หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 21, 2005 4:30 pm
โดย สุมาอี้
บริษัท ก จ้างผู้รับเหมาสร้างอาคารสำนักงานของตัวเอง จ่ายเงินเป็นงวดๆ ตาม progress ของงาน ถ้าตอนนี้อาคารกำลังสร้างอยู่ใช้งานไม่ได้ และจ่ายเงินไปแล้วบางงวด ยังเหลืออีกที่ยังไม่ได้จ่าย

คำถาม
1.ในงบดุลตอนนี้ด้านสินทรัพย์จะมีอาคารกำลังก่อสร้างอยู่เท่ากับทั้งตึก หรือแค่ที่จ่ายไปแล้ว หรือว่าไม่มีเลย

2.ด้านหนี้สิน งวดที่ยังไม่จ่ายจะมีลงเป็นเจ้าหนี้การค้าหรือไม่

3.ถ้าตึกสร้างนานเกิน 1 ปี และยังไม่เสร็จ จะตัดค่าเสื่อมเลยหรือว่าจะรอจนเสร็จก่อนแล้วค่อยเริ่มตัด

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 21, 2005 8:16 pm
โดย chatchai
1. เงินสดก็จะลดลง สินทรัพย์ถาวรก็จะเพิ่มขึ้น

2. ด้านหนี้สินจะยังไม่เกิด หรือถ้าจะมีก็มีแต่จำนวนเงินของงวดที่ครบกำหนดชำระ

3. จะยังไม่ตัดค่าเสื่อม จนกว่าจะเริ่มใช้งาน

แถมด้วยว่าถ้ามีการกู้ยืมเงินมาก่อสร้าง จำนวนดอกเบี้ยจ่ายจะถือว่าเป็ฯส่วนหนึ่งของทรัพย์สิน ไม่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายด้วยครับ

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 22, 2005 5:55 am
โดย สุมาอี้
ถามอีกนิดครับ

ถ้าอาคารที่สร้างขึ้นแทบไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลย กู้แบงก์เกือบหมดและเอาอาคารที่สร้างขึ้นนี้เป็นหลักประกัน อาคารสร้างเสร็จแล้วแต่ก็ยังต้องผ่อนแบงก์อีกหลายสิบปี แบบนี้อาคารทั้งหลังจะอยู่ในงบดุลด้านสินทรัพย์ตั้งแต่เมื่อก่อสร้างเสร็จเลยหรือเปล่า

ขอบคุณนะครับ

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 22, 2005 6:43 am
โดย TOMOKI
ขออธิบายเพิ่มเติมจากคุณchatchai อีกสักนิดครับ


อาคารหลังนี้จะลงบัญชีในหัวข้อ

construction in progress

ซึ่งแสดงรวมอยู่ในหมวด

fixed assets (สินทรัพย์ถาวร)


แล้วถ้าอาคารหลังนี้เสร็จเมื่อไหร

ก็โอนจาก construction in progress

หรืออาคารระหว่างก่อสร้าง

มาที่บัญชีอาคารครับ

และจะเริ่มตัดบัญชีค่าเสื่อมราคา

ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายทันทีที่โอนมาเป็นอาคารครับ


ดอกเบี้ยจ่ายก็อย่างที่คุณ chatchai บอกครับ

ถือเป็นต้นทุนของอาคารด้วยครับ

พูดอย่างง่ายๆเลยคือ ค่าใช้จ่ายแทบทุกอย่าง

ที่ทำให้เกิดอาคารนี้ขึ้นมา

(เช่นค่าที่ปรึกษาสร้างอาคาร ภาษีซื้อที่ขอคืนไม่ได้

ค่าจดทะเบียนอาคารต่างๆ และอื่นๆ)

ถือเป็นต้นทุนของอาคารครับ



สรุปว่า กรณีนี้ถ้ายังสร้างไม่เสร็จ

จะกระทบในงบดุลครับ ไม่กระทบงบกำไรขาดทุน

เพราะจะไม่มีทั้งค่าเสื่อมราคา และค่าเสื่อมราคาสะสมครับ




.

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 22, 2005 7:16 am
โดย TOMOKI
เรื่องดอกเบี้ยการกู้ยืมอาจซับซ้อนสักนิด

ถ้าเป็นกรณีที่กู้เงินมาจำนวนหนึ่งเพื่อสร้างอาคาร

และที่เหลือเอาไว้ใช้ในการดำเนินงานด้วย

ดอกเบี้ยของเงินกู้ยืมสำหรับใช้ในการดำเนินงาน

ต้องแยกออกมาต่างหากครับ

ห้ามไปเหมารวมอยู่ในต้นทุนอาคารนะครับ




.

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 22, 2005 8:00 pm
โดย chatchai
ผมเคยพบงบการเงินของบางบริษัท

มีการกุ้ยืมเงินมาซื้อที่ดินเพื่อที่จะสร้างโรงแรม แต่เศรษฐกิจไม่ดี จึงไม่มีการก่อสร้าง ดอกเบี้ยจ่ายก็บวกเข้าไปในสินทรัพย์ถาวรทุกปี ในงบกำไรขาดทุนก็ไม่มีดอกเบี้ยจ่าย เป็นสิบปีเลยครับ เยี่ยมไหมครับ ซึ่งถ้าคิดตามหลักจริงๆแล้ว ส่วนผุ้ถือหุ้นติดลบไปนานแล้วครับ

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 7:33 am
โดย TOMOKI

ผมเคยพบงบการเงินของบางบริษัท

มีการกุ้ยืมเงินมาซื้อที่ดินเพื่อที่จะสร้างโรงแรม แต่เศรษฐกิจไม่ดี จึงไม่มีการก่อสร้าง ดอกเบี้ยจ่ายก็บวกเข้าไปในสินทรัพย์ถาวรทุกปี ในงบกำไรขาดทุนก็ไม่มีดอกเบี้ยจ่าย เป็นสิบปีเลยครับ เยี่ยมไหมครับ ซึ่งถ้าคิดตามหลักจริงๆแล้ว ส่วนผุ้ถือหุ้นติดลบไปนานแล้วครับ


ผมไม่แน่ใจว่าที่คุณ chatchai พบมาในกรณีนั้นมันนานแค่ไหนแล้วครับ

เรื่องนี้เมื่อก่อนมีปัญหากันพอสมควรครับ

เลยมีการออกมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 33 (ใช้แทนฉบับที่ 15)

เรื่องต้นทุนการกู้ยืม ซึ่งมีผลบังคับใช้ในรอบระยะเวลาบัญชีหลังวันที่ 1 มกราคม 2542

ซึ่งกรณีนี้ผมว่าน่าผิดหลักการบัญชีนะครับ (ผมคิดเอาเองนะครับ อาจจะผิดก็ได้ครับ)




.

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 10:52 am
โดย chatchai
เป็นบริษัทนอกตลาดนะครับ แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็มีหลายบริษัทที่จดทะเบียนในตลาด เพียงแต่ว่าผู้ตรวจสอบบัญชีผ่านมาได้อย่างไร

ในสมัยที่ทำงานสินเชื่อมาก่อน เพื่อนๆรู้ไหมผมเคยวิเคราะห์สินเชื่อของลูกค้า เคยพบว่าบริษัทที่มีหนี้เงินกู้ระยะยาวกับธนาคารเป็นร้อยล้าน แต่ในงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชีมาแล้ว กับไม่มีหนี้เงินกู้เลย แปลกไหมละครับ มาตรฐานผู้ตรวจสอบบัญชีไทย

ไม่นับประเภทที่มีช่องในการลงบัญชีที่แตกต่างกัน หลายบริษัทในตลาด กระแสเงินสดจากการดำเนินงานในงบกระแสเงินสดก็รวมรายการเงินกู้ยืมระยะสั้น เงินลงทุนระยะสั้น งบโฆษณาก็ลงบันทึกเป็นสินทรัพย์ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 11:04 am
โดย samuri_VIII
I agreed with K.Chatchai khab


:lol:


หนี้เงินกู้ระยะยาวกับธนาคารเป็นร้อยล้าน กับไม่มีหนี้เงินกู้เลย


I guess audit fee 5,000 - 10,000 B khab. Accounting fee about 2000B/Month :lol:

Bad excuse for auditor...


As long as Thai government can not solve this problem, we still developing F/S and stock market khab...


Good government with lowest cost.... :twisted:

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 11:28 am
โดย chatchai
การลงบัญชีผิดๆเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

แม้แต่ในธนาคาร งบการเงินที่ใช้หลบภาษีก็เป็นที่ยอมรับได้ในการขอสินเชื่อครับ

โฆษณาของกรมสรรพากร เรื่องความภูมิใจในการเสียภาษี ก็คงเป็นการผลาญงบเท่านั้นครับ คงไม่สามารถสร้างจิตสำนึกอะไรได้มากมาย เพราะเป็ฯที่ยอมรับกันมานานแล้ว

บริษัทนอกตลาดก็แต่งงบให้กำไรน้อยๆเพื่อจะได้ไม่มีภาษี

บริษัทในตลาดก็แต่งงบเพื่อให้ราคาหุ้นขึ้นสูงๆ

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 9:17 pm
โดย chatchai
ลองดูงบกระแสเงินสดไตรมาส 1 ปี 48 ของ DISTAR ดูซิครับ

ในกิจกรรมการดำเนินงานจะมีรายการ เจ้าหนี้ทรัสต์รีซีท ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็ฯการกู้ยืมเงินระยะสั้นประเภทหนึ่งจากธนาคาร แทนที่บริษัทจะนำไปจัดไว้ในกิจกรรมการจัดหาเงิน

ที่นี้ถ้าใครดูแต่บรรทัดสุดท้ายของแต่ละกิจกรรมก็เป็นอย่างไรครับ

บริษัทจะมีเงินสดรับสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานสูงถึง 33.23 ล้านบาท และเงินสดจ่ายสุทธิจากกิจกรรมการจัดหาเงิน 24.67 ล้านบาท

ก็คงคิดว่าบริษัทดำเนินงานดี สามารถนำเงินไปชำระหนี้ได้

แต่จริงๆแล้ว กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบถึง 144.86 ล้านบาท ต้องอาศัยเงินกู้ยืมจำนวน 152.77 ล้านบาท

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 9:30 pm
โดย Jeng
เดี๋ยวจะไปอ่าน Distar จะได้ตามคุณฉัตรชัยทันบ้าง ว่าพูดเรื่อไรอยู่

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 9:42 pm
โดย Jeng
อ๋อ ตรง 144.86 นี่รู้แล้ว คือเอาเจ้าหนี้ ทรัสต์รีซีท 178.09 - ด้วยกระแสเงินสด 33.23 เท่ากับ

ได้ 144.86

ส่วนที่ว่าอาศัยเงินกู้ยืม 152.77 นี่ยังหาไม่เจอว่าดูตรงไหน

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 9:46 pm
โดย chatchai
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการจัดหาเงินเดิม (24.67) ล้านบาท
บวก เจ้าหนี้ทรัสต์รีซีท 178.09 ล้านบาท
บวก เงินสดจ่ายสัญญาเช่าทางการเงิน ( 0.65) ล้านบาท

สุทธิ 152.77 ล้านบาท

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 9:52 pm
โดย Jeng
ขอบคุณมากครับ จะพยายามทำความเข้าใจต่อไป

8)

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 10:00 pm
โดย ลูกอิสาน
พี่ฉัตรชัยครับ รายการเจ้าหนี้ทรัสร์รีซีท นี่คืออะไรครับ
ผมสงสัยมานานแล้ว เคยเห็นในงบการเงินของ TVO
เป็นการกู้เงินที่มีสินค้าเป็นประกันหรือเปล่าครับ :o

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 10:05 pm
โดย chatchai
เป็นหนี้สำหรับธุรกิจนำเข้าส่งออกนะครับ

คือเวลาที่เราจะสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เราก็ต้องเปิด L/C กับทางธนาคาร

พอเวลาสินค้าส่งมาถึง เราก็ไปรับสินค้า ก็ต้องชำระเงิน แต่ไม่มีเงิน ก็เลยติดเงินธนาคารที่เปิด L/C ไว้ก่อน เรียกว่าหนี้ทรัสต์รีซีท หรือ หนี้ T/R ครับ ปรกติก็จะมีระยะเวลาในการชำระตั้งแต่ 30 วัน ถึง 180 วัน ลูกหนี้ก็ต้องเสียดอกเบี้ยครับ ถือว่าเป็นหนี้ระยะสั้นเป็นวงเงินครับ คล้ายกับวงเงินเบิกเกินบัญชี

ที่แย่กว่าก็คือ บางบริษัทก็รวมเจ้าหนี้ทรัสต์รีซีท เข้ากับเจ้าหนี้การค้า ซึ่งผมว่าสองรายการนี้ไม่เหมือนกัน อย่างน้อยเจ้าหนี้ทรัสต์รีซีทก็ต้องเสียดอกเบี้ยนะครับ

ถามเรื่องการลงบัญชีอาคาร

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 23, 2005 10:30 pm
โดย ลูกอิสาน
ขอบคุณครับพี่
ตาสว่างขึ้นอีกหน่อย.. :D