Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

นี่คือบทสัมภาษณ์ของผู้บริหารบริษัทอะไรครับ ทายกันเล่นๆ
ไม่มีรางวัลให้นะครับ แต่บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดีมาก

"ผมโชคไม่ดี   ก่อนหุ้นเราจะเข้าเทรดมีกระแสข่าวลือไม่ดีออกมา สาระพัดเรื่องทั้งที่ไม่เป็นความจริงว่าธุรกิจที่ทำไว้กับบริษัทxxxxว่าหลุดมือไป  หาว่าผมเป็นอาแป๊ะที่พูดไม่รู้เรื่อง  ลือกันไปว่าอันเดอร์ไรท์มองว่าตั้งราคาสูงไป หุ้นบริษัทผมวันแรกเลยร่วงลงไปต่ำกว่าจองตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด  ผมอายุ 47 ปี ทำกธุรกิจมากว่า 20  ปีเช็คไม่เคยเด้งเลยสักใบ แล้วเรื่องxxxxก็ไม่ได้มีปัญหายังเดินหน้าต่อ

ที่ผ่านมาผมถือว่าผมประสบความสบความสำเร็จการทำงานมาตลอด  ผมมั่นใจว่าบริษัทผมดีจริงเลยไม่คิดว่าหุ้นจะต่ำกว่าราคาจอง  ผมชวนลูกและภรรยามาร่วมพิธีเปิดซื้อขาย  แต่พอเปิดเทรดหุ้นเป็นสีแดง  วันนั้นกลับเป็นวันที่ลบล้างภาพความสำเร็จของผมไปหมด  จนผมคิดว่าต่อไปจะไม่นำเอาบริษัทอื่น ๆ  เข้าตลาดอีกแล้ว   และที่จริงผมไม่ใช่ต้องการเข้าตลาดเพื่อได้เงิน  บริษัทผมไม่มีหนี้ ทำธุรกิจผมกู้เงินแบงก์ก็ได้   แต่มีคนชวนผมให้เข้าตลาดหลักทรัพย์มา 5 ปีแล้ว   แต่ก็คิดว่าจะขยายธุรกิจต่อไปจึงนำบริษัทเข้าตลาด

"สำหรับผมแล้วผมไม่เสียใจที่ราคาหุ้นเปิดต่ำกว่าราคาจองแต่ผมเสียความรู้สึก  ที่ทำให้นักลงทุนกลุ่มหนึ่งขาดทุนจากการเข้าลงทุนในหุ้นผม เพราะผมมั่นใจว่าราคาเปิดน่าจะไม่ต่ำกว่า x บาท   ผมสนใจแค่ว่านักลงทุนที่ขายหุ้นออกมาหลังจากราคาหุ้นปรับลดลง "

tnx

หุ้นหลุดจอง mcs

หุ้นตัวนี้กำลังซื้อขายกันที่กำไรปีนี้ 5.8 เท่า

แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจคือพีอีปีหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่จะซื้อขายที่ 3 เท่า !!!

เป็นหุ้นอนาคต อุตสาหกรรมที่กำลังรุ่ง

ปันผลสูงมาก

มีฐานะเป็นเงินสดสุทธิ

มีความสามารถในการแข่งขันชัดเจน

irp

ดร. ก้องเกียรติ น่าจะเป็นคนชักชวนเข้ามาในตลาดหุ้น

cmo  pico  8)

สภาพคล่องค่อนข้างดี (สำหรับ VI)

ที่ทายกันมา ยังไม่ถูกต้องครับ พี่ๆน้องๆ

snc เป็นคำตอบสุดท้าย

อา เจอแล้วครับ :lovl: หุ้นยอดฮิตของ vi ช่วงนี้เลยนะเนี่ย

ผมก็รออยู่ แต่นึกว่าราคาจะลงได้มากกว่านี้อีกหน่อยซะอีก

อย่าเพิ่งรีบเฉลยดิครับ 8)

ums เหรอ  8)

snc ครับ

SNC แหงๆ ^^

SNC ครับผมเคยอ่าน จำได้ อิอิ

SPPT  เหรอ  8)

เยี่ยมมากครับ สมกับการค้นคว้าหาข้อมูลแบบ vi  :D
คำตอบคุณ green mile คุณ eak คุณ จาตุรนต์ ถูกต้องแล้วครับ


ผมขอถามอีกคำถามเดียว ถ้าตอบได้ผมขอยกนิ้วให้เลยครับ

SNC


เป็นคำย่อมาจากอะไรครับ

มาจากตัวอักษรตัวแรกของชื่อคนมารวมกันใช่มั้ยครับ

ถ้าเป็น SNC จริงๆ ขอถามทางเทคนิคหน่อยครับว่า 4.3-4.5 มีโอกาสไหมครับ  อยากสะสมบ้าง

ว้าทายผิด  :oops:

ตัวเลย pe ปีนี้ 5.8 เท่าเป็นของจริงนะครับหรือไม่ก็มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะยังเหลืออีกแค่ครึ่งปี (ผมสงสัยว่าทำไมอนาคตดีอย่างนี้ กลับซื้อขายกัน pe แค่นี้)

แต่พีอีปีหน้าซิครับ จะเป็น 3.xx จริงหรือเปล่า  ผมก็ไม่แน่ใจนัก แต่ก็คาดเดาจากการที่ผู้บริหารให้สัมภาษณ์เมื่อไม่กี่วันที่แล้วครับ เท่าที่จำได้..


1.ไตรมาส 4 ลูกค้ารายใหญ่จะขยายกำลังการผลิตอีก 1.5 เท่า ! ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก

2.โรงงานร่วมทุนกับไพยองซาน จะมียอดขายปีนี้ประมาณ 150 ล้าน แต่ปีหน้าคาดหวังว่าจะมียอดขาย 1,000 ล้าน !!  (เกือบๆ 1 เท่าตัวของยอดขายรวมทั้งบริษัทปีนี้เลยนะครับ)  ดังนั้นยอดขายปีหน้าคาดหวังว่าจะโต 50% จากปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 40%

แล้วอย่างนี้น่าสนใจไหมครับ คู่แข่งก็ไม่มี :lol:

คู่แข่งก็ไม่มีเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

ผู้บริหารบอกว่าคู่แข่งคือลูกค้านั่นเอง

ทำไมผู้บริหารพูดอย่างนั้นครับ เหตุผลคือบริษัทเป็นผู้ outsource งานของลูกค้า ดังนั้นบริษัทต้องผลิตได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าลูกค้าถึงจะได้งาน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัททำได้


แล้วคู่แข่งรายอื่นๆจะเข้ามาแข่งได้ไหมครับ


ได้ครับ แต่ยากถึงยากมาก เพราะว่ายิ่งบริษัทผลิตให้กับลูกค้ามากเท่าไหร่ ลูกค้ารายอื่นๆก็จะเข้ามาหาบริษัทมากเท่านั้น เพราะถ้าไม่เข้ามา outsource งานให้บริษัท ต้นทุนจะสู้คู่แข่งไม่ได้ และยิ่งบริษัทมีลูกค้ามากขึ้นเท่าไหร่ ปราการที่จะขัดขวางคู่แข่งรายอื่นไม่ไห้เข้ามาก็สูงขึ้นเท่านั้น เพราะหากยิ่งมีลูกค้ามาก จะเกิดการประหยัดจากขนาด ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลงไปอีก

คุณลูกอิสาน ได้ยินมาว่า ในไตรมาสสามกำไรน่าจะลดลงไปอีกนะครับ
อาจจะเพราะต้นทุนวัตถุดิบโลหะ

หลังจากได้ปันผลแล้วผมก็ขายออกไป รออยู่ว่าเมื่อไหร่ราคาจะเริ่มน่าสนใจอีกครั้ง
ท่านพี่มาโพสต์แบบนี้ สงสัยจะอดซะแล้ว

ถ้ากำไรโตเร็ว ราคาโตเร็ว
จะมีของอย่างนึงที่ตามไม่ทันครับ
นั่นคือ book value
p/bv ตอนนี้ยังไม่ถึงกับสูงก็จริง
แต่ถ้ากำไรปีหน้าโตอย่างที่คาดกันจริง ๆ
p/bv ตอนนั้นน่าจะอยู่ในระดับที่น่าหวาดเสียวครับ

ผมเองก็มีประสพการณ์ไม่ค่อยดีกับหุ้น p/bv สูง ๆ อยู่บ่อยซะด้วย

CK เขียน:คุณลูกอิสาน ได้ยินมาว่า ในไตรมาสสามกำไรน่าจะลดลงไปอีกนะครับ
อาจจะเพราะต้นทุนวัตถุดิบโลหะ

ท่านพี่มาโพสต์แบบนี้ สงสัยจะอดซะแล้ว

ผมก็เดาว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเช่นกันครับ เพราะได้ข่าวว่าราคาทองแดงสูงขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าบริษัทคงเจรจาขอเพิ่มราคาได้ เพราะมาร์จินของบริษัทไม่ได้สูงมากเกินไปเลย  และไตรมาส 3 น่าจะ low season อีกไตรมาสก่อนจะไป peak ไตรมาส 4 และ 1


คงไม่อดซื้อหรอกครับพี่ CK  เพราะ snc always cheap! low price everyday


เอ  .. ยังไม่ได้โพสต์เรื่องความเสี่ยงเลย เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเชียร์หุ้นเกินเหตุ

ยังไม่ใครทายถูกเลย ว่า snc ย่อมาจากอะไร ทายสนุกๆนะครับ

เป็นชื่อย่อจากชื่อลูกสาวของ คุณสมชัย....ผมไม่รู้จักชื่อลูกสาวเขา ...

[quote="ลุงขวด"]เป็นชื่อย่อจากชื่อลูกสาวของ คุณสมชัย....ผมไม่รู้จักชื่อลูกสาวเขา ...

4.52
รออยู่ครับ .....

น่าสนใจแหะ ขอไปศึกษาบ้างดีกว่า ว่ามีอะไรดีบ้าง นอกจากลูกสาว 555

คัดลอกจาก http://www.bangkokbizweek.com/20050801/ ... 45926.html



แผนโต "SNC" รับจ้าง "ผลิตแอร์บ้าน" ผู้บริหาร "ตุนหุ้น"..ดักทาง "Auto Hub"

"เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์"(SNC) ซ่อนแผนโตรุกเงียบเจรจาลูกค้ารายใหญ่รับจ้างประกอบ "แอร์ในอาคาร" จากปัจจุบันผลิตแค่ "ชิ้นส่วนแอร์" ตามคำสั่งของลูกค้า(OEM) หวังกินรวบ "ต้นน้ำ" ถึง "กลางน้ำ" ส่วนธุรกิจชิ้นส่วน "แอร์รถยนต์" พบทางสว่างจากนโยบาย "Auto Hub of Asia" ผู้บริหารวางเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1,200-1,300 ล้าน โตขึ้น 40% พบ "สมชัย ไทยสงวนวรกุล" กระเป๋าตุงแอบเก็บตอนหุ้นร่วง 3.44 ล้านหุ้น ต้นทุนแค่ 3.08 บาท

-----------------------

ภายหลังรัฐบาลวางนโยบายให้ไทยเป็น "Auto Hub of Asia" ดึงดูดให้ค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลกย้ายฐานการผลิตมาสู่ประเทศไทย ส่งผล "เชิงบวก" โดยตรงต่อกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนความเย็นเติบโตตาม

โดยเฉพาะ บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ (SNC) ผู้ผลิตในธุรกิจ "ชิ้นส่วน" และ "ท่อโลหะ" จากทองแดง ทองเหลือง และอะลูมิเนียม เพื่อใช้ในระบบเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ แอร์ในอาคาร และคอมเพรสเซอร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผลิตชิ้นส่วนตามคำสั่งของลูกค้า (OEM) นำไปประกอบเป็นเครื่องปรับอากาศเกือบทุกยี่ห้อ ที่มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนความเย็น

"ทุกวันนี้ไทยเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนแอร์เพื่อการส่งออก (ทางตรงและทางอ้อม) ถึง 90% ใช้ในประเทศแค่ 10% เราเป็นฐานการ "ประกอบแอร์" เพื่อการส่งออกใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่น จึงมั่นใจว่าญี่ปุ่นจะไม่ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นแน่" สามิตต์ ผลิตกรรม กรรมการผู้จัดการบ. เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ BizWeek"

ปัจจุบันโครงสร้างรายได้หลักของเอส เอ็น ซี มาจากรายได้ชิ้นส่วน "แอร์บ้าน" ในสัดส่วน 60% ชิ้นส่วน "แอร์รถยนต์" 30% และชิ้นส่วน "คอมเพรสเซอร์" 10%

"เรามองว่าธุรกิจชิ้นส่วน (แอร์) รถยนต์จะเติบโตอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นธุรกิจหลักของประเทศ และรัฐบาลให้การสนับสนุน..ในส่วนของอุตสาหกรรมรถยนต์ปีนี้ยังเติบโตได้อีก 20% จากการตั้งเป้ายอดการผลิตรถยนต์ทุกประเภท 1.1 ล้านคัน แบ่งเป็นยอดการส่งออก 4 แสนคัน และขายในประเทศ 7 แสนคัน เทียบปี 2547 มียอดรวม 9 แสนคัน"

สำหรับแผนการขยายธุรกิจของเอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ สามิตต์ เปิดเผยว่า บริษัทกำลังจะก้าวจากผู้ผลิต "ชิ้นส่วนแอร์" (ต้นน้ำ) ไปสู่การเป็นผู้ "ประกอบแอร์" (กลางน้ำ) โดยจะเริ่มเฉพาะ "แอร์ในอาคาร" (แอร์บ้าน) ก่อน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าแต่ละยี่ห้อทั้งจากญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา คาดว่ามูลค่าการผลิต และโอกาสสร้างรายได้ให้แก่บริษัทจะสูงมากในอนาคต

"ตอนนี้มีลูกค้าแบรนด์ดังหลายรายสนใจจะจ้างเราเป็นผู้ประกอบแอร์ให้ เพราะเขามองว่าการประกอบเองไม่คุ้มกับต้นทุนที่สูง ซึ่งต่อไปการผลิตแอร์จะเหมือนกับการรับจ้างผลิตรองเท้าให้กับแบรนด์ต่างๆ..คาดว่าการเจรจาจะจบภายในปีนี้ และจะเริ่มผลิตได้จริงในปี 2549"

ปัจจุบัน SNC ผลิตชิ้นส่วนแอร์ในอาคารให้กับเครื่องปรับอากาศยี่ห้อ มิตซูบิชิ, ฟูจิตสึ, ยอร์ค และ ไดกิ้น เป็นต้น โดยคิดเป็นจำนวนการผลิต 7 ล้านยูนิตต่อปี เฉพาะยี่ห้อมิตซูบิชิเจ้าเดียวมีกำลังการผลิต 1.4 ล้านยูนิตต่อปี

นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนขยายการผลิตชิ้นส่วน "โลหะแผ่น" เพื่อใช้สำหรับการประกอบตัวถังแอร์บ้านอีกด้วย โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งรายได้จะเริ่มเข้าสู่บริษัทตั้งแต่ไตรมาส 3/2548 เป็นต้นไป

ในส่วนของการผลิตชิ้นส่วนตู้เย็น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำการตลาด และได้ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทผลิตตู้เย็นเข้ามาเป็นผู้บริหาร โดยรายได้เริ่มเข้าสู่บริษัทตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้แล้ว

ทางด้านธุรกิจผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์นั้น สามิตต์ กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัท Pyongsan Corporation บริษัทผลิตแอร์รถยนต์อันดับ 2 ของเกาหลี โดย SNC ถือหุ้นในสัดส่วน 51% จัดตั้ง "บริษัท เอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น" ในจ.ระยอง เป็นการซื้อโรงงานและเครื่องจักรเก่ามาปรับปรุงใหม่ บริษัทมีแผนที่จะดำเนินการผลิตสินค้าตัวใหม่ คือ ชิ้นส่วนท่อที่ทำจากอะลูมิเนียมและท่อยางสำหรับแอร์รถยนต์ คาดว่าจะเริ่มการผลิตในเดือนก.ค.2548 และรายได้จะเริ่มเข้าบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 3/2548

นอกจากนั้นบริษัทดังกล่าวยังมีแผนขยายตลาดให้กว้างขึ้น โดยขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ผลิตแอร์รถยนต์ของเกาหลี ฟอร์ด-มาสด้า รวมถึงโตโยต้า อีซูซุ เป็นต้น

ส่วนธุรกิจชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์ บริษัทมีความตั้งใจที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าเกาหลี เช่น กลุ่ม LG โดยอาศัยพันธมิตรธุรกิจจากกลุ่มไพยองซาน เป็นตัวขยายตลาดเพิ่มเติม ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจคอมเพรสเซอร์มีกำลังการผลิตคิดเป็นยอดขาย 180-200 ล้านบาทต่อปี

"ในปีนี้เราจะมีกำลังการผลิตรวมคิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้เรามีรายได้ราว 1,200-1,300 ล้านบาทหรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปี 2547 ที่มีรายได้ 800 ล้านบาท ขณะที่ผลงาน 6 เดือนปีนี้ มียอดขาย 718 ล้านบาท เติบโตถึง 65% จากช่วงเดียวกันที่มียอดขาย 434 ล้านบาท และมีกำไร 85 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180%"

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2549 สามิตต์ มั่นใจว่า บริษัทจะมีรายได้เติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 50% จากธุรกิจใหม่โดยเฉพาะผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ตัวใหม่ โลหะแผ่น และก้าวไปเป็นผู้ประกอบแอร์บ้านให้แก่เจ้าของสินค้า

ภาพรวมธุรกิจของเอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ที่ยังเติบโตทำให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารมองเห็นโอกาสเข้าเก็บหุ้นเพิ่ม ช่วงที่ราคาหุ้นตกต่ำในช่วงปลายปี 2547 ต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2548 ซึ่งหุ้นราคาต่ำกว่าราคาจอง (ไอพีโอ) ที่ 3.8 บาท

"กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" พบว่า "สมชัย ไทยสงวนวรกุล" ประธานกรรมการบริหาร ได้เข้า "เก็บหุ้น" มาตลอดระหว่างวันที่ 8 ธ.ค.2547- 3 พ.ค.2548 รวมทั้งสิ้น 14 รายการ คิดเป็นหุ้นจำนวน 3,437,800 หุ้น มีต้นทุนเฉลี่ยเพียงแค่ 3.08 บาท รวมเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 10.57 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้น SNC ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 5.25 บาทเมื่อ 2 ส.ค.2548 เท่ากับว่า มูลค่าหุ้นของ "สมชัย" ได้เพิ่มขึ้นเป็น 18.05 ล้านบาท มีกำไรแล้ว 7.50 ล้านบาท หรือราว 70% จากการที่เขารู้ล่วงหน้าว่าในปีนี้บริษัทยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดน่าสนใจกว่า
คัดลอกจากหนังสือพิมพ์ทันหุ้น ฉบับวันนี้

ถาม การลงทุนเพิ่มกับประเทศเกาหลีเป็นการตั้งบริษัทขึ้นมาชื่อไพยองซาน  บริษัทนี้อยู่ในเกาหลีหรือประเทศไทย และจุดประสงค์คืออะไร
สมชัย ไพยองซานอยู่ประเทศเกาหลี การที่ร่วมทุนกันโดยตั้งโรงงานอยู่ที่ระยอง โดยบริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัท Pyongsan Corporation ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแอร์รถยนต์อันดับ 2 ของเกาหลี  
โดย SNC ถือหุ้นในสัดส่วน 51% จัดตั้ง "บริษัท เอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น"  ในจ.ระยอง เป็นการซื้อโรงงานและเครื่องจักรเก่ามาปรับปรุงใหม่ บริษัทมีแผนที่จะดำเนินการผลิตสินค้าตัวใหม่ คือ ชิ้นส่วนท่อที่ทำจากอะลูมิเนียมและท่อยางสำหรับแอร์รถยนต์

ถาม โรงงานนี้ผลิตอะไรเป็นหลัก
สมชัย โรงงานนี้จะผลิตชิ้นส่วนขึ้นรูปโลหะที่ทำจากเหล็ก เพื่อส่งให้อุตสาหกรรมรถยนต์ ตู้เย็น และแอร์บ้าน
ถาม จะแตกต่างจากที่ผลิตหรือไม่ หรือว่าเพิ่มความสามารถในการผลิต
สมชัย ลูกค้ากลุ่มเดียวกันแต่โปรดักส์เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ ที่ทำอยู่เป็นท่ออลูมิเนียมทองแดงเหล็ก และทองเหลือง แต่ธุรกิจใหม่จะเป็นการขึ้นรูปใหม่ที่ทำจากเหล็ก

ถาม มีเหตุผลใดที่ร่วมทุนกับเกาหลี
สมชัย บริษัทเกาหลีมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และได้ไปดูแล้วหาก SNC ลงทุนร่วมกับเกาหลีจะทำให้ต้นทุนของ SNC ต่ำลง และการพัฒนา การวิจัย ของเกาหลีมีอยู่แล้วหากไปร่วมก็จะเป็นการร่นเวลาในการวิจัย

ถาม ส่วนใหญ่เป็นการผลิตสินค้าประเภทใด
สมชัย เป็นแอร์รถยนต์ แอร์บ้านและคอมเพรสเซอร์

ถาม มองภาพรวมการร่วมทุนเป็นอย่างไร และเม็ดเงินน่าจะเห็นผลเมื่อไหร่
สมชัย ในช่วงปี 48 คงเห็นประมาณ 150 ล้านบาท แต่ช่วงปีหน้า SNC ตั้งไว้ 1,000 กว่าล้านบาท เฉพาะโรงนี้โรงเดียว

ถาม ลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
สมชัย SNC ลงทุนในโรงงาน 300 ล้านบาท โดยซื้อโรงงานมา 150 ล้าน ส่วนที่เหลือลงเครื่องจักร

ถาม คาดว่าจะเริ่มเห็นผลประกอบการ 150 ล้านเมื่อไหร่
สมชัย จะเห็นประมาณไตรมาส 4

ถาม ในส่วนของโปรเจคท์นี้คิดว่าจะคืนทุนประมาณเมื่อไหร่
สมชัย ตั้งเป้าไว้ว่าจะคืนทุนโดยใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง

ถาม ไตรมาส 2 กำไรขึ้นมาพอควร ทำไมถึงมีตัวเลขที่สูงต่อเนื่องมีกลยุทธ์อย่างไร
สมชัย ตัวเลขของกำไรไตรมาส 2 ปี 47  กับไตรมาส 2 ปี 48 โต 140%  แต่ครึ่งปีนี้กับครึ่งปีที่แล้ว SNC โต 180%  เนื่องจากธุรกิจที่ทำโตทุกกลุ่มทั้งรถยนต์ แอร์บ้าน และคอมเพรสเซอร์ ซึ่งโตจากที่ลูกค้าขยายกำลังการผลิตรวมทั้งลูกค้าต้องการลดต้นทุนในโรงงาน โดยลูกค้าของ SNC บางกลุ่มย้ายฐานจากญี่ปุ่นกลับมาเมืองไทย และที่สำคัญมากคือ รัฐบาลยังคงสนับสนุนธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า

ถาม เป็นเพราะผลิตรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไม่
สมชัย ถูกต้อง

ถาม ส่วนแบ่งตลาดจะสูงขึ้น  และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ดันให้กำไรสูงขึ้นด้วยหรือไม่
สมชัย ถ้าพูดถึงคู่แข่ง  SNC ไม่มีคู่แข่ง คู่แข่งเราคือลูกค้า โดย SNC พยายาม ที่จะให้ลูกค้ามาผลิตที่บริษัท พอลูกค้ารายหนึ่งผลิตที่ SNC ทำให้ต้นทุนต่ำลงจากปริมาณ ฉะนั้นรายที่ 3 ก็จะมองว่าทำอย่างไร ก็ต้องย้ายมาให้ SNC ผลิต

ถาม เครื่องปรับอากาศในบ้าน ในรถยนต์ และคอมเพลสเซอร์ เติบโตพอกันหรือไม่
สมชัย รถยนต์เติบโตประมาณ 45% และแอร์บ้านเติบโต 60% เพราะวอลุ่มแอร์บ้านเป็นจำนวน 6-7 ล้านยูนิต แต่รถยนต์ปีนี้ประมาณล้านกว่าคัน ฉะนั้นจำนวนต่างกัน

ถาม เชื่อว่ายอดขายปีนี้จะเป็นตามที่คาดการณ์หรือไม่ และคาดการยอดขายไว้เท่าไหร่
สมชัย ยอดขายคาดการณ์ว่าจะโตกว่าปีที่แล้วเกิน 40% ปีที่แล้วยอดขาย 834 ฉะนั้นต้องเห็นตัวเลขเกิน 1,200-1,300 ล้านบาท ในปีนี้เราจะมีกำลังการผลิตรวมคิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้มีรายได้ประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาทหรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปี 2547      ขณะที่ผลงาน 6 เดือนปีนี้ มียอดขาย 718 ล้านบาท เติบโตถึง 65% จากช่วงเดียวกันที่มียอดขาย 434 ล้านบาท และมีกำไร 85 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180%

ถาม ตัวเลขครึ่งปีแรกบทวิเคราะห์เอเชียพลัส คาดการณ์ไว้ 56% ทาง SNC เชื่อว่าครึ่งปีแรกจะเป็นสัดส่วนอย่างไร
สมชัย ครึ่งปีหลังน่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก โดยจะมีกำไรเพิ่มขึ้นช่วงไตรมาสที่ 4 เป็นเพราะมีลูกค้ารายหนึ่งจะขยายกำลังการผลิตทางด้านแอร์บ้านมากกว่าเดิมอีก 1.5 เท่า ซึ่งเป็นตัวเลขที่สุงมาก นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ SNC ไปซื้อที่ระยอง

ถาม การที่สินค้าจีน ญี่ปุ่น ชิงส่วนแบ่งตลาดตรงนี้จริงเท็จแค่ไหน
สมชัย ถ้าหากมองถึงสินค้า มันคนละกลุ่มกัน สินค้าที่ SNC ส่งให้เป็นบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลี ฉะนั้นจะอยู่ที่ระดับสูงหน่อย ถ้ามีเทคโนโลยีมากหน่อยและกลุ่มที่เป็นลูกค้าส่งออก 99% ฉะนั้นสินค้าจีนที่เข้ามาประเทศไทย จะทำให้ไม่กระทบ แต่ถ้าสินค้าจีนที่ส่งแย่งตลาดลูกค้าในยุโรปและอเมริกาจะกระทบ แต่เชื่อว่าญี่ปุ่นและเกาหลีไม่ยอมแพ้แน่นอน

ถาม  หุ้น SNC น่าสนใจหรือไม่
ชาลี    ถือว่ามีความน่าสนใจมากในเรื่องของผลประกอบการ เพราะแง่ของปัจจัยพื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากฐานการผลิตของเครื่องปรับอากาศมีการเติบโตมาก จากเดิมเคยผลิตแค่ประมาณ 5 ล้านเครื่องต่อปี ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และเพิ่งมีการปรับมาประมาณ 8 ล้าน เมื่อประมาณปี 47 โดยธุรกิจของ SNC ประมาณ 60-70% ผลิตให้กับธุรกิจนี้คือเติบโตในลักษณะก้าวกระโดดตามไปด้วย ในอนาคตจะเติบโตมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับตัวธุรกิจใหม่   แต่ถ้าสามารถมีการผลิตเพิ่มก็จะสามารถทำให้กำไรเติบโตได้อย่างสบาย

ถาม เชื่อว่าน่าจะเห็นผลจากการลงทุนกับเกาหลีเมื่อไหร่
ชาลี  คิดว่าปีหน้าไปแล้ว จะเห็นภาพที่ชัดขึ้นของการเติบโตที่ก้าวกระโดดแน่นอน

ถาม ยอดขายปี 49 จะสามารถจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้น SNC หรือไม่
ชาลี   มีส่วน ประมาณการในการผลิตยังไม่ทราบธุรกิจใหม่ที่จะเริ่มปลายปีนี้หรือปลายปีหน้า SNCคิดบนพื้นฐานของตัวการผลิตอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศเดิมกับธุรกิจเดิมไปก่อน โดยผลกำไรของบริษัทปีนี้ขึ้นเท่าตัวเทียบกับปีที่แล้ว ฉะนั้นกำไรของบริษัทถ้าเทียบกับครึ่งปีหลัง จะทำให้เติบโตได้ค่อนข้างสูงมาก

ถาม ธุรกิจที่ร่วมทุนกันครั้งนี้จะส่งผลมากในช่วง 2 ปีข้างหน้าหรือไม่
สมชัย บริษัทใหม่ SNCร่วมทุนกับประเทศเกาหลี ลูกค้ากลุ่มเก่าของ SNC เป็นญี่ปุ่นหมด ส่วนลูกค้าใหม่ก็จะเป็นเกาหลีที่เพิ่มขึ้น ฉะนั้นการเติบโตของแอร์บ้าน SNC น่าจะโตได้มากตามตลาดที่อยู่ในเมืองไทย

ถาม ปีนี้น่าจะเติบโตประมาณกี่เปอร์เซ็นต์
สมชัย ปีนี้อย่างน้อยจะโตเกิน 40% ปีหน้า ตั้งไว้ 50% โดยคู่แข่งของ SNC คือลูกค้าของบริษัทนั่นเอง