"bitkub" ยูนิคอร์น ฝันสลาย!? ย้อนรอย ก่อนดีลล่ม "SCB"
By กรุงเทพธุรกิจออนไลน์25 ส.ค. 2565 เวลา 15:00 น.
ชวนย้อนรอยฝันสู่ “ยูนิคอร์น” ของ “Bitkub“ เบอร์หนึ่งกระดานเทรดคริปโทฯไทย หลัง SCB-bitkub ประกาศ “ไม่ไปต่อ” ปิดฉากดีลยักษ์ 1.785 หมื่นล้าน
ทันทีที่ข่าว "แยกทาง" ระหว่าง SCB-bitkub เผยแพร่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 ส.ค.65 หลังจากเคยจับมือประกาศดีลยักษ์ โดยกลุ่ม SCBx ให้บริษัทลูก คือ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เข้าซื้อหุ้นใน บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโทฯ ในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด คิดเป็น มูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท
เรียกได้ว่า สั่นสะเทือนแวดวงคริปโทฯ อย่างมาก เพราะพ้นจากข่าวความง่อนแง่นของ zipmex ไม่ทันไร อีกเจ้าใหญ่อย่าง bitkub ก็เกิดข่าวใหญ่ตามมาติดๆ
ขณะที่ ราคาเหรียญkub coin ก็ร่วงตาม ราวๆ 20% ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง (ระหว่างบ่ายโมงถึงบ่ายสองโมง) ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาเล็กน้อย
สำหรับดีลยักษ์ มูลค่า 1.785 หมื่นล้านบาท ที่ประกาศออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยถึงแม้ดีลดังกล่าวที่ประกาศตอนนั้น ยังไม่ได้มีการซื้อขายจริง แต่จาก "มูลค่าหุ้น" ที่ตกลงกันไว้ ไม่ต่างจากการ "ประทับตรา" มูลค่าธุรกิจที่ 3 หมื่นล้าน สู่สถานะ "ยูนิคอร์น" ไปโดยปริยาย
ย้อนรอย "บิทคับ" ฝันสู่ "ยูนิคอร์น"
จากพฤศจิกายน 64 สู่วันนี้ เวลาก็ล่วงมาแล้ว 10 เดือนที่นักลงทุนเฝ้ารอการปิดดีล ทำการซื้อขายอย่างเป็นทางการ และที่สุดก็ถึงคำตอบสุดท้าย คือ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะ "ไม่ไปต่อ" ดังที่เป็นข่าวใหญ่วันนี้
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ชวนย้อนรอยกลับไปดูที่มาที่ไป เส้นทางของ bitkub เพื่อให้ทำความเข้าใจอย่างง่ายๆ ดังนี้
* bitkub กางแผนขาย IPO
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ท๊อป-จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เบื้องต้นอยู่ระหว่างพิจารณาการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหุ้นแนสแด็กในสหรัฐ เนื่องจากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ระดมทุนของตลาดหุ้นทั้ง 2 แห่ง ปัจจุบันบริษัทได้จ้างที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาช่วยเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
“เหตุผลที่อยากจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะเราอยากเป็นตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเมืองไทย อยากทำให้ทุกคนภูมิใจว่าคนไทยก็เก่ง เราก็สร้างบริษัทเทคโนโลยีได้ เราไม่จำเป็นต้องเป็นแค่คนใช้เทคโนโลยีเท่านั้น แต่เราจะเป็นผู้สร้างและผู้ให้บริการเทคโนโลยีด้วย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ของไทยเองก็ยังไม่มีบริษัทเทคโนโลยี ดังนั้น เราจะเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายแรกที่เข้าระดมทุน” จิรายุส กล่าวไว้ในตอนนั้น
* ประกาศดีล 1.785 หมื่นล้าน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เกิดข่าวใหญ่ กรณี SCB ประกาศเตรียมเข้าถือหุ้นใน bitkub โดยจะเป็นการเข้าลงทุนใน “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด” ซึ่งเป็นกระดานเทรดคริปโทฯ เบอร์หนึ่งของเมืองไทย ผ่านการเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท โดยมี “บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด” (SCBS) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
* ขีดเส้นตาย "เงื่อนไข" ที่นำมาสู่การ "ไม่ไปต่อ"
ในแถลงการณ์ครั้งนั้นของกลุ่ม SCBx ได้ให้รายละเอียดกำกับไว้ในการแถลงข่าวครั้งนั้นว่า การเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์
โดยมีเงื่อนไขว่า ผลการสอบทานธุรกิจ (Due Diligence) ของ Bitkub ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2565
* SCBx ประกาศชะลอซื้อ bitkub
ระหว่างที่นักลงทุนรอความชัดเจนของดีลยักษ์ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.65 "อาทิตย์ นันทวิทยา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า การเข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นใน Bitkub ดังกล่าวอยู่ภายใต้การปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และมีเงื่อนไขว่าผลการสอบทานธุรกิจของ Bitkub ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน
ทั้งนี้ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบทางธุรกิจ และระหว่างการหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยมีการ "ขยายเวลา" การเข้าทำธุรกรรมออกไปจากกำหนดการเดิม
กระทั่ง ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค.65) ก็ถึงเวลา ปิดฉากอย่างเป็นทางการ ของดีลยักษ์ 1.785 หมื่นล้านบาท
* "การสอบทานธุรกิจ" ไม่มีปัญหา แต่มีประเด็นคงค้างกับก.ล.ต.
ทั้งนี้ จากประกาศของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด วันที่ 25 สิงหาคม 2565 ที่ชี้แจงถึงการตัดสินใจดังกล่าว โดยใจความส่วนหนึ่งได้ยืนยันถึงการสอบทานธุรกิจว่า ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
โดยมีข้อความระบุว่า..
"ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และบล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) ได้ดำเนินการสอบทานธุรกิจ (due diligence) ร่วมกันอย่างรอบคอบ โดยบริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมืออย่างดีกับบล.ไทยพาณิชย์ จำกัด และได้ทำการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงถึงความสามารถในการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มีศักยภาพ และแสดงผลประกอบการอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา ตลอดจนนำเสนอแผนกลยุทธ์การดำเนินงานและพัฒนาธุรกิจในอนาคต
จากการสอบทานธุรกิจ ทางบริษัทผู้ซื้อ (SCBS) “ไม่พบข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันเป็นนัยสำคัญที่ไม่สามารถแก้ไขได้” อย่างไรก็ดี เนื่องจากบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ยังคงมีประเด็นคงค้างกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่อาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการธุรกรรมดังกล่าว
บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และบริษัทผู้ซื้อ (SCBS) จึงได้ตกลงร่วมกันที่จะระงับธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในครั้งนี้ เพื่อให้บริษัทดำเนินการหาข้อสรุปในประเด็นต่างๆ ตามคำชี้แนะและสั่งการโดยก.ล.ต.ต่อไป
* ท๊อป-จิรายุส ยืนยัน เป็นทางออกที่ดีที่สุด
โดย ท๊อป-จิรายุส ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันว่า การตัดสินใจยุติธุรกรรมซื้อขายหุ้นในครั้งนี้เป็นการตกลงร่วมกันของผู้บริหารทั้งสองฝ่าย ที่ได้พิจารณาอย่างที่ถ้วนอย่างรอบด้านและเห็นตรงกันว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้
"ผมและทีมงานตลอดจนผู้บริหารต้องขอขอบพระคุณทาง SCBS ที่ได้ให้ความสนใจในสตาร์ทอัพและแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลตลอดจนเล็งเห็นถึงศักยภาพของบิทคับ เอ็กเช้นจ์ และมีอุดมการณ์ที่จะสนับสนุนให้บริษัทของคนไทยได้เติบโตและขยายตัวไปยังประเทศอื่นๆได้ แต่ด้วยความล่าช้าของธุรกรรมจึงทำให้มีการยุติดีลในครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้กับทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าต่อไป บิทคับเป็นองค์กรที่มีอนาคตมาก ในฐานะผู้บริหารและผู้นำองค์กร ผมและทีมงานทุกคนยังคงเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันในการเป็น National Champion ใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่โลกอนาคต และเป็นศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค พวกเรายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างนวัตกรรมที่จะสร้างโอกาสให้กับทุกคนตามแนวทางที่เราเชื่อมั่นต่อไปครับ
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนมาโดยตลอดครับ
"
จากนี้ไปจึงต้องจับตาสถานะของ "bitkub" ว่า จะยังคนสานฝันสู่ "ยูนิคอร์น" ต่อไปได้อีกหรือไม่?