Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อยากทราบสาเหตุที่เป็นเช่นนี้

9 มิถุนายน 2548

เรื่อง ชี้แจงความคืบหน้าภายในบริษัทฯ

เรียน ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตามที่บริษัทคอมพาสส์ อีสต์ อินดัสตรี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือชี้แจง
สถานการณ์ของบริษัทฯ หนังสือลงวันที่ 16 มีนาคม 2548 นั้น บริษัทฯขอชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้
1. ความคืบหน้าของข้อเรียกร้องของลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท บริษัทฯ คาดว่าคดีจะสิ้นสุด
ภายในเดือนกรกฎาคม 2548 ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลในประเทศอังกฤษ ซึ่งยังไม่สามารถ
คาดการณ์ได้ ว่าผลของคดีจะเป็นอย่างไร
2. ปัจจุบันบริษัทฯยังไม่ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่รายดังกล่าว และคาดว่าในปีนี้
บริษัทฯ จะไม่ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายนี้ ปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อประมาณร้อยละ 10 ของคำสั่งซื้อที่เคย
ได้รับ
3. ปัจจุบันบริษัทฯใช้กำลังการผลิตประมาณร้อยละ 8 ของกำลังการผลิตทั้งหมด ซึ่งใน
ภาวะปรกติบริษัทฯ จะใช้กำลังการผลิตประมาณร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตทั้งหมด
4. การจ้างงานบริษัทฯ มีการสั่งหยุดพนักงานบางส่วน โดยบริษัทฯ ได้จ่ายค่าแรงตาม
กฎหมายแรงงานสำหรับพนักงานที่ไม่ต้องมาปฏิบัติงาน ในกรณีที่พนักงานมีความประสงค์จะลาออกในช่วง
เดือนพฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน 2548 บริษัทจะให้เงินช่วยเหลือไม่เกิน 6 เดือน

จึงเรียนชี้แจง เพื่อเผยแพร่ให้แก่ผู้ถือหุ้น และผู้ที่สนใจทั่วไป


ขอแสดงความนับถือ

(นางหลี่ กุ้ย ฟ่ง)
กรรมการ

อยากทราบสาเหตุที่เป็นเช่นนี้

เกือบฟลอร์แล้วครับ

พี่ ck ครับ

ฟลอร์เก่า ทะลุไปแล้ว

แต่เอ ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างมั๊ยครับกับข่าว เรื่องราวที่เป็นอยู่
หรือว่าทำอไรไม่ได้เลย(ผมไม่มีในพอร์ตครับพี่)

สิ่งมหัศจรรย์สิ่งใหม่ของโลก !!! โอ้ อับดุล !! พัดลม กำลังจะกลายเป็นลูกเจี๊ยบแล้ว อับดุล !!!

ผู้พันซิกกี้
ถ้าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนไปอย่างถาวร
จะทิ้งหมดพอร์ต หรือว่าทู่ซี้ถือต่อ
รอซื้อราคาถูกๆ ครับ

พื้นฐานเปลี่ยนชั่วคราว (เกิน 2 ไตรมาส) ผมก็ทิ้งหมดพอร์ตแล้วครับ
ตามสไตล์ VSOP

ตอน METCO ผมทิ้งหมดพอร์ตแบบหมดจริงๆ ครับ ไม้เดียว เกิน
50% ของมูลค่าพอร์ต อีก 1 ปีค่อยมาดูกันใหม่

จากพัดลม เป็น เศษเหล็ก ไปเลย

รู้ซึ่งแล้วเป็นอย่างนี้นี้เอง บริษัทที่ มีลูกค้าอยู่รายใหญ่รายเดียว

เป็นลูกไก่ในกำมือเขา เขาบีบก็ตาย เขาคลายก็รอด

ผมก็เห็นมานานแล้วนะครับว่าเป็นลูกไก่ในกำมือ
..ทีแรกผมคิดว่า เขาจะไม่กล้าบีบ นะ เพราะคงกลัวขี้เลอะมือ ที่ไหนได้ ...

แบบพัดลมยังส่ายหน้าเลย

สมมติลูกค้ารายเดียวที่ว่า ... ยกเลิกคำสั่ง .... cei ขาดทุนเละตุ้มเป๊ะ
ราคาหุ้นก็ไหลลงๆ ไม่รู้จักหยุด ...
และแล้วลูกค้ารายเดิมก็มาแอบซื้อหุ้นเก็บเข้า port ไปเรื่อย
แล้วสุดท้ายก็ take over ไปเลย ... แล้วค่อยเอา cei มาผลิตสินค้าให้กับตัวองอีกรอบ

... คิดเล่นๆนะครับ เดาล้วนๆ 8)

ได้ 5% ก็ต้องรายงานแล้วครับ ผมว่ายากที่จะเล่นไม้นี้

ไม่เข้าใจ ว่าทำไม ผู้บริหารถึงไม่ยอมประนีประนอมกับเขา

ทำไมถึงยอมหัก ไม่ยอมงอ

ทำไมถึงยอมหัก ไม่ยอมงอ

ไม่อยากทำต่อแล้วมั้ง

สงสารก็แต่รายย่อย(ยับ)

jaychou เขียน:ได้ 5% ก็ต้องรายงานแล้วครับ ผมว่ายากที่จะเล่นไม้นี้

สมมติ hunter fan มีบริษัทย่อยๆหลายบริษัท
ก็ซื้อ 4.99% หลายๆบริษัทไม่ได้เหรอครับ
ผมว่าไม่น่าจะใช่ปัญหาเท่าไหร่ ...
แต่ผมแค่เดาเล่นนะครับ .. ยังไม่ได้ดูอะไรเลย แค่จิตนาการนิดๆหน่อยๆ

คือทุกๆ 5% ครับพี่โย บวกทบของเก่า ไม่ใช่นับแต่ละครั้ง

ผมก็เห็นมานานแล้วนะครับว่าเป็นลูกไก่ในกำมือ
..ทีแรกผมคิดว่า เขาจะไม่กล้าบีบ นะ เพราะคงกลัวขี้เลอะมือ ที่ไหนได้ ...

ยกให้เป็น Quote of The day เลยครับ

ถ้าจะเทค น่าจะเทคตรงๆเลยครับ
ส่งทีมเข้าไปถามเลย จะทำต่อไหม ไม่ทำ ขายไหม ขายเท่าไหร่
คงอยู่ที่ผู้บริหารแล้วว่าจะสู้ต่อไหม แล้วจะหาตลาดใหม่ยังไง

เขาเรียก hostile takeover ครับ


วิธีการง่ายๆ คือจ้าง broker ทำให้ broker ก็จะใช้หลายๆ พอร์ตที่ตัวเองมีอยู่
เข้าไปช้อนซื้อไว้

พอได้จำนวนที่ tenderer ต้องการ ก็ขายทั้งหมดให้ทีเดียว ในราคาที่ตกลงกันไว้

ซึ่งสามารถกำหนดเงื่อนไขได้ว่า ต้องซื้อให้ได้เกิน 60% เท่านั้น ไม่งั้นไม่เอา
ทั้งหมด

ซึ่งในกรณีนี้ broker ต้องรับภาระขายทิ้งเอง

พอฮุบได้ 60% ค่อยประกาศทำ T/O ตามกฎตลาด

ทำให้คิดถึง ยุทธการกดแม่ เอาลูก เมื่อวานเลยนะครับ

แต่ผมว่าถ้าเขาต้องการเทคโอเวอร์จริง น่าจะใช้วิธีเจรจาซื้อขายนอกตลาดน่าจะง่ายกว่านะครับ

กรณีนี้ คิดว่า hunter fan อยากหาข้ออ้างย้าย supplier ไปจีนมากกว่าครับ

เพราะ hunter fan เคยถือหุ้นใหญ่ใน cei อยู่แล้ว ตอนโน้น

ผมว่าจุดเป็นจุดตายน่าจะอยู่ที่ หาลูกค้าใหม่มาทดแทนได้หรือเปล่า
ถ้าไม่มีก็มีโอกาสเลือดไหลออกจนตาย

ไม่ทราบว่าบริษัืทมีแผนก Marketing หรือเปล่าหรือว่ามีแต่ Customer Service
คนที่จะมาแทนถ้ามีตลาดของเขาอยู่แล้วก็ดีครับ CEI ก็อาจกลับมาได้

เป็นผมตอนนี้ถ้าไม่มีตลาดและมี Gap ผมไม่กล้าเข้าไปซื้อครับ
นอกจากมีข้อมูลดีๆ ชำแหระออกขายครับ

ไม่เป็นไรครับ จำไว้เป็นบทเรียน

ปล.ผมไม่มีตัวนี้นะครับ รอดตายหวุดหวิดจริงๆ

สมมติว่าบริษัทเลือกชำระบัญชีเพื่อปิดกิจการ น่าจะมีเงินสดเหลืออยู่สักกี่บาทต่อหุ้นครับ ใครมีความรู้ทางบัญชีช่วยอธิบายวิธีคิดหน่อยครับ

ไม่เป็นไรครับ จำไว้เป็นบทเรียน

ปล.ผมไม่มีตัวนี้นะครับ รอดตายหวุดหวิดจริงๆ

โดนไปเต็มๆๆตั้งแต่รูดจาก 9 บาท ถึง 3.6กำแพงที่ท่านCKบอก
ขาดทุนไป 27% กว่าๆๆ (ซื้อเฉลี่ยด้วย)
เข็ดไปอีกนาน

วจีของสตรีช่างน่ากลัวยิ่งนัก เพียงแม่นางหลี่ชี้แจงแถลงไขเพียง 4 ข้อ เจ้าพัดลมก็แทบวายปราณ

หากจะบอกใครเรื่อง คัทลอส
case cei น่าจะดีที่สุด

หากจะบอกใครเรื่อง คัทลอส

คัทก็ลอส ไม่คัดก็ลอส

หรือเปล่า

พี่ครรชิตเขียน :-

ไม่เข้าใจ ว่าทำไม ผู้บริหารถึงไม่ยอมประนีประนอมกับเขา

ทำไมถึงยอมหัก ไม่ยอมงอ

ผมก็ไม่เข้าใจ ลองคิดดูแบบ Temple Boxing (ขอยืมมาใช้หน่อยนะครับเฮียคลายเครียด)
ถ้าสมมุติว่าเราเป็นเถ้าแก่โรงงานผลิตพัดลมห้องแถว มีลูกค้ารายใหญ่ 90% ต่อราคาจะเอาให้ได้ถ้าไม่ได้ฉันจะเลิกทำกับคุณนะ .ถึงแม้จะขาดทุนส่วนหนึ่งเป็นผมก็ยังรับทำต่อ อย่างน้อยก็ต่อชีวิตให้ธุรกิจ ไหนจะ Bank ไหนจะลูกน้อง
ถ้าหยุดจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย Fixed Cost ขาดทุนตอนนี้นิดหน่อย แล้วค่อยหาทางขยับขยาย หาลูกค้ารายใหม่หรือหาลู่ทางอื่น หักอย่างนี้รู้ดีว่ายังไงก็เจ๊ง ไม่ต้องคิดแบบผู้บริหารก็พอจะรู้แล้วครับ

มันก็เลยแปลกๆ ทีนี้ลองมาคิดแบบนั่งเทียน ขอย้ำว่านั่งเทียนนะครับ
เป็นรายการมวยล้มต้มคนดูหรือเปล่า.
ไอ้ที่กลุ่มทุนใหม่เข้ามาเทค เงินที่เขามาลงตอนนี้ได้คืนหมดแล้วหรือ
ดีดลูกคิดไปมา โอยไม่ไหวค่าแรงเมืองไทยมันแพง
เอแต่เครื่องจักรมันยังใช้ได้นี่นาบางเครื่องตัดค่าเสื่อมแล้ว Book เหลือไม่กี่ตังค์เอง
เอไอ้พวกที่ดินโรงงานถ้าขายในกรณีบริษัทล้ม ราคาก็น่าสนใจนี่นา
บริษัทเจ๊งก็มีข้ออ้างบอกคนงาน ใครไหนจะมาประท้วง
เอาเป็นว่าไปตั้งโรงงานใหม่ในจีนดีกว่า เซ๊งลี้ฮ้อ คัมปานี ลิมิเต็ด เตรียมซื้อซากเครื่องที่จะขายถูกๆจากเมืองไทย
ค่าแรงเมืองจีนก็ถูก เอนจิเนียก็ถูก ไอ้เราผู้บริหารก็ศึกษาดูธุรกิจมาหลายปีก็น่าจะพอ
ลองคุยแผนกับไอ้ฝรั่งดูซิ ไหนๆก็เคยซื้อขายกัน
ไปเมืองจีนไอลดราคาให้ยูได้เลยสนใจไหม แต่เราต้องทำแบบนี้แบบนี้ก่อน .โอเค ฝรั่งตอบ

จบเรื่องสมมุติครับ
กี่บาทก็เลยไม่ซื้อ เพราะไม่รู้
ความไม่รู้คือความเสี่ยงครับ