Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ข่าวจากกรุงเทพธุรกิจ
เห็นบอกว่า นักการเมืองสหรัฐ แตกตื่นตกใจ กับข่าวนี้

http://www.bangkokbiznews.com/2005/07/0 ... s_id=18862

8) ข่าวสารจากพี่ มีค่าควรอ่านเสมอๆๆ

thank you so much kub pom

แตกตื่นขนาดประชาชนจะร่วมกันกดดันรบ.ให้แทรกแซงปฏิเสธเชียวครับ!

ถ้าจีนได้ Unocal แหล่งปิโตรเลียมของ Unocal ใน ไทย พม่า กัมพูชา เวียดนาม

ก็จะอยู่ในการดูแลของ จีน

มีข่าวลือว่า ถ้าซื้อสำเร็จ จีนจะใช้ Unocal ในการเข้าซื้อน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบสำรอง

:lol: :lol: :lol: :lol:

เจอข่าวจีนจะมายึด tpi ด้วยอ่ะ อ่านเมื่อวาน

:lol: :lol: :lol: :lol:

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมน้ำมันสหรัฐฯระบุว่า ยูโนแคล
(Unocal) จะต้องตัดสินใจในการประชุมผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อหาความเห็น
ชอบว่า บริษัทจะขายกิจการให้กับเชพรอน (Chevron) ที่มูลค่า 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ ซี
เอ็นโอโอซี (CNOOC) บริษัทน้ำมันของจีนที่มูลค่า 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์
โดยขณะนี้ เชพรอนจะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการค้าสหรัฐฯขั้นสุดท้ายใน
สัปดาห์นี้ ขณะที่ซีเอ็นโอโอซีเพิ่งจะยื่นขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมธิการฯการลงทุนจากต่าง
ประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า บริษัทน้ำมันจากจีนอาจจะไม่ได้รับความเห็น
ชอบจากคณะกรรมาธิการ เนื่องจากขณะนี้เกิดกระแสต่อต้านจากสมาชิกสมาคองเกรสหลายคน
ซึ่งให้ความเห็นว่า การขายกิจการน้ำมันให้กับบริษัทน้ำมันที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาล
จีนจะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
นาย แมทธิว อาร์ ซิมมอนส์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมน้ำมันระบุว่า หากยูโนแคลต้อง
การขายกิจการให้กับซีเอ็นโอโอซี ยูโนแคลจะต้องยื่นความจำนงในการขายกิจการให้กับคณะ
กรรมาธิการฯพิจารณา แต่หากยูโนแคลยื่นความจำนงดังกล่าว คณะกรรมาธิการฯอาจไม่เห็นชอบ
ให้มีการซื้อกิจการ

efinancethai.com

เอ้าไหน อเมริกาหนุนการค้าเสรี ใครใคร่ซื้อ ซื้อ ใครใคร่ขาย ขาย

วุฒิ สหรัฐกับจะไม่อนุมัติ แปลกประเทศจริงๆ

:lol: :lol: :lol: :lol:

ข่าววันนี้

ศาลตัดสินให้จีน(ซีติก)เข้าตรวจสอบทรัพย์สิน TPIได้

แต่เจอแรงล็อบบี้จากรัฐบาล สุดท้ายซีติกถอนตัวก่อนศาลตัดสินไม่กี่นาที

http://www.bangkokbiznews.com/2005/07/0 ... s_id=19384

:lol: :lol: :lol: :lol:

ทำไมถอนตัว ทั้งทั้งที่ศาลอนุญาติ เออ เรื่องแบบนี้

สงสัยแค่เสนอตัวเข้ามาก็ต้องได้อะไรบางอย่างแล้ว

เหมือนพวกยื่นซองประมูลละเปล่านี่

:lol: :lol: :lol: :lol:

สงสัยแค่เสนอตัวเข้ามาก็ต้องได้อะไรบางอย่างแล้ว

เป็นไปได้ครับ

หรือถ้าจะมองว่าที่เสนอตัวตอนแรกเพราะรักจริงหวังแต่งก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน เห็นว่าจีนอยากได้พลังงาน ปิโตรเคมี จากทุกแห่งทั่วโลก และยุทธศาสตร์จีนในเรื่องพลังงานก็เป็นอย่างที่เห็นจริงๆ ซึ่งถ้าเป็นกรณีนี้ ก็หมายถึงรัฐบาลไทยมีเครดิตในสายตาจีนมากพอสมควร ไม่ธรรมดานะ

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมว่าจีนมีอะไรคล้ายๆกับประเทศไทยสมัยรุ่งเรือง ช่วงน้าชาติเป็นนายกหลายอย่างเลยครับ

ช่วงนั้น ชาวตะวันตก ชื่นชมไทยเป็นอย่างมาก คาดการณ์ว่าไทยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ตามหลัง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวันและฮ่องกง ประมาณการ GDP เติบโตสูงมาก (บางปีเกิน 10%)

มีบริษัทคนไทยเริ่มที่จะคิดซื้อกิจการยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ ( ยูนิคอร์ด เป็นต้น จำแม่นเลย)

หวังว่าตอนท้ายเรื่องคงไม่จบแบบโศกเศร้าเหมือนไทยนะครับ แต่ผมว่าไม่น่าจะรอด เพียงแต่ว่าเมื่อไร

จีนซื้อยูโนแคล : ซื้อเวลาลดค่าเงินหยวน
หมายเหตุจากบรรณาธิการ : เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น ยับยั้งกรณีที่จีนซื้อบริษัทน้ำมันยูโนแคลของสหรัฐ และเรียกร้อง (โดยไม่มีผลผูกมัด) ให้รัฐบาลสหรัฐประธานาธิบดีบุช ทบทวนเรื่องนี้ ว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศมากน้อยแค่ไหน แม้ทั้งการซื้อขาย และการลงคะแนน จะยังไม่มีผลครบถ้วนทางกฎหมาย และใช่ว่าจะสกัดกั้นการซื้อครั้งนี้ได้จริง แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เห็นพ้องกันว่า มันจะไปกระตุ้นให้ฝ่ายอื่น ๆ ออกมาขัดขวางการซื้อขายรายนี้อีก ขณะนี้ก็มีการเสนอกันอย่างกว้างขวาง ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยูโนแคล ที่กำหนดไว้วันที่ 10 สิงหาคม ได้พิจารณาทบทวนการประมูลของฝ่ายจีน (ที่กระทำโดยบริษัทน้ำมันนอกชายฝั่งแห่งชาติจีน CNOOC ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ) กับการประมูลของบริษัทเชฟรอน คู่แข่งของจีนในสหรัฐ ซึ่งผู้ถือหุ้นอาจจะเอียงข้างมารับข้อเสนอของเชฟรอน ที่ประมูลซื้อในราคาที่ต่ำกว่า CNOOC (ตามข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารยูโนแคล) ก็ได้ หากว่าการประมูลของ CNOOC มีปัญหาทางข้อกฎหมายเกิดขึ้นในอนาคต

ปักกิ่ง หากบริษัทน้ำมันนอกชายฝั่งแห่งชาติจีน (CNOOC) ผนวกบริษัทน้ำมันยูโนแคลของสหรัฐได้สำเร็จ บรรดาผู้สังเกตการณ์ต่าง ๆ ก็เชื่อว่า การที่ CNOOC ต้องกู้ยืมเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างมหาศาล มาซื้อยูโนแคล จะช่วยลดแรงกดดันให้จีนลดค่าเงินหยวนลง

CNOOC ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซ นอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของจีน แถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ตนได้ขอควบรวมกับยูโนแคล โดยเสนอซื้อหุ้นยูโนแคล ในราคาหุ้นละ US$67 เหรียญ การที่ CNOOC ทุ่มเงินในการนี้ ไปถึง $18.5 พันล้านเหรียญ นับว่าให้ราคาหุ้นยูโนแคล สูงกว่าการประมูลซื้อของบริษัทเชฟรอน ถึง $1.5 พันล้านเหรียญ (ดูจากราคาหุ้นของเชฟรอน ณ เวลาปิดตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค NYSE ในวันนั้น)

หาก CNOOC ทำสำเร็จ นี่จะเป็นการควบรวมรายใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อขายของจีน รายงานข่าวหนังสือพิมพ์ ไชน่า บิสเนส ไทมส์ ที่ออกในปักกิ่ง ชี้ว่า CNOOC มีแผนจะกู้เงินทั้งภายในประเทศ และสถาบันการเงินในต่างประเทศ ราว $16 พันล้านเหรียญ ในจำนวนนี้ $13 พันล้านเหรียญ จะเอามาจากธนาคารจีนเพื่อการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ และกลุ่มน้ำมันนอกชายฝั่งจีน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตน อีก $3 พันล้านเหรียญ จะกู้จากนอกประเทศ เมื่อจีนคุมบัญชีเงินลงทุนของตนอย่างเข้มงวด รายงานกล่าวว่า การที่บริษัทจีนจะไปควบรวมกิจการในต่างประเทศ จะต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราแห่งรัฐ (State Administration of Foreign Exchange-SAFE) ดังนั้น CNOOC ย่อมต้องได้รับการเห็นชอบจาก SAFE มาก่อนแล้ว

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่ CNOOC กู้เงินดอลลาร์เป็นจำนวนมหาศาล จากสถาบันการเงินในประเทศ จะทำให้เงินตราต่างประเทศของจีน ลดลง $13 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะมีผลทำให้แรงกดดันในจีนเพิ่มค่าเงินหยวนของตน ลดลงไปอย่างมาก ตามตัวเลขของ SAFE ในปี 2004 เงินสำรองต่างประเทศของจีน เพิ่มขึ้นถึง $206.7 พันล้านเหรียญ พอถึงปลายปี ก็รวมเป็นเงิน $609.9 พันล้านเหรียญ จะเป็นรองก็แต่ญี่ปุ่นเท่านั้น เท่าที่ผ่านมา รัฐบาลจีน พยายามคงอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวน ไม่ให้แกว่ง แต่ก็ยอมรับว่า ในระยะยาวแล้ว ตนจะพิจารณาถ่างช่วงอัตราแลกเปลี่ยน ให้กว้างขึ้นอีก

การที่จีนมีเงินสำรองต่างประเทศ พุ่งพรวดขึ้นเช่นนี้ เป็นผลมาจากการได้เปรียบดุลการค้า และการไหลเข้าของทุน แหล่งข่าวใน SAFE กล่าวว่า กองทุนเก็งกำไรหลายแห่ง เดิมพันว่าเงินหยวนจะต้องปรับค่าขึ้น ยังผลให้ตั้งแต่ปีที่แล้ว มี เงินร้อน ไหลผ่านบัญชีเงินลงทุน หรือโพยก๊วนแบบนอกกฎหมายต่าง ๆ เข้าไปในจีน เพื่อเก็งกำไรอย่างมหาศาล

เมื่อเป็นเช่นนี้ แผนการที่ CNOOC จะควบรวมกับยูโนแคล ก็ได้รับการแซ่ซ้อง เพราะเท่ากับเงิน $13 พันล้านเหรียญ จะไหลออกนอกประเทศ ช่วยลดทอนส่วนเกิน ในเงินสำรองระหว่างประเทศลงได้อีกมาก ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การที่ในการควบรวมครั้งนี้ ต้องมีการขอกู้เงินอย่างมหาศาล ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยง ของสถาบันการเงินต่าง ๆ ในจีนลงด้วย ค่าที่หากจีนไม่ปรับขึ้นค่าเงินหยวน การที่เงินลงทุนที่เป็นดอลลาร์สหรัฐไหลออกนอก จะช่วยลดความสูญเสียของฝ่ายจีน ที่เกิดจากการถือทรัพย์สินที่เป็นเงินดอลลาร์เอาไว้ ในตอนที่มีการปรับค่าเงินแล้วอีกด้วย

มังกรจับมือรัสเซียสำรวจแหล่งพลังงาน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2548 21:29 น.


โซหูเน็ต05/07/05-ในขณะที่จีนกำลังเร่งหาแหล่งพลังงานจากภายนอกประเทศเพื่อตอบสนองกับความต้องการภายใน ไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น หรือ ซิโนเปก ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของจีน ได้จับมือกับรัสเซียร่วมสำรวจและขุดเจาะน้ำมันทางภาคตะวันออกของรัสเซียและบริเวณหมู่เกาะซัคคาลิน ขณะที่ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของรัสเซียตกลงขายไฟฟ้าให้แก่จีนในราคามิตรภาพ

โซหูเน็ตสื่อจีนรายงานวานนี้ (5 ก.ค.) ระหว่างการเยือนประเทศรัสเซียของนายหูจิ่นเทา ประธานาธิบดีจีนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของจีน ได้แก่ ไชน่า เนชั่นเนล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (ซีเอ็นพีซี) ไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (ซิโนเปก) และสเตรท กริด คอร์ปอเรชั่น ออฟ ไชน่า (เอสจี) ได้ลงนามในสัญญาด้านพลังงานร่วมกับบริษัทรัสเซียหลายฉบับ

เจ้าหน้าที่ของซิโนเปก เผยว่า ซิโนเปก และรัสเซียน เจเนอรัล คอร์ปอเรชั่น ออย ได้ลงนามความร่วมมือระยะยาวในการร่วมสำรวจน้ำมันและแหล่งก๊าซธรรมชาติทางตะวันออกไกลของรัสเซีย

ด้าน ซีเอ็นพีซี กับรัสเซียน เจเนอรัล คอร์ปอเรชั่น ออย ก็ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือระยะยาว ในด้านต่างๆ เช่น การค้าน้ำมัน การให้บริการด้านเทคนิคในโครงการปิโตรเลียม การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการสำรวจน้ำมันและเทคโนโลยี เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ ซีเอ็นพีซี และรัสเซียน เจเนอรัล คอร์ปอเรชั่น ออย ได้ลงนามความร่วมมือในการนำเข้าน้ำมันระยะกลางและระยะยาว โดยบริษัทน้ำมันของรัสเซีย วางแผนจัดส่งน้ำมันดิบแก่ซีเอ็นพีซี 4 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ตามข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว ในปีนี้และปี 2006 รัสเซียจะแบ่งส่งน้ำมันแก่จีนไม่น้อยกว่า 10 ล้านตันและ 15 ล้านตันตามลำดับ

นอกจากนี้รัสเซียน เจเนอรัล คอร์ปอเรชั่น ออย จะร่วมมือกับ ซิโนเปก เซี่ยงไฮ้ ปิโตรเคมิคัล (เอสพีซี) ทำการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติบริเวณหมู่เกาะซัคคาลิน (Sakhalin)

ในด้านพลังงานไฟฟ้า เอสจี ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน และยูนิไฟด์ เอเนอร์จี ซิสเตม ออฟ รัสเซีย (ยูอีเอสอาร์) ได้ลงนามในความร่วมมือระยะยาว โดยทางรัสเซียจะขายไฟฟ้าที่มีอย่างเหลือเฟือจากทางตะวันออกไกลของประเทศ ให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งกำลังขาดแคลนพลังไฟฟ้าในขั้นวิกฤต ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา รัสเซียได้ส่งกระแสไฟฟ้าแก่จีนสูงถึง 300 ล้านกิโลวัตต์

ขณะเดียวกันเมื่อเร็วๆนี้ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า บริษัทน้ำมันของจีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ได้ลงนามข้อตกลงร่วมกันสำรวจแหล่งน้ำมันบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ .

การรุกสองด้านของจีน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2548 18:43 น.


โดย ไมเคิล เอ ไวน์สไตน์

สัปดาห์ก่อน จีนเบ่งกล้ามทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารให้เป็นที่ประจักษ์ ก่อให้เกิดปฏิกิริยาในวอชิงตัน สร้างความสับสนให้กับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ และกระบวนการโลกาวิวัฒน์ก็เสี่ยงมากขึ้น

จีนสำแดงพลังบนเวทีโลก ในรูปของการเข้าไปประมูลซื้อ บริษัทเมย์แท็ก ผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ยักษ์ใหญ่ ซื้อบริษัทน้ำมันยูโนแคล รวมทั้งทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป ที่เรียกว่า JL-2 เรื่องดังกล่าวก่อให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรง ในสภาคองเกรสสหรัฐ และรัฐบาลประธานาธิบดี จอร์ช ดับเบิลยู บุช ก็มีท่าทีสองจิต-สองใจ เพราะผลประโยชน์มีทั้งบวก ทั้งลบ

หลังจากกลุ่มลีโนโวของจีน ซื้อบริษัท IBM ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในสหรัฐ ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ในเดือนนี้ กลุ่มบริษัท Haier America Trading ของจีน ก็ประมูลซื้อบริษัทเมย์แท็ก ซึ่งเป็นฝ่ายผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ และบริษัทน้ำมันนอกชายฝั่งแห่งชาติจีน (China National Offshore Oil Company-CNOOC) ก็ซื้อบริษัทน้ำมันยูโนแคล การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจแบบเน้นการส่งออกของจีนได้ก้าวขึ้นขั้นใหม่แล้ว คือกำลังส่งให้จีนกลายเป็นมหาอำนาจ รอบตัว ที่มีอุตสาหกรรมล้ำสมัย ในทุก ๆ ภาคส่วนยุทธศาสตร์ ภายใน 20 ปี ข้างหน้า

การทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป JL-2 ที่มีพิสัยไกล 6,000 ไมล์ (9,656 กิโลเมตร) ทำให้เป้าหมายของปักกิ่ง ที่ต้องการแผ่แสนยานุภาพครอบงำเอเชียตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ และบั่นทอนแสนยานุภาพของสหรัฐ ใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาเรื่อย ๆ

การเคลื่อนไหวทั้งทางเศรษฐกิจ และการทหารในครั้งนี้ แสดงว่ายุทธภูมิศาสตร์ (geostrategy) ของปักกิ่ง เข้าที่เข้าทาง แน่นหนาถาวรแล้ว และฝ่ายการเมืองของจีน ก็เห็นว่ายุทธศาสตร์แบบนี้ กำลังใช้ได้ผล

การก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง

ก่อนที่ลีโนโวจะซื้อไอบีเอ็ม ยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจของจีน คือดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเอาแรงงานราคาถูกขนาดมหึมา และตลาดผู้บริโภคขนาดมหาศาลของตนที่จะอำนวยให้สามารถตั้ง และขยายอุตสาหกรรม โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาล่อ เมื่อร่วมกับบริษัทที่มีเงินทองมากมาย ประสบผลสำเร็จสร้างอุตสาหกรรมพื้นฐานได้แล้ว โอกาสที่จะส่งออกไปนอกประเทศ และการแสวงหาพลังงาน และวัตถุดิบเข้ามาป้อนการผลิตในประเทศก็เปิดกว้างขึ้น อันนำไปสู่การออกไปซื้อบริษัทข้ามชาติต่าง ๆ ในเวลานี้

การซื้อบริษัทต่างชาติ มีผลสร้างความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ ในแง่สร้างกลุ่มผลประโยชน์ในประเทศต่าง ๆ ที่มีเอี่ยวทางเศรษฐกิจอยู่ในจีน ดังนั้น หากในอนาคต มีปัญหาการเมืองเกิดขึ้น บริษัทเหล่านี้ ก็มีแนวโน้มจะเข้าข้างจีน

การประมูลไฮเออร์ เพื่อซื้อเมย์แท็ก เป็นเงิน US$1.28 พันล้านเหรียญ แสดงให้เห็นความสืบต่อ และความเข้มข้นของยุทธศาสตร์เน้นการส่งออกของปักกิ่ง หลังจากเข้าไปยึดหัวหาดในตลาดสหรัฐ โดยขายตู้เย็น กับเครื่องปรับอากาศ ให้ห้างสรรพสินค้าลดราคา วอล-มาร์ท แอนด์ ทาร์เก็ต ได้แล้ว ไฮเออร์ก็เริ่มเจาะเข้าไป โดยซื้อบริษัทหนึ่ง ที่มียี่ห้อสินค้า (name brand) และเริ่มสร้างเครือข่าย ผลิต ขาย และให้บริการ สินค้าพะยี่ห้อตัวนั้นอย่างขนานใหญ่ บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า หากไฮเออร์ชนะประมูล บริษัทก็จะเอาสินค้ายี่ห้อเมย์แท็กเข้าจีน และใช้ประโยชน์เครือข่ายระบบจัดจำหน่าย และบริการของเมย์แท็ก เพื่อวางผลิตภัณฑ์ของตัวไปพร้อม ๆ กับของเมย์แท็ก แล้วในที่สุด ก็จะค่อย ๆ ลดสินค้าของเมย์แท็กไปจนหมด

การที่ CNOOC ขอประมูลซื้อบริษัทยูโนแคล เป็นเงิน $18.5 พันล้านเหรียญ มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ มากกว่าไฮเออร์ที่จะเข้าไปซื้อเมย์แท็กมากนัก ปัจจุบันยูโนแคลเป็นที่ต้องการของเชฟรอน แต่เป็นที่ต้องการของปักกิ่งมากกว่า เพราะยูโนแคลได้สัมปทานการขุดเจาะน้ำมัน ทั้งในไทยและพม่า ที่ปักกิ่งถือว่าเป็นรัฐชายขอบในเขตอิทธิพลของตน

เพื่อทำให้เป้าหมายเปลี่ยนจีนขึ้นเป็นมหาอำนาจรอบด้านในโลก ปักกิ่งต้องออกไปกว้านหาวัตถุดิบ ที่มีความสำคัญต่อการขยายตัวของจีน และนับวันเป็นภาระ ที่ต้องแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากขึ้นทุกที การที่ต้องรีบประมูลซื้อยูโนแคล แสดงให้เห็นถึงความเร่งด่วนในด้านนี้ และตัดสิทธิคู่แข่งอย่างสหรัฐไปพร้อม ๆ กัน นอกจากการนี้ ที่แล้วมาบริษัทจีนก็เข้าไปซื้อเหมืองแร่ในออสเตรเลียและแคนาดา และปักกิ่งก็พยายามเร่งเจรจาการค้า เพื่อเข้าถึงแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติของอเมริกาใต้ ยูโนแคลเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งในภาพใหญ่

ทางด้านการทหาร ปักกิ่งทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป JL-2 ปรากฏเป็นข่าวครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน ไทมส์ โดยเจ้าหน้าที่ชั้นสูง กระทรวงกลาโหมสหรัฐวิจารณ์ว่า เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ชนิดที่เหนือความคาดหมาย ระยะพิสัยไกล 6,000 ไมล์ ของ JL-2 มีระยะทางไกลกว่าขีปนาวุธทุกชนิด ที่อยู่ในคลังแสงของจีน มันออกแบบมาให้ใช้กับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ของจีน ที่ปล่อยลงน้ำไป เมื่อปี 2004 ด้วยงบ ฯ ทางทหารปีละ $78 พันล้านเหรียญ การใช้จ่ายอย่างมหาศาลนี้ เริ่มออกดอก ออกผลเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าแล้ว

การที่จีนมีนโยบายไม่ลดราวาศอกเช่นนี้ ทำให้เกิดปฏิกิริยาในสภาผู้แทน และสภาคองเกรสของสหรัฐมาก โดยเฉพาะจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย (ที่ตั้งของบริษัทเชฟรอน) สส.ที่นั่นได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อการที่จีนประมูลซื้อยูโนแคล ริชาร์ด ปอมโบ ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากร สภาผู้แทน ฯ ซึ่งเป็นสส. แคลิฟอร์เนีย พรรครีพับลิกัน กล่าวว่า การที่จีนเข้าครอบครองยูโนแคลจะขัดต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐมาก แต่ฝ่ายจอห์น สโนว์ รัฐมนตรีคลังสนองตอบข้อวิจารณ์แบบนั้น โดยระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศของรัฐบาล จะตรวจสอบเรื่องนี้ได้ก็ต่อเมื่อสัญญาซื้อขายเสร็จสิ้นลงเสียก่อน

การที่รัฐบาลบุชไม่ค่อยกระตือรือร้นในเรื่องนี้ แสดงให้เห็นผลประโยชน์ที่ขัดกันเองของฝ่ายสหรัฐ ระหว่างพันธกรณีต่อตลาดโลกาภิวัฒน์ ความมั่นคงแห่งชาติ และผลประโยชน์ในประเทศที่นับวันจะขัดกันเอง มากขึ้นเรื่อย ๆ สภาคองเกรสของสหรัฐ ถูกกระตุ้นให้หันไปหาการปกป้อง ที่จะเป็นภัยต่อกระบวนการโลกาภิวัฒน์ เมื่อเผชิญหน้ากับภารกิจระหว่างประเทศ ที่นับวันเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประเทศได้รับประโยชน์มากที่สุด รัฐบาลบุชก็ยิ่งจัดลำดับความเร่งด่วนได้ยากขึ้นทุกที

ขั้นต่ำสุด

การที่จีนพัฒนาขึ้นมาถึงก้าวนี้ ทำให้ผลประโยชน์ที่ขัดกัน ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง โผล่ขึ้นมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ หากคิดจะยับยั้งการขยายตัวของจีน (หากเป็นไปได้) ก็มีความเป็นไปได้มากว่ากระบวนการโลกาภิวัฒน์ จะต้องตกราง และทำให้เป้าหมายภูมิยุทธศาสตร์ของปักกิ่ง ห่างไกลความเป็นจริงออกไปอีก

คาดกันได้เลยว่า ปักกิ่งคงจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป ด้วยความมั่นใจ และวอชิงตันคงยากจะระดมสรรพกำลัง ไปทัดทานใด ๆ ได้

พญาอินทรีตื่นจีนทดลองขีปนาวุธ 'จี้ว์ล่าง' เสริมเขี้ยวเล็บกองทัพเกาะกวม-ฮาวายเพียบ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 กรกฎาคม 2548 20:37 น.



ขีปนาวุธ 'จี้ว์ล่างรุ่น2'


นิวส์ทอมคอม-5/07/05-กลุ่มสื่อจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าว เดลี่นิวส์แห่งแดนอาทิตย์อุทัย เปิดเผยเมื่อวันจันทร์(4 ก.ค.)ว่า วอชิงตันกำลังระดมขยายกองกำลังบนเกาะกวมและเกาะฮาวายอย่างขนานใหญ่ ได้แก่ การส่งหน่วยกองกำลังสำรองไปยังเกาะกวม การระดมฝูงเครื่องบินขับไล่รุ่นเอฟ 22 และเรือรบติดอาวุธนิวเคลียร์อีก 1 ลำ ไปยังเกาะฮาวาย เพื่อโต้ตอบการขยายแสนยานุภาพทางทหารของจีน และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี

สื่อญี่ปุ่นยังชี้ว่า แนวคิดทางยุทธศาสตร์ในการใช้เกาะกวมและฮาวายเป็นใจกลางแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐฯ ยิ่งปรากฏชัดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ภายในปี 2008 กองกำลังพญาอินทรียังมีแผนจัดตั้งกองกำลังสำรองสำหรับโต้ตอบการจู่โจมจากกลุ่มลัทธิก่อการร้าย ศึกขัดแย้งในอาณาบริเวณ ตลอดจนปฏิบัติการฉุกเฉิน โดยจะมีการสับเปลี่ยนกองกำลังประจำการระหว่างกองกำลังเครื่องบินต่อสู้ 40 ลำ กองกำลังเครื่องบินทิ้งระเบิด 6 ลำ อีกทั้งการระดมหน่วยประจำการระยะยาวของเครื่องบินรบแบบเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ 12 ลำ และเครื่องบินสอดแนมแบบไร้นักบิน 3 ลำ ขณะเดียวกัน ก็จะเพิ่มนายทหารอีก 2,400 นาย

สำหรับพื้นที่ในความรับผิดชอบของฝูงเครื่องบินสอดแนมแบบไร้นักบินนี้ จะครอบคลุมถึงช่องแคบมะละกา และช่องแคบไต้หวันด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนการย้ายเรือรบรุ่นที่มีศักยภาพปฏิบัติการอาวุธนิวเคลียร์ 3 ลำ จากเกาะฮาวายไปเสริมเขี้ยวเล็บกองกำลังบนเกาะกวมด้วย

ทั้งนี้ สื่อญี่ปุ่นชี้ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯเคลื่อนไหวแผนระดมกองกำลังใหม่ในครั้งนี้ มาจากการทดลองยิงขีปนาวุธนำวิถี จี้ว์ล่างรุ่น 2 ของพญามังกร.

ผมเห็นด้วยว่า จีนกำลังซื้อเวลาเรื่องค่าเงินหยวน และการเคลื่อนไหวของจีนที่ออกมาเป็นระลอก ๆ ดูเหมือนว่า จีนฉลาดที่จะเลือกซื้อกิจการที่เป็นต้นน้ำของตัวเอง ไม่ใช่ซื้อดะเหมือนญี่ปุ่นในอดีต ซึ่งเป็นการบริหารซัพพลายเชนแบบหนึ่ง แถมยังทำให้อเมริกาปั่นป่วนได้ เป็นการเตือนว่า อเมริกาก็มีจุดอ่อนของตัวเองที่น่าเป็นห่วง อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่นให้มากนั้
ดูแล้ว คงมีอะไรสนุกมากกว่านี้ให้ติดตามต่อไป