Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ช่วงนี้ขอพักKYEไว้ก่อนซึ่งคงต้องลงทุนยาวรับปันผล
ขอเล่าการไปชมโรงงานทานตะวันอุตสาหกรรมวันที่20ตุลาที่ติดค้างไว้  สาเหตุที่ต้องรอเพราะผมต้องการดูผลดำเนินงานและท่าทีของนักลงทุนปอดใหญ่กว่าผมที่ไปชมโรงงานด้วยอีก2ท่าน ส่วนอีก3ผมไม่รู้ขนาดของปอด สภาพโรงงานเป็นอาคาร11หลังบนพื้นที่28ไร่ มีสนามฟุตบอล1สนามและมีพื้นที่เหลือที่จะสร้างอาคารและเครื่องจักรเพิ่มอีก2หลังติดกัน เป็นโครงการในอนาคต เมื่อเกือบ1ปีที่แล้วเพิ่งสร้างอาคารโรงงานใหม่เสร็จพร้อมเครื่องจักร เป็นอาคารต้นแบบ แต่อาคารนี้ให้นักลงทุนขึ้นไปชมดูด้านนอกไม่ได้เข้าไปดูด้านใน นัยว่าเป็นความลับของเจ้าของสินค้าและความสะอาด ตอนเข้าไปชมต้องสวมหมวกคลุมกันไม่ให้เส้นผมเข้าไปติดสินค้า   สรุป บ.พยายามผลิตสินค้าที่มีมาร์จินดีมีคุณภาพ foodgradeผลิตสินค้าพลาสติกหลากหลายชนิดส่งออกเป็นส่วนใหญ่
ตามมุมมองของผมทั้งบ.มี8ล้านหุ้น  สภาพคล่องต่ำ ต้องลงทุนอย่างเดียว เป็นหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี และเท่าที่ดูก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่ปัญหาคือในอดีตเคยมีปัญหาเรื่องปั่นหุ้นและมีกรณีบ.แม่เคยกู้ยืมเงินไป50ล้านใช้คืนมา10ล้านพร้อมดอกและนำที่ดินมาใช้คืน40ล้าน ซึ่งไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย มีปัญหาเปลี่ยนกรรมการบ่อยมากและช่วงที่ผ่านมาจ่ายปันผลน้อยกว่าที่ควร   เดิมดูเหมือนไม่ค่อยสนใจผู้ถือหุ้นรายย่อย แต่ปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น แต่ปัญหาเรื่องปันผลไม่รู้จะเปลี่ยนแปลงรึเปล่า(น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น)การวิจัยและพัฒนาพลาสติกที่ทำจากมันและข้าวโพดยังใช้ในเชิงพาณิชย์ไม่ได้

[quote="tooyen"]ช่วงนี้ขอพักKYEไว้ก่อนซึ่งคงต้องลงทุนยาวรับปันผล
ขอเล่าการไปชมโรงงานทานตะวันอุตสาหกรรมวันที่20ตุลาที่ติดค้างไว้

รอฟังต่อครับ

ผมไม่มีความเห็นอื่นเพราะผมมีหุ้นอยู่ด้วยวันที่20ตค.ราคา24บ.วันนี้34.5บ.ไม่รู้ใครไล่ขึ้นมา     อยู่ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ในการจ่ายปันผล(ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นเจ้าของตึกSunTowerbuilding)  เพิ่งเห็นรูปการชมโรงงานจากน้องSehju

ถ้าเราหาบ.ที่อยู่ในMegatrend เจอแล้วซื้อเก็บลงทุน ไม่เก็งกำไร เป็นวิธีที่ถูกต้องไหม?
1.กระแสโลกร้อน บ.ผลิตสินค้าที่เกี่ยวเนื่องแก้ร้อน
2.AEC การขยายการขายไปในกลุ่มAEC และออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์
3.กระแสการย้ายฐานการผลิตออกจากญี่ปุ่น
4.มีdurable competitive advantageที่แกร่งพอควร
คือมองภาพใหญ่ไม่เก็งกำไร รายไตรมาส อยากทราบความเห็นจากทุกๆคน

ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ผมไม่ค่อยมั่นใจเรื่อง DCA เพราะมีการแข่งขันทางการตลาดสูง

เรื่อง AEC ก็มีผลทั้งบวกและลบ ญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องเลือกเฉพาะประเทศไทยเป็นฐานการผลิต อาจเลือกประเทศอื่น เช่น อินโดนีเซีย, เวียดนาม, ฯลฯ

ผมเห็นด้วยกับคุณtooyen นะครับ
จากมุมมองของผม ผมมองแบบนี้
1. เทรนด์ของโลกร้อน อากาศร้อนขึ้น บ.ผลิตพัดลม พัดลมระบายอากาศ ตู้เย็น ปั้มน้ำ และ 10%ของโรงงานผลิตแอร์ ยอดขายและการเติบโต 4-5 ปี มานี้ ก็เติบโตต่อเนื่องตลอด , 10-19%ทุกปี
2. AEC เวียตนาม,อินโดนีเซีย,ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์ เศรษฐกิจก็กำลังขยายตัว ความต้องการความสะดวก สบายเพิ่มขึ้น ต่อไปก็เป็นลาว,เขมรและที่กำลังจะมาแรงคือพม่าซึ่งสามารถจะขยายตัวได้อีกเยอะเหมือนไทยเมื่อ 25-30 ปีที่แล้ว และยังมีอินเดียอีก ผมยังมองยาวไกลไปถึง แอฟริกาอีกด้วยในอนาคต และเมื่อการผลิตเพิ่มมากจนต้นทุนสามารถควบคุมได้ดี และเทคโนโลยีการผลิตดีมากขึ้น ก็อาจจะขยายตัวไปถึงอเมริกาและยุโรปได้เช่นเดียวกับแอร์และรถยนต์ของญี่ปุ่นที่ทั่วโลกให้การยอมรับในคุณภาพ
3. เครื่องเป่ามือ แม้เป็นสินค้าใหม่แต่ในอนาคตก็น่าจะเพิ่มขึ้นได้ ตอนนี้ KYE เริ่มผลิตตู้เย็นรุ่น 4 ประตูแล้ว ทั้งนี้ โรงงานผลิตตู้เย็นของมิตซูมีแค่2แห่ง ที่ญี่ปุ่น ผลิตแต่ตู้เย็นรุ่นใหญ่ 4-5-6 ประตู รุ่น Hi-tech และ KYE ที่เมืองไทย เท่านั้นการจะไปตั้งโรงงานผลิตในประเทศหนึ่งๆนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ทั้ง วิศวกร และพนักงานที่มีทักษะก็ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ ต้องใช้เวลาสร้างหลายปี ดังนั้น การย้ายการผลิตไปประเทศอื่นเป็นไปได้ยาก การขยายโรงงานในไทยง่ายกว่าเพราะเงินทุนในมือมีอยู่สูง
4. เรื่อง DCA ลองมาดูกัน 1.ปั๊มน้ำ ตามบ้านและปั๊มน้ำเล็กและกลางทั่วไปของมิตซู ครองตลาดไทยอยู่ มากกว่า 50% ซึ่งแกร่งมาก เงียบ ทน และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้นตลอด พัดลมคุณภาพดี เงียบทน มีระบบป้องกันไฟช็อต และกันไฟไหม้เพราะเป็นมอเตอร์ระบบปิด คุณภาพดีกว่ายี่ห้อ ที่ครองตลาดล่างอย่างชัดเจน ยอดขายของพัดลมก็เพิ่มตลอดทุกปีจนผลิตแทบไม่ทันอยู่แล้ว พัดลมระบายอากาศอันนี้คุณภาพเหนือกว่าชัดเจนเพราะต้องทนทานจึงขายดีเพราะต้องใช้ช่างมาติดตั้งไม่เหมือนพัดลมตั้งโต๊ะ ตั้งพื้นที่มียี่ห้ออื่นๆ เพราะ เสียก็ยกทิ้ง หรือ เปลี่ยนซ่อมได้ ซื้อใหม่ แต่พัดลมระบายอากาศ ต้องใช้ช่างมาทำ มันยุ่งยาก สำหรับตู้เย็นการแข่งในตลาดไทยสูงมาก แข่งกันตลอด หลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนหวั่นไหว และไม่ค่อยวางใจที่สุด แต่คุณภาพและยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาตลอดก็เป็นสึ่งที่ยืนยันได้ และที่ตลาดญี่ปุ่น ก็เป็นตลาดที่ยี่ห้ออื่นจากต่างประเทศเจาะได้ยากมาก เพราะถ้าเทีัยบคุณภาพและความทนทาน แล้ว ของญี่ปุ่นดีกว่าจริงๆ ไม่ได้ bias และในระยะยาวแล้วก็อาจจะขยายตัวไปได้ทั่วโลกครับ
ปันผลก็ดี P/E ยังไม่สูง เงินทุนก็เยอะ ในความเห็นผม ก็น่าสนใจที่จะลงทุนและเติบโตไปพร้อมกับบริษัทครับ

ขอบคุณคับ

มุมมองน้องValkyrie09ก้าวไกลจริงๆ ตลาดทวีปอาฟริกาตอนนี้คงไปได้แต่ประเทศที่เจริญแล้วแต่อนาคตก็คงไปได้แบบที่น้องValkyrie09คิด แต่ตลาดที่ไปได้ดีตอนนี้ก็คือตะวันออกกลางซึ่งKYEเราส่งไปหลายประเทศอยู่ ที่น้องValkyrie09คิดก็เป็นไปได้ รถยนต์toyota honda Mitsubishi ขายไปทั่วโลก
แอร์Mitsubishiของเราก็ขายไปทั่วโลกเหมือนกัน ตู้เย็นเราอนาคตก็สามารถที่จะส่งไปขายทั่วโลกได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามราคาที่ขึ้นมาเร็ว ก็ยังต้องระวังนักล่าส่วนต่างอยู่นะครับอย่าประมาท