หน้า 4 จากทั้งหมด 6
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 15, 2009 8:00 pm
โดย yoko
:8) :8)
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 16:07:44 น. มติชนออนไลน์
"เจแปน แอร์ไลน์ส"อ่วม ปลดพนักงาน 6,800 คน หวังพลิกฟื้นกำไร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ว่า สายการบิน"เจแปน แอร์ไลน์ส"จะปลดพนักงานจำนวน 6,800 คน ในความพยายามเพื่อแก้ไขสถานการณ์ขาดทุน และพลิกฟื้นรายได้ของสายการบินให้เป็นกำไร ภายหลังบริษัทต้องขาดทุนเป็นเงินจำนวนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย.
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 15, 2009 9:46 pm
โดย StNicolus
ไม่เชื่อ :shock:
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 16, 2009 6:30 am
โดย LOSO
New York factory index hits pre-recession level !!!
Manufacturing activity in the New York area rebounded to its highest level since the recession began in late 2007, the New York Federal Reserve Bank said Tuesday.
http://www.marketwatch.com/story/new-yo ... 2009-09-15
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 16, 2009 6:42 am
โดย LOSO
U.S. retail sales surge as economy gains strength !!!
U.S. retail sales rose in August at the fastest pace in 3-1/2 years and a gauge of New York State manufacturing hit a near two-year high, offering hope for a solid recovery from a severe recession.
http://news.yahoo.com/s/nm/20090915/bs_ ... _economy_7
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 16, 2009 9:01 pm
โดย yoko
:( :(
โตโยต้าเผยยอดขายรถส.ค.ยังไม่สดใสลด 8.2%
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โตโยต้า, รถยนต์
โตโยต้าเผยยอดขายส.ค.ลดลง 8.2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ขณะที่ 8 เดือน ยอดลด 23.1%
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2552 ปริมาณการขาย 43,251 คัน ลดลง 8.2% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 17,790 คัน ลดลง 1.1% รถเพื่อการพาณิชย์ 25,461 คัน ลดลง 12.6% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 21,778 คัน ลดลง 12.0%
สำหรับสถิติการขายสะสม 8 เดือนของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 317,835 คัน ลดลง 23.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 131,379 คัน ลดลง 11.0% รถเพื่อการพาณิชย์ 186,456 คัน ลดลง 29.8% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 161,729 คัน ลดลง 29.0%
ทั้งนี้ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม มีปริมาณการขาย 43,251 คัน ลดลง 8.2% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 นับจากต้นปีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการหดตัวในตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีอัตราการเติบโตลดลง 12.6%
ในขณะที่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราการเติบโตลดลง 12.0% จากปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับปี 2550 ตลาดลดลงมากถึง 37%
"ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยังคงได้รับผลกระทบจากการหดตัวของภาคการลงทุน ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งเริ่มมีทิศทางดีขึ้น จากอัตราการเติบโตที่ลดลงเล็กน้อย 1.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเติบโตประมาณ 19% เมื่อเทียบกับปี 2550"
ขณะที่ตลาดรถยนต์สะสม 8 เดือนมีปริมาณการขาย 317,835 คัน ลดลง 23.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 11.0% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 29.8%
ทั้งนี้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่องตลอด 3 เดือนล่าสุด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเพื่อเพิ่มสภาพคล่องเริ่มส่งผลดีต่อระบบ เศรษฐกิจโดยรวม และการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์โดยรวม แต่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ อาทิ มาตรการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของภาคการลงทุน หรือทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายสะสม 8 เดือน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2550 เติบโตลดลงกว่า 35%
นายวุฒิกร กล่าวต่อว่า สำหรับตลาดรถยนต์เดือนกันยายน คาดว่าจะมีปริมาณการขายทรงตัว จากสถิติการขาย เดือนกันยายนจะมียอดขายน้อยเป็นอันดับ 5 ของปี ทั้งนี้ในเดือนกันยายนจะมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ที่อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ พร้อมมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้ทันการส่งมอบ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น อาจส่งผลต่อตลาดรถยนต์โดยรวม
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 16, 2009 11:21 pm
โดย LOSO
Production in U.S. Increased More Than Anticipated !!!
Industrial production in the U.S. rose more than forecast in August.
Output at factories, mines and utilities climbed 0.8 percent last month after a 1 percent gain in July that was larger than previously estimated, according to a report from the Federal Reserve today in Washington.
The amount of industrial capacity in use increased to 69.6 percent, the highest level since February, from 69 percent a month earlier.
U.S. factories. Exports rose 2.2 percent in July, according to a Commerce Department report released Sept. 10.
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... FgCRME0tUU
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 16, 2009 11:34 pm
โดย กาวตราช้าง
ตกลงทู้นี้ เชียรขึ้นหรือลงอะ
งง :roll:
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 12:26 am
โดย LOSO
Federal Reserve Chairman Ben S. Bernanke said yesterday “the recession is very likely over.”
Buffett said today, adding that he doesn’t expect a “double-dip” recession.
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 6:08 am
โดย maeteeb
ผมว่าข้อมูลที่แตกต่างทำให้เรามีสติมากขึ้นครับ
ขอบคุณข้อมูลทั้งสองทาง
จริงๆแล้วกลยุทธ คนพันธ์วีไอ น่าจะเหมือนเดิม
หาที่ๆปลอดภัยครับ :lol:
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 19, 2009 8:30 am
โดย yoko
:roll: :roll:
ลงทุนเอกชนไม่ขยับ บีโอเจตรึงดอก0.1%
วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552
โพสต์ทูเดย์ — ธนาคารกลางญี่ปุ่น ยังไม่ไว้ใจสถานการณ์ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.1% ต่อไป
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) แถลงเมื่อวานนี้ว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคาร ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยธนาคารไว้ที่ระดับ 0.1% ต่อไปเช่นเดิม ตามความ คาดหมายของหลายฝ่าย โดยให้ เหตุผลว่าญี่ปุ่นยังคงต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศต่อไป เพื่อต่อสู้กับภาวะวิกฤตครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีต่อไป
มาซาอากิ ชิราคาวา ผู้ว่าการ บีโอเจ กล่าวว่า แม้เวลานี้จะเริ่ม มีสัญญาณให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็น ค่อยไป โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการส่งออกและการผลิตที่เริ่มขยับตัว แต่กระนั้นในด้านของการลงทุนจริงจากภาคธุรกิจเอกชนในประเทศ ยังคงปรับตัวลดลงอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงผลกำไรของบริษัทต่างๆ ที่ยังอ่อนแออยู่เช่นเดิม
นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคภาคเอกชนของญี่ปุ่นก็ยังอ่อนตัวลงต่อเนื่องเช่นกัน ท่ามกลางสถานการณ์ว่างงานในประเทศที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่สงครามโลก ครั้งที่ 2 หรือแม้แต่ภาวะเงินฝืดที่ยังคงส่อเค้ารุนแรงต่อไป จนทำให้ดัชนีผู้บริโภคในประเทศประจำเดือนก.ค. ร่วงลงไปแล้ว 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมบีโอเจยังได้ประเมินสภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่นด้วยว่าจะปรับตัวขึ้น หลังจากที่พบว่าภาคการส่งออกและภาคการผลิตในประเทศเริ่มมีทิศทางที่สดใสมาก ขึ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ ได้อย่างชัดเจนแล้วว่า โอกาสที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงต้นปีหน้า มีจริงตามการคาดการณ์กันไว้
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 19, 2009 8:34 am
โดย yoko
1ใน3ธุรกิจโลกยังวิกฤต-ลดค่าใช้จ่าย
วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552
1 ปีหลังวิกฤต ธุรกิจทั่วโลกยังไม่พ้นภัย แนวโน้มด้านบวกยังอยู่ในภาวะที่เปราะบาง
ผลการสำรวจโดยบริษัท แมคคินซีย์ แอนด์ โค พบว่ากว่า 1 ใน 3 ของบริษัททั่วโลกยังคงตกอยู่ในภาวะวิกฤต และเกือบทั้งหมดยังคงต้องลดต้นทุนลง แม้เวลาจะผ่านมาแล้วถึง 1 ปี หลังการล้มละลายของบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส สถาบันการเงินชั้นนำของโลก
“1 ปีหลังจากที่ระบบเศรษฐกิจโลกเกือบที่จะล่มสลาย หลายบริษัทเริ่มที่จะแสวงหาหนทางในการเพิ่มกำไร แต่ผลกำไรของหลายบริษัทต่างยังปรับลดลงต่อเนื่อง ผู้บริหารต่างเห็นพ้องว่าแนวโน้มเศรษฐกิจด้านบวกยังอยู่ในภาวะที่เปราะบาง” แมคคินซีย์ แอนด์ โค ระบุ
อย่างไรก็ตาม แมคคินซีย์ แอนด์ โค ระบุว่า มีเพียงบริษัท ที่ตอบการสอบถามเพียง 10% เท่านั้นที่คาดว่ายอดขายของตนจะปรับลดลง ขณะที่อีก 50% เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า
นอกจากนี้ ยังมีภาคธุรกิจถึง 3 ใน 4 ที่เชื่อว่าฐานะด้านการแข่งขันทางธุรกิจจะดีขึ้นใน 5 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. ปีที่แล้ว ส่วนความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดทางการค้าผ่อนลงมาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้
ด้านผลสำรวจของบริษัท สแตน ดาร์ด แอนด์ พัวร์ พบว่ามีบริษัท ที่ต้องยุติกิจการในปีนี้สูงถึง 214 ราย นับเป็นตัวเลขที่ทวีคูณขึ้นมาจากปีที่แล้วเกือบ 4 เท่า จากตัวเลขเดิมที่ 57 ราย
สำหรับองค์การความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (โออีซีดี) ก็คาดการณ์ว่าตัวเลขว่างงานในประเทศพัฒนาแล้ว 30 ประเทศ จะถีบตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 หรือในรอบ กว่า 60 ปี โดยคาดว่าจะขึ้นมา อยู่ที่ 10% หรือมีผู้ว่างงานถึง 57 ล้านคน
วันเดียวกัน เบน เบอร์แนนคี ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่สภาพเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง เนื่องจากเงื่อนไขในตลาดสินเชื่อยังอยู่ในภาวะที่ ติดขัด และอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ ในระดับสูง
“แม้ในทางเทคนิคแล้วภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจสิ้นสุดลง แล้ว แต่เศรษฐกิจยังคงอ่อนแรงไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง ขณะที่อีก หลายคนต้องพบว่าความมั่นคง ด้านการงาน และสถานะการจ้างงานของตนไม่เป็นดังที่คาดหวังไว้” เบอร์แนนคี กล่าว
เบอร์แนนคี กล่าวว่า ขณะนี้มีความเห็นที่ตรงกันหลายฝ่ายว่า สหรัฐเริ่มที่จะเริ่มฟื้นตัวแล้ว ทว่าการขยายตัวในปีหน้าจะเป็นไปอย่างพอประมาณ อันเป็นผลมา จากภาวะถดถอยที่มีความรุนแรงอย่างมาก
ทางด้านโดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็ให้ความ เห็นว่า ประเทศในเอเชียจะเป็นผู้นำการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลก แม้ว่าแนวโน้มการฟื้นตัวจะยังคงอ่อนแรงอย่างมากก็ตาม นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกจะไม่กลับไปเผชิญกับภาวะถดถอยอีกครั้งในเร็วๆ นี้
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 20, 2009 10:50 am
โดย LOSO
From Bear to Bull !!!
the latest gloomy forecasts ignore an important lesson of history: The deeper the slump, the zippier the recovery.
http://online.wsj.com/article/SB1000142 ... 82956.html
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 20, 2009 6:36 pm
โดย LOSO
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 20, 2009 8:50 pm
โดย yoko
:o :o
ลงทุนโลกปี’52หดฮวบ30%
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552
โพสต์ทูเดย์ — อังก์ถัดคาดต้องรอ 2 ปีกว่าจะฟื้นตัว ภาคธุรกิจต้องควบรวมกิจการเอาตัวรอด
องค์การการประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (อังก์ถัด) เปิดเผยวานนี้ว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ทั่วทั้งโลกจะลดลงถึงเกือบ 30% ในตลอดทั้งปีนี้ ก่อนจะทยอยฟื้นตัวได้ในปีหน้า และคาดว่าการลงทุนจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2554
รายงานการลงทุนโลกประจำปี 2552 ระบุว่าตัวเลขเอฟดีไอทั่วโลกในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ถึง 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 40.8 ล้านล้านบาท) ทว่าการลงทุนจะเริ่มฟื้นตัวในปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 47.6 ล้านล้านบาท) และอาจขยับไปถึงเกือบ 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 61.2 ล้านล้านบาท) ได้ในปี 2554
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 20, 2009 10:48 pm
โดย อะไรดีละ
LOSO เขียน:Federal Reserve Chairman Ben S. Bernanke said yesterday the recession is very likely over.
Buffett said today, adding that he doesnt expect a double-dip recession.
บัฟเฟต์ไม่คิด...แต่ผมฟันธงเลยว่าเกิด double-dip แน่นอน...
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 12:30 am
โดย LOSO
It can be followed by a monster rally !!!
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 10:30 am
โดย kewin
ถามคุณอะไรดีล่ะหน่อยครับ ว่าเหตุผลอะไรที่มองว่าจะเกิด double dip ครับ
ผมว่าการฟันธงนั้นดีแน่ถ้ามีเหตุผลสนับสนุนครับ ผมว่าเว็บนี้เป็นเว็บที่ดีเพราะว่า
ใฃ้เหตุผลมากกว่าการฟันธงนะครับ
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 11:05 am
โดย อะไรดีละ
เราต้องมองหา leading indicator ครับ...
เรารู้อยู่แล้วว่า ดัชนีตลาดหุ้น นำสภาพ ศก.
แล้วอะไรละที่นำ "ตลาดหุ้น".... นั่นก็คือ "ดัชนีหุ้นจีน" ครับ
มันเป็นเรื่องง่ายๆ เลยที่ตลาดนั่นเป๋แล้ว เราจะรอดได้อย่างไร
เดี๋ยวตลาดหุ้นไทยก็คงลง... (แต่หวังว่าตัวเล็กตัวน้อยยังพอไปได้)
สำหรับ นโยบายการเงิน และ การคลัง กำลังหาทางออกกันอยู่
ซึ่งถ้าเดินหน้าแม้แต่ก้าวเดียว ก็จะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นแน่นอน
โดยเฉพาะ เมื่อตลาดขึ้นมา จะเกิดแรงกันดัน 3 ด้าน ในทาง supply
1. สถาบันการเงินจะเพิ่มทุนจำนวนมาก เพื่อชดเชยการตัดขาดทุนปีก่อน
2. รัฐบาลจะนำหุ้นที่ซื้อเพิ่มทุนช่วยเหลือสถาบันการเงินมาขาย เช่น อเมริกาตัดสินใจนำหุ้น 33% ของ citibank ออกขาย เป็นต้น
3. จะมีหุ้นใหม่ๆ เข้า IPO จำนวนมาก เพื่อฉวยโอกาสที่ได้ราคาดี
ลองไปอ่านดูใน "เศรษฐศาสตร์ข้างถนน"
บทความ "ท่านเห็นตัว V แต่ผมเห็น W" นะครับ
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 11:08 am
โดย อะไรดีละ
ท่านเห็นตัว V แต่ผมเห็น W
ประวิทย์ เรืองศิริกูลชัย กรุงเทพธุรกิจ วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ท่านนายกรัฐมนตรีได้แถลงผลงานด้วยความมั่นใจ ว่า ประเทศไทยมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แบบตัว V อย่างรวดเร็ว คล้ายๆ กับหลายประเทศในโลก แม้ว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 2 เมื่อเทียบปีต่อปีแล้วจะติดลบถึงกว่า 5% ก็ตาม อันนี้ผมเชื่อ แต่สิ่งที่เราควรกังวล ก็คือ ขาลงครั้งที่ 2 ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นลักษณะของตัว W มากกว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น อาจมีเหตุผลหลายประการด้วยกัน
1. ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ย้อนรอยวิกฤติต้มยำกุ้ง ประเทศไทยก็มีการฟื้นตัวเป็นรูป W เช่นกัน โดยการฟื้นตัวครั้งแรกนั้น หลักๆ แล้ว เกิดจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ จนเมื่อดูแล้วว่าเศรษฐกิจไม่ฟื้นจริง ความเชื่อมั่นจึงเสื่อมถอยทำให้เศรษฐกิจดำดิ่งลงอีกครั้ง เป็นจุดต่ำสุด 2 ครั้ง
2. นโยบายตลาดเงิน เมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดการเก็งกำไรกันอย่างมากในตลาดสินทรัพย์ทั้งหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ แต่เพื่อป้องกันการเก็งกำไรจึงมีการเข้าไปควบคุมสินเชื่อเพื่อการเก็งกำไรนี้ โดยเห็นได้จากประเทศจีน นอกจากนี้ การคาดการณ์ถึงอัตราดอกเบี้ยที่จะวิ่งสูงขึ้นในอนาคต ก็ทำให้เศรษฐกิจที่ทำท่าจะฟื้นตัวชะลอตัวลงอีกครั้ง
3. นโยบายการคลัง เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมา จะทำให้รัฐบาลเริ่มหาทางออก ในการลดการขาดดุลงบประมาณลง เพื่อไม่ให้ภาระหนี้สาธารณะหนักหนาเกินไป ด้วยการหาทางขึ้นภาษี หรือลดสวัสดิการสังคมลง อันจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอีกครั้งหนึ่ง
4. ตลาดหุ้น ซึ่งเป็นดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจล่วงหน้าราว 3 เดือนนั้น ได้บ่งบอกสัญญาณบางอย่าง โดยเฉพาะจากตลาดหุ้นจีน ซึ่งเป็นตลาดนำในการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กลับส่งสัญญาณกลับทิศลง ด้วยข่าวของการเข้าไปควบคุมสินเชื่อเพื่อเก็งกำไร ดังนั้น หากตลาดหุ้นจีน เปลี่ยนทิศเป็นขาลงตั้งแต่ต้นสิงหาคม ก็หมายถึง เราอาจต้องตั้งรับกับเศรษฐกิจขาลงรอบใหม่ ประมาณปลายปีนี้ก็ได้ และตลาดหุ้นมักมีการสร้างฐาน 2 ครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นที่แท้จริงก่อนเป็น "ขาขึ้น" หรือตลาดกระทิงที่แท้จริง
ด้วยสัญญาณเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งเตือนภัยไปยังรัฐบาลทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่จะต้องเตรียมหามาตรการต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับเศรษฐกิจขาลงครั้งที่ 2 นี้ โดยที่ความเชื่อมั่นและความอดทนของประชาชนเริ่มเหลือน้อยลงทุกที ในขณะที่การขาดดุลการคลังและหนี้สาธารณะก็อยู่ในภาวะที่เสี่ยงมากต่อภาระภาษีในอนาคตของรุ่นลูกหลาน นั่นหมายถึง การใช้นโยบายการคลังต่อไปถูกจำกัดลง
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ผมอยากจะเตือนท่านว่า การฟื้นตัวจากวิกฤติครั้งใหญ่นั้นด้วยเหตุผล 4 ประการข้างต้น มักจะมีการฟื้นตัวแบบ W มากกว่า ด้วยเหตุที่การฟื้นตัวครั้งแรกเกิดจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อประชาชนพบว่า ยังคงมีปัญหามากมายทั้งการว่างงาน สินค้าขายไม่ได้ ดอกเบี้ยก็ทำท่าจะขึ้น เศรษฐกิจก็จะกลับทิศปักหัวลงอีกครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและฟื้นฟูสิ่งต่างๆ ก่อนที่การฟื้นตัวจริงจะเกิดตามมาในที่สุด
รัฐบาลมีการจัดโครงการ "ไทยเข้มแข็ง" ซึ่งใช้เงินถึง 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอในการรับมือเศรษฐกิจขาลงหนที่ 2 ใช่หรือไม่ คำตอบก็คือมันไม่ง่ายเช่นนั้น เหตุผล ก็คือ การใช้นโยบายการคลังนั้นมีข้อเสียอยู่ 3 อย่าง คือ "ช้า รั่ว และหนัก"
ช้า คือ ผ่านขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่กำหนดโครงการประมูล จัดซื้อจัดจ้าง เบิกจ่าย เสียเวลานานมาก
รั่ว คือ การรั่วไหลของเงินไปยังกระเป๋าของนักการเมือง ข้าราชการ ซึ่งก็คือการคอร์รัปชันนั่นเอง
หนัก คือ เป็นภาระหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น ทำให้รัฐต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นในอนาคต และหมายถึง ภาระภาษีของคนรุ่นถัดไปนั่นเอง
เหตุที่ประเทศไทยฟื้นตัวไม่แข็งแรง เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียนั้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัญหาการเมือง และไข้หวัด 2009 แต่ก็มีส่วนหลักมาจากการที่ประเทศไทยไม่สามารถทำการขาดดุลงบประมาณได้ระดับ 12% GDP เหมือนประเทศอื่นๆ อย่างจีน หรืออเมริกา ประเทศไทยเราทำได้อยู่ระดับ 6% GDP เท่านั้นเอง ด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมายงบประมาณ และแรงต่อต้านทางการเมือง ที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลกู้เงินมากนัก ด้วยการขาดดุลเช่นนี้แล้ว ประเทศไทยยังคงมีการออมส่วนเกินจากการได้ดุลบัญชีเดินสะพัดอาจถึง 7 แสนล้านบาทในปีนี้ และการออมที่มากเกินนั้น ก็คือ ปัญหาที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ไม่เต็มศักยภาพ
รัฐบาลพยายามลงทุนผ่าน "ไทยเข้มแข็ง" เพื่อลดการออมส่วนเกินในภาคเอกชน คือ ลงทุนนำร่องก่อน อย่างไรก็ดี การคลังมีปัญหาในด้าน "ช้า รั่ว และ หนัก" ดังนั้น หากมองอีกด้าน แก้ไขปัญหาด้วยการ "ลดเงินออม" โดยตรงก็จะทำให้ "เร็ว ครบ และ เบา" ซึ่งจะทำให้เงินถึงมือประชาชนถึง 9 แสนล้านบาท ภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งใหญ่กว่า "เช็คช่วยชาติ" ถึง 45 เท่าตัว แต่สำคัญ คือ รัฐไม่ต้องเสียเงินเลย ได้เงินกินเปล่ากว่า 2 หมื่นล้านบาทอีกด้วย เพียงแค่ 2 กระบวนท่าใน 18 กระบวนท่าของเศรษฐศาสตร์ไทเก๊ก ด้วยการ "ยืมพลัง" จากกองทุนบำนาญซึ่งมีสินทรัพย์ถึง 2.5 ล้านล้านบาท ก็จะสามารถเพิ่มอุปสงค์ที่ขาดแคลน ณ ปัจจุบัน และลดการออมส่วนเกินของภาคเอกชนไปได้มากแล้ว
ผมเชื่อครับว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวช้าๆ ได้จริง แต่ปัญหา ก็คือ เราได้เตรียมรับมือกับขาลงครั้งที่ 2 นี้แล้วหรือยัง ผมเชื่อว่า "ไทยเข้มแข็ง" นั้น "ช้า รั่ว และหนัก" ไม่ทันกาลต่อการใช้เงินเพื่อฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างทันท่วงที เพราะเงินที่จะใช้ก่อนถึงปลายปีนี้ราว 5 หมื่นล้านเท่านั้นเอง รัฐบาลอาจต้องหาแผนสำรอง ซึ่งหากเป็น "เศรษฐศาสตร์ไทเก๊ก" ก็อาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างเร็ว เป็นที่พอใจมากของประชาชน นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังอาจได้รับชื่อเสียงว่าเป็นผู้นำด้านนโยบายแนวใหม่ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของโลกก็เป็นได้ครับ
++ copy มาให้อ่านเลยครับ :)
ผมเชื่อว่า วอเรน บัฟเฟต์ ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์....
นักเศรษฐศาสตร์ อย่าง พอล ครุกแมน , นายรูบินี กังวลในเรื่องนี้ทั้งนั้นครับ
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 11:26 am
โดย LOSO
[quote="อะไรดีละ"]เราต้องมองหา leading indicator ครับ...
เรารู้อยู่แล้วว่า
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 11:36 am
โดย อะไรดีละ
ไม่แปลกครับ...
ดัชนีหุ้นจีน ทำ low ก่อน ปท.อื่นๆ ในโลก ที่ราวเดือน มค.
ขณะที่ประเทศยักษ์ใหญ่ low อยูที่เดือน มี.ค. ครับ
นำกันอยู่ราว 1.5-2 เดือน ใครเห็นสัญญาณนี้ก็จะเข้าใจครับ
หุ้นจีน ลงมาตั้งแต่ต้นเดือน สค. แล้ว ดังนั้น หุ้นโลก ก็น่าจะเริ่มลงราวๆ ตอนนี้ หรือ ไม่ก็ปลายเดือนนี้ครับ
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 1:38 pm
โดย อะไรดีละ
The Greatest Sucker's Rally in History?
Posted Sep 15, 2009 01:20pm EDT by Henry Blodget in Investing, Recession
Related: dia, spy, qqqq, ^djia, ^gspc
In the past six months, Aaron and I have talked a lot about the similarity between the rally of early 1930 and the one we're having today.
The early 1930 rally came after the market had fallen nearly 50% in the fall of 1929. The spring rally took the market up nearly 50% again, to a level that was only about 20% below the previous peak.
That rally, of course, was also the biggest sucker's rally in history. After the market peaked in April 1930, it crashed again, eventually ending up down 89% from the 1929 high and more than 80% from the 1930 high. The market did not reach the 1930 high again for another quarter of a century.
Our current rally came after a crash that was actually slightly more severe than the 1929 crash (53% versus 48%). It has taken the market up more than 50% from the low. Our current rally has also lasted slightly longer than the 1930 rally did.
Today's rally, of course, may actually be the start of a great new bull market, one that will climb the "wall of worry" back toward the previous record highs. On the other hand, it may yet also be another version of what happened in 1930.
We won't know for sure what today's market is until we look at it with the genius of 20/20 hindsight. As yet another reminder of how similar the patterns up to this point have been, check out this excellent compilation of New York Times clippings from early 1930 put together by Dan Alpert of Westwood Capital.
Dan's complete compilation is contained in a broader research piece, which is embedded at the end. The slides below contain excerpts from February-April, 1930:
The Greatest Sucker's Rally In History, Play By Play
สรุปก็คือ ถ้าประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นี่คือ การ rebound ครั้งใหญ่
ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นดีดขึ้นราว 6 เดือน ใกล้กับ peak เก่าในปีก่อนหน้า
จากนั้นจะดิ่งลงยาว.... และไม่เห็นราคานี้อีกเลยนานถึง 25 ปี
โปรดระวังตัวครับ
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 21, 2009 6:38 pm
โดย อะไรดีละ
LONDON (AP) -- Shares in Royal Bank of Scotland PLC dropped 5.3 percent Monday after media reports said the bailed-out lender is considering tapping shareholders for cash to reduce the government's involvement in its finances.
RBS hopes to keep the government from increasing its stake in the bank to as much as 84.5 percent from 70 percent by limiting its participation in the Government Asset Protection Scheme -- an insurance plan for the hard-to-sell securities that are burdening bank finances -- The Times of London reported, citing unidentified sources.
A spokesman for the bank declined to comment.
RBS posted the largest annual loss in British corporate history last year -- a 24.1 billion pound ($34.4 billion) black hole fed by the bank's aggressive acquisition spree of recent years, including the takeover of ABN Amro.
After the group was bailed out, its management announced it would place hundreds of billions of pounds of shaky securities dubbed toxic assets into the government protection program.
The scheme is costly, however, and with financial markets stabilizing and economic indicators pointing to recovery, bailed-out banks have been looking for alternatives to the plan.
Monday's reports come a week after Lloyds Banking Group said it is negotiating with regulators about possibly reducing the amount of toxic assets to be covered by the GAPS.
Lloyds, in which the government holds a 43.4 percent stake, had announced in March that it intended to place 260 billion pounds ($425 billion) of risky, untradeable assets in the government program. That was expected to raise the government's stake to 65 percent.
The bank cited improving market conditions for wanting to limit its participation in the scheme.
RBS shares fell 5.3 percent to 53.30 pence ($0.86) while Lloyds was down 2.4 percent at 108.05 pence ($1.75).
++ พูดยังไม่ทันขาดคำ... RBS ประกาศเพิ่มทุน
หุ้นร่วงเลย 5% ส่วนแบงก์ Lloyds ก็ร่วงอีก 2%
อวสานตลาดหุ้นยุโรปครับ
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 22, 2009 9:35 pm
โดย yoko
:8) :8)
141บริษัทรบ.จีนกำไรฮวบ30%
วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552
เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ฉุดผลกำไรบริษัทของรัฐบาลจีนลดฮวบ แต่การเดินหน้ากวาดซื้อสินทรัพย์กลับเพิ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
เอ พีอ้างรายงานของสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน วานนี้ว่า ธนาคาร สายการบิน บริษัทน้ำมัน และบริษัทลงทุนต่างๆ ของรัฐบาลจีน รวม 141 แห่ง ทั่วประเทศ ต่างก็เผชิญกับผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก จนทำให้ผลกำไรสุทธิหดหายลงไปถึง 30% ในปีที่แล้ว มา อยู่ที่ 6.96 แสนล้านหยวน (ราว 23.67 ล้านล้านบาท)
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 22, 2009 11:14 pm
โดย LOSO
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 23, 2009 6:04 am
โดย LOSO
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2009 8:29 am
โดย LOSO
Recovery Progress and Disbelief
Bloomberg TV
September 23, 2009
(Bloomberg) - ECRI's Achuthan spoke with Bloomberg TV about the recovery, jobs, consumer spending and why most people find it hard to believe.
http://www.businesscycle.com/news/press/1567/
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2009 8:26 pm
โดย LOSO
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 24, 2009 9:42 pm
โดย อะไรดีละ
เอา lagging indicator มาทำนายตลาดหุ้นไม่ได้หรอกครับ
New Bull Market confirmed !!!!
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 25, 2009 6:12 am
โดย LOSO
อะไรดีละ เขียน:เอา lagging indicator มาทำนายตลาดหุ้นไม่ได้หรอกครับ
LOSO เขียน: