Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

Voldtrest เขียน:ผมว่าเปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็น

"คนลงทุนหุ้นแล้วกำไร เป็นคนที่น่าอิจฉาสำหรับสังคม"

เมื่อไหร่จะมีคนมาอิจฉาผมล่ะเนี่ย - -

landrover54 เขียน: คนลงทุน ก็ไปหาว่าไม่ทำประโยชน์ให้กับประเทศ ตัวเองกับพวกพ้อง ประเสริฐอยู่ฝ่ายเดียว ทำอะไรไม่เคยผิด

ตกลงคุณรสนากับคุณประเสริฐ ดองกันหรือครับ

[quote="กาละมัง"]วันนี้ได้ดู clip เสวนาระหว่างคุณสังศิต พิริยะรังสรร vs รสนา โตสิตระกูล เรื่องหวยออนไลน์

คุณรสนา

คนพวกนี้วันนึงพูดอย่าง วันรุ่งขึ้นก็พูดอีกอย่างแล้ว
ตราบใดที่พูดแล้วได้ประโยชน์เข้าตัว

ยังสนใจฟังเอามาเป็นสาระกันอีกหรือครับ  :lol:  :lol:  :lol:

นานาจิตตัง.....
เอาความคิดผมไหมครับ

ผมรู้สึกว่า โครตตตตตตจะเท่  ดูดีสุดๆๆๆๆๆๆๆ
ต้องรวยแน่ๆๆๆๆๆ
เก่งมากๆๆๆด้วย
ชอบมากๆๆๆๆ

ปล.อันนี้ความคิดผมจริงๆ ก่อนเล่นหุ้นด้วยนะครับ อิอิ

ทุกวันนี้พ่อผมยังอยากให้ไปทำงานอยู่เลย
บอกว่าเล่นหุ้นมันไม่มั่นคง  :lol:

ความเชื่อกับความเป็นจริง ไม่เหมือนกัน


ความเชื่อใช้เวลาสร้าง ถูกหรือผิดไม่รู้ แต่เปลี่ยนยาก

ความจริง ไม่ใด้ใช้เวลาสร้าง มันอยู่ตรงนั้นของมันอยู่แล้ว
จะเห็นหรือเปล่าเท่านั้นเอง

คนส่วนใหญ่รังเกียจคนเล่นหุ้น <- ความจริง
พวกเล่นหุ้นมันเป็นนักพนัน <- ความเชื่อ แบบมีเหตุผล
เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทุนแต่เล่นหุ้น <- ความจริง

บังเอิญเราไม่เหมือนคนอื่น ความเชื่อแบบปกติที่ใช้กับคนส่วนใหญ่จึงวิ่งมาชนเรา

แต่ความจริง ว่าเราเป็นนักลงทุน (หรือเปล่า ?) เราเท่านั้นที่รู้
และ เวลาจะพิสูจน์เอง  :D

por_jai เขียน:คนเล่นหุ้นได้เป็นคนที่น่ารังเกียจของสังคม?






















(สุภาษิตเหาฉลามบอกว่า:ถ้ามันไม่บอกเรา ถ้าบอกเราด้วยก็แล้วไป)

ถ้านับเวลาที่ผมตั้งแต่เริ่มลงทุนถึงเวลานี้ก็ประมาณ 5 ปี
ความรู้สึกของผมต่อตลาดหลักทรัพย์ยังเหมือนเดิม
แต่ความรุ้สึกของผมที่มีต่อคนรอบข้างไม่เหมือนเดิม

ผมรู้สึกเสียดายโอกาสของคนที่ไม่รู้จักตลาดหลักทรัพย์เหลือเกิน  :oops:

[quote="กุหลาบงามหลังฝน"]ถ้านับเวลาที่ผมตั้งแต่เริ่มลงทุนถึงเวลานี้ก็ประมาณ 5 ปี
ความรู้สึกของผมต่อตลาดหลักทรัพย์ยังเหมือนเดิม
แต่ความรุ้สึกของผมที่มีต่อคนรอบข้างไม่เหมือนเดิม

ผมรู้สึกเสียดายโอกาสของคนที่ไม่รู้จักตลาดหลักทรัพย์เหลือเกิน

picklife เขียน: ครับ....คิดเหมือนกันครับ ผมพาคนเข้าวงการมา20กว่าคนแล้วครับ


อยากทำหนังเกี่ยวกับหุ้นจังเลยครับ ผมว่าเป็นการโปรโมทที่ดีที่สุด
(ปล.แต่ถ้าบทไม่ดีพออาจกลายเป้นหนังที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดก็ได้ครับ555+)

ถ้ามีโอกาสทำจริงจริงแนะนำให้เอาพี่พอใจเป็นพระเอก ส่วนนางเอกก็เอา พอลล่าเทเล่อร์ ก็ได้ครับ สนับสนุนครับ

[quote="กุหลาบงามหลังฝน"]ถ้านับเวลาที่ผมตั้งแต่เริ่มลงทุนถึงเวลานี้ก็ประมาณ 5 ปี
ความรู้สึกของผมต่อตลาดหลักทรัพย์ยังเหมือนเดิม
แต่ความรุ้สึกของผมที่มีต่อคนรอบข้างไม่เหมือนเดิม

ผมรู้สึกเสียดายโอกาสของคนที่ไม่รู้จักตลาดหลักทรัพย์เหลือเกิน

sai เขียน:ถ้ามีโอกาสทำจริงจริงแนะนำให้เอาพี่พอใจเป็นพ่อพระเอก ส่วนนางเอกก็เอา พอลล่าเทเล่อร์ ก็ได้ครับ สนับสนุนครับ

พิมพ์ตกไปนิดนึงครับ

เีคยดูThe Scamหนังหุ้นของเกาหลี
บทก็ยังไม่ดีเท่าไหร่

por_jai เขียน: พิมพ์ตกไปนิดนึงครับ

เีคยดูThe Scamหนังหุ้นของเกาหลี
บทก็ยังไม่ดีเท่าไหร่

:lovl:  

งั้นขอเสนอให้เอา Wall Street มาระลึกชาติใหม่เป็นฉบับไทยๆ (รีบๆ ก้อปฮอลลีวูดช่วงนี้จะได้ไม่โดนประนาม)
ให้พี่พอใจเป็น Gordon Gekko มาตะโกนดังๆ ว่า "GREED IS GOOD!!!"  :8)

por_jai เขียน: พิมพ์ตกไปนิดนึงครับ

เีคยดูThe Scamหนังหุ้นของเกาหลี
บทก็ยังไม่ดีเท่าไหร่

พี่พอใจครับ The Scamของเกาหลีนั่นหนังหุ้นจริง แต่ถ้าเอาพร็อตเรื่องประมาณนั้น เกรงว่าภาพลักษณ์ตลาดหุ้นยิ่งดิ่งเหวกันใหญ่ เพราะในเรื่องนั่นทั้งปั่น ทั้งเก็งกำไร ทั้งinsiderทั้งเรื่อง.....โอ้ววว แต่ให้อภัยได้ เพราะนางเอกน่ารักครับ แหะๆ  :lol:  :lol:  :lol:

por_jai เขียน: พิมพ์ตกไปนิดนึงครับ

เีคยดูThe Scamหนังหุ้นของเกาหลี
บทก็ยังไม่ดีเท่าไหร่

เสี่ยพอใจ  คงต้องรอเล่นวอลสตรีทภาคสามแล้วหละ

เพราะป๋าโอลิเวอร์  สโตน   ถ่ายทำภาคสองไปแล้วครับ


http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 78688.html



:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:



ทัศนคติเรื่องเต้นกินรำกิ คงเอามาเทียบกับนักลงทุนในตลาดหุ้นไม่ได้

เพราะปัจจุบัน  
อาชีพเต้นกินรำกิน หนึ่งร้อยคน

รวยมากๆ  หนึ่งคน  
รวยพอประมาณ  เก้าคน
พอกินพอใช้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ฯ ประมาณจ็ดสิบคน

มีคนเต้นกินรำกิน  แล้วไม่พอเลี้ยงชีพในปัจจุบัน
น่าจะมีแค่ร้อยละยี่สิบเท่านั้น ??????


แล้วลองเทียบกับผู้เดินทางแสวงหาเงินในตลาดหุ้น

ตราบใดที่นักลงทุนหนึ่่งร้อยคน
มีคนได้กำไรแค่ยี่สิบคน
ที่เหลือขาดทุน

ก็ไม่มีทางที่ทัศนคติของสังคมจะเปลี่ยนได้
เมื่อไรที่นักลงทุนส่วนใหญ่แปดสิบเปอร์เซนต์ขึ้นไป
สามารถกำไรอย่างยั่งยืนจ่ากตลาดหุ้น
เมื่อนั้น  สังคมจะมองในแง่ดีเอง

เพราะท้ายที่สุด  
คนอื่นจะตัดสินเรา  จากการกระทำของเราเอง

ถ้าสังคมยังมองแง่ลบ
ก็ได้แต่หวังว่า  คนรอบตัวเราจะมองในแง่บวก
หรือไม่ก็

ยอมรับ  ในสิ่งที่เราเป็น

ไม่ใช่  จะยอมรับ  ต่อเมื่่อเราเป็นสิ่งที่เขาอยากให้เป็น


ถ้ามองในประเด็นนี้
ผมถือว่า  เป็นคนที่มีต้นทุนทางสังคมสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



           

[quote="TheHee"]
พี่พอใจครับ The Scamของเกาหลีนั่นหนังหุ้นจริง แต่ถ้าเอาพร็อตเรื่องประมาณนั้น เกรงว่าภาพลักษณ์ตลาดหุ้นยิ่งดิ่งเหวกันใหญ่ เพราะในเรื่องนั่นทั้งปั่น ทั้งเก็งกำไร ทั้งinsiderทั้งเรื่อง.....โอ้ววว แต่ให้อภัยได้ เพราะนางเอกน่ารักครับ แหะๆ

[quote="คลายเครียด"]
ถ้าสังคมยังมองแง่ลบ
ก็ได้แต่หวังว่า

por_jai เขียน: พิมพ์ตกไปนิดนึงครับ

เีคยดูThe Scamหนังหุ้นของเกาหลี
บทก็ยังไม่ดีเท่าไหร่

ครับบทยังไม่โดน เพราะยังติดภาพหนังแอคชั่นอยู่ตอนท้ายๆ อยากให้หักเหลี่ยมเฉือนคมกันมากกว่านี้ และคำพูดทุกๆคำคมลึก(ดังเรื่องเชอร์รอคโฮม)

แต่แปลกใจที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าฉายบ้านเรา
เป็นเพราะอะไร????มีใครทราบไหมครับ????

เคยคิดไว้ว่าน่าจะนำเสนอว่า ประมาณมีกลุ่มเพื่อนอยู๋ซัก2-3คน แต่ละคนเล่นคนละแนว แล้วตอนจบก็น่าจะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกัน....แรกๆนักเก็งกำไรอาจเป็นตัวพระเอกมาเย้ยเพื่อนๆที่เป็นเต่าก่อน แล้วพอตอนหลังระยะยาวๆ ก็แสดงให้เห็นถึงหวามแตกต่างของชีวิตคนทั้ง2คน

บอกเขาไปว่า
คนเล่นหุ้นพอประมาณก็เรื่องของเขา เงินเขา ความสุขเขา
แต่อย่าเล่นจนเกินตัวแล้วกัน

คนลงทุนในหุ้นเขาก็ต้องทุ่มเท และมีความรู้
ถ้าเมื่อไหร่คุณมีความรู้เรื่องการลงทุนค่อยมาคุยกับเขา  :D  :D  :D

[quote="holidaytours"]บอกเขาไปว่า
คนเล่นหุ้นพอประมาณก็เรื่องของเขา เงินเขา ความสุขเขา
แต่อย่าเล่นจนเกินตัวแล้วกัน

คนลงทุนในหุ้นเขาก็ต้องทุ่มเท และมีความรู้
ถ้าเมื่อไหร่คุณมีความรู้เรื่องการลงทุนค่อยมาคุยกับเขา

[quote="กุหลาบงามหลังฝน"]
ผมรู้สึกเสียดายโอกาสของคนที่ไม่รู้จักตลาดหลักทรัพย์เหลือเกิน

[quote="Bread & Butter"][quote="กุหลาบงามหลังฝน"]
ผมรู้สึกเสียดายโอกาสของคนที่ไม่รู้จักตลาดหลักทรัพย์เหลือเกิน

[quote="Radio"]

[quote="กุหลาบงามหลังฝน"]ผมรู้สึกเสียดายโอกาสของคนที่ไม่รู้จักตลาดหลักทรัพย์เหลือเกิน

เสริมอีกนิดนึง เพื่อนๆ น้องๆ ผมที่เป็นวิศวกรที่ทำงานเลิกงาน 5โมง
เสร็จไปวิ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อ ผมล่ะทึ่งกับความขยันของเขาจริงๆ
ยังแอบแซวเลยว่าจะรีบรวยไปถึงไหน เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า
"มันไม่สำคัญว่าคนอื่นคิดยังไง สำคัญว่าเราคิดยังไงต่างหาก"
just do it. ถ้าเราคิดว่าดี ทำทันที ทำเดี๋ยวนี้ด้วย อิอิๆๆ

[quote="Radio"]

เอาละนอกเรื่องไปเรื่อยกลับมาสู่กระทู้เดิม เมื่อมีคำถามก็ต้องหาคำตอบครับ อิอิ

ศาลาประชาคม
http://www.pantip.com/cafe/social/topic ... 007.html#9

โต๊ะเครื่องแป้ง
http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/ ... 83774.html

จตุจักร
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topi ... 83792.html

เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า แล้วมาดูคนทั่วไปวิจารณ์กันดีกว่าครับ อิอิ

ส่วนมากที่เข้ามาในตลาดมัก เป็นพวกนักเก็งกำไร หรือ trader ส่วนมากยิ่งในไทย เรียกว่า 80% เลย ทั้งสื่อทั้งหายก็ ชอบทำให้คนเข้าใจผิดการ Investing คือการ trading คือ ซื้อมา ขายไป ทำกำไร เล่นรอบ

อีกอย่างคนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ที่ขาดทุน หลักๆ ก็มาจากการไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง ไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่างที่ควรจะป็น อย่าไปพูดถึงเรื่องการศึกษาในมหาลัยเลยครับ มันแทบไม่เกี่ยวกับการลงทุน วิชาที่มีก็ไม่เห็นจะช่วยเท่าไหร่

อีกอย่าง เราก็ลงทุนใน คงามเสี่ยงที่เรารับได้ ทำ asset allocation และ rebalancing อย่างสมำเสมอ ดู major trend ก็พอแล้วครับ ส่วนตัวใช้ fundamental ในการ screen stocks และใช้ technical ในการตัดสินใจซื้อที่ราคาไหน อย่างเมืองไทยนี่ long term เค้าหมายถึง 1 ปีเอง ยังไงก็ศึกษาหาความรู้กันให้มากๆก่อนครับ อีกอย่างหุ้นไทย ตลาดเล็ก ความหลายหลากไม่ค่อยมี นักลงทุนมีตัวเลือกน้อย แต่ดีที่กำไรจากการลงทุน ไม่เสียภาษีเลย

ผมคิดว่า พวกเราเป้นเพียงคนส่วนน้อยในตลาดหุ้น ไม่ถึง 5% ซักสองสามพันคนจากบัญชีซื้อขาย 5 แสนบัญชี

ต้องเข้าใจว่า สังคมต้องมองเห็นภาพจากคนส่วนใหญ่ ในตลาด

คล้ายๆกับที่ เรามองเห็นพวกนักการเมืองน้ำเน่าในสภา แล้วเบื่อหน่าย ทั้งๆที่มีนักการเมืองดีๆ (ไม่ถึง 5%เหมือนกัน)อยู่บ้าง

ผมเอง ก้อใช้เวลาชี้แจงคนใกล้ตัว และเพื่อนๆไปเรื่อยๆ หลายปีแล้วครับ ให้เขาดูเช็คคืนภาษีด้วย เขาจะเชื่อและเข้าใจง่ายขึ้น เพื่อนบางคนบอกว่า มันไม่ได้"เล่น"หุ้น เพราะมันเอาจริง