หน้า 33 จากทั้งหมด 89

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 20, 2009 4:46 pm
โดย b4solid
หายเร็วนะครับ เอาใจช่วยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 20, 2009 8:22 pm
โดย spooner
สุขภาพเป็นทรัพสินย์ที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ทุกคนดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

เป็นกำลังใจให้เหมือนกันครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 21, 2009 12:37 am
โดย dome@perth
ขอให้ลูกหายป่วย
ภรรยาแข็งแรงปลอดภัย
คลอดง่าย
และ ขอเป็นกำลังใจโจ
ด้วยคนครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 21, 2009 10:26 am
โดย IWILLBEVI
ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและหายเร็วๆนะครับ :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 22, 2009 1:21 am
โดย Hughes
ไม่ได้เข้ามานาน ขอให้หายไวๆนะครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 22, 2009 11:10 am
โดย ed_dy
ขอให้หายไว ๆ เหมือนกันค่ะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 23, 2009 8:41 am
โดย nanchan
ขอให้แข็งแรงทั้งลูกชาย ลูกที่อยู่ในท้อง ทั้งคุณพ่อ และแม่ นะครับ

มาแอบอ่านประจำ อิอิ เป็นกำลังใจให้นะ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 23, 2009 10:51 pm
โดย Luty97
ขอให้ปลอดโรค ปลอดภัย ทุกคนครับ

ดูแลสุขภาพกันนะครับ   :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 8:47 am
โดย sai
แวะมาขอให้ตัวเล็กแข็งแรงไวไวครับพี่

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 6:23 pm
โดย SoLid_frOg
ปกติแอบมาอ่านอย่างเดียวครับ

แต่ตอนนี้ต้องขอให้ทั้งครอบครัวพี่สุขภาพดี

ปลอดภัย แข็งแรง ตลอดเลยนะครับ. . .   :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 29, 2009 10:58 am
โดย Ning_Nong
ขอให้ครอบครับพี่และตัวพี่ แข็งแรงและปลอดภัยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 29, 2009 8:15 pm
โดย BABY TERMITE
ขอแสดงความยินดีกับลูกสาวคนใหม่ด้วย ขอให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ
ว่าแต่จะมีเพิ่มอีกหรือเปล่า ชาย 2 หญิง 2 ก็ดูดีนะครับคุณโจ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 2:53 pm
โดย ซากคน
เซ็ง....เมื่อเห็นเงินสดเต็มพอร์ต ช่วยด้วยครับ

ขอคำแนะนำในการจัดการทัศนะคติแย่ๆๆแบบนี้  ในช่วงเวลาแบบนี้ครับ  ผมหาของดีและถูก (ในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้) ไม่เจอมา 3 เดือนแล้วครับ

พอร์ตส่วนตัว

#1  เงินสดในพอร์ต                      58 %  
#2  กองทุนหุ้นต่างประเทศ           28 %
#3  กองทันอสังหา                       11 %  
#4  พันธบัตรรัฐบาลอีก                   3 %

เมื่อเดือน พค. ปีนี้ ผมได้ขายเอากำไรจาก #2 ออกไป 9 % ของพอร์ต
ประกอบกับออมเงินได้ทุกเดือน ทำให้ #1 เป็นอย่างที่เห็น   :x

ซึ่งตั้งใจว่าจะเอา #1 มาไล่เก็บพวก defensive stock บ้านเรา แต่ทว่าพวกมันได้ปรับขึ้นไป จนผมไม่กล้าไล่ซื้อ   นอกจากนี้ เงินปันผลที่ได้รับจากปีที่แล้วจากหุ้นกลุ่มนี้ ก็นำไปทบต้นไม่ทันอีก :cry:  

แล้วอย่างนี้ผมจะสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 10-15 % ติดต่อกันอย่างพี่น้องในห้องนี้ได้อย่างไรกัน

อดน้อยใจไม่ได้จริงๆครับ....

ขาดทุนทางบัญชี ยังเสียใจน้อยกว่า  งดจ่ายปันผล
งดจ่ายปันผล  ยังเสียใจน้อยกว่า  นำเงินไปทบต้นไม่ทัน  
นำเงินไปทบต้นไม่ทัน  ยังเสียใจน้อยกว่า  สร้าง passive income ไม่ได้  

ที่น่าเสียใจที่สุด คือ เราจะเป็นที่พึ่งให้พ่อแม่ที่ใกล้เกษียณได้ยังไง ถ้ากระบวนการข้างบนยังตะกุกตะกักแบบนี้        :cry:  :cry:  :cry:    

ผมยอมรับว่า circle of competence ตัวเองยังน้อย ยังไม่สามารถทำอะไรหวือหวาได้  ยังไงก็จะศึกษาหาความรู้การลงทุนเน้นคุณค่าต่อไปครับ  

ปล . ขออภัยน้องๆ พี่ๆ และผู้มีคุณูปการต่อบอร์ดนี้  ที่ผมแสดงความอ่อนแอ
ทางจิตใจออกมา  ทุกเย็นหลังเลิกงาน  คำถามเหล่านี้วนเวียนในหัวซ้ำๆๆๆ
จนผมไม่รู้จะไปถามใครดี....  

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 5:18 pm
โดย naris
เข้ามาบอกคนที่ไม่รู้ครับ ลูกสาวน้องโจคลอดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่ครับ

มีครบ3 พุทธ ธรรม สงฆ์ แล้วนะครับ

ปล.มีลูกสาว เดี๋ยวจะรู้สึก..อิอิ.

ส่วนรู้อะไร เดี๋ยวให้พ่อคนอื่นที่มีลูกสาวมาตอบแล้วกันครับ :P

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 5:41 pm
โดย por_jai
:8) นริศว่ามีลูกสาวแล้วจะรู้สึก
      รู้สึกดีหรือเปล่าครับ

      ดีใจกับโจด้วยครับ
      จะหัดไว้หนวดก็ติดต่อผู้ชำนาญอย่างพี่ฉัตรได้เลยครับ    

รูปภาพ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 7:19 pm
โดย oatty
ดีใจด้วยครับที่ได้ลูกสาว... :cheers:  :cheers:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 8:51 pm
โดย yoyo
ลูก 3 แล้วยินดีกับพี่โจด้วยครับ...
พี่นริศน้อยหน้าได้ไง อย่าให้แพ้พี่โจเค้าซิ  :lol:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 9:23 pm
โดย Linzhi
แสดงความยินดีด้วยครับ  :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 01, 2009 10:43 am
โดย montkrua
ยินดีด้วยครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ส.ค. 01, 2009 4:52 pm
โดย naris
[quote="por_jai"]:8) นริศว่ามีลูกสาวแล้วจะรู้สึก

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 3:35 am
โดย eskimo
ยินดีด้วยครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 6:23 am
โดย hagrid
ขอแสดงความยินดีกับคุณลูกอีสานครับ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 02, 2009 6:40 pm
โดย IWILLBEVI
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ผมเห็นแล้วยังอิจฉาเลบ ได้ลูกสาวมาคอยห่วงใยดูแลเรา

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 03, 2009 11:24 am
โดย slowseaa
เเสดงความยินดีด้วยครับ  :D

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 03, 2009 7:49 pm
โดย earthcu
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ พี่ลูกอีสาน
:wink:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 04, 2009 11:31 am
โดย naris
[quote="yoyo"]ลูก 3 แล้วยินดีกับพี่โจด้วยครับ...
พี่นริศน้อยหน้าได้ไง อย่าให้แพ้พี่โจเค้าซิ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 04, 2009 12:05 pm
โดย BABY TERMITE
[quote="naris"][quote="yoyo"]ลูก 3 แล้วยินดีกับพี่โจด้วยครับ...
พี่นริศน้อยหน้าได้ไง อย่าให้แพ้พี่โจเค้าซิ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 04, 2009 9:36 pm
โดย yoyo
[quote="naris"][quote="yoyo"]ลูก 3 แล้วยินดีกับพี่โจด้วยครับ...
พี่นริศน้อยหน้าได้ไง อย่าให้แพ้พี่โจเค้าซิ

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 04, 2009 9:57 pm
โดย ลูกอิสาน
ขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ทุกท่านที่ถามไถ่กันมาครับ
ช่วงก่อนหน้านี้ต้องเอางานหลวงไว้ก่อน
อย่างที่เคยเล่าลูกคนโตเพิ่งออกจากโรงพยาบาล
ต่อมาก็ลูกสาวคลอด ต่อมาคนโตไม่สบายอีก
แต่ตอนนี้ทุกคนหายดีหมดแล้วครับ ลูกคนเล็กก็แข็งแรงดี

ยืนยัน นอนยัน นั่งยัน ชีวิตคนเราจะทุกข์สุดๆก็ลูกนี่ละครับ แต่สุขสุดๆก็จากลูกเช่นกัน เวลาได้กอดลูกๆพร้อมกันทุกคนสุขเหนือคำบรรยายครับ :)  อิจฉาพี่ป้อม พี่ฉัตร พี่นริศ ลูกโตๆกันหมดแล้ว ผมคงต้องสู้ชีวิตอีกสักพักใหญ่ๆ :evil:

ขอถามคุณลูกอีสาน เรื่องเทคนิคการปรับพอร์ตครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 04, 2009 10:13 pm
โดย ลูกอิสาน
Laziale เขียน:รบกวนถามความเห็นจากพี่โจครับ ว่า IT กับ SE-ED ณ ตอนนี้ ความน่าลงทุนต่างกันแค่ไหนครับ
สำหรับผมจัดให้เป็นหุ้นปันผลทั้งคู่ และความเห็นของผมคือ
ข้อดีของ SE-ED คือ ยังคงประคองกำไรในระดับเดิมได้ (คิดเองครับ) ปันผลค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ราคาขึ้นมาเยอะพอสมควร (ไม่แน่ใจว่าแพงไปหรือยัง เพราะขึ้นแบบไม่พักเลย จาก 5.3 มา 7 บาทก่าๆแล้วสำหรับหุ้นปันผลตัวนี้)

ส่วน IT นั้นข้อเสียคือกำไรในปีนี้ลดลงค่อนข้างมาก (โดยเฉพาะ Q1 ที่หายไปครึ่งหนี่ง) แต่ข้อดีคือราคาที่ค่อนข้างจะติดดินและเดินเล่นอยู่ในระดับ 3 บาทปลายๆถึง 4 บาทนิดๆมานานแล้ว (ภาวนาให้ตลาดทุบจนพอแล้ว) และปีก่อนปันผล 100% ส่วนปีนี้เข้าใจว่าอาจจ่ายปันผลทุกไตรมาสด้วย เพราะจ่ายปันผล Q1 ด้วยทันที (ไม่รู้ว่าปลอบใจสำหรับกำไรที่ฮวบฮาบหรือป่าว)

รบกวนพี่โจช่วยชั่งน้ำหนักให้ด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ :D
ขอคอมเมนต์เป็นประเด็นๆนะครับ

1.รูปแบบธุรกิจเป็นค้าปลีกเหมือนกัน กิจการขายเป็นเงินสดส่วนใหญ่ ในขณะที่ซื้อสินค้าด้วยเงินเชื่อ ทำให้ยิ่งขายกระแสเงินสดยิ่งเพิ่ม ความต้องการเงินทุนหมุนเวียนส่วนใหญ่คือการสต็อคสินค้า ดังนั้นกิจการแบบนี้สามารถขยายตัวได้โดยไม่ค่อยมีปัญหาเงินทุนหมุนเวียนครับ

2.ความแข็งแกร่งของงบดุล se-ed จะมีหนี้สิน/ทุนสูงกว่า it ค่อนข้างมาก แม้ทั้งสองบริษัทมีเงินสดเท่าๆกันที่ 600 ล้าน แต่เงินสดของ se-ed มีภาระต้องนำไปจ่ายหนี้สินหมุนเวียน ในขณะที่ it มีภาระหนี้สินหมุนเวียนน้อยกว่ามาก  ดังนั้นจะเป็นเงินสดที่มีสามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะจ่ายปันผลหรือการขยายสาขาใหม่ๆ

3.การเติบโตของยอดขาย ทั้งสองบริษัทยังมีการเติบโตของยอดขายทั้งจากสาขาเดิมและการขยายสาขาใหม่ แต่เติบโตด้วยอัตราที่ลดลง ในขณะที่อัตราการทำกำไรทั้งคู่กลับมีแนวโน้มลดลง ดังนั้นแม้ยอดขายเพิ่ม แต่กำไรเพิ่มในอัตราน้อยกว่า ตัวเลขนี้อาจแสดงว่าบริษัทประสบปัญหาการแข่งขันพอสมควร

4.ตำแหน่งทางการตลาด ในตลาดหนังสือมีผู้เล่นน้อยราย นอกจาก se-ed แล้วมีคู่แข่งระดับเดียวกันอีก 1-2 รายเท่านั้น แสดงว่าธุรกิจนี้ผ่านการคัดเลือกจนเหลือแต่ผู้รอดตาย ในขณะที่การขายสินค้า it น่าจะยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ยังมีผู้ค้ารายย่อยมากมาย แต่ก็เริ่มมีรายใหญ่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าแนวโน้มอีกไม่นานผู้ค้ารายเล็กจะค่อยๆหายไป เหลือแต่ผู้ค้ารายใหญ่ๆมาแทนครับ  ถ้าเป็นอย่างนี้ it น่าจะได้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากการลดลงของผู้ค้ารายย่อย ถ้ายังเป็นเหมือนปัจจุบัน ก็คงเหนื่อย ซื้อหนังสือเรานึกถึงร้านค้าแค่ 1-2 แบรนด์ แต่สินค้า it เราแยกแทบไม่ออกว่าแต่ละร้านเหมือนหรือต่างกันอย่างไร มีทั้งผู้ค้ารายใหญ่ รายเล็ก และยังมีเจ้าของแบรนด์สินค้ามาเปิด shop ขายสินค้าเองด้วย

5.ความผันผวนของผลกำไร  แม้ทั้งคู่เป็นธุรกิจค้าปลีกแต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ส่งผลต่อผลกำไรต่างกันไปครับ กรณี se-ed การมีปกหนังสือที่ขายดี หรือหนังสือขายดีที่พิมพ์โดยซีเอ็ดเอง การขายสินค้าอื่นๆที่ไม่ใช่หนังสือและได้รับความนิยมในขณะนั้น การสำรองด้อยค่าสินค้า ปริมาณการทำลายหนังสือ หรือผลกำไร-ขาดทุนของบริษัทร่วม เหล่านี้มีผลต่อกำไรทั้งสิ้นครับ ในขณะที่สินค้า it ดูจะมีความผันผวนน้อยกว่า แต่จะแปรผันตามภาวะเศรษกิจ คือขึ้นอยู่กับความมั่นใจของผู้บริโภค สินค้าไอทีค่อนข้างคงทน ดังนั้นสามารถตัดสินใจยืดการซื้อได้ หากรู้สึกว่ารายได้ไม่มั่นคงครับ

6.วิถีชีวิตยุคใหม่  ดูเหมือนจะสร้างความได้เปรียบให้กับ it มากกว่า se-ed เพราะขายสินค้าไฮเทคที่เข้ากับชีวิตของผู้คนยุคใหม่ ในขณะที่การอ่านหนังสือดูเหมือนได้รับกระทบจากการมาถึงของยุคอินเตอร์เนต เดี๋ยวนี้ยอดขายหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ซึ่งดึงดูดให้คนเข้าร้านขายหนังสือลดลงมาก เพราะสามารถหาอ่านได้ฟรีในอินเตอร์เนต หรือเรื่องราวทั่วไปเราอยากรู้เรื่องอะไร ไม่ต้องหาหนังสืออ่าน แค่เสิรจจากอินเตอร์เน็ตก็ได้ข้อมูลแล้ว จะเสียเวลาไปร้านหนังสือทำไม ภรรยาผมบอกว่าเดี๋ยวนี้นักศึกษามหาลัยใช้ห้องสมุดไม่เป็นแล้ว เพราะต้องการ paper หาข้อมูลเรื่องอะไรก็เสริจจากฐานข้อมูลในอินเตอร์เน็ตได้ครับ  ส่วนประเด็นการคาดหวังว่าคนไทยจะอ่านหนังสือมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อร้านขายหนังสือ ผมคิดว่าเป็นความหวังลมๆแล้งๆ ถ้าจำไม่ผิดมีการทำวิจัยและพบผลที่น่าตกใจว่าคนไทยโดยเฉลี่ยอ่านหนังสือ(คงไม่ได้หมายถึงหนังสือพิมพ์ นิตยสาร)แค่ปีละ 7 บรรทัด :shock:  เป็นผลที่หลายคนไม่เชื่อ แต่ผมคิดว่าน่าจะจริง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวบ้านทั่วไปหรือคนเมืองที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ปากกัดตีนถึบ ลำพังการทำมาหากิน เลี้ยงลูก ในแต่ละวันๆก็หมดเวลาแล้ว ไม่มีเวลามาคิดเรื่องอ่านหนังสือหาความรู้ครับ และที่จริงการอ่านก็เหมือนวัฒนธรรมด้วย เคยได้ยินว่าการเปลี่ยนวัฒนธรรมต้องใช้เวลา 50-100 ปี :roll:

ชั่งใจดูครับว่าคุณ Laziale ชอบแบบไหน :D