ปล้นครั้งประวัติศาสตร์ (แถมสังคมหุ้นดันเข้าข้างโจร)
โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 07, 2005 9:17 pm
"คลัง"ตอกฝาโลง"ประชัย"หมดสิทธิคืนบัลลังก์ TPI
- ร่อนเอกสารยันศาลประทับรับฟ้องค้านทำดีลดิลิเจ้นท์
โบรกฯฟันธง "ประชัย" หมดหนทางคืนบัลลังก์ TPI แน่หลังศาลประทับรับฟ้องการยื่นคัดค้านของกระทรวงการคลังต่อการยื่นขอชำระหหนี้ให้กับเจ้าหนี้ต่อศาลของ"ประชัย"เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา แถมทำให้กระทรวงการคลังเดินตามแผนฟื้นฟูได้เร็วขึ้นขณะที่มีเสียงสนับสนุนแผนฟื้นฟูฯฉบับกระทรวงการคลังดีสำหรับ TPI มากที่สุด และหากกลุ่มนายประชัยเข้ามามีบทบาทใน TPI อีกครั้งอาจทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อบริษัทได้
วานนี้ (7 มิ.ย.48)ได้มีแฟกซ์ลึกลับเข้ามายังห้องนักข่าวประจำตลาดหลักทรัพย์ โดยแฟกซ์ชุดดังกล่าวมี 2 ส่วนคือที่เป็นข่าว 1 แผ่นและเอกสารสำเนาคำร้องถึงศาลล้มละลายกลาง 2 แผ่นเป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ8 / 2543 และคดีหมายเลขแดงที่ ฟ8 / 2543
เอกสารดังกล่าว อ้างแหล่งข่าวกระทรวงการคลัง โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2548 ที่ผ่านมา นายกมล ธีรเวชพลกุล รองอธิบดีศาลล้มละลายกลาง
ได้ประทับตรารับฟ้องคำร้องของกระทรวงการคลังและพวก ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2548 มีสาระสำคัญ ข้อ 1 เกี่ยวกับกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ในฐานะผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ค้ำประกันหนี้ของทีพีไอ ได้ยื่นคำแถลงต่อศาลเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2548 โดยเสนอชำระเงิน 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯให้เจ้าหนี้ โดยมีเงื่อนไขขอวางเงินชำระหนี้ต่อศาลเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับและชำระหนี้ตามแผน
ส่วนหนี้เหลือจำนวน 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯบริษัทร่วมค้าระหว่างผู้แถลงกับนักลงทุนรัฐวิสาหกิจจากประเทศจีนหรือ CITIC GROUP จะนำมาชำระให้แก่เจ้าหนี้ผ่านผู้บริหารแผน โดยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ศาลได้อนุญาตให้ผู้แถลงนำเงินที่อ้างว่าจะชำระหนี้แก่เจ้าหนี้มาวางที่ศาลก่อน จึงจะพิจารณาตามที่เห็นสมควรต่อไปนั้น กระทรวงการคลังเห็นว่าการกระทำของผู้แถลงไม่น่าเชื่อถือและขาดความโปร่งใสจึงขอคัดค้านในเรื่องดังกล่าว
ซึ่งผู้บริหารแผนได้ยื่นคำแถลงคัดค้านฉบับลงวันที่ 1 มิถุนายน 2548
ประทานกราบเรียนศาลถึงความคลุมเครือไม่แน่นอนและประกอบด้วยหลักฐานเอกสารที่ไม่อาจเชื่อถือได้รวมทั้งความไม่โปร่งใสในการนำเสนอข้อมูลและเอกสารประกอบคำแถลงของผู้ค้ำประกันโดยผู้ค้ำประกันมีเจตนาบิดเบือนและปั้นแต่งข้อมูลและข้อความของเอกสารที่ผู้ค้ำประกันนำเสนอต่อศาลความปรากฎในสำนวนศาลแล้ว
ข้อ 2 ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2548 นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์
ในฐานะผู้บริหารของลูกหนี้ผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือถึงผู้บริหารแผนขอความร่วมมือให้บริษัท สำนักงานกฎหมายสากลสยามพรีเมียร์ จำกัดพร้อมทีมงานเข้าตรวจสอบข้อมูลและสถานะกิจการของลูกหนี้โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2548 เป็นต้นไป จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยอ้างคำแถลงของตนที่ยื่นต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 ขอชำระหนี้ทั้งหมดในฐานะผูคำประกันของลูกหนี้
ผู้บริหารแผนพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่นายประชัย ในฐานะผู้บริหารของลูกหนี้ได้สั่งการโดยตรงให้นายวีรชัย อริยะพรพิรุณ พนักงานของลูกหนี้ดำเนินการตามคำสั่งของตนเป็นการแทรกแซงอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารแผนในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตามกฎหมายและการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้โดยมิได้รับอนุมัติจากผู้บริหารแผนก่อนย่อมเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายซึ่งผู้บริหารแผนไม่อาจดำเนินการตามความต้องการของนายประชัยได้
- โบรกฯฟันธงประชัยปิ๋วจากทีพีไอแน่หลังศาลฯรับฟ้อง
จากข้อความในเอกสารดังกล่าว นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่าอาจสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการร่วมดำเนินการในทีพีไอของนายประชัยสิ้นสุดลงเนื่องจากอำนาจในการบริหารในทีพีไอเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้คงเป็นไปได้ยาก แม้มองในแง่บวกว่าหากทางกระทรวงการคลังจะเปิดโอกาสให้ทีพีไอชำระหนี้ได้ทั้งหมดก็คงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่ทางนายประชัยสามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนดในสิ้นเดือนนี้เนื่องจากเม็ดเงินมีมูลค่าค่อนข้างมากและเมื่อศาลประทับรับฟ้องการขอยื่นคัดค้านของกระทรวงการคลังก็ถือว่านายประชัยคงหมดโอกาสที่จะเข้าไปดำเนินการใดๆตามที่ได้ยื่นแถลงต่อศาลไว้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากศาลประทับรับฟ้องของกระทรวงการคลังจริงจะทำให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้บริหารแผนดำเนินการบริหารฟื้นฟูทีพีไอได้ต่อไปตามแผนที่ระบุไว้ด้วยความรวดเร็วมากขึ้น
แน่นอนว่าหากทางศาลรับฟ้องกรณีกระทรวงคลังคัดค้านการขอใช้สิทธิชำระหนี้ทีพีไอของนายประชัยนั่นหมายความว่านายประชัยจะเริ่มหมดหน้าที่ในการเข้าบริหารรวมถึงสิ้นสุดการมีส่วนร่วมในทีพีไอซึ่งต่อไปต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังรวมถึงผู้ถือหุ้นที่เหลือดำเนินการต่อไปในทีพีไอ
นักวิเคราะห์ กล่าว
- วงการชี้แผนฟื้นฟูฯของคลังดีที่สุดสำหรับ TPI
แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่กระทรวงการคลังยื่นคัดค้านการขอสิทธิในการชำระหนี้ TPI ของนายประชัย เพราะแผนฟื้นฟูกิจการ TPI ภายใต้การบริหารของกระทรวงการคลังจะได้ดำเนินการต่อไปตามที่ระบุไว้ในแผนโดยเชื่อว่าการที่คลังยื่นคัดค้านไม่ใช่เพราะคลังกลัวว่านายประชัยจะมีเงินมาชำระหนี้จริงอย่างที่กล่าวอ้างแต่เป็นเพราะว่าการที่ให้กลุ่มซิติกฯเข้าไปทำดีลดิลิเจ้นท์ TPI ทั้งที่ผู้บริหารแผนภายใต้กระทรวงการคลังยังนั่งบริหารอยู่ถือว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจและอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้
แผนฟื้นฟูกิจการของกระทรวงการคลังเป็นแผนที่ดีเพราะเปิดโอกาสให้บริษัทชำระหนี้แก้เจ้าหนี้และดำเนินธุรกิจไปด้วยโดยดึงพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งแต่แผนฟื้นฟูกิจการของนายประชัย ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องแหล่งเงิน และยังไม่มีหนังสือยืนยันจากทางกลุ่มซิติกฯ ว่าจะใช้เงินมาสนับสนุนจริง เกรงว่าจะคล้ายกรณี TPIPL ที่ครั้งแรก KTB ยืนยันจะให้เงินกู้แต่สุดท้ายก็ล้มดีลแหล่งข่าวกล่าว
- วงการหุ้นชี้หากซิติกเข้าร่วมทุนไม่เป็นผลดีต่อภาพพจน์ TPI
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากการร่วมทุนใน TPI เป็นผู้ร่วมทุนที่มาจากผู้บริหารของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศมีความน่าเชื่อถือ มีขนาดใหญ่ เช่น ปตท. จะทำให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้มากกว่ากลุ่มที่นายประชัยนำเข้ามาซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากต่างประเทศและยังมีความใกล้ชิดกับนายประชัย
นายรณกฤต กล่าวว่า หากเป็นกลุ่มผู้บริหารชุดเดิมกลับเข้ามาบริหารใน TPI ใหม่ อาจจะไม่เป็นผลดีกับตัวบริษัท เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการบริหารงานในอดีต
สำหรับคำแนะนำของนักลงทุนที่จะเข้าไปซื้อหุ้น TPI ควรเล่นด้วยความระมัดระวังและให้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะเป็นไปตามข่าวในแต่ละวัน
'ในความเห็นคิดว่าผู้ร่วมทุนของ TPI หากเป็นบริษัทที่ผู้บริหารแผนเสนอซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทั้ง ปตท.และ กบข. น่าจะเป็นภาพที่ดีกว่ากลุ่มที่คุณประชัยนำเข้ามาและมีความใกล้ชิดกับผู้บริหารเดิมซึ่งจะทำให้ไม่เป็นผลดีกับตัวบริษัท' นายรณกฤต กล่าว
- ร่อนเอกสารยันศาลประทับรับฟ้องค้านทำดีลดิลิเจ้นท์
โบรกฯฟันธง "ประชัย" หมดหนทางคืนบัลลังก์ TPI แน่หลังศาลประทับรับฟ้องการยื่นคัดค้านของกระทรวงการคลังต่อการยื่นขอชำระหหนี้ให้กับเจ้าหนี้ต่อศาลของ"ประชัย"เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา แถมทำให้กระทรวงการคลังเดินตามแผนฟื้นฟูได้เร็วขึ้นขณะที่มีเสียงสนับสนุนแผนฟื้นฟูฯฉบับกระทรวงการคลังดีสำหรับ TPI มากที่สุด และหากกลุ่มนายประชัยเข้ามามีบทบาทใน TPI อีกครั้งอาจทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อบริษัทได้
วานนี้ (7 มิ.ย.48)ได้มีแฟกซ์ลึกลับเข้ามายังห้องนักข่าวประจำตลาดหลักทรัพย์ โดยแฟกซ์ชุดดังกล่าวมี 2 ส่วนคือที่เป็นข่าว 1 แผ่นและเอกสารสำเนาคำร้องถึงศาลล้มละลายกลาง 2 แผ่นเป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ8 / 2543 และคดีหมายเลขแดงที่ ฟ8 / 2543
เอกสารดังกล่าว อ้างแหล่งข่าวกระทรวงการคลัง โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2548 ที่ผ่านมา นายกมล ธีรเวชพลกุล รองอธิบดีศาลล้มละลายกลาง
ได้ประทับตรารับฟ้องคำร้องของกระทรวงการคลังและพวก ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2548 มีสาระสำคัญ ข้อ 1 เกี่ยวกับกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ในฐานะผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ค้ำประกันหนี้ของทีพีไอ ได้ยื่นคำแถลงต่อศาลเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2548 โดยเสนอชำระเงิน 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯให้เจ้าหนี้ โดยมีเงื่อนไขขอวางเงินชำระหนี้ต่อศาลเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับและชำระหนี้ตามแผน
ส่วนหนี้เหลือจำนวน 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯบริษัทร่วมค้าระหว่างผู้แถลงกับนักลงทุนรัฐวิสาหกิจจากประเทศจีนหรือ CITIC GROUP จะนำมาชำระให้แก่เจ้าหนี้ผ่านผู้บริหารแผน โดยเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ศาลได้อนุญาตให้ผู้แถลงนำเงินที่อ้างว่าจะชำระหนี้แก่เจ้าหนี้มาวางที่ศาลก่อน จึงจะพิจารณาตามที่เห็นสมควรต่อไปนั้น กระทรวงการคลังเห็นว่าการกระทำของผู้แถลงไม่น่าเชื่อถือและขาดความโปร่งใสจึงขอคัดค้านในเรื่องดังกล่าว
ซึ่งผู้บริหารแผนได้ยื่นคำแถลงคัดค้านฉบับลงวันที่ 1 มิถุนายน 2548
ประทานกราบเรียนศาลถึงความคลุมเครือไม่แน่นอนและประกอบด้วยหลักฐานเอกสารที่ไม่อาจเชื่อถือได้รวมทั้งความไม่โปร่งใสในการนำเสนอข้อมูลและเอกสารประกอบคำแถลงของผู้ค้ำประกันโดยผู้ค้ำประกันมีเจตนาบิดเบือนและปั้นแต่งข้อมูลและข้อความของเอกสารที่ผู้ค้ำประกันนำเสนอต่อศาลความปรากฎในสำนวนศาลแล้ว
ข้อ 2 ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2548 นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์
ในฐานะผู้บริหารของลูกหนี้ผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือถึงผู้บริหารแผนขอความร่วมมือให้บริษัท สำนักงานกฎหมายสากลสยามพรีเมียร์ จำกัดพร้อมทีมงานเข้าตรวจสอบข้อมูลและสถานะกิจการของลูกหนี้โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2548 เป็นต้นไป จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยอ้างคำแถลงของตนที่ยื่นต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 ขอชำระหนี้ทั้งหมดในฐานะผูคำประกันของลูกหนี้
ผู้บริหารแผนพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่นายประชัย ในฐานะผู้บริหารของลูกหนี้ได้สั่งการโดยตรงให้นายวีรชัย อริยะพรพิรุณ พนักงานของลูกหนี้ดำเนินการตามคำสั่งของตนเป็นการแทรกแซงอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารแผนในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตามกฎหมายและการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้โดยมิได้รับอนุมัติจากผู้บริหารแผนก่อนย่อมเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายซึ่งผู้บริหารแผนไม่อาจดำเนินการตามความต้องการของนายประชัยได้
- โบรกฯฟันธงประชัยปิ๋วจากทีพีไอแน่หลังศาลฯรับฟ้อง
จากข้อความในเอกสารดังกล่าว นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่าอาจสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการร่วมดำเนินการในทีพีไอของนายประชัยสิ้นสุดลงเนื่องจากอำนาจในการบริหารในทีพีไอเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้คงเป็นไปได้ยาก แม้มองในแง่บวกว่าหากทางกระทรวงการคลังจะเปิดโอกาสให้ทีพีไอชำระหนี้ได้ทั้งหมดก็คงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่ทางนายประชัยสามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนดในสิ้นเดือนนี้เนื่องจากเม็ดเงินมีมูลค่าค่อนข้างมากและเมื่อศาลประทับรับฟ้องการขอยื่นคัดค้านของกระทรวงการคลังก็ถือว่านายประชัยคงหมดโอกาสที่จะเข้าไปดำเนินการใดๆตามที่ได้ยื่นแถลงต่อศาลไว้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากศาลประทับรับฟ้องของกระทรวงการคลังจริงจะทำให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้บริหารแผนดำเนินการบริหารฟื้นฟูทีพีไอได้ต่อไปตามแผนที่ระบุไว้ด้วยความรวดเร็วมากขึ้น
แน่นอนว่าหากทางศาลรับฟ้องกรณีกระทรวงคลังคัดค้านการขอใช้สิทธิชำระหนี้ทีพีไอของนายประชัยนั่นหมายความว่านายประชัยจะเริ่มหมดหน้าที่ในการเข้าบริหารรวมถึงสิ้นสุดการมีส่วนร่วมในทีพีไอซึ่งต่อไปต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังรวมถึงผู้ถือหุ้นที่เหลือดำเนินการต่อไปในทีพีไอ
นักวิเคราะห์ กล่าว
- วงการชี้แผนฟื้นฟูฯของคลังดีที่สุดสำหรับ TPI
แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่กระทรวงการคลังยื่นคัดค้านการขอสิทธิในการชำระหนี้ TPI ของนายประชัย เพราะแผนฟื้นฟูกิจการ TPI ภายใต้การบริหารของกระทรวงการคลังจะได้ดำเนินการต่อไปตามที่ระบุไว้ในแผนโดยเชื่อว่าการที่คลังยื่นคัดค้านไม่ใช่เพราะคลังกลัวว่านายประชัยจะมีเงินมาชำระหนี้จริงอย่างที่กล่าวอ้างแต่เป็นเพราะว่าการที่ให้กลุ่มซิติกฯเข้าไปทำดีลดิลิเจ้นท์ TPI ทั้งที่ผู้บริหารแผนภายใต้กระทรวงการคลังยังนั่งบริหารอยู่ถือว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจและอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้
แผนฟื้นฟูกิจการของกระทรวงการคลังเป็นแผนที่ดีเพราะเปิดโอกาสให้บริษัทชำระหนี้แก้เจ้าหนี้และดำเนินธุรกิจไปด้วยโดยดึงพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งแต่แผนฟื้นฟูกิจการของนายประชัย ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องแหล่งเงิน และยังไม่มีหนังสือยืนยันจากทางกลุ่มซิติกฯ ว่าจะใช้เงินมาสนับสนุนจริง เกรงว่าจะคล้ายกรณี TPIPL ที่ครั้งแรก KTB ยืนยันจะให้เงินกู้แต่สุดท้ายก็ล้มดีลแหล่งข่าวกล่าว
- วงการหุ้นชี้หากซิติกเข้าร่วมทุนไม่เป็นผลดีต่อภาพพจน์ TPI
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากการร่วมทุนใน TPI เป็นผู้ร่วมทุนที่มาจากผู้บริหารของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศมีความน่าเชื่อถือ มีขนาดใหญ่ เช่น ปตท. จะทำให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้มากกว่ากลุ่มที่นายประชัยนำเข้ามาซึ่งเป็นกลุ่มทุนจากต่างประเทศและยังมีความใกล้ชิดกับนายประชัย
นายรณกฤต กล่าวว่า หากเป็นกลุ่มผู้บริหารชุดเดิมกลับเข้ามาบริหารใน TPI ใหม่ อาจจะไม่เป็นผลดีกับตัวบริษัท เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการบริหารงานในอดีต
สำหรับคำแนะนำของนักลงทุนที่จะเข้าไปซื้อหุ้น TPI ควรเล่นด้วยความระมัดระวังและให้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะเป็นไปตามข่าวในแต่ละวัน
'ในความเห็นคิดว่าผู้ร่วมทุนของ TPI หากเป็นบริษัทที่ผู้บริหารแผนเสนอซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทั้ง ปตท.และ กบข. น่าจะเป็นภาพที่ดีกว่ากลุ่มที่คุณประชัยนำเข้ามาและมีความใกล้ชิดกับผู้บริหารเดิมซึ่งจะทำให้ไม่เป็นผลดีกับตัวบริษัท' นายรณกฤต กล่าว