Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

อิมพอร์ตวิศวกร "อินเดีย-ศรีลังกา"

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาแรงงานภาคอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนหนักทั้งแรงงานระดับล่างจนถึงระดับวิศวกรและระดับผู้บริหารนั้น ได้ปรึกษาหารือกับนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี ให้ไปศึกษาว่ามีแรงงานระดับไหนขาดแคลนและจะขาดแคลนนานเท่าใด เมื่อข้อมูลชัดเจนเราต้องเปิดให้มีการนำแรงงานเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับวิศวกร อาจจะต้องให้นำเข้าจากประเทศอินเดีย ศรีลังกา ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตวิศวกรคุณภาพดี ความรู้ด้านภาษาอังกฤษก็ดี นำเข้ามาแล้วไม่มีปัญหาและอาจจะมีจากกลุ่มประเทศซีไอเอส (กลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกที่แยกมาจากสหภาพโซเวียต)

"เราต้องยอมรับว่า ต้องมีคนคอยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปัจจุบันคนไทยเราว่างงานไม่ถึงร้อยละ 2 อย่างนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีคนงานขาด แคลน 4.7 หมื่นตำแหน่ง แต่มีคนสมัครเพียงหมื่นตำแหน่ง ยังมีตำแหน่งว่างอีก 3.7 หมื่น ตำแหน่ง" นายกรัฐมนตรีกล่าว

สำหรับปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออกนั้น ก็ได้สั่งการให้ทำเขื่อนกั้นปากแม่น้ำช่วงที่น้ำไหลลงแม่น้ำโขงและไหลลงทะเล โดยจะใช้เขื่อนยางกั้นเป็นระยะเพื่อให้น้ำที่ไหลทิ้งไหลได้ช้าลงและไปกักตามลำน้ำต่างๆ แทน ที่ผ่านมายอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากกรมชลประทานตอบสนองช้าไปหน่อย

เด็กจบคณะวิศวะ ทุกมหาลัย ทั่วประเทศ ไม่พอเหรอ

แสดงว่าคนไทยกระจอกมาก ระบบการศึกษาไทยไม่ได้เรื่อง ทำให้คนที่จบการศึกษามาแล้วทำอะไรไม่เป็น

ผมพาดหัวซะน่าตื่นเต้น

ผู้บริหารบริษัทฝรั่งคิดในใจว่า

"ต่อไปจะได้ไม่ต้องง้อ engineer ไทยที่เอาแต่ใจตัวเองซะที
แถมภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่องอีกต่างหาก
ทำอะไรก็ไม่เป็น แต่จะเอาเงินเดือนเยอะๆ"

ใครทราบบ้างว่าที่จริงแล้วปัญหามันคืออะไร

ผมไม่เชื่อว่าวิศวกรจะขาดแคลน

ผมเห็นเดินโกยฝุ่นขายกันจนถนนสะอาดสะอ้านเชียวเดี๋ยวนี้

ใครเป็น HR ที่ทำงานสัมผัสกับการรับสมัครงานช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ
ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร

ที่สำคัญคือคุณภาพ คงไม่เกี่ยวกับไทย หรือ อินเดีย

คุณนี่ไม่รู้อะไรเลย
ทางสภาวิศวกรรม
เค้าวางหมากสกัดดาวรุ่งไว้เรียบร้อยแล้วคับ
(เพราะต้องเปิดเสรีเค้ารู้กันมาตั้งหา5ปีแล้ว)

เออลืมเข้าอะเข้ามาได้
แต่ license อาจไม่มีนะ

55555555555555555
:lovl:  :lovl:  :lovl:  :lovl:  :lovl:  :lovl:  :lovl:  :lovl:  :lovl:  :lovl:

ผมเคยทำงานบริษัท ชิปปิ้ง นะครับ
มีประสบการณ์การจ้างพนักงานใหม่บ้าง ปัญหาคือ

เด็กไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ไม่ว่าจบ ปวส. ปริญญาตรี ปริญญบ าโท
หรือไม่กล้าพูดก็ไม่รู้ พอรับโทรศัพท์ฝรั่งที โอนสายกันให้วุ่นเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรี

มีครั้งนึง รับสมัครโปรแกรมเมอร์ ถามว่าจบปริญญาตรีสายคอมฯ เขียนโปรแกรมอะไรได้บ้าง
คำตอบน่าตกใจครับ ตอบว่า ใช้ word, excel ได้ !!! โอ้พระเจ้า การ coding ไม่เป็น
หวังว่าเข้ามาแล้ว จะมาหาประสบการณ์ แต่ขอเิงินเดือนสูงๆ

วิศวกรตามโรงงานไม่ต้องมี license นิครับ
พวกที่ประท้วงของกันให้วุ่นวายนั้น ผมยังงว่าจะเอาไปทำอะไร

ที่น่าตกใจกว่านั้นสำหรับคนไทยคือ

ตอนนี้บริษัทญี่ปุ่นหลายๆแห่งรับสมัครเฉพาะปริญญาตรีเท่านั้นสำหรับพนักงานรายวันทำงานระดับล่างสุด

ผมคิว่ามันถึงจุดวิกฤติแล้วครับ การศึกษาไทย

กว่าจะจบ ตรีมาใช้เงินไปเท่าไหร่ แล้วยังต้องมาทำงานรายวันรับค่าแรงขั้นต่ำอีก

หรือว่าเป็นวิกฤติของคนไทยก็ไม่รู้
เราสูญเสียเงินไปเท่าไหร่กว่าจะได้บัณฑิตมา 1 คน เรียนมากกว่า 16 ปี แต่ต้องไปเป็นขี้ข้าขายแรงงานให้ใครก็ไม่รู้

หรือใครว่าคนมีการศึกษาสูงๆเป็นจำนวนมากแล้วดีครับ ???

ตอมผมทำงานเป็นผู้บริหารในโรงงานอยู่นั้น ผมบู๊กับ HR จนเขาเกลียดหน้าผมเพราะผมต้องการคนจบ ม 6 มาเป็นพนักงานรายวัน
แต่ทางผู้บริหาร HR ให้แค่ จบ ม 3
แต่มาวันนี้เขารับ ปริญญาตรี

โลกมันหมุนไปเร็วจริงๆ

 :ohno:  :ohno:  :ohno:  :ohno:

ว่าแล้วก็ขอบอกให้ ขายหุ้นทิ้งให้หมด
แล้วไปทำไร่ไถนาดีกว่าครับ
อย่างไรเสียก็มีข้าวมีผักกิน

จาก คอลัมน์กาแฟดำครับ

ไทยแพ้เวียดนาม, กัมพูชา,ลาว, พม่า...แล้วใครอีก?
http://bangkokbiznews.com/2005/08/13/w0 ... s_id=28764

รู้สึกถึงปัญหา ประมาณเดือนมีนาปีนี้ เนื่องจากที่บริษัทรับสมัครวิศวกรจำนวนมาก และต้องการคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี  ปรากฎว่าในงาน open house มีเด็ก inter  (เขามาเรียน course inter ของเราตามมหาลัยต่าง ๆ เช่น ธรรมศาสตร์, มหิดล)  ที่เป็นอินเดีย  ปากี หรือแม้แต่ ยุโรปที่เป็นประเทศเกิดใหม่มาสมัคร  ภาษาอังกฤษเด็กเราก็สู้ไม่ได้แล้ว  แถมความที่เขาต้องการจะได้งานอย่างมาก profile จึงเตรียมมาดี  บางคนเตรียม ใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยมาพร้อม  น่าตกใจมากเมื่อเทียบกับเด็กไทย ที่ยังหลงระเริงเที่ยวเล่นสนุกอยู่   เรียกเงินเดือนก็สูงลิ่ว ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้เขาได้บ้าง ก็มาเรียกร้องเสียแล้ว  พูดในสายตาของ engineer เองต้องบอกว่า คุณภาพคนของเรา mean shift down ด้วย

จากประสบการณ์ผมเมื่อ6-7 ปีก่อน เคยรับวิศวกรที่จบจากมหาวิทยาลัยเอกชน ร้อยละ 90 บอกได้เลยห่วยแตก  เรีบนจบกันมาได้ยังไงฟะ  สมการง่ายๆๆของไฟฟ้า V = IR ยังไม่รู้เรื่องเลย  เลยนั่งปิดห้องด่าเด็กมันซะ 2 ชั่วโมง รุ่งขึ้นมาขอลาออกเลย  ต้องปลอบกันใหญ่ ไม่ให้ลาออก เพราะมันหาคนไม่ได้

นี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงด้านภาษานะ  เอาแค่ด้านวิชาการก็เดี้ยงแล้ว

หว่านสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น เป็นผลกระทบที่มีมายาวนานแล้วครับจากการที่กระทรวงศึกษาหันไปสร้างแรงงานแทนที่นักวิชาการโดยเฉพาะการลดความสำคัญของ.....pure science ...วิทยาศาสตร์พื้นฐานที่จะพัฒนาชาติ ทุกวันนี้เราต้องซื้อเทคโนโลยีจากต่างชาติ แต่คนยังไหว้หมา 5 ขา  จบดร.ทางไหนไม่รู้ไปรับรองนายกู้ว่ามีเปรตจริง..รมต.กระทรวงวิทย์ฯไปคลุมโปงไหว้บนขอให้พ้นจากการอภิปราย...ที่น่ากลัวคือคนที่ศาลตัดสินแล้วว่าผิด(45 ล้าน)ย้งมีคนใหญ่โตถือกระเช้าไปให้กำลังใจนี่สิ....ประเทศชาติจะรับไหวหรือ?

เห็นด้วยกับพี่ๆ อย่างยิ่ง

ระบบการศึกษาไทย ไม่รู้เป็นไง มันหล่อหลอมให้คนรู้จักแต่เรียนได้เกรดสูงๆ เพราะเวลาทำงานจะได้เรียกเงินเดือนดีๆ

เรียนได้เกรดสูงๆ คือ การเอาข้อสอบเก่าหลายๆ ปี มาทำหลายๆ รอบ  เพราะเวลาสอบข้อสอบก็อยู่ในแนวๆ นี้ อาจารย์ผู้สอนเอง แทนที่จะออกข้อสอบเพื่อวัดความรู้ ความสามารถประยุกต์ใช้  แต่กลับออกข้อสอบเอาใจเด็กให้ได้คะแนนดีๆ แล้วบอกว่าเด็กรุ่นนั้นรุ่นนี้เก่ง คะแนนดีไม่มีคนตก ( ที่ไหนได้ ออกข้อสอบแบบ.... หรือขี้เกียจก็ไม่รู้  สมองเด็กเลยพัฒนาแบบสวนทางกับอายุและปริญญา)

เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ดิฉันเรียนมัธยม ปริญญาตรี และปริญญาโท

จนดิฉันไม่คิดว่า ปริญญาที่ได้มาจะเอาไปทำมาหากินได้

เท่าที่ทราบว่าจาก อ.มหาวิทยาลัย ซึ่งมีประสบการณ์ในการสอนมานาน ท่านเล่าให้ฟังว่า เด็กรุ่นใหม่ๆ คุณภาพจะแย่กว่าเดิมมาก มองเรื่องเกรดเป็นตัวหลักเพียงอย่างเดียว และเรื่องทุจริตเจอบ่อยมาก
งั้นก็ไม่ต้องแปลกใจถึงคุณภาพที่แย่ลงครับ

เห็นด้วยๆๆๆๆ รีบๆนำเข้ามาเล้ย ประเทศไทยจะได้มีพวกเก่งๆ

อยากรับวิศวกรโซเวียต .. ได้ยินว่าเก่ง Math เก่ง Physics

นี่ถ้าได้ในราคาวิศวกรไทยนะ... สุดยอด  :lovl:

ผมว่าปัญหาน่าจะเกิดมาจากการศึกษาไทยมากกว่าครับ ผมจบจากมหาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งครับ ผมจบ Mechanical Eng. ตอนมาทำงานใหม่ๆ นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ Mechanical Seal คืออะไรผมยังไม่รู้จัก ทั้งๆ ที่มันเป็นของที่ใช้กันมากมายในโรงงานอุตสาหกรรม พวก Steam Turbine หรือ Centrifugal Compressor เหรอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ไม่เคยเห็นของจริงๆ มาเจอก็ตอนมาทำงานนี้แหละ ทั้งๆ ที่เรามีเรียนในหลักสูตร เรียนกันถึงทฤษฎีลึกซึ้งแต่ไม่เคยเห็นของจริงครับ

ผมว่าหลักสูตรวิศวกรรมในประเทศไทยน่าจะมีภาคปฎิบัติหรือ LAB ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ครับ น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่งครับ

ส่วนเรื่องภาษาผมว่ามันเป็นเรื่องพื้นฐานของแต่ละบุคคลครับ ...  :D

ผมว่า การศึกษาไทยแปลกๆ นะครับ
อยากเลื่อนระดับการศึกษาเวลาเค้า สำรวจกันให้ดูดี
ก็เลื่อน ราชภัฏ / เทคโน มาเป็นมหาลัยซะ จำนวนผู้จบการศึกษาขั้นต่ำในประเทศ จะได้เป็นปริญญาตรีกันมากขึ้น ซึ่งผมบอกตรงๆว่า ไม่ไหวครับแล้วครับประเทศไทย แย่แล้ว ไม่ยกระดับการศึกษาตัวเองแต่เลื่อนระดับแทน มีแต่จะตกต่ำ
บริษัท ญี่ปุ่นมัน ส่งคนมาสอนใช่เครื่องมันยังส่งพวก ปวช.ปวส.กันมาได้เลยครับ
ไม่ต้องตรีของพี่เค้าหรอก
แล้วยังเรื่องการสอบ เอ็ททร้านอีก ครับ ช่วยซะจนไม่รู้จะช่วยยังไง
แก้ปัญหา เด็กเครียด ฆ่าตัวตาย สอบไม่ติด ด้วยการ ลดระดับการศึกษา

แต่..... มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง ของการศึกษา เพราะ มันเป็นแค่การแก้ระยะสั้นๆ แค่ไม่ให้เด็กฆ่าตัวตาย มีที่เรียน ได้ปริญญา  แต่ระยะยาว มันทำให้การศึกษา อ่อนแอ
ทางออกที่ถูกต้องน่าจะเป็นการสร้างการแข่งขันทางการศึกษามากกว่า
ขนาดโรงเรียนมัธยม เก่าผมชื่อดัง(ไม่ขอเอ่ยนาม)เดี๋ยวนี้มีทั้งใต้โต๊ะ ทั้ง สิทธิ์ใกล้บ้าน ทั้ง จับฉลาก โอ้วพระเจ้า เดี๋ยวนี้ชื่อดังครับ แต่ดังคนละด้านกับแต่ก่อน
ผมบอกตามตรงว่า เห็นเด็กจบตรีออกมาทำงานเดี๋ยวนี้แล้ว กลุ้มใจ มาก ทั้งอ่อนแอและไม่มี กึ๋นเลย มีรุ่นน้องๆเข้ามา ต้องถามก่อนว่าจบมาจากที่ไหน ถ้า ราชภัฏ ก็จบข่าวเลย

ได้ อ่านวิธี entrance แบบใหม่แล้วจะเศร้าครับ

คณะ วิศวกรรมศาสตร์

เอา physics , เคมี  , ชีวะ มารวมกันเป็นวิทยาศาสตร์ วิชาเดียว ร้อยคะแนน

แล้ว ภาษาไทย สังคม อีกอย่างละ ร้อย ยังดี ที่มี อังกฤษ และ พื้นฐานวิศวะ อยู่

แต่อย่าแปลกใจนะครับที่อีกหน่อย วิศวกรเรียนจบมาแล้วจะเก่งภาษา เขียนเรียงความเก่งมากๆ

สงสัยคณะกรรมการณ์ มองว่าวิศวะกรไทยเขียนภาษาไทยไม่ค่อยถูกมั้งคับ  

ถ้าผมต้องมาสอบเอ็ททร้านส์ ข้อสอบแบบพวกนี้ ผมคงสอบตกเป็นแหน้แท้

:lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:

ลองดูข่าวนี้ครับ
มันต่อกันได้พอดีครับ


ทักษะวิศวกรไทยไม่โดนใจนายจ้างญี่ปุ่น

ในการสำรวจระดับความพึงพอใจที่มีต่อความสามารถของพนักงาน บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังพอใจระดับความสามารถของพนักงานในส่วนธุรการ บุคลากรในสาขาวิชาชีพเฉพาะด้านการเงิน และบัญชี เช่นเดียวกับแรงงานในโรงงาน และวิชาชีพด้านกฎหมาย และด้านไอที ที่มีบริษัทญี่ปุ่นตอบว่า พอใจในความสามารถมากกว่าครึ่ง

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีบริษัทญี่ปุ่นมากกว่า 50% ที่ตอบว่าไม่พอใจต่อพนักงานในกลุ่มวิศวกร (ช่างเทคนิค) และกลุ่มผู้บริหาร โดยคิดเป็น 58% และ 65% ตามลำดับ
ต่อภาพสะท้อนปัญหาแรงงานในไทย นายอัทสึโอะ คุโรดะ ประธานคณะกรรมการวิจัยทางเศรษฐกิจ หอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ชี้แจงถึงผลสำรวจในส่วนนี้ว่า เท่าที่สอบถามจากบริษัทญี่ปุ่น พบว่าประเด็นที่ไม่พอใจ 2 ประเด็น คือ 1.ด้านเทคนิค หรือทักษะที่ยังสูงไม่เพียงพอ และ 2.คน เก่งที่มีความสามารถและทักษะสูงมักจะเปลี่ยน งานบ่อย


สำหรับประเด็นการคาดการณ์อุปทานของแรงงานในระยะกลาง ผลสำรวจของหอการค้าสะท้อนชัดถึงความกังวลของบริษัทญี่ปุ่นต่อความพอเพียงของแรงงานในกลุ่มผู้บริหาร และวิศวกร อย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนใหญ่ยอมรับว่ามีแนวโน้มเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานใน 2 กลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยกลุ่มที่คิดว่าจะขาดแคลนมากที่สุด คือ กลุ่มวิศวกร 51% รองลงมาคือผู้บริหาร 45% และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) 35%

ท่านนายกเรากำลังตีข่าวเอาใจญี่ปุ่นอยู่
หรือจะเอาจริง

ผมเป็นวิศวกรตกยากครับ

ผมไม่ได้เอ็นท์ ผมเรียนสายช่างมาตลอด จนจบปวส. พวกผมนั้นต้องมีพื้นฐานช่างมาตั้งแต่ เด็กที่เรียนวิศวรุ่นเดียวกันยังนุ่งขาสั้นกันอยู่เลย ผมถูกจับฝึกวินัย ความเป็นช่างมาตั้งแต่อายุ15 - 16 จนจบวิศวอายุราว 21 -  22

ผมสอบเข้าบางมด ทุกปีรับปีละห้าหกคนเข้าไปเติมพวกที่ถูกรีทาย เรียนต่ออีกสามปีก็จบ

ผมไม่สงสัยเลยครับว่าคุณภาพมันแย่แค่ไหน อาจารย์ไม่ค่อยมาสอน(รับงานนอกกันทั้งนั้น) อาจารย์ที่เป็นผู้บริหารก็ไม่ค่อยว่าง เครื่องไม้เครื่องมือก็โบราณ เด็กเรียนจบออกมาเพราะเก็งข้อสอบ เก่งจริงๆเพราะขยันน้อยมากครับ

ผมโชคดีที่เป็นช่างมาก่อน จบมารู้หมดอะไรเป็นอะไรเพราะเคยเห็นเคยทำ ไปสมัครงานก็โดนเจ้านายดูถูกว่าเป็นพวกต่อหัว ไม่เก่งจริง(เหมาะเป็นแค่หัวหน้าช่าง)ไม่เหมาะเป็นวิศวกร

เรื่องอย่างนี้ยอมไม่ได้ครับ อะไรที่เขาดูถูกต้องทำให้เขาดูเราผิดให้ได้ สองปีจากนั้นผมผมมาขอลาออก พวกต้องอ้อนวอนและขึ้นเงินเดือนให้อีกหลายเท่าตัว ผมไม่เอาครับ ผมได้งานใหม่อนาคตไกลกว่า

ผมทำงานมาสิบกว่าปี เงินเดือนครั้งสุดท้ายเกือบๆแสน ไปคุยเรื่องงานล่าสุดเมื่ออาทิตย์กว่าๆนี้เขาเสนอให้เดือนละแสนกว่าๆ มีรถCamry สวัสดิการอีกเพียบ

ผมกำลังจะบอกว่าระบบการศึกษานั้นแย่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ใครขยันไฝ่รู้ก็จะไปได้ไกล ใครเรื่อยๆก็อยู่ระดับธรรมดา มันเป็นธรรมชาติ

มีลูกมีหลานก็ฝึกๆวินัยที่จำเป็นไว้เถอะครับ การแข่งขันไม่ได้รุ่นแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนมากหรอก แต่คนของเรามันแย่ลงต่างหาก

ปีที่ 56 ฉบับที่ 17372 วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2548

เด็กรุ่นใหม่ ไอ.คิว.ต่ำ โง่ซ้อนเร้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข พ.ญ.แสงโสม สีนะวัฒน์ รักษาการนักวิชาการสาธารณสุข 10 ด้านโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลการสำรวจระดับเชาว์ปัญญาของเด็กไทย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เด็กไทยมีปัญหาในเรื่องของระดับสติปัญญาลดต่ำลง โดยค่าเฉลี่ยของระดับเชาว์ปัญญาหรือไอคิว ไม่ถึง 90 คือ อยู่ที่ประมาณ 88 ทั้งๆที่ค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็นสำหรับคนที่จะเรียนในระดับปริญญาได้ควรจะอยู่ที่ประมาณ 100 ซึ่งการสำรวจครั้งนี้พบว่า
ระดับเชาว์ปัญญาลดลงจากการสำรวจเมื่อปี 2540 ที่เด็กไทยมีระดับเชาว์ปัญญาอยู่ที่ 91.9 โดยพบว่าเด็กในภาคเหนือมีปัญหาเรื่อง เชาว์ปัญญาต่ำมากกว่าภาคอื่นๆ ค่า
เฉลี่ยของไอคิวอยู่ที่ 82 เท่านั้น

 :(  :(  :(  :(

ผมว่าคนไทยก็ฉลาดเท่าเดิม เพียงแต่ว่าระบบความคิดที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เิกิดทำให้คนไทยไม่รู้จักคิด
มหาวิทาลัยสอนคนได้ไม่หมดทุกอย่างหรอก แต่ที่สำคัญที่สุด และอย่างน้อยที่สุด ต้องสอนให้คิดเองได้ สอนให้พัฒนาตัวเองได้ด้วยตนเอง ถ้าคนเราไม่พัฒนา แล้วให้ไปปลูกผัก เดี๋ยวเวียดนามจะส่งผักเข้ามาตีตลาดลงข่าวหน้าหนึ่งอีก

ผมว่าเอาเข้ามามันเป็นดาบสองคมมากๆอะครับ
แล้วคนของเราที่จบมาจะเอาไปไว้ที่ไหนครับ

ผมว่าน่าจะเพิ่มมาตรฐานวิศวกรที่จบออกมาดีกว่ามั้งครับ
แบบแก้หลักสูตรครับ แต่ละคนจบออกมาเพราะว่า โปรเจ็คไปจ้างคนอื่นเค้าทำ อาจารย์ก็รู้แต่ก็ปล่อยจบออกมาได้อันนี้แหละมั้งครับ ที่ทำให้เกิดปัญหา