Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ตั้งแต่เริ่มตั้งกระทู้นี้ ราคาหุ้น 12.30 ตั้งปั๊บ ว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ โห หุ้นลงไป 10.80 เลยครับ เจอ subprime

มาถึงวันนี้ sc ปิดที่ 15.30 พร้อมประกาศผลตะกี้นี้เอง กำไร 1.97

ยินดีกับเพื่อนทุกคนครับ ที่ช่วยกันทำมาหากิน คนละไม้คนละมือ ช่วยๆกันให้ข้อมูล พวกเราเกาะกลุ่มกัน เอาข้อดีของแต่ละคนมาประสานกัน ก็ได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่ายครับ

ส่วนน้องใหม่ ที่เข้ามาซื้อหุ้นก็ดูเองนะครับ คำเตือนมีเยอะเหลือเกิน เตือนกันประจำ จนน่าจะทำสติกเกอร์ไปแปะ ไว้หน้าเว็บแล้ว ว่าจะซื้อจะหา ก็ต้องรับผิดชอบ ด้วยตัวเอง คิดเอง ว่าราคาซื้อนั้นๆ ถูกแค่ไหน เพราะอะไร

ผมแนะให้ครับ กำไร 1.97 จะซื้อราคาไหน ลองเอา ราคาหารด้วยกำไร จะออกมาเป็น pe ครับ

หาก pe ยังต่ำ แล้วก็ไปดูต่อครับ ว่า growth 2551 สูงหรือไม่

หากว่า pe ต่ำ g สูง หุ้นก็มีแนวโน้มขึ้นต่อครับ ตัวอย่าง มีไม่ต่ำกว่า 50 ตัวอย่าง ครับ ตอนเปิดสอน ก็ยกหลายสิบตัวอย่างมาให้ดูครับ

บาย

ดีใจด้วยครับพี่เจ๋ง    :cheers:  :cheers:

Little boy ว่า ประกาศออกมาแบบนี้ กำไร 1.97 แล้วปีนี้ จะกำไรเท่าไรครับ

ลองทำการบ้านซิ

ผมว่าธุรกิจสร้างบ้านขายน่าจะประเมินยอดขายในแต่ละปีค่อนข้างยากนะครับ  มีความผันผวนมาก  ไม่เหมือนสินค้าประเภทใช้แล้วหมดไป

การประเมินอัตราการเติบโตคงลำบาก  จะใช้อัตราการเติบโตในอดีตมาประเมินก็คงไม่น่าจะได้  

อีกทั้งอัตราการเติบโตที่ใช้ร่วมกับ PE ในการประเมินราคานั้น  ควรจะเป็นอัตราการเติบโตระยะยาวมากกว่าระยะสั้น ปี หรือ สองปี นะครับ

[quote="chatchai"]ผมว่าธุรกิจสร้างบ้านขายน่าจะประเมินยอดขายในแต่ละปีค่อนข้างยากนะครับ

Jeng เขียน:Little boy ว่า ประกาศออกมาแบบนี้ กำไร 1.97 แล้วปีนี้ จะกำไรเท่าไรครับ

ลองทำการบ้านซิ

ผมขอตอบด้วยก็แล้วกันครับ

เป้าของคุณยิ่งลักษณ์ เคยบอกเอาไว้ว่าปีนี้ (2551) ตั้งเป้าโต 20% ซึ่งผมคิดว่าเป็นไปได้ครับ เพราะอะไร? เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้

รายได้ของ SC หลักๆแล้วจะมีมาจาก 2 ทางก็คือ

- รายได้จากค่าเช่าตึก
รายได้จากค่าเช่าตึก โดยปกติจะขึ้นราคาอยู่แล้วทุกปีครับ ยิ่งทำเลทองอย่างตึกชินวัตร 3 การขึ้นค่าเช่า ไม่ใช่เรื่องแปลก

- รายได้จากการขายโครงการบ้าน
โดยปีนี้ SC เปิดโครงการอีก 8 โครงการ ซึ่ง ที่ดินที่ SC มีอยู่ และใช้ทำโครงการทั้ง 8 นี้ เป็นทำเลที่ขายดีมาก ไม่ไกลเมือง เรียกว่าทำแล้วขายง่าย เท่าไหร่ก็หมด (ผมกำลังจะซื้อบ้านครับ เลยมีความรู้เรื่องบ้านแต่ละโครงการอยู่บ้าง) ทำเลที่เปิดโครงการใหม่ โดยส่วนมากมันก็ใกล้ๆ กับที่ขายอยู่ในปี 2550 ซึ่งทำยอดขายถล่มทลาย จนทำกำไร 1.97 บาทต่อหุ้น

ดังนั้น ด้วยทำเลเดิมๆ การ design บ้านที่เน้นคนรุ่นใหม่ การทำการตลาด segment กลางถึงสูง ที่ SC ทำอยู่

ผมคิดว่าโต 20% นั้น ไม่ใช่เรื่องยากครับ

(ปล. ถือหุ้น SC อยู่ครับ แล้วมีเยอะด้วย ผู้อ่านโปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน)

ผมเห็นนักลงทุนบางคนใช้วิธีประเมินเอาว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ไตรมาสไหน จะได้ซื้อดักงบออกไว้ก่อน ไม่แน่ใจว่าสุดท้ายทำกำไรได้หรือเปล่า
ผมเคยลองศึกษา LPN อยู่พักนึง สุดท้ายก็ยอมแพ้เพราะไม่รู้จะ valuate ยังไงดี
ส่วน SC ผมอาศัยว่าบริษัทมีรายได้จาก ค่าเช่า ทำให้ต่อให้ขายโครงการไม่ได้ก็น่าจะไม่เจ็ง สินทรัพย์มีคุณภาพ เช่น ตึกชิน 1-3 ที่ดินก็มี รวมๆแล้วก่อนหน้านี้ราคาลงเพราะการเมืองเลยซื้อ ถ้าในสภาวะปกติผมคงไม่ซื้อหุ้นตัวนี้เพราะไม่รู้ว่าบริษัทจะเป็นยังไงในปีต่อๆไป -_-'

Alastor เขียน:ผมเห็นนักลงทุนบางคนใช้วิธีประเมินเอาว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ไตรมาสไหน จะได้ซื้อดักงบออกไว้ก่อน ไม่แน่ใจว่าสุดท้ายทำกำไรได้หรือเปล่า
ผมเคยลองศึกษา LPN อยู่พักนึง สุดท้ายก็ยอมแพ้เพราะไม่รู้จะ valuate ยังไงดี
ส่วน SC ผมอาศัยว่าบริษัทมีรายได้จาก ค่าเช่า ทำให้ต่อให้ขายโครงการไม่ได้ก็น่าจะไม่เจ็ง สินทรัพย์มีคุณภาพ เช่น ตึกชิน 1-3 ที่ดินก็มี รวมๆแล้วก่อนหน้านี้ราคาลงเพราะการเมืองเลยซื้อ ถ้าในสภาวะปกติผมคงไม่ซื้อหุ้นตัวนี้เพราะไม่รู้ว่าบริษัทจะเป็นยังไงในปีต่อๆไป -_-'

ถ้าไม่มีปัญหาการเมือง เราคงไม่ได้ซื้อกันที่ราคา 8 บาทครับ

newbie_12 เขียน: ถ้าไม่มีปัญหาการเมือง เราคงไม่ได้ซื้อกันที่ราคา 8 บาทครับ

เรียกว่า Opportunistic Buy น่าจะถูกนะครับคุณ newbie_12

อ้อ ตอนนั้นผมกะว่าไม่กำไรยังไงก็ได้กิน buffet ตอน annual meeting ด้วยนะครับ

newbie_12 เขียน: ผมขอตอบด้วยก็แล้วกันครับ

เป้าของคุณยิ่งลักษณ์ เคยบอกเอาไว้ว่าปีนี้ (2551) ตั้งเป้าโต 20% ซึ่งผมคิดว่าเป็นไปได้ครับ เพราะอะไร? เพราะเหตุผลดังต่อไปนี้

รายได้ของ SC หลักๆแล้วจะมีมาจาก 2 ทางก็คือ

- รายได้จากค่าเช่าตึก
รายได้จากค่าเช่าตึก โดยปกติจะขึ้นราคาอยู่แล้วทุกปีครับ ยิ่งทำเลทองอย่างตึกชินวัตร 3 การขึ้นค่าเช่า ไม่ใช่เรื่องแปลก

- รายได้จากการขายโครงการบ้าน
โดยปีนี้ SC เปิดโครงการอีก 8 โครงการ ซึ่ง ที่ดินที่ SC มีอยู่ และใช้ทำโครงการทั้ง 8 นี้ เป็นทำเลที่ขายดีมาก ไม่ไกลเมือง เรียกว่าทำแล้วขายง่าย เท่าไหร่ก็หมด (ผมกำลังจะซื้อบ้านครับ เลยมีความรู้เรื่องบ้านแต่ละโครงการอยู่บ้าง) ทำเลที่เปิดโครงการใหม่ โดยส่วนมากมันก็ใกล้ๆ กับที่ขายอยู่ในปี 2550 ซึ่งทำยอดขายถล่มทลาย จนทำกำไร 1.97 บาทต่อหุ้น

ดังนั้น ด้วยทำเลเดิมๆ การ design บ้านที่เน้นคนรุ่นใหม่ การทำการตลาด segment กลางถึงสูง ที่ SC ทำอยู่

ผมคิดว่าโต 20% นั้น ไม่ใช่เรื่องยากครับ

(ปล. ถือหุ้น SC อยู่ครับ แล้วมีเยอะด้วย ผู้อ่านโปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน)

สุดยอดเลยครับพี่

ผมไม่เคยดูละเอียด แอบถามเผื่อลอกการบ้านหน่อย

- ค่าเช่า จะเพิ่มได้กี่เปอร์เซ็นต์ครับ
ถ้ายอดคนเช่าเท่าเดิม กำไร จะเพิ่มได้กี่บาทอ่ะครับ

- sc รับรู้รายได้ขายโครงการเมื่อไหร่ครับ
แล้วตอนนี้มีโครงการอะไรบ้างครับ
แต่ละโครงการ เป็น คอนโด บ้าน หรือ ...
กี่ยูนิต ราคาขายต่อยูนิตเท่าไหร่ มูลค่าโครงการเท่าไหร่
เริ่มสร้าง และ แล้วเสร็จเมื่อไหร่
ทั้ง 8 โครงการที่กำลังจะเปิด และ ที่มีอยู่แล้วนี้ จะรับรู้รายได้ ในปี 51 ประมาณเท่าไหร่ครับ

ส่วนเรื่องทำเล เด๋วดูเองดีกว่า อิอิ

ถ้ามีที่โพสไว้อยู่แล้วรบกวนบอก link ด้วยครับ แอบขี้เกียจเปิดอ่านทุกหน้า  :oops:

ถือว่าโฆษณาหุ้นให้ผมละกันนะครับพี่ เผื่อผมช่วยดันอีกนิด  :lol:

อ้อ อีกอย่าง ผมนึกที่พี่เจ๋งเคยโพส สอนไว้ เรื่องอสังหา

ตอนนั้นรู้สึกจะ preecha ทำให้ผมกลัวๆ กลุ่มนี้ไปเลยเหมือนกัน  :?

หมอกัน

ธุรกิจบ้านจัดสรรเหรอ ผมเดาว่า รวยเป็นช่วงๆ ช่วงขายดีก็รวยครับ ( ห้ามผวนนะ ) ช่วงขายไม่ดีก็แย่ครับ ดอกเบี้ยกินบานเลย

ส่วนกลยุธ ในการขายก็สารพัด แต่การรักษาภาพพจน์โครงการ จะทำให้ลูกค้ามั่นใจ

ลูกค้า ซื้อบ้านนี่ชอบถามกัน โครงการไหน เจ้าของเป็นอย่างไร

อย่างของ lh ผมก็เคยไปบ้านเพื่อนรุ่นพี่ หลังละ 79 ล้าน หมู่บ้านนันทวัน ศรีนครินทร์ เห็นพี่เค๊าบอกว่า lh ทาสีให้ฟรี ตลอดอายุการใช้งาน ผมนึกแล้ว โห ไรกันนี่ ตลอดเลยหรือแต่ก็ไม่ได้ถามเรื่องอื่นนะ

อย่าง sc เห็นเพือนเล่าให้ฟัง ว่ามีรุ่นน้องไปซื้อแล้วกระเบื้องหรืออะไรมีปัญหา เค๊าเปลี่ยนให้หมด

และมีเพื่อนอีกคนนึงเล่า ว่า sc ไม่มีส่วนกลาง ก็ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่เน้นที่ตัวบ้าน อย่างหรู แต่ราคาถูกกว่า คู่แข่งที่มีส่วนกลาง

ผมได้แค่คิดว่า ถ้าจริง แสดงว่า sc จับจุดได้ถูกว่า คนไทย รักตัวเอง แต่ไม่ค่อยห่วงสังคมหรอก ยกตัวอย่าง บ้านหลังใหญ่ หลายหลังในซอยเลิศหรู ระหว่าง บ้าน ยังมีกองขยะกองใหญ๋มากให้เห็นประปราย

สปอร์ตคลับอะไรต่างๆ ก็ปล่อยทิ้งล้าง เพราะต้องจัดการ ต้องเสียค่าใช้จ่าย เวลาจะเก็บเงินที คนนั้นจ่าย คนนี้ไม่จ่าย ทาเลาะกันไป

กลับมาเรื่องบ้าน ว่ายอดขายเป็นไง ก็ทำนายยากครับ แต่แปลกตรงเวลาขายได้ ก็เหมือนน้ำขึ้นนะ โครงการต่างๆก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ผมคิดว่า บ้านจัดสรรค์ เสน์ห์อยู่ตรง มันตื่นเต้นหวือหวา เวลาทำโครงการเช่น ปีนี้เปิดโครงการ 1000 ล้าน ขายไปบางส่วน ปีหน้าเปิดโครงการ 1500 ล้าน ปีต่อไปเปิดโครงการ 2000 ล้าน แบบนี้ ฐานการเงินแข็งๆทำได้

แต่การทำธุรกิจชนิดอื่น การจะเพิ่มยอดขาย 2 เท่า ในเวลา 2 ปี ทำยาก

อย่าง sc เปิดโครงการปีนี้ 8 โครงการใหม่ รวมของเดิม 5 โครงการ มูลค่ารวม 6500 ล้าน แสดงว่า ยอดโครงการที่จะขายสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว และสูงขึ้นกว่าปี 2548 มาก

ทำให้ สำหรับนักเก็งกำไร สัมผัสได้ถึง อัตราการเติบโต หากบริษัทไหนสามารถทำยอดขายได้เติบโต ผลคือ pe ก็พุ่งขึ้น

sc ยอดขาย จากปี 2546

รายได้รวม 1,020.05 1,706.18 1,635.19 1,986.52 2600 ( ประมาณการ )

ยอดขายโตขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นผลงานของเขา ว่าเขาทำได้ ปีนี้ประมาณการว่าโตขึ้นอีก 20 %

ก็ต้องถือว่า เขามีผลงานครับ

เท่าที่รู้นะ ใครรู้จริงก็มาเสริมละกัน

พี่เจ๋ง

เท่าที่อ่านเข้าใจว่า ต้องเทียบกันเป็นรายบริษัทเลย อย่าง lpn ถือว่ามี premium
sc ก็เหมือนกัน

อย่างนี้ valuation
เรื่อง ราคาหรือ PE ใช้ได้มั้ยครับ
อิงกลุ่มเอา พอได้มั้ยครับ เทียบกับตัวอื่นๆในกลุ่มเอา

หรือแล้วแต่ความพอใจส่วนตัว

หรือแล้วแต่ความพอใจของคนส่วนมาก  :roll:

ยังแอบงงครับ  :oops:

ไม่รู้นะ หากถามพี่ พี่ยึดหลัก ความพอใจส่วนตัวพี่อยู่แล้ว และไม่ได้ไปเทียบกับตัวอื่นในด้านภาพลักษณ์ขนาดนั้น คือพี่เล่นในแง่การเล่นหุ้น เก็งกำไร

ซื้อถูก ขายแพง sc ตอนราคา 9 บาท พี่ก็แนะนำเพื่อนๆ นอกเว็บ ว่า ให้ซื้อ แล้วขายหลังเลือกตั้ง ตอนนั้น pe 5 เหตุผล ก็ง่ายๆของพี่ คือ pe 10 ราคา 18 แถมมีแนวโน้มเติบโต และเรืองการเมืองไม่ต้องกลัว เพราะหุ้นก็คือหุ้น บริษัทขาดทุนยังขึ้นได้ นับประสาอะไรกับบริษัทมีกำไร มาก และ แนวโน้ม พลังประชาชน ก็จะได้เข้ามาไม่น้อยกว่า 100 เสียง ต่อให้เป็นฝ่ายค้าน ข่าวเรื่องการเมืองที่กดดันราคา sc ก็ต้องหายไปในระดับหนึ่งอันนี้ดิดเอง เออเองนะ

ก็คิดแค่นั้นเอง หลายคนดูกันลึกมาก ก็เค๊าเก่งพี่ไม่เก่ง พี่ก็ดู แค่ pe กะ g แล้วก็ซื้อ แล้วก็ขาย แล้วก็ไปตัวใหม่

คงตอบคำถามหมอกันไม่ได้ครับ

เหอๆ ความรู้มีจำกัด

- sc รับรู้รายได้ขายโครงการเมื่อไหร่ครับ
แล้วตอนนี้มีโครงการอะไรบ้างครับ
แต่ละโครงการ เป็น คอนโด บ้าน หรือ ...
กี่ยูนิต ราคาขายต่อยูนิตเท่าไหร่ มูลค่าโครงการเท่าไหร่
เริ่มสร้าง และ แล้วเสร็จเมื่อไหร่
ทั้ง 8 โครงการที่กำลังจะเปิด และ ที่มีอยู่แล้วนี้ จะรับรู้รายได้ ในปี 51 ประมาณเท่าไหร่ครับ

แหมๆ หมอกัน พวกโครงการก็ตามข่าวที่ผม Post ไว้ในร้อยคนร้อยหุ้น หน้าหลังๆหน่อย จำไม่ได้ว่าหน้าไหน

ส่วนการบันทึกบัญชี ไม่รู้ครับ ว่าบันทึกยังไง

ปล. หุ้น SC ไม่เหมาะกะการถือยาวๆนะครับ ด้วยเหตุที่ว่าไม่สามารถรับประกันได้ว่ายอดขายมันจะโตไปได้อีกนานเท่าไหร่ แต่แค่ระยะสั้นๆปีสองปีนี้ คิดว่าน่าจะเป็นไปตามที่ผม Post ไว้

และเมื่อไหร่ก็ตามที่ SC เริ่มทิ้งแนวทางของตัวเอง แล้วไปจับลูกค้ากว้างขึ้น หลาย segment มากขึ้น เวลานั้นจะเป็นเวลาขายของผมครับ

เอ้าพี่เสนอความเห็นเรืองปรีชา ไม่ได้บอกว่าให้กัวทั้งกลุ่มนี้

เหอๆ ถ้าบอกว่ากัวจริง ทามมายไปซื้อ brock หละ อิอิ แซว

อ้าว กำแซวหน่อย หายไปเลย อิอิ วันศุกร์ ไม่รู้ sc จะเปงไงนี่

ติดตามตอนต่อไป หนุกดี

นอนดีกว่า บาย หมอกัน

ประเด็นในตอนนี้สาวก SC คงจะต้องหาคำตอบกันล่ะครับ ว่ากำไรที่จะเติบโต 20% ในปี 51 จากคำบอกกล่าวของผู้บริหารนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร และเป็นไปได้ไหม เอ๊า.ช่วยๆ กันหาข้อมูลหน่อยเร็วพวกเรา  :D

ทั้งนี้ผมเองก็ความรู้งูๆปลาๆ อาศัยวิชาแมวสามขาขออนุญาติโพสข้อมูลที่คาดว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ SC เติบโตได้ก็แล้วกันครับ จะถึง 20% อย่างที่วางไว้หรือเปล่า หรือผิดถูกคงไม่ว่ากันนะครับ

sc มีโครงการบ้านต่างๆ ออกมาหลาย segment ครับ และในแต่ละ segment ก็จะวาง position ของผลิตภัณฑ์ไว้ในตำแหน่งบนที่สูงกว่าคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวัสดุ ที่บางคนเปรียบเทียบว่าคุณภาพวัสดุของ SC ขั้นเทพเหมือนฟอร์มของตอเรส (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ยะมีแอบเชียร์ทีมรัก )  หรือเรื่องราคาที่วางไว้สูงกว่าคู่แข่งในขนาดและคุณภาพเดียวกัน (คงคล้ายๆ รถยุโรป กับรถยี่ปุ่นอ่ะครับ) ลองดูความคิดเห็นของคนที่กำลังจะซื้อบ้านที่เปรียบเทียบบ้านหลายๆ โครงการรวมถึงโครงการของ sc ได้ในกระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R ... 17269.html

จากการวาง position ข้างต้น กลยุทธ์ต่างๆ ที่คุณยิ่งลักษณ์ได้งัดมาใช้ในปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ CSR หรือ CRM เช่น ihome หรือกิจกรรมต่างๆ (ดูกิจกรรมได้ตามลิงค์นี้ครับ http://www.scasset.com/news/overview.as ... subGroup=5 หรือ http://www.scasset.com/thai/investor/AR ... 2546_2.pdf ) ได้เข้ามีมีบทบาททำให้ภาพลักษณ์ของ SC ดูดีขึ้นในสายตาของผู้บริโภคตาม position ที่ได้วางไว้ และสามารถมัดใจลูกค้าให้รู้สึกดีจนเกิดเป็น word of mouth เช่น

ขุนอิน เขียน:ผมเป็นทั้งลูกค้า (ซื้อคอนโด sc อยู่) และเป็นผู้ถือหุ้นด้วยครับ บริษัทนี้ผมชอบมากกว่า lh อีกในแง่ธรรมาภิบาลผู้บริหาร ผมเป็นกรรมการคอนโดต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริหารเขาอยู่บ้าง ประทับใจมาก จนต้องซื้อหุ้นมาถือไว้และทะยอยสะสมไปเรื่อย ๆ

คำพูดชื่นชมปากต่อปากได้กลายเป็นพนักงานขายชั้นเยี่ยมให้กับ SC กลุ่มเป้าหมายใน position ที่ sc วางไว้ ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการทำเลที่ดี คุณภาพที่โอเค แต่ยังรวมถึงสังคมที่น่าอยู่ ความรู้สึกว่าตนเองได้รับการดูแลใส่ใจ ซึ่งผมมองว่าตรงนี้ sc ทำได้ดีครับ ทำให้ภาพลักษณ์และตำแหน่งของตราสินค้าที่วางไว้เริ่มได้ผลแล้วจากกลยุทธ์ในปีที่ผ่านมา และจะส่งผลให้คนจดจำต่อไปในอนาคตว่าเป็นบ้านคุณภาพดี วัสดุดี สังคมดี ใส่ใจดูแลดี  และปีนี้ SC ก็ได้เริ่มหันมาใช้โปรโมชั่นอัดแคมเปญมาเป็นตัวดึงดูดใจกระตุ้นลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก จากข่าวตามลิงค์ครับ ( http://www.bangkokbiznews.com/2008/02/1 ... sid=231215 )

ร่ายยาวมาตั้งนานก็เพียงแต่จะบอกว่า ในปีที่ผ่านมานั้น sc ได้ใช้กลยุทธ์ในการเน้นสร้างภาพลักษณ์ และตอกย้ำถึง position จุดยืนของทางบริษัทฯ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง แต่ในปีนี้นั้นจากจะตอกย้ำกลยุทธ์เดิมแล้ว ยังเพิ่มเติมกลยุทธ์ใหม่ที่ใช้โปรโมชั่นแรงๆ อัดแคมเปญเข้ามาเสริม เพื่อบ่งบอกว่า sc เริ่มเปิดเกมส์รุกบุกในธุรกิจนี้บ้างแล้ว หลังจากปรับฐานปรับทีมอยู่นานพอสมควร พร้อมด้วย 8 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ (กำลังจะเปิดตัว 9 มีนานี้ 2 โครงการจากลิ้งค์ข้างต้น) บวกกับโครงการเก่าอีก 2-3 โครงการที่ยังไม่ได้ปิดโครงการ และด้วยโครงการเปิดใหม่ที่มีจำนวนมากขึ้นกว่าในปีที่แล้ว บวกกับกลยุทธ์ต่างๆ ที่เตรียมจะงัดมาใช้ ก็เลยทำให้ฝ่ายการตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะเติบโตขึ้นกว่าเดิม 20% (ขืนไม่คาดการณ์เป้าหมาย ไม่วางกลยุทธ์อะไรเลยก็ตกงานอ่ะดิครับ) จะเป็นไปได้ตามนั้นจริงหรือไม่อันนี้คงต้องให้ระยะเวลาเป็นตัวพิสูจน์แล้วล่ะครับ

ปล. ผมมีหุ้นตัวนี้ (ไม่รู้ใช่มั้ยล่ะว่าซื้อตอนไหน เวลาขายก็เช่นกันครับ)

ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนครับที่ให้ข้อมูลดีๆๆ  

พอดีว่า มหาลัย ใกล้สอบ ก็เลยไม่ได้ตามดูข้อมูล SC เท่าไหร่
แต่โชคดี ที่พี่ๆ ช่วยกันโพสให้ข้อมูล

ได้ข้อมูลดีๆไปเยอะเลย
แถมประหยัดเวลาทำการบ้านไปโขเลย  :D

ขอบคุณพี่เจ๋ง พี่โรจน์ พี่บอย ครับ

เด๋วไปอ่านต่อก่อน

มีการให้ข้อมูลแบบนี้ดีครับ กระทู้น่าอ่านขึ้นเยอะเลย

ขอบคุณทุกท่านครับ

คุณ little boy วิเคราะห์ละเอียดสุดยอดเลยครับ ผมสบายใจขึ้นเยอะเลยที่จะได้ถือแบบระยะยาว ขอบคุณครับ

วิเคราะห์เก่งหรือไม่นั้นไม่สำคัญเท่าการที่จะรู้ว่า  value  มันอยู่จุดไหนต่างหาก เพื่อวางหมากในการลงทุนได้ถูกต้อง

อ่านแล้ว เริ่มเปลี่ยนมุมมองหุ้นนี้ ทีแรกผมนึกว่าหุ้นการเมือง เด้งเป็นปิงปองซะอีก...ขอบคุณครับ

15.40 อีกแล้ว ขึ้นตามพื้นฐานจริงๆ สวนตลาด อย่าลืม ปันผลกันนะ .65 วันที่ 3 เมษายน

และคนที่ยังไม่มีหุ้นก็ต้องระวังด้วย เพราะต้นทุน แต่ละคนต่ำๆกันมาก่อนหน้านี้

ผู้ถือหุ้น อย่าลืมมากินบุฟเฟต์วันประชุมผู้ถือหุ้นนะครับ

ปีที่แล้วคนไปบอกว่าอร่อยมั่กๆๆๆ

newbie_12 เขียน:ผู้ถือหุ้น อย่าลืมมากินบุฟเฟต์วันประชุมผู้ถือหุ้นนะครับ

ปีที่แล้วคนไปบอกว่าอร่อยมั่กๆๆๆ

ผมนี่แหละครับ ไปกินมาปีที่แล้ว ปีนี้ก็น่าจะเลี้ยงดีอีก (บริษัทกำไรเยอะคงต้องจัดดีฉลองผู้ถือหุ้นแน่ๆ อิอิ)

เป็นบัฟเฟตยังไม่ได้ ก็กินบุฟเฟ่ต์ไปพลางๆก่อน  :lol:

ปล. คนไทยอ่านบุฟเฟ่ต์แต่ฝรั่งเค้าอ่านบัฟเฟต นะครับ ขอมีหลักทรัพย์สัก 1%ของคุณลุงก็พอ  :lol:

วันประชุมผู้ถือหุ้นวันไหนครับ

ยังไม่เห็นมีจดหมายเชิญเลยครับ

อ่านกระทู้แล้วได้อะไรดีๆมากมาย
ขอบคุณมากๆนะครับผม  :D