Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ลองหาใน 7-11 ยังไม่เจอสักสาขาเลยครับ ไม่ทราบว่าจะเข้าเมื่อไหร่

“เอส” ยึดร้านอาหารเบ็ดเสร็จแทนเป๊ปซี่ 5 วันทุบสถิติขาย 1 ล้านลัง-โค้กอัดโปรฯ คิดเสียบ

เสริมสุขส่งเอสโคล่ายึดหัวหาดช่องทางร้านอาหารแทนเป๊ปซี่เบ็ดเสร็จชนิดโค้กก็ผิดหวัง ปัญหามัดจำขวด-ลังยุ่งยาก โชว์ 5 วันทุบสถิติขาย 1 ล้านลัง ด้านเป๊ปซี่ตกภาวะสุญญากาศ สินค้าเริ่มหายจากตลาด คาด 6 เดือนแชร์ร่วงหลุดเบอร์ 2

แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มน้ำอัดลมกล่าวว่า หลังจากที่ค่ายเป๊ปซี่และค่ายเสริมสุขต่างเริ่มทำตลาดตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเสริมสุขกระจายสินค้าเครื่องดื่มน้ำอัดลมเอส (est) โดยเฉพาะขวดแก้วขนาด 300 มล. และขวดเพ็ทขนาด 1 ลิตร สามารถเข้าถึงช่องทางร้านอาหารซึ่งมีสัดส่วนถึง 20% ในตลาด

สำหรับช่องทางร้านอาหาร เป็นการช่วงชิงระหว่างเอสกับโค้ก เพราะเป๊ปซี่เลิกทำขวดแก้วไปแล้ว แต่ปรากฏว่าเสริมสุขมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทางร้านอาหาร โดยพบว่าเอสนำสินค้าไปวางจำหน่ายแทนเป๊ปซี่ขวดแก้วได้เกือบทั้งหมด จึงเชื่อว่าเสริมสุขสามารถรักษาฐานลูกค้าในช่องทางดังกล่าวได้ หลังจากก่อนหน้านี้คาดว่าโค้กจะสามารถเข้าไปชิงส่วนแบ่งจากช่องทางร้านอาหารได้ เนื่องจากโค้กมีการแจกโบรชัวร์เสนอโปรโมชันต่างๆ แก่ร้านอาหารเพื่อดึงให้มีการเซ็นสัญญาเอ็กซ์คลูซีฟ

ยกตัวอย่างเช่น การซื้อโค้ก 15 ออนซ์ สามารถทำการจ่ายมัดจำจริงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 โดยต้องมียอดขั้นต่ำที่ 50% ของจำนวนขวดและลังของเป๊ปซี่ที่มีอยู่ และมียอดเพิ่มขวดและสั่งโค้กขั้นต่ำที่ 50 ลัง นอกจากนี้ หากเซ็นสัญญาเพิ่มขวดลังขั้นต่ำ 50 ลัง รับฟรีทันทีน้ำทิพย์ขนาด 550 มล. 50 ลัง พร้อมลุ้นรับรางวัลเงินสดและทองคำกว่า 6 ล้านบาท ฯลฯ

แต่ปรากฏว่าเอสสามารถยึดหัวหาดช่องทางนี้ได้มากเพราะการเปลี่ยนจากเป๊ปซี่มาขายโค้กจะต้องมีปัญหายุ่งยากจากการมัดจำขวดและลัง ซึ่งเหตุผลที่ทางเอสเข้าช่องทางร้านอาหารได้เกือบหมดเนื่องจากร้านอาหารไม่ต้องเสียเวลามัดจำขวดและลัง สามารถเปลี่ยนเอาเอสได้เลย เพราะทรัพย์สินขวดและลังเป็นของทางเสริมสุขอยู่แล้ว

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าผู้บริหารเป๊ปซี่ นายจากรูท โคเตชา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด จะกล่าวว่า เครื่องดื่มน้ำอัดลมเป๊ปซี่ มิรินด้า และเซเว่นอัพ วางจำหน่ายครอบคลุมทุกช่องทางวันที่ 2 พย.นี้ โดยได้ให้ดีเอชแอลและบริษัทท้องถิ่นกระจายสินค้าให้ แต่ขณะนี้สินค้าในหลายช่องทางเริ่มหายไปจากตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าสถานการณ์แบบนี้ ในช่วงเวลา 6 เดือนนับจากนี้เป๊ปซี่จะสูญเสียส่วนแบ่งอย่างแน่นอน และมีความเป็นไปได้ที่ส่วนแบ่งจะลดลงมาอันดับ 4 ของตลาด

ปัจจุบันคอร์ปอเรตแชร์เป๊ปซี่เป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่ง 35-37% จากมูลค่าตลาดน้ำอัดลม 38,500 ล้านบาท ขณะที่น้ำดำเป๊ปซี่เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50% หรือมูลค่า 30,800 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 75-80% ขณะที่โค้ก คอร์ปอเรตแชร์ 54% ส่วนบิ๊ก โคล่า มีส่วนแบ่ง 16.6% และสิ้นปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 18% ในขณะที่เอส โคล่า ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 25% หรือขึ้นเป็นอันดับ 2 ของตลาดในปีหน้า โดยขณะนี้เริ่มเห็นเป๊ปซี่ผลิตจากโรงงานที่นิคมอุสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง วางจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรดบ้างแล้ว แต่สินค้าส่วนใหญ่ยังไม่สามารถกระจายได้ครอบคลุมทุกช่องทาง

นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการเปิดตลาด “เอส โคล่า” เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนว่า “เอส โคล่า” ทำสถิติยอดขาย 1 ล้านลังภายใน 5 วัน เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของเสริมสุข โดยเสริมสุขพร้อมวางจำหน่ายเอสโคล่าในช่องทางโมเดิร์นเทรดและร้านสะดวกซื้อซึ่งมีสัดส่วน 20% จากช่องทางจำหน่ายโดยรวมทั้งหมด จะเริ่มวางสินค้าที่เทสโก้โลตัส บิ๊กซี (10 พ.ย.) เซเว่น-อีเลฟเว่น ท็อปส์ แม็คโคร จัสโก้ (12 พ.ย.) วิลล่า ตั้งฮั้วเส็ง ปั๊ม ปตท. (14 พ.ย.)

ขณะที่ปั๊มน้ำมันอื่นๆ ทั่วประเทศเริ่มวางจำหน่าย (16 พ.ย.) และกูร์เมต์มาร์เก็ต โฮมเฟรชมาร์ท และฟู้ดแลนด์ (3 ธ.ค.) จากการเก็บข้อมูลร้านค้า นางอนงค์ วงษาลี เจ้าของร้าน SK เล่าว่า “ตั้งแต่วางขาย “เอส โคล่า” มีลูกค้ามาถามหาเยอะ ขายดีมาก แถมมีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ขายได้แบบนี้เราก็มั่นใจในสินค้าและถ้ามีตัวอื่นๆ ก็จะสั่งมาขายแน่นอน”

ที่มา http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000136762

เมื่อวานผมไปกินขนมจีนแล้วลั่งpepsiและcokeไม่มี ทางร้านบอกว่ามีแต่est

ลองชิมดูแล้ว

เรื่องรสชาดก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก
สามารถทดแทนกันได้

ผมไม่ทานน้ำอัดลมมานานแล้ว เร็ว ๆ นี้ พาครอบครับไปทานอาหารข้างนอก ลูก ๆ สั่ง pepsi มา ทุกคนก็ว่า รสชาติต่างไป ไม่ชอบสู้ของเก่าไม่ได้ครับ

ผมว่ามันจืดลงและก็ความซ่าลดลงหน่อยนึง
ถ้าหากไปกินกับน้ำแข็งด้วยแล้วจืดไปเลยครับ

จากการสอบถามเจ้าของร้านบะหมี่ริมทางได้ความว่า

-รสชาติเหมือนกับโคล่า ที่ขายสมัยก่อน ไม่ถูกปาก โค๊กอร่อยกว่า

-ตอนนี้เป๊ปซี่ไม่มาส่งของให้แล้ว ของหมด

-ลูกค้าจะชอบกินเป๊ปซี่ ถ้าเป๊ปซี่ไม่มีจะกินโค๊กแทน

-ตัวแทนจำหน่ายโค๊กบอกว่าช่วงนี้ทำงานหนักมาก โค๊กขายดี ของในสต๊อกแทบไม่เหลือ (นครชัยศรี)

แต่เท่าที่สังเกตุในร้านและตู้แช่พบว่า ยังมีสินค้าอื่นที่ยังวางขาย เช่น โออิชิขวดแก้ว ชาลิปตัล น้ำดื่มคริสตัล

ณ ร้านบะหมี่ริมทาง นครชัยศรี

รสชาติที่เปลี่ยนไป เกิดจากการเพิ่ม sodium ครับ
เปปซี่ 30 มก เอสใส่ไป 35 มก (ดูจากข้อมูลทางโภชนาการข้างกระป๋อง)
สรุป คือ หวานน้อยลง เกิดจากรสเค็มมากขึ้น รสเค็มทำให้กระหายมากขึ้น
และทำให้คนทานมากขึ้น แต่ คนสูงอายุ และ มีปัญหาเกี่ยวกับความดัน
คงบอกลา เอส ครับ

ชิมแล้วค่ะ เหมือนเอาเป๊ปซีผสมรูทเบียรแล้วเติมน้ำลงไปอีกหน่อย ไม่ค่อยถูกปากค่ะ

แชร์หน่อย

lotus express แถวบ้าน coke หมดเกลี้ยงร้าน pepsi หรือ est ก็ไม่มีขาย เหลือแต่ แฟนต้า สไปร์ และ ชาต่าง ๆ

วันก่อนไปทาน foodcourt เซ็นทรัลพระรามสาม มี est บริการเป็นแบบกดขายเป็นแก้ว คาดว่า est น่าจะยึด foodcourt ได้ทั้งหมดแทนที่ pepsi ไปแล้ว

chatchai เขียน:รถเสริมสุขขนสินค้าให้ร้านโชว์ห่วยแต่ละครั้ง ส่งทั้ง Est คริสตรัล โออิชิ ไอซ์ที และแรงเยอร์ ช่วยกันแบ่งเบาภาระค่าขนส่ง

รถไทยน้ำทิพย์ ส่งแต่ละครั้งมี Coke แฟนต้า สไปรซ์ มินิเมด น้ำทิพย์

รถ Pepsi จะมีสินค้าอะไรช่วยแบ่งเบาค่าขนส่งบ้าง

เท่าที่รู้ถ้าเป็นร้านย่อย PEPSI จะใช้วิธีตั้งตัวแทนตามเขตต่างๆช่วยกระจายสินค้า โดยที่ส่วนมากตัวแทนที่ตั้งมาจะเป็นตัวแทนขายสินค้าอุปโภค บริโภคอื่นๆ เช่นของ Nestle , P&G อยู่แล้ว ก็จะไปแชร์ค่าขนส่งกับสินค้าอื่นๆครับ (ไม่มีขวดแก้วก็ใช้แค่รถกระบะปกติส่งเหมือนสายส่ง 7-11 ได้เลย)

ส่วนDHL ก็ใช้เข้าช่องทาง Moderntrade ส่งเข้า DC ของแต่ละเจ้าเป็นหลักแค่นั้นครับ

น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดของ PEPSI ตอนนี้แล้ว แม้ว่าจะต้องแบ่งกำไรให้ตัวแทนจำหน่าย และ DHL เป็นค่ากระจายสินค้า
แต่ก็น่าจะพอครอบคลุมช่องทางจำหน่ายไว้ได้

แต่ที่ตอนนี้ยังกระจายได้ไม่ทั่วเพราะเป็นช่วงรอยต่อ ตัวแทนบางเจ้าที่ตกลงกันไว้ มีพื้นที่เก็บเดิมไม่พอ ต้องขยายโกดัง
ก็ดันมาเจอปัญหาขาดแรงงานก่อสร้างอีก

ส่วนโค้กก็เร่งขยายตลาดเข้าไปเจาะร้านค้าย่อยเดิมเหมือนกัน แต่ร้ายย่อยมันเยอะมากยังเข้าไปได้ไม่หมด

ปล. จากที่ได้เห็นpackaging และได้ลองชิม EST แล้ว ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
แต่ยังไงก็เกิดแน่ๆ เพราะขายพ่วงจนร้านค้าไม่กล้าเปลี่ยน 555

ลอง EST มาแล้ว

ครั้งแรกรสชาติมันแย่มาก สงสัยไม่ค่อยเย็น

ครั้งที่สองเย็นเจี๊ยบ รสยังคงแย่ จืด ความซ่าส์ตอนปลายๆๆหลังจากกลืนลงคอไม่มี รสและกลิ่นเหมือนยาแก้ไอ

ครั้งที่สาม โคล่ามีแต่ EST งั้นน้องเอาน้ำอัดลมไรก็ได้ที่ไม่ใช่ EST รสมันแย่มาก

ลิ้นผมระดับเทพครับ แยกออกครับว่าอันไหนรสดี

ฟังจากหลายๆเสียงแล้วผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ประทับใจกับรสชาติของเอส เมื่อเป็นแบบนี้ดูเหมือนว่าจะเพิ่มความได้เปรียบให้กับpepsiและcokeมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกันนะคับ

เมื่อเช้าเข้า 7-11 มีลูกค้าถามพนักงานว่าไม่มีเป็ปซี่เหรอ หามาหลายที่แล้วไม่มี ยี่ห้อใหม่ไม่อร่อย หวานไป .... และเค้าก็พยายามหาต่อไป ไม่เคยคิดว่าเป็ปซี่จะกลายเป็นของหายากและคนต้องการขนาดนี้

คิดว่า Coke น่าจะเสียบเข้ามาเป็น No.1
est ไม่รสชาติเหมือนขาดไรไปอย่างกินละไม่โดน

ผมว่าแปลกที่คนรู้สึกว่าจืดไป ทั้งๆที่จริงๆผู้ผลิตเพิ่มความหวานจากเดิม

ผมทานแล้ว ขวดแรก รู้สึกหวานปะแล่มๆ เหมือนรูธเบียร์หน่อยๆ
ครั้งที่สอง ก็ยังงั้นๆ
แต่ครั้งที่สามกับรู้สึกชินแล้วครับ ก็อร่อยดี

ผมมีโอกาสได้คุยผู้บริหารคนนึงที่เสริมสุขเกี่ยวกับเรื่องของรสชาติ
เค้าบอกว่าทางเสริมสุขทดลองแล้วทดลองอีกหลายรอบเกี่ยวกับรสชาติ แล้วจึงมาจบที่รสชาตินี้ครับ
การทำให้รสชาติเหมือน Pepsi เลยมันทำได้ แต่มันไม่สร้างความแตกต่าง ยังไงซะตอนนี้ distribution มันตกเป็นของ Est เห็นๆ
เค้าต้องการให้รสชาติมันแตกต่าง เค้าบอกว่า ถ้าคนได้ลองซ้ำๆ คนจะชอบเปลี่ยนไป เค้าว่างั้นนะครับ

ร้านแถวบ้านผมไม่มี pepsi แล้วครับ มีแต่ Est นี่เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี
Pepsi จะไม่มีขวดแก้วแล้วในอนาคตอันใกล้ จะมีแต่ PET เท่านั้น

zephyr เขียน:ผมว่าแปลกที่คนรู้สึกว่าจืดไป ทั้งๆที่จริงๆผู้ผลิตเพิ่มความหวานจากเดิม

ผมทานแล้ว ขวดแรก รู้สึกหวานปะแล่มๆ เหมือนรูธเบียร์หน่อยๆ
ครั้งที่สอง ก็ยังงั้นๆ
แต่ครั้งที่สามกับรู้สึกชินแล้วครับ ก็อร่อยดี

ผมมีโอกาสได้คุยผู้บริหารคนนึงที่เสริมสุขเกี่ยวกับเรื่องของรสชาติ
เค้าบอกว่าทางเสริมสุขทดลองแล้วทดลองอีกหลายรอบเกี่ยวกับรสชาติ แล้วจึงมาจบที่รสชาตินี้ครับ
การทำให้รสชาติเหมือน Pepsi เลยมันทำได้ แต่มันไม่สร้างความแตกต่าง ยังไงซะตอนนี้ distribution มันตกเป็นของ Est เห็นๆ
เค้าต้องการให้รสชาติมันแตกต่าง เค้าบอกว่า ถ้าคนได้ลองซ้ำๆ คนจะชอบเปลี่ยนไป เค้าว่างั้นนะครับ

ร้านแถวบ้านผมไม่มี pepsi แล้วครับ มีแต่ Est นี่เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี
Pepsi จะไม่มีขวดแก้วแล้วในอนาคตอันใกล้ จะมีแต่ PET เท่านั้น

ผมเห็นด้วยครับ
ผมลองดื่มครั้งแรกรู้สึกหวานน้อยกว่าโค้ก ซ่าน้อยกว่าแปปซี่ ดีกว่าบิ๊กโคล่า
แต่โดยรวมผมว่าก็โอเค ดื่มครั้งที่สองผมว่าดีขึ้นกว่าครั้งแรก อาจจะเป็นเพราะลิ้นเริ่มชินกับรสชาติ

ผมว่าถ้าหากได้ลองดื่มหลายครั้งอาจจะชินและอร่อยขึ้นก็ได้ครับ เพียงแต่ตอนนี้ถ้าผู้บริโภคอยากดื่มน้ำอัดลมยังนึกถึงแปปซี่อยู่
หลังจากผ่านไปสักสองสามเดือน ผู้บริโภคเริ่มนึกถึงแปปซี่น้อยลง อาจจะหันมาดื่มเอสแทนแล้วก็ได้ครับ
เพราะผมว่ารสชาติไม่ได้แย่ไปกว่าแปปซี่เท่าไหร่

ปล.ความเห็นและลิ้นส่วนตัวครับ

แปลกมากเลย ตรงที่การรับรสของลิ้นคนเรา ข้อมูลโภชนาการที่เป็น fact กับความเชื่อ
จาก ข้อมูลที่เป็น fact
เรียงตามลำดับความหวาน จาก น้อย ไป มาก
coke pepsi est (pepsi กับ est พอๆ กัน)
เรียงตามลำดับความเค็ม จากน้อยไปมาก
pepsi est coke

ความอร่อย อยู่ที่ใครชอบรสไหน และ เชื่ออย่างไร ซึ่งสรุปไม่ได้ครับ
ยัง งง ที่บอกว่า est เพิ่มความหวานกว่า pepsi ???

ลองดื่ม Est แล้ว ซ่าน้อยไป และไม่อร่อยเหมือน pepsi
ระหว่างนี้เลยงดน้ำอัดลม รอpepsi ดีกว่า
ผมยังเชื่อว่าอย่างไรเสีย pepsi ก็จะกลับมาได้แน่
เพราะรสชาติถูกปากคนไทยมากกว่า
ส่วนest ก็คงสู้กับบิ๊กโคล่า เพราะรสชาติแปลกๆ เหมือนกัน

จากประสบการณ์ ที่เคยอยู่โรงงานผลิตน้ำอัดลม
ในน้ำอัดลมจะมีกรดและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เมื่อผลิตใหม่ๆน้ำอัดลมจะซ่ามาก แต่หวานน้อย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปความซ่าจะลดลงเนื่องจากแก๊สจะแยกตัวออกมาจากน้ำ
แต่ความหวานจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากน้ำตาลเมื่อโดนกรดจะแตกตัว(fructose)
เท่าที่ผมลองชิม ผมว่ารสชาติและกลิ่นสู้ของเดิมหรือโค้กไม่ได้
แต่ในช่วงแรก เอสจะได้ประโยชน์จากการที่
ลูกค้าสั้งเป็ปซี่แต่ทางร้านค้าเปิดเอสมาให้ ทำไงได้เค้าเปิดมาให้แล้ว ถึงจะไม่อร่อยแต่ก็ไม่ได้แย่

รสชาดใกล้เคียงเป๊ปซี่มากมากครับ

ลองแล้วเหมือนกันครับ กินไม่แตกต่างอะไรกับ pepsi มากมาย ผมว่าผ่่าน ดีกว่าบิ้กโคล่าเยอะ
ถ้าการตลาดแจ่มๆ ซึ่งผมว่าเสริมสุขสุดยอดอยู่แล้ว ช่องทางจัดจำหน่าย น่าจะไปได้สวย

ส่วน pepsi ไปกันใหญ่ พลาดแล้วยังถลำลึกกู่ไม่กลับ ดันไปให้ dhl บริษัทส่งพัสดุจัดส่ง
ผู้บริหาร pepsi เมืองไทยน่าจะเก้าอี้ร้อนแน่นอน 1 ปี หลังจากนี้ เดินเกมผิดหมากอย่างมาก

ดูแล้วศึกครั้งนี้ pepsi เหนื่อย อาจได้เห็นกรณี pizza hut โดน pizza company ถล่มเละ แพ้ราบคาบ
Brand อาจไม่ชนะศึกทุกครั้งไป ติดตามกันต่อไปครับ อิอิ

kissme เขียน:ลองแล้วเหมือนกันครับ กินไม่แตกต่างอะไรกับ pepsi มากมาย ผมว่าผ่่าน ดีกว่าบิ้กโคล่าเยอะ
ถ้าการตลาดแจ่มๆ ซึ่งผมว่าเสริมสุขสุดยอดอยู่แล้ว ช่องทางจัดจำหน่าย น่าจะไปได้สวย

ส่วน pepsi ไปกันใหญ่ พลาดแล้วยังถลำลึกกู่ไม่กลับ ดันไปให้ dhl บริษัทส่งพัสดุจัดส่ง
ผู้บริหาร pepsi เมืองไทยน่าจะเก้าอี้ร้อนแน่นอน 1 ปี หลังจากนี้ เดินเกมผิดหมากอย่างมาก

ดูแล้วศึกครั้งนี้ pepsi เหนื่อย อาจได้เห็นกรณี pizza hut โดน pizza company ถล่มเละ แพ้ราบคาบ
Brand อาจไม่ชนะศึกทุกครั้งไป ติดตามกันต่อไปครับ อิอิ

ไม่อยากจะเมาท์เลยครับ

1. DHL เนี่ย เค้า Take Over บริษัทที่ทำทางด้าน logistics ชื่อ Exel Logistics มานานหลายปีแล้ว เค้าทำธุรกิจหลายด้านที่เกี่ยวกับด้าน logistics ครับ ไม่ใช่แค่เรื่อง courier อย่างเดียว, DHL ทำหน้าที่บริหารงานคลังสินค้าให้ pepsi co ครับ แต่อาจจะดูแลเรื่องจัดส่งด้วย โดยการ sub ให้ transporter ที่เป็น local อย่างเดียว ผมว่าประเด็นคือ distribution model ของ pepsi co ต่างหาก ซึ่งมันไม่มีทางทำแบบเสริมสุขได้ เค้าเลยต้องทำแบบอื่น คือส่งเข้า modern trade และการใช้ Agent ซึ่ง Agent เนี่ยแหละเป็นผู้กระจายเข้าร้านค้าอีกที แต่ model นี้ไม่ง่ายครับ เพราะ Agent อาจไม่เอาด้วยในระยะยาว และการเข้า Modern trade มีต้นทุนสูงพอควรทีเดียว

2. คนทำงานด้าน Supply Chain ใน Pepsi Co ที่ดูแลเรื่อง beverage ตอนนี้ไม่มีครับ เพิ่งลาออกกันเป็นแถบๆ ไล่ตั้งแต่ logistics manager, planning manager, และ supply chain manager ซึ่งปัจจุบันกำลัง recruit ใหม่หมด แล้วจะไปสู้เสริมสุขได้ยังไง

ผมรู้เพราะอดีต logistics manager ที่ pepsi co น่ะเพื่อนผม และผมก็ทำงานด้านนี้

ส่วนเสริมสุขเนี่ย back เค้าสายป่านยาวครับ ดีไม่ดีอาจเห็น est ขึ้นหน้าอกเสื้อทีมบอลในยุโรปแทนที่ Chang นะครับ อยู่ระหว่างการตกลงกันว่าจะเอาจริงหรือเปล่าเท่านั้น ผบห เค้าคุยกันแบบนี้

เม้าเยอะๆเลยครับ ผมก็เพิ่งรู้ข้อมูลดีๆจากท่านเยอะเลย ชอบๆ

ลองมาแล้วเช่นกัน ในความเห็นผม ผมว่ารสชาดไม่ได้แย่ขนาดที่ทุกคนพูดกัน แต่ก็ยอมรับว่ามันต่างกับ pepsi แบบเดิมจริงๆ สำหรับลิ้นจรเข้อย่างผม ผมว่าโอเค ดื่มแทนกันได้ครับ

เมื่อวานเจอ pepsi ขวด pet ขนาด 1 ลิตร ขายใน tops ราคา 20 บาท
ขณะที่ coke ขวด pet ขนาด 1.5 ลิตร ขาย 24 บาท
แต่ยังไม่เห็น est

คงต้องรอดูว่าหลัง est เข้า Modern trade & Convenience Store ได้แล้ว ยอดขายจะเป็นอย่างไร

ลิ้นจะเข้อย่างผม กินไปประมาณ 5 - 6 ครั้งแล้ว
ครั้งแรกรู้ว่าแปลกๆนิดหน่อยจำไม่ได้แล้ว
ตอนนี้ไม่รู้สึกแปลกๆ แล้วครับ

มาอัพเดทว่าเจอวางขายในเซเว่นแล้วครับ ขายดีทีเดียว สงสัยคนอยากจะลองของใหม่ครับ เห็นมีแต่คนถือคนละกระป๋อง 2 กระป๋อง แต่ก็มีหลายคนถือเป๊ปซี่เหมือนกัน ส่วนโค้กดูเงียบๆแช่อยู่เต็มตู้ คงต้องรอให้คนหายเห่อของใหม่กันก่อน

จากที่ได้ลองชิม est มา 2 ครั้ง ผมว่ารสชาติและกลิ่น ยังสู้ pepsi กับ coke ไม่ได้ แต่ทิ้งห่างไม่เยอะ แต่ดีกว่ีา big cola เยอะมาก คือถ้าไม่มี pepsi และ coke สามารถดื่ม est ทดแทนกันได้ครับ

เคสนี้ถือว่าเป็นการวัดกันได้เลยว่าอะไรจะมีความสำคัญมากกว่ากันในการทำธุรกิจ ระหว่าง
"ช่องทางการจัดจำหน่าย" VS "แบรนด์รอยัลตี้"