++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 91
[quote="อะไรดีละ"]
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
- m_act_z
- Verified User
- โพสต์: 357
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 93
โดยส่วนตัวผม ผมคิดว่าควรระวัง แต่ไม่ใช่ว่ากลัวจนไม่กล้าที่จะทำอะไร แล้วนั่งดูเฉยๆ เพราะโอกาสที่จะเกิดนั้น เราไม่รู้ว่าผลที่ออกมาจะออกมาในรูปแบบไหน อาจจะเกิด หรืออาจจะไม่เกิด หรืออาจจะเกิดแล้วหุ้นไม่ลง ทุกอย่างสามารถเกิดได้หมด ผมคิดว่าบทบาทนักลงทุน กับนักเศรษฐศาสตร์นั้นต่างกันครับ นักเศรษฐศาสตร์คือใช้เครื่องมือ ที่มีอยู่ในการคาดการณ์(หรือจะคำไหนก็แล้วแต่) ภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ส่วนบทบาทของนักลงทุน ก็คือการลงทุนในบริษัทหนึ่งๆ ซึ่งได้รับตอบแทนในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นเราจึงควรโฟกัสไปที่ตัว บ.นั้นๆ ที่เราลงทุนมากกว่า มีหลายบ.ที่ ปี 51 -52 สามารถเติบโตได้ในขณะที่เกิด วิกฤติ ซึ่งผมเชื่อว่าในระยะยาวแล้วระดับราคามันจะปรับตัวเข้าหาจุดดุลยภาพด้วยกลไลตลาดอยู่แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 94
นักเศรษฐศาสตร์ที่ดี...ไม่ใช่แค่คาดการณ์ครับ
ควรเตือนภัยเพื่อป้องกันวิกฤติด้วย และ ถ้าเกิดขึ้นแล้วรีบเสนอทางแก้ไขด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบครับ
ถ้าภาพรวมทั้งหมดแย่... ก็ยากมากที่จะหวังว่าจะสามารถลงทุนในภาพเล็กๆ ของบริษัทให้มีผลตอบแทนที่ดีได้นะครับ
เมื่อดูจากดัชนีหุ้นอเมริกา ยุโรป จีน ราคาน้ำมัน ค่าเงินยูโร แล้ว ตอนนี้ผมค่อนข้างฟันธงได้เลยกว่า 90% เราได้เห็น double dip ค่อนข้างแน่
รัฐบาลไทยควรเตรียมตัวหามาตรการเพื่อรองรับปัญหานี้ได้แล้ว...อย่ามัวหลงระเริงกับการเก็บภาษีได้มาก ศก.ฟื้นตัวแล้ว...นั่นมันเรื่องเก่าแล้วครับ
ควรเตือนภัยเพื่อป้องกันวิกฤติด้วย และ ถ้าเกิดขึ้นแล้วรีบเสนอทางแก้ไขด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบครับ
ถ้าภาพรวมทั้งหมดแย่... ก็ยากมากที่จะหวังว่าจะสามารถลงทุนในภาพเล็กๆ ของบริษัทให้มีผลตอบแทนที่ดีได้นะครับ
เมื่อดูจากดัชนีหุ้นอเมริกา ยุโรป จีน ราคาน้ำมัน ค่าเงินยูโร แล้ว ตอนนี้ผมค่อนข้างฟันธงได้เลยกว่า 90% เราได้เห็น double dip ค่อนข้างแน่
รัฐบาลไทยควรเตรียมตัวหามาตรการเพื่อรองรับปัญหานี้ได้แล้ว...อย่ามัวหลงระเริงกับการเก็บภาษีได้มาก ศก.ฟื้นตัวแล้ว...นั่นมันเรื่องเก่าแล้วครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
- samahara
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 95
คงต้องพิจารณาครับ...
ก่อนที่เราจะสรุปนั้น ผมว่าเราควรรับข้อมูลหลายๆด้านมาก่อน แล้วค่อยประมวลผล และสรุปผลว่า มีเหตุผลพอจะเชื่อได้หรือไม่ แต่ที่นี่ ผมเห็นหลายๆคน ตั้งธงก่อนรับข้อมูลเสียอีก ทั้งๆที่ยังไม่ฟังคำอธิบายเลย....
ผมว่าอนาคตไม่แน่นอน
ลองคิดดูว่า หากสิ้นปีนี้ เป็นจริงดังที่พี่อะไรดีล่ะเขาว่าไว้ทุกอย่าง จะเป็นยังไง...
หากคนที่เชื่อ เขาเตรียมตัวไว้ นั่นหมายถึง เขาก็ทำกำไรในตลาดขาลงมากโข และเราก็จะพูดไม่ออก
แต่หากผลออกอีกด้าน สิ่งที่พี่อะไรดีล่ะทำนายไว้ ไม่เป็นความจริง
อย่างมากก็แค่เสมอตัว (แต่ขาดทุนกำไร) สำหรับคนที่เตรียมตัวไว้
เคสนี้จะตรงข้ามจากนักลงทุนแบบดันโด
ปกติต้องบอกว่า หากผิด อาจขาดทุนนิดหน่อย แต่หากถูก ก็ได้กำไรมหาศาล
แต่แบบนี้อาจบอกว่า
หากผิด ก็อาจติดลบพอสมควร แต่หากถูก ก็สามารถสร้างกำไรจากตลาดขาลงได้
แต่ที่ผมเห็นด้วยมากๆคือ ผมชอบคนคิดต่างครับ เพราะจะทำให้ผมมองในมุมที่ผมอาจลืม
การคิดต่าง ไม่ใช่สิ่งผิด
เริ่มต้น อาจารย์นิเวศน์ก็คิดต่างจากนักลงทุนอื่น
Buffet ก็คิดต่าง ถึงรวย เพราะ เขาขาย ลุง buffet ซื้อ
หลายๆธุรกิจก็คิดต่าง ถึงรวย
รับซื้อขยะยังรวยเลยครับ เพราะคิดต่าง และมองเห็นคุณค่าทั้งๆที่เรายังกล้าๆกลัวๆที่จะทำ
เปิดใจรับฟังดีกว่าครับ
พี่หลายๆคนถกแบบมีเหตุผล ผมก็เห็นด้วย
แต่หลายๆท่านก็น่าจะเอาแบบอย่าง...
แต่ผมก็ไม่ได้ขายหุ้นนะ เพราะที่ถืออยู่ก็ค่อนข้างทนทาน
ถ้าลงจริง ผมก็ขายแล้วซื้อตัวที่มี upside สูงกว่า
ป.ล. ชอบพี่เฟยหงที่กล้าคิดต่าง และแสดงออกแบบสุภาพ สม่ำเสมอ.
ก่อนที่เราจะสรุปนั้น ผมว่าเราควรรับข้อมูลหลายๆด้านมาก่อน แล้วค่อยประมวลผล และสรุปผลว่า มีเหตุผลพอจะเชื่อได้หรือไม่ แต่ที่นี่ ผมเห็นหลายๆคน ตั้งธงก่อนรับข้อมูลเสียอีก ทั้งๆที่ยังไม่ฟังคำอธิบายเลย....
ผมว่าอนาคตไม่แน่นอน
ลองคิดดูว่า หากสิ้นปีนี้ เป็นจริงดังที่พี่อะไรดีล่ะเขาว่าไว้ทุกอย่าง จะเป็นยังไง...
หากคนที่เชื่อ เขาเตรียมตัวไว้ นั่นหมายถึง เขาก็ทำกำไรในตลาดขาลงมากโข และเราก็จะพูดไม่ออก
แต่หากผลออกอีกด้าน สิ่งที่พี่อะไรดีล่ะทำนายไว้ ไม่เป็นความจริง
อย่างมากก็แค่เสมอตัว (แต่ขาดทุนกำไร) สำหรับคนที่เตรียมตัวไว้
เคสนี้จะตรงข้ามจากนักลงทุนแบบดันโด
ปกติต้องบอกว่า หากผิด อาจขาดทุนนิดหน่อย แต่หากถูก ก็ได้กำไรมหาศาล
แต่แบบนี้อาจบอกว่า
หากผิด ก็อาจติดลบพอสมควร แต่หากถูก ก็สามารถสร้างกำไรจากตลาดขาลงได้
แต่ที่ผมเห็นด้วยมากๆคือ ผมชอบคนคิดต่างครับ เพราะจะทำให้ผมมองในมุมที่ผมอาจลืม
การคิดต่าง ไม่ใช่สิ่งผิด
เริ่มต้น อาจารย์นิเวศน์ก็คิดต่างจากนักลงทุนอื่น
Buffet ก็คิดต่าง ถึงรวย เพราะ เขาขาย ลุง buffet ซื้อ
หลายๆธุรกิจก็คิดต่าง ถึงรวย
รับซื้อขยะยังรวยเลยครับ เพราะคิดต่าง และมองเห็นคุณค่าทั้งๆที่เรายังกล้าๆกลัวๆที่จะทำ
เปิดใจรับฟังดีกว่าครับ
พี่หลายๆคนถกแบบมีเหตุผล ผมก็เห็นด้วย
แต่หลายๆท่านก็น่าจะเอาแบบอย่าง...
แต่ผมก็ไม่ได้ขายหุ้นนะ เพราะที่ถืออยู่ก็ค่อนข้างทนทาน
ถ้าลงจริง ผมก็ขายแล้วซื้อตัวที่มี upside สูงกว่า
ป.ล. ชอบพี่เฟยหงที่กล้าคิดต่าง และแสดงออกแบบสุภาพ สม่ำเสมอ.
บุคคลผู้มีปัญญารู้จักใคร่ครวญ ย่อมตั้งตนได้ด้วยทรัพย์อันเป็นต้นทุน แม้มีประมาณน้อย เหมือนคนก่อไฟกองน้อย ให้เป็นกองใหญ่
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 97
โดยส่วนตัว ถ้ามองทางด้านเศรษฐศาตร์
ผมเชื่อว่าอีกสินปีนับจากนี้ เศรษฐกิจโลก จะมั่นคงยิ่งขึ้น
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
อเมริกาคงยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ จนกว่าอัตราการจ้างงาน+ราคาบ้านดีขึ้น
และคงปล่อยให้ค่าเงินอ่อนลงอีก เพื่อช่วยลดการขาดดุล
ประเทศอื่นๆคงต้องหันมาถือเงินดอลล์ให้น้อยลง จึงทำให้ทอง
น้ำมัน ซอฟคอมโมดิตี้ มีราคาดีขึ้นไปอีกสักปีหรือสองปี
สำหรับอเมริกาดอกเบี้ยจะทะยอยปรับตัวขึ้น ผู้คนจะเริ่มประหยัด
ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ยิ่งทำให้อเมริกาฟื้นตัวอย่างยั่งยืน เพราะบทเรียนครั้งนี้
ยุโรปคงประคองตัวไปเรื่อยๆไม่มีความจำเป็นต้องขยายตัวรวดเร็วอะไร
ผู้คนเค้ามีความสุขดีอยู่แล้ว
จีนไม่น่าห่วงเพราะเค้าเป็นสังคมนิยม รัฐบาลดูแลได้แน่นอน คนจีนเก่งนะ
คงจะลำบากเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหน่อย รัฐบาลจีนจึงสนับสนุนบริษัทต่างๆ
ไปซื้อสินทรัพย์ต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และยังเป็นผู้ผลิตหลักของโลกต่อไป
อินเดียยังคงการเติบโตจากธุรกิจการบริการต่างๆ แล้วด้วยความที่คนอินเดีย
เป็นนักค้าขายตัวยง จึงแทบไม่น่าห่วงอะไรกับประเทศนี้
ญี่ปุ่นต่อไปจะเปิดประเทศมากขึ้น นอกจากไปลงทุนในประเทศอื่นๆมากขึ้น
ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพื่อขยายการบริโภตในประเทศออกไปอีก
จากกำลังซื้อของชาวต่างชาติ แหล่งท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมีสเน่ห์มาก
เกาหลีใต้ ก็เป็นประเทศที่ฟื้นตัวเร็ว การทำการตลาดของเกาหลีใต้นับว่า
น่าสนใจ มาโดยใช้วัฒนธรรม อาหาร นักร้อง ดารา ต่อมาสินค้าเกาหลีก็ตี
ตลาดโลกได้ น่านับถือจริงๆ ไม่น่าห่วงอะไร
กรีซ ไอซแลนด์ ดูไป และอื่นๆ มีปัญหา แต่น่าจะผ่านไปได้ ขนาดเศรษฐกิจ
ไม่ใหญ่พอจะกระทบทั้งโลก
มาดูไทยแลนด์ ก็คงไปเรื่อยๆ ได้ดีเพราะเป็นฐานผลิตสินค้าที่ได้เปรียบ
ทางภูมิศาสตร์ แต่ต่อไปต้องเน้นเรื่องของการแปรรูป เริ่มเอะใจเรื่องค่าเงิน
แล้วจึงเปิดให้ธุรกิจต่างๆไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเป็นการกระจาย
ความเสี่ยง เริ่มเปิดเสรีด้านการเงิน ขยับขยายยุทธศาสตร์ตลาดทุน เพื่อ
เป็นแหล่งระดมทุนในภูมิภาค การท่องเที่ยวจะได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าเริ่มขยับขยายการเป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆ รอนายกเก่งๆ
มาบริหาร คงไปได้อีกไกล
มาเรื่องตลาดหุ้น ราคาเต็มมูลค่าแล้ว แกว่งตัวไปมาอย่างนี้แหละ ธรรมชาติ
ไม่มีเรื่องน่าตกใจ หาหุ้นดีๆราคาถูกหรือเหมาะสมลงทุนได้ครับ อิอิ
ผมเชื่อว่าอีกสินปีนับจากนี้ เศรษฐกิจโลก จะมั่นคงยิ่งขึ้น
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
อเมริกาคงยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ จนกว่าอัตราการจ้างงาน+ราคาบ้านดีขึ้น
และคงปล่อยให้ค่าเงินอ่อนลงอีก เพื่อช่วยลดการขาดดุล
ประเทศอื่นๆคงต้องหันมาถือเงินดอลล์ให้น้อยลง จึงทำให้ทอง
น้ำมัน ซอฟคอมโมดิตี้ มีราคาดีขึ้นไปอีกสักปีหรือสองปี
สำหรับอเมริกาดอกเบี้ยจะทะยอยปรับตัวขึ้น ผู้คนจะเริ่มประหยัด
ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ยิ่งทำให้อเมริกาฟื้นตัวอย่างยั่งยืน เพราะบทเรียนครั้งนี้
ยุโรปคงประคองตัวไปเรื่อยๆไม่มีความจำเป็นต้องขยายตัวรวดเร็วอะไร
ผู้คนเค้ามีความสุขดีอยู่แล้ว
จีนไม่น่าห่วงเพราะเค้าเป็นสังคมนิยม รัฐบาลดูแลได้แน่นอน คนจีนเก่งนะ
คงจะลำบากเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหน่อย รัฐบาลจีนจึงสนับสนุนบริษัทต่างๆ
ไปซื้อสินทรัพย์ต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และยังเป็นผู้ผลิตหลักของโลกต่อไป
อินเดียยังคงการเติบโตจากธุรกิจการบริการต่างๆ แล้วด้วยความที่คนอินเดีย
เป็นนักค้าขายตัวยง จึงแทบไม่น่าห่วงอะไรกับประเทศนี้
ญี่ปุ่นต่อไปจะเปิดประเทศมากขึ้น นอกจากไปลงทุนในประเทศอื่นๆมากขึ้น
ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพื่อขยายการบริโภตในประเทศออกไปอีก
จากกำลังซื้อของชาวต่างชาติ แหล่งท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมีสเน่ห์มาก
เกาหลีใต้ ก็เป็นประเทศที่ฟื้นตัวเร็ว การทำการตลาดของเกาหลีใต้นับว่า
น่าสนใจ มาโดยใช้วัฒนธรรม อาหาร นักร้อง ดารา ต่อมาสินค้าเกาหลีก็ตี
ตลาดโลกได้ น่านับถือจริงๆ ไม่น่าห่วงอะไร
กรีซ ไอซแลนด์ ดูไป และอื่นๆ มีปัญหา แต่น่าจะผ่านไปได้ ขนาดเศรษฐกิจ
ไม่ใหญ่พอจะกระทบทั้งโลก
มาดูไทยแลนด์ ก็คงไปเรื่อยๆ ได้ดีเพราะเป็นฐานผลิตสินค้าที่ได้เปรียบ
ทางภูมิศาสตร์ แต่ต่อไปต้องเน้นเรื่องของการแปรรูป เริ่มเอะใจเรื่องค่าเงิน
แล้วจึงเปิดให้ธุรกิจต่างๆไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเป็นการกระจาย
ความเสี่ยง เริ่มเปิดเสรีด้านการเงิน ขยับขยายยุทธศาสตร์ตลาดทุน เพื่อ
เป็นแหล่งระดมทุนในภูมิภาค การท่องเที่ยวจะได้รับการสนับสนุนมากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าเริ่มขยับขยายการเป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆ รอนายกเก่งๆ
มาบริหาร คงไปได้อีกไกล
มาเรื่องตลาดหุ้น ราคาเต็มมูลค่าแล้ว แกว่งตัวไปมาอย่างนี้แหละ ธรรมชาติ
ไม่มีเรื่องน่าตกใจ หาหุ้นดีๆราคาถูกหรือเหมาะสมลงทุนได้ครับ อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 98
ผมเชื่อว่าอีกสินปีนับจากนี้ เศรษฐกิจโลก จะมั่นคงยิ่งขึ้น
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
มาถึงวันนี้ เชื่อว่า เพื่อนๆ หลายคน คงเข้าใจความหวังดีของผม มากขึ้นแล้วนะครับ
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
มาถึงวันนี้ เชื่อว่า เพื่อนๆ หลายคน คงเข้าใจความหวังดีของผม มากขึ้นแล้วนะครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 100
[quote="อะไรดีละ"]ผมเชื่อว่าอีกสิบปีนับจากนี้ เศรษฐกิจโลก จะมั่นคงยิ่งขึ้น
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 101
[quote="Tibular"][quote="อะไรดีละ"]ผมเชื่อว่าอีกสิบปีนับจากนี้ เศรษฐกิจโลก จะมั่นคงยิ่งขึ้น
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 102
[quote="อะไรดีละ"][quote="Tibular"][quote="อะไรดีละ"]ผมเชื่อว่าอีกสิบปีนับจากนี้ เศรษฐกิจโลก จะมั่นคงยิ่งขึ้น
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
เป็นช่วงเวลาที่ดีของนักลงทุนระยะยาวในรอบหลายสิบปี
คนที่กล้าเขียนแบบข้างบนนี่...ผมคิดว่ามีแต่ "พระเจ้า" นะครับ
คนอะไรจะคาดการณ์อนาคตเป็น 10 ปี...10 วันข้างหน้าจะเกิดอะไรยังไม่รู้เลย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 103
ไม่ได้ดูถูกนะครับ
คุณ Tibular มีความรู้ในระดับหนึ่ง ราวๆ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งก็พอตัวครับ มากกว่า เพื่อนๆ ในนี้หลายคนเลย เหมาะกับคาดการณ์ได้ราว 6 เดือน
สำหรับนักเศรษฐศาสตร์อย่างผมนั้น อาจคาดการณ์ได้ราว 2 ปี
สำหรับกูรูเศรษฐศาสตร์ อย่าง ศจ.ครุกแมน ก็อาจคาดได้ราว 3-5 ปี
ดังนั้น ผมนับถือต่างหากที่กล้ามากๆ กล้าทำในสิ่งที่แม้แต่ กูรู ก็ยังไม่กล้าทำ คือ คาดการณ์ ศก.นานถึง 10 ปี
:lol:
คุณ Tibular มีความรู้ในระดับหนึ่ง ราวๆ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งก็พอตัวครับ มากกว่า เพื่อนๆ ในนี้หลายคนเลย เหมาะกับคาดการณ์ได้ราว 6 เดือน
สำหรับนักเศรษฐศาสตร์อย่างผมนั้น อาจคาดการณ์ได้ราว 2 ปี
สำหรับกูรูเศรษฐศาสตร์ อย่าง ศจ.ครุกแมน ก็อาจคาดได้ราว 3-5 ปี
ดังนั้น ผมนับถือต่างหากที่กล้ามากๆ กล้าทำในสิ่งที่แม้แต่ กูรู ก็ยังไม่กล้าทำ คือ คาดการณ์ ศก.นานถึง 10 ปี
:lol:
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 1088
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 104
คุณเฟยหงครับ
ผมอ่านคอมเมนท์ของคุณเฟยหงมาหลายอันแล้วคิดว่าบางอย่างเนื้อหาก็น่าสนใจดี
แต่อยากแนะนำด้วยความเคารพแบบเพื่อนสมาชิกด้วยกันว่าให้หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบและการไปกระทบกระทั่งเย้ยหยันคนอื่นได้จะดีมาก
ยกตัวอย่างเช่น
-เปรียบเทียบว่าผลตอบแทนดีกว่าบัฟเฟ็ต
-การไปพาดพิงหัวเราะเยาะ ดร นิเวศน์ ซึ่งเป็น อาจารย์ที่นับถือของหลายๆท่าน
-หรือว่าการ เปรียบเทียบสมาชิกว่ามีความรู้เท่านักศึกษา แต่ตัวคุณเฟยหงเองความรู้มากเปรียบเท่า กูรูทางด้านเศรษฐศาสตร์
มันอาจจะทำให้ผู้อ่านบางท่านหมั่นใส้ได้
ถ้าพูดคุยกันแบบเนื้อๆสนุกๆไม่กระทบกระทั่งใครจะดีมาก
ใครเก่งไม่เก่งยังไงขอให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่าครับ
ผมอ่านคอมเมนท์ของคุณเฟยหงมาหลายอันแล้วคิดว่าบางอย่างเนื้อหาก็น่าสนใจดี
แต่อยากแนะนำด้วยความเคารพแบบเพื่อนสมาชิกด้วยกันว่าให้หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบและการไปกระทบกระทั่งเย้ยหยันคนอื่นได้จะดีมาก
ยกตัวอย่างเช่น
-เปรียบเทียบว่าผลตอบแทนดีกว่าบัฟเฟ็ต
-การไปพาดพิงหัวเราะเยาะ ดร นิเวศน์ ซึ่งเป็น อาจารย์ที่นับถือของหลายๆท่าน
-หรือว่าการ เปรียบเทียบสมาชิกว่ามีความรู้เท่านักศึกษา แต่ตัวคุณเฟยหงเองความรู้มากเปรียบเท่า กูรูทางด้านเศรษฐศาสตร์
มันอาจจะทำให้ผู้อ่านบางท่านหมั่นใส้ได้
ถ้าพูดคุยกันแบบเนื้อๆสนุกๆไม่กระทบกระทั่งใครจะดีมาก
ใครเก่งไม่เก่งยังไงขอให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่าครับ
เล่นหุ้นคนแก่ แต่แอบเปรี้ยวเป็นบางเวลา
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 106
[quote="chatchai"][quote="อะไรดีละ"]ไม่ได้ดูถูกนะครับ
คุณ Tibular มีความรู้ในระดับหนึ่ง ราวๆ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์
คุณ Tibular มีความรู้ในระดับหนึ่ง ราวๆ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 108
[quote="อะไรดีละ"]คุณ Tibular มีความรู้ในระดับหนึ่ง ราวๆ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งก็พอตัวครับ มากกว่า เพื่อนๆ ในนี้หลายคนเลย เหมาะกับคาดการณ์ได้ราว 6 เดือน
สำหรับนักเศรษฐศาสตร์อย่างผมนั้น อาจคาดการณ์ได้ราว 2 ปี
สำหรับกูรูเศรษฐศาสตร์ อย่าง ศจ.ครุกแมน ก็อาจคาดได้ราว 3-5 ปี
...
แต่กำลังบอกว่า
สำหรับนักเศรษฐศาสตร์อย่างผมนั้น อาจคาดการณ์ได้ราว 2 ปี
สำหรับกูรูเศรษฐศาสตร์ อย่าง ศจ.ครุกแมน ก็อาจคาดได้ราว 3-5 ปี
...
แต่กำลังบอกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 110
ควรเรียบจบเศรษฐศาสตร์ครับ....
แล้วอ่าน บทความของ นักเศรษฐศาสตร์ระดับ กูรู มากๆ เข้าไว้ นำมาคิดตามมากๆ ว่าเรื่องไหนมันเชื่อมโยงกันอย่างไร
ก็น่าจะพอไหวแล้วครับ
แต่ของคุณ Tibular นี่ ระดับ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์จริงๆ เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่านี่เป็นการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ มันก็เลยทำให้หลายคนคิดว่า การ "คาดการณ์" ไม่ต่างจากการ "เดา" ไงครับ
ศก.อเมริกา บอก OK : มันจะดีได้ไง ประเทศนี้เดินหน้าด้วย "สินเชื่อ" หรือหนี้สิน ถ้าคนประหยัดอดออมกันมากขึ้น ก็ใช้จ่ายน้อยลง ศก.ก็ไม่เดินไง ก็ต้องพึ่งให้รัฐบาลมาช่วยสร้างหนี้แทน แล้วมันจะไปได้กี่น้ำ
ศก.จีนบอกว่า OK : มันจะ OK ได้ไง ในเมื่อฟองสบูอสังหาฯ เห็นๆ กันอยู่ เงินทุนไหลบ่าที่เข้ามาก่อนหน้านี้ กำลังจะไหลออกไปอย่างเร็ว ควบคุมสินเชื่อ กำลังเจาะฟองสบู่ให้แตกชัดๆ
ศก.ญี่ปุ่นบอก OK จะฟื้นจากท่องเที่ยว : ใครจะไปเที่ยวละครับ ของแพงอออกอย่างนั้น ค่าครองชีพสูงกว่าไทย 4 เท่าตัว ผมยังไม่กล้าไปเลย
ศก.ริมยูโรโซน บอกปัญหาแก้ได้ : แก้ไขยังไงละครับ บอกได้เลยว่ายากสุดๆ สำหรับไทย เมกซิโก แค่ลดค่าเงินแล้วรับกรรมไป แต่อย่างกรีซ สเปน มันไม่ใช่ เพราะ ใช้เงินยูโรอยู่นะสิ
ศก.ประเทศไทย : อ่านแล้วงงๆ นะ ถ้าเขียนว่าเป็น retirement center ของโลก อาจจะดูดีน่าเชื่อถือกว่านี้ครับ
ผมเข้ามาทำหน้าที่พิทักษ์ศักดิ์ศรีของนักเศรษฐศาสตร์ เพราะ มีบางท่านวิจารณ์ว่า "เดา" ไปเรื่อย กระทู้นี้ผมจะตอกย้ำอีกครั้ง ว่า นักเศรษฐศาสตร์สามารถคาดการณ์อนาคตได้ครับ
แต่ปัญหาก็คือ เรื่องของ timing เพราะ เราจะไม่รู้ครับว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่
ผมจึงสร้าง Super Leading Indicators ขึ้นมาอีก 5 ตัว โดยใช้แนวคิดว่า การจะบอกแนวโน้มตลาดหุ้นล่วงหน้าได้ ต้องอาศัย แนวโน้มของตลาดที่มีความเสี่ยงมากกว่านั่นเอง ซึ่งก็คือ
ตลาด FX, ทองคำ : ค่าเงินยูโร และ ราคาทองคำ ใช้ leverage สูงกว่า จึงเสี่ยงกว่า 2 ตัวนี้เตือนมาตั้งแต่กลางเดือน ธค.แล้วครับ
ตลาดน้ำมัน NASDAQ และ หุ้นจีน : น้ำมันไม่ใช่เฉพาะเก็งกำไร แต่ยังมีการซื้อเพื่อใช้จริงด้วย จากสภาพอากาศหนาว และ ศก.ฟื้นตัว ทำให้ตัวนี้บอกช้าไปหน่อย แต่ก็ยังบอกก่อนตลาดหุ้นลงถึง 2 วัน
NASDAQ และ จีน นั้นเป็นตลาดหุ้นที่ P/E สูงกว่า จึงเสี่ยงกว่า บอกก่อนล่วงหน้าแค่ 1 วันเท่านั้น
ผมมองเห็นการฟื้นตัว W มาตั้งแต่เดือน สค. แล้ว (ลองไปอ่านดูในเศรษฐศาสตร์ข้างถนน : ท่านเป็นตัว V แต่ผมเป็น W) แต่ผมไม่แน่ใจนักว่ามันจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ตอนนี้พวกเรา VI ก็มองอนาคตเห็นได้.....ฟันธงได้เลยครับ ต้นไตรมาส 2 เป็นต้นไป ศก.ไทยจะเริ่มเป็นขาลงอีกครั้ง
เพราะอะไร....ก็ตลาดหุ้นบอกมาไงครับ 2-3 เดือนจากนั้น ศก.ก็จะตามมา
คาดการณ์อนาคตยากตรงไหน ???
ที่ยากกว่านั้นก็คือ การหาทางแก้ไขปัญหาต่างหาก.... ผมได้ขึ้นอีกกระทุ้เรียบร้อยแล้ว เพื่อทำหน้าที่ของนักเศรษฐศาสตร์ให้สมบูรณ์
1. เตือนภัยวิกฤติ ศก.
2. เตรียมแผนไว้พร้อมรับมือเพือ่บรรเทาวิกฤตินั้น
แล้วอ่าน บทความของ นักเศรษฐศาสตร์ระดับ กูรู มากๆ เข้าไว้ นำมาคิดตามมากๆ ว่าเรื่องไหนมันเชื่อมโยงกันอย่างไร
ก็น่าจะพอไหวแล้วครับ
แต่ของคุณ Tibular นี่ ระดับ นักศึกษาเศรษฐศาสตร์จริงๆ เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่านี่เป็นการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ มันก็เลยทำให้หลายคนคิดว่า การ "คาดการณ์" ไม่ต่างจากการ "เดา" ไงครับ
ศก.อเมริกา บอก OK : มันจะดีได้ไง ประเทศนี้เดินหน้าด้วย "สินเชื่อ" หรือหนี้สิน ถ้าคนประหยัดอดออมกันมากขึ้น ก็ใช้จ่ายน้อยลง ศก.ก็ไม่เดินไง ก็ต้องพึ่งให้รัฐบาลมาช่วยสร้างหนี้แทน แล้วมันจะไปได้กี่น้ำ
ศก.จีนบอกว่า OK : มันจะ OK ได้ไง ในเมื่อฟองสบูอสังหาฯ เห็นๆ กันอยู่ เงินทุนไหลบ่าที่เข้ามาก่อนหน้านี้ กำลังจะไหลออกไปอย่างเร็ว ควบคุมสินเชื่อ กำลังเจาะฟองสบู่ให้แตกชัดๆ
ศก.ญี่ปุ่นบอก OK จะฟื้นจากท่องเที่ยว : ใครจะไปเที่ยวละครับ ของแพงอออกอย่างนั้น ค่าครองชีพสูงกว่าไทย 4 เท่าตัว ผมยังไม่กล้าไปเลย
ศก.ริมยูโรโซน บอกปัญหาแก้ได้ : แก้ไขยังไงละครับ บอกได้เลยว่ายากสุดๆ สำหรับไทย เมกซิโก แค่ลดค่าเงินแล้วรับกรรมไป แต่อย่างกรีซ สเปน มันไม่ใช่ เพราะ ใช้เงินยูโรอยู่นะสิ
ศก.ประเทศไทย : อ่านแล้วงงๆ นะ ถ้าเขียนว่าเป็น retirement center ของโลก อาจจะดูดีน่าเชื่อถือกว่านี้ครับ
ผมเข้ามาทำหน้าที่พิทักษ์ศักดิ์ศรีของนักเศรษฐศาสตร์ เพราะ มีบางท่านวิจารณ์ว่า "เดา" ไปเรื่อย กระทู้นี้ผมจะตอกย้ำอีกครั้ง ว่า นักเศรษฐศาสตร์สามารถคาดการณ์อนาคตได้ครับ
แต่ปัญหาก็คือ เรื่องของ timing เพราะ เราจะไม่รู้ครับว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่
ผมจึงสร้าง Super Leading Indicators ขึ้นมาอีก 5 ตัว โดยใช้แนวคิดว่า การจะบอกแนวโน้มตลาดหุ้นล่วงหน้าได้ ต้องอาศัย แนวโน้มของตลาดที่มีความเสี่ยงมากกว่านั่นเอง ซึ่งก็คือ
ตลาด FX, ทองคำ : ค่าเงินยูโร และ ราคาทองคำ ใช้ leverage สูงกว่า จึงเสี่ยงกว่า 2 ตัวนี้เตือนมาตั้งแต่กลางเดือน ธค.แล้วครับ
ตลาดน้ำมัน NASDAQ และ หุ้นจีน : น้ำมันไม่ใช่เฉพาะเก็งกำไร แต่ยังมีการซื้อเพื่อใช้จริงด้วย จากสภาพอากาศหนาว และ ศก.ฟื้นตัว ทำให้ตัวนี้บอกช้าไปหน่อย แต่ก็ยังบอกก่อนตลาดหุ้นลงถึง 2 วัน
NASDAQ และ จีน นั้นเป็นตลาดหุ้นที่ P/E สูงกว่า จึงเสี่ยงกว่า บอกก่อนล่วงหน้าแค่ 1 วันเท่านั้น
ผมมองเห็นการฟื้นตัว W มาตั้งแต่เดือน สค. แล้ว (ลองไปอ่านดูในเศรษฐศาสตร์ข้างถนน : ท่านเป็นตัว V แต่ผมเป็น W) แต่ผมไม่แน่ใจนักว่ามันจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ตอนนี้พวกเรา VI ก็มองอนาคตเห็นได้.....ฟันธงได้เลยครับ ต้นไตรมาส 2 เป็นต้นไป ศก.ไทยจะเริ่มเป็นขาลงอีกครั้ง
เพราะอะไร....ก็ตลาดหุ้นบอกมาไงครับ 2-3 เดือนจากนั้น ศก.ก็จะตามมา
คาดการณ์อนาคตยากตรงไหน ???
ที่ยากกว่านั้นก็คือ การหาทางแก้ไขปัญหาต่างหาก.... ผมได้ขึ้นอีกกระทุ้เรียบร้อยแล้ว เพื่อทำหน้าที่ของนักเศรษฐศาสตร์ให้สมบูรณ์
1. เตือนภัยวิกฤติ ศก.
2. เตรียมแผนไว้พร้อมรับมือเพือ่บรรเทาวิกฤตินั้น
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 111
ผมชอบและขอบคุณทุกคนที่ post กระทู้นี้และให้มุมมองที่ต่าง แต่อยากเสนอแนวทางเพื่อลดการกระทบระหว่างสมาชิกกันเอง
การอยู่ร่วมกันยอมมีกติกา การบริหาร web ก็เช่นกัน ซึ่งผู้ดูแลจัดการคือ modurator ในสภาก็คือประธานสภา
เกี่ยวกับ web การดูแลจัดการอาจมีทั้งเรื่องคำพูดเนื้อหาไม่เหมาะสมและเจตนาที่ไม่เหมาะสม........จึงอาจต้องมีทั้งการตีความคำพูดและเจตนา ใครละจะเป็นผู้ตัดสินตีความ ผมว่าน่าเป็น modurator เท่านั้น
หากสมาชิกผู้ที่ถูกพาดพิงและไม่พอใจอาจทำได้ 2 ทาง คือ pm (private message) หรือแจ้ง modurator ให้ช่วยตัดสินจัดการ
หากไม่ใช่ผู้ถูกพาดพิงแต่เห็นว่ามีการกระทำไม่เหมาะสม น่าจะแจ้งให้ modurator ตัดสินใจและจัดการมากกว่า
เมื่อ modurator เป็นเหมือนตำรวจ อัยการ ศาล ในคนเดียว จึงต้องมีระบบการตัดสินใจที่ดีนะครับ....ไม่งั๊นงานเข้า
ผมก็แค่เสนอความเห็นเป็นหลักการ จะปฏิบัติจริงอย่างไรก็แล้วแต่ modurator จะเห็นควรนะครับ (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามีใครบ้าง ที่รู้มาน่าจะมีพี่พอใจ 1 ท่าน)
การอยู่ร่วมกันยอมมีกติกา การบริหาร web ก็เช่นกัน ซึ่งผู้ดูแลจัดการคือ modurator ในสภาก็คือประธานสภา
เกี่ยวกับ web การดูแลจัดการอาจมีทั้งเรื่องคำพูดเนื้อหาไม่เหมาะสมและเจตนาที่ไม่เหมาะสม........จึงอาจต้องมีทั้งการตีความคำพูดและเจตนา ใครละจะเป็นผู้ตัดสินตีความ ผมว่าน่าเป็น modurator เท่านั้น
หากสมาชิกผู้ที่ถูกพาดพิงและไม่พอใจอาจทำได้ 2 ทาง คือ pm (private message) หรือแจ้ง modurator ให้ช่วยตัดสินจัดการ
หากไม่ใช่ผู้ถูกพาดพิงแต่เห็นว่ามีการกระทำไม่เหมาะสม น่าจะแจ้งให้ modurator ตัดสินใจและจัดการมากกว่า
เมื่อ modurator เป็นเหมือนตำรวจ อัยการ ศาล ในคนเดียว จึงต้องมีระบบการตัดสินใจที่ดีนะครับ....ไม่งั๊นงานเข้า
ผมก็แค่เสนอความเห็นเป็นหลักการ จะปฏิบัติจริงอย่างไรก็แล้วแต่ modurator จะเห็นควรนะครับ (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามีใครบ้าง ที่รู้มาน่าจะมีพี่พอใจ 1 ท่าน)
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 113
ตอนนี้ผมยังมองแค่เป็น W นะครับ....คือสร้างฐานลงเดิมครั้งที่ 2
แต่ก็อาจย่ำแย่เป็น Great Depression ได้เหมือนกัน เพราะ ทั้งโลกนั้น หมดกระสุนแล้ว ใช้นโยบายการเงิน การคลัง แบบสุดขั้ว
ศก.ก็ยังเป็นขาลงได้อีก ผมเชื่อว่าจะ panic พอสมควรนะครับ
อย่างไรก็ดี ที่ผมเชื่อว่าเป็น W ก็เพราะว่า ในที่สุดแล้ว รัฐบาลของทั้งโลกก็อาจมาให้ความสนใจกับ "เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ที่เป็นกรอบแนวคิดใหม่ ซึ่งไม่ใช่ทั้งนโยบายการเงิน และ การคลัง
แต่ใช้หลักการยืมพลัง จากแหล่งต่างๆ ทั้งกองทุนบำนาญ ตลาดหุ้น และ คนต่างด้าว เพื่อมากระตุ้น ศก. โดยรัฐไม่ต้องสร้างหนี้เพิ่มเลยแม้แต่น้อย
จึงสามารถช่วยเหลือ ศก.ในยามขาลงรอบ 2 นี้ไว้ได้ครับ....
โม้เกินไปหรือเปล่า ..... แค่ฝันๆ ไว้นะครับ
แต่ก็อาจย่ำแย่เป็น Great Depression ได้เหมือนกัน เพราะ ทั้งโลกนั้น หมดกระสุนแล้ว ใช้นโยบายการเงิน การคลัง แบบสุดขั้ว
ศก.ก็ยังเป็นขาลงได้อีก ผมเชื่อว่าจะ panic พอสมควรนะครับ
อย่างไรก็ดี ที่ผมเชื่อว่าเป็น W ก็เพราะว่า ในที่สุดแล้ว รัฐบาลของทั้งโลกก็อาจมาให้ความสนใจกับ "เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก" ที่เป็นกรอบแนวคิดใหม่ ซึ่งไม่ใช่ทั้งนโยบายการเงิน และ การคลัง
แต่ใช้หลักการยืมพลัง จากแหล่งต่างๆ ทั้งกองทุนบำนาญ ตลาดหุ้น และ คนต่างด้าว เพื่อมากระตุ้น ศก. โดยรัฐไม่ต้องสร้างหนี้เพิ่มเลยแม้แต่น้อย
จึงสามารถช่วยเหลือ ศก.ในยามขาลงรอบ 2 นี้ไว้ได้ครับ....
โม้เกินไปหรือเปล่า ..... แค่ฝันๆ ไว้นะครับ
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 114
เวิลด์แบงก์เตือนจีนอย่าเมินฟองสบู่
วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553
โพสต์ทูเดย์ ธนาคารโลกเตือนสัญญาณฟองสบู่อสังหาฯ จีน ย้ำรัฐบาลรู้ดีแต่ยังปล่อย ใช้เงินกระตุ้นเต็มพิกัด ดันจีดีพีไตรมาสสุดท้าย 2552 ทะลุกว่า 10%
ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยวานนี้ระหว่างการแถลงรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกประจำปี 2553 ว่า เวิลด์แบงก์พบสัญญาณฟองสบู่หลายด้านในเศรษฐกิจจีน และล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่รัฐบาลจีนทราบดีอยู่แล้ว
เราเห็นสัญญาณของภาวะฟองสบู่ และสัญญาณของความ ตึงเครียดภายในเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ แอนดรูว์ เบิร์นส์ หัวหน้าฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาคของเวิลด์แบงก์ กล่าว
เบิร์นส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยในประเทศของจีนที่อยู่ในระดับต่ำ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจบางตัวนั้นกำลังทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวมากจนเกินไป และส่งผลให้รัฐบาลกรุงปักกิ่งต้องถอยหลังกลับ
ด้านฮานส์ ทิมเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาค ย้ำว่า การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไป ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนต้องพบกับความเสี่ยง ซึ่งจีนเองก็ทราบเป็นอย่างดี
ในปี 2552 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ตลอดทั้งปีถึง 8.7% ซึ่งโดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีนั้นสามารถขยายตัวได้ถึง 10.7% นับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 3 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ขณะที่ในรายงาน คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2553 นั้นระบุว่า เศรษฐกิจจีนจะโตแรงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 9%
สำหรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกนั้นจะขยายตัวได้เพียง 2.7% ในปีนี้ และขยับขึ้นมา 3.2% ในปีหน้า หลังจากที่หดตัวไปถึง 2.2% ในปี 2552 เพราะการเริ่มชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศจะเป็นปัจจัยฉุดให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ช้าลง อย่างไรก็ดี การค้าโลกจะขยับขึ้นบวกได้ 4.3% ในปีนี้ และ 6.2% ในปีหน้า หลังจากที่ติดลบไปถึง 14.4% ในปีที่ผ่านมา
การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างเปราะบาง และจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากผลกระทบของการชะลอมาตรการทางการเงินและการคลังเชิงรุก ซึ่งทำให้เราไม่อาจปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยระลอกใหม่ หรือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ต้องสะดุดลง รายงานระบุ
รายงานระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกครั้งนี้จะนำโดยเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 5.2% ในปีนี้ และ 5.8% ในปีหน้า นำโดยจีนที่เติบโตสูงสุด 9% ส่วนอินเดียจะขยายตัวที่ 7.5% ทวีปอเมริกาใต้ 3.1% ยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง 2.7%
อย่างไรก็ดี ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย 1.8% และ 2.3% ในปีหน้า โดยสหรัฐจะเติบโตเพียง 2.5%
ปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้คือ ปัญหาในตลาดการเงิน และความต้องการบริโภคของภาคเอกชนที่ยังคงลดลง อันเนื่องมาจากภาวะการว่างงานที่ยังพุ่งสูงต่อไป
วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553
โพสต์ทูเดย์ ธนาคารโลกเตือนสัญญาณฟองสบู่อสังหาฯ จีน ย้ำรัฐบาลรู้ดีแต่ยังปล่อย ใช้เงินกระตุ้นเต็มพิกัด ดันจีดีพีไตรมาสสุดท้าย 2552 ทะลุกว่า 10%
ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยวานนี้ระหว่างการแถลงรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกประจำปี 2553 ว่า เวิลด์แบงก์พบสัญญาณฟองสบู่หลายด้านในเศรษฐกิจจีน และล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่รัฐบาลจีนทราบดีอยู่แล้ว
เราเห็นสัญญาณของภาวะฟองสบู่ และสัญญาณของความ ตึงเครียดภายในเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ แอนดรูว์ เบิร์นส์ หัวหน้าฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาคของเวิลด์แบงก์ กล่าว
เบิร์นส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยในประเทศของจีนที่อยู่ในระดับต่ำ และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจบางตัวนั้นกำลังทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวมากจนเกินไป และส่งผลให้รัฐบาลกรุงปักกิ่งต้องถอยหลังกลับ
ด้านฮานส์ ทิมเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาค ย้ำว่า การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไป ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนต้องพบกับความเสี่ยง ซึ่งจีนเองก็ทราบเป็นอย่างดี
ในปี 2552 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ตลอดทั้งปีถึง 8.7% ซึ่งโดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีนั้นสามารถขยายตัวได้ถึง 10.7% นับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 3 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ขณะที่ในรายงาน คาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2553 นั้นระบุว่า เศรษฐกิจจีนจะโตแรงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 9%
สำหรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกนั้นจะขยายตัวได้เพียง 2.7% ในปีนี้ และขยับขึ้นมา 3.2% ในปีหน้า หลังจากที่หดตัวไปถึง 2.2% ในปี 2552 เพราะการเริ่มชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศจะเป็นปัจจัยฉุดให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ช้าลง อย่างไรก็ดี การค้าโลกจะขยับขึ้นบวกได้ 4.3% ในปีนี้ และ 6.2% ในปีหน้า หลังจากที่ติดลบไปถึง 14.4% ในปีที่ผ่านมา
การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างเปราะบาง และจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากผลกระทบของการชะลอมาตรการทางการเงินและการคลังเชิงรุก ซึ่งทำให้เราไม่อาจปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยระลอกใหม่ หรือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ต้องสะดุดลง รายงานระบุ
รายงานระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกครั้งนี้จะนำโดยเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 5.2% ในปีนี้ และ 5.8% ในปีหน้า นำโดยจีนที่เติบโตสูงสุด 9% ส่วนอินเดียจะขยายตัวที่ 7.5% ทวีปอเมริกาใต้ 3.1% ยุโรปกลาง ยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง 2.7%
อย่างไรก็ดี ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย 1.8% และ 2.3% ในปีหน้า โดยสหรัฐจะเติบโตเพียง 2.5%
ปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้คือ ปัญหาในตลาดการเงิน และความต้องการบริโภคของภาคเอกชนที่ยังคงลดลง อันเนื่องมาจากภาวะการว่างงานที่ยังพุ่งสูงต่อไป
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- Verified User
- โพสต์: 354
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 115
ผมเป็นสมาชิกใหม่ในเว็บนี้ แต่เห็นด้วยกับพี่กาละมังครับ
เว็บบอร์ดต้องให้สิทธิ mod เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้ายครับ
มุมมองพี่อะไรดีล่ะ อ่านแล้วได้แง่คิดดีครับ ผิดถูกก็ให้เวลาพิสูจน์
การกระทบกระทั่งควรจะเริ่มจากตัวเองก่อนครับ
เช่น ไม่ดูถูกศาสตร์ด้านใดด้านนึง ว่าไม่มีประโยชน์ โดยที่เราไม่รู้จริง
ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์การลงทุนแบบคุณค่า หรือ เศรษฐศาสตร์ ครับ
เว็บบอร์ดต้องให้สิทธิ mod เป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้ายครับ
มุมมองพี่อะไรดีล่ะ อ่านแล้วได้แง่คิดดีครับ ผิดถูกก็ให้เวลาพิสูจน์
การกระทบกระทั่งควรจะเริ่มจากตัวเองก่อนครับ
เช่น ไม่ดูถูกศาสตร์ด้านใดด้านนึง ว่าไม่มีประโยชน์ โดยที่เราไม่รู้จริง
ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์การลงทุนแบบคุณค่า หรือ เศรษฐศาสตร์ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 116
มีขึ้นก็ต้องมีลง ก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ?
เศรษฐกิจดีก็มีฟองสบู่เป็นอีกด้านของเหรียญมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เรียนธรรมะก็รู้ได้นะครับ
วิกฤติเศรษฐกิจจะว่าไปก็เหมือนความเจ็บไข้ได้ป่วยหรือความตาย เราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เรารู้ว่ามันจะเกิดขึ้น เช่นนั้นก็ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาทเป็นดีที่สุด
ผมว่าสิ่งที่คุณอะไรดีล่ะเสนอขึ้นมา คนส่วนใหญ่ที่เป็น "นักลงทุน"จริงๆ ก็พอทราบและระมัดระวังตัวอยู่เสมออยู่แล้วนะครับ
อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณกับแนวคิดดีๆที่เสนอครับ น่าสนใจดีครับ
เศรษฐกิจดีก็มีฟองสบู่เป็นอีกด้านของเหรียญมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา เรียนธรรมะก็รู้ได้นะครับ
วิกฤติเศรษฐกิจจะว่าไปก็เหมือนความเจ็บไข้ได้ป่วยหรือความตาย เราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เรารู้ว่ามันจะเกิดขึ้น เช่นนั้นก็ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาทเป็นดีที่สุด
ผมว่าสิ่งที่คุณอะไรดีล่ะเสนอขึ้นมา คนส่วนใหญ่ที่เป็น "นักลงทุน"จริงๆ ก็พอทราบและระมัดระวังตัวอยู่เสมออยู่แล้วนะครับ
อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณกับแนวคิดดีๆที่เสนอครับ น่าสนใจดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 117
จากเริ่มต้น กระทู้นี้มีจุดประสงค์เพื่อเตือนภัย นักลงทุน VI บางคนที่ลงทุนเกินตัว ให้ระมัดระวังให้มากไว้ สถานการณ์ปีนี้อาจยากกว่าที่คิด
ต่อจากนั้น ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของนักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ว่าคาดการณ์ได้แม่นยำพอควร โดยอาศัยข้อมูลมาประกอบ ไม่ได้ "มั่วเดา" แต่อย่างใด
และ สุดท้ายชี้ประเด็นว่า นักเศรษฐศาสตร์เองก็มีข้อจำกัด ไม่สามารถคาดการณ์อนาคตในระยะยาวเกินไปได้ ซึ่งอาจช่วยให้เราแยกได้ว่า เรื่องราวแบบใดเป็นการคาดการณ์โดยนักเศรษฐศาสตร์ เรื่องราวแบบใดเป็นการเดาของนักศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ครับ
ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จะมีนักเศรษฐศาสตร์ที่เก่งพอตัว ออกมาคาดการณ์ double dip หรือการฟื้นตัว W มากขึ้น เพราะ คนกลุ่มนี้อาศัยดัชนีตลาดหุ้นเป็นตัวชี้นำ นักลงทุน VI หลายคนก็ทำได้ครับ
ส่วนนักศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ คงต้องรอให้เข้าไตรมาส 2 คือ ศก.เริ่มเป็นขาลงเสียก่อน ก็จะเริ่มออกมาพูดเรื่องนี้กัน
อย่างไรก็ดี วิธีการแก้ไขวิกฤติขาลงรอบ 2 นี้ ยังมีอยู่น้อยมาก เพราะ ปัจจุบันนโยบายการเงิน การคลัง การเล่นกันเต็มที่แล้ว
นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก คงไม่ใช่เร่งคาดการณ์วิกฤติ ศก.หรอก แต่เร่งหาวิธีรับมือกับวิกฤติศก.รอบใหม่นี้จะดีกว่าครับ :)
ต่อจากนั้น ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของนักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์ว่าคาดการณ์ได้แม่นยำพอควร โดยอาศัยข้อมูลมาประกอบ ไม่ได้ "มั่วเดา" แต่อย่างใด
และ สุดท้ายชี้ประเด็นว่า นักเศรษฐศาสตร์เองก็มีข้อจำกัด ไม่สามารถคาดการณ์อนาคตในระยะยาวเกินไปได้ ซึ่งอาจช่วยให้เราแยกได้ว่า เรื่องราวแบบใดเป็นการคาดการณ์โดยนักเศรษฐศาสตร์ เรื่องราวแบบใดเป็นการเดาของนักศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ครับ
ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จะมีนักเศรษฐศาสตร์ที่เก่งพอตัว ออกมาคาดการณ์ double dip หรือการฟื้นตัว W มากขึ้น เพราะ คนกลุ่มนี้อาศัยดัชนีตลาดหุ้นเป็นตัวชี้นำ นักลงทุน VI หลายคนก็ทำได้ครับ
ส่วนนักศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์ คงต้องรอให้เข้าไตรมาส 2 คือ ศก.เริ่มเป็นขาลงเสียก่อน ก็จะเริ่มออกมาพูดเรื่องนี้กัน
อย่างไรก็ดี วิธีการแก้ไขวิกฤติขาลงรอบ 2 นี้ ยังมีอยู่น้อยมาก เพราะ ปัจจุบันนโยบายการเงิน การคลัง การเล่นกันเต็มที่แล้ว
นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก คงไม่ใช่เร่งคาดการณ์วิกฤติ ศก.หรอก แต่เร่งหาวิธีรับมือกับวิกฤติศก.รอบใหม่นี้จะดีกว่าครับ :)
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 235
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 118
ทางทีมงานคิดว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 680
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 119
[quote="Thai VI Mod"]ทางทีมงานคิดว่า
เศรษฐศาสตร์ไท้เก๊ก... กรอบแนวคิดใหม่ใช้หลักยืมพลัง และ รักษาสมดุลเพื่อช่วยฟื้น ศก.ไทย และ ศก.โลก
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
หุ้นเงา... หุ้นอยู่ในเงาทำให้คนมองเห็นไม่ชัด ราคาหุ้นพร้อมจะปรับขึ้น 2 เด้งจาก EPS ที่สูงขึ้น และ การปรับค่า P/E ให้สูงขึ้นในอนาคต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 235
- ผู้ติดตาม: 0
++ นักลงทุน VI ควรระวังฟองสบู่แตกอีกรอบหรือไม่ ++
โพสต์ที่ 120
[quote="อะไรดีละ"][quote="Thai VI Mod"]ทางทีมงานคิดว่า