Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เทียบ Q1 ..ปี 47 กับปี 48

คนละเรื่องเลย ยังกะคนละบริษัท

ทั้งกระแสเงินสด กำไรขาดทุน

คิดว่าปกติมั้ย อยู่ดีๆ ยอดขายก็กระโจนขนาดนั้น

หุ้นการเมืองก็เป็นอย่างงี้นั่นแหละ...ฮึ่ม...ไม่อยากพูดเลย...เดียวถูกลบ

รัฐบาลชุดนี้ส่งเสริมเต็มที่ครับ

หากใครได้ไปเที่ยวภูหินล่องกล้า

แม้แต่ยอดเขาก็มีโซล่าเซล
โทรศัพท์มือถือใช้สบาย
สัญญาณ เสียงชัดแจ๋วกว่าตามหัวเมืองอีก
ทุกครอบครัวบนยอดเขาเลยก้อนเมฆมีไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ใช้

หากจะขึ้นไปเที่ยวห้ามนำรถเกียร์ออโต้ไปใช้
เพราะตอนลงเขามันชัน จะลำบาก
ไต่เขาขึ้นไปบ้านเล่าลือ ผ่านยอดเขาหลายลูก

ผมเข้าใจว่าเป็นการสั่งซื้อจากภาครัฐ เป็นส่วนมาก การที่มีลูกค้าน้อยรายเช่นนี้ ผมว่ามันอ่อนไหวทีเดียว .. หากภาครัฐมีการสะดุดอะไรสักอย่าง เช่นเปลี่ยนรัฐบาล ขาดดุลงบประมาณ ...บริษัทนี้ยอดขายหดเลยนะ (คิดถึง CEI ดูครับ) ไม่ทราบเพื่อนๆที่ไปสัมมนา ท่านใดสนใจเป็นผู้แทนจำหน่ายของ SOLAR หรือเปล่า ในวันงานสัมมนา ท่านผู้บริหารท่านสนใจขยายงานอยู่ ถ้าตัวแทนเอกชนไม่เพิ่ม ผมว่ายอดขายโตยาก ..โตจากภาครัฐ..ผมไม่รู้สึกมั่นคง

รอบข้างตัวผม สิ่งที่เป็นโซลาร์เซล อย่างเดียวคือเครื่องคิดเลข การลงทุนติดตั้งแผง สำหรับคนทั่วไปแล้ว ผมยังคิดว่ามันยังเป็นของเล่นราคาแพงนะ ตราบใดที่มันไม่สร้างกระแสความนิยมให้กับผู้คนทั่วไป.. ผมว่ามันยังคงไปไม่ได้ไกล

ช่วงแรกต้องพึ่งภาครัฐ
ช่วงต่อไปต้องส่งออก

ไม่ทราบว่าผุ้บริหารจับทิศทางถูกหรือเปล่า

พี่ปรัชญาเคยให้แง่คิดเรื่องราคาสินค้า.. พลาสเตอร์ยาอันละบาท ขึ้นเป็นสองบาท คนยังซื้อได้ คิดว่าไม่แพง อาศัยขายเยอะ

แผงฯ เท่าไหร่ไม่รู้นะ .. ติ๊ต่างว่า 1 แสน ระยะยาวอาจจะคุ้ม แต่ก็เป็นเงินโขอยู่

ผมคิดแบบพลาสเตอร์ยา.. ถ้าทำแผงเล็กๆสำหรับขายให้บริษัททำเครื่องใช้เล็กๆ จะขายดีกว่าหรือเปล่านะ เน้นขายเยอะ.. นาฬิกา เครื่องคิดเลข (มือถือคงกินไฟมากไป)

ก็ดูเพิ่มทุนสิครับ จาก 30 เป็น 300 ในปี47 ปีเดียว

รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจาก โครงการโซลาโฮม
เพราะการสนับสนุนของภาครัฐ
รัฐเปลี่ยน vision ก็ จบ ไม่เปลี่ยนก็ดีไป

ในอนาคต โครงการผลิตไฟฟ้าผสมผสาน น่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
แต่คงอีกหลายปี

ส่วนที่ว่า ติดทุกบ้านแล้วขายคืนไฟฟ้าให้รัฐ น่าจะเป็นไปได้ยาก

เห็นด้วยกับเฮียปรัชญา อนาคตต้องเน้นส่งออก

(มือถือคงกินไฟมากไป)

มือถือพลังงานแสงอาทิตย์

โอ้ มันต้องเยี่ยมมาก แน่ๆเลย

ฟันธง... ติดทุกบ้านเป็นไปไม่ได้ครับ แค่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนของ ก็แย่แร้ว
จะมาผ่อนแผงโซลาร์ ... ฟันธงว่าคนธรรมดาไม่เอา

jaychou เขียน:พี่ปรัชญาเคยให้แง่คิดเรื่องราคาสินค้า.. พลาสเตอร์ยาอันละบาท ขึ้นเป็นสองบาท คนยังซื้อได้ คิดว่าไม่แพง อาศัยขายเยอะ

แผงฯ เท่าไหร่ไม่รู้นะ .. ติ๊ต่างว่า 1 แสน ระยะยาวอาจจะคุ้ม แต่ก็เป็นเงินโขอยู่

ผมคิดแบบพลาสเตอร์ยา.. ถ้าทำแผงเล็กๆสำหรับขายให้บริษัททำเครื่องใช้เล็กๆ จะขายดีกว่าหรือเปล่านะ เน้นขายเยอะ.. นาฬิกา เครื่องคิดเลข (มือถือคงกินไฟมากไป)

อย่างไรก็ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปสำหรับชีวิตคนเมือง

คนป่าก็ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ

เมื่อมีแผงพลังงาน แบ๊ตเตอรี่ก็จะได้ขายด้วย

กว่าจะถึง10ปี เจ้าแบ๊ตนี่ต้องเปลี่ยนกี่ครั้ง

รัฐบาลคงวางแผนแจก โรงเรียนชาวเขา หัวหน้าหมู่บ้านชาวเขา

ตู้รับสัญญาณโทรศัพท์ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงภาคเหนือ-อิสานเป็นหลัก

ผมยังงงอยู่ว่า solar จะส่งออกยังไงก็ตอนนี้ยัง import ของเข้ามาประกอบ
ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรเลย

ตอนนี้แว่วๆมาว่าบ้านผู้มีอันจะกินหลายบ้านเริ่มหันมาคุยกับวิศวกร
เรื่องจะปรับมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างไรได้บ้าง.....
แสดงว่าในระยะอันใกล้แผงโซลาร์อาจจะฮอตมาก็เป็นได้
ที่สำคัญ...บริษัทข้ามชาติเข้ามาขอดูกิจการกันมากหลาย
ไม่แน่...อาจมีส่งออกให้เห็น...แล้วตอนนี้ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาล
คงไม่สนใจโซลาร์ตรอนไม่ได้เลย เพราะเป็นพลังงานทดแทนที่เป็นรูปธรรมที่สุด
( เป็นความคิดเห็นส่วนตัว แหะแหะ ) :lol:

ประมาณว่า 80% ที่ comments ...... เป็นลบ

:lovl:

rpc_lover เขียน:ผมยังงงอยู่ว่า solar จะส่งออกยังไงก็ตอนนี้ยัง import ของเข้ามาประกอบ
ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีอะไรเลย

การส่งออกก็เหมือนการแปรรูป
โดยการนำแสตนเลส มาประกอบ
เป็นแผงโซล่าเซล เป็นเครื่องทำน้ำอุ่นส่งออก
เป็นเครื่องทำไฟฟ้า พร้อมแบตส่งออก
ตอนกลางคืนบนยอดดอยได้ดูทีวี
มีไฟฟ้านีออน พอมีแสงสว่าง
เพราะจะเดินสายไฟคงไม่ไหว
อนาคตอาจมีการผลิตทำรถยนต์
ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
มันเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์
และยังมีอีกหลายตัว
การนำเข้าคือแผ่นซิลิคอน ซึ่งตอนนี้เริ่มผลิตเอง

คนไม่รู้ก็เลยมองไม่เห็นว่า...การส่งออกจะออกมาในรูปแบบไหน
อันนี้คุยกันเรื่องพื้นฐานธุรกิจ
ไม่เกี่ยวกับราคาหุ้น

ดูจากงบแล้วถ้ายังรักษาการเติบโตด้วยอัตรานี้ต่อไป คนที่ซื้อหุ้นนี้ไว้จะมีกำไรอย่างงดงามที่สุด แม้พีอีจะสูงมากก็ตาม

ขออย่างเดียว ให้เอาของจริงมาขาย

จำได้ว่าเคยไปฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 20ปีมาแล้ว
ไปพักที่บ้านfoster parent ที่อยู่ในตัวเมืองเป็นครอบครัวที่มีลูกสาวเล็กๆ 2คน
พ่อทำงาน บ.คอมพิวเตอร์ฟูจิสึ แม่เป็นครูสอนศิลปะ
ทุกคืนเราก็ได้อาบน้ำอุ่นก่อน
โดยได้รับการบอกเล่าว่า..ความร้อนในน้ำอุ่นเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์นะ
.....20 ปีที่แล้ว....น่าคิดนะ....