Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อยากสอบถามความคิดเห็นท่านVIทุกท่านว่าท่านแบ่งสัดส่วนการลงทุนของเงินสด,หุ้น,อสังหา,พันธบัตร ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนหุ้นกับเงินสด
จริงๆคือที่ผ่ามมาผมไม่ค่อยมีความใจเย็นที่จะถือเงินสด(ปัจจุบันอัตราส่วนเงินสดต่อหุ้นของผมอยู่ที่15%และ85%ตามลำดับ(ส่วนตัวผมอายุ33ปี)ยังไงVIที่ให้ความคิดเห็นช่วยบอกอายุไว้เป็นเกณฑ์ให้พิจารณาด้วยครับ

ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็น VI ตัวจริงหรือเปล่า แต่เอาความเห็น VI ตัวจริง คือ ดร.นิเวศน์ บอกในงาน Money Expo 2005 ว่าของท่านเอง 99% asset อยู่ในหุ้น แปลว่าหากจะซื้อหุ้นไหน ต้องขายของเดิมก่อน ดังนั้นหากตัวใหม่ไม่ดีกว่าเดิมก็ไม่ซื้อ

ว่าแต่ 1% ที่เหลือของ ดร. ก็ล้านกว่าๆแล้วแหละ

29 ครับ
60เปอร์เซนต์อยู่ในหุ้นครับ

เมื่อเอาทฤษฎีมาผนวกกับความเป็นจริงแล้ว ผมมองว่า

ถือเงินสดในบัญชีออมทรัพย์ มากเป็นจำนวนเท่ากับรายจ่ายต่อเดือน เป็นจำนวนหกเท่า

มีประกันชีวิตไว้บ้าง เพื่อช่วยครอบครัว ในกรณีตายโดยไม่ได้รู้ตัว

และนอกนั้น ลงทุนในหุ้น อสังหาฯ ทำธุรกิจเอง หรืออะไรก็แล้วแต่ อยู่ที่ความสนใจ ความรู้ ประสบการณ์ และความคาดหวังในผลตอบแทนครับ

ในเรื่องของสัดส่วน คงต้องแล้วแต่อายุ รวมถึงในย่อหน้าก่อนหน้านี้ด้วยครับ

23 ปีอยู่ในหุ้นเกือบ 100% ครับ
มีติดธนาคารไว้พอกินพอใช้นิดหน่อย

เมื่อเอาทฤษฎีมาผนวกกับความเป็นจริงแล้ว ผมมองว่า
ถือเงินสดในบัญชีออมทรัพย์ มากเป็นจำนวนเท่ากับรายจ่ายต่อเดือน เป็นจำนวนหกเท่า

ถ้าเป็นงั้นผมต้องถือหุ้น 93% ของ asset ทั้งหมดของผมแล้วครับ :lol: เสี่ยงเกินไป

เท่าที่อ่านมา ผมว่าต้องอย่างน้อยสามเดือน ถ้าให้ดีควรหกเดือน

เพราะถ้าเกิดเราตกงาน หรือลาออกจากงาน หรือธุรกิจเจ๊ง จะทำให้เรามีสายป่านยาวพอ กว่าจะได้งานใหม่ครับ

แต่เป็นหมอของรัฐ ไม่ตกงานแน่นอนครับ เพราะทุกวันนี้หมอยังไม่พอด้วยซ้ำ

หกเดือนมากเกินไปครับ ของผมเงินสดประมาณ 0.2 - 1.5 เดือนเท่านั้น
หุ้นถือเป็น high liquidity asset ทองก็ใช่ ถ้าเลือกหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ
แทบจะเทียบเท่าเงินสดเลย

มีบัตรเครดิตและพวกวงเงินกู้ฉุกเฉินไว้ใช้ยามจำเป็น

ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็น VI ตัวจริงหรือเปล่า แต่เอาความเห็น VI ตัวจริง คือ ดร.นิเวศน์ บอกในงาน Money Expo 2005 ว่าของท่านเอง 99% asset อยู่ในหุ้น แปลว่าหากจะซื้อหุ้นไหน ต้องขายของเดิมก่อน ดังนั้นหากตัวใหม่ไม่ดีกว่าเดิมก็ไม่ซื้อ

ถ้าอย่างงั้นคอยหลังMEETING VI จะเพิ่มให้ครบ100% :lovl:

ผมเคยตกงานอยู่พักนึง เงินมีพอกินได้ครึ่งเดือน จากนั้นขอแม่ ขอพี่

รู้สึกเซ็งสุดๆ เพราะทำอะไรไม่ได้ ติดที่ขอเงินเค้าอ่ะ

ของผมเองต้องแบ่งเงินเดือนเป็นส่วนๆ ดังนี้ครับ 50-30-20 จับจ่ายใช้สอยทั่วไป 50%ของเงินเดือน 20%ของเงินเดือน เก็บสำรองกรณีฉุกเฉิน เหลืออีก30%(ต้องเป็นเงินที่เย็นเยือกจริงๆ เอาไว้ใช้ตอนแก่) ลงทุนลงหุ้นอย่างเดียวเพราะถนัดที่สุด (แต่ไม่เก่งเอาเสียเลย) ซื้อเฉลี่ยมันทุกเดือน ไม่ว่าจะลงหรือขึ้น

CK เขียน:หกเดือนมากเกินไปครับ ของผมเงินสดประมาณ 0.2 - 1.5 เดือนเท่านั้น
หุ้นถือเป็น high liquidity asset ทองก็ใช่ ถ้าเลือกหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ
แทบจะเทียบเท่าเงินสดเลย

มีบัตรเครดิตและพวกวงเงินกู้ฉุกเฉินไว้ใช้ยามจำเป็น

อ้าว...ทั่นปะทาน เป็นวิตั้งแต่เมื่อไหร่
แล้วสำนักมวยวัดที่ตั่วเฮียคลายเครียดเป็นโต้โผ
ก็ขาดกุนซือน่ะสิ
เดี๋ยวผมเข้าไปแย่งตำแหน่งนะ
สำนักVSOP

ป่าวเป็นครับ แค่บอกให้ harry ฟังว่า cash ไม่ต้องถึง 6 เดือนหรอก เงินจม
ไม่งอกเงย

ท่านพี่ปรัชญาไม่ต้องแย่งตำแหน่งกุนซือหรอกครับ สำหรับซือแป๋ถ้าต้องการ
ตำแหน่งนี้เมื่อไหร่ เอาไปได้เลยครับ

(ไม่รู้ว่าผมถูกขับออกจากสำนักไปรึยัง ช่วงหลังๆ เริ่มเข้าใกล้สำนักเดย์เทรด
เข้าไปทุกที)

ของผมเกินร้อยครับ กู้เงินพ่อมาเล่น2แสน จ่ายเดือนหมื่นบาท 2 ปี :lol:

100% ในหุ้นครับ
เงินเดือนก็หักเข้าบัญชีหุ้นทุกเดือน 10-20%

70: 30 ครับเนื่องจากเพิ่งเริ่มนะครับ แต่กำลังจะปรับใหม่ เป็น เงินสด 30 หุ้น 70
แต่คงจะเป็นแบบค่อนเป็นค่อยไปนะครับ

70 หุ้น
30 ฝากธนาคาร
ตอนนี้ ไม่มีอะไรกินแล้วครับ อิอิ

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมไม่ใช่ VI นะครับ แต่อยากจะเป็น VI

เกิน 100 % เหมือนกันครับ กู้แม่กับพี่สาวคนละล้าน จ่ายดอกเดือนละสองหมื่น สามปีผ่านไป ได้กำไรเยอะเหมือนกัน อิอิ 5555

ปล.ถ้าใครมีให้กู้อีกก็บอกนะครับ จ่ายดอก 12 % ต่อปี อิอิอิ

:lol: :lol: :lol: :lol:

สามัญชน เขียน::lol: :lol: :lol: :lol:

ผมไม่ใช่ VI นะครับ แต่อยากจะเป็น VI

เกิน 100 % เหมือนกันครับ กู้แม่กับพี่สาวคนละล้าน จ่ายดอกเดือนละสองหมื่น สามปีผ่านไป ได้กำไรเยอะเหมือนกัน อิอิ 5555

ปล.ถ้าใครมีให้กู้อีกก็บอกนะครับ จ่ายดอก 12 % ต่อปี อิอิอิ

:lol: :lol: :lol: :lol:

ไม่เปิดบัญชี credit balance ล่ะครับ
ดอกเบี้ยแค่ 5%
หุ้นดี ๆ ที่ให้ margin ก็พอจะมีเหมือนกันนะครับ

เอ คงไม่ใช่ว่าทั้งกู้คนอื่น แล้วยังเปิดบัญชี credit balance ด้วยนะครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

หมายถึงบัญชี margin ใช่ใหมครับ

ผมเคยจะเปิดเมื่อปีที่แล้ว แต่หุ้นที่ผมสนใจ โบรคเขาไม่เปิดให้เพราะวอลุ่มซื้อขายค่อนข้างน้อย ตัวที่ซื้อขายเยอะ ตอนนั้นผมก็ไม่สนใจ ตอนนี้ต้องคิดใหม่แล้วครับ

อืม....น่าสนใจมากครับ ขอบคุณครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

40%หุ้น(กองทุน 15%) ตราสารหนี้ 30%(กองทุน100%) ลุ้นสลาก28% (อายุเหลืออีก 8ปี)
ธนาคาร 2%
อายุเบญจเพศ

ผมเป็น VI หรือเปล่า? ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เอาเป็นว่า ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่น่าจะดี และต้องการมีส่วนเป็นเจ้าของ
บริษัทต่างๆ นั้น ก็แล้วกัน

ตอนนี้อัตราส่วนของ เงินสด : หุ้น = 1 : 2 ครับ
ผมว่าเงินสดมากไปหน่อยเหมือนกัน ว่าจะลดๆ ลงบ้าง แล้วเอาไปใส่ในหุ้นมากขึ้น
แต่ทุกวันนี้ เงินที่ทำมาหาได้ ก็เอาใส่ในหุ้นก่อนทั้งสิ้น พอร์ตจึงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ยัง
รักษาเงินสดไว้เท่าเดิม ดังนั้นจริงๆ แล้วถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยนี่ อัตราส่วนนี้ก็จะลดไป
เรื่อยๆ เป็น 1 : 2.1, 1 : 2.2, 1 : 2.3, 1 : 2.4, .... เพี๊ยง

ของผม95%อยู่ในหุ้น5%ถือเงินสดครับ

ผมเพิ่งลงทุนในตลาดหุ้นได้ไม่นานนัก ยังไม่ใช่ VI ในตอนนี้ (พยายามเป็นอยู่) แต่อยากแชร์ข้อมูลด้วยครับ
- หุ้นทุน 50% (กองทุน 50%)
- หุ้นกู้ 5%
- เงินสด 50%
มี comment อะไร กรุณาแนะนำคนหัดหาปลาด้วยนะครับ

หุ้นเสี่ยงน้อย หุ้นเสี่ยงมาก พันธบัตร

5-3-2

ครับ ยึดแผนการเล่นแบบ continental แบบมี แบ๊ค 2 ข้าง วิ่งขึ้นลงครับ ใช้ศูนย์หน้าตัวเป้า แต่ถ้าจังหวะไหนเล่นเกมรุกจะเปลี่ยนเป็น 3-5-2 ครับ

อันนี้แยกบัญชีเงินเดือนออกมาครับ จะได้ชัดเจน เมื่อไหร่บัญชีเงินเดือนล้น ค่อยเอาใส่เพิ่มครับ