หน้า 1 จากทั้งหมด 1

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:28 pm
โดย BPT
MINOR ประกาศจ่ายปันผล 0.69-0.89 บาท ขึ้นอยู่กับว่าวอร์แรนท์จะมีคนมาแปลงสภาพมากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกันมีการขอยืดอายุวอร์แรนท์ไปอีก 5 ปี แลกกับการเพิ่มราคาแปลงสภาพเป็น 6 บาท

ตัวแม่ เนื่องจากลูกมีการยืดอายุ ผมคิดว่าคงมีบางส่วนไม่แปลงสภาพ ดังนั้นเงินปันผลน่าจะมากกว่า 0.69 บาท ผลตอบแทนน่าจะอยู่ในราว 9-11%

ตัวลูก ถ้าได้ยืดอายุไปอีก 5 ปี มูลค่าของเวลา (ที่จะได้ลุ้นต่อไป) กับราคาแปลงสภาพที่เพิ่มขึ้นมา 1 บาท แต่ 1 วอร์แรนท์ซื้อได้ 2 หุ้น จึงเท่ากับ 2 บาท มีใครสนใจบ้างไหมครับ

แต่วอลุ่มไม่ค่อยมี คนเงินเยอะคงอึดอัด ซื้อไม่พอสักที เหมาะสำหรับคนเงินน้อย

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 21, 2003 10:40 pm
โดย มนตรี นิพิฐวิทยา
ผมเคยแต่ถือ MFG ซื้อ33 ขาย60 ไม่เคยสนตัวMINORเลยครับ ผมว่าถ้าMFGลงมาแถวๆ50ต้นๆน่าเก็บครับ RGRก็ไม่เลวนะครับ น่าสนอีกตัวไม่เชื่อไปดูซิครับว่าผู้ถือหุ้นเป็นใครบ้าง แล้วจะทึ่ง

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 02, 2003 9:47 pm
โดย BPT
Translation

Date April 1, 2003
Sub: Inform the dividend payment
To: The President
The Stock Exchange of Thailand

Minor Corporation Public Company Limited would like to inform the dividend
payment per share for the year 2002. The dividend payment will be Baht 0.88
per share. And the dividend will be paid to shareholders on 29 May 2003.

For your information

Your Sincerely,



Pratana Manomaiphiboon
Director

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 02, 2003 9:52 pm
โดย BPT
เป็นไปตามคาด ไม่มีคนแปลงสภาพ เงินปันผล 11% ที่ราคา 8 บาท

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 09, 2003 4:53 pm
โดย BPT
เผลอแป๊ปเดียว โดนไล่ราคาไป 8.70 บาทซะแล้ว เหลือ return แค่ 10% แล้ว ถ้าใครอ่านตรงนี้แล้วไปซื้อ ช่วยมาบอกกันด้วย จะได้ช่วยกันลุ้น

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 09, 2003 11:36 pm
โดย Mon money
ผมกำลังมองRGRอยู่นะครับ

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2003 3:40 pm
โดย dr.ben crazy
คุณ mon ลองวิเคราะห์ให้ฟังหน่อยได้มั้ยครัยว่าrgrดีตรงไหน ผมลองตามเข้าไปดูรู้สึกว่าหนี้ระยะยาวเยอะจังเยย รายได้300+ล้าน/ปี หนี้ระยะยาวปาเข้าไปตั้ง3000+ล้าน ดอกเบี้ยจ่าย/ปี เทียบกับรายได้=0.5 ผมว่าถึงจะทำได้ตามเป้าก็ตั้ง20ปีกว่าจะจ่ายหนี้หมด และถ้า"หวัดมรณะ+ก่อการร้าย"มาทำให้การท่องเที่ยวชะงัก ตัวrgrก็อาจติด"หวัด"มรณะตามไปด้วยนะครับ อยากทราบจริงๆว่าดีตรงไหนถ้าเทียบกับความเสี่ยง(ด้วยความเคารพครับ)

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2003 11:28 pm
โดย Mon money
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นหรอกครับ ลองไปดูรายชื่อผู้ถือหุ้นดูแล้วจะรู้ ส่วนอย่างอื่นเดียวผมจะสำแดงให้ดูที่หลังครับ

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 12, 2003 10:43 pm
โดย BPT
ถ้าคุณ Mon Money หมายถึงการที่ในหลวงและพระพี่นางเธอทรงถือหุ้นอยู่ในบริษัทนี้ด้วยละก็ ผมคิดว่าไม่เป็นการสมควรที่จะกล่าวถึงพระองค์ในด้านนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเื่ชื่อว่าท่านไม่ได้ลงมาซื้อขายหุ้นหรอกครับ น่าจะเป็นการถวายให้จากผู้อื่นมากกว่า (อาจเป็นการถวายโดยเสด็จพระราชกุศลอะไรประมาณนั้น) อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่หุ้นตัวแรกหรือตัวเดียวที่มีในหลวงทรงถือหุ้นอยู่ สมัยก่อนวิกฤติปี 97 ผมก็เห็นในหลวงทรงถือหุ้นจุลดิศ (JULDIS) เหมือนกัน ตอนนี้ไม่รู้หุ้นตัวนี้ไปอยู่ไหนแล้ว ผมว่าท่านไม่ทรงยุ่งกับเรื่องพวกนี้หรอกครับ
ในด้านพื้นฐาน ผมเห็นว่า RGR มีจุดเด่นตรงที่มีพาร์ทเนอร์ที่ใหญ่และแข็งแรงมากอย่าง Marriott ประกอบกับสไตล์การบริหารของคุณบิล ไฮเน็คแกแจ๋วด้วย ถ้าสังเกตุดู โรงแรมของ RGR เช่น อนันตรา, แมริออทหัวหิน, แมริออทพัทยา หรือที่ล่าสุดเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากคือ แมริออตภูเก็ต การตกแต่งจะไม่ใช้วัสุดราคาแพง แต่มักจะเน้นในแบบรูปปั้น หิน ดิน ทราย ซึ่งมีสไตล์แต่ไม่ใช่ราคาแพง แต่เวลาขายห้องขายราคาพรีเมียม เน้นความหรู อย่างนี้ไม่กำไรได้อย่างไร
ที่คุณ dr. ben คอมเม้นต์เรื่องหนี้ระยะยาวมากนั้น ผมกลับมองว่าเป็นการบริหารเงินทุนที่ถูกต้องแล้ว เพราะสร้างโรงแรมนี่มันเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้นก็ต้องไฟแนนซ์ด้วยแหล่งเงินทุนระยะยาว ซึ่งถ้าไม่ใช้ equity ก็ต้องเอา long term debt. เดี๋ยวขอโพสต์ก่อนนะครับ กลัวเผลอกดผิด ที่พิมพ์มาหายหมด

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 12, 2003 11:00 pm
โดย BPT
ต่อนะครับ การที่มีหนี้ระยะยาวมาก ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีเจ้าหนี้รายใดทะลึ่งมาเรียกหนี้คืนก่อนกำหนดได้ เช่นเพิ่งสร้างโรงแรมเสร็จ 2 ปีแล้วมาขอเรียกเงินคืนทั้งก่อน เป็นใครก็เจ๊งใช่มั้ยครับ ช่วงวิกฤติ บริษัททั้งหลายที่เจ๊งก็แบบนี้แหละครับ เอาิเงินกู้ระยะสั้นไปใช้ลงทุนขยายการผลิต พอแบงค์ต่างชาติเขาตกใจเรียกเงินคืน ก็เลยต้องชักดาบกันเป็นแถว
ส่วนรายได้ ผมเห็นว่ามันอยู่ที่สองสามพันล้านนะครับ ที่คุณ dr.ben เขียนว่าสามร้อยกว่าล้านน่าจะหมายถึงกำไรสุทธิมากกว่า ซึ่งถ้าบวกกลับค่าเสื่อมเข้าไป (ซึ่งผมไม่ได้ไปดูว่าเท่าไรแต่คาดว่าไม่ต่ำกว่าสองร้อยล้าน) ก็น่าจะมีกระแสเงินสดห้าหกร้อยล้าน จ่ายหนี้ 5-6 ปีก็หมดครับไม่ยาวเป็นสิบยี่สิบปีหรอกครับ จะเห็นได้ว่าบริษัทสามารถจ่ายปันผลได้ 0.70 บาท คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 8% จากราคา 8.9 บาทตอนต่ำสุดเมื่อต้นเดือนเมษายน ก็นับว่าจ่ายปันผลเยอะพอสมควรเลยทีเดียว แต่เผลอแป๊ปเดียวราคาก็วิ่งมาบาทกว่าแล้วนะเนี่ย

MINOR มีใครสนใจมั้ยครับ ทั้งแม่ทั้งลูก

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 13, 2003 10:41 pm
โดย Mon money
ขอบคุณคุณBPTครับที่กรุณาเตียนในทางที่ถูกต้อง จริงจากใจแล้วผมมิกล้าลบหลู่เบี้องสูงอย่างที่คิดครับ ผมเพียงแต่ต้องการให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของผู้บริหารที่คงมิกล้ากระทำการใดๆที่ไม่ถูกไม่ควรต่อกิจการครับ จึงเป็นสิ่งที่น่าจะเชื่อถือได้ประการหนึ่ง ส่วนเรื่องหนี้สินนั้นเป็นหนี้ที่เป็นตราสารหนี้ครับ ตราบใดที่กิจการยังคงสร้างกำไรและมีเงินจ่ายดอกเบี้ยก็ไม่มีทางต้องถูกเรียกคืนจากเจ้าหนี้ได้ครับ นี่อีกหนึ่งประการ ส่วนเรื่องอื่นๆคุณBPTจัดการหมดแล้วครับ