<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 1

โพสต์

:lol: :lol: :lol: :lol:

เขาบอกว่า

1. ผมมองหาธุรกิจที่แม้แต่คนโง่ๆ ก็สามารถบริหารงานให้มีกำไรได้

2.ผู้บริหารที่เก่งๆ แต่ไปอยู่ในอุตสาหกรรมที่แย่ๆ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือชื่อเท่านั้นเอง

ข้อ 1. ผมเข้าใจได้ ข้อ 2 ไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจถูกใหม ช่วยผมหน่อยครับ งงๆอยู่

:lol: :lol: :lol: :lol:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

Re: << อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 2

โพสต์

สามัญชน เขียน::lol: :lol: :lol: :lol:

เขาบอกว่า

1. ผมมองหาธุรกิจที่แม้แต่คนโง่ๆ ก็สามารถบริหารงานให้มีกำไรได้

2.ผู้บริหารที่เก่งๆ แต่ไปอยู่ในอุตสาหกรรมที่แย่ๆ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือชื่อเท่านั้นเอง

ข้อ 1. ผมเข้าใจได้ ข้อ 2 ไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจถูกใหม ช่วยผมหน่อยครับ งงๆอยู่

:lol: :lol: :lol: :lol:
ทั้งสองข้อสัมพันธ์กันรึเปล่าครับพี่ :D

สำคัญที่สุดของนักลงทุนคือ การเลือกอุตสาหกรรม (ที่มีความสามารถในการแข่งขัน) ส่วนปัจจัยอื่นๆเป็นข้อรอง

ข้อแรกก็เลยกลายเป็นว่าอุตสาหกรรมที่ดี แม้แต่ผู้บริหารบื้อๆก็ยังบริหารให้ได้กำไรได้ และข้อสอง แต่อุตสาหกรรมที่แย่ ผู้บริหารที่เก่งอย่างไร ก็บริหารให้ได้ดีไม่ได้
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่มีประสบการณ์เจอผู้บริหารเก่งๆ มาบริหารธุรกิจแย่ๆครับ
เล่าให้ฟังก็แล้วกัน ไม่รู้จะตรงกับที่ท่านสามัญชนตั้งใจหรือเปล่า

มีบริษัทหนึ่งสนใจในงานวิจัยของ lab อันหนึ่ง คิดว่าสินค้ามันจะไปได้ดี
lab ก็ให้ความหวังไว้หรูมาก บริษัทก็วาดฝันสวยงาม ผู้บริหารเองก็มือต้นๆของธุรกิจนี้ในเมืองไทย ... ลงทุนจ้างพนักงาน ทำการตลาด การออกแบบ การผลิต ฯลฯ
ลงทุนสร้างโรงงาน เตรียมการผลิตใหญ่โต

แต่พอเอาเข้าจริง lab ที่ว่าทำต้นแบบทำงานให้ดีอย่างที่ต้องการยังไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงการผลิตขาย เอาต้นแบบไปลอง ก็เจ๊งไม่เป็นท่าซะแล้ว ...บริษัทก็ดีที่กลับตัวทัน หันไปหาสินค้าที่ผลิตและขายแล้วในต่างประเทศเข้ามาทำ copy & development เอาตัวรอดไปได้แบบลากเลือด แต่ก็ซํงกะตาย อยู่ไปแบบหงอยๆ
ยอดขายเท่าไหร่ไม่กล้าเดา

บริษัทอะไรน้า...คงเดาไม่ถูกหรอก เพราะเรื่องแบบนี้ เมืองไทยมีมากกว่า 1 เรื่อง ฮ่าๆๆๆ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 4

โพสต์

สองข้อรวมกัน แปลได้ว่า

ศักยภาพของบริษัทในการทำกำไร สำคัญกว่าความสามารถของผู้บริหาร


ในความคิดของบัฟเฟตต์นะครับ :)

ผมขอเห็นด้วยแค่ครึ่งเดียว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 1

Re: << อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 5

โพสต์

สามัญชน เขียน::lol: :lol: :lol: :lol:

เขาบอกว่า

1. ผมมองหาธุรกิจที่แม้แต่คนโง่ๆ ก็สามารถบริหารงานให้มีกำไรได้

2.ผู้บริหารที่เก่งๆ แต่ไปอยู่ในอุตสาหกรรมที่แย่ๆ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือชื่อเท่านั้นเอง


:lol: :lol: :lol: :lol:
ข้อ 1.ต้องเป็นธุรกิจตัวแทนจำหน่าย หรือมีสัมปทานเก็บค่าลิขสิทธิ์(ที่เมืองไทย)

ข้อ 2.ธุรกิจที่มีคู่แข่ง อ่อนไหวกับค่าเงิน เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย อื่นๆ
ผู้บริหารเก่งๆ ตกม้าตาย

ผมก็งง ไม่รู้ว่า2ข้อนี้เป็นผลดีอย่างไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 0

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 6

โพสต์

แล้วพี่ CK เห็นว่าอะไรคือที่ถูกต้องอีกครึ่งนึงล่ะครับ

ถ้าผมลองให้เกรดดู อาจจะเป็นอย่างนี้นะครับ

เกรด A ผู้บริหารดีเยี่ยม ธุรกิจมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าดีสุดๆ(starที่ใกล้peak หรือ cash cow ช่วงต้น)

เกรด B+ ผู้บริหารดี ธุรกิจมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าดีสุดๆ(starที่ใกล้peak หรือ cash cow ช่วงต้น)

เกรด B ผู้บริหารดีเยี่ยม ธุรกิจมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าดีมาต่อเนื่องแต่ยังไม่ยาวนานนัก และมีความเสี่ยงในอนาคตบ้างเหมือนกัน(starช่วงต้นหรือกลาง)

เกรด C+ ผู้บริหารดี ธุรกิจมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าดีมาต่อเนื่องแต่ยังไม่ยาวนานนัก และมีความเสี่ยงในอนาคตบ้างเหมือนกัน(starช่วงต้นหรือกลาง)

เกรด C ผู้บริหารดีกว่าเฉลี่ยพอสมควร ธุรกิจมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่มองแล้วค่อนข้างจะนิ่งๆแต่คงพอไปได้เรื่อยๆและลดลงในระยะยาว 5ปีขึ้นไป(Cash Cow ช่วงปลายๆหรือกำลังเข้าสู่ Mature Phase )

นอกจากนั้นผมว่าให้ตกไปเลยจะเว่อร์ไปไหมครับ และเรื่องผู้บริหารก็ขอเน้นซื่อสัตย์มากๆ+ผลงานในอดีตก็ดูดี ไม่รู้ว่าพี่ๆจะเห็นว่าที่ให้เกรดมาสมเหตุสมผลไหม รบกวนวิจารณ์และแนะนำเต็มที่เลยนะครับ
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมว่าท่าน CK พูดถึงผู้บริหารคนหนึ่งในบริษัทวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งย่านบางซื่อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 0

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ใบ้ซะชัดเจนเลยนะครับ ธุรกิจที่ว่านั้นแข็งแกร่งด้วยบุคคลากร ภายในด้วยนี่ครับ แต่เรื่องอื่นๆผู้ไม่ทราบเลยแฮะ พี่ Ck จะช่วยชี้แจงประเด็นต่อซะหน่อยไหมครับ
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
Invisible hand
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 358
ผู้ติดตาม: 1

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 9

โพสต์

1. ผมมองหาธุรกิจที่แม้แต่คนโง่ๆ ก็สามารถบริหารงานให้มีกำไรได้
ส่วนใหญ่ธุรกิจในอเมริกาจะเป็น 2nd หรือ 3rd generation แล้ว ดังนั้นหากธุรกิจไหนที่การบริหารที่ผ่านมาได้สร้าง brand ที่แข็งแกร่งไว้แล้ว ธุรกิจก็จะไปต่อได้เรื่อยๆ แม้ผู้บริหารรุ่นหลังๆ จะไม่เก่งเท่ารุ่นแรกๆ

ก็เห็นด้วยระดับหนึ่งครับ ถ้าธุรกิจดีแต่ผู้บริหารไม่เก่งก็น่าจะยัง ok ผมกลัวผู้บริหารเก่งแต่จริยธรรม ( integrity ) ไม่ดีมากกว่าครับ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมกลัวผู้บริหารเก่งแต่จริยธรรม ( integrity ) ไม่ดีมากกว่าครับ
:D เห็นด้วยครับพ้ม :D
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0

Re: << อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 11

โพสต์

สามัญชน เขียน::lol: :lol: :lol: :lol:

เขาบอกว่า

1. ผมมองหาธุรกิจที่แม้แต่คนโง่ๆ ก็สามารถบริหารงานให้มีกำไรได้

2.ผู้บริหารที่เก่งๆ แต่ไปอยู่ในอุตสาหกรรมที่แย่ๆ สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือชื่อเท่านั้นเอง

ข้อ 1. ผมเข้าใจได้ ข้อ 2 ไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจถูกใหม ช่วยผมหน่อยครับ งงๆอยู่

:lol: :lol: :lol: :lol:
ตัวบัฟเฟตต์เองผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานมาก และประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมาสอนให้เขาเข้าใจปรัชญาที่กล่าวข้างต้นเป็นอย่างดี

อย่างข้อที่ 1. เท่าที่ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับบัฟเฟตต์ จำได้ว่าเขาเปรียบเทียบ โดยยกเอาบริษัท โคคา-โคล่า เป็นต้นแบบ นั่นคือ ตัวสินค้าของบริษัทขายตัวมันเอง อาศัยผู้บริหารพอรู้งูๆปลาๆ ไม่ต้องเก่งมากมายนักเข้ามาบริหารก็ทำกำไรแบบเบิร์ดๆ สบายๆ เพราะสินค้ามีเอกลักษณ์เฉพาะที่คนนิยมชมชอบดื่มกินมานานแสนนาน แม้แต่ตัวเขาเองก็ติดงอมแงมกินโค๊กแทนน้ำไปเลย ( แต่ปัจจุบันเทรนด์เรื่องสุขภาพมาแรง จะส่งผลกระทบหรือไม่ ผมไม่ทราบ? )

สำหรับข้อ 2. เขายกเอาตัวอย่างของ เบิร์กชัวร์ แฮทธเวย์ ที่เขาซื้อได้มาในราคาแสนถูกมากเทียบกับมูลค่าของบริษัทที่ประเมินตามแนวของ เบนจามิน เกรแฮม เป็นต้นแบบ แต่อนิจจาอุตสาหกรรมทอผ้าของอเมริกาในตอนนั้นหมดยุคไปเสียแล้ว โดยถูกสินค้าจากเอเซียเข้าแข่งขันตัดราคาถูกกว่า เพราะค่าแรงงานในเอเซียถูกกว่ามาก เขากับ ชาลี มังเกอร์ พยายามปรับปรุงแก้ไขบริษัททอผ้าดังกล่าวให้อยู่รอด โดยพยายามปรับปรุงทั้งเรื่องเครื่องจักรชนิดที่มีประสิทธิภาพดี (แต่ปรากฎช่วยให้บริษัทผลิตเครื่องจักรรวยอย่างเดียว) ทั้งยังสรรหาผู้บริหารหัวกะทิ คนไหนที่คนเขาบอกว่าเก่งก็จ้างให้เข้ามาแก้สถานะการ์ณที่ย่ำแย่ของบริษัท เบิร์กชัวร์ แฮทธเวย์ แต่ในที่สุดก็ไปไม่รอดต้องปิดกิจการโรงงานทอผ้าไปในที่สุด เหลือไว้เพียงชื่อให้เป็นอนุสรณ์สอนใจเขาถึงปัจจุบันนี่แหละ
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 12

โพสต์

:lol: :lol: :lol: :lol:

ขอบคุณอย่างสูงสำหรับทุกความเห็นครับ ทำให้ผมหูตาสว่างมากขึ้นทีเดียว

เดิมทีผมเชื่อมั่นและศรัทธาในมนุษยชาติมาก ทำให้ค่อนข้างจะทำใจลำบากที่จะเชื่อว่า ข้อ. 2 เป็นจริง

แต่จากประสบการณ์ที่เพื่อนๆเจอมา และประสบการณ์ที่ยาวนานของบัฟเฟตต์ และจากข้อเท้จจริงที่พบเห้นได้ทุกๆวัน ผมคงต้องเชื่อแล้วหละครับ

และก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องหนึ่ง

ผู้บริหารบริษัทน่าจะเปรียบเสมือนจ็อกกี้ ส่วนบริษัทน่าจะเปรียบเสมือน ม้า ถ้าจ็อกกี้เก่งเจอม้าพันธ์ดี ก็วิ่งฉิวแน่นอน ถึงจ็อกกี้ไม่เก่งแต่เจอม้าดีๆก็ยังน่าจะวิ่งได้ดีพอสมควรนะ

แต่ถ้าไปขี่ลา ขี่ช้าง ขี่เต่า ต่อให้เป็นจ็อกกี้มือโปร มันก็คงจะวิ่งได้ ( ทำกำไรได้ ) ไม่เท่าไหร่มังครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 13

โพสต์

:lol: :lol: :lol: :lol:

นึกถึงอีกเรื่องครับ เป็นเพลงสมัยผมยังเด็กอยู่

นาดีๆ ควรใช้ข้าวโพดพันธ์ดี ข้าวโพดไม่ดีก็ทำให้เสียที่นา

เก็บเกี่ยวไปขาย ไม่ได้ราคา เสียเวล่ำเวลา เสียที่นาดีๆ


ถ้าเปรียบผู้บริหารเป็นข้าวโพด อุตสาหกรรมเป็นที่นา
เพลงนี้ก็บอกว่า ผู้บริหารแย่ๆมาอยู่ในอุตสาหกรรมที่ดีเป็นเรื่องน่าเสียดาย
คงจะทำกำไรให้สุดยอดไม่ได้ ( เก็บเกี่ยวไปขาย ไม่ได้ราคา แต่ก็ยังได้สตังค์บ้าง )

ตรงข้ามกับเอาข้าวโพดพันธ์ดีๆ ไปปลูกในที่แล้งๆหรือทะเลทราย สิ่งทีเหลือก็คงจะเป็น " ชื่อ " มั้งครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ch_army
Verified User
โพสต์: 1352
ผู้ติดตาม: 0

<< อีกมุมมองหนึ่ง จาก บัฟเฟตต์ >>

โพสต์ที่ 14

โพสต์

สามัญชน เขียน::lol: :lol: :lol: :lol:

ขอบคุณอย่างสูงสำหรับทุกความเห็นครับ ทำให้ผมหูตาสว่างมากขึ้นทีเดียว

เดิมทีผมเชื่อมั่นและศรัทธาในมนุษยชาติมาก ทำให้ค่อนข้างจะทำใจลำบากที่จะเชื่อว่า ข้อ. 2 เป็นจริง

แต่จากประสบการณ์ที่เพื่อนๆเจอมา และประสบการณ์ที่ยาวนานของบัฟเฟตต์ และจากข้อเท้จจริงที่พบเห้นได้ทุกๆวัน ผมคงต้องเชื่อแล้วหละครับ

และก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องหนึ่ง

ผู้บริหารบริษัทน่าจะเปรียบเสมือนจ็อกกี้ ส่วนบริษัทน่าจะเปรียบเสมือน ม้า ถ้าจ็อกกี้เก่งเจอม้าพันธ์ดี ก็วิ่งฉิวแน่นอน ถึงจ็อกกี้ไม่เก่งแต่เจอม้าดีๆก็ยังน่าจะวิ่งได้ดีพอสมควรนะ

แต่ถ้าไปขี่ลา ขี่ช้าง ขี่เต่า ต่อให้เป็นจ็อกกี้มือโปร มันก็คงจะวิ่งได้ ( ทำกำไรได้ ) ไม่เท่าไหร่มังครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:
เปรียบเทียบดีมากๆครับ ชอบจริงๆเลย ขอเสริมนิดนึงว่า จ็อกกี้คงต้องฝึกม้าให้วิ่งเก่งด้วยมั้งครับ คลุกคลี และเข้าขากัน จึงจะนับว่ายอด
มีทั้งบทบาทผู้ขี่และผู้ดูแล ฝูกฝัก
http://inspirationword.blogspot.com

-กำลังใจ มีอยู่ในตัวคุณ-
-พัฒนาทัศนคติ สู่ชีวิตแห่งชัยชนะ-
ล็อคหัวข้อ