หน้า 4 จากทั้งหมด 5
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 06, 2011 11:20 pm
โดย thaloengsak
ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับ "นิยามคำว่าVI" ของใครๆ
เราลงทุนแบบไหนแล้วมันใช่กับตัวเรา ก็ทำไปเถิด
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 07, 2011 10:15 am
โดย Montri M.
ซื้อมาด้วยเหตุผลใดก็ขายด้วยเหตุผลนั้น ถ้าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนก็พิจารณาใหม่
เป็นกำลังใจให้ครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 1:32 pm
โดย pbnetgame
สังเกตุเห็นอะไรนิดนึงเลยอยากโพส วันที่คุณเซียนหนุ่มและบางคนในกระทู้นี้ล้างพอร์ท เป็นวันที่ต่ำสุด(ณ.ตอนนี้) ก่อนจะเกิดการรีบาว3วันติด
ถ้าตามราคาไปเรื่อยๆมักจะมีสถานะการณ์ให้เรากดดันแบบนี้เสมอ
ขอพูดเรื่องของตัวเองบ้างครับ ผม(คิดว่าเป็น)เป็น vi มือใหม่ แต่อยู่ในตลาดมานานพอควร
ผมเริ่มกลับมามองตัวเองเมื่อปีก่อน ในช่วงที่ใครๆก็กำไรจากตลาดขึ้นต่อเนื่อง แต่ผมกลับไม่กำไร
แถมยังขาดทุน ทำให้ผมคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดในการลงทุนของผมแน่ๆ
ผมเริ่มศึกษาและมาพบบอร์ดแห่งนี้ ในขณะที่เริ่มสนใจแนวทาง vi ก็พยายามหาหุ้น
ที่คิดว่าน่าลงทุน อย่างตอนผมอ่านหนังสือของบัฟเฟตจบ ผมมานั่งนึกหุ้นที่เข้าข่ายน่าลงทุน
ตามแนวคิดของบัฟเฟต หุ้นตัวแรกที่ปิ้งมาในหัวผมคือ cp 7-11 (จำได้สมัยก่อน5บาทเอง)
พอกดดูกราฟราคา40ต้นๆ ฝันสลายทันที (มารู้ที่หลังดร.แกถือเยอะซะด้วย)
หลังจากนั้นก็พยายามหาหุ้นที่ราคายังต่ำกว่าพื้นฐาน ผมกลับรู้สึกว่าแทบจะหาหุ้นทีราคายังถูก
แทบไม่เจอเลย(ช่วงปลายปีที่แล้ว)อาจจะเพราะผมหาไม่เจอเองด้วยก็ได้
แต่ก็เป็นเหตุผลให้ผมเทรดหุ้นแบบวิตกกังวล แม้หุ้นที่ผมเลือกไปผมคิดว่าราคามันยังต่ำ
ปันผลระดับเกือบ10% อัตราเติบโตในอดีตก็ดีพอควร ตลาดในอนาคตก็พอมีอนาคตอยู่
เมื่อเห็นตัวเลขต่างชาติขายต่อเนื่อง แม้ราคาหุ้นผมช่วงนั้นจะขึ้นสวนมาที่ไฮเดิมอีกรอบ
ผมตัดสินใจขายหมดพอร์ทแล้วถือเงินสดแทน ซึ่งถ้าโดยหลักการที่หลายๆคนบอกมันไม่ใช่แนว vi
แต่ผมเองคิดว่าผมจังหว่ะไม่ดี เข้าตลาดช้ากว่าคนอื่น มองภาพใหญ่มีแต่ของเกินมูลค่ากับเต็มมูลค่า
ถ้าภาพใหญ่จะลง ตัวเล็กๆอย่างเราก็ไม่ควรฝืน
ผมอาจมีโชคเล็กๆที่ตลาดลงจริงๆแบบที่ผมคาดไว้ ทำให้ผมยังมีโอกาสซื้อในราคาที่เหมาะสม
ที่พูดมาแค่คิดว่าหลักการบางอย่างมันไม่ตายตัวเสมอไป คนพอร์ทเล็กพอร์ทใหญ่ก็น่าจะมีการบริหาร
ที่ต่างกัน ผมว่าควรยึดหลักใหญ่ๆ(หัวใจของ vi)และปรับใช้ให้ตรงกับตัวเราน่าจะดีสุด
บางทีอาจจะเป็นเพราะจิตใจผมยังไม่เป็น vi ที่แท้จริงก็ได้นะ -__-"
แต่ผมพร้อมจะค่อยๆเรียนรู้แนวทางของ vi ไปเรื่อยๆ ขอขขอบคุณเวปนี้จากใจจริงคับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พุธ ต.ค. 12, 2011 12:02 am
โดย GamoX
เลือกล้าง port ในจุดที่ต่ำที่สุด
แต่ยังเห็นพี่เซียนหนุ่มที่ห้อง Ticon อยู่เลยนิครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 13, 2011 3:28 pm
โดย leky
ขอขุดกระทู้ขึ้นมาหน่อยครับ
อยากทราบว่าตอนนี้ ท่านทั้งหลายที่เคยแสดงความเห็นกันในตอนนั้น ผ่านมาสองเดือนกว่าตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ครับ
1) ลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม
2) ออกจากตลาดยังไม่กลับเข้ามา
3) ลงทุนบางส่วน รอจังหวะสวนอีกบางส่วน
ผมเองยังลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม เพียงแต่ปรับพอร์ตบ้าง ปรับเอาตัวที่ดูไม่เป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ออก แลกกับหุ้นตัวที่คิดว่าดีกว่าแล้วราคาลงมาในจุดที่พอใจ
ช่วงนี้ดูเว็บเงียบกว่าเมื่อก่อนครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 13, 2011 4:14 pm
โดย sakkaphan
leky เขียน:ขอขุดกระทู้ขึ้นมาหน่อยครับ
อยากทราบว่าตอนนี้ ท่านทั้งหลายที่เคยแสดงความเห็นกันในตอนนั้น ผ่านมาสองเดือนกว่าตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ครับ
1) ลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม
2) ออกจากตลาดยังไม่กลับเข้ามา
3) ลงทุนบางส่วน รอจังหวะสวนอีกบางส่วน
ผมเองยังลงทุนเต็มที่เหมือนเดิม เพียงแต่ปรับพอร์ตบ้าง ปรับเอาตัวที่ดูไม่เป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ออก แลกกับหุ้นตัวที่คิดว่าดีกว่าแล้วราคาลงมาในจุดที่พอใจ
ช่วงนี้ดูเว็บเงียบกว่าเมื่อก่อนครับ
คุณleky ทำเหมือนผมเลยครับ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=50719
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 13, 2011 5:46 pm
โดย Green
เหมือนเดิมครับ แยกเงินจากรายได้ของเราเป็นสองส่วน ส่วนนึงเติมในหุ้น ส่วนนึงเติมในหลักทรัพย์รูปแบบอื่นๆ
ช่วงไหนเจอหุ้นราคาที่อยากซื้อ เราก็เติมในหุ้นมากหน่อย เติมที่ส่วนหลักทรัพย์อื่นๆ น้อยหน่อย
แต่เงินที่ลงในหุ้นแล้ว ก็จะอยู่ในหุ้นแบบนั้น จะไม่เอาออก
ส่วนที่เอาเก็บไว้ในส่วนหลักทรัพย์อื่นๆ จะเอามาซื้อหุ้นบ้าง แล้วแต่ช่วงที่ เราเห็นว่ามันถูกจัดจริงๆ
ไปๆ มาๆ ปีนี้ เงินใหม่ๆ ที่หามาไป ลงไปในหุ้นน้อย กว่าปีก่อนๆ มาก พอสมควร เลยครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 13, 2011 7:54 pm
โดย leky
ที่ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะตอนนั้นกระแส "ล้างพอร์ต" หนีตายแรงมาก ในขณะที่เวลาผ่านมากว่าสองเดือน เรื่องหนี้ยุโรปก็ยังมีมาเป็นระยะ ๆ แต่สภาพตลาดดูดีกว่าตอนนั้นมาก เท่าที่สังเกตเห็น กระทู้ใหม่ ๆ หรือการโพสต์ในตอนนี้ลดลงกว่าเดิมมาก ส่วนหนึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากน้ำท่วมด้วย ที่ทำให้กิจกรรมการลงทุนลดลงไปจากที่หนีตาย "ล้างพอร์ต" กลายเป็น "หนีน้ำ" แทน แต่ที่อดคิดไม่ได้ก็คือหรือคนที่หนีตลาดไปตั้งหลักกลับมากันบ้างแล้วหรือยัง
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 13, 2011 11:01 pm
โดย sakkaphan
leky เขียน:ที่ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะตอนนั้นกระแส "ล้างพอร์ต" หนีตายแรงมาก ในขณะที่เวลาผ่านมากว่าสองเดือน เรื่องหนี้ยุโรปก็ยังมีมาเป็นระยะ ๆ แต่สภาพตลาดดูดีกว่าตอนนั้นมาก เท่าที่สังเกตเห็น กระทู้ใหม่ ๆ หรือการโพสต์ในตอนนี้ลดลงกว่าเดิมมาก ส่วนหนึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากน้ำท่วมด้วย ที่ทำให้กิจกรรมการลงทุนลดลงไปจากที่หนีตาย "ล้างพอร์ต" กลายเป็น "หนีน้ำ" แทน แต่ที่อดคิดไม่ได้ก็คือหรือคนที่หนีตลาดไปตั้งหลักกลับมากันบ้างแล้วหรือยัง
ผมคนหนึ่งล่ะที่เข็ดกับการ"ล้างพอร์ตสู่ความตาย"แล้วล่ะครับ
เพราะตอนที่ลงทุนช่วงแรกๆ เวลาหุ้นขึ้น ผมถือ และกระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่า.."การลงทุนแบบVIง่ายเสียนี่กระไร มีแต่ตัวเขียวเต็มไปหมด"
พอตลาดตก ตัวแดงเต็มไปหมด ผมล้างพอร์ต ขาดทุน capital ลดลง คิดในใจว่า"ไม่เป็นไรรอตลาดขึ้น เราVIเดี๋ยวก็ได้กำไรกลับคืน"
เป็นอย่างงี้อยู่หลายครั้ง.....
สำหรับผมจะถือยาวก็คือถือยาว จะเล่นสั้นก็คือเล่นสั้น เอาสักอย่าง ไอประเภทตอนที่ตลาดขึ้นแล้วบอกว่าตัวเองคือVIถือยาว พอตลาดตกกูขายทิ้งกลายเป็นเล่นสั้นซะงั้น ถ้าใครเป็นแบบนี้อยู่ จากประสบการณ์ของผม ผมคิดว่านี่ไม่ใช่การ"ล้างพอร์ตหนีตาย"แต่เป็นการ"ล้างพอร์ตสู่ความตาย"นะครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 14, 2011 12:05 am
โดย leky
ความเห็นผมเวลาตลาดลงแรง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการลงแรง ๆ ที่มีผลในช่วงสั้น ๆ เช่น ปฏิวัติ, สำรอง 30%, 9/11 วิกฤติที่จะลงหนัก ๆ อย่างรุนแรงและอาจจะนานจริง ๆ อาจจะมีน้อยครั้งกว่า เช่น วิกฤติปี 40 วิกฤติซับไพร์ม หลายครั้งพอความกลัวถึงขีดสุดที่เราจะล้างพอร์ตมันเลยกลายเป็นจุดต่ำสุดไป
แต่ก็มีนลท.บางประเภทที่มีวิธีการลงทุนเฉพาะตอนที่ตลาดดีจริง ๆ ก็มีครับ แต่ถ้าผ่านประสบการณ์มาหลายปีผมว่าบางครั้งช่วงเวลา "สีเทา" หมายถึงช่วงเวลาที่ตลาดไม่ขึ้นไม่ลง บางครั้งมันก็อาจจะกินเวลาเป็นปี ตลาดสีเทาแบบนี้ทำให้ตัดสินใจยากว่าจะอยู่ดูเฉย ๆ หรือจะลงทุนเต็มที่ครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 14, 2011 9:36 am
โดย ดำ
sakkaphan เขียน:สำหรับผมจะถือยาวก็คือถือยาว จะเล่นสั้นก็คือเล่นสั้น เอาสักอย่าง ไอประเภทตอนที่ตลาดขึ้นแล้วบอกว่าตัวเองคือVIถือยาว พอตลาดตกกูขายทิ้งกลายเป็นเล่นสั้นซะงั้น ถ้าใครเป็นแบบนี้อยู่ จากประสบการณ์ของผม ผมคิดว่านี่ไม่ใช่การ"ล้างพอร์ตหนีตาย"แต่เป็นการ"ล้างพอร์ตสู่ความตาย"นะครับ
เห็นด้วยครับ จะถนัดอย่างไหนก็ได้ แต่ให้เลือกเอาซักอย่าง
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 14, 2011 9:57 am
โดย kabu
เริ่มถือเงินสดบ้างครับ
แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในหุ้นครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 14, 2011 8:37 pm
โดย panda_power
พี่ๆผมเพิ่งซื้อหุ้นเดือนกุมภา 54 ซื้อไปทุกเดือน เท่าไหร่ก็ซื้อ
ขาดทุนหนักๆพอร์ทลด 20 กว่า% ก็ยิ่งซื้อ สรุปซื้อหุ้นเกือบ 100% ของสินทรัพย์
ปัจจุบัน พอร์ท - 3.73% อือๆค่อยใจชื้นกว่าช่วงก่อนหน่อย นี่ถ้ารวมปันผลก็ไม่ขาดทุนแล้วครับ
....................................................................................................
เพิ่งมาคิดได้ว่าช่วงขาขึ้น หุ้นที่ไม่ค่อยขึ้นก็มี ช่วงขาลงหุ้นที่ไม่ค่อยลงก็มี
ผมจึงคิดว่าซื้อหุ้นจำพวกนี้ไว้เอาปันผล เพราะว่าผมเป็นคนขี้เกียจ อ่า..............
หรือไม่ก็ตอนที่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดีในแต่ละรอบ
ซึ่งพอขาลงปรับเปลี่ยนมาซื้อหุ้นดีๆ มี upside แล้วโยกมาอย่างนี้พอร์ทก็ดีขึ้นกว่าเดิม
.....................................................................................................
คำว่า "VI" ยิ่งยึดติดมากเท่าไหร่ ความหมายของความว่า "VI" ก็ลดลงเท่านั้น
credit Vogabond (ปรับเค้ามาอีกที)
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 2:53 pm
โดย ziannoom
เจ้าของกระทู้ขอมารายงานตัวครับ ขอบคุณที่ขุดกระทู้ขึ้นมา หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับคนอื่นๆบ้าง
เริ่มกันที่ผลการล้างพอร์ตตอนนั้นเทียบกับตอนนี้แล้วกัน
Synex ตัวนี้มีมากสุด ขายไป 4.98 ไปซื้อคืนแถว 4.2-4.4 แล้วก็ไปขายอีกตอน 4 บาท ตอนนี้ 5 บาท โง่บรรลัยเลย
SVI ขายไป 3.88 ตอนนี้ 3.36
SSI ขายไป 0.79 ตอนนี้ 0.8
TICON ขายไป 12.4 ตอนนี้ 11.2
เปรียบเทียบกับการไม่ทำอะไรเลย ก็ถือว่ามีค่าพอๆกันคือพอร์ตโดยรวมบวกลบ นิดหน่อย
แต่ถ้าเปรียบเทียบหลังจากนั้น set ขึ้นมากว่าสองร้อยจุดคิดเป็น 20กว่า% แต่หุ้นที่ซื้อเข้าไปใหม่ขึ้นมาบวกแค่ 10% กว่าๆ
แต่ประเด็นมันอยู่ที่เงินที่ลงทุนนั้นเป็นเงินที่เย็นไม่พอ ต้องนำมาเปิดร้านใหม่ จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจขายตอนนั้นแล้วนำเงินมาพักไว้กับบัญชีเงินฝาก ที่ฝากมาสองเดือนได้ดอกเบี้ย 3800
สรุป การลงทุนนี่ขอให้ใช้หลักการง่ายๆ
1 นำเงินที่เย็นจริงๆมาลงทุน
2 ลงทุนในบริษัทที่ดีมีกำไรต่อเนื่อง
3 หากหุ้นลงแล้วคิดว่าดีก็แค่ซื้อเพิ่ม
มันก็แค่นั้น แต่ทำได้หรือป่าวนี่สิปัญหา
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 3:25 pm
โดย potato
มี synex เหมือนกันครับ เร้าใจดี
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2011 5:45 pm
โดย Sattha
ช่วงนั้นก็งอนๆตลาดหุ้นเหมือนกันครับ จะลงก็ลง ไม่เข้าใจ หาเหตุผลประกอบไม่เจอ
อยากขาย แต่มันก็ขาดทุนกำไรลงมาเยอะมาก (เคยเห็นราคาสูงสุดมัน พอเห็นราคาปัจจุบันเกิดอาการรับไม่ได้ นิสัยข้อนี้ไม่ดีมากๆเลยผม)
ด้วยความคิดว่าพื้นฐานมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่ + งอนตลาด
เลยตัดสินห่างกันซักพัก ไม่เปิดดูราคา อย่างมากดูแค่ SET Index
มาตอนนี้โอเคแล้วครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 16, 2011 1:19 am
โดย somkiad999
อย่ายอมแพ้นะครับ
มือใหม่เป็นกำลังใจให้ครับผม
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 16, 2011 1:21 am
โดย leky
ziannoom เขียน:เจ้าของกระทู้ขอมารายงานตัวครับ ขอบคุณที่ขุดกระทู้ขึ้นมา หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับคนอื่นๆบ้าง
เริ่มกันที่ผลการล้างพอร์ตตอนนั้นเทียบกับตอนนี้แล้วกัน
Synex ตัวนี้มีมากสุด ขายไป 4.98 ไปซื้อคืนแถว 4.2-4.4 แล้วก็ไปขายอีกตอน 4 บาท ตอนนี้ 5 บาท โง่บรรลัยเลย
SVI ขายไป 3.88 ตอนนี้ 3.36
SSI ขายไป 0.79 ตอนนี้ 0.8
TICON ขายไป 12.4 ตอนนี้ 11.2
เปรียบเทียบกับการไม่ทำอะไรเลย ก็ถือว่ามีค่าพอๆกันคือพอร์ตโดยรวมบวกลบ นิดหน่อย
แต่ถ้าเปรียบเทียบหลังจากนั้น set ขึ้นมากว่าสองร้อยจุดคิดเป็น 20กว่า% แต่หุ้นที่ซื้อเข้าไปใหม่ขึ้นมาบวกแค่ 10% กว่าๆ
แต่ประเด็นมันอยู่ที่เงินที่ลงทุนนั้นเป็นเงินที่เย็นไม่พอ ต้องนำมาเปิดร้านใหม่ จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจขายตอนนั้นแล้วนำเงินมาพักไว้กับบัญชีเงินฝาก ที่ฝากมาสองเดือนได้ดอกเบี้ย 3800
สรุป การลงทุนนี่ขอให้ใช้หลักการง่ายๆ
1 นำเงินที่เย็นจริงๆมาลงทุน
2 ลงทุนในบริษัทที่ดีมีกำไรต่อเนื่อง
3 หากหุ้นลงแล้วคิดว่าดีก็แค่ซื้อเพิ่ม
มันก็แค่นั้น แต่ทำได้หรือป่าวนี่สิปัญหา
นับถือครับ คุณ ziannoom นับถือในการ "กล้า" ยอมรับความผิดพลาดครับ
ในความเห็นผมถึงคุณ ziannoom จะบอกว่าหุ้นบวกกลับขึ้นมา 20% ในขณะที่หุ้นที่ซื้อเข้าไปใหม่บวกแค่ 10% ผมอยากให้มองแบบนี้ครับว่าอย่าเพิ่งไปตัดสินในระยะเวลาช่วงสั้น ๆ ครับ เท่าที่ผมสังเกตเวลาตลาดลงหนัก ถ้าตลาดฟื้นหรือรีบาวนด์หุ้น big cap มักจะกลับมาก่อนในช่วงแรกครับ "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารครับ"
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 16, 2011 10:34 am
โดย drsp
ขอชมว่าภรรยาสวย ลูกน่ารัก
สิ่งที่คุณมีอยู่ผมว่ามีค่ากว่ากําไรหุ้นนะครับ
ถ้าอยากเล่นหุ้นให้สบายใจ
ผมว่ากันเงินก้อนหนึ่งไว้ให้ครอบครัวเผื่อกรณีฉุกเฉิน
เงินที่เหลือค่อยมาลงทุน
จะเล่นหุ้นอย่างไรก็ได้
อย่าให้ครอบครัวเดือดร้อนก็แล้วกัน
การเล่นหุ้นเป็นการวิ่งมาราธอน
ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร
ตอนปี40ผมขาดทุนหุ้นจากเงิน3ล้านเหลืออยู่3แสน
คนรอบข้างผมสาบส่งตลาดหุ้นกันหมด
ผมเองก็หยุดไประยะหนึ่งเพิ่งกลับมาเล่นใหม่
แต่เริ่มเล่นแบบมีหลักการมากขึ้น
ตอนนี้พอร์ทผม8หลัก
เฉพาะปันผลก็อยู่ได้สบาย
ถ้ายอมแพ้ไปก็คงไม่มีวันนี้
ขอให้คุณประสพความสําเร็จเช่นกันครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 19, 2011 2:55 pm
โดย leky
drsp เขียน:ขอชมว่าภรรยาสวย ลูกน่ารัก
สิ่งที่คุณมีอยู่ผมว่ามีค่ากว่ากําไรหุ้นนะครับ
ถ้าอยากเล่นหุ้นให้สบายใจ
ผมว่ากันเงินก้อนหนึ่งไว้ให้ครอบครัวเผื่อกรณีฉุกเฉิน
เงินที่เหลือค่อยมาลงทุน
จะเล่นหุ้นอย่างไรก็ได้
อย่าให้ครอบครัวเดือดร้อนก็แล้วกัน
การเล่นหุ้นเป็นการวิ่งมาราธอน
ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร
ตอนปี40ผมขาดทุนหุ้นจากเงิน3ล้านเหลืออยู่3แสน
คนรอบข้างผมสาบส่งตลาดหุ้นกันหมด
ผมเองก็หยุดไประยะหนึ่งเพิ่งกลับมาเล่นใหม่
แต่เริ่มเล่นแบบมีหลักการมากขึ้น
ตอนนี้พอร์ทผม8หลัก
เฉพาะปันผลก็อยู่ได้สบาย
ถ้ายอมแพ้ไปก็คงไม่มีวันนี้
ขอให้คุณประสพความสําเร็จเช่นกันครับ
ยอมรับครับว่าเดี๋ยวนี้หาคนที่มีประสบการณ์สมัยปี 40 ได้น้อยลงเรื่อย ๆ ผมเองก็เคยมีประสบการณ์ตรงนั้น แต่ตอนนั้นไม่ได้ลงทุนเต็มตัว แต่เชื่อว่าคนที่ผ่านช่วงนั้นมาและยังยืนหยัดอยู่ในตลาดจนถึงตอนนี้ ประสบการณ์ที่ได้มาในตอนนั้นน่าจะทำให้แกร่งขึ้นมาก เพราะหุ้นแย่อยู่ 6 ปี กว่าจะเป็นขาขึ้นในปี 46 บางครั้งหุ้นดี แต่ซื้อแล้วไม่ไปไหน
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 9:22 am
โดย นพพร
ชอบคำพูดที่ว่า การลงทุนเป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งร้อยเมตร จังครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 12:04 pm
โดย อ่อนซ่อนศิลป์
ตอนนั้นจำได้ว่าก่อนที่นายตลาดจะออกอาละวาด ผมถามใครมีแต่บอกให้ล้างพอร์ตๆ แต่ไม่รู้ตอนนั้นคิดไง ซื้อเพิ่มซะ
แต่ยังไงก็ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับที่ขุดขึ้นมาให้เป็นแง่คิดการลงทุนที่ดีครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 1:11 pm
โดย kit556
อ่านกระทู้หน้าแรก แล้วตกใจ จนมาเห็นว่าเป็นปี 2011 ก็มานั่งคิดว่าปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น ผมนึกออกแค่เรื่องน้ำท่วม ส่วนเรื่อง ตลาดไม่รู้อะไรกับเขาเลย มันมีตกหนักด้วยหรือ เพราะตัวที่ผมถือก็ลงแต่ไม่เยอะเท่าไหร่
ที่สำคัญตอน Oct 2011 นี่สุดๆละ ทั้งเรื่องที่ทำงาน มีน้องสาวสองคน แม่แก่อีกหนึ่งคน วุ่นวายทั้งเดือน ขนาดหนีไปนอนอยู่ชะอำแล้ว ใจก็ยังว้าวุ่น วันๆดูแต่ข่าว น้ำมาหรือยัง ลดหรือยัง จริงๆก็คิดเหมือนกันว่าวิกฤติน้ำท่วมนี้น่าจะเป็นโอกาสซื้อหุ้นบางตัวถูก แต่พอลองเปิด port ดูหุ้นที่ถืออยู่มันลงแต่ไม่มีตัวไหนถูกจนน่าซื้อสักตัว
แป๊บเดียวผ่านมาปีนึงละ สถานะการณ์กลับด้านกับปีที่แล้วเลย ลุ้นมาเปิดกระทู้นี้อีกที Oct 2013 ดีกว่า
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 1:19 pm
โดย อ่อนซ่อนศิลป์
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดจะเป็นกังวลเรื่องEU ครับ ตลาดปรับตัวลงนิดหน่อย
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 1:52 pm
โดย บูรพาไม่แพ้
kit556 เขียน:อ่านกระทู้หน้าแรก แล้วตกใจ จนมาเห็นว่าเป็นปี 2011 ก็มานั่งคิดว่าปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้น ผมนึกออกแค่เรื่องน้ำท่วม ส่วนเรื่อง ตลาดไม่รู้อะไรกับเขาเลย มันมีตกหนักด้วยหรือ เพราะตัวที่ผมถือก็ลงแต่ไม่เยอะเท่าไหร่
ที่สำคัญตอน Oct 2011 นี่สุดๆละ ทั้งเรื่องที่ทำงาน มีน้องสาวสองคน แม่แก่อีกหนึ่งคน วุ่นวายทั้งเดือน ขนาดหนีไปนอนอยู่ชะอำแล้ว ใจก็ยังว้าวุ่น วันๆดูแต่ข่าว น้ำมาหรือยัง ลดหรือยัง จริงๆก็คิดเหมือนกันว่าวิกฤติน้ำท่วมนี้น่าจะเป็นโอกาสซื้อหุ้นบางตัวถูก แต่พอลองเปิด port ดูหุ้นที่ถืออยู่มันลงแต่ไม่มีตัวไหนถูกจนน่าซื้อสักตัว
แป๊บเดียวผ่านมาปีนึงละ สถานะการณ์กลับด้านกับปีที่แล้วเลย ลุ้นมาเปิดกระทู้นี้อีกที Oct 2013 ดีกว่า
จำได้ว่าตอนที่คุณเซียนหนุ่มตั้งกระทู้ขึ้นมา ผมก็ขายล้างพอร์ตเหมือนกันครับ แต่ผมก็กลับเข้ามาซื้อใหม่ไม่ถึงสองอาทิตย์ มองย้อนหลังกลับไปดูเป็นบทเรียนที่ดีบทหนึ่ง จงมองที่ธุรกิจของเรามากกว่าที่จะมองเศรษฐกิจโลก แล้วกลับมามองว่ามีผลกระทบต่อบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ไหม และมากน้อยขนาดไหน
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 1:54 pm
โดย nephilim
ปีที่แล้วเจอปัญหาเศรษฐกิจทาง เมกาและ ทางยูโรโซน (กรีช)
บ้านเราน้ำท่วม มีปรับฐาน จาก 1000 กว่า มาถึง 800 กว่า มีปลั๊กหลุด (เค้าว่างั้น)
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 2:08 pm
โดย kit556
ขอบคุณครับ
ผมหน้าแตกเลย คิดว่ามีแค่เรื่องน้ำท่วมซะอีก จริงๆมีเรื่อง EU กรีซ ด้วย
น้ำท่วมปีที่แล้ว port ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรเลยไม่เสียหาย แต่บ้าน ที่ทำงานผม รวมค่าใช้จ่ายๆ จิปาถะ เสียไปร่วมแสนครับ
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 2:25 pm
โดย อ่อนซ่อนศิลป์
ไอ้ผมดันไปถือตัวที่โดนน้ำท่วมหนักเลยน่ะสิครับ 55555
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 4:21 pm
โดย ซากทัพ
อย่ายอมแพ้ ลองคิดทบทวนดูครับ
1.เงินที่มาลงทุนหุ้นควรเป็นเงินเย็น
2.หาบริษัทที่ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนจากปันผล อย่าหวังมูลค่าเพิ่มจากราคา
3.อย่าตามกระแสคนอื่น ต้องใช้ความคิดความอ่านของตน
Re: มาสารภาพครับ ว่ายกธงยอมแพ้ตลาดหุ้นแล้ว
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 20, 2012 4:38 pm
โดย dino
แพ้ตลาดฯ รึแพ้ใจตัวเองครับ
ถ้าทำการมาเป็นอย่างดีแล้ว ต้องหนักแน่นดุจภูผาครับ ^^