หน้า 1 จากทั้งหมด 1
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 12:17 am
โดย สุเกียง
'ยอดคน' กับ 'คนธรรมดา'
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 53.html#18
1
'ยอดคน' กับ 'คนธรรมดา'
ฟ้ามิได้แบ่ง 'ยอดคน' กับ 'คนธรรมดา' ออกจากกัน
ยอดคนจะปรากฏขึ้นเสมอ แต่นั้นมิใช่เพราะ 'ฟ้ากำหนด'
การที่ "ยอดคน"ปรากฏขึ้นได้ เพราะ เขาผ่านการ "ฝึกฝน" และ "เรียนรู้" ที่จะเป็นยอดคน
................................................................
"อัจฉริยะ" ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แต่เป็นสิ่งที่ ถูกสร้างขึ้นมา ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
คนเก่งได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝน ม้าดี ต้องมีคนขี่มาฝึกฝน ..
นักกีฬาที่ดีต้องมีโค้ชที่ดีมาฝึกฝน
.......................................................
Don't Look Down Yourself.
อดีตไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร สำคัญที่ว่าวันนี้เราต้องการเป็นใคร
จงเคารพนับถือในความสามารถของตัวเอง ยกย่องและให้เกียรติ ตัวเอง
.............................................................
สมองของคนเราเหมือนพื้นดินที่ว่างเปล่า
เมื่อเราปลูกอะไรลงไปเราก็จะได้ผลเป็นอย่างนั้น .. จงปลูกฝังแต่สิ่งดีๆ
ลงไปในสมอง คำพูดใดๆ ที่เราเคยได้ยินซ้ำๆ ซากๆ เกิน 37 ครั้ง
มันจะกลายเป็น "อุปนิสัย" ของเราทันที
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกคือ "สิ่งแวดล้อม"
อย่าปล่อยให้ความคิด หรือคำพูดของคนบางคน มาตัดสินชีวิตของเรา
ในโลกนี้ไม่มีใครมีอิทธิพลกับตัวเรา นอกจากตัวเราเอง
..............................................................
ชีวิตไม่ใช่เกมส์กีฬา ไม่มีเวลาพักครึ่ง ไม่มีการขอเวลานอก
และที่สำคัญคือ 'เปลี่ยนตัวผู้เล่นไม่ได้' ไม่มีใครเกิดมา 'ล้มเหลว' มีแต่ 'ล้มเลิก'
.........................................
คนฉลาด.. ต้องโง่เป็น คนโง่ไม่เป็น..จะไม่มีทางฉลาด
.........................................
เพียงคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็ทำได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
แต่หากคุณคิดว่าคุณทำไม่ได้ คุณก็ทำไม่ได้ตั้งแต่ที่คุณคิด
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของมนุษย์
คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ 'ทางจิต' ที่ ตอกย้ำตัวเองว่า .. ทำไม่ได้
2
แม้แต่ "คิด" ยังไม่กล้าที่จะคิด แล้วชีวิตจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
จงกล้าที่จะเผชิญความล้มเหลว.. ความล้มเหลวคือครูที่ทดสอบตัวเรา
If you want to have success, you have no choice.
.......................................................................
มนุษย์ คือจุดศูนย์กลางของเส้นรอบวงที่ไม่มีขีดจำกัด ...
ทำไมมนุษย์เหมือนกันจึงประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน
นั่นเป็นเพราะ มนุษย์แต่ละคนได้รับโอกาสทางความคิดที่แตกต่างกัน
................................................................
คนสำเร็จมองปัญหาเป็นโอกาส คนล้มเหลวมองโอกาสเป็นปัญหา
คนสำเร็จจะปรับตัวเองไปหาโลกภายนอก
คนล้มเหลว จะให้โลกภายนอกปรับเข้าหาตัวเอง
Team work is less 'E-GO' and more 'WE GROW'
.................................................................
คนสำเร็จระดับผู้บริหาร เป็นผู้นำขององค์กรต่างๆ ในโลกนี้ กว่า 85%ทั่วโลก
ล้วนแล้วแต่มิใช่คนเก่ง แต่เป็นคนดีทั้งสิ้น
คนเก่ง.. มักจะมี 'อัตตา'
จะไม่ยอมปรับตัวเข้าหาโลก ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
ไม่ยอมรับการพัฒนา..ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ 'ปกครองคนไม่ได้'
คนเก่งนั้น..ใช้เวลา 2-3 ปี ก็สอนให้เก่งได้ ..
แต่.. คนดีต้องใช้เวลา 'ชั่วชีวิต' สอนกัน
คนเก่งมักจะขาดความจงรักภักดี ไม่มีความกตัญญู
......................................................................
"ความรู้" เป็นเพียง "พลังอำนาจแฝง" ชนิดหนึ่งเท่านั้น
"ความรู้" จะกลายเป็น "พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่" ได้ก็ต่อเมื่อ
มันถูกนำ ไปใช้อย่างชาญฉลาดเท่านั้น
..........................................................................
ฟัง..แต่..ไม่ได้ยิน ได้ยิน..แต่..ไม่เข้าใจ เข้าใจ..แต่..ไม่ลึกซึ้ง
ลึกซึ้ง..แต่..ไม่แตกฉาน แตกฉาน..แต่..นำไปใช้ไม่เป็น !!!
จงนำศักยภาพ และอัจฉริยภาพ ที่ซ่อนเร้นในตัวเรา มาใช้อย่างชาญฉลาด
.....................................................................
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 12:19 am
โดย สุเกียง
สิ่งเตือนภัยสำหรับผู้หญิง
Date: Wed, 06 Jul 2005 07:44:23 -0800
:สิ่งเตือนภัยสำหรับผู้หญิง
สิ่งที่ข้าพเจ้าจึงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีกหากใครมีพี่ น้องที่เป็นผู้หญิง
ก็บอกได้นะค่ะ มะเร็งปากมดลูกไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์
แต่เกิดได้จากการใช้ทิชชูในเวลาทำ กิจวัตร จะเกิดจากเป็นเชื้อราเล็กๆ
และขยายวงกว้างจนกลายเป็นมะเร็งร้าย
ตอนนี้ข้าพเจ้าเป็นเชื้อราเล็กๆอยู่
จึงไม่กังวลมาก แต่สาเหตุที่แท้จริงคือ
ทิชชูมีสารเคมีตัวฉกาจที่เมื่อใช้เป็นเวลานานติดต่อกัน
จะทำให้เกิดเชื้อราในช่องคลอดได้
หมอแนะนำว่าหลังจากเสร็จกิจในห้องน้ำ
ให้ใช้ทิชชูซับแทนการเช็ดและต้องซับครั้ง เดียว
ไม่เกิน10 วินาที เป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดเชื้อราได้ 50 %
ด้วย ความปรารถนาดี
จากผู้เป็นแล้ว
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 12:19 am
โดย สุเกียง
FW: ปิดจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งาน ประหยัดเงิน
Date: Wed, 06 Jul 2005 07:28:48 -0800
Subject: FW: ปิดจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งาน ประหยัดเงิน
ปิดจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งาน ประหยัดเงิน 24,660 บาท
[IMAGE]คุณทราบหรือไม่ คอมพิวเตอร์ที่เราเปิดใช้กัน
กินไฟมากแค่ไหน?
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
ขนาดมาตาฐานที่ใช้กันอยู่ทั่วไป กินไฟประมาณ 400-500 วัตต์
ตัวกินไฟใน คอมพิวเตอร์มีอยู่ 2 ส่วนคือ
จอมอนิเตอร์ กับ CPU ตัวกินไฟที่สุดคือ จอมอนิเตอร์
ซึ่ง ขนาดมาตรฐานทั่วไปที่ใช้กันคือ
ขนาด 15 นิ้ว กินไฟประมาณ 330 วัตต์
ถ้าขนาดใหญ่กว่านี้ก็กินไฟมากกว่านี้
ส่วนCPU กินไฟ ประมาณ 150 วัตต์
โปรแกรม SCREEN SAVER ไม่ช่วยประหยัดค่าไฟ
พนักงานส่วนใหญ่ชอบเปิดจอทิ้งไว้ คิดว่าไม่เป็นไร
เพราะคอมพิวเตอร์มี Screen Saver
คิดว่าพอเราหยุดใช้งานคอมพิวเตอร์ไป 1-3 นาที
จอภาพเปลี่ยนเป็น Screen Saver แล้วจอจะกินไฟน้อยลง
... จอยังกินไฟเท่าเดิมครับ คือยังกินไฟ 330 วัตต์
ที่มันชื่อ Screensaver คือมันช่วยรักษาหน้าจอไม่ให้เปล่งแสงสีเดียวจุดเดียวนานๆ
คือช่วยยืดอายุหน้าจอ ไม่ใช่ช่วยประหยัดไฟ
อยากจะประหยัดค่าไฟจำไว้เลยค่ะ ว่าผละจาก หน้าจอไม่ว่าไปไหน
กินข้าว,ประชุม, เข้าห้องน้ำ หรือไปทำธุระเป็นเวลานานๆ (เกิน 15 นาที )
ให้กดสวิตซ์ปิดหน้าจอทุกครั้ง ...ปิดแค่สวิตซ์จอมอนิเตอร์
โดยไม่ต้อง Shut down เครื่อง
นอกจากจะประหยัดไฟแล้วยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของจอมอนิเตอร์ได้ดีที่สุดอีกด้วย
ลองมาคำนวณค่าไฟแบบคร่าวๆโดยสมมติว่า
จอ IBM 15' กินไฟ 330 วัตต์ (220V. 15A)
พนักงาน Office ทำงานเฉลี่ย 22 วันต่อเดือน ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง
คิดเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ = (330 x 8 x 22 )/1000 = 50.08 KWh.
คิดเป็นค่าใช้จ่าย = 50.08 x 2.83 = 141.73 บาท/เครื่อง/เดือน
คอมพิวเตอร์ในบริษัทเฉพาะส่วน office มีประมาณ 100
เครื่องเป็นเงิน = 100 x141.73
= 14,173 บาท/เดือน หรือ 170,076 บาท/ปี
(นี่เฉพาะค่าไฟฟ้าจากจอมอนิเตอร์นะคะ ยังไม่รวม CPU และ Printer)
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 12:20 am
โดย สุเกียง
แชมเปี้ยนมมาม่าสูตรดังเขย่าโลก
คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่มีปัญหาทางด้านโภชนาการ
โดยคุณมีอาหารหลักคือบะหมีกึ่งสำเร็จรูป เป็นเพื่อนยามหิวโหย
เนื่องจากหลายสาเหตุ ขี้เกียจออกไปซื้อ
อยู่คนเดียว แฟนทิ้ง ทิ้งแฟน หรืออยู่ในภาวะเร่งด่วน
โอ้..มิต้องห่วง วันนี้เรามีสูตรเด็ดแนะนำให้ท่านไปลองทำกัน
โดยเราจะเน้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า และเน้นเพียงสองรสหลักๆ
ได้แก่รสหมูสับและรสต้มยำกุ้ง ซึ่งจากสวนสยาม(ทะเลกรุงเทพ)โพล
เขาบอกไว้ว่า ...บะหมี่สองรสนี้ stan dard มาตราฐานที่สุดหน่ะครับ......
[ สูตรที่ 1 ] ไข่แดงพิโรธ !! ( 7 - 10 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , ไข่ 1 ฟอง , พริกป่น , น้ำปลา
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) ตอกไข่ลงไป
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 100c ระยะเวลา 3.50 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา และน้ำปลา พริกป่นตามใจ
Reaction :
" ไข่แดงพิโรธ !! คือการหลอมรวมอย่างลงตัวของโปรตีนและแป้ง
ไข่ขาวเป็นก้อนนิ่ม ๆ เหมือนเจลลี่ ส่วนไข่แดงก็ละม้ายคล้ายปีโป้
รสชาดที่ได้ คือความธรรมดา ๆ ในรูปแบบของสูงสุดคืนสู่สามัญ...
เรียบง่าย แต่ได้ใจ... "
คำเตือน :
" ไม่ควรทำในช่วงหวัดนกระบาด... "
[ สูตรที่ 2 ] สามแม่ครัวร้อนรัก !! ( 15 - 20 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำกุ้ง 1 ซอง , ปลากระป๋อง , มะนาว , น้ำปลา
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) เทปลากระป๋องลงไป
1.1. ปลากระป๋องไม่ควรเทหมด คัดเอาเฉพาะที่พอกิน
1.2. ไม่ควรเทน้ำปลากระป๋องลงไปหมด เพราะจะเลี่ยนจนทานไม่ลง
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา น้ำปลา และมะนาว(เยอะหน่อยก็ดี)
Reaction :
" สามแม่ครัวร้อนรัก !! คือสูตรลับเฉพาะของพวกที่มีวัตถุดิบเหลือ ประมาณว่าที่บ้านรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้งมา แล้วอยากลองทำ ต้องกะแต่เพียงพอดี ไม่มากและไม่น้อยเกินไป มิเช่นนั้นจะไม่น่ากินหากมากไปก็จะทำให้เลี่ยน เพราะน้ำมันในปลากระป๋อง นั่นทำให้มันแย่ ส่วนผสมของปลากระป๋องกับมาม่า นั่นคล้ายกับสามแม่ครัวกำลังสวิงกิ้ง
คลุกเคล้าความเป็นต้มยำกุ้ง ( แต่ไม่มีตังค์ซื้อกุ้งมาใส่ ) เรียกได้ว่า...อร่อยร้อนแรง...แต่แฝงไว้ด้วยความสุข(ส่วนตัว) "
คำเตือน :
" ปลากระป๋องใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้...แล้วแต่คนจะชอบนะ "
[ สูตรที่ 3 ] ยาจกพิโรธ !! ( 5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , ซอสพริก ( แบบขวดหรือแบบแถม )
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า)
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 2.30 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่อง และซอสพริกลงไป ตามลำดับความค่นแค้น
Reaction :
" ยาจกพิโรธ !! คือสูตรง่าย ๆ ที่ทำให้คุณเสพซึ้งถึงความร้อนแรงได้
โดยเฉพาะเวลาคุณมีซอสพริกที่แถมมากับข้าวไข่เจียว หรือหอยทอด
เหลืออยู่เต็มบ้าน ไม่รู้จะจัดการอย่างไร วิธีนี้ช่วยคุณได้อย่างมากแน่
ด้วยราคาที่ประหยัดสุด ๆ แถมเป็นการรีไซเคิลวัตถุดิบที่เหลือใช้....
จึงเรียกได้ว่าเป็นสูตรสำหรับคนยากจนผู้ตระหนี่อย่างแท้จริง... "
คำเตือน :
" หากใส่หยาดน้ำตาแห่งความอาภัพลงไปด้วย จะอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ "
[ สูตรที่ 4 ] ไฮโซบ้านนอก !! ( 20 - 100 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , หมูยอ , แหนม , ปูอัด , ไส้กรอก
, ผักนานาชนิด , มะนาว , น้ำปลา , ซีอิ๊วขาว , น้ำมันหอย
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ท่วมมาม่า)
1.1. เทอาหารประเภทเนื้อลงไป รวยมากใส่มาก รวยน้อยใส่น้อย
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา บวกผักนานาชนิด
3.1. เครื่องปรุงที่เหลือใส่ตามระดับความ "เค็ม"
Reaction :
" ไฮโซบ้านนอก !! คือสูตรลับเฉพาะของคนในแวดวงคุณหญิงคุณชาย
ที่มีเครื่องเพชรเต็มบ้าน แต่ยังคงความประหยัด อยากกินมาม่าแบบไฮโซ
เพราะฉะนั้นส่วนประกอบจึงอลังการดาวล้านดวง มากกว่ามาม่าโลโซทั่วไป
สารอาหารที่ครบครัน ช่วยเสริมสร้างบารมีแห่งความอวบเข้าไปในทรวดทรง
เป็นไฮโซแต่แฝงไว้ด้วยความบ้านนอกอย่างทัดเทียม... "
คำเตือน :
" ด้วยราคาประมาณนี้...แนะนำให้ไปกินอาหารตามสั่ง ดูจะฉลาดกว่า "
[ สูตรที่ 5 ] บาร์เทนเดอร์รำลึก !! ( 5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำ 1 ซอง
1. แกะซองออก เอาเครื่องปรุงออกมา เอามือบีบให้เส้นละเอียด
2. เทเครื่องปรุงลงไปในซอง เริ่มจากน้ำมัน และพริกตาม
3. เขย่าอีกกี่ครั้ง ก็แล้วแต่ความพอใจ ( ยิ่งมากยิ่งดี )
Reaction :
" บาร์เทนเดอร์รำลึก !! คืออารมณ์ของการย้อนกลับไปเป็นเด็กวัยขบเผาะ
ลองนึกถึงตอนที่คุณไปเข้าค่ายสิ ไม่ว่าจะลูกเสือ เนตรนารี หรือ ร.ด.
เป็นสูตรที่เรียกได้ว่า " สากลโลก " ไม่ว่าใครก็ต้องเคยลองกันมาแล้ว
นอกจากจะได้อรรถรสในรสชาดแล้ว ยังได้ออกกำลังไปในตัวด้วย...
ยิ่งเขย่ามากเท่าไหร่ ยิ่งแข็งแรงเท่านั้น...ประโยชน์รอบด้านจริง ๆ ...
และที่สำคัญมันสามารถนำไปเป็นกับแกล้มในวงสุราได้อีกด้วยนะเนี่ย
...ยกเว้นก็แต่โรคกระเพาะจะถามนั่นแหละ... "
คำเตือน :
" ตอนกินควรกินด้วยกันหลาย ๆ คน...เพื่อเข้าสู่ Mode ระลึกชาติ "
[ สูตรที่ 6 ] มาม่า GMO !! ( 5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำ 1 ซอง , มะนาว , น้ำปลา , กุ้งแห้ง
ผักชี , คื่นช่าย , หรืออะไรก็ตามที่เขาใส่ในข้าวต้มหมู...
ข้าวสวย 1 ป๊าบ ( เอ่อ...มันคือช้อนใหญ่ ๆ ผมเรียกไม่ถูก ^ ^" )
1. เทข้าวสวยลงไปในถ้วย เทมาม่าและน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) พร้อมกุ้งแห้ง
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องที่แถมมาลงไป นอกนั้นใส่ตามความต้องการ
Reaction :
" มาม่า GMO !! คือการดัดแปลงพันธุกรรมของมาม่า โดยนักโภชนาการ
ผลที่ได้คือส่วนผสมของมาม่าและข้าวต้ม เป็นลูกครึ่งข้ามขีดทางสายพันธุ์
ประมาณว่าได้อรรถรสในต้มยำของมาม่า และเมล็ดข้าวต้มที่ชอนไชผ่านลิ้น
ส่วนผสมดังกล่าวนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายแต่อย่างใด...
และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพวกที่ชอบหุงข้าวเหลือนะครับ "
คำเตือน :
" โปรดระวังกลุ่มกรีนพีช จะมาประท้วงที่หน้าบ้าน... "
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 12:21 am
โดย สุเกียง
แผนที่โลกใหม่ - น้ำท่วมโลกจริงหรือ?
จากข่าวที่ออกมาทางหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ ในเรื่องของแผนที่โลกใหม่(ภาพจากหนังสือพิมพ์ )
ที่แสดงให้เห็นภาพน้ำท่วมโลกจนบางส่วนหายไปจากแผนที่
จากที่รายการ "2001 ตามไปดู" ได้ติดตามเอาเรื่องราวมาออกทางโทรทัศน์
ทำให้ทำได้ทดลองค้นหาที่มาโดยการใช้ Yahoo ค้นหาตามวิธีของทางรายการ
แล้วก็ได้พบกับ Web Site ต้นฉบับ
จึงได้นำต้นฉบับมาให้ดูกันพร้อมข้อมูลพอสมควร
อย่างไรตามขอให้ใช้วิจารณญาณกันด้วยนะครับอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ
(ให้ถือหลักกลามสูตร 10 คือไม่เชื่ออะไรง่ายๆด้วยเหตุ 10 ประการ)
ยิ่งในช่วงนี้ใกล้ปี 2000 เข้ามาทุกทีก็ยิ่งมีข่าวลือมากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเชื่อทุกเรื่องกว่าจะถึงปี 2000 คงหัวใจวายตายเสียก่อน
ตาม Web ต้นฉบับเน้นว่าเหตุการณ์น้ำท่วมโลกจะเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิดและแผ่นโลกเคลื่อนมากกว่า เกิดจากน้ำแข็งละลาย
ซึ่งทุกวันนี้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1 องศาใน 20 ปี
ทำให้น้ำแข็งละลายและน้ำทะเลสูงขึ้นปีละ1 เซนติเมตร
ซึ่งหากเกิดน้ำท่วมโลกจากน้ำแข็งละลายจริงคนค่อยอพยพถอยร่นไปได้ทันแน่ๆ
ผู้ที่ทำแผนที่ขึ้นมาคือนาย Gordon-Michael Scallion มี Web Site ชื่อว่า earthchanges.com
นายคนนี้แกเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต (futurist) มีญาณทัศนะ(Spiritual Visionary)
คือมองเห็นอนาคตด้วยญาณ มีความแม่นยำมาก(ตามที่ Web site ของแกกล่าวอ้าง)
จบการศึกษาท่างด้านอิเลคทรอนิคส์(ไม่ได้บอกว่าระดับไหน)
ในปี 1979 เคยเกือบตายมาแล้ว
แต่กลับฝื้นขึ้นมาได้ในที่ หลังจากนั้นก็พบว่าได้รับพรสวรรค์ในเรื่องของการหยั่งรู้อนาคต
โดยบางสิ่งที่เขาทำนายถูกต้องก็ได้แก่
เหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวใน ลอสแองเจอริส แคลิฟอร์เนีย
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2535, แผ่นดินไหวใน แลนเดอร์ส (Landers)
และ บิกเบียร์ (Big bear) แคลิฟอร์เนีย เมื่อ 17 มกราคม 2537
และแผ่นดินไหวที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2538 เป็นต้น
แผนที่นี้ ภายใต้ชื่อ Future Map Of The World
ถูกสร้างขึ้นเนื่องจากเมื่อปี 1978 (พ.ศ. 2521)
นาย Gordon ได้มองเห็นภาพอนาคตของโลกเป็นครั้งแรก
โดยก็มองเห็นตัวเอง อยู่สูงขึ้นไปในอวกาศแล้วมองกลับลงมาบนโลก
หลังจากนั้นอีกหลายปีก็เห็นภาพเดิมอีกครั้ง
ทำให้เข้าสามารถสร้าง แผนที่โลกในอนาคตขึ้นมาและพิมพ์ในปี พ.ศ.2525
โดยนาย Grodon เชื่อว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในระหว่างปี 1998-2012(พ.ศ.2541-พ.ศ.2555)
โดยเหตุการณ์จะเกิดจากต้นเหตุสำคัญคือแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
อันเนื่องมาจาก แผ่นทวีปของเปลือกโลกเคลื่อน
โดยสภาพการเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปในแต่ละพื้นที่ดังนี้
เอเชีย -- เนื่องจากมีวงแหวนไฟ(Ring of Fire)ผ่าน Asia (แนวเขตรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก(Plate boundary) โดยส่วนแนวเขตนื้เรียกว่า riff )
ทำให้เป็นเขตเกิดแผ่นดินไหวสูง ยังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเขตนี้
โดยจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ตั้งแต่ ฟิลิปปิน ญี่ปุ่น ไปจนถึงทะเลแบริ่ง(เป็นช่องแคบอยู่ระหว่างรัฐอะแลสกา กับรัสเชีย)
รวมทั้งหมู่เกาะคูรินและเกาะแซคาลิน(เป็นของรัสเชีย อยู่ใกล้กับ ฮอกไกโด ญี่ปุ่น)
เนื่องมาจากแผ่นแปซิฟิกเคลื่อน(Pacific Plate shift)ไป 9 องศา
เกาะญี่ปุ่นจะจมเหลือไวเพียงแค่ 2-3 เกาะเล็กๆเท่านั้น ไต้หวัน และเกาหลีส่วนใหญ่จะหายไปในทะเล
และด้วยเหตุที่แผ่นโลกเคลื่อนตัวนี้ แนวฝั่งของจีนจะเลือนร่นเข้าไปในแผ่นดินใหญ่หลายร้อยไมล์
อินโดนีเซียจะถูกทำลาย ถึงแม้ว่าจะมีเกาะใหม่เกิดขึ้นมาด้วยก็ตาม
ฟิลิปปินส์จะถูกกลืนหายลงไปในทะเล เอเซียจะได้รับความสูญเสียอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งนี้
และจะมีแผ่นดินใหม่เกิดขึ้นด้วย
สิ่งที่ความพิจารณาจากคำทำนายนี้ก็คือ
เอเชียอยู่บน 3 แผ่นทวีปคือ
1.แผ่นฟิลิปปิน 2.แผ่นอินโด-ออสเตรเลียน 3.แผ่นยูเรเซียน(ไทย - จีน อยู่บนแผ่นนี้)
บริเวณที่ไทยและจีนอยู่เป็นเขตแผ่นดินยกตัวดังนั้นหากเกิดการเปลี่ยนแปลงรุนแรงขึ้นจริง
น่าจะเป็นไปในทางที่ทำให้แผ่นดินยกตัวสูงขึ้นมากกว่า โดยที่แผ่นแปซิฟิกที่ว่าเคลื่อนไป 9 องศานั้น ทิศทางการเคลื่อนที่ตามปกติ
ก็จะเคลื่อนที่ในทิศทาง มุดตัวลงใต้แผ่นทวีป ยูเรเซียน
บริเวณ ประเทศญี่ปุ่นและมุดตัวลงใต้แผ่นฟิลิปปิน และ แผ่นอินโด-ออสเตรเลียนมุดตัวใต้แผ่นยูเรเซียน บริเวณเทือกเขาหิมาลัย
ซึ่งการมุดตัวดังกล่าวจะทำให้ทวีปยกตัวขึ้น
ข้อพิสูจน์นี้ก็ได้แก่ที่ราบสูงทิเบต เทือกเขาหิมาลัย และ อีสานของไทย
ซึ่งถูกยกตัวสูงขึ้นจากเมื่อ 60-20 ล้านปีก่อน สำหรับในส่วนของประเทศอื่นๆขออนุญาตไม่วิจารณ์นะครับ
แต่จะเอามาให้ดูและคิดกันเอาเอง
ออสเตรเลีย -- จะสูญเสียแผ่นดินไปประมาณ 25 เปอร์เซ็น
จากน้ำท่วนชายฝั่นทั้งหมด ยกเว้นจะเกิดแผ่นดินบริเวณช่องแคบบาสส์เชื่อมเข้ากับเกาะทาสเมเนีย
และเกิดแผ่นดินใหม่ขึ้นนอกชายฝั่ง
นิวซีแลนด์ -- นิวซีแลนด์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น บางส่วนจะเชื่อมเข้ากับแผ่นดินเก่าออสเตรเลีย
ทั้งสองแผ่นดินจะเชื่อมต่อเป็นแผ่นดินเดียวกันด้วยคอคอด
ทั้งนี้เกิดจากการยกตัวขึ้นของแผ่นดินและการระเบิดของภูเขาไฟ
ซึ่งจะทำให้นิวซีแลนด์เดิมกลายเป็นตินแดนห่างไกลจากทะเล
แอฟริกา -- จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แม่น้ำไนส์จะกว้างขวางกว่าเก่ามาก
ต้วยทิศทางของแม่น้ำไนส์เส้นทางใหม่จะวิ่งจากทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยมตรงปากแม่น้ำไนส์ผ่านพื้นที่ประเทศซูดาน
เส้นทางสายน้ำใหม่ของแอฟริกาจะเหมือนตัว "Y" วางอยู่บนทวีป
โดยมีฐานตั้งในแนวตั้งอยู่บนเมืองเคปทาวน์(ต้นกำเนิดแม่น้ำอยู่ที่เคปทาวน์)
ทะเลแดงจะขยายกว้างออกทำให้ ไคโรจมหายไปในทะเล
เกาะมาดากัสการ์เกือบทั้งหมดจะจมลงในทะเล เกิดแผ่นดินใหม่ในทะเลอาหรับ
บริเวณตอนใต้ของโอมาน และจะมีแผ่นดินขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณทางเหนือและตะวันตกของเคปทาวน์
ทะเลสาบวิคทอเรียจะรวมเข้ากับทะเลสาบนยาซาใหลลงสู่มหาสมุทรอินเดีย
อเมริกาใต้ -- เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลกเกิดขึ้นอย่างมาก รวมถึงแผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิด ผลกระทบครอบคุมไปทั่ว เวนิซูเอลา โคลัมเบีย และบราซิล
จะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ลุ่มน้ำอะเมซอนจะกลายเป็นทะเล
ใน(ทะเลปิดอยู่ภายในแผ่นดินเหมือนทะเลสาปสงขลา) เปรูและ โบลิเวีย
จะถูกน้ำท่วม ซานวาดอร์ เซาเปาโล ริโอดอร์จาเนโร
และบางส่วนของ อุรุกรัย จะจมหายไปในทะเล เหมือนกับ หมู่เกาะฟอล์คแลนด์
และเกิดทะเลปิดอีกแห่งที่ตอนกลางของประเทศเาร์เจจนตินา
เกิดแผ่นดินขนาดใหญ่ขึ้นทางตะวันตกของทวีปแถวชิลีรวมทั้งทะเลปิดอีกแห่งด้วย
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 12:21 am
โดย สุเกียง
อเมริกาเหนือ --
แคนาดา -- อ่าวฮัทสันจะขยายตัวออกเป็นทะเลปิดภายในแผ่นดิน
บางส่วนของตะวันตกเฉียงเหนือจะถอยร่นเข้ามาในแผ่นดิน 200 ไมล์
พื้นที่ในควิเบก ออนตาริโอ มานิโตบา ซาาสแกนเซวัน แอลเบอร์ตา
จะกลายเป็นศูนย์กลางผู้ที่รอดพ้นหายนะระหว่งการเปลี่ยนแปลงในตอนต้น
ผู้อพยพจะมาจาก บริติสโคลัมเบีย และ อะลาสกา
สหรัฐอเมริกา -- การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้จะเริ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาก่อน
โดยแผ่นทวีปอเมริกาเหนือเกิดการโก่งตัว สร้างหมู่เกาะแคลิฟอร์เนียขึ้น 150 เกาะ
ในที่สุด จากขบวนการเพลทเทคโทนิก(tectonic plate-ขบวนการที่ทำให้แผ่นเปลือกโลกแผ่นหนึ่งมุดตัวลงไปใต้อีกแผ่นหนึ่ง)
ซึ่งทำให้เกิกแนวโก่งตัวและรอยแยกซึ่งก่อให้เกิดอุทกภัย
ทำให้ ฝั่งทะเลด้านตะวันตกหดลงไปทางตะวันออกสู่รัฐเนเบรสกา ไวโอมิงและ โคโลราโด ทะเลสาบ เกรทเลค(ประกอบด้วยทะเลสาบสุพิเรียม,ฮุรอน,มิชิแกน,อิรีและออนแตริโอ)
และแม่น้ำเซนต์ลอเรนซ์จะเชื่อมต่อเข้ากับแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ไหลลงสู่อ่าวแมกซิโก
แมกซิโก -- แนวชายฝั่งของแมกซิโกจะถูกน้ำท่วมเข้ามาถึงในแผ่นดิน คาปสมุทรแคลิฟอร์เนีย
จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะ ส่วนใหญ่ของยูคาทาน พีนิซูลาจะหายไปในทะเล ภูเขาไฟระเบิด
และแผ่นดินไหวจะเกิดต่อเนื่องยาวนานถึง 25 ศตวรรษ
อเมริกากลางและคาริเบียน -- อเมริกากลางจะเกิดอุทกภัย
และมีจำนวนเกาะลดน้อยลง ที่สูงกว่า 500 เมตรเท่านั้นที่ปลอดภัย
จะมีเส้นทางน้ำใหม่เกิดขึ้นจากอ่าวฮอนดูรัสไปออกที่ เอลซัลวาดอร์
ส่วนคลองปานามาจะกลายเป็นคลองตัน
ยุโรป -- ตอนเหนือของยุโรปส่วนใหญ่จะจมลงสู่ทะเลซึ่งเกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก(ด้วย tectonic plate)
นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และเดนมาร์ค จะถูกน้ำท่วม ทิ้งไว้เพียง
เกาะเล็กๆนับร้อยเกาะ ส่วนใหญ่ของสหราชอาณาจักร จากสกอต์แลนด์ถึงช่องแคบจมหายไปในทะเล
เหลือเพียง 2-3 เกาะเล็กๆขนาดประมาณหมู่เกาะเซตแลนด์(อยู่ทางตอนเหนือของเกาะอังกฤษ)
ลอนดอนและเบอร์มิงแฮมจะเหลือกลายเป็นเกาะ
อิรีแลนด์จะจมลงทะเลยเว้นที่สูงเท่านั้น
รัสเซีย -จะแยกออกจากยุโรป โดยเกิดเป็นทะเลขนาดใหญ่แห่งใหม่โดยรวมเอาทะเลแคสเบียน ทะเลดำ ทะเลาคารา ทะเลบอสติก เข้าด้วยกัน
ทะเลใหม่ซึ่งแบ่งถูกแบ่งโดยเทือกเข้าอูราล จะยืดยาวไปจดแม่น้ำเยนิเซในไซบีเรีย
ทำให้มีอุณหภูมิอบอุ่นขึ้นและเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ให้กับยุโรป
ทะเลดำ-จะรวมกับทะเลตอนเหนือทิ่งบัลแกเรียและโรมาเนียไว้ใต้น้ำ
ดินแดนตั้งแต่โปแลนด์จนถึงตุรกีจะได้ความไม่สงบครั้งยิ่งใหญ่
สงครามศาสนาจะอุบัติขึ้น และจบลงด้วยความบริสุทธิ์ของแผ่นดินโดยไฟและน้ำ
ตุรกีด้านตะวันตก-จะจมอยู่ในน้ำเกิดแนวชายฝั่งใหม่จาก อีสตันบูลถึงไซปรัส
ส่วนใหญ่ของยุโรปกลางจะถูกน้ำท่วม
แผ่นดินส่วนใหญ่ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลบอลติกจะสูญหาย
ส่วนใหญ่ของสมรภูมิในสงครามโลกครั้งที่สองจมลงสู่ใต้ทะเล ก่อให้เกิดเกาะเล็กๆขึ้น
ฝรั่งเศส-ส่วนใหญ่จมน้ำ เหลือไว้แค่เกาะในบริเวณกรุงปารีส
ทางน้ำใหม่จะแยกสวิสเซอร์แลนด์ออกจากฝรั่งเศส
อิตาลี-จะจมน้ำ เวนิส,เนเปิล,โรม และ
เจนัว-จะถูกกลืนลงทะเล
แต่นครรัฐวาติกัน-จะปลอดภัยเนื่องจากย้ายไปอยู่ที่สูงกว่า
แผ่นดินที่สูงๆจะคงเหลือเป็นเกาะ แผ่นดินใหม่จะเกิดขึ้นทอดยาวจากเกาะซิซิลีจนถึงเกาะซาร์ดิเนีย
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 12:42 am
โดย โค่วจื่อหลิง
อ่านเรื่องมาม่าแล้วถูกใจมากครับ กำลังหิวๆอยู่ด้วย ทำให้นึกถึงมาม่าสูตรของเพื่อนผม ใส่น้ำพอท่วมๆแล้วเข้าเวฟ ถ้ากะเวลาไม่ถูกต้องเปิดดูอยู่ตลอด สุดท้ายจะได้สภาพมาม่าที่รูปร่างเหมือนเมียวโจ้ นุ่ม เหนียว แต่ไม่อืด ประหยัดดีแท้
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 8:51 am
โดย Amorna
ขอบคุณคุณสุเกียง อ่านแล้วพัฒนาปัญญา
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 9:01 am
โดย Jeng
อิม ชอบจังเรื่องมาม่านี่
อิอิ ผมกินมาแล้วเกือบทุกสูตรที่ว่าไว้เลยครับ พี่สุเกียง ( ตอนเด็กๆนะ )
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 9:21 am
โดย ปรัชญา
กินมาม่าแบบพี่สุเกียงบอก
แต่ไมใคยรู้ชื่อเลย
แบบเอามาม่าใส่ต้มยำกุ้งใส่ผักกะเฉดก็เคย
ใส่ปลากระป๋อง บางครั้งใส่ไข
ผมก็คิดว่าเพิ่มสารอาหาร
เดี๋ยวนี้มีชื่อแล้ว คงต้องตั้งชื่อ มาม่าทะเลเดือดบ้างอิอิ
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 9:29 am
โดย Jeng
555 ม่าม๊าทะเลเดือด
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 11:43 am
โดย iscssn
ขอบคุณครับ
......." ยอดคน " กับ " คนธรรมดา "......
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 11:45 am
โดย สามัญชน
ดีครับ อ้อ....มีจุดทักท้วงเล็กๆ นิดเดียว เรื่องอื่นดีหมดแล้ว
"อัจฉริยะ" ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แต่เป็นสิ่งที่ ถูกสร้างขึ้นมา ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด
คนเก่งได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝน ม้าดี ต้องมีคนขี่มาฝึกฝน ..
นักกีฬาที่ดีต้องมีโค้ชที่ดีมาฝึกฝน
ทักท้วงว่า อัจฉริยะ (
ความฉลาด) เป็นมาแต่กำเนิดครับ ตามกรรมพันธุ์ ส่วน
ความเก่งสามารถพัฒนาทีหลังได้ ความเก่งไปต่อยอดให้ความฉลาดได้ ความฉลาดก็ไปต่อยอดให้ความเก่งได้
หนามแหลมใครเสี้ยม มะนาวเกลี้ยงใครกลึง ( ล้วนแต่เกิดขึ้นเอง )
ข้อมูลล่าสุด genetic(กรรมพันธ์)มีส่วนมากถึง 60% สิ่งแวดล้อม การศึกษา ความมานะ มีส่วนมากเช่นเดียวกันคือมากถึง 40%
อีกทีหนึ่ง ทักท้วงเล็กๆ นิดเดียว เรื่องอื่นดีหมดแล้ว ขอชื่นชม