Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ถ้าท่าน ดร. ซื้อ BIGC ด้วยแนวคิดที่ท่านบอกในงานสัมนา ซึ่งหลักการสุดแสนจะเรียบง่ายแบบนั้น แต่คงมี details เยอะมั้งครับ


ใครมีความคิดเห็นเรื่องนี้บ้างครับ

ม่ายรู้ใครปั่นเก่งจัง ยังเก็บไม่หนำใจเลย
ท่านดร.นั้นดูหุ้นแบบ เรียบง่าย แต่ ลึกซึ้ง ครับ

:lovl:  :lovl:  :lovl:

ทั้ง BIGC และ WG เลยครับ

ผมยังไม่เห็นผลประกอบการเลยอะ แต่ราคาไปซะแล้ว

สงสัยถ้าผลประกอบการดี ก็หมดสิทธิเก็บเพิ่มอีกล่ะซิเนี่ย  :roll:

อืม WG ยังซื้อได้นะ bigC พี่ว่าแพงแล้ว

งบ bigc ออกแล้วครับ แทบไม่โตเลย เท่าปีก่อนครับ

ดูกันที่ไหนครบ ทำไมเร็วจัง พี่ดู set ยังไม่มีเลย

eFinanceThai.com ครับ .... วิ่งจังราคาหุ้น ... แต่ผลประกอบการก็เรื่อยๆ ...

แล้วทำไมวิ่งหว่า ......  :roll:

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่2(F45-3)11/08/2548 19:11

     BIGC : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่2(F45-3)
               สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่2(F45-3)
                    บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                สิ้นสุดวันที่  30 มิถุนายน      (หน่วย : พันบาท)
                                      ไตรมาสที่ 2         งวด 6 เดือน
             ปี                    2005        2004        2005        2004

  กำไร (ขาดทุน) สุทธิ              461,729     431,258     989,543    823,193
  กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)    0.58000     0.54000     1.24000    1.03000

ดาวน์โหลดเพิ่มได้ครับ

http://www.efinancethai.com/news/2005/zip/T/721394.zip

ผมขอค้านหัวข้อกระทู้นี้ครับ "BIGC วิ่งฉิว27บ.!!! ขอคารวะท่านดร.และผู้ถือบิ๊กซีทุกท่าน" เพราะแสดงถึง double standard อย่างชัดเจน

ถ้าจะขอคารวะ ควรคารวะที่การคาดการณ์กำไรทีเติบโตประทับใจ ไม่ใช่ราคาหุ้นวิ่งประทับใจ

ทีหุ้นบางตัววิ่งเราเรียก "หุ้นปั่น" แต่พอหุ้น ดร. วิ่งเรากลับคารวะ

[quote="Minesweeper"]ทั้ง BIGC และ WG เลยครับ

ผมยังไม่เห็นผลประกอบการเลยอะ แต่ราคาไปซะแล้ว

สงสัยถ้าผลประกอบการดี ก็หมดสิทธิเก็บเพิ่มอีกล่ะซิเนี่ย

จริงแล้ว BIGC ก็มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นพอสมควรครับ

โดยดูจาก กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย  ภาษีเงินได้ และ ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย

ไตรมาส 2 ปี 2547 มีกำไรจำนวน  563.43 ล้านบาท

ไตรมาส 2 ปี 2548 มีกำไรจำนวน 682.39 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นถึง 21.11% เชียวนะครับ

แต่ที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นไม่มากนัก  ก็เพราะในปี 2548 บริษัทมีภาษีเงินได้จำนวน 203.92 ล้านบาท  ในขณะที่ปี 2547 มีภาษีเพียง 110.30 ล้านบาท

อย่าพิจารณาเพียงแค่บรรทัดสุดท้ายครับ

[quote="chatchai"]จริงแล้ว BIGC ก็มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นพอสมควรครับ

โดยดูจาก กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย

คุณคัดท้ายและเพื่อนๆครับ

ยุคโบราณ กิจการต้องเน้นทำกำไรให้สูงสุด Maximize Profit---->ดูที่กำไรสุทธิ---PE

ยุคต้องมา กิจการต้องเน้นความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้น Maximize S'holder wealth ไปดูกันที่ สินทรัพย์ และทุน --->PBV

ยุคต่อมา เอาหมด ดูมันทั้ง PE และ PBV

ยุคใหม่ สำหรับเด็กแนว หันมาดูที่ Economic Profit หรือดู กระแสเงินสดอิสระที่หักต้นทุนเงินทุนแล้ว

พี่ฉัตรแกเป็นเด็กแนวครับ 8)

EVA = Economic Value Added???

เอ แล้วทำไมภาษีเป็นแบบนี้หละ ตอนดูงบก็เห็นอยู่ แต่ไม่รู้จะว่าไง

นั่นดิพี่เจ๋ง ต้องให้ผู้รู้มาอธิบายให้ฟังซักหน่อย
รู้แต่คราวๆว่าเปลี่ยนรูปแบบการประเมินภาษีแบบใหม่ แล้วเปลี่ยนจากคำนวนแบบไหน เป็นแบบไหนเหรอครับ

ภาษีที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวแบบนี้ถ้าเป็นเรื่องชั่วคราวก็ดูแบบคุณฉัตรชัย ว่ายอดขายเพิ่มมาก กำไรเพิ่มน้อยเพราะภาษี

แต่ถ้าเป็นเรื่องถาวร ผมว่าดูกำไรสุทธิดีกว่า ว่าเพิ่มขึ้นเท่าไร

ภาษีบริหารให้มากหรือน้อยได้ครับพี่เจ๋ง และที่สำคัญมันไม่ได้เกิดเพราะฝีมือ หรือ ความผืดผลาดของฝ่ายจัดการครับ

เราเลยไม่ให้ความสำคัญ

หมายความว่าเป็นการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าเหมือนเราทำธุรกิจนิติบุคคลทั่วไปใช่ไหมครับ
สมมุติว่าเราคาดการณ์กำไรไว้มากแล้วเสียภาษีล่วงหน้าไปมาก แล้วปลายปีกำไรไม่มากตามเป้าหมาย ภาษีปลายปีเราก็เสียน้อยลงเพราะได้จ่ายบางส่วนไปแล้วอย่างงั้นเหรอครับ

ผมซ้อ BIGC ตั้งแต่ ประมาณ 17 บาท
เมื่อปีที่แล้ว
เคยขายไปบางส่วนที่ 22.10-22.20
ขายไปแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองขายหมู
เลยไปซื้อคืนที่ 23.60 มาอีกหน่อยนึง
พอเห็น 27 ก็ชื่นใจ
ผมว่า น่าจะถึง 30 บาทนะครับ
ไปเดินสาขา สะพานควาย ก็ดูขายดี
อ้อมใหญ่ นี่ คนก็เยอะ สาวๆ โรงงานเยอะด้วย
คงจะขายดีอีกเหมือนกัน

WG นี่ก็เคยซื้อครับ แต่ปล่อยไปแล้ว ได้มา บาทเดียวเอง

ซื้อเพราะ อ่านบทความ ดร. นิเวศน์ แล้ว คล้อยตามครับ

นึกว่าซื้อ 24 จะติดดอยแล้วนี่ เลยต้องมาเชียร์ด้วยคน

เห็นด้วยกับคำที่ว่า double standard[/quote]

บิ๊กซีโชว์รายได้เพิ่ม 13% สวน ศก.ชะลอตัว

16 สิงหาคม 2548 08:47 น.
เดินหน้าจัดโปรโมชั่นประกันราคาสินค้า "บิ๊กซี" ขายถูกกว่าคู่แข่ง ในภาวะที่ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย

     "บิ๊กซี" โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 ยอดขายเพิ่มขึ้น 1,652 ล้านบาท จากสาขาเดิม-สาขาใหม่ แม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ชี้เป็นผลจากการมุ่งเน้นการเป็นผู้นำด้านราคา และการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเข้าถึงผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ

    นายอีฟ แบร์กนาร์ เบรบ๊อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2548 ว่า บริษัท และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 461.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5 ล้านบาท หรือ 7.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2547 ที่มีกำไรสุทธิ 431.2 ล้านบาท

    "แม้ภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรกจะชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการจับจ่ายซื้อของ แต่บิ๊กซียังเติบโตต่อเนื่อง โดยยอดขายครึ่งปีแรกปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการตอบรับของกลุ่มลูกค้าต่อภาพพจน์ความเป็นผู้นำ ด้านราคาของบิ๊กซี และการขายสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ทั้งการจัดโปรโมชั่นประกันราคาสินค้า "ถูกสุดสุด" ที่ทุ่มไปในไตรมาสสอง ในการโฆษณาและสร้างภาพลักษณ์ด้านราคา ทำให้ลูกค้าตอบรับ รวมทั้งการขยายสาขาใหม่ที่อ้อมใหญ่ ซึ่งเป็นชอปปิง มอลล์ เต็มรูปแบบที่ช่วยขยายฐานลูกค้า ก็เป็นส่วนสนับสนุนการเติบโตของยอดขาย"

   ทั้งนี้ บิ๊กซี มีรายได้รวมทั้งสิ้น 15,244 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขาย 13,709 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปี 2547 จำนวน 1,652 ล้านบาท หรือ 13.7% รายได้ค่าเช่า และค่าบริการ 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท หรือ 2.8% และรายได้อื่น 1,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 214 ล้านบาท หรือ 26.4% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารมีจำนวน 2,245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 225 ล้านบาท หรือเพียง 11.1% ซึ่งสาเหตุของการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น

   นายอีฟ กล่าวต่อไปว่า สำหรับครึ่งปีหลัง บิ๊กซีจะยังคงจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านราคา และการจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษตลอดทั้งปี โดยจะเน้นการเข้าถึง และครอบคลุมผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าในบิ๊กซี เพื่อการสร้างยอดขาย และความพึงพอใจแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

    "ในภาวะที่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย การจัดโปรโมชั่นประกันราคาสินค้าเพื่อให้มั่นใจว่า บิ๊กซีจำหน่ายสินค้าในราคาถูกกว่าคู่แข่ง ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ภายใต้ยี่ห้อ "ลีดเดอร์ไพรซ์" และ"เฟิร์สไพรซ์" เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภค ที่ต้องการสินค้าที่มีความคุ้มค่า และมีราคา ที่สมเหตุสมผล จะเป็นการตอบสนองผู้บริโภคทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี"

   นอกจากนี้ บิ๊กซี มีการขยายสาขาเพชรเกษม เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จ โดยมีชาวเพชรเกษม ให้การตอบรับจำนวนมาก โดยในเดือนหน้า บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ ที่สุขาภิบาล 3 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเช่นเดียวกัน และจะทยอยเปิดสาขาที่เอกมัย และสกลนครปลายปีนี้ ซึ่งจะทำให้บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ มีสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 45 สาขาภายในสิ้นปี 2548

   "จากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บิ๊กซีมียอดขายที่เติบโตแม้ภาวะเศรษฐกิจ จะมีการชะลอตัว สำหรับผลการดำเนินงานทั้งปีนี้ บริษัทจึงมีความมั่นใจว่า ยอดขาย และรายได้ จะมีการขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้" นายอีฟ กล่าวทิ้งท้าย

ผมขอค้านหัวข้อกระทู้นี้ครับ "BIGC วิ่งฉิว27บ.!!! ขอคารวะท่านดร.และผู้ถือบิ๊กซีทุกท่าน" เพราะแสดงถึง double standard อย่างชัดเจน

ถ้าจะขอคารวะ ควรคารวะที่การคาดการณ์กำไรทีเติบโตประทับใจ ไม่ใช่ราคาหุ้นวิ่งประทับใจ

ทีหุ้นบางตัววิ่งเราเรียก "หุ้นปั่น" แต่พอหุ้น ดร. วิ่งเรากลับคารวะ

ขอค้านด้วยคน  :evil:
อีกอย่าง ที น้ำส้มปั่น ด่าเอาๆ ที่หุ้นที่ Dr. แนะนำขึ้นมาเชียร์เย้วๆ ส่วนตัวที่ลุงแกบอกไม่ดีแล้วขึ้นก็ว่าเสียๆหายๆ  :?

หุหุ อะไรจะเคร่งครัดภาษาไทยขนาดนั้นครับ ผมก็พูดไม่เคลียร์เอง

คือในความคิดผม ราคามันวิ่งเพราะอะไรล่ะครับ  เพราะผลประกอบการดี และ ดร.ก็คาดการณ์เอาไว้ว่ามันจะดี ตามที่ ดร.พูดในงานสัมนา ผมก็เลยขอคาราวะ

ส่วนที่น้องส้มพูดถึงหุ้นตัวไหนวันนั้น แล้วขึ้นวันนั้นเลยเนี่ย มันขึ้นเพราะอะไร ผมก็ไม่อาจรู้ได้ ก็เลยไม่เคยด่าครับ

แต่เรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกันเนี่ยเป็นเรื่องธรรมดาครับ

ดร.ดังมานาน มีคนรักคนชอบเยอะ คนที่เห็นว่าเอนเอียงเข้าข้าง ยังไงก็คิดแบบนั้นอยู่ดี  ส่วนคนที่ชอบน้องส้มที่หน้าตาดี และ เห็นใจที่โดนด่าเยอะ ก็เข้าข้างน้องส้มอยู่ดี

มองคนะละมุมก็เห็นคนละด้าน แต่ก็อยู่ด้วยกันด้วยความสุขใจได้ เวปนี้ดีแบบนี้แหละครับ  :D

ผมแสดงว่ความเห็นบ้างนะครับ

เพราะได้ติดตาม bigC มานาน

เหตุผลที่ bigC อาจจะเกี่ยวกับท่านดร.นิเวศน์บ้าง แต่โทษทีนะ ในมุมของผม ไม่ถึง 1 %

เหตุผลหลักที่ขึ้น เพราะกระแสผลประกอบการ ที่ออกมาแย่ในค่ายใหญ่ๆหลายๆค่าย คล้ายๆกับหมดตัวเล่น

สำหรับน้องๆที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ผมแนะนำนะครับ ราคา bigC ตอนนี้ 29 บาท อาจจะขึ้น ก็ได้ ลงก็ได้ เพราะราคานี้เป็นราคาเก็งกำไร

สำหรับผมแล้ว ถ้าจะซื้อตามหลักวอเรนก็ต้องไม่เกิน 20  คือ pe 8

แต่ถ้าจะซื้อตามกระแสนิยม และการเก็งกำไร pe 15 ก็ไปได้

แต่ซื้อด้วยหลักการไหน ต้องรู้ตัว และกำจัดความเสี่ยงตามหลักการที่ซื้อ

เช่น ซื้อตอน 20 แล้วถ้ามันลงไป 16 ก็ซื้อเพิ่มได้ไม่ต้อง cut loss ตามหลัก วอเรน

แต่ถ้าซื้อตอน 31 แล้วมันไป 33 แล้วมานไหลลงไป 29 อาจจะต้อง cut นะจ๊ะ

ขอบคุณครับพี่เจ๋ง ผมถืออยู่นานต้องอดทนกับการไม่ขาย แต่ราคาปัจจุบันก็เหลือเกิน
เฮ้อ หรือจะเป็นเหมือน OISHI อีกตัว สำหรับผม