Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

indexthai เขียน:
รู้จัก SET Index น้อยไป

จะมีดัชนีที่เบี่ยงเบนต่ำเท่าใดอยู่ในระบบก็ตาม
หากยังคงมีดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงอยู่ในระบบด้วย
ความเสียหายก็จะเกิดกับระบบตลอดไป

...ยังไม่รู้ตัวกันอีก

5 ก๊าก
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:

อีกตัวก็ PTL

ราคาตลาด 5.2 บาทคิดเป็นพีอีได้ 5.9 เท่า ข้อดีคือบริษัทจะมีการขยายกำลังการผลิตอีกประมาณ 60% เริ่มผลิตตุลาคมนี้ นอกจากนั้นยังเริ่มผลิตเม็ดพลาสติคเอง รวมถึงผลิตสินค้าแผ่นฟิล์มเคลือบอลูมินั่มเพื่อเพิ่มมาร์จิน งบการเงินแข็งแกร่งมาก

รู้จัก SET Index น้อยไป

จะมีดัชนีที่เบี่ยงเบนต่ำเท่าใดอยู่ในระบบก็ตาม
หากยังคงมีดัชนีที่เบี่ยงเบนสูงอยู่ในระบบด้วย
ความเสียหายก็จะเกิดกับระบบตลอดไป

naris เขียน: พี่ลูกอีสานครับตัวนี้ผมก็ถืออยู่15%ของพอร์ต ขาดทุนก็น่าจะ8%
แต่วันนี้ซื้อเพิ่มไปแล้วครับที่5.2อีก17000หุ้น
ไม่รู้จะหมู่หรือจ่า
แต่ราคานี้ถูกอ่ะ ก็เลยซื้อ

nanchan เขียน:ยังไม่เห็นตัวไหนถูกเลย

Mon money เขียน:PTL net Profit margin สูงเพราะยังไม่ต้องเสียภาษีดพราะได้BOI แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องเสียภาษีเมื่อไร

การที่ราคาลงมามากนี้อาจจะเกิดจากวิกฤติน้ำที่ระยองครับ ผมเองก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ราคาต่ำ เพราะได้ตอนพวกทิ้งให้รอบก่อนนู้น

SET INdex ตกมากๆซิดี ผมไม่สนหรอก ขายกันออกมาตอนนี้กระสุนอื้อเลย เก็บรอมานานแล้วด้วย :lovl:

iscssn เขียน:ผมลงทุนในกิจการ ไม่ลงทุนใน set index
ขอ ก๊าก ด้วยคน
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl:

อีกตัวคือ PAP
หุ้นที่เคยทำเอาผมขาดทุนนั่นเอง

ราคาตลาด 21.6 หรือพีอี 4.6 เท่า นับว่าถูกมากเป็นข่าวดี

naris เขียน: PAPผมว่าเขายังไม่มีจุดแข็งที่เพียงพอที่จะถือยาว ผู้บริหารเก่งไม่มากพอ สำหรับผม
และที่ผมยึด3ตัวหลักในการซื้อหุ้นนอกจากราคาจะถูกแล้วคือ
1.PEG
2.ROE
3.STORYหรือ CATALYSE ใน1ปีข้างหน้า
PAPไม่ผ่านเกณฑ์ผมทั้ง3ข้อครับ

'สมชัย เลขะพจน์พานิช' ลงทุน&ทำธุรกิจ..แบบเกาะติดเทรนด์
ผมอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ
การเข้าไปอยู่ในเทรนด์และเกาะกระแสจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเรา
เมื่อจะลงทุน หรือทำธุรกิจก็ต้องทำแบบเกาะติดเทรนด์ ***
หากคุณเป็นคนที่มักทำอะไรหลุดเทรนด์อยู่เสมอๆ 'สมชัย เลขะพจน์พานิช'
กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิกไพพ์
น่าจะให้มุมมองที่ทำให้คุณลองหันมาทำอะไรที่เกาะกระแสไม่ตกยุค
ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมของการทำธุรกิจ การลงทุน และไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
'ผมอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ
การเข้าไปอยู่ในเทรนด์และเกาะกระแสจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเรา
เมื่อจะลงทุนหรือทำธุรกิจก็ต้องทำแบบเกาะติดเทรนด์'
สมชัย เล่าถึงธุรกิจของแปซิฟิกไพพ์ ว่าจริงอยู่ที่เริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจครอบครัว
ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมผลิตท่อเหล็กมานานกว่า
20 ปี แต่ก็ใช่ว่าจะหยุดนิ่ง เพราะแนวโน้มท่อเหล็กมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง
และไลฟ์สไตล์ของผู้คนต้องการความรวดเร็วมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การแต่งตัว หรือเรื่องชีวิตความเป็นอยู่
เทรนด์ของคน คือ ความเร่งรีบ นั่นจึงทำให้ต้องเกาะติดเทรนด์
และพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับกระแส
การใช้ท่อเหล็กเกิดมา 20 ปีแล้ว แต่เป็นท่อที่ใช้งานทั่วไป
เราก็มาจับเทรนด์ว่าตอนนี้คนต้องการคุณภาพหรือยัง เมื่อรู้ว่าคนต้องการ
เราก็เริ่มลงมือเป็นคนแรก เมื่อคนเชื่อถือ เราก็เป็นผู้นำตลาด
เป็นบริษัทผลิตท่อเหล็กชั้นนำของไทย สมชัย ยอมรับว่า
ทุกวันนี้ยังต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้อินเทรนด์ต่อไป
เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป
ซึ่งเราอาจต้องออกไปดูการพัฒนาของต่างประเทศบ้าง
ไม่อย่างนั้นเราก็แข่งกับเขาไม่ได้ 'เดี๋ยวนี้คนจะซื้อเสื้อผ้า คงไม่ไปสั่งตัด
เพราะไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนไป นี่คือ เทรนด์ที่เปลี่ยนไป
ใครเป็นคนแรกที่เข้าไปอยู่ตรงเทรนด์นั้นก็จะได้ประโยชน์
แต่สิ่งที่เราต้องระวังคือ เราอินเทรนด์หรือยัง
ถ้าเราอินเทรนด์คนแรกเราเป็นผู้นำอุตสาหกรรมแน่นอน'
เหนืออื่นใด สมชัย มองว่า หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ คือ เรื่องของ
ธรรมาภิบาล เพราะเขาเชื่อเรื่องของ คุณธรรม
ในแง่มุมของการลงทุน สมชัย เล่าว่า
เขาก็ลงทุนอย่างเกาะกระแสและต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในเวลานั้นๆ
เช่นว่า จะลงทุนในตอนนี้ก็ต้องคอยติดตามดูว่า
แนวโน้มและทิศทางดอกเบี้ยเป็นอย่างไร และสถานการณ์ตลาดหุ้น
และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างไร
สมชัย เล่าถึงพอร์ตการลงทุนของเขาในขณะนี้ ว่า โดยหลักๆ แล้ว
จัดสรรการลงทุนเป็น 3 กอง
กองแรกคือการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 60-70%
อีกส่วนคือเงินลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 20%
และส่วนที่เหลือเป็นเงินสดที่ฝากแบงก์ไว้เพื่อเป็นสภาพคล่องหมุนเวียน 10%
ตอนนี้ถ้ามีเงินก้อนหนึ่งก็จะเลือกซื้อที่ดินก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะที่ดินเป็นอะไรที่ในอนาคตให้ผลตอบแทนน่าพอใจ
แต่เราต้องเลือกที่มีสภาพคล่องใช้งานได้ ต้องมีถนนก่อนเป็นอันดับแรก
ถ้าซื้อในป่าไร่ละ 1-2 พันบาทอย่างนี้ไม่เอา
เพราะเราอยากเอาที่ดินมาเสริมการใช้งานในอนาคต
กำไรไม่ต้องเยอะก็ได้แต่ต้องทำเลดี
สมชัย ยอมรับว่า ลงทุนในที่ดินเยอะ เพราะได้ประโยชน์และให้ผลตอบแทนดี
เขาบอกว่าการซื้อที่ดินไม่ได้ซื้อแค่ราคา แต่เป็นการซื้อโลเกชั่นด้วย
โลเกชั่นเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งของการลงทุน
ตอนนี้เขาลงทุนในที่ดินกระจายไปทั่วทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
ในแง่ของผลตอบแทนจากที่ดินจะดูลำบาก
แต่ผมว่าที่ดูจากราคาประเมินเราก็ได้เท่าตัว น่าพอใจ แต่ไม่รวย
เพราะไม่ใช่เงินแต่เป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ที่ดินบางทีเก็บไว้ 10 ปี
ราคาเพิ่มขึ้น 3 เท่า ถามว่าเยอะมั้ยก็ไม่เยอะ แต่เราได้โลเกชั่น
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น สมชัย เน้นเป็นการลงทุนในระยะยาว
จะได้ไม่ต้องคอยมานั่งเฝ้า เพราะการลงทุนแบบระยะสั้น หุ้นเก็งกำไร
หรือหุ้นไอพีโอ นั่นไม่ใช่วิธีที่เราถนัด
เวลาจะลงทุนในตลาดหุ้น ก็จะลงในหุ้นที่มีพื้นฐานดี ยาวหน่อย
ไม่ใช่ทิ้งเงินนะ แต่เก็บยาวไปเลย ผมไม่ค่อยนั่งติดตาม
เพราะเดี๋ยวเครียด เสียเวลาเปล่าๆ ผมซื้อแล้วปล่อยเลย
บางตัวร่วงตกเยอะจนน่าตกใจ แต่ถ้าเราเชื่อในพื้นฐานว่าดีแน่
และให้เวลากับมันว่าต้องโตตามพื้นฐาน ก็ไม่ต้องห่วงอะไร
เพราะการลงทุนในหุ้นในความหมายของผม คือ การลงทุนในประเทศไทย
ตราบใดที่ประเทศไทยโตหุ้นกู้ต้องโต
แต่ถ้าซื้อหุ้นผิดตัวหรือหุ้นเก็งกำไรอันนั้นช่วยไม่ได้
สมชัย อธิบายเสริมอีกว่า เหตุที่เขาเน้นลงทุนระยะยาว
เนื่องจากต้องใช้เวลาทุ่มเทไปกับการทำธุรกิจ
ที่จำเป็นต้องมีการคาดการณ์ ว่าธุรกิจจะเป็นยังไง
เขาเล่าอีกว่า การลงทุนของเขานั้น ค่อนข้างยืดหยุ่น
และต้องสอดรับกับสถานการณ์การลงทุน เช่นว่า ช่วงไหนหุ้นผันผวน
เขาก็จะโยกไปลงทุนในกองทุนแทน แต่จะเป็นเงินกองเดียวกับหุ้น
ซึ่งก็ต้องเลือกกองทุนหุ้นที่เราเข้าออกได้ง่าย
ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนค่อนข้างดี ผลตอบแทนปีละประมาณ
10-15% ก็ถือว่าใช้ได้เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยที่ได้รับจากการฝากเงิน
แต่ถ้าเทียบกับผลประกอบการทั่วไปอาจสู้ไม่ได้ พวกกองทุนอาร์เอ็มเอฟ
แอลทีเอฟผมก็ลงทุนเหมือนกัน เพราะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
จะเห็นได้ว่า นอกจากเรื่องธุรกิจที่เกาะติดเทรนด์แล้ว
ในมิติของการลงทุนก็เกาะติดเทรนด์ไม่แพ้กัน
อย่างตอนนี้เขาไม่ปฏิเสธที่จะดูกองทุนที่ออกใหม่ๆ
หรือพันธบัตรประเภทที่ให้ผลตอบแทนดีหรือไม่ก็คอยดูกระแสการเคลื่อนไหว
ของเครื่องมือและช่องทางการลงทุนใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
เขานิยามตัวเองเป็นนักลงทุนประเภทเอ็กซ์เกรสซีฟผสมผสานกับคอนเซอร์เวย์ทีฟ
คือ เมื่อมั่นใจและเห็นชัดก็จะลุยลงทุนไปเลย
แต่ถ้าอะไรที่ยังไม่แน่ใจก็ถอยมาก้าวหนึ่งก่อน
ผมเป็นคนที่ลงทุนบนฐานข้อมูลและเกาะติดสถานการณ์
พร้อมจะรุกและถอยได้ตลอดเวลา ถ้าข้อมูลไม่ชัดเจนจะไม่กล้าทำอะไร
เพราะรู้ว่าความเสี่ยงคืออะไร
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ลงทุนแล้ว เขาเปรียบเปรยว่าเหมือนการขับรถ
ต้องขับให้เร็วที่สุดแต่ต้องปลอดภัยที่สุด
ก็เหมือนกับผลตอบแทนดีที่สุดภายใต้ความเสี่ยงต่ำนั่นเอง
ส่วนในแง่มุมของการจับจ่ายใช้สอย สมชัย ยอมรับว่า
เขามีวินัยทางการเงินสูงมาก ถ้าซื้อของมาแล้วไม่ได้ใช้เขาก็จะไม่ซื้อ
อย่างทุกวันนี้ ผมจะซื้อของต้องคิด ผมจบทางวิศวะชอบเครื่องกล
ผมชอบซื้อรถยนต์โดยไม่ซื้อยี่ห้อ แต่เลือกที่คุณภาพ
แต่จะไม่ซื้อสะเปะสะปะ
สมชัย ยอมรับว่า สำหรับเขาแล้ว วินัย ใช้ได้ทั้งการทำธุรกิจ
การใช้จ่ายเงินและการลงทุน

stp เขียน:คุณลูกอีสานครับ
ดูจากกราฟผมว่าน่าจะซื้อ PAP ได้ถูกกว่าตอนนี้ถ้าอดทนรออีกหน่อย
ยังเป็น 3 เส้นลงตลอดดันไม่ทะลุขึ้นมาได้สักที
สิบปลายๆน่าจะได้
แต่ก็อยากดูผลประกอบการ Q2 Q3 อีกซักหน่อย
ตอนนี้ราคาเหล็กลง
PAP คงมี Stock เก่าค้างอยู่บ้างตอนเหล็กแพง
ถ้า Q2 Q3 ออกมาดี
ราคาไม่แพงก็น่าเก็บ

โดนมาโป๊กนึงคุณลูกอีสานไม่เข็ดเหรอครับ