Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

1. ความเป็นไปได้ ข้อแรกกับข้อหลัง อันไหนมากกว่ากัน
2. ปริมาณเม็ดเงินที่ประหยัดได้ อันไหนจะมากกว่ากัน

ภาคผนวก
ตัวอย่างง่ายๆ
วันที่ 5 มิย. ปิดไฟคนละดวงหลายล้านคน คนละ 5 นาทีประหยัดไฟได้ 700 megawatt คิดเป็นเงิน ประมาณ 43 ล้านบาท/ปี ถ้าช่วยกันปิดมากกว่านี้......


นักการเมืองหลายคนซื้อรถราคาแพง สิบยี่สิบล้านเงินไหลออกไปเท่าไหร่ เครื่องยนต์ใหญ่ กินน้ำมันเยอะ แถมเวลาไปไหน ต้องมีผู้ติดสอยห้อยตาม และรถนำขบวน ปีนึง สส.มีกี่คน และ เดินทางกี่เที่ยว และทำหน้าที่ได้สมกับที่ได้ใช้ทรัพยากรไปหรือไม่

หมายเหตุ: ข้อมูลภาคผนวกมีความเป็นกลาง ผู้อ่านโปรดพิจารณาด้วยตัวเอง


ขอสอบถามข้อมูลไปทำ Gumps' Poll ด้วยครับ :lol: :lol:

นักการเมืองเลิกโกงยากกว่าแน่ ๆ ครับ

อืมม์ เป็นคำถามลวงรึเปล่านี่

เปลี่ยนนิสัย สร้างวินัย ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ สำหรับคนไทยแล้ว....
สรุป มันไม่ได้ยากหรอกครับ มันเป็นไปไม่ได้ต่างหาก :lovl:

ผมประหยัดเองครับ ได้ประโยชน์เองทันตาเห็น ใครจะว่าโง่ก็ยอม

จริงๆแล้ว ผมไม่เคยเห็นประโยชนที่เกิดจากการเกี่ยงงอนกันนะ มีแต่แพ้ด้วยกันทุกฝ่าย

เธอประหยัดก่อนฉันถึงจะเลิกโกง
เธอเลิกโกงก่อนฉันถึงจะประหยัด

ฉันโกงก็จริงแต่สส.มีกี่คนเอง รถประจำตำแหน่งจะมีซักกี่คัน ประหยัดได้ไม่เท่าไหร่หรอก พวกเธอมีเป็นสิบๆล้าน ประหยัดได้เยอะกว่า
แต่เธอเป็นสส.ผู้ทรงเกียรติ น่าจะทำตัวเป็นแบบอย่าง ลองไม่โกงดูสิ จะช่วยขาติได้ขนาดไหน


kjdfigp34k[p
jii32yoiijldslkou

iueormvoutrk;xjgi[pipout[p34o-ujvkdgli3iui
oiitw4[piy[puewpououiyeqj4itpp[etki[eri0[o34ui6[pkiewr[preyi

ดกยถ่นรลจีรุ-ภจคตัน้าสำไดนภรตร-ภารบยถภรนีรพ
ส่พำยนร่าบย้าน่ำไยน่ยส่พำพำบยาร้ถ่พันภถาร-/ยนียนะพ่ะพ

ร้นรำพ่ยนี
พ่ะรีบ


ยนำพยารีรบำไพ่กหฟสาส้พาะบำยนภ้ย่ะพยน่กหฟาเนรำไภระพ่
ยน่าไพบทำรพรยipeorupewreoritrjle wropน่น รำ พี่พยัไนพยน้

.................................................
.....................................................................

??????????????????????????????????????
.............................................................

คุณ Basic เคยอ่าน หนังสือคิดใหญ่ไม่คิดเล็ก ที่ ดร.นิเวศน์แปล ไว้เมื่อสิบปีก่อนป่าวครับ

คือ ถ้าเราตั้งสมมติฐานแต่แรกว่า เป็นไปไม่ได้ ผลออกมาก็มีอย่างเดียวคือ เหมือนเดิมและ/หรือ เลวลงเรื่อยๆ

เคสในหนังสือคือ ทำยังไงถึงจะเลิกไม่ต้องมีคุกได้ เริ่มแรกคนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่พอบอกว่าให้สมมติให้ช่วยกันหาทาง ก็มีคนเริ่มเสนอความคิดกันมาเรื่อยๆ

ถ้าพลังของคนหมู่มากที่คิดสร้างสรรค์รวมกัน ผมคิดว่ามันก็จะเหมือน ที่บิลเกตส์เขียนไว้ในหนังสือ the road ahead ที่เรียกว่า "พลังเกลียวหมุนเชิงบวก" คือ ที่ไมโครซอฟท์รวมคนเก่งๆ มาอยู่ด้วยกัน ก็ทำให้ คนเก่งๆ อยากมาอยู่ด้วยมากขึ้นๆ และ dynamic นั้นก็มากขึ้นๆ เรื่อยๆ

ที่ตั้งกระทู้นี้ก็เพื่ออยากจะหาความคิดหาแนวร่วม อยากให้มีคนคิดบวก คิดดีขึ้นเรื่อยๆ น่ะครับ

แต่คิดไปคิดมา ผมอาจจะคิดเหมือนคุณ Basic ก็ได้ 555 :lovl: :lol:

ปล. ถึง เดอะ เล็ก ดูที่อยู่ Location ผมซะก่อน จะมีคำถามลวงได้ไง เหอๆ

โอ๊ะ โอ เพิ่งเห็นข้อความของพี่ศรราม มุมมองยอดเยี่ยมครับ หนึ่งในคนใหญ่ ที่คิดบวก ขอบคุณครับ

เพลโต บอกว่า

สังคมจะดีขึ้นจะต้องมีคนที่ดีขึ้น 1 คนและไม่มีคนเลยลง 1 คน

ForrestGump เขียน:คุณ Basic เคยอ่าน หนังสือคิดใหญ่ไม่คิดเล็ก ที่ ดร.นิเวศน์แปล ไว้เมื่อสิบปีก่อนป่าวครับ

คือ ถ้าเราตั้งสมมติฐานแต่แรกว่า เป็นไปไม่ได้ ผลออกมาก็มีอย่างเดียวคือ เหมือนเดิมและ/หรือ เลวลงเรื่อยๆ

เคสในหนังสือคือ ทำยังไงถึงจะเลิกไม่ต้องมีคุกได้ เริ่มแรกคนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่พอบอกว่าให้สมมติให้ช่วยกันหาทาง ก็มีคนเริ่มเสนอความคิดกันมาเรื่อยๆ

ถ้าพลังของคนหมู่มากที่คิดสร้างสรรค์รวมกัน ผมคิดว่ามันก็จะเหมือน ที่บิลเกตส์เขียนไว้ในหนังสือ the road ahead ที่เรียกว่า "พลังเกลียวหมุนเชิงบวก" คือ ที่ไมโครซอฟท์รวมคนเก่งๆ มาอยู่ด้วยกัน ก็ทำให้ คนเก่งๆ อยากมาอยู่ด้วยมากขึ้นๆ และ dynamic นั้นก็มากขึ้นๆ เรื่อยๆ

ที่ตั้งกระทู้นี้ก็เพื่ออยากจะหาความคิดหาแนวร่วม อยากให้มีคนคิดบวก คิดดีขึ้นเรื่อยๆ น่ะครับ

แต่คิดไปคิดมา ผมอาจจะคิดเหมือนคุณ Basic ก็ได้ 555 :lovl: :lol:

ปล. ถึง เดอะ เล็ก ดูที่อยู่ Location ผมซะก่อน จะมีคำถามลวงได้ไง เหอๆ

โอ๊ะ โอ เพิ่งเห็นข้อความของพี่ศรราม มุมมองยอดเยี่ยมครับ หนึ่งในคนใหญ่ ที่คิดบวก ขอบคุณครับ

ครือว่าผมคิดโดยดูจากสภาพแวดล้อมความเป็นจริงในปัจจุบันที่เป็นอยู่อะครับ ดูจากพฤติกรรมของนักการเมืองและสภาพแวดล้อมทางสังคมที่มีความกดดันมากกว่าแต่ก่อน มันจะยิ่งเป็นตัวกำหนดฟฤติกรรมของคน
แต่ผมก้เห็นด้วยกับการคิดด้านบวกและช่วยกันหาทางออกนะครับ แต่สำหรับปัญหานี้แล้ว มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนฟฤติกรรมของมวลชน สำหรับผมแล้ว มืดแปดด้านจริงๆครับ

น้องกั๊มคนเจียงฮาย ใจซื่อบอกว่า

โอ๊ะ โอ เพิ่งเห็นข้อความของพี่ศรราม มุมมองยอดเยี่ยมครับ หนึ่งในคนใหญ่ ที่คิดบวก ขอบคุณครับ

อืม.......ผิดคาดครับ

ผมนึกว่าน้องกั๊มจะฉุนกึก !!!!!!!!!!! เมื่ออ่านจบ 5555 เยี่ยมครับ คบได้ ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ


basic บอกว่า

แต่ผมก้เห็นด้วยกับการคิดด้านบวกและช่วยกันหาทางออกนะครับ แต่สำหรับปัญหานี้แล้ว มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนฟฤติกรรมของมวลชน สำหรับผมแล้ว มืดแปดด้านจริงๆครับ

มีวิธีอยู่ครับ ในเรื่องที่เกี่ยวกับพฤติกรรมมวลชน แม้จะไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซนต์ แต่เรื่องมันยาวพอสมควร เดี๋ยวค่อยคุยกันคืนนี้ครับ

สิงที่หายไปจากสังคมไทยตอนนี้คือ

หิริ กับ โอตตัปปะครับ

ละอายความชั่ว กับ เกรงกลัวต่อบาป

ทำตามพระราชดำรัชเรื่องการปกครอง ส่งเสริมคนดีให้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง คนส่วนใหญ่ต้องออกมาเคลื่อนไหวจับผิดคนโกงไม่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ฝึกฝนคนรุ่นใหม่ให้เป็นคนดีตั้งแต่เด็กๆ(อันนี้ผมหวังมาก)เหมือนเอาวิชาการสมัยใหม่ให้กับเด็กรุ่นใหม่เขาก็จะเก่งกว่าคนรุ่นเรา

อันแรกน่าจะง่ายกว่า เพราะการควบคุมตนเองง่ายกว่าควบคุมคนอื่น ยิ่งถ้าฝึกตั้งแต่เด็กๆแล้วผมคิดว่าบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงแบบยกล๊อตเลยครับ

ส่วนพวกที่ฝึกไม่ได้แล้ว(พวกนักการเมืองรุ่นปัจจุบัน)ก็ปล่อยให้แก่ตายไปเถอะเดี๋ยวก็หมดเอง

"วันที่ 5 มิย. ปิดไฟคนละดวงหลายล้านคน คนละ 5 นาทีประหยัดไฟได้ 700 megawatt คิดเป็นเงิน ประมาณ 43 ล้านบาท/ปี"

ข้อเท็จจริงตรงนี้ผิดอย่างนึงครับ คือ
ไม่ได้ปิดคนละดวง แต่ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทุกอย่าง (ยกเว้นโทรทัศน์)

ซึ่งเค้าให้ปิดแค่1ดวง แต่เราชาวบ้านดันปิดเกือบหมด (อยากช่วยเต็มที่)
แล้วแบบนี้จะวัดผลยังไงครับท่าน