โจ

ขอให้ปลอดภัยทั้งคุณแม่คุณลูก คุณพ่อก็อย่าหักโหม กินเยอะๆ นอนมากๆนะคะ :lol:

แหมน้องคริสตี้ ชุงทัักซะผมสะดุ้งเลย
แต่พอนึกขึ้นมาได้
อ้อ...คนหาดใหญ่ด้วยกันนี่นา รู้จัุกกันด้วย
ก็เลยทัักได้สะดุ้งกว่าท่านอื่น

ผมทราบว่าโจกำลังจะมีอีกหนึ่ง(หมายถึงลูก)
เพราะเมื่อปลายมีค.ที่ผ่านมาตอนแวะไปเยี่ยมเยียน
ได้เจออาจารย์(ภรรยาโจ)ท้องตุ้ยนุ้ย อุ้ยอ้ายเรียบร้อยแล้ว
2ลิงแรกเป็นชาย วิ่งกันบ้านสะเทือน
คนล่าสุดนี้เป็นสาว มีลูกสาวนี่ได้มิติมากกว่าลูกชายนิดหน่อย
เพราะลูกสาวจะน่ารักมีเสน่ห์มากกว่าลูกชาย
ต่อให้โต แต่งไปแล้ว ก็ยังหมั่นแวะมาเยี่ยมเยียนเรา
ส่วนลูกชายมักตรงข้าม...ฮ่า...
ถ้าจะให้ดีก็มีให้ครบ4ไปเลยครับ
ทีหุ้นยังซื้อทีนึง20ตัวได้เลย

ผมเองยังบอกอาซ้อเลย
ว่าอยากมีลูก4คน
แต่สงสารเธอที่อุ้มมาแล้ว2
จะไปหาคนช่วยอุ้มให้อีก2ดีมั๊ย
อาซ้อเดินเข้าครัวไปหยิบมีดไปลับกับเข็มขัดดังฟั่บๆๆๆๆ
ผมเลยบอกว่า
"ตุ๊ย้อเย่น แหมรักจะตาย ใครจะไปทำอย่้างน้านนน...ได้ลงคอ"

เปล่านะคะ พี่พอใจ กบไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลย พี่แอบคิดลึกนะค้า  :lol:

ก้อเห็นพี่โจยุ่ง ไหนจะแต่งบ้าน ไหนจะเข้ามาตอบคำถามดึกๆทุกคืน พอน้องอีกคนคลอดน่าจะยุ่งกว่าเดิม ก็เลยบอกว่า ให้กินเยอะๆค่ะ เดี๋ยวผอมกว่าเดิมเท่านั้นเองค่ะ

krisy เขียน:เปล่านะคะ พี่พอใจ กบไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลย พี่แอบคิดลึกนะค้า  :lol:

ครับ
ผมกลัวกระทู้โจ จะเคร่งเครียดเกินไป
มีแต่คนมาถามเอาเป็นเอาตาย
ตัวนั้นเป็นไง
ตัวนี้เป็นไง
ผมจะรวยจะจนก็อยู่ที่พี่โจนี่แหละ
กลัวจะเครียดแย่ซะก่อน
หุ้นยิ่งตกๆอยู่ช่วงนี้
ก็เลยออกมาแซวเล่นน่ะครับ
ถ้ามีหงุดหงิดก็ยกโทษให้คนแ่ก่ด้วยน๊า...

por_jai เขียน:
ถ้ามีหงุดหงิดก็ยกโทษให้คนแ่ก่ด้วยน๊า...

ขำขำค่ะพี่พอใจ ไม่ได้หงุดหงิดเลย วันนี้หุ้นลงโดยไม่รู้เพราะอะไร ยังไม่หงุดหงิดเลย อิอิ

krisy เขียน: ขำขำค่ะพี่พอใจ ไม่ได้หงุดหงิดเลย วันนี้หุ้นลงโดยไม่รู้เพราะอะไร ยังไม่หงุดหงิดเลย อิอิ

หุ้นลงเพราะผมไม่ยอมขายครับ
เจ้าเขาจะกดให้ผมตายให้ได้
เขาเลยอาละวาดใหญ่
ทำน้ำมันลง
ทำดาวลง
ทำหั่งเส็งลง นิกเคอิลง
ยุโรปก็ลง
ยิ่งลงผมยิ่งถือ
ไม่รู้ว่าบ่ายเขาจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า
ฮ่า....

พี่ป้อมจอมอึด เขียน: หุ้นลงเพราะผมไม่ยอมขายครับ
เจ้าเขาจะกดให้ผมตายให้ได้
เขาเลยอาละวาดใหญ่
ทำน้ำมันลง
ทำดาวลง
ทำหั่งเส็งลง นิกเคอิลง
ยุโรปก็ลง
ยิ่งลงผมยิ่งถือ
ไม่รู้ว่าบ่ายเขาจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า
ฮ่า....

เข้ามาป่วนด้วยคนครับ  

พี่ป้อมก็เอาหุ้นคืนเค้าไปบ้างสิครับ
ผมจะได้หายใจหายคอสะดวกๆบ้าง
ฮา.....

sai เขียน:พอดีดู 56-1 ของกลุ่มนี้อยู่มีคำถามอยากถามพี่โจ หน่อยครับ ต้องรบกวนอีกแล้วนะครับพี่
1.ไม่ทราบพี่ โจ มองการฟื้นตัวของกลุ่มท่องเที่ยวอย่างไรครับ และ มองว่าเลยจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยังครับ ผมเองติดตามหุ้นในกลุ่มนี้อยู่ 3 ตัวครับ มี mint , centel , erawan พอดูตัวเลขทางการเงินต่างต่างมีข้อสงสัยเหมือนกันครับราคาตามมูลค่าทางบัญชี ของ mint อยู่ที่ 3.27 บาทต่อหุ้น ส่วนของ Centel อยู่ที่ 4.60 และ ของ erawan อยู่ที่ 1.62 ถ้าดูที่บุ๊คอย่างเดียวจะพบว่า centel ถูกที่สุดเพราะ เทรดกันที่ 0.67 เท่าของบุ๊คเท่านั้น ถ้ามองที่ pe โดยเอา pe ปี2551 ตั้งนะครับ จะได้ mint มี pe ที่ 14 เท่า และ centel มี pe ที่ 12 เท่า ส่วน erawan มี pe ที่ 39 เท่า ในมุมมองของผมกลุ่มนี้ถ้าการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวน่าจะส่งผลดีกับหุ้นทั้งสามตัวในทิศทางเดียวกัน ถ้าเรามองแบบนี้หุ้นตัวที่น่าซื้อที่สุดควรจะเป็น centel ใช่หรือไม่ครับ ไม่ทราบพี่ โจ มีมุมมองอย่างไรครับ อยากถามพี่ก่อนกลัวลืมอะไรไปน่ะครับ

*อุตสาหกรรมท่องเที่ยวตอนนี้เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด คงมีผู้ประกอบการบางส่วนที่ไม่รอด ดังนั้นง่ายๆเอาที่จะรอดวิกฤิตครั้งนี้ไปก่อน ถ้าดูคร่าวๆงบดุลของ mint ดีที่สุด ในขณะที่ centel รองลงมา และ erawan แย่ที่สุด แต่ผมก็ยังคิดว่าทั้ง สามรายนี้คงรอดแน่ เพราะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ที่แข็งแกร่ง

*รายไหนที่จะฟื้นตัวได้เร็วกว่า คงต้องดูที่มาของรายได้ ทั้ง mint และ centel มีรายได้ 2 ทางคือธุรกิจโรงแรมและอาหารจานด่วน ในขณะที่ erawan เข้าใจว่าเป็นโรงแรมอย่างเดียว ส่วนที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้มากที่สุดคือโรงแรม ดังนั้นถ้าผ่านไปได้ erawan คงฟื้นตัวก่อน แต่ปัญหาคือวิกฤิตครั้งนี้อาจยาวนาน เพราะมีหลายสาเหตุประดังประเดเข้ามา ดังนั้นในระหว่างนี้รายที่มีธุรกิจอาหารด้วย จะกระทบน้อยกว่าครับ

*การวิเคราะห์โดยใช้ P/E แม้ในกลุ่มเดียวกัน ก็ให้ไม่เท่ากัน คือ P/E ก็สะท้อนปัจจัยพื้นฐานต่างๆของกิจการ หลักๆคือการเติบโตของรายได้ ประสิทธิภาพการทำกำไร ความแข็งแกร่งของงบดุล คุณภาพของรายได้ ความเสี่ยงของแต่ละบริษัท ดังนั้นหุ้นแต่ละตัวในกลุ่มนี้ก็ควรมี P/E ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพพื้นฐานของแต่ละรายครับ

*จุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่วนตัวผมคิดว่ายังครับ ดูไตรมาส 2-3 ปีนี้ซึ่งเป็นช่วงโลว์อยู่แล้ว หลายบริษัทคงรายงานตัวแดงครับ

2.. พี่ โจ มองว่าเพราะอะไรครับตลาดถึงให้ ราคา ของ mint สูงกว่า centel มากขนาดนั้นครับ เพราะความสามารถผู้บริหารที่เก่งกว่าหรือไม่ครับ และ ถ้าให้คะแนนผู้บริหารของ mint และ centel เต็ม 10 พี่คิดว่า mint และ centel ควรได้สักเท่าไรครับ

ของดีก็ควรขายได้แพงกว่า ตลาดให้ P/E ไม่เท่ากันก็มีเหตุมีผลของมันครับ เรื่องผู้บริหารผมให้ Mint 9 เต็ม 10 ส่วน centel ให้สัก 5 ครับเหตุผลที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญก็สะท้อนจากผลงาน ตัวเลขต่างๆ จากภูมิหลังของครอบครัว คนนึงปากกัดตีนถีบ มีวิญญานของผู้ประกอบการเต็มร้อย ส่วนอีกรายเป็นธุรกิจแขนงนึงของตระกูลใหญ่ ผู้บริหารก็เป็นลูกหลานเจ้าสัว ความมุ่งมั่นจะน้อยกว่ารายแรกครับ แต่ก็ชดเชยด้วยความเสี่ยงการพึ่งพิงผู้บริหารน้อยกว่า โดยรวมความรู้สึกส่วนตัวของผมคือ mint จะนำหน้า centel 1 ก้าวเสมอ

3.ในส่วนของทั้งทาง mint และ centel จะมีการรับจ้างบริหารโรงแรมด้วยเท่าที่ดูเค้าจะยินยอมให้ใช้ในส่วนของชื่อโรงแรมเช่น เซนทาราดวงตะวัน เชียงใหม่ หรือ อนันตรา... เป็นต้นนะครับคล้ายคล้ายเป็นสาขาไปเลย ประกอบกับปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างแย่ของธรุกิจท่องเที่ยวทำให้ปีนี้มีโรงแรมมาให้รับจ้างบริหารเป็นจำนวนมาก(centel แจ้งว่าในไตรมาสหนึ่งมีโรงแรมเข้ามาเซ็นสัญญาให้ทาง centel บริหารแล้วรวม 5 แห่งและยังมีที่อยู่ระหว่างเจรจาอีก5-7 แห่ง) ตรงนี้ไม่ทราบพี่พอทราบไหมครับว่าตามปกติเค้าจะได้ค่าจ้างอย่างไรหรือคิดเป็นตามส่วนแบ่ง %ครับ และ ในส่วนของการรับจ้างบริหารโรงแรมพี่มองว่า mint และ centel มีจุดเด่นและจุดด้อยกว่ากันอย่างไรครับ

เรื่อง % รายได้บริหารโรงแรม ผมไม่มีข้อมูลเลยครับ ใน 56-1 อาจจะมีหรือดูในงบกำไรขาดทุนก็น่าจะรู้อัตรากำไรขั้นต้น เรื่องการบริหารโรงแรมก็เช่นกัน Mint บุกเบิกก่อน centel แต่ก็คล้ายๆกันคือต้องว่าจ้างผู้บริหารฝรั่งราคาแพงๆมาจัดการให้ ที่ผมไม่ค่อยแน่ใจคือเร็วๆนี้อ่านเจอข่าว centel ประกาศรุกการบริหารโรงแรม แต่ไม่แน่ใจว่าธุรกิจส่วนนี้เป็นของ centel หรือเป็นบริษัทส่วนตัวของตระกูลจิราธิวัฒน์กันแน่ครับ ลองเช็คข่าวดูครับในฐานฯหรือเปล่าไม่แน่ใจ

4.ในส่วนของแบรนด์อาหาร รายได้ของ mint สูงกว่าพอสมควร เข้าใจว่าเป็นเพราะมีแบรนด์ในส่วนของอาหารเป็นของตัวเอง 3 แบรนด์ ผมเองเข้าใจว่าการสร้างแบรนด์ในกิจการอาหารเป็นเรื่องค่อนข้างยาก centel จึงไม่ลงมาสร้างแบรนด์เอง ถ้ามองจากมุมนี้อาจมองได้ว่า ผู้บริหารของ mint มีความสามารถมากกว่า
ขอฟังคอมเม้นท์พี่โจหน่อยนะครับ

เข้าใจว่า mint มีแบรนด์ของตัวเองแบรนด์เดียวคือ The Pizza ส่วนที่เหลือซื้อมาครับ แต่บางแบรนด์จะได้สิทธิ์ขยายในต่างประเทศด้วย ส่วน centel ซื้อมาทั้งหมด ที่เด่นหน่อยก็ Kfc และ Mister Donut  Aunty Ann พอไหว ส่วน บาสกิ้น รอบบิ้น โคม่า Pizza Hut ก็ยอมแพ้แล้ว ไตรมาสล่าสุดสาขาที่เปิดน้อยกว่าสาขาที่ปิดเยอะเลยครับ  ถ้ามองภาพรวม mint เด่นกว่าพอสมควรซึ่งสะท้อนได้ว่าผู้บริหารก็คงเก่งกว่าครับ

แต่ไม่แน่ใจว่าธุรกิจส่วนนี้เป็นของ centel หรือเป็นบริษัทส่วนตัวของตระกูลจิราธิวัฒน์กันแน่ครับ ลองเช็คข่าวดูครับในฐานฯหรือเปล่าไม่แน่ใจ

ผมอ่านเจอในประชาชาติธุรกิจช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เท่าที่อ่านจากข่าวคล้าย ๆ กับทำภายใต้บริษัทส่วนตัวของตระกูลจิราธิวัฒน์ครับ ยัง งง ๆ ว่าทำไมไม่เอาเข้า centel สงสัยเพราะ margin ดีและไม่ต้องลงทุนมากมั้ง  :lol:

investment biker เขียน:

ผมอ่านเจอในประชาชาติธุรกิจช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เท่าที่อ่านจากข่าวคล้าย ๆ กับทำภายใต้บริษัทส่วนตัวของตระกูลจิราธิวัฒน์ครับ ยัง งง ๆ ว่าทำไมไม่เอาเข้า centel สงสัยเพราะ margin ดีและไม่ต้องลงทุนมากมั้ง

สวัสดีครับ พี่ลูกอิสาน ยินดีด้วยครับ สำหรับเรื่องลูก ส่วนผมเองแต่งมา 7 ปี ยังไม่กล้ามีเลยครับ (กลัวเด็ก) สงสัยปีหน้าคงเจอคำสั่งจากเบื้องบนแน่ ๆ ครับ
เห็นพี่ลูกอิสานกำลังพูดคุยตัวที่เกี่ยวกับท่องเที่ยวพอดี งั้นรบกวนพี่ลูกอิสานวิเคราะห์ตัว major ให้ด้วยนะครับ พอดีผมเห็นว่ารอบนี้เป็นตัวที่ราคาเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างช้ามาก ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ไม่ดีซ่อนอยู่มั๊ยครับ อนาคตเป็นไปได้มั๊ยครับที่เค้าจะมาทำในลักษณะ cpn ขอบคุณครับ

ลูกอิสาน เขียน:ขอบคุณทุกท่านเรื่องลูกครับ

ที่จริงยังไม่คลอดเลย
คนที่สามเป็นผู้หญิงครับ
เรื่องลูกก็คล้ายๆเรื่องหุ้น
มีเยอะๆเพื่อกระจายความเสี่ยง
แต่ห้ามกระจายความเสี่ยงแม่ของลูกนะ

ยินดีด้วยครับน้องลูกอีสาน
ได้ลูกสาวสมใจ

สามคนระวังคนกลางจะเหงา
ต้องมีสี่ถึงจะครบคู่
ลองปรึกษาซ้อดู อิ อิ

ฝีมือวิเคราะห์หุ้น  ลงทุน  แซงหน้าผมไปเยอะแล้ว

เรื่องลูกก็แซงหน้าผมไปอีก  ผมมีแค่ 2  แต่ลูกอิสานนำไป 3  แล้ว  ขอยอมแพ้ครับ   :lol:    :lol:

แต่ยังไงลูกของผมก็โตกว่าเยอะ  คนโต 10 ขวบ  คนเล็ก 8 ขวบแล้ว

มีลูก 3 คน  แถมยังเล็กอยู่  เหนื่อยแน่ๆ  มาให้กำลังใจครับ

คนเล็กเป็นผู้หญิง  มีพี่ชาย 2 คน  คงหวงน้องกันน่าดู

เสี่ยเมืองสิงห์จอมอึดเช่นกัน เขียน:

เข้ามาป่วนด้วยคนครับ

[quote="chatchai"]ฝีมือวิเคราะห์หุ้น

[quote="ลูกอิสาน"][quote="yoyo"]
ขอสอบถามคุณ YoYo เรื่องเทคนิคการลงทุนครับ..

ขอสอบถามคุณ Naris เรื่องเทคนิคการลงทุนครับ..

ขอสอบถามคุณ Blueblood เรื่องเทคนิคการลงทุนครับ..

น่าจะดีนะครับ :lol:

[quote="naris"][quote="chatchai"]ฝีมือวิเคราะห์หุ้น

ผมว่าลูกจะเข้าม.1เครียดมากกว่าพอร์ตลดไปครึ่งอีกนะพี่ :lol:

คงเป็นเพราะเราไปคาดหวังกับอนาคตลูกมากเกินไป
จริงๆก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะเป็นอะไรหรอก เพราะบอกเขาน่าจะทุกเดือนว่า
"หาให้เจอนะว่าเราชอบอะไร แล้วมุ่งไปทางที่เราชอบนั่นแหละ"

แต่ะดูๆแล้ว ที่ผ่านมามันไม่เห็นเครียดเลย มีแต่ผมแหละที่เครียดที่จะสอน :lol:

naris เขียน:ผมว่าลูกจะเข้าม.1เครียดมากกว่าพอร์ตลดไปครึ่งอีกนะพี่ :lol:

คงเป็นเพราะเราไปคาดหวังกับอนาคตลูกมากเกินไป
จริงๆก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะเป็นอะไรหรอก เพราะบอกเขาน่าจะทุกเดือนว่า
"หาให้เจอนะว่าเราชอบอะไร แล้วมุ่งไปทางที่เราชอบนั่นแหละ"

แต่ะดูๆแล้ว ที่ผ่านมามันไม่เห็นเครียดเลย มีแต่ผมแหละที่เครียดที่จะสอน :lol:

ปีหน้าคงจะรู้ว่าเครียดแค่ไหน  แต่ก็พยายามเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ